หลังจากที่ตุรกีต้องเปิดคูหาเลือกตั้งถึง 2 รอบ กว่าจะได้ผลชี้ขาดว่าใครจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า ในที่สุดเมื่อคืนนี้ (28 พฤษภาคม) ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการก็ออกมาแล้วว่า ชาวตุรกีส่วนใหญ่ไว้วางใจให้ เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีวัย 69 ปี ขึ้นครองอำนาจอีกสมัย ต่ออายุให้เขามีโอกาสกุมบังเหียนของประเทศทะลุ 20 ปี หรือนับตั้งแต่ที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในปี 2003-2014 จนมาถึงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2014-2023 และต่อไปอีก 5 ปีนับจากนี้

ก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งครั้งล่าสุดอาจเป็นสนามที่ทั้งยากและท้าทายสำหรับแอร์โดอัน เพราะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สภาพเศรษฐกิจของตุรกีกำลังย่ำแย่ ประกอบกับเงินเฟ้อที่ทะยานสูงลิ่ว อีกทั้งแอร์โดอันยังเจอกับ ‘ชื่อเสีย’ หลังประชาชนไม่ปลื้มการบริหารจัดการเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศ ทำให้หลายฝ่ายจับตาว่า เคมัล คิลิกดาโรกลู ผู้ท้าชิงตัวเต็ง ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มพันธมิตรพรรคการเมือง Nation Alliance ที่ประกอบด้วย 6 พรรคฝ่ายค้าน อาจสามารถคว้าชัยชนะและพลิกโฉมหน้าการเมืองตุรกีใหม่ ให้มีภาพลักษณ์ของความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นกว่าเดิม

แต่ในที่สุดผลการเลือกตั้งก็แสดงให้เห็นแล้วว่า แอร์โดอันอ่านเกมการเมืองได้เหนือกว่าบรรดาผู้สังเกตการณ์หรือเหล่านักวิเคราะห์ทั้งหลายที่เคยทำนายไว้ว่า พรรคฝ่ายค้านอาจแซะแอร์โดอันให้หลุดจากเก้าอี้ได้สำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้

ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการซึ่งดำเนินไปกว่า 99% ชี้ขาดแล้วว่า แอร์โดอันสามารถกวาดคะแนนเสียงข้างมากไปที่ 52.1% ขณะที่คิลิกดาโรกลูได้คะแนนไปที่ 47.9% แม้ตัวเลขจะห่างกันแค่ประมาณ 4% แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งส่วนใหญ่ยังคงเทคะแนนให้กับผู้นำที่มีวิสัยทัศน์เชิงเผด็จการตามมุมมองของโลกตะวันตก มากกว่าผู้สมัครที่เรียกตนเองว่าเป็น ‘นักประชาธิปไตย’

ระยะเวลาที่ผ่านมานั้น คิลิกดาโรกลูได้หาเสียงเลือกตั้งในฐานะนักประชาธิปไตยที่จะไม่อ่อนข้อให้กับการทุจริตคอร์รัปชัน และพร้อมเข้ามาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวที่จะพาตุรกีเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ แต่คำมั่นสัญญาที่สำคัญที่สุดของเขาคือ การส่งผู้ลี้ภัยทั้งหมดกลับบ้าน ซึ่งเรียกคะแนนสนับสนุนจากกลุ่มชาตินิยมไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ทว่ามันก็ยังไม่มากพอที่จะล้มคู่แข่งสุดหินอย่างแอร์โดอันได้ 

นั่นเป็นเพราะแอร์โดอันมีสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นกับฐานผู้สนับสนุนของเขาที่ติดตามกันมานานถึง 20 ปี โดยผู้ที่สนับสนุนแอร์โดอันส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอนุรักษนิยมและเคร่งศาสนาอิสลามเช่นเดียวกับเขา แม้แอร์โดอันจะเผชิญกับอุปสรรคหลายประการที่บั่นทอนชื่อเสียงบนถนนการเมือง รวมถึงเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเกือบ 44% ในปัจจุบัน แต่บรรดาผู้สนับสนุนก็ยังไม่ถอดใจ และให้โอกาสแอร์โดอันได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีต่อไปอีกอย่างน้อย 5 ปี

หลังจากที่ผลการเลือกตั้งรอบ 2 ประกาศออกมาชัดเจน ภาพถนนในกรุงอังการาก็คลาคล่ำไปด้วยบรรดาผู้สนับสนุนของแอร์โดอัน ที่ออกมาโบกธงชาติตุรกีกันอย่างละลานตา ระคนกับเสียงเชียร์และเสียงแตรรถดังสนั่นในเขตเมืองหลวง เพื่อร่วมอวยชัยให้กับผู้นำคนใหม่แต่หน้าเก่าผู้นี้

“เรารู้สึกดีใจกับความจริงที่ว่า ประธานาธิบดีของเราได้กลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง” ฮาติซ ดูแรน หญิงชาวตุรกีวัย 50 ปี กล่าว ใบหน้าของเธอถูกฉาบด้วยรอยยิ้มกว้างภายใต้ผ้าคลุมศีรษะตามหลักศาสนา 

“ไม่มีความรู้สึกอื่นใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แล้ว ให้โลกได้ยินเสียงนี้ เขาคือผู้นำที่ท้าทายโลกทั้งใบและสอนบทเรียนให้กับโลกทั้งโลก”

คำพูดของดูแรนสะท้อนให้เห็นว่า ในสายตาของผู้สนับสนุน แอร์โดอันคือผู้นำที่แข็งแกร่งประดุจสุลต่านผู้ไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้ใด

ในวันนี้ชัดเจนแล้วว่า อำนาจของแอร์โดอันได้ผงาดขึ้นอีกครั้ง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านเป็นฝ่ายแพ้ย่อยยับ ส่วนประเทศที่อาจจะแอบดีใจอยู่เงียบๆ ตอนนี้คือ ‘รัสเซีย’

นักวิเคราะห์มองว่า ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 พฤษภาคม) คือสิ่งที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ปรารถนา โดยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของตุรกีเผชิญกับวิกฤต รัสเซียได้เลื่อนการชำระเงินค่านำเข้าพลังงานมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับตุรกีเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งสื่อตะวันตกมองว่า เป็นการเปิดทางให้แอร์โดอันสามารถเดินหน้าแคมเปญหาเสียงของเขาต่อไปได้ ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ปูตินจะเป็นผู้นำโลกคนแรกๆ ที่ส่งสารแสดงความยินดีมายังแอร์โดอัน 

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและรัสเซียค่อนข้างเป็นไปในทิศทางบวก หลังตุรกีพยายามรักษาสมดุลในการแสดงจุดยืนต่างๆ ต่อความสัมพันธ์ที่มีทั้งต่อรัสเซียและยูเครน โดยถึงแม้ว่าตุรกีจะเป็นสมาชิก NATO รวมถึงส่งอาวุธและความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน แต่ในขณะเดียวกันตุรกีก็ปฏิเสธที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย 

สำนักข่าว BBC ตั้งข้อสังเกตว่า มูลค่าการค้าระหว่างตุรกีและรัสเซียปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่ที่สงครามยูเครน-รัสเซียได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022

ด้านโลกตะวันตก ที่ถึงแม้จะไม่พอใจกับท่าทีของตุรกีที่เอนเอียงไปหารัสเซีย รวมถึงสภาพของประชาชนที่ถูกจำกัดเสรีภาพทางการพูด และขาดภาพลักษณ์ของความเป็นชาติประชาธิปไตยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่ถึงเช่นนั้นตุรกีก็ถือเป็นชาติสำคัญที่โลกตะวันตกจะละทิ้งไม่ได้ เนื่องจากอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ตุรกีเป็นชาติสมาชิก NATO ที่มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจดำเนินนโยบายต่างๆ และถึงแอร์โดอันจะรักษาสัมพันธ์อันดีกับรัสเซีย แต่เขาก็ยังตัดสินใจส่งอาวุธช่วยยูเครน

ขณะเดียวกันตุรกียังเป็นชาติที่มีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยให้รัสเซียและยูเครนร่วมลงนามในข้อตกลง ที่ปลดล็อกให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชผ่านเส้นทางทะเลดำได้ตามปกติ ในช่วงเวลาที่โลกเคยหวาดหวั่นว่าสงครามที่เกิดขึ้นจะทำให้ราคาธัญญาหารถีบตัวสูงขึ้นไปกว่าเดิม นอกจากนี้แอร์โดอันยังไฟเขียวเปิดทางให้ฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ด้วย ซึ่งทางฝั่งของทำเนียบขาวเองก็พยายามโน้มน้าวให้แอร์โดอันอนุมัติให้สวีเดนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ NATO ด้วยเช่นกัน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การได้รับชัยชนะของแอร์โดอันไม่ใช่เหตุบังเอิญ เนื่องจากเขาลงสนามสู้ศึกด้วยข้อได้เปรียบมากมาย ทั้งการลงถนนหาเสียงที่ชาญฉลาด ท่าทางที่เป็นมิตรเข้าถึงง่าย อีกทั้งยังมีอำนาจควบคุมสื่อมากถึง 90% ของประเทศ

ในคำปราศรัยแห่งชัยชนะของเขา เขายืนยันว่า “ชาวตุรกีทั้ง 85 ล้านคนคือผู้ชนะที่แท้จริง” แต่ถึงเช่นนั้นเขาก็ได้ใช้เวทีดังกล่าวในการโจมตีฝ่ายต่อต้านและชุมชน LGBTQIA+ โดยประณามว่า นโยบายสนับสนุนความหลากหลายทางเพศของฝ่ายค้านเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับแนวคิดของพรรคเขาในเรื่องสถาบันครอบครัว

สื่อตะวันตกมองว่า นับจากนี้ไปจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทั้งพรรคฝ่ายค้านและชุมชนผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึงสิทธิด้านมนุษยชนและเสรีภาพทางการพูดที่อาจถูกกัดกร่อนต่อไปในช่วงหลายปีข้างหน้า เพราะดูจากระบบการเมืองแล้ว การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจผู้นำตุรกีมีค่อนข้างต่ำ และจากท่าทีที่ผ่านมานั้น แอร์โดอันก็แสดงออกอยู่บ่อยครั้งว่าเขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงมากนัก 

นั่นทำให้ในช่วงเวลานี้ผู้ที่กาบัตรลงคะแนนเสียงให้คิลิกดาโรกลูทั้ง 48% อาจกำลังรู้สึกเสียใจหรือไม่ก็อาจรู้สึกหวาดกลัวอยู่ก็เป็นได้ โดยนักวิเคราะห์หลายคนประเมินว่า อนาคตของตุรกีหลังจากนี้จะมีความเคร่งศาสนามากขึ้น สวนทางกับเสรีภาพทางการแสดงออกในชีวิตประจำวันที่ลดน้อยลงไปกว่าเดิม

กลับมาดูกันที่ปัญหาในประเทศจะเห็นว่าตอนนี้ตุรกีอยู่ในภาวะที่มีความแตกแยกสูง ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจที่ยังแก้ไม่ตก ทั้งเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นจนทำให้ราคาอาหารและสินค้าต่างๆ พุ่งสูงขึ้น จนประชาชนแบกรับค่าครองชีพไม่ไหว ขณะที่ค่าเงินลีรายังลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งต้องจับตากันต่อไปว่าแอร์โดอันจะงัดมาตรการใดมาใช้บ้าง เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวและพาตุรกีเดินหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสกว่าเดิม

ภาพ: Chris McGrath / Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-europe-65743031
• https://www.bbc.com/news/world-europe-65743021
• https://en.prothomalo.com/international/europe/jus571fpmp
• https://www.bbc.com/news/uk-politics-65743475

The post จับตาอนาคตตุรกี หลังแอร์โดอันคว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัย เตรียมครองอำนาจต่อในทศวรรษที่ 3 appeared first on THE STANDARD.

ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน วัย 69 ปี คว้าชัยในศึกเลือกตั้งตุรกีรอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นวานนี้ (28 พฤษภาคม) ต่ออายุให้เขาได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีต่ออีก 5 ปี หลังครองอำนาจในเกมการเมืองของตุรกีมานานถึง 2 ทศวรรษ

ผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการออกมาว่า แอร์โดอันกวาดคะแนนไปที่ 52.1% ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญอย่าง เคมัล คิลิกดาโรกลู จากกลุ่มพันธมิตร Nation Alliance และหัวหน้าพรรค CHP ได้คะแนนไปที่ 47.9%

ในช่วงค่ำคืนวานนี้ แอร์โดอันกล่าวปราศรัยต่อบรรดาผู้สนับสนุนที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองชัยชนะของเขาในกรุงอังการา ว่า “ประชาชนทั้งประเทศจำนวน 85 ล้านคนคือผู้ชนะที่แท้จริง” พร้อมให้คำมั่นว่าเขาจะทิ้งความขัดแย้งทั้งหมดไว้เบื้องหลัง และจะสร้างความสามัคคีภายใต้ค่านิยมและความฝันของชาติ 

แต่หลังจากนั้น ผู้นำตุรกีก็เปลี่ยนเกียร์มากล่าวโจมตีฝ่ายค้าน อีกทั้งยังกล่าวหาด้วยว่า คิลิกดาโรกลูอยู่ข้างผู้ก่อการร้าย แม้จะไม่มีการแสดงหลักฐานใดๆ ก็ตาม

แอร์โดอันกล่าวว่า การปล่อยตัว เซลาฮัตติน เดเมียร์ตาส อดีตผู้นำพรรคที่สนับสนุนชาวเคิร์ด ซึ่งเขาตราหน้าว่าเป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’ จะไม่เกิดขึ้นภายใต้การนำประเทศของเขา นอกจากนี้ แอร์โดอันยังกล่าวด้วยว่า ภาวะเงินเฟ้อคือปัญหาที่เร่งด่วนของตุรกี ซึ่งจะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด

ด้านคิลิกดาโรกลูกล่าวว่า “นี่คือการเลือกตั้งที่ไร้ความยุติธรรมมากที่สุดในรอบหลายปี” แต่ถึงเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้กล่าวโต้แย้งผลคะแนนที่ออกมา

การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นที่จับตาอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านคาดหวังว่าพวกเขาจะมีโอกาสทำให้แอร์โดอันหลุดจากเก้าอี้ประธานาธิบดี และปรับนโยบายของประเทศเสียใหม่ หลังจากที่ความนิยมของแอร์โดอันเริ่มลดน้อยถอยลงเนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพที่สูงลิ่ว บวกกับความล้มเหลวในการบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนเมื่อครั้งเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศ

อนึ่ง การพ่ายแพ้ของคิลิกดาโรกลูนั้นอาจทำให้ชาติพันธมิตร NATO ต้องผิดหวังด้วยเช่นกัน หลังจากช่วงที่ผ่านมา แอร์โดอันได้กระชับความสัมพันธ์อันดีกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งได้ร่วมแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งล่าสุดของแอร์โดอันด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ว่า “ผมตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกันต่อไปในฐานะพันธมิตรของ NATO ทั้งในประเด็นระดับทวิภาคีและความท้าทายระดับโลก”

ภาพ: Chris McGrath / Getty Images

อ้างอิง:

• www.reuters.com/world/middle-east/erdogan-positioned-extend-rule-turkey-runoff-election-2023-05-27/
• www.bbc.com/news/world-europe-65743031

The post แอร์โดอัน คว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกีอีกสมัย ต่ออายุอำนาจทะลุ 20 ปี appeared first on THE STANDARD.

เดินทางมาถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกี รอบที่ 2 ในวันนี้ (28 พฤษภาคม) ถือเป็นโค้งสุดท้ายที่ประชาชนชาวตุรกีจะร่วมกันตัดสินอนาคตประเทศในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ หลังประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ครองอำนาจนำในเกมการเมืองระดับชาติของประเทศนี้มานานถึง 20 ปี

การเลือกตั้งในรอบแรกเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิมากถึง 87.04% โดยแอร์โดอันจากพรรค AK ได้รับคะแนนเสียงนำมาเป็นอันดับที่ 1 (49.52%) ขณะที่ผู้ท้าชิงคนสำคัญอย่าง เคมัล คิลิกดาโรกลู จากกลุ่มพันธมิตร Nation Alliance และหัวหน้าพรรค CHP ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนอยู่ที่ 44.88% เนื่องจากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 50% ทำให้ต้องเลือกตั้งกันต่อในรอบที่ 2

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกีในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร แอร์โดอันที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการช่วยภัยพิบัติเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จะยังคงรักษาเก้าอี้ผู้นำประเทศไว้ได้หรือไม่ หรือผู้ท้าชิงอย่างคิลิกดาโรกลูจะพลิกขึ้นมาคว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ และเปลี่ยนแปลงตุรกีไปในทิศทางใหม่ ต้องติดตาม

ภาพ: Ozan Guzelce / dia images via Getty Images

ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน จากพรรค AK 

ภาพ: Jeff J Mitchell / Getty Images

เคมัล คิลิกดาโรกลู จากกลุ่มพันธมิตร Nation Alliance และหัวหน้าพรรค CHP

ภาพ: Yavuz Ozden / dia images via Getty Images

ภาพ: Mehmet Masum Suer / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

ภาพ: Mehmet Masum Suer / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

ภาพ: Tunahan Turhan / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-europe-65732194 
• https://www.theguardian.com/world/2023/may/15/turkey-election-2023-results-live-election-result-polls-what-we-know-so-far 
• https://www.aljazeera.com/news/liveblog/2023/5/27/turkey-election-2023-live-news-erdogan-or-kilicdaroglu 

The post เลือกตั้งตุรกีคึกคัก ตัดสินอนาคตประเทศ หลังแอร์โดอันครองอำนาจนำ 20 ปี appeared first on THE STANDARD.

นอกเหนือจากไทยที่มีการเลือกตั้งอย่างดุเดือดเมื่อวานนี้ (14 พฤษภาคม) ในอีกซีกโลกหนึ่ง ตุรกีก็ได้เปิดคูหาเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยเช่นเดียวกัน แต่ผลออกมาปรากฏว่าไม่มีผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดได้คะแนนเสียงมากกว่า 50% ทำให้ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกจะต้องไปเผชิญหน้ากันอีกครั้งในศึกลงคะแนนเสียงรอบ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม หรืออีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า

สำหรับผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งวานนี้ ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน เป็นผู้ที่มีคะแนนนำสูงสุด และกวาดคะแนนไปได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางช่วงเวลาที่เขาเล็งจะครองอำนาจในตุรกีให้ยาวนานต่อไปทะลุ 20 ปี แต่ถึงเช่นนั้นก็ยังไม่ได้คะแนนถึงเกณฑ์ที่จะชนะขาด 

รายงานจากสำนักข่าว Anadolu ของตุรกี ระบุว่า ขณะนี้การนับคะแนนดำเนินไปแล้วเกือบ 97% ซึ่งผลคะแนนเบื้องต้นออกมาว่า แอร์โดอันนำอยู่ที่ 49.39% ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญอย่าง เคมัล คิลิกดาโรกลู ผู้ลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในฐานะตัวแทนกลุ่มพันธมิตร Nation Alliance ที่ประกอบด้วย 6 พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคกลางซ้าย CHP ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าพรรค มีคะแนนเสียงอยู่ที่ 44.92%

สื่อต่างประเทศมองว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกีในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงศึกที่ตัดสินว่าใครจะได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศที่มีประชาชนกว่า 85 ล้านคนเท่านั้น แต่ยังเป็นการแข่งขันที่จะชี้ชะตาด้วยว่า ตุรกีจะได้กลับสู่เส้นทางที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นหรือไม่ รวมถึงตุรกีจะจัดการกับวิกฤตค่าครองชีพที่ทะยานสูงขึ้นอย่างไร และจะจัดการกับความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างรัสเซีย ตะวันออกกลาง และชาติตะวันตกได้อย่างไร

ด้านคิลิกดาโรกลูที่ประกาศว่าตนเองพร้อมสู้ศึกลงคะแนนรอบ 2 ได้ขอให้ผู้สนับสนุนของเขาใช้ความอดทน และกล่าวหาว่าพรรคของแอร์โดอันแทรกแซงการนับคะแนนเสียงและการรายงานผล

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ออกมาถือว่าแอร์โดอันทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้ โดยในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ เขามาด้วยสีหน้าอารมณ์ที่มั่นใจและพร้อมต่อสู้ ท่ามกลางกองเชียร์ที่โบกธงและส่งเสียงเชียร์ดังก้องอยู่ตลอดเวลา โดยเขากล่าวว่า “ตอนนี้เรามีคะแนนนำคู่แข่งอยู่แล้วที่ 2.6 ล้านคะแนนเสียง เราคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ”

ทั้งนี้ แอร์โดอัน วัย 69 ปี เป็นนักปราศรัยที่ทรงพลัง เขาได้รับความไว้วางใจจากชาวเติร์กผู้เคร่งศาสนา อาชีพการเมืองของเขารอดพ้นจากการพยายามทำรัฐประหารในปี 2016 และเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตมากมาย อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของแอร์โดอันลดลงเรื่อยๆ ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ และการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 85% ในเดือนตุลาคม 2022 ขณะที่สกุลเงินลีราล่มสลาย

ด้าน คิลิกดาโรกลู อดีตข้าราชการพลเรือนวัย 74 ปี ให้คำมั่นว่าหากได้รับชัยชนะเขาจะกลับไปใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม (Economic Orthodoxy) พร้อมนำพาประเทศกลับสู่ระบบการปกครองแบบรัฐสภาจากระบบประธานาธิบดีของแอร์โดอัน ซึ่งผ่านการทำประชามติในปี 2017 นอกจากนี้ คิลิกดาโรกลูยังสัญญาว่าจะคืนความเป็นอิสระของตุลาการที่นักวิจารณ์กล่าวว่าแอร์โดอันใช้ในการปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่าง อย่างไรก็ดี หากคิลิกดาโรกลูชนะการเลือกตั้ง เขาจะเผชิญกับความท้าทายในการรวมพันธมิตรฝ่ายค้านที่มีทั้งพวกชาตินิยม อิสลามิสต์ โลกิยนิยม และเสรีนิยม 

ภาพ: Yavuz Ozden / dia images via Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.reuters.com/world/middle-east/turkey-votes-pivotal-elections-that-could-end-erdogans-20-year-rule-2023-05-13/

The post ตุรกีเตรียมลงคะแนนรอบ 2 หลังไม่มีผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดได้เสียงเกิน 50% ในการเลือกตั้งวานนี้ appeared first on THE STANDARD.

ชาวตุรกีเตรียมออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในวันอาทิตย์นี้ (14 พฤษภาคม) ในการเลือกตั้งที่ถูกจับตาว่าสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ 100 ปีของตุรกีสมัยใหม่ เนื่องจากจะเป็นการชี้ชะตาประเทศว่าจะยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ต่อไป หรือจะเป็นการยุติเส้นทางเผด็จการยาวนาน 20 ปีของเขา ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจและสังคมรุมเร้า เงินเฟ้อ ค่าครองชีพพุ่งสูง

ผลการสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักให้ เคมัล คิลิกดาโรกลู ผู้ท้าชิงหลักของแอร์โดอันนำอยู่เล็กน้อย โดยคิลิกดาโรกลูลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในฐานะตัวแทนกลุ่มพันธมิตร Nation Alliance ที่ประกอบด้วย 6 พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคกลางซ้าย CHP ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าพรรค

การเลือกตั้งในวันนี้มีขึ้น 3 เดือนหลังจากที่ตุรกีประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 50,000 คน อย่างไรก็ดี แม้ผู้ประสบภัยจำนวนมากแสดงความไม่พอใจรัฐบาลที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยดังกล่าวล่าช้า แต่เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจหย่อนบัตรของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวันนี้

นอกจากเลือกผู้นำคนใหม่แล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกรัฐสภาชุดใหม่ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่ขับเคี่ยวสูสีระหว่างกลุ่มพันธมิตร People’s Alliance ซึ่งประกอบด้วยพรรค AKP ที่มีรากฐานมาจากกลุ่มอิสลามิสต์อนุรักษนิยมของแอร์โดอัน ร่วมด้วยพรรคชาตินิยม MHP และพรรคอื่นๆ กับกลุ่มพันธมิตร Nation Alliance ของคิลิกดาโรกลู ซึ่งประกอบด้วยพรรคฝ่ายค้าน 6 พรรค รวมถึงพรรค CHP ซึ่งก่อตั้งโดย มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี

ทั้งนี้ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต้องได้คะแนนเสียงมากกว่า 50% ของทั้งหมดจึงจะชนะ แต่หากไม่มีใครได้คะแนนถึง 50% ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกจะได้ไปเผชิญหน้ากันในการลงคะแนนรอบ 2 ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้

คูหาเลือกตั้งจะเปิดในเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น. ตามเวลาไทย) และปิดเวลา 17.00 น. (21.00 น. ตามเวลาไทย) ซึ่งกฎหมายเลือกตั้งของตุรกีห้ามรายงานผลจนกว่าจะถึงเวลา 21.00 น. ดังนั้นคาดว่าในช่วงค่ำของวันอาทิตย์จึงจะพอทราบว่าจะต้องมีการเลือกตั้งรอบ 2 ในอีก 2 สัปดาห์หรือไม่

นักวิเคราะห์มองว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวเคิร์ด ซึ่งคิดเป็น 15-20% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด จะมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้พรรค HDP ซึ่งสนับสนุนเคิร์ด ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายค้าน แต่พรรค HDP ต่อต้านแอร์โดอันสืบเนื่องมาจากรัฐบาลของเขาเดินหน้าปราบปรามสมาชิกพรรคในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และออกมาประกาศสนับสนุนคิลิกดาโรกลูในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

แอร์โดอัน วัย 69 ปี เป็นนักปราศรัยที่ทรงพลัง เขาได้รับความไว้วางใจจากชาวเติร์กผู้เคร่งศาสนา อาชีพการเมืองของเขารอดพ้นจากการพยายามทำรัฐประหารในปี 2016 และเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตมากมาย อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของแอร์โดอันลดลงเรื่อยๆ ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ และการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 85% ในเดือนตุลาคม 2022 ขณะที่สกุลเงินลีราล่มสลาย

ด้าน คิลิกดาโรกลู อดีตข้าราชการพลเรือนวัย 74 ปี ให้คำมั่นว่าหากได้รับชัยชนะ เขาจะกลับไปใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม (Economic Orthodoxy) พร้อมนำพาประเทศกลับสู่ระบบการปกครองแบบรัฐสภา จากระบบประธานาธิบดีของแอร์โดอัน ซึ่งผ่านการทำประชามติในปี 2017 นอกจากนี้ คิลิกดาโรกลูยังสัญญาว่าจะคืนความเป็นอิสระของตุลาการที่นักวิจารณ์กล่าวว่าแอร์โดอันใช้ในการปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่าง อย่างไรก็ดี หากคิลิกดาโรกลูชนะการเลือกตั้ง เขาจะเผชิญกับความท้าทายในการรวมพันธมิตรฝ่ายค้านที่มีทั้งพวกชาตินิยม อิสลามิสต์ โลกิยนิยม และเสรีนิยม 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

• www.reuters.com/world/middle-east/turkey-votes-pivotal-elections-that-could-end-erdogans-20-year-rule-2023-05-13/ 

The post ตุรกีเปิดคูหาเลือกตั้งวันนี้ ชี้ชะตาแอร์โดอัน ‘หยุด’ หรือ ‘ไปต่อ’ หลังครองอำนาจยาวนาน 2 ทศวรรษ appeared first on THE STANDARD.

เคมัล คิลิกดาโรกลู (Kemal Kilicdaroglu) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีตุรกีจากพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นตัวเต็งและคู่แข่งหลักของประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ (14 พฤษภาคม) กล่าวหารัสเซียว่าทำการแทรกแซงการเลือกตั้งภายในประเทศ ก่อนที่จะมีการลงคะแนน

โดยคิลิกดาโรกลู ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน CHP ระบุว่ามีแฮกเกอร์ต่างชาติที่ได้รับการว่าจ้างจากคู่แข่งของเขา กำลังเตรียมใช้ Deepfake ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสร้างสื่อสังเคราะห์เพื่อปลอมแปลงลักษณะบุคคล ในการสร้างคลิปวิดีโอและเสียงปลอม เพื่อมุ่งทำลายชื่อเสียงของฝ่ายค้านก่อนการเลือกตั้ง

“เพื่อนชาวรัสเซียที่รัก คุณอยู่เบื้องหลังการตัดต่อ การสมรู้ร่วมคิด เนื้อหาปลอมจาก Deepfake และเทปที่ถูกเปิดโปงในประเทศนี้” เขากล่าว

ขณะที่เมื่อวานนี้ (12 พฤษภาคม) คิลิกดาโรกลูเปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ยืนยันว่าพรรคของเขามีหลักฐานที่แสดงถึงความรับผิดชอบของรัสเซียในการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ที่ถูกปลอมแปลงด้วย Deepfake

นอกจากนี้เขายังทวีตข้อความเตือนเป็นภาษาตุรกีและรัสเซียว่า “ถ้าหากคุณต้องการมิตรภาพของเราหลังวันที่ 15 พฤษภาคม ให้หยุดยุ่งกับตุรกีเสีย” 

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อกล่าวหาดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก มูฮาร์เรม อินซ์ (Muharrem İnce) หนึ่งในผู้สมัครชิงประธานาธิบดีจากพรรคโฮมแลนด์ (Homeland Party) ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขัน หลังจากตกเป็นเป้าหมายของการให้ร้ายและบิดเบือนทางออนไลน์

ทางด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน ได้แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือแทรกแซงในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของตุรกี

“เราปฏิเสธถ้อยแถลงดังกล่าวอย่างยิ่ง เราประกาศอย่างเป็นทางการว่าไม่มีการพูดคุยถึงการแทรกแซงใดๆ หากมีใครให้ข้อมูลดังกล่าวแก่คิลิกดาโรกลู พวกเขาคือคนโกหก” เปสคอฟกล่าว พร้อมทั้งเสริมว่ารัสเซียนั้นให้ความสำคัญอย่างมากกับรัฐบาลตุรกี

“ตุรกีมีความรับผิดชอบสูง มีอำนาจอธิปไตย และมีจุดยืนอย่างรอบรู้ เกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลกทั้งหมดที่เราเผชิญ”

ที่ผ่านมา รัสเซียและตุรกียังคงรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นท่ามกลางสถานการณ์สงครามที่รัสเซียบุกยูเครน โดยแอร์โดอันทำหน้าที่เป็นตัวกลางหลายครั้งในการพูดคุยทั้งกับมอสโกและเคียฟ

ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาตุรกีที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ

โดยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนล่าสุด ชี้ว่าคิลิกดาโรกลูมีคะแนนนิยมนำเป็นอันดับ 1 ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นไปได้ที่เขาอาจโค่นเก้าอี้ของแอร์โดอัน ที่อยู่ในอำนาจผู้นำ ทั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีมายาวนานถึง 20 ปี

ภาพ:  Burak Kara / Getty Images

อ้างอิง:

• www.aljazeera.com/news/2023/5/12/turkeys-kilicdaroglu-accuses-russia-of-interfering-in-elections

The post ตัวเต็งผู้สมัครชิงประธานาธิบดีตุรกี กล่าวหารัสเซียใช้ Deepfake ทำคลิปปลอมแทรกแซงการเลือกตั้ง appeared first on THE STANDARD.

พรรคร่วมฝ่ายค้านตุรกีทั้ง 6 พรรคผนึกกำลังส่ง เคมัล คิลิกดาโรกลู ผู้นำพรรคฝ่ายค้านคนปัจจุบัน เจ้าของฉายา ‘คานธี เคมัล’ วัย 74 ปี จากพรรค CHP ท้าชิงตำแหน่งผู้นำตุรกีกับ เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกีคนปัจจุบัน จากพรรค AKP ผู้มีบทบาทสำคัญในแวดวงการเมืองตุรกีมานานเกือบ 20 ปี ในศึกเลือกตั้งใหญ่ช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ 

โดยคิลิกดาโรกลูเสนอวิสัยทัศน์และแนวนโยบายที่แตกต่างจากแอร์โดอันอย่างสิ้นเชิง พร้อมให้คำมั่นกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า เขาจะปกครองตุรกีผ่านฉันทามติและการปรึกษาหารือระหว่างกัน อีกทั้งยังจะปรับเปลี่ยนให้ตุรกีกลับมาใช้ระบบรัฐสภาอีกครั้ง หลังจากที่แอร์โดอันพยายามเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบประธานาธิบดีที่เพิ่มอำนาจให้กับตนเองอย่างกว้างขวางเมื่อราว 5 ปีก่อน

นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งมองว่า หากคิลิกดาโรกลูชนะการเลือกตั้ง ตุรกีภายใต้การปกครองของเขาจะมีแนวทางที่นุ่มนวลกว่า และเป็นมิตรกับบรรดาชาติตะวันตกมากกว่า เนื่องจากคิลิกดาโรกลูมองว่าตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป ซึ่งต่างแชร์ค่านิยมบางอย่างร่วมกัน และอาจยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับชาติตะวันตก รวมถึงสหภาพยุโรปแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น 

การประกาศตัวท้าชนกับแอร์โดอันมีขึ้นหลังจากที่ผู้นำตุรกีคนปัจจุบันกำลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมถึงผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 5 หมื่นราย โดยคิลิกดาโรกลูเดินหน้าโจมตีรัฐบาลตุรกีอย่างหนัก พร้อมชี้ว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันกับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันและการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตุรกีอาจจัดการเลือกตั้งครั้งสำคัญนี้ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนเกิน 50% ในการเลือกตั้งรอบแรก จะมีการจัดการเลือกตั้งรอบที่ 2 เพื่อหาผู้ชนะที่จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตุรกีอีกครั้ง

ภาพ: Adem Altan / AFP

อ้างอิง:

• https://edition.cnn.com/2023/03/08/middleeast/turkey-presidential-candidate-erdogan-mime-intl/index.html 
• https://www.bbc.com/news/world-europe-64867467 
• https://www.dw.com/en/who-is-erdogan-challenger-kemal-kilicdaroglu/a-64910166 

The post พรรคฝ่ายค้านตุรกีผนึกกำลัง ส่ง ‘คานธี เคมัล’ ท้าชิงแอร์โดอัน ศึกเลือกตั้งใหญ่ พ.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

ไตยิป แอร์โดอัน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกีอีกสมัย หลังผลการนับคะแนนซึ่งผ่านพ้นไป 99% บ่งชี้ว่าแอร์โดอันมีคะแนนนำโด่งที่ 53% ทิ้งห่างคู่แข่งสำคัญอย่างมูฮาร์เรม อินเจ ที่ได้เพียง 31%

ซาดิ กูเวน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของตุรกี เปิดเผยว่าแอร์โดอันสามารถกวาดคะแนนเสียงข้างมากได้ แต่ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันศุกร์ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านยังไม่ได้ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ แต่ระบุว่าแม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปใด พวกเขาก็จะต่อสู้ตามกระบวนการประชาธิปไตยต่อไป

ด้านแอร์โดอันซึ่งครองอำนาจบริหารประเทศมายาวนาน 15 ปี ได้ประกาศชัยชนะแม้ว่า กกต. จะยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก็ตาม นอกจากนี้เขายังเผยว่าพรรค Justice and Development Party (AKP) ของเขา และพรรคแนวร่วมรัฐบาลอย่าง Nationalist Movement Party (MHP) ต่างก็สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาตุรกีได้เช่นกัน

เมื่อปี 2016 แอร์โดอันเคยถูกกองทัพพยายามโค่นล้มอำนาจด้วยการรัฐประหาร แต่ก็ไม่สำเร็จ ส่งผลให้ทหารที่เกี่ยวข้องจำนวน 104 นายถูกจำคุกตลอดชีวิต และเมื่อปีที่แล้วเขาได้รับชัยชนะในประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกเลิกระบบรัฐสภาและแทนที่ด้วยระบบประธานาธิบดี ซึ่งจะทำให้แอร์โดอันมีอำนาจเด็ดขาดมากขึ้นและสามารถครองอำนาจได้ยาวนานขึ้น

อ้างอิง:

• edition.cnn.com/2018/06/24/europe/turkish-election-results-intl/index.html
• www.bbc.com/news/world-europe-44596072

The post แอร์โดอัน ประกาศคว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกี appeared first on THE STANDARD.