เสรี วงษ์มณฑา – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 28 May 2024 06:43:17 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ศาลสั่งจำคุก 8 เดือน รอลงอาญา 2 ปี สนธิญาณ คดีขวางเลือกตั้ง ศาลให้เหตุผลว่าเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อตัวเอง https://thestandard.co/sonthiyan-2-years-imprison/ Tue, 28 May 2024 06:43:17 +0000 https://thestandard.co/?p=938362 สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

วันนี้ (28 พฤษภาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังค […]

The post ศาลสั่งจำคุก 8 เดือน รอลงอาญา 2 ปี สนธิญาณ คดีขวางเลือกตั้ง ศาลให้เหตุผลว่าเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

วันนี้ (28 พฤษภาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1911/57 คดีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ก่อเหตุขัดขวางการเลือกตั้ง และบุกรุกสถานที่ราชการ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2557

 

สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (จำเลยที่ 1) แกนนำ กปปส. กับพวกรวม 4 คนคือ สกลธี ภัททิยกุล (จำเลยที่ 2), สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ (จำเลยที่ 3) และ เสรี วงษ์มณฑา (จำเลยที่ 4) ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ โดยมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ

 

วันนี้จำเลยทั้ง 4 คนได้เดินทางมาถึงศาลตามเวลานัดหมาย ก่อนที่จะขึ้นไปฟังคำพิพากษาดังกล่าว โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

 

ต่อมาเวลา 09.58 น. มีรายงานว่า ศาลมีคำพิพากษา จำคุก 8 เดือน สนธิญาณ (จำเลยที่ 1) ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ส่วนจำเลยอีก 3 คน ศาลยกฟ้อง

 

ด้านสกลธีกล่าวว่า วันนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีกบฏอั้งยี่ซ่องโจร ขัดขวางการเลือกตั้ง และบุกรุกสถานที่ราชการ ซึ่งคำพิพากษาของตนเอง สมบัติ และเสรี ศาลพิพากษายกฟ้องตั้งแต่ศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ส่วนสนธิญาณ ศาลสั่งจำคุก 8 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 20,000 บาท 

 

สกลธีกล่าวต่อว่า วันนี้พอใจผลการพิพากษา เพราะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน ครบ 10 ปีพอดี พวกตนเองต่อสู้ตามกระบวนการกฎหมายอย่างเต็มที่ และมั่นใจในสิ่งที่ทีมทนายและพวกตนเองให้การต่อศาลทั้งหมด ยอมรับว่าดีใจที่คดีถึงที่สุด

 

ทั้งนี้ ศาลระบุว่า แม้การที่เราออกมาชุมนุมจะมีคำสั่งของศาลธรรมนูญอนุญาตให้ชุมนุมได้โดยชอบนั้น แต่ไม่ได้แปลว่าจะสามารถทำผิดกฎหมาย หรือละเมิดกฎหมายได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สนธิญาณถูกตัดสินจำคุกดังกล่าว โดยศาลขมวดในตอนท้ายว่าเป็นการกระทำไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อส่วนรวม จึงเป็นเหตุให้บรรเทาโทษดังกล่าว

 

สนธิญาณกล่าวว่า ยอมรับคำพิพากษาของศาล ซึ่งศาลพิจารณาตามหลักฐานที่มี และต้องกราบขอบพระคุณศาลที่เห็นว่า โทษจำคุก 8 เดือนเป็นระยะเวลาสั้น ควรให้ตนเองออกมาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติในฐานะสื่อมวลชน จึงมีคำสั่งให้รอลงอาญา ซึ่งเดิมจำคุก 1 ปี ตามศาลอุทธรณ์ แต่ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือ 8 เดือน และค่าปรับจาก 30,000 บาท ลดเหลือ 20,000 บาท 

 

หลังจากนี้จะทำหน้าที่ของตนเองต่อไป และหวังว่าสิ่งที่ทำจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ตามที่ศาลให้โอกาส ส่วนการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ซึ่งนำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ และอีกหลายคน ยืนยันว่าสิ่งที่ทำมีเจตนาเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ได้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวแต่อย่างใด โดยภายใต้คำพิพากษาของศาล ตนเองภาคภูมิใจที่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ บ้านเมือง รวมถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 

 

เมื่อถามว่าตอนนี้ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่นั้น สนธิญาณเผยว่า ไม่มีแล้ว เพราะเมื่อถึงขั้นตอนของศาลฎีกา คดีถือเป็นอันยุติทั้งหมด หลังจากนี้คงต้องรอลุ้นต่อไปในเดือนมิถุนายน สำหรับคดีของจำเลยคณะที่ 2 ซึ่งสุเทพเป็นแกนนำ

 

ด้าน สวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เผยว่า สำหรับคดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. มีอยู่ 3 คดีคือ กบฏเล็ก กบฏใหญ่ และกบฏกลาง โดยกบฏเล็ก เป็นคดีของสนธิญาณ กบฏกลางเป็นคดีของ จิตภัสร์ กฤดากร และ นิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา มีจำเลย 7 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายเวลายื่นอุทธรณ์ ทั้งส่วนของอัยการและจำเลย ส่วนกบฏใหญ่เป็นคดีของสุเทพ และจำเลยรวม 39 คน ซึ่งจะนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ส่วนกระบวนการของศาลจะออกมาอย่างไรนั้นคงต้องรอฟังอีกครั้ง ไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าหรือคิดเองได้

The post ศาลสั่งจำคุก 8 เดือน รอลงอาญา 2 ปี สนธิญาณ คดีขวางเลือกตั้ง ศาลให้เหตุผลว่าเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศาลอาญายกฟ้อง ‘เสรี วงษ์มณฑา’ ชี้วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต หลังจัดรายการกล่าวหาธนาธรจาบจ้วงเบื้องสูง https://thestandard.co/criminal-court-bail-seri-wongmontha/ Wed, 04 Oct 2023 09:06:12 +0000 https://thestandard.co/?p=850593 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

วันนี้ (4 ตุลาคม) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพา […]

The post ศาลอาญายกฟ้อง ‘เสรี วงษ์มณฑา’ ชี้วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต หลังจัดรายการกล่าวหาธนาธรจาบจ้วงเบื้องสูง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

วันนี้ (4 ตุลาคม) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ ที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ฟ้อง ดร.เสรี วงษ์มณฑา และ วุฒินันท์ นาฮิม สองผู้ดำเนินรายการร่วมกัน เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น

 

โจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 จำเลยทั้งสองได้ร่วมพูดคุยกันในรายการ เปิดเนตร หัวข้อ ‘เป้าประสงค์ชัด ธนาธรอยากเป็นมากกว่านายกฯ’ เผยแพร่ทางเว็บไซต์และยูทูบ ซึ่งเป็นการใส่ความให้บุคคลทั่วไปเข้าใจได้ว่า โจทก์กล่าววาจาจาบจ้วงสถาบันฯ เบื้องสูง มีเจตนาแสดงความอาฆาตมาดร้าย และต้องการล้มล้างสถาบันฯ เพราะเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายของโจทก์ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ประกอบมาตรา 83 ให้จำเลยลบหรือหยุดเผยแพร่โพสต์ และ/หรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่มีการหมิ่นประมาทโจทก์ ซึ่งจำเลยได้รับการประกันตัววงเงิน 1 หมื่นบาท

 

ในวันนี้ ดร.เสรี วงษ์มณฑา และ วุฒินันท์ นาฮิม จำเลยที่ 1-2 พร้อมทนายความมาที่ศาล ขณะที่โจทก์และทนายความทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา

 

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณาตามมาตรา 326 และ 328 แล้ว แต่มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำหรือไม่

 

เห็นว่า เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงจากทางนำสืบของโจทก์ว่า ก่อนที่จำเลยทั้งสองจะหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ธนาธร ผู้เป็นโจทก์ ได้แสดงออกซึ่งพฤติกรรมให้ปรากฏต่อสาธารณะ โดยเคยให้สัมภาษณ์ทางสื่อต่างๆ ร่วมเสวนา และยังโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถาบันฯ ในทำนองว่า การให้สถาบันฯ อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีการปฏิรูปสถาบันฯ เพื่อให้อยู่เหนือการเมือง อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ อำนาจบทบาทของสถาบันฯ ต้องสอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย ปฏิรูปเพื่อให้สถาบันฯ ดำรงอยู่คู่สังคมประชาธิปไตย และโจทก์เคยเสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

 

นอกจากนี้ เมื่อโจทก์ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี สภาผู้แทนราษฎร โจทก์เคยอภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณในหน่วยงานส่วนพระองค์ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของโจทก์ที่แสดงออกผ่านทางตัวโจทก์ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ดังกล่าว ย่อมก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย และทำให้ประชาชนคิดไปได้ว่า เหตุใดโจทก์ซึ่งเคยเป็น สส. และเป็นบุคคลสาธารณะถึงต้องการปฏิรูปสถาบันฯ อันเป็นสถาบันสูงสุดของประเทศ

 

ซึ่งเมื่อพิจารณาเกี่ยวกับการพูดคุยในรายการของจำเลยทั้งสอง เป็นเพียงการนำข้อมูลของโจทก์ที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์ การอภิปรายของโจทก์ในที่ต่างๆ และหนังสือของโจทก์ มาวิเคราะห์การกระทำ ซึ่งมีลักษณะส่อไปในทางที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันฯ เพื่อให้ประชาชนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันทราบถึงข้อมูลและพฤติกรรมของโจทก์ 

 

จึงนับว่าการกระทำของจำเลยเป็นแต่เพียงการจัดรายการในฐานะสื่อมวลชนและประชาชนคนหนึ่ง วิเคราะห์ข้อมูลไปตามเนื้อข่าวที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ เป็นการแสดงความคิดเห็นเพื่อสื่อสารถึงการกระทำของโจทก์ไปยังประชาชนที่เคารพสถาบันฯ เท่านั้น ถ้อยคำและข้อความที่จำเลยทั้งสองหมิ่นประมาทโจทก์จึงเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น หรือข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยซึ่งบุคคลหรือประชาชนย่อมกระทำได้ จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) พิพากษายกฟ้อง

 

ภายหลัง ดร.เสรี ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจและขอบคุณศาลที่พิพากษายกฟ้อง ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย ความจริงแล้วคดีนี้ศาลได้ดำเนินการสืบพยานและตัดสินอย่างรวดเร็ว และไม่มีความกังวลใจอะไร เพราะเรารู้ว่าทำอะไร และเราเป็นสื่อมวลชน วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และเราจัดรายการไม่ได้กุข่าวขึ้นมา โดยเอาข่าวที่ปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ มาวิเคราะห์อยู่บนฐานของข้อเท็จจริง จึงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าเป็นข่าวจริงหรือไม่ใช่ข่าวจริง

 

ทั้งนี้ ศาลยังให้เหตุผลว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นสื่อมวลชนเท่านั้น แม้แต่ประชาชนที่เห็นพฤติกรรมของเขาแล้วไม่สบายใจ ก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้

The post ศาลอาญายกฟ้อง ‘เสรี วงษ์มณฑา’ ชี้วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต หลังจัดรายการกล่าวหาธนาธรจาบจ้วงเบื้องสูง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตั้ง ‘เสรี วงษ์มณฑา’ เป็นบรรณาธิการบริหาร ศูนย์บริหารสื่อสารในภาวะวิกฤต เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค. https://thestandard.co/appoint-seri-wongmontha-as-executive-editor-crisis-communication-management-center/ Mon, 16 Aug 2021 10:22:56 +0000 https://thestandard.co/?p=525627 Seri Wongmontha

วันนี้ (16 สิงหาคม) เวลา 13.30 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์ […]

The post ตั้ง ‘เสรี วงษ์มณฑา’ เป็นบรรณาธิการบริหาร ศูนย์บริหารสื่อสารในภาวะวิกฤต เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค. appeared first on THE STANDARD.

]]>
Seri Wongmontha

วันนี้ (16 สิงหาคม) เวลา 13.30 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 12/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) โดยผ่อนคลายกิจกรรมให้เปิดธนาคารและสถาบันการเงินในห้างได้ เพิ่มการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อโดยใช้ Antigen Test Kit (ATK) ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล และยังเน้นให้ภาครัฐและเอกชนทำงานที่บ้าน (Work from Home) โดยยังคงห้ามออกนอกเคหสถานเวลา 21.00-04.00 น. ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัดถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้  

 

ขณะเดียวกันยังเห็นชอบจัดตั้งศูนย์บริหารสื่อสารในภาวะวิกฤต มี อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นเลขานุการ มี เสรี วงษ์มณฑา และ เกษมสันต์ วีระกุล เป็นบรรณาธิการบริหาร เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค. โดยขอให้ทุกฝ่ายเร่งสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชน ทั้งในรูปแบบคู่มือประชาชน คู่มือชุมชน ช่องทางติดต่อทั้งโทรศัพท์ สายด่วน ไลน์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ของหน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนทราบการปฏิบัติตัวตั้งแต่เริ่มติดเชื้อ สิ่งที่สังคมต้องการคือข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง มีความเป็นเอกภาพ โดยเฉพาะการนำเสนอข้อมูลทางวิชาการ ทั้งเรื่องวัคซีน ยาและเวชภัณฑ์ ยาสมุนไพร สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ทุกหน่วยต้องแก้ข่าวบิดเบือน (Fake News) ให้ทันท่วงที   

The post ตั้ง ‘เสรี วงษ์มณฑา’ เป็นบรรณาธิการบริหาร ศูนย์บริหารสื่อสารในภาวะวิกฤต เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค. appeared first on THE STANDARD.

]]>
สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่งทนายแจ้งเอาผิด ‘เสรี วงษ์มณฑา-อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์’ หมิ่นประมาท จัดรายการบิดเบือนทำเสียหาย https://thestandard.co/somporn-inform-the-attorney-to-condone-seree-anon-defamation-case/ Mon, 05 Apr 2021 10:00:27 +0000 https://thestandard.co/?p=472600 สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ

วันนี้ (5 เมษายน) ที่สถานีตำรวจภูธรป่าโมก อำเภอป่าโมก จ […]

The post สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่งทนายแจ้งเอาผิด ‘เสรี วงษ์มณฑา-อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์’ หมิ่นประมาท จัดรายการบิดเบือนทำเสียหาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ

วันนี้ (5 เมษายน) ที่สถานีตำรวจภูธรป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เมตตา เกลี้ยงกลม ผู้ได้รับมอบอำนาจจาก สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เสียหาย พร้อมด้วย สุพล นิลวรเชียร ทนายความ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับ เสรี วงษ์มณฑา นักจัดรายการโทรทัศน์ และ อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 ทั้งสองคนได้ร่วมกันจัดรายการวิเคราะห์ข่าว เรื่องลับมาก ตอน ‘ดร. อานนท์ คาใจหลายปม ก่อนธนาธรลงเล่นการเมือง’ ซึ่งถ่ายทอดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง Nation TV 22 รวมทั้งช่องทางสื่อสารในรูปแบบอื่นๆ โดยบุคคลทั้งสองได้หยิบยก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นบุตรของผู้เสียหายมาบังหน้า เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าบุคคลทั้งสองทำหน้าที่สื่อมวลชนช่วยสอดส่อง ดูแล คอยเป็นหูเป็นตาแทนประชาชน แต่การกระทำของบุคคลทั้งสองมีจุดประสงค์เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างเรื่องราวอันเป็นความเท็จเพื่อใส่ความผู้เสียหายและครอบครัว

เมตตากล่าวว่า สาเหตุที่สมพรได้มอบหมายตนให้มาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เนื่องจากมีผู้ที่รู้จักกับผู้เสียหายได้รับชมรายการที่เป็นการหมิ่นประมาทดังกล่าวในจังหวัดอ่างทอง และได้โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้เสียหายว่า เหตุการณ์ที่บุคคลทั้งสองกล่าวหามีข้อเท็จจริงว่าอย่างไร เป็นไปตามที่ทั้งสองคนกล่าวใส่ร้ายหรือไม่ โดยบุคคลผู้นั้นรับรู้เรื่องที่นี่ ดังนั้นจึงต้องมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่จัดรายการทั้งสองคน ซึ่งทางผู้ที่ได้ชมรายการพร้อมที่จะเดินทางมาเป็นพยานด้วย โดยการแจ้งความฐานหมิ่นประมาทครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่สมพรตัดสินใจดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้ที่ผ่านมาจะมีการหมิ่นประมาทหลายต่อหลายครั้ง

สำหรับหลักฐานที่ใช้ในการแจ้งความวันนี้ ทนายความแจ้งว่ามีชุดเอกสารมอบอำนาจจากสมพร และหลักฐานคือเทปรายการออกกาศรายการวิเคราะห์ข่าวดังกล่าวมาเป็นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่

เมื่อสอบถามว่าตามเนื้อหาใจความในรายการที่ก่อให้เกิดการความเสียหายแก่ชื่อเสียงนั้นมีถ้อยคำใดปรากฏบ้าง สุพลระบุว่า มีบางตอนกล่าวหาตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวหาสมพรอย่างรุนแรง เช่น เป็นตระกูลทำลายชาติ ชังชาติ ซึ่งสมพรได้ตั้งคำถามกลับว่า เพราะตนเป็นมารดาของธนาธรใช่หรือไม่ จึงต้องถูกโยงเข้าไปเป็นเรื่องการเมืองและการกระทำของพิธีกรทั้งสองคนที่พูดกันอย่างสนุกปาก โดยสมพรได้รับความเสียหายในด้านชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ ซึ่งส่งผลต่อการทำธุรกิจระหว่างประเทศที่ทำอยู่ด้วย

พิสูจน์อักษร: ชฎานิสภ์ นุ้ยฉิม

The post สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่งทนายแจ้งเอาผิด ‘เสรี วงษ์มณฑา-อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์’ หมิ่นประมาท จัดรายการบิดเบือนทำเสียหาย appeared first on THE STANDARD.

]]>