หลังจากเลื่อนกำหนดฉายไปนานหลายเดือน ในที่สุด แสงกระสือ 2 ภาพยนตร์โรแมนติกสยองขวัญจากค่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม ก็ได้กลับมาสานต่อเรื่องราวความรักต่างสายพันธุ์กันอีกครั้ง พร้อมได้ ดี้-ปภังกร ปุญจันทรักษ์ ที่เคยฝากผลงานโฆษณาและภาพยนตร์สั้นมาแล้วมากมาย มานั่งแท่นผู้กำกับ รวมถึงทัพนักแสดงมากฝีมือที่จะมาร่วมรับบทนำ ประกอบด้วย เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์, น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ, ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม และ โจ คัมมินส์

ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวต่อจากภาคแรกนาน 30 ปี เมื่อ น้อย (น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์) ที่ได้รับเชื้อกระสือมาจาก สาย จึงส่งผลให้ สาว (นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์) ลูกสาวของเขากลายเป็นกระสือตั้งแต่ยังเด็ก น้อยจึงต้องร่วมมือกับ บาทหลวงออกัสติน (โจ คัมมินส์) เพื่อคิดค้นยารักษาที่สกัดจากว่านกระสือ ด้วยความหวังว่าจะช่วยให้ลูกสาวกลับมาเป็นปกติ

ขณะเดียวกัน สาวก็ได้มาพบกับ คลาว (เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) บุตรบุญธรรมของบาทหลวงออกัสติน ที่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่กำเนิด และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักต่างสายพันธุ์ที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่ไปตลอดกาล

หากมองย้อนกลับไปใน แสงกระสือ ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2562 หัวใจสำคัญที่ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้และคำวิจารณ์ คือการผสมผสานองค์ประกอบหลายๆ ส่วนออกมาได้อย่างกลมกล่อม ทั้งพาร์ตดราม่า บรรยากาศสยองขวัญ ความโรแมนติก ฉากแอ็กชันแฟนตาซีในช่วงท้ายเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ไปจนถึงประเด็นสำคัญของเรื่องที่เล่าถึงแง่มุมความรักของชายหนุ่มและหญิงสาวต่างสายพันธุ์ ที่สะท้อนภาพของการ ‘ยอมรับ’ ในความแตกต่างของผู้คน และ ‘รัก’ ในตัวตนของคนคนนั้นจากภายในนั้นมากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก

มาถึง แสงกระสือ 2 ผู้เขียนแอบรู้สึกว่าเรื่องราวในภาคนี้ดูจะขาดเสน่ห์อะไรบางอย่างไป จนทำให้ตัวภาพยนตร์แอบ ‘ไม่กลมกล่อม’ เท่าไรนักเมื่อเทียบกับภาคแรก 

จุดสังเกตข้อแรกที่เราแอบรู้สึกเสียดาย เห็นจะเป็นประเด็นหลายๆ อย่างที่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอ แต่กลับ ‘ไปไม่สุดในทางใดทางหนึ่ง’ เริ่มตั้งแต่เส้นเรื่องความรักโรแมนติกของคู่พระนางอย่าง สาว และ คลาว ที่ตัวภาพยนตร์ค่อนข้างให้เวลากับการปูเรื่องราวของทั้งคู่นานพอสมควร แต่กลับกลายเป็นว่าภาพยนตร์ไม่ได้ฉายภาพหรือขับเน้นให้เราเห็นถึง ‘การโอบกอดความแตกต่าง’ อย่างชัดเจนมากนัก แต่จะเน้นไปในเชิงบรรยากาศโรแมนติกที่ทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันเสียมากกว่า 

หรือจะเป็นประเด็นของตัวละครคลาวที่นอกจากจะเป็นโรคผิวเผือกแล้ว ตัวเขายังมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ แต่ตัวภาพยนตร์ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงที่มาที่ไปของความลับดังกล่าวอย่างชัดเจนนัก รวมถึงในระหว่างทาง ตัวภาพยนตร์ก็ไม่ได้วางคำใบ้ให้เราได้คาดเดาความเป็นมาของความลับดังกล่าวอีกด้วย มันจึงส่งผลให้ในช่วงบทสรุปของเรื่อง ภาพยนตร์กลับไม่สามารถทำให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็น 

รวมถึงเส้นเรื่องของตัวร้ายหลักที่นำแสดงโดย ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม ที่เรายังแอบสงสัยกับภูมิหลังของตัวละครอยู่พอสมควร และแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะพยายามผูกปมปัญหาที่ขับเคลื่อนให้ตัวละครดำเนินไปข้างหน้า แต่ภาพยนตร์ก็ไม่ได้หยิบปมปัญหาดังกล่าวมาใช้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ตัวละครตัวนี้ดูไม่มีมิติเท่าไรนัก 

ด้วยความที่ตัวภาพยนตร์มีหลายประเด็นที่ต้องการนำเสนอ แต่กลับบาลานซ์เรื่องราวไม่ค่อยลงตัวนัก แอบมีความครึ่งๆ กลางๆ อยู่ประมาณหนึ่ง มันจึงส่งผลให้เราไม่รู้สึกผูกพันหรืออยากเอาใจช่วยตัวละครภายในเรื่องอย่างที่ควรจะเป็น 

ขณะเดียวกัน หนึ่งในจุดเด่นสำคัญที่คอยช่วยตรึงให้เราอยู่กับภาพยนตร์ไปได้ตลอดทั้งเรื่อง คือการแสดงของทีมนักแสดงนำทุกคน โดยเฉพาะ น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ในบทบาทของ น้อย ซึ่งได้รับการต่อยอดมาจากภาคแรก ที่ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองออกมาได้อย่างลึกซึ้ง กับบทของพ่อผู้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาลูกสาวของตัวเอง ควบคู่ไปกับการปกป้องลูกสาวจากภัยอันตรายต่างๆ และการต้อง ‘อดทน’ กับการเห็นลูกสาวต้องกลายร่างเป็นกระสือในทุกค่ำคืน 

อีกหนึ่งจุดเด่นที่เราชื่นชอบ คือการตีความต้นกำเนิดของกระสือที่แตกต่างไปจากตำนานกระสือฉบับอื่นๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้กำกับและทีมสร้างได้จินตนาการเรื่องราวได้อย่างสดใหม่และน่าสนใจ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ให้ผู้สร้างสามารถสานต่อเรื่องราวไปได้อย่างกว้างขวางในอนาคต 

ในภาพรวมแล้ว ส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างชอบ แสงกระสือ ภาคแรกมากกว่า แสงกระสือ 2 พอสมควร ด้วยความที่ตัวภาพยนตร์มีหลายประเด็นที่ต้องการนำเสนอ แต่ภาพยนตร์กลับพาเราเข้าไปสำรวจประเด็นเหล่านั้นเพียงผิวเผินเท่านั้น จนส่งผลให้เราไม่มีความรู้สึกร่วมกับประเด็นเหล่านั้นอย่างที่ควรจะเป็น ขณะที่ แสงกระสือ ภาคแรก แม้จะมีข้อสังเกตให้กล่าวถึงอยู่บ้าง แต่หากมองในภาพรวมเรากลับรู้สึกว่าตัวภาพยนตร์มีกลวิธีนำเสนอที่กลมกล่อม และชวนให้เราอยากเอาใจช่วยตัวละครภายในเรื่องมากกว่า 

แสงกระสือ 2 เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

รับชมตัวอย่างได้ที่:

ภาพ: เนรมิตรหนัง ฟิล์ม 

The post แสงกระสือ 2 รักต่างสายพันธ์ุที่ดู ‘ครึ่งๆ กลางๆ’ และขาดเสน่ห์ที่ภาคแรกเคยมี appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่ แสงกระสือ (2562) ภาพยนตร์ไทยที่หยิบตำนานกระสือสาวมาตีความและแต่งแต้มจินตนาการ จนเกิดเป็นเรื่องราวความรักระหว่างมนุษย์และกระสือสาวที่ผสมผสานความโรแมนติกและระทึกขวัญออกมาได้อย่างลงตัว จนได้รับเสียงชื่นชมและกวาดรายได้รวมไปกว่า 100 ล้านบาท 

ปีนี้ ทางค่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม และ ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม กำลังจะหยิบตำนานรักระหว่างมนุษย์และกระสือสาวกลับมาสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอีกครั้งใน แสงกระสือ 2 ภายใต้การกำกับของ ดี้-ปภังกร ปุญจันทรักษ์ พร้อมด้วยสองนักแสดงมากฝีมือ นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์ และ เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม มาร่วมรับบทนำ โดยภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 30 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

สำหรับภาคนี้จะว่าด้วยเรื่องราวต่อจากภาคแรกนาน 30 ปี เมื่อ สาว (นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์) เด็กสาวที่ได้รับเชื้อกระสือจนทำให้ร่างกายของเธอแปลกไป จึงทำให้ น้อย (น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์) พ่อของเธอต้องเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากบาทหลวงออกัสติน (โจ คัมมินส์) ในการคิดค้นยาที่สกัดจากว่านกระสือเพื่อหวังว่าจะช่วยให้ลูกสาวกลับมาเป็นปกติ ขณะเดียวกัน สาวก็ได้มาพบกับ คลาว (เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) บุตรบุญธรรมของบาทหลวงออกัสติน ที่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่กำเนิด และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักต่างสายพันธุ์ที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่ไปตลอดกาล

โดยผู้กำกับ ดี้ ปภังกร ได้เล่าถึงไอเดียตั้งต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เขาจะต้องนำเสนอภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาอย่างไรให้เด็กรุ่นใหม่หรือคนที่ไม่เชื่อเรื่องกระสือมาเชื่อเรื่องนี้ ผู้กำกับจึงลองตั้งสมมติฐานว่า 1,000 ปีที่แล้วมีอุกกาบาตจากนอกโลกตกลงมาพร้อมสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หนึ่ง สปีชีส์นี้เข้าไปฟักตัวในร่างผู้หญิงเพื่อปรับตัวให้อยู่บนโลก เมื่อโตเต็มที่ก็จะสามารถกลายร่างได้ ด้วยสมมติฐานเช่นนี้เขารู้สึกว่ามันมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้

ขณะที่สองนักแสดงนำอย่างเจเจและนิ้งได้เล่าถึงความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “หนังเรื่องนี้เป็นความรัก มันมีความสัมพันธ์ระหว่างพระเอก-นางเอก ความรักหนุ่มสาว ความรักระหว่างพ่อและลูก ความรักระหว่างพี่น้อง แล้วแต่คนเลยว่าจะโดนใจในส่วนไหน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมหลายอย่าง โรแมนติก แอ็กชัน สุดท้ายนี้ฝากให้ทุกคนไปชม แสงกระสือ 2 ในโรงภาพยนตร์กัน เพราะพอเป็นจอใหญ่จะมีรายละเอียดต่างๆ ของการตกแต่งฉาก ความละเมียดของงานโปรดักชัน เรารู้สึกว่าเป็นภาพยนตร์ที่ควรดูในโรงภาพยนตร์เพื่อประสบการณ์ที่เต็มอิ่ม และเวลาดูฉากแอ็กชันก็จะสนุกไปกับมันได้ง่ายกว่า”

นอกจากชื่อของเจเจและนิ้ง ภาพยนตร์จะได้ 3 นักแสดงนำมากฝีมือมาร่วมเสริมทัพ นำโดย น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ และ โจ คัมมินส์ 

รับชมทีเซอร์แรกได้ที่: 

The post เจเจ กฤษณภูมิ-นิ้ง ชัญญา สานต่อเรื่องราวความรักต่างสายพันธ์ุใน แสงกระสือ 2 appeared first on THE STANDARD.

หลังจากการแถลงข่าวเปิดตัวไลน์อัพภาพยนตร์ของค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม ไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า ในปีนี้ทางค่ายจะมีภาพยนตร์เข้าฉายทั้งหมด 3 เรื่อง ได้แก่ Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์, แสงกระสือ 2 และ The One Hundred

ล่าสุดค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม ได้ออกมาประกาศว่า ภาพยนตร์เรื่อง แสงกระสือ 2 มีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนวันเข้าฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องด้วยสาเหตุที่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีการใช้เทคนิค CG ขั้นสูงเกือบทั้งเรื่อง ทำให้ไม่สามารถเข้าฉายตามกำหนดการเดิมได้  

โดยทางค่ายจะนำภาพยนตร์สยองขวัญ The World of Killing People หรือ คืนหมีฆ่า ออกมาฉายทดแทนในตารางเดียวกับ แสงกระสือ 2 

The World of Killing People คืนหมีฆ่า ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มเพื่อน 5 คนที่ออกไปตั้งแคมป์หลังจากไม่ได้เจอกันเป็นเวลาหลายปี แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนคนหนึ่งได้หายตัวไปและพบเป็นศพในภายหลัง การรวมตัวของพวกเขาในครั้งนี้จึงกลายเป็นเรื่องราวอันน่าสยองขวัญ ที่พวกเขาทุกคนจะต้องเอาตัวรอดจากฆาตกรที่อาจแฝงตัวอยู่ภายในกลุ่ม

ภาพยนตร์ได้ แชมป์-กานต์พงศ์ บรรจงพินิจ มารับหน้าที่กำกับ พร้อมทีมนักแสดงมากฝีมืออย่าง แพนเค้ก เขมนิจ, เต๋า เศรษฐพงศ์, ฝน ศนันธฉัตร, เฟียต พัทธดนย์, กันสมาย ชนกันต์, แคร์ ปาณิสรา และ ปังปอนด์ อัครวุฒิ มารับหน้าที่พาผู้ชมหลบหนีจากการตามล่าของฆาตกรที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มไปพร้อมๆ กับพวกเขา 

ภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 1 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์

The post เนรมิตรหนัง ฟิล์ม แจงเหตุเลื่อนฉาย แสงกระสือ 2 เนื่องจากปัญหา CG พร้อมนำ The World of Killing People มาฉายแทน appeared first on THE STANDARD.

เรียกว่าเป็นผลงานสุดทะเยอทะยานที่คอภาพยนตร์ไทยไม่ควรพลาด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (7 เมษายน) ค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์สัตว์ประหลาดทั้ง 3 เรื่องได้แก่ Leio โคตรแย้ยักษ์, แสงกระสือ 2 และ The One Hundred ที่เตรียมจ่อคิวเข้าฉายภายในปี 2565 ให้ทุกคนได้ปักหมุดรอ ภายใต้ชื่องาน I Am Monster Line Up 2022  

เริ่มต้นด้วย Leio โคตรแย้ยักษ์ ว่าด้วยเรื่องราวของ เก้า (กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล) แรปเปอร์หนุ่มที่กำลังเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมาย เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อพักผ่อนจิตใจ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเก้าต้องมาเผชิญหน้ากับแย้ยักษ์ที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและเข้าทำร้ายชาวบ้าน 

ภาพยนตร์จะได้ ชาลิต ไกรเลิศมงคล และ ชิตพล เรืองกัลป์ มารับหน้าที่ผู้กำกับพร้อมทั้ง กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล จากซีรีส์ The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่ (2563) และ ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ จากซีรีส์ Me Always You รักวุ่นวาย ยัยตัวป่วน (2564) มารับบทนำ ภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ 

ต่อเนื่องกันด้วย แสงกระสือ 2 ที่จะเป็นการเล่าเรื่องราวต่อจาก แสงกระสือ (2562) ภาคแรกนานหลายปี และจะยังคงคอนเซปต์ของภาพยนตร์โรแมนติกสยองขวัญเช่นเดิม โดยบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง (นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์) ที่ค่อยๆ กลายร่างเป็นกระสือ เธอจึงต้องพยายามเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังของกระสือให้ได้

สำหรับ แสงกระสือ 2 เป็นโปรเจกต์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง เนรมิตรหนัง ฟิล์ม และ Transformation Films ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ แสงกระสือ ภาคแรก โดยภาพยนตร์จะได้ ปภังกร ปุญจันทรักษ์ มารับหน้าที่ผู้กำกับ พร้อมด้วย นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์ จากซีรีส์ เด็กใหม่ ซีซัน 2 (2564) และ เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม จากละคร เลือดข้นคนจาง (2561) มารับบทนำ ภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 1 กันยายนนี้ 

และปิดท้ายด้วย The One Hundred ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาว (นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์) ที่พึ่งจะเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เธอจึงต้องเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อทำการกักตัว แต่แล้วจู่ๆ เธอก็ต้องมาพบกับสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้หลากหลายรูปแบบ ตามแต่ละบุคคลที่สัตว์ประหลาดตัวนี้เข้าสิง โดยคอนเซปต์ของเรื่องได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ ตะบองพลำ ที่ถูกเล่าขานในสมัยรัชกาลที่ 5 

ภาพยนตร์จะได้ ชาลิต ไกรเลิศมงคล และ ภาคภูมิ วงษ์จินดา มานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วย นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์ และ ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล มารับบทนำ นอกจากนี้ไมค์ยังรับหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมเขียนบทและกำกับร่วม ภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ 

รับชมไลฟ์สดงานเปิดตัวย้อนหลังได้ที่นี่

https://www.facebook.com/Neramitnungfilm/videos/338987738292646

The post เนรมิตรหนัง ฟิล์ม เปิดตัว 3 หนังสัตว์ประหลาด Leio โคตรแย้ยักษ์, แสงกระสือ 2 และ The One Hundred เตรียมฉายตลอดปี 2565 appeared first on THE STANDARD.