วันนี้ (17 ตุลาคม) ทางการนิวซีแลนด์กำลังนับผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว หลังนับคะแนนไปแล้วกว่า 98% โดยนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้แทนจากพรรคเลเบอร์ชนะการเลือกตั้งทั่วไป กวาดคะแนนเสียงไปได้กว่า 1.15 ล้านเสียงจากผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 2.35 ล้านคน หรือคิดเป็น 49% ในช่วงเวลานี้ มีชัยเหนือผู้สมัครจากพรรคคู่แข่งอย่าง จูดิธ คอลลินส์ จากพรรคเนชันแนลไปอย่างขาดลอย ส่งผลให้พรรคที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่แล้ว มีเก้าอี้ลดลงถึง 21 ที่นั่งในการเลือกตั้งหนนี้ และเหลือเก้าอี้เพียง 35 ที่นั่งเท่านั้น

โดยพรรคเลเบอร์ของจาซินดากวาดที่นั่งในสภาไปได้มากถึง 64 จาก 120 ที่นั่ง มากกว่าการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อนถึง 18 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากในรัฐสภานิวซีแลนด์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1996 ขณะที่พรรคพันธมิตรที่เคยร่วมจัดตั้งรัฐบาล เมื่อปี 2017 อย่างพรรคกรีน มีเก้าอี้เพิ่มขึ้น 2 ที่นั่งในคราวนี้ เป็น 10 ที่นั่ง ส่วนพรรค NZ First ที่เคยมี 9 ที่นั่ง ไม่สามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้เลย

เหตุผลสำคัญที่ทำให้จาซินดายังคงรักษาฐานคะแนนเสียง และได้รับการสนับสนุนให้นั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศต่อไปอีกสมัย มาจากการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับเสียงชื่นชมไปทั่วโลก รวมถึงการแสดงจุดยืนต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุนความหลากหลายในสังคมนิวซีแลนด์และสังคมโลก

โดยจะประกาศผลการเลือกตั้ง และผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้

ภาพ: Hannah Peters / Getty Images

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

• https://www.smh.com.au/world/oceania/nz-election-live-updates-jacinda-ardern-looks-to-secure-second-term-amid-nation-s-cannabis-euthanasia-referendums-20201016-p565vv.html
• https://edition.cnn.com/2020/10/17/asia/new-zealand-election-2020-results-intl-hnk/index.html
• https://www.nytimes.com/2020/10/17/world/asia/jacinda-ardern-election-new-zealand.html 

The post จาซินดา อาร์เดิร์น ชนะการเลือกตั้งตามคาด เตรียมนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์อีกสมัย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (17 ตุลาคม) ทางการนิวซีแลนด์เปิดคูหาเลือกตั้งทั่วไปโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีกำหนดการล่าช้ากว่า 1 เดือนเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ โดยเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ระหว่างนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้แทนจากพรรค Labour กับ จูดิธ คอลลินส์ จากพรรค National 

หลายฝ่ายคาดจาซินดาจะชนะการเลือกตั้งนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกสมัย หลังจากสร้างผลงานอย่างน่าประทับใจจากการบริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะถูกตั้งคำถามถึงสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะยุติปัญหาความยากจนและวิกฤตที่พักอาศัยในนิวซีแลนด์ 

นับตั้งแต่มีการใช้ระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม (MMP) ขึ้นในนิวซีแลนด์เมื่อปี 1996 ไม่มีพรรคการเมืองใดที่ชนะการเลือกตั้งและได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา โดยเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา พรรคของจาซินดาก็ได้ความช่วยเหลือจากพรรคพันธมิตรอย่างพรรค NZ First และพรรค Green จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในท้ายที่สุด แม้จะมีคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 2 แต่พรรค National ไม่สามารถรวมเสียงได้ถึง 61 จาก 120 เสียงในรัฐสภาได้

คูหาเลือกตั้งเปิดใช้พลเมืองไปใช้สิทธิในวันนี้ตั้งแต่ 09.00-19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมาราว 1 ล้านคน ในการเลือกตั้งใหญ่หนนี้ ทางการนิวซีแลนด์ได้จัดการลงประชามติควบคู่กันไปด้วย โดยการสอบถามความคิดเห็นของพลเมืองเกี่ยวกับการอนุญาตให้การการุณยฆาต (Euthanasia) เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การประกาศใช้ End of Life Choice Act 2019 ให้มีผลบังคับใช้ในอนาคต หากพลเมืองเห็นชอบ อีกทั้งยังสอบถามความเห็นเกี่ยวกับการอนุญาตให้การบริโภคกัญชาในเชิงสันทนาการเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายในนิวซีแลนด์อีกด้วย

คาดผลการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์จะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในช่วงค่ำของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะประกาศผลการเลือกตั้งและผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 พฤศจิกายน

ภาพ: Lynn Grieveson – Newsroom / Newsroom via Getty Images

Kai Schwoerer / Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-asia-54519628
• https://www.theguardian.com/world/2020/oct/17/new-zealand-election-voters-head-to-the-polls-as-ardern-collins-call-halt-to-campaign
• https://www.nzherald.co.nz/nz/election-2020-labour-down-and-nz-first-up-in-final-poll/RUAOVF45J256TSZTXT34TE6NDA/ 

The post จับตาเลือกตั้งนิวซีแลนด์ โหวตนายกรัฐมนตรีใหม่อีกครั้งวันนี้ appeared first on THE STANDARD.