แกงกะหรี่แทบจะอยู่ในสายเลือดของคนญี่ปุ่น ล่าสุดญี่ปุ่นได้มีการเปิด ‘มหาวิทยาลัยแกงกะหรี่’ ให้ผู้ที่สนใจและชื่นชอบในแกงกะหรี่มาสมัครเรียนเพื่อเรียนรู้เรื่องแกงกะหรี่อย่างลึกซึ้ง โดยจะสอนตั้งแต่ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแกงไปจนถึงวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ วิธีทำอาหาร วิธีกินแกงกะหรี่ให้อร่อย และประเภทของแกงกะหรี่ที่ทุกคนชื่นชอบ

แต่ไม่ต้องตกใจไป นี่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยแบบที่ต้องสมัครเรียนหลายปี เพราะเป็นเพียงกิมมิกชื่อคอร์สเรียนเกี่ยวกับแกงกะหรี่ของ Curry Research Institute Co., Ltd. บริษัทที่ปรึกษาด้านแกงกะหรี่ พวกเขามุ่งมั่นจะเป็นสถาบันฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านแกงกะหรี่แห่งเดียวในญี่ปุ่น เลยตัดสินใจเปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับแกงกะหรี่ให้คนทั่วไปสามารถมาลงสมัครและเรียนรู้เรื่องแกงกะหรี่ได้อย่างครอบคลุมและเป็นระบบ โดยหลักสูตรนี้จะเปิดเทอมในวันที่ 23 กุมภาพันธ์

ระยะเวลาของหลักสูตรนั้นอยู่ที่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง โดยวิชาที่มีอยู่ในหลักสูตรก็มีทั้งวิชาประวัติศาสตร์เบื้องลึกของแกงกะหรี่ วิชาวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์แกงกะหรี่สำเร็จรูป วิชาวัฒนธรรมเกี่ยวกับแกงกะหรี่ วิชาการทำแกงกะหรี่ให้อร่อย โดยผู้สอนในวิชาเหล่านี้คือ ทาเคฮิสะ อิโนอุเอะ ผู้เชี่ยวชาญด้านแกงกะหรี่ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยเมื่อคุณเรียนจบแล้วจะมีการสอบและคุณจะได้รับใบประกาศนียบัตรด้วย

หลังจากการประกาศเปิดตัวมหาวิทยาลัยแกงกะหรี่นี้ก็มีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจมากทีเดียว และมีคนโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันเยอะมาก และส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ชื่นชอบทำแกงกะหรี่กินเองที่บ้าน พวกเขาสนใจในวิชาการทำแกงกะหรี่ให้อร่อย

หากคุณอยู่ในญี่ปุ่นและสนใจสมัครเรียนในหลักสูตรนี้ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและกรอกใบสมัครได้ที่ www.currydaigaku.jp โดยค่าหลักสูตรนั้นอยู่ที่ 35,000 เยนไม่รวมภาษี หรือประมาณ 10,000 บาท

ภาพ: Courtesy of Curry University

อ้างอิง:

• https://prtimes.jp/main/html/rd/p/000000189.000033279.html

The post ญี่ปุ่นเปิดมหาวิทยาลัยแกงกะหรี่ มุ่งผลิตผู้เชี่ยวชาญด้านแกงกะหรี่ แถมเรียนจบแล้วได้ใบประกาศด้วย appeared first on THE STANDARD.

‘กะหรี่ สาธุ’ เป็นร้านข้าวแกงกะหรี่ไม่กี่ร้านที่เลือกใช้แกงเบสผัก แต่ก็ยังมีเนื้อสัตว์เสิร์ฟอยู่ จานซิกเนเจอร์จานนี้คือ ข้าวแกงกะหรี่รสชาติดั้งเดิม เสิร์ฟคู่กับแฮมเบิร์กเนื้อวากิวออสเตรเลีย 150 กรัมด้วยความสุกแบบมีเดียมแรร์ ท็อปด้วยชีสแผ่น กินคู่กับผักดองที่ทางร้านลงมือทำเอง

แกงกะหรี่ของที่ร้านเป็นแกงกะหรี่เบสผักที่ทำเองทั้งหมดตั้งแต่เริ่ม ไม่มีการใช้ก้อนแกงกะหรี่ และด้วยความที่ทำจากผักผลไม้ทั้งหมด และถึงแม้จะเป็นเบสผัก แต่รสชาติก็จัดจ้านไม่แพ้เบสเนื้อสัตว์เลย ด้วยความเปรี้ยวและความหวานจากผลไม้จะทำให้เนื้อสัตว์ที่เสิร์ฟคู่กันนั้นเด่นขึ้นมา บวกกับเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบของเกี๊ยวกรอบที่ทางร้านพบโดยบังเอิญว่าเข้ากันได้ดีกับแกงกะหรี่ ก็ยิ่งดีขึ้นไปใหญ่

อ่านรีวิวฉบับเต็มของร้าน กะหรี่ สาธุ ได้ที่ https://thestandard.co/kale-sathu/

The post POP BITE Menu: ข้าวแกงกะหรี่แฮมเบิร์กเนื้อวากิวออสเตรเลีย จาก กะหรี่ สาธุ appeared first on THE STANDARD.

Aoringo ร้านแกงกะหรี่โลโก้รูปแอปเปิ้ลเขียวที่ชาวออฟฟิศย่านสีลมและเอกมัยคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะหลายคนมักจะแวะเวียนไปฝากท้องกับชุดเมนูอาหารกลางวันที่สุดคุ้มค่า เพราะสั่งครั้งเดียวได้ครบจบหมดทั้งข้าวแกงกะหรี่ น้ำเปล่า เครื่องเคียง และยังได้ขนมหวานด้วย และร้าน Aoringo ก็อยู่คู่ย่านสีลมมากว่า 14 ปีแล้ว

ความโดดเด่นของ Aoringo คือความเรียบง่ายที่ครบและจบในการสั่งแค่ครั้งเดียว เพราะอาหารที่นี่เสิร์ฟเป็นเซ็ต ประกอบด้วย เมนูข้าวแกงกะหรี่ 1 จาน สลัดผักออร์แกนิก 1 ถ้วย เครื่องดื่มหรือของหวาน 1 อย่าง ส่วนข้าวเปล่า น้ำดื่ม และเครื่องเคียงสามารถเติมได้ตลอดจนอิ่ม ไม่มีค่าใช้จ่าย ทุกอย่างจบอยู่ในราคาที่เห็นในเมนูแล้ว

น้ำแกงกะหรี่ของ Aoringo เป็นน้ำแกงกะหรี่ใช้แอปเปิ้ลเขียวจริงตามชื่อและโลโก้ของร้าน (อาโอะริงโกะ แปลว่า แอปเปิ้ลเขียว ในภาษาญี่ปุ่น) นอกจากแอปเปิ้ลเขียวก็ยังมีผลไม้และส่วนผสมลับอื่นๆ อีกหลายสิบอย่าง เคี่ยวนานจนเข้มข้น จะกินกับของทอดชนิดไหนก็เข้ากันได้ดี

และสิ่งที่เป็นที่พูดถึงไม่แพ้แกงกะหรี่ของทางร้านคือเจลลี่กาแฟ ที่ทางร้านเลือกใช้กาแฟอย่างดีจาก UCC ในการทำเจลลี่กาแฟนี้ จะตักกินเลยหรือราดด้วยครีมนมก็แล้วแต่ใจชอบ หลายคนติดใจจนอยากสั่งมากินอีกถ้วย

ล่าสุด Aoringo ได้ขยับขยายออกนอกกรุงเทพฯ ไปเปิดสาขาใหม่ล่าสุดที่ระยองบริเวณตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรม RIL ตัวร้านเป็นลักษณะของบ้านหลังคาสูงน่ารักสไตล์ญี่ปุ่น เมนูอาหารและรสชาติก็เหมือนร้านที่กรุงเทพฯ เลย สำหรับใครที่อยู่จังหวัดระยอง หรือไปเที่ยวที่จังหวัดระยองแล้วคิดถึงรสชาติแกงกะหรี่ของทางร้านก็แวะเวียนเข้าไปกินได้ 

Aoringo Rayong ตั้งอยู่ที่ 15/456 โซนเอ ยูนิต 1 ถนนทางหลวงระยอง-สาย 3191  ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง (ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรม RIL ก่อนถึงสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ) เปิดทุกวัน 11.00-14.30 น. และ 17.00-21.00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Aoringo-Japanese-Katsu-Curry-Rayong-107046381784241/

ภาพ: Aoringo Thaniya Silom Facebook Page

The post แกงกะหรี่แอปเปิ้ลเขียวบุกระยองแล้ว! Aoringo เปิดสาขาใหม่ที่ระยอง ถือว่าเป็นสาขาแรกนอกกรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

แม้ Hinoya เป็นร้านข้าวแกงกะหรี่ แต่ Hinoya จะไม่แกงคุณด้วยคำว่า 1 แถม 1 อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันคำว่า 1 แถม 1 อาจไม่ได้แปลว่าข้าวแถมข้าวอีกต่อไป เพราะบางร้านพลิกแพลงคำว่า 1 แถม 1 ออกไปกลายเป็นข้าวแถมซุป หรือข้าวแถมน้ำ ทำให้หลายคนอกหักจากคำว่า 1 แถม 1 มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

โปรโมชันใหม่ล่าสุดของ Hinoya นั้นเป็นโปรแรงๆ แบบแถมจริง แค่เพียงซื้อแกงกะหรี่เมนูใดก็ได้ไซส์ M ก็แถมฟรีไปเลยแกงกะหรี่ไซส์ M อีกหนึ่งเมนูในราคาที่เท่ากันหรือต่ำกว่า และไม่ว่าจะกินที่ร้าน สั่งกลับบ้าน และสั่งเดลิเวอรีโดยตรงกับสาขา ก็ 1 แถม 1 ไปสั่งกันได้เลยตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ที่ Hinoya ทุกสาขา (ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, เซ็นทรัลเวิลด์, คอสโม บาซาร์ เมืองทองธานี, เดอะ พรอมานาด รามอินทรา) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/hinoyacurrythai/

ภาพ: Hinoya Curry

The post 1 แถม 1 ที่ไม่แกงกัน! สั่งแกงกะหรี่ที่ Hinoya 1 จาน แถมไปเลยอีก 1 จาน appeared first on THE STANDARD.

Backyard Curry ร้านข้าวแกงกะหรี่เปิดใหม่ล่าสุดบนถนนติวานนท์ร้านนี้เป็นข้าวแกงกะหรี่ที่ไม่ธรรมดา เพราะเจ้าของร้านผู้ทำกับข้าวไม่เป็นเลยสักนิดลงมือศึกษาเองตั้งแต่การผสมผงกะหรี่ จนได้ออกมาเป็นข้าวแกงกะหรี่รสชาติเผ็ดจัดจ้านในแบบของตัวเอง

“ถ้ามีความฝันแล้วไม่ได้ทำคงจะเสียดายแย่ ผมทำอาหารไม่เป็นเลย หุงข้าวก็ยังไม่เป็น ก็ศึกษาตั้งแต่แรกเริ่ม กินข้าวแกงกะหรี่ที่ทำเองทุกวันอยู่เป็นเดือน”

ภีม-ภูเบนทร์ นิคม เจ้าของร้าน Backyard Curry ทำเพจเกี่ยวกับอาหารมานาน ทำให้เขารู้ว่าคนส่วนมากชอบรสชาติแบบไหน เมนูไหนที่คนให้ความสนใจ ต้องทำแพ็กเกจและหน้าตาอาหารออกมาอย่างไรถึงถูกใจคนสมัยใหม่ ด้วยความรู้ที่มี เขาจึงตัดสินใจทำตาความฝันที่อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะต้องเริ่มศึกษาวิธีการทำอาหารตั้งแต่ศูนย์ก็ตาม

แกงกะหรี่ของ Backyard Curry นั้นไม่ใช่แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเสียทีเดียว แต่เป็นแกงกะหรี่ที่ผสมผสานระหว่างแกงกะหรี่อินเดียและแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ทางร้านเริ่มการปรุงแกงกะหรี่ตั้งแต่ผงกะหรี่ ไม่ได้ใช้แกงกะหรี่ก้อนสำเร็จรูปแต่อย่างใด ทำให้รสชาติแกงกะหรี่ของ Backyard Curry นั้นไม่เหมือนใครด้วยน้ำสต๊อกหมู ผงกะหรี่ทำเองจากเครื่องเทศอินเดียกว่า 15 ชนิด ซอสญี่ปุ่นแท้ และเพิ่มมิติความเผ็ดร้อนด้วยพริกหม่าล่า และมีความเผ็ดให้เลือกถึง 3 ระดับ

“ผมเป็นคนกินเก่ง กินเยอะ ถ้าร้านไหนให้น้อยผมจะแค้นใจมาก พอมาทำร้านเองเลยให้เยอะ ชิ้นใหญ่ เต็มที่เลย”

สังเกตได้ว่าข้าวแกงกะหรี่ของ Backyard Curry นั้นมาในกล่องแบ่งช่องที่อัดแน่นเต็มทุกช่อง ทั้งข้าว สลัด น้ำแกงกะหรี่ และทงคัตสึชิ้นใหญ่เกือบเท่ากล่อง และถ้าใครสั่งเมนูที่มีหอมทอดดอกไม้ ทางร้านก็จะแยกใส่กล่องกระดาษอีกกล่องมาให้เลย และทุกออร์เดอร์มักจะมีกระดาษโน้ตพร้อมข้อความแสนน่ารักแปะมาให้ด้วย

ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด (199 บาท)

ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด (199 บาท)

มาเริ่มเปิดกล่องเมนูพื้นฐานอย่าง ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด (199 บาท) ที่ให้หมูทอดมาชิ้นใหญ่มาก ส่วนใครที่หิวหน่อยก็อยากให้ลอง ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดและออมเล็ต (219 บาท) ที่จัดเต็มจนล้นกล่องทั้งข้าว แกงกะหรี่ ออมเล็ต ส่วนไก่ทอดนั้นทางร้านต้องเสิร์ฟแยกมาอีกกล่องเลยเพราะไม่สามารถอัดให้แน่นกว่านี้ได้อีกแล้ว ด้วยความเป็นเมนูของทอดเดลิเวอรี หลายคนอาจห่วงว่ากว่าจะเดลิเวอรีมาถึงบ้านจะเหี่ยวหรือยัง ทางร้านก็ทำสดใหม่ทุกชิ้นเพื่อที่เมื่อถึงมือลูกค้าแล้วของทอดยังคงกรอบไม่ชุ่มน้ำมัน

ข้าวแกงกะหรี่หอมทอด (189 บาท)

“ส่วนผสมหลักของแกงกะหรี่คือหอมใหญ่ ความหวานกับความเผ็ดเข้ากันได้ดี เลยลองกินคู่กับหอมทอดดู”

เมนูแนะนำของทางร้านที่หากินที่อื่นไม่ได้ก็คือ ข้าวแกงกะหรี่หอมทอด (189 บาท) ที่ทางร้านหยิบเอาส่วนผสมหลักของแกงกะหรี่อย่างหอมใหญ่มาหั่นให้เป็นรูปดอกไม้บาน ชุปแป้งทอดจนเป็นสีเหลืองทอง แต่การชุบแป้งทอดของทางร้านก็ไม่ธรรมดา เพราะทางร้านผสมแป้งที่ใช้ชุบให้มีรสชาติจัดจ้านไม่จืดชืดด้วยเครื่องเทศ และมีซอสสำหรับกินคู่กันมาให้ด้วย เมื่อรสชาติหวานและความกรอบของหอมทอดมาอยู่ด้วยกันกับรสชาติเผ็ดของแกงกะหรี่แล้วเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว

Backyard Curry

Open: วันพุธ-วันจันทร์ เวลา 10.30-19.00 น. (ปิดวันอังคาร)

Address: 24 หรือ 80/53 ซอยติวานนท์ 18 แยก 7/1 ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี

Delivery: Grab, Robinhood

Budget: 130-250 บาท

Contact: 08 2634 9723

Website: https://www.facebook.com/backyardcurry

Map: 

The post TASTE: Backyard Curry แกงกะหรี่อินเดีย-ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมหอมทอดดอกไม้สุดอลังการ appeared first on THE STANDARD.

Nihachi เป็นร้านแกงกะหรี่เบสผักเปิดใหม่ย่านอารีย์ที่อยู่ในตึกเล็กๆ ตกแต่งด้วยสีขาว เมื่อเดินเข้าไปในซอยแล้วเจอกับร้านก็จะรู้สึกเหมือนเดินทะลุมิติไปอยู่ที่ตรอกไหนสักแห่งในญี่ปุ่น เพราะการตกแต่งของร้านและความร่มรื่นในซอยพหลโยธิน 8 นั้นส่งเสริมกันให้บรรยากาศดูญี่ปุ่นขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

บรรยากาศร้าน

“คนกินแกงกะหรี่มีหลายแบบ บางคนชอบแบบเครื่องแกงเครื่องเทศเผ็ดแรง บางคนชอบแบบรสกลางมีความละมุน เราเปิดร้านเพราะอยากทำแกงกะหรี่ในแบบที่เราชอบ”

แล้วแกงกะหรี่ในแบบที่ Nihachi ชอบเป็นแบบไหนล่ะ ทางร้านก็ตอบมาว่าเป็นข้าวแกงกะหรี่ที่รสไม่จัดมาก ไม่หนักเครื่องแกงแบบอินเดีย แต่ได้กลิ่นเครื่องแกงอยู่บ้างประมาณหนึ่ง และรสชาติต้องกลมกล่อมเผ็ดกำลังดี แกงกะหรี่ของที่ Nihachi จึงออกมาในแบบสูตรของจังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ที่เน้นใช้ผักในการทำเบสน้ำแกง และมีรสชาติไม่จัดมากในแบบที่ทางร้านชอบ

ข้าวแกงกะหรี่ของร้าน Nihachi

แกงกะหรี่เบสผักเป็นแกงกะหรี่ที่กินง่าย ไม่หนักท้องจนเกินไป และได้เรื่องสุขภาพด้วย รสชาติหวานของน้ำแกงนั้นเป็นความหวานธรรมชาติที่ได้จากการเคี่ยวผักเป็นเวลานานจนน้ำแกงเข้มข้น โดยไม่ต้องใส่ตัวช่วยอย่างแป้ง น้ำตาล หรือสารปรุงแต่งอะไรเลย ทางร้านเลือกใช้ผัก 7-8 ชนิดในการทำน้ำแกง ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศที่ให้วิตามินซีสูง แครอตที่มีเบตาแคโรทีน และอื่นๆ อีกมายมาย

ข้าวแกงกะหรี่กุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด (178 บาท) เพิ่มเชดดาร์ชีสแผ่น (28 บาท)

“แกงกะหรี่เข้ากับของทอดเป็นพิเศษ” ทางร้านบอกแบบนั้น เมนูในร้านจึงเต็มไปด้วยแกงกะหรี่ที่จับคู่กับของทอด และมีท็อปปิ้งให้ลูกค้าเลือกมากมาย เริ่มที่ ข้าวแกงกะหรี่กุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด (178 บาท) เพิ่มเชดดาร์ชีสแผ่น (28 บาท) ข้าวแกงกะหรี่ที่จับคู่กับของทอดพื้นฐานที่ใครๆ ก็ชอบอย่างกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด เมื่อเพิ่มเชดดาร์ชีสแผ่นเข้าไปก็เข้ากันได้ดีกว่าเดิม

ข้าวแกงกะหรี่ปลาอาจิชุบแป้งทอด (198 บาท) เพิ่มเห็ดญี่ปุ่นย่าง (58 บาท)

ข้าวแกงกะหรี่เบอร์เกอร์เนื้อ (288 บาท)

หรือจะเป็นเมนูที่หากินได้ยากตามร้านแกงกะหรี่ทั่วไปอย่าง ข้าวแกงกะหรี่ปลาอาจิชุบแป้งทอด (198 บาท) เพิ่มเห็ดญี่ปุ่นย่าง (58 บาท) ตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพด้วยปลาอาจิที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ กับเห็ดที่ทำให้ข้าวแกงกะหรี่จานนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่มีประโยชน์ ส่วนเมนูยอดฮิตประจำร้านแกงกะหรี่อย่างแฮมเบิร์กก็มี ข้าวแกงกะหรี่เบอร์เกอร์เนื้อ (288 บาท) แฮมเบิร์กเนื้อวัวหนานุ่มเสิร์ฟมาพร้อมกับชีสและไข่ดาวเยิ้มๆ เวลากินให้เจาะไข่แดงแล้วกินพร้อมกันทีเดียวทั้งไข่ แฮมเบิร์ก ชีส น้ำแกง และข้าว จะได้รสสัมผัสแสนคอมฟอร์ตของแกงกะหรี่ที่คุ้นเคย

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-20.00 น. (ปิดวันจันทร์)

Address: 23/1 ซอยพหลโยธิน 8 สามเสนใน กรุงเทพฯ

Budget: 150-300 บาท

Contact: 09 8555 1505

Website: https://www.facebook.com/nihachi/

Map: 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post TASTE: Nihachi ร้านข้าวแกงกะหรี่เบสผักสูตรนากาโนะ และของทอดนานาชนิด appeared first on THE STANDARD.

ในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ริมคลองบางโพงพางใต้ มีร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่นร้านเล็กๆ ซ่อนอยู่ และการจะหาร้านแกงกะหรี่ร้านนี้ให้เจอนั้นไม่ธรรมดาเลย

กะหรี่ สาธุ เป็นร้านแกงกะหรี่เล็กๆ ที่อยู่ในบ้าน การที่คุณจะเข้ามานั้นคุณจะต้องตามหา ‘บ้านทรงไทยที่มีเสาหลักเสาเดียว’ ในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ให้เจอเสียก่อน แล้วคุณถึงจะเจอคลองบางโพงพางใต้ ที่มีทางเดินเล็กๆ ให้ลัดเลาะเข้าไป

บรรยากาศร้าน

เมื่อเดินถึงช่วงหนึ่ง คุณจะเจอกับหน้าร้านเล็กๆ ที่ตกแต่งด้วยไม้และธง ให้ความรู้สึกเหมือนกับร้านเล็กๆ ในตรอกแห่งหนึ่งที่ญี่ปุ่น เมื่อกดออดหน้าร้านเพื่อคุยกับทางร้าน ประตูก็จะถูกเปิดออก

แกงกะหรี่ของที่ร้านเป็นแกงกะหรี่เบสผักที่ทำเองทั้งหมดตั้งแต่เริ่ม ไม่มีการใช้ก้อนแกงกะหรี่ และด้วยความที่ทำจากผักผลไม้ทั้งหมด ทำให้คนกินมังสวิรัติสามารถกินได้ และถึงแม้จะเป็นเบสผัก แต่รสชาติก็จัดจ้านไม่แพ้เบสเนื้อสัตว์เลย ด้วยความเปรี้ยวและความหวานจากผลไม้ จะทำให้เนื้อสัตว์ที่เสิร์ฟคู่กันนั้นเด่นขึ้นมา

อาหารในร้าน

ทางร้านมีน้ำแกงกะหรี่ให้เลือกถึง 5 รสชาติ คือรสดั้งเดิม, ต้มยำ, หม่าล่า, ลาบ และเห็ดทรัฟเฟิล แต่เมื่อมาครั้งแรก คุณควรลองแกงกะหรี่รสชาติดั้งเดิมก่อนที่จะขยับไปลองแกงกะหรี่รสชาติสร้างสรรค์อื่นๆ

ข้าวแกงกะหรี่แฮมเบิร์กเนื้อวากิวออสเตรเลีย (160 บาท)

ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดต้มยำ (120 บาท)

เริ่มที่ ข้าวแกงกะหรี่แฮมเบิร์กเนื้อวากิวออสเตรเลีย (160 บาท) ข้าวแกงกะหรี่รสชาติดั้งเดิม เสิร์ฟคู่กับแฮมเบิร์กเนื้อวากิวออสเตรเลีย 150 กรัมด้วยความสุกแบบมีเดียมแรร์ ท็อปด้วยชีสแผ่น กินคู่กับผักดองที่ทางร้านทำเองนั้นเข้ากันมาก ในส่วนของแกงกะหรี่รสชาติสร้างสรรค์ เมนูที่ขายดีก็คือ ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดต้มยำ (120 บาท) ที่เป็นข้าวแกงกะหรี่รสต้มยำ เสิร์ฟคู่กับไก่ทอดชิ้นใหญ่หั่นมาพอดีคำ

ข้าวแกงกะหรี่ทุกจานในร้านจะเสิร์ฟคู่กับเกี๊ยวกรอบ ที่ทางร้านได้ไอเดียมาจากตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวแล้วลองเอาเกี๊ยวกรอบที่แถมมากินคู่กับแกงกะหรี่ดูแล้วได้รสชาติแปลกใหม่ที่เข้ากัน ลองหยิบเกี๊ยวมาตักแกงกะหรี่แล้วกินพร้อมกันดู คุณจะได้ลิ้มรสแกงกะหรี่ในมิติใหม่ที่ต่างออกไป

โชยุราเมน (80 บาท)

นอกจากแกงกะหรี่ ทางร้านก็มีเมนูราเมนที่น่าสนใจมากมาย และราเมนของทางร้านนั้นไม่เหมือนใคร ด้วยน้ำซุปเบสผักและเครื่องปรุงรสที่ทำเองแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นออเรนจ์โชยุที่ใช้ทำโชยุราเมน น้ำมันงาที่ใช้ปรุงราเมน ถ้ามาทั้งทีก็อยากแนะนำให้ลองราเมนไปด้วยเลย

โชยุราเมน (80 บาท)

เมนูราเมนที่ทางร้านทำได้ดีก็คือ โชยุราเมน (80 บาท) ราเมนโชยุน้ำซุปเบสผักที่หอมกลมกล่อมชวนอบอุ่นหัวใจจากผัก สดชื่นด้วยกลิ่นส้มจากโชยุส้มที่ทางร้านทำเอง และอัดแน่นไปด้วยผักนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน เห็ดหูหนู และหน่อไม้ จับคู่มากับเส้นราเมนหยักที่ทางร้านสั่งทำขึ้นพิเศษเพื่อให้เข้ากับซุปเบสผักที่สุด ความหยักของเส้นจะทำให้น้ำซุปติดขึ้นมา ทำให้เวลาสูดเส้นจะได้รับกลิ่นรสของทุกองค์ประกอบในชามนี้

มันกุ้งหอยลายราเมน (140 บาท)

อีกหนึ่งเมนูที่น่าลองคือ มันกุ้งหอยลายราเมน (140 บาท) ที่ทางร้านได้ไอเดียมาจากการที่คนมีอายุจะชอบราเมนต้มยำ แต่ทางร้านไม่ค่อยอยากทำราเมนต้มยำ เลยทวิสต์มาเป็นมันกุ้งหอยลายที่มีรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบทุกรสในชามเดียว แล้วยังมีความสนุกเล็กๆ เป็นมะกรูดให้คุณบีบลงไปในราเมนเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย

เนื่องจากร้านมีขนาดเล็กมากและรับลูกค้าจำนวนจำกัดต่อวัน เราแนะนำให้คุณโทรเข้ามาสอบถามเรื่องที่นั่งและจำนวนคิวกับทางร้านก่อนที่จะเข้าไป อาจจะดูยุ่งยากสักเล็กน้อย แต่รสชาติที่คุณจะได้สัมผัสนั้นแปลกใหม่หาที่ไหนไม่เหมือนอย่างแน่นอน 

กะหรี่ สาธุ

Open: เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-19.00 น.

Address: ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 กรุงเทพฯ

Budget: 100-200 บาท

Contact: 09 5848 5890

Website: https://www.facebook.com/ร้านกะหรี่-สาธุ-105022121188177/

Map:

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post TASTE: กะหรี่ สาธุ ร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเบสผักที่ซ่อนตัวอยู่ริมคลองย่านสาธุประดิษฐ์ appeared first on THE STANDARD.

เป็นที่รู้กันดีว่าแต่ละประเทศมีอาหารประจำชาติที่เป็นเหมือนกับตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวของประเทศนั้น ประเทศญี่ปุ่นก็เช่นกัน แม้ว่าวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่นจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกผ่านจานฮิตอย่างซูชิ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าคนญี่ปุ่นกินซูชิทุกวันเหมือนกับที่คนไทยไม่ได้กินต้มยำกุ้งหรือผัดไทยทุกวันนั่นแหละ ซึ่งหากจะพูดถึงอาหารญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นกินได้ทุกวันทั้งนอกบ้านหรือทำกินเองในบ้านนั้น เราคิดว่าหลายคนคงเห็นตรงกันว่า หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น’ หรือที่เรียกกันว่า ‘คาเรไรซ์’ นี่แหละ เพราะนอกจากจะมีการสำรวจว่าคนญี่ปุ่นถึง 36.3% กินข้าวแกงกะหรี่กันถึง 2-3 ครั้งต่อเดือน และ 12.6% กินบ่อยถึงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง [อ้างอิง 2] ทำให้ในบางบทความ ‘ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น’ ถูกยกย่อยและได้ฉายาว่าเป็นอาหารประจำชาติของญี่ปุ่นเลยทีเดียว 

ถ้าพูดถึงแกงกะหรี่ ไม่ว่าใครก็คงนึกถึงอาหารอินเดียไว้ก่อน แกงกะหรี่ญี่ปุ่นนั้นเป็นแกงกะหรี่ที่ได้รับอิทธิพลมาจากแกงกะหรี่อังกฤษที่ทวิสต์มาจากอาหารอินเดียอีกทอดหนึ่ง แล้วแกงกะหรี่ญี่ปุ่นนั้นเริ่มที่ไหน ใครเป็นคนทำคนแรก ทำไมถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกขนาดนี้

ในยุคเมจิ เป็นยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของวัฒนธรรม เทคโนโลยี สถาปัตยกรรม รวมไปถึงอาหาร แกงกะหรี่ญี่ปุ่นนั้นเกิดขึ้นราวๆ ช่วงสงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย ในปี 1904-1905 ที่มีการระบาดของ ‘โรคเหน็บชา’ ที่เริ่มระบาดในเหล่าทหารเรือจากการที่พวกเขากินแต่ข้าวขัดขาวที่ไม่มีวิตามินบี 1 เลย แล้วสิ่งที่มีวิตามินบี 1 ล้วนแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ค่อยจะกินกันในชีวิตประจำวันอย่าง ธัญพืช แป้งสาลี ข้าวโพด มันฝรั่ง ขนมปังโฮลวีต เนื้อสัตว์ แต่ครั้นจะให้พวกเขากินขนมปังโฮลวีตทุกวันแทนข้าวก็ไม่ใช่ทาง เพราะในยุคนั้นขนมปังถูกมองว่าเป็นเพียงแค่ขนมหรือของว่างเท่านั้น

โรคเหน็บชาลุกลามในหมู่ทหารเรือ จนทำให้มีทหารล้มหายตายจากไปมากในช่วงสงครามญี่ปุ่น-รัสเซียพอดี ในขณะนั้นกองทัพเรือญี่ปุ่นได้จับพันธมิตรกับกองทัพเรืออังกฤษ เมื่อปรึกษาหารือกันถึงปัญหาโรคระบาด กองทัพเรือญี่ปุ่นก็ได้ไปเจอกับเมนู ‘แกงกะหรี่อังกฤษ’ ที่กลายเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาโรคนี้

แล้วอังกฤษมีแกงกะหรี่ได้อย่างไร คำตอบคือจากการที่อังกฤษปกครองอินเดีย ทำให้กองทัพเรืออังกฤษคุ้นเคยกับอาหารอินเดียและอยากได้ส่วนผสมบางอย่างที่สร้างรสชาติสไตล์อาหารอินเดียได้ง่าย สามารถพกพาไปที่ไหนก็ได้ ผงกะหรี่จึงถือกำเนิดขึ้น และทหารอังกฤษก็พกผงกะหรี่เหล่านี้ติดตัวไปในทุกที่

‘แกงกะหรี่อังกฤษ’ ประกอบไปด้วยผงกะหรี่ เนย เนื้อสัตว์ ผักประเภทหัวอย่างแครอตหรือมันฝรั่ง แล้วทำให้เนื้อแกงข้นหนืดขึ้นด้วยแป้งสาลี ส่วนผสมเหล่านี้ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 แถมยังรสชาติหวาน อร่อย กินง่าย แกงกะหรี่ที่เป็นอาหารหลักของทหารเรืออังกฤษก็ถูกทำขึ้นในแบบของญี่ปุ่น และกลายเป็นอาหารหลักของทหารเรือญี่ปุ่นไปด้วย

เมื่อสงครามจบลง ทหารเรือได้กลับภูมิลำเนาในจังหวัดต่างๆ ก็หวนคิดถึงรสชาติของแกงกะหรี่ และลองทำมันขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ความนิยมของแกงกะหรี่แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว จากการทำแกงแบบดั้งเดิมด้วยผงกะหรี่นำเข้าจากอังกฤษ ก็นำมาสู่การทำผงกะหรี่เองในประเทศญี่ปุ่น

ความนิยมของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นนั้นโหมรุนแรงขึ้นไม่หยุดยั้ง จนในปี 1950 เริ่มมี ‘แกงกะหรี่ก้อน’ ที่ทำให้แกงกะหรี่ญี่ปุ่นยิ่งแพร่หลายตามครัวเรือนมากขึ้นไปอีกด้วยความง่ายต่อการทำ แกงกะหรี่ก้อนเหล่านี้อัดแน่นด้วยเครื่องแกงที่ถูกปรุงรสชาติมาเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่นำไปต้มกับน้ำ เพิ่มผักและเนื้อสัตว์ก็พร้อมเสิร์ฟเลย ยี่ห้อที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเลือกใช้กันมายาวนานคือ Kokumaro Curry, Vermont Curry และ Java Curry ที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้ เมื่อต้องการทำอาหารจานด่วนก็หยิบขึ้นมาทำได้ตลอด

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘สูตรลับ’ ความอร่อยของแกงกะหรี่ หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องการใส่ช็อกโกแลต ผลไม้ หรือน้ำผึ้งลงไปในแกงกะหรี่ เพื่อทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น แต่นอกจากส่วนผสมเหล่านี้ ชาวญี่ปุ่นแต่ละบ้านก็มี ‘สูตรลับ’ เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวอร์เชสเตอร์เชียร์ซอส กระเทียม มะเขือม่วง กาแฟผง มะเขือเทศ และโยเกิร์ต

ปัจจุบันในญี่ปุ่นมีร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมากมายทั่วทุกหัวมุมถนน หรือแม้แต่ร้านอาหารที่ไม่ใช่ร้านแกงกะหรี่โดยเฉพาะ ก็มีแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเสิร์ฟ เรียกได้ว่าถ้าคุณเข้าร้านอาหารอะไรสักร้านจะต้องมีเมนูแกงกะหรี่ญี่ปุ่นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งให้คุณได้สั่ง เพราะแกงกะหรี่ญี่ปุ่นไม่ได้หยุดที่แค่การเสิร์ฟกับข้าว แต่ถูกทดลองเสิร์ฟในรูปแบบอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุด้งแกงกะหรี่ โซบะแกงกะหรี่ ราเมนแกงกะหรี่ หม้อไฟแกงกะหรี่ หรือแม้แต่ขนมปังไส้แกงกะหรี่ก็มี ดังนั้นถ้าหากจะเรียกแกงกะหรี่ญี่ปุ่นว่าเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของญี่ปุ่นก็คงไม่เกินจริงเลย

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• https://www.atlasobscura.com/articles/japanese-curry-history
• https://www.dims.ne.jp/timelyresearch/2018/180119/

The post จากกองทัพเรือสู่พลเรือน ‘แกงกะหรี่ญี่ปุ่น’ หนึ่งในจานคอมฟอร์ตที่อบอุ่นที่สุดของญี่ปุ่น appeared first on THE STANDARD.

รายการ MasterChef Thailand กลับมาอีกครั้งในรูปแบบการแข่งขันของผู้ที่เคยเข้าร่วมใน 3 ซีซันที่ผ่านมา ปอนด์-สหดล ตันตราพิมพ์ เป็นหนึ่งคนที่หวนสู่สนามประลองรสมืออันดุเดือด หลังจบการแข่งขันในซีซันที่ 3 สจวร์ตผู้ผันตนเองมาสู่สายอาหาร กลายเป็นที่รู้จัก และมีนามสกุลมาสเตอร์เชฟต่อท้าย ขณะที่ตัวเขาเองก็ลุยในเส้นทางการทำอาหารอย่างต่อเนื่อง แต่การพาตนลงแข่งขันอีกครั้งในหนนี้ เขาจะฝ่าด่านพิสูจน์ฝีมือไปได้ไกลเพียงไร จะสามารถเป็นผู้ชนะ MasterChef Thailand คนที่ 4 ได้หรือไม่ ในวันที่ได้นั่งสนทนากับปอนด์ ผลชนะยังเป็นเรื่องของอนาคต

ในรายการ ปอนด์ทำอาหารได้ดีและอร่อยแค่ไหน ผู้ชมทางบ้านรู้ได้จากการตัดสินของกรรมการ แต่หากอยากตัดสินด้วยลิ้นของคุณเอง ขอเชิญที่ร้าน I am Curry ฉันคือ (แกง) กะหรี่ ณ ซอยอารีย์ ที่เจ้าตัวปลุกปั้นขึ้นมากับมือ 

“ปอนด์อยากเปิดร้านอาหารตั้งแต่ก่อนไปแข่งในซีซัน 3 แล้ว ตั้งแต่ยังทำงานเป็นสจวร์ต ปอนด์ชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก อยากเปิดร้านอาหารอะไรสักร้านที่กรุงเทพฯ มาตลอด จนมาแข่งในรายการ MasterChef Thailand เราก็ดูเทรนด์ไปด้วย คนชอบกินอะไร อย่างไหนควรหรือไม่ควรขาย จริงๆ ปอนด์ชอบกินอาหารไทย ชอบทำอาหารไทย แต่ถ้าเราอยู่เมืองไทย ขายอาหารไทยแล้วไม่เจ๋งจริง เราจะอยู่ยากมาก เพราะการแข่งขันสูง เลยเลือกอย่างอื่นที่เราลองทำแล้วออกมาโอเค มาสรุปที่แกงกะหรี่ญี่ปุ่น”

แกงกะหรี่ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากแกงอินเดีย เป็นวัฒนธรรมการกินที่แพร่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในยุคเมจิ ค.ศ. 1868-1912 และแกงกะหรี่ก็มีความใกล้เคียงกับแกงไทยที่ปอนด์ชอบ  

ปอนด์-สหดล ตันตราพิมพ์ 

“แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นอาหารที่เครื่องเทศเยอะก็จริง แต่ไม่ได้มีกลิ่นเครื่องเทศจัดเท่าแกงอินเดีย จึงกินได้ทุกเพศทุกวัย ปอนด์ทำงานเป็นสจวร์ต บินไปประเทศไหนก็ตระเวนชิมตลอด จนไปเจอเจ้าที่กินแล้วรู้สึกว้าวมาก อยู่ที่โอซาก้า เป็นร้านที่เพื่อนแนะนำ แล้วรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ไปกินถึงที่ร้านจริงๆ กลับมาก็ลองแกะสูตรเขาดู ทดลองให้ออกมาคล้ายที่สุด ตอนถอดสูตรนี่ทิ้งไปหลายหม้อเหมือนกัน ต้องหาวิธีปรับเปลี่ยนอยู่นาน”

แม้จะตั้งต้นด้วยแกงกะหรี่จากประเทศต้นตำรับ แต่ปอนด์ก็พัฒนาต่อให้ถูกลิ้นตัวเองและคนไทยมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงคุ้มกับที่ยอมเทแกงกะหรี่ทิ้งไปหลายหม้อ 

The Vibe

ขนาดพื้นที่ของ I am Curry ฉันคือ (แกง) กะหรี่ อยู่ในสเกลที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ถึงกับเล็กจนคับแคบ ตั้งใจทำครัวเปิดให้ลูกค้าได้เห็นกรรมวิธี ผลพลอยได้คือเราจะได้กลิ่นหอมของแกงกะหรี่โชยบางๆ มาถึงโต๊ะ แม้อาหารที่สั่งยังไม่มาเสิร์ฟตรงหน้า ที่นั่งมีทั้งโต๊ะที่แยกออกมา และบริเวณเคาน์เตอร์โซนทำอาหาร คนทำยืนอยู่ด้านใน จึงสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่นั่งตรงบริเวณนั้นได้ ปอนด์บอกว่าร้านแกงกะหรี่ในดวงใจที่ค้นพบที่โอซาก้า ก็มีสเกลร้านคล้ายๆ กันนี้ แถมเล็กกว่าด้วยซ้ำ

หลายอย่างของร้านคล้ายถอดบุคลิกของปอนด์ออกมา เช่น ชื่อเมนูที่ตั้งไว้อย่างขี้เล่นเต็มไปด้วยกิมมิก สมกับที่เขาได้ฉายาในรายการ MasterChef Thailand ว่า ‘เจ้าชายแห่งวงการตั้งชื่ออาหาร’ 

“ปอนด์คิดว่าการตั้งชื่อสำคัญเหมือนกัน ถ้าตั้งชื่อยากๆ หรือตั้งไปเรื่อยแต่ไม่ติดหู คนก็จะไม่จำ เลยคิดว่าการตั้งชื่อต้องมีลูกเล่นนิดหนึ่ง อย่างเช่น ข้าวกะหรี่อ๊วนอ้วน ก็คือหมู ข้าวกะหรี่มีปีก ก็คือไก่ น้องจุ้งก็คือกุ้ง มันเป็นตามบุคลิกของเรา ตั้งแต่ในรายการแล้วครับ เรารู้สึกว่ามันเป็นสีสัน”

หน้าตาข้าวแกงกะหรี่ของปอนด์ก็มีสีสันชวนกินเช่นกัน แถมเสิร์ฟมาให้พอร์ชันใหญ่เบิ้ม มองว่าแบ่งกันกินสองคนก็ได้ แต่ถ้าหิวๆ มา รวบทั้งจานคนเดียวก็ไหว 

The Dishes

ทุกองค์ประกอบหลักของข้าวแกงกะหรี่ล้วนต้องใส่ใจในรายละเอียด ทั้งข้าว ทั้งแกง ทั้งเนื้อสัตว์ พลาดส่วนไหนก็พานจะทำลายรสชาติไปทั้งจาน ปอนด์อธิบายในแต่ละส่วนสำคัญ เริ่มจากข้าว เขาทดลองมาหลายยี่ห้อจากหลายแหล่งปลูก กระทั่งพบว่ามีแหล่งปลูกข้าวญี่ปุ่นในไทย นั่นคือจังหวัดเชียงราย ปอนด์จึงเลือกใช้ข้าวที่ปลูกในไทย เป็นข้าวต้นฤดูที่เมื่อหุงสุกแล้วจะขึ้นหม้อ เป็นเม็ดเงาสวย และสัมผัสนุ่ม ข้าวที่กินกับแกงกะหรี่ต้องกะปริมาณน้ำที่หุงให้พอดี เพื่อไม่ให้ข้าวเละเกินไปเมื่อราดทับด้วยแกงกะหรี่ และต้องไม่ให้แข็งกรุบเกินไปจนสะดุดเวลาเคี้ยว แต่ความพอดีเหล่านี้ล้วนต้องผ่านการทดลองหุงหม้อแล้วหม้อเล่าจนเจอความพอดี 

ข้าวดีแล้ว แกงกะหรี่ซึ่งเป็นตัวเอกของจานก็ต้องดีด้วย แกงกะหรี่ของปอนด์เนื้อข้น แต่ไม่ถึงกับคลั่ก สัมผัสเนียน ขึ้นเงา และรสละมุน กลิ่นเครื่องเทศไม่ได้ออกจัดมาก ซึ่งเป็นความตั้งใจของปอนด์ที่อยากให้แกงกะหรี่ออกรสนวลและกินง่าย นอกจากมีเครื่องแกงกะหรี่เป็นเบสหลัก ยังมีวัตถุดิบที่ให้รสหวานเป็นธรรมชาติ เช่น แอปเปิ้ล กล้วย น้ำผึ้ง และวัตถุดิบอื่นที่เป็นกลเม็ดเด็ดพรายให้แกงกะหรี่หม้อไหนหม้อนั้นออกมาอร่อยกลมกล่อม

น้ำแกงกะหรี่เนื้อข้น รสนวล ที่ใช้เวลาเคี่ยวถึง 48 ชั่วโมง

ตัวแกงผ่านการเคี่ยวถึง 48 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกส่วนผสมเนียนเข้าด้วยกัน และดึงรสชาติวัตถุดิบออกมา อีกเทคนิคคือการนำแกงที่เคี่ยวแล้วมากรอง จึงได้แกงกะหรี่ที่มีความสมูท ดังนั้น แกงกะหรี่ในช่วงเริ่มต้นของร้านจึงไม่มีผักเป็นชิ้นๆ อย่างที่เราคุ้นตาจากที่อื่น ภายหลังปอนด์ได้เพิ่มแกงกะหรี่ผักเข้ามา ใช้แครอตและมันฝรั่งเป็นชิ้นเป็นคำ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามังสวิรัติ เปิดควบคู่ไปกับเส้นอุด้งที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น เจ้าตัวบอกว่าพอกินด้วยกันกับแกงกะหรี่ที่เป็นเบสผักแล้ว มันใช่!

ข้าวกะหรี่อ๊วนอ้วน เพิ่มมอสซาเรลลาชีสและกุ้งทอด

ท็อปปิ้งก็ให้มาชิ้นโต หรือในปริมาณมากแบบไม่มีหวงของ โปรตีนมีให้เลือกคือ หมูทอด (79 บาท) ใช้ส่วนสันนอก ไก่ทอด (69 บาท) ใช้ส่วนสะโพก และ กุ้งทอด (2 ตัว 69 บาท) เนื้อสัตว์นำมาคลุกเกล็ดขนมปัง จะเอาลงทอดก็ต่อเมื่อมีออร์เดอร์ จึงได้ของทอดที่ข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่ม ด้วยเทคนิคการทอดที่ทำจนอยู่มือ ท็อปปิ้งที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์มี มอสซาเรลลาชีส (29 บาท) ผักโขม (29 บาท) ที่ปอนด์ตั้งชื่อให้ว่าป๊อปอาย และนำผักโขมมารวมร่างกับไวต์ครีมซอสสไตล์อิตาเลียน ซึ่งเป็นท็อปปิ้งตัวใหม่ ในชื่อ ป๊อปอายไวต์ครีมลาวา (49 บาท)

อีกสิ่งที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างท็อปปิ้งและแกงกะหรี่ คือ ไข่แดง (19 บาท) มาเป็นลูกตึงสวย ปอนด์เล่าว่าเจ้าที่โอซาก้าก็ใช้ไข่แดงเป็นลูกๆ แบบนี้ ไข่ที่ใช้ในร้านเป็นไข่นำเข้าจากญี่ปุ่น ในเกรดคุณภาพที่การันตีว่ากินดิบได้ ปลอดแบคทีเรียซาลโมเนลลา (Salmonella) 

 ข้าวแกงกะหรี่มีปีก ท็อปป๊อปอายไวต์ครีมลาวา

เมื่อนำสามส่วนนี้มาประกอบเข้าด้วยกัน จึงได้เป็นเมนู ‘กะหรี่จานหลัก’ ข้าวกะหรี่ล้วน (119 บาท) ข้าวกะหรี่มีปีก (179 บาท) ข้าวกะหรี่อ๊วนอ้วน (189 บาท) และ ข้าวกะหรี่น้องจุ้ง (199 บาท) อยากกินเส้นอุด้งในแกงกะหรี่เบสผัก ให้สั่ง กะหรี่มีเส้น (เริ่มต้น 109 บาท) แล้วจะเพิ่มท็อปปิ้งอะไรอีกก็แล้วแต่เลือก

กะหรี่มีเส้น อุด้งในแกงกะหรี่เบสผัก เพิ่มกุ้งทอด

เมนูที่ไม่ใช่แกงกะหรี่มีให้เลือก 3 เซต ข้าวหน้าไก่ทอด (99 บาท) ข้าวหน้าหมูทอด (109 บาท) และ ข้าวหน้ากุ้งทอด (119 บาท) ในเซตประกอบด้วยของทอดตามที่เลือก ข้าวญี่ปุ่น ซุปมิโสะ กะหล่ำฝอย และผักดอง   

ข้าวหน้าหมูทอด พร้อมเครื่องเคียง

ในการแข่งขัน MasterChef All Stars ปอนด์ได้โชว์ฝีมือทำแกงกะหรี่ เขาบอกว่า “การเปิดร้านแล้วไปทำในรายการ ทำให้เรามีประสบการณ์ เราจะรู้หลักว่าควรจัดการอย่างไร รสชาติควรไปในทิศทางไหน ถ้าไม่เปิดร้านแล้วไปทำ คงไม่รู้ว่ารสชาติที่ดีต้องเป็นอย่างไร แต่ปกติแล้วแกงกะหรี่ต้องใช้เวลาเคี่ยวให้รสชาติวัตถุดิบสมานกันนานมาก เคยลองทำไว้คืนเดียวก็ยังไม่ได้ เพราะรสชาติยังไม่รวมเป็นหนึ่งเดียว แล้ววันนั้นปอนด์ต้องทำแกงกะหรี่ในเวลา 30 นาที กดดันมาก เพราะเหมือนเอาชื่อเสียงของเรามาเสี่ยง แต่ด้วยเวลาที่มี ปอนด์ก็ว่าเราทำออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว มันโหดนะครับ 30 นาทีเนี่ย” 

ชัยชนะในการแข่งขันอาจเป็นรางวัลของการเอาจริงเอาจังด้านอาหาร แต่ความสุขของปอนด์ที่มีต่อ I am Curry ฉันคือ (แกง) กะหรี่ เรียบง่ายกว่านั้น “คือได้เห็นว่าลูกค้ากินอาหารของเราหมดครับ ทุกวันนี้ปอนด์ยังดูตลอด เขากินหมดไหม ชอบไหม ความสุขในการทำอาหารยังมีอยู่ จริงๆ ถ้าพนักงานอยู่ครบ บางครั้งปอนด์ไม่ต้องเข้าไปยืนข้างในเลยก็ได้ เพราะปอนด์เทรนให้ทุกคนทำเป็นหมด แต่ลูกค้ามา เขาก็อยากกินฝีมือเรา ถ้าปอนด์อยู่ร้าน ปอนด์ก็อยากทำให้ทุกคนได้กินครับ” 

I am Curry ฉันคือ (แกง) กะหรี่

Address: ชั้น 2 ของ Ari Story Hostel ซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ

Open: ทุกวัน เวลา 10.30-16.00 น. และ 16.30-20.30 น.

Tel: 0 2120 7589

Map:

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post ‘I am Curry’ แกงกะหรี่เข้มข้น รสละมุน ท็อปปิ้งจุใจสไตล์ปอนด์ MasterChef appeared first on THE STANDARD.

ในปี 1982 สภานักกำหนดอาหารโรงเรียนแห่งญี่ปุ่น (School Dietitian Conference of Japan) ฉลองครบรอบ 35 ปี อาหารกลางวันของนักเรียนญี่ปุ่น (Kyushoku) โดยจะเสิร์ฟข้าวแกงกะหรี่ในวันที่ 22 มกราคมของทุกปี เนื่องจากเด็กๆ ชอบกินข้าวแกงกะหรี่

การแจกข้าวกลางวันให้เด็กๆ ต้องย้อนกลับไปในปี 1889 โรงเรียนประถมศึกษายามากาตะ ได้ริเริ่มแจกข้าวปั้น ปลาทอด และผักดองแก่เด็กนักเรียนที่ยากจน ซึ่งไม่ได้รับโภชนาการที่ดีจากที่บ้านอย่างเพียงพอ แต่ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 การแจกจ่ายอาหารกลางวันในโรงเรียนยังไม่เป็นระบบมากนัก จนกระทั่งในปี 1946 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมีระบบการแจกอาหารกลางวันในโรงเรียนที่โตเกียว ตามด้วยคานากาวะและชิบะ ทำให้มีเด็กนักเรียนได้รับอาหารกลางวันถึง 3 ล้านคนในเมืองหลักๆ ของญี่ปุ่น โดยเมนูอาหารกลางวันช่วงแรกคือนมและขนมปัง ต่อมามีเมนูอื่นๆ อย่างอาเกะปัง (ขนมปังทอด), ซอฟต์นู้ดเดิลกับซอสเนื้อ, ครีมสตูว์ หรือข้าวแกงกะหรี่กับมิลเมก (Milmake ผงเพิ่มรสชาติให้นมรสต่างๆ)

ปัจจุบันมีการกำหนดเมนูอาหารกลางวันของโรงเรียนญี่ปุ่นว่าจะต้องมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน เช่น อาหารจานหลักจะต้องประกอบด้วยขนมปัง ข้าว หรือก๋วยเตี๋ยวอย่างใดอย่างหนึ่ง มีซุปถ้วย ตามด้วยจานเนื้อหรือปลา และจบด้วยของหวาน นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารต่างประเทศอื่นๆ เช่น บิบิมบับ, ไก่ทันดูรี, สปาเกตตีซีฟู้ด, ซุปมิเนสโตรเน รวมถึงพืชผักและเมนูท้องถิ่นตามที่ตั้งของแต่ละโรงเรียนสลับกันไปอีกด้วย

The post 22 มกราคม – วันแห่งแกงกะหรี่ appeared first on THE STANDARD.