เงินสด – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 05 Dec 2025 08:14:01 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Nvidia เผชิญปัญหาเงินสดล้นมือ ล่าสุดพุ่งแตะ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ https://thestandard.co/nvidia-cash-too-much/ Fri, 05 Dec 2025 08:14:01 +0000 https://thestandard.co/?p=1151703 Nvidia เผชิญปัญหาเงินสดล้นมือ ล่าสุดพุ่งแตะ 6 หมื่นล้านดอลลาร์

Nvidia Corp. กำลังเผชิญกับปัญหามีเงินสดมากเกินไป โดยล่า […]

The post Nvidia เผชิญปัญหาเงินสดล้นมือ ล่าสุดพุ่งแตะ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Nvidia เผชิญปัญหาเงินสดล้นมือ ล่าสุดพุ่งแตะ 6 หมื่นล้านดอลลาร์

Nvidia Corp. กำลังเผชิญกับปัญหามีเงินสดมากเกินไป โดยล่าสุดบริษัทมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นในมือสูงถึง 6.06 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่ ChatGPT เพิ่งเปิดตัวและจุดชนวนกระแส AI

 

ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้ Nvidia กลายเป็นป้อมปราการทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งใน Wall Street และนำมาสู่คำถามสำคัญจากนักลงทุนว่า “Nvidia จะเอาเงินไปทำอะไร?”

 

เดินหน้าประกาศดีลเสริมระบบนิเวศ

 

ในปีนี้ Nvidia ได้ประกาศดีลการลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่ามหาศาลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือการประกาศเข้าถือหุ้น 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys บริษัทออกแบบชิปชั้นนำ และก่อนหน้านี้ได้ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน Nokia, 5 พันล้านดอลลาร์ใน Intel และ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ใน Anthropic รวมมูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์

 

และที่น่าจับตามองที่สุดคือแผนการลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้น OpenAI ซึ่งแม้จะยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน แต่ก็สะท้อนถึงความทะเยอทะยานในการผูกมัดพันธมิตร AI รายใหญ่ที่สุดของโลกไว้กับตัวเอง

 

เจนเซน หวง CEO ของ Nvidia ย้ำว่าการลงทุนเหล่านี้คือ “งานที่สำคัญจริงๆ” เพราะหากพันธมิตรอย่าง OpenAI เติบโต ก็จะยิ่งกระตุ้นการใช้ชิปของ Nvidia มากขึ้น “การลงทุนทั้งหมดที่เราทำมา เกี่ยวข้องกับการขยายการเข้าถึงของ CUDA และขยายระบบนิเวศ (Ecosystem) ทั้งสิ้น”

 

ซื้อหุ้นคืน อีกหนึ่งแนวทางบริหารเงิน

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Nvidia จะสร้างกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ได้ถึง 9.685 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ 5.76 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 3 ปีข้างหน้า ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้บริษัทนำเงินไปซื้อหุ้นคืนมากขึ้น

 

หวงยืนยันว่าจะยังคงซื้อหุ้นคืนต่อไป โดยคณะกรรมการบริษัทเพิ่งอนุมัติวงเงินซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีก 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม แต่เขาก็ย้ำว่าความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและซัพพลายเออร์ว่า Nvidia จะสามารถส่งมอบสินค้าได้ตามสัญญา และมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะรองรับการขยายกำลังการผลิต

 

แม้จะมีเงินสดล้นมือ แต่การเข้าซื้อกิจการ (M&A) ขนาดใหญ่กลับเป็นเรื่องยากสำหรับ Nvidia เนื่องจากอุปสรรคด้านกฎระเบียบ หลังจากที่เคยล้มเหลวในดีลซื้อ Arm มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปี 2563

 

โคเล็ตต์ เครส CFO ของ Nvidia ยอมรับในงานประชุมนักลงทุนเมื่อสัปดาห์นี้ว่า “มันยากที่จะนึกถึง M&A ประเภทที่มีนัยสำคัญและขนาดใหญ่” พร้อมหวังว่าจะมีสักดีลที่ทำได้ แต่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ดังนั้น กลยุทธ์การใช้เงินของ Nvidia ในขณะนี้ จึงมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในบริษัทเอกชนเพื่อทดแทนการซื้อกิจการ โดยในเดือนตุลาคม บริษัทเปิดเผยว่าได้ลงทุนไปแล้วกว่า 8.2 พันล้านดอลลาร์ ในบริษัทเหล่านั้น เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตรและรักษาความเป็นผู้นำในยุค AI

 

อ้างอิง:

The post Nvidia เผชิญปัญหาเงินสดล้นมือ ล่าสุดพุ่งแตะ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไขคำตอบ ทำไมน้ำท่วมหาดใหญ่กระทบเศรษฐกิจไทยรุนแรง GDP วูบเหลือ 1.9% แม้เสียหายเป็นรองปี 54 https://thestandard.co/hatyai-flood-gdp-crash-1-9/ Tue, 02 Dec 2025 10:11:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1150692 ไขคำตอบ ทำไมน้ำท่วม หาดใหญ่ กระทบ เศรษฐกิจไทย รุนแรง GDP วูบเหลือ 1.9% แม้เสียหายเป็นรอง ปี 54

หอการค้าไทย เผย น้ำท่วมภาคใต้ เสียหายหนัก 40,000 ล้านบา […]

The post ไขคำตอบ ทำไมน้ำท่วมหาดใหญ่กระทบเศรษฐกิจไทยรุนแรง GDP วูบเหลือ 1.9% แม้เสียหายเป็นรองปี 54 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไขคำตอบ ทำไมน้ำท่วม หาดใหญ่ กระทบ เศรษฐกิจไทย รุนแรง GDP วูบเหลือ 1.9% แม้เสียหายเป็นรอง ปี 54

หอการค้าไทย เผย น้ำท่วมภาคใต้ เสียหายหนัก 40,000 ล้านบาท ในเดือนเดียว เป็นรองแค่น้ำท่วมปี 54 ชี้ภาคท่องเที่ยวและบริการหนักสุด ฉุด GDP ไทยเหลือ 1.9%

 

วันที่ 2 ธ.ค. ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกและน้ำท่วมในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้

 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังประเมิน ส่งผลให้เกิดความเสียหาย 500,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าเปรียบเทียบ กับมหาอุทกภัยในปี 2554 ที่มีมูลค่าความเสียหายราว 1.4 ล้านล้านบาท กรณีนี้จึงถือเป็นอุทกภัยที่มีความเสียหายรุนแรงเป็นอันดับที่ 2 ของไทย

 

ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินเบื้องต้นในกรอบระยะเวลา 1 เดือน ผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ 10 จังหวัด มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 2.19 ล้านคน หรือราว 798,600 ครัวเรือน

 

โดยจังหวัดสงขลา ได้รับผลกระทบสูงสุด คิดเป็น 60% ของความเสียหายทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตามด้วยพัทลุง

 

โดยระยะเวลา 1 เดือน ประเมินว่าจะมีความเสียหายประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาทต่อวัน ในช่วงสถานการณ์รุนแรง หรือรวมกว่า 40,000 ล้านบาท คิดเป็นความเสียหาย 0.22% ต่อ GDP ซึ่งความเสียหายประมาณจากระบบเศรษฐกิจที่เป็นอัมพาต

 

ทำไมเศรษฐกิจกระทบหนัก ธุรกิจท้องถิ่นเข้าขั้นโคม่า แม้เสียหายเป็นรอง ปี 54

 

ธนวรรธน์ ระบุว่า ภาคท่องเที่ยวและบริการมีมูลค่าความเสียหายมากที่สุด สูงถึง 22,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของภาคการท่องเที่ยว และจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวภาคใต้ หาดใหญ่จำนวนมากในช่วง พ.ย.-ม.ค. ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหารและโรงแรมต้องปิดกิจการชั่วคราว ธุรกิจท้องถิ่นเข้าขั้นโคม่า

 

“โดยเฉพาะการยกเลิกซีเกมส์ที่สงขลา เป็นหนึ่งในจังหวัดเจ้าภาพ ย้ายการแข่งขัน 10 ชนิดกีฬา 109 เหรียญทองไปที่กรุงเทพทั้งหมด สูญเสียโอกาสการตลาด การใช้จ่ายนักเที่ยว 5,000 คน ทำลายความเชื่อมั่นนานาชาติ และโอกาสทางเศรษฐกิจ รองลงมาคือ ภาคเกษตรกรรม ราว 10,000 ล้านบาท และภาคการผลิตและสาธารณูปโภค อีกประมาณ 6,840 ล้านบาท”

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

นอกจากนี้ จากการสำรวจผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ระบุว่า อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูมากกว่า 1 เดือน เนื่องจากทรัพย์สินและสต็อกสินค้าเสียหาย ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เสียหาย

 

โดยสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐเร่งด่วนที่สุด คือ “เงินสด” ไม่ใช่ “หนี้สิน” มองว่ารัฐบาลควรอัดฉีดเงินเยียวยาโดยตรงหรือเงินชดเชย เพื่อให้ถึงมือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด

 

ขณะที่มาตรการ “สินเชื่อ” ควรเป็นทางเลือกเสริมไม่ใช่มาตรการหลัก นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาล เร่งซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน และจัดหน่วยปฏิบัติการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาพร้อมใช้งานโดยเร็ว

 

ปรับลด GDP ไทยปี 2568 เหลือ 1.9%

 

ทั้งนี้ หอการค้าไทย ยังได้ปรับประมาณการ GDP ไทยปี 2568 ลดลงมาอยู่ที่ 1.9% จาก 2% ซึ่งส่งออกโต 11.1% และการลงทุนของภาครัฐ 6.4% แต่ถูกฉุดรั้งด้วยการอุปโภคภาครัฐที่หดตัวแรงในไตรมาสที่ 3 และผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ช่วงปลายปี

 

โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2569 (ณ ธ.ค.68) จะขยายตัวชะลอลงที่ 1.6% จากการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน /การลงทุนของภาครัฐและเอกชน จะเป็นแรงหนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีหน้า

 

ภาพ : Sirachai Arunrugstichai / Getty images

The post ไขคำตอบ ทำไมน้ำท่วมหาดใหญ่กระทบเศรษฐกิจไทยรุนแรง GDP วูบเหลือ 1.9% แม้เสียหายเป็นรองปี 54 appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบงก์ชาติสำรองธนบัตรรองรับความต้องการใช้เงินสดหลังน้ำท่วม พร้อมเพิ่มช่องทางแลกธนบัตรชำรุดตลอดเดือน ธ.ค. https://thestandard.co/bank-reserves-cash-flood-notes/ Mon, 01 Dec 2025 08:33:15 +0000 https://thestandard.co/?p=1150222 แบงก์ชาติสำรองธนบัตรรองรับความต้องการใช้เงินสดหลังน้ำท่วม พร้อมเพิ่มช่องทางแลกธนบัตรชำรุดตลอดเดือน ธ.ค.

บุษกร ธีระปัญญาชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายโครงสร้างพื้นฐาน […]

The post แบงก์ชาติสำรองธนบัตรรองรับความต้องการใช้เงินสดหลังน้ำท่วม พร้อมเพิ่มช่องทางแลกธนบัตรชำรุดตลอดเดือน ธ.ค. appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบงก์ชาติสำรองธนบัตรรองรับความต้องการใช้เงินสดหลังน้ำท่วม พร้อมเพิ่มช่องทางแลกธนบัตรชำรุดตลอดเดือน ธ.ค.

บุษกร ธีระปัญญาชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายโครงสร้างพื้นฐานและบริการระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า แบงก์ชาติได้เตรียมธนบัตรไว้รองรับความต้องการใช้เงินสดของประชาชนในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ให้เพียงพอรองรับการเบิกจ่ายในช่วงที่มีความต้องการสูงกว่าปกติ รวมทั้ง ได้สำรองธนบัตรเพิ่มที่ศูนย์จัดการธนบัตรจังหวัดใกล้เคียง พร้อมนำมาสมทบที่หาดใหญ่หากมีความต้องการมากขึ้น

 

นอกจากนี้ ได้ประสานให้สถาบันการเงินเตรียมกระจายธนบัตรไปถึงมือประชาชนผ่านสาขาและตู้ ATM ที่เปิดให้บริการด้วย

 

สำหรับธนบัตรที่เสียหายหรือชำรุดจากน้ำท่วมจนไม่สามารถนำไปใช้จ่ายหรือทำธุรกรรมได้ตามปกติ ประชาชนสามารถนำมาแลกที่ธนาคารออมสินทุกสาขาที่เปิดทำการได้ทุกวัน นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ในพื้นที่จังหวัดสงขลาและบริเวณใกล้เคียงที่เปิดให้บริการได้ให้ความร่วมมือในการเปิดรับแลกธนบัตรชำรุดได้ทุกวันตลอดเดือนธันวาคม 2568 (จากเดิมที่เปิดให้แลกเฉพาะวันพุธ) รวมทั้งแบงก์ชาติจะจัด ‘คลินิกธนบัตร’ เดินสายลงพื้นที่ให้ประชาชนนำธนบัตรชำรุดมาแลกได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยจะแจ้งวันเวลาและจุดรับแลกให้ทราบต่อไป สำหรับธนบัตรพอลิเมอร์ซึ่งได้ออกแบบมาให้มีความทนทานมากขึ้นนั้น ประชาชนสามารถนำมาล้างทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่หากยังชำรุดเสียหายสามารถนำมาแลกได้ตามที่แจ้งไว้ข้างต้น

The post แบงก์ชาติสำรองธนบัตรรองรับความต้องการใช้เงินสดหลังน้ำท่วม พร้อมเพิ่มช่องทางแลกธนบัตรชำรุดตลอดเดือน ธ.ค. appeared first on THE STANDARD.

]]>
10 สิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำ ฝ่าฝืนโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี เจ้าหน้าที่รับโทษ 2 เท่า https://thestandard.co/10-prohibited-prison-penalty-officers/ Fri, 21 Nov 2025 07:58:59 +0000 https://thestandard.co/?p=1145852 10 สิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำ ฝ่าฝืนโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี เจ้าหน้าที่รับโทษ 2 เท่า

รู้หรือไม่? การพกพา ‘10 สิ่งของต้องห้าม’ เหล่านี้เข้าเร […]

The post 10 สิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำ ฝ่าฝืนโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี เจ้าหน้าที่รับโทษ 2 เท่า appeared first on THE STANDARD.

]]>
10 สิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำ ฝ่าฝืนโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี เจ้าหน้าที่รับโทษ 2 เท่า

รู้หรือไม่? การพกพา ‘10 สิ่งของต้องห้าม’ เหล่านี้เข้าเรือนจำ มีโทษหนักถึงติดคุก ห้ามเด็ดขาดทั้งยาเสพติด เหล้า อาวุธ มือถือ หรือแม้แต่เงินสด

 

หากฝ่าฝืนลักลอบนำเข้าหรือส่งให้ผู้ต้องขัง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500 บาท แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ทำผิดเองโดนโทษคูณสอง

 

10 สิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำ ฝ่าฝืนโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี เจ้าหน้าที่รับโทษ 2 เท่า 1

 

ภาพประกอบ: ณัฏฐ์กานต์ ดวงมาตย์พล

The post 10 สิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำ ฝ่าฝืนโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี เจ้าหน้าที่รับโทษ 2 เท่า appeared first on THE STANDARD.

]]>
WONYOUNG วง IVE ซื้อวิลล่าสุดหรูในย่านฮันนัมดงในราคากว่า 302 ล้านบาท https://thestandard.co/wonyoung-buys-hannam-villa/ Fri, 14 Nov 2025 12:29:57 +0000 https://thestandard.co/?p=1143507 WONYOUNG วง IVE ซื้อวิลล่าสุดหรูในย่าน ฮันนัมดง ในราคา กว่า 302 ล้านบาท

WONYOUNG สมาชิกวง IVE ซื้อวิลล่าสุดหรู Lucid House ที่ต […]

The post WONYOUNG วง IVE ซื้อวิลล่าสุดหรูในย่านฮันนัมดงในราคากว่า 302 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
WONYOUNG วง IVE ซื้อวิลล่าสุดหรูในย่าน ฮันนัมดง ในราคา กว่า 302 ล้านบาท

WONYOUNG สมาชิกวง IVE ซื้อวิลล่าสุดหรู Lucid House ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน UN Village แห่งย่านฮันนัมดง เขตยงซัน ในราคากว่า 13.7 หมื่นล้านวอน หรือราวๆ 302 ล้านบาท โดยจากข้อมูลของ Supreme Court Registry Office พบว่าเธอดำเนินเรื่องซื้อบ้านหลังใหม่ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้เป็นเจ้าของบ้านโดยสมบูรณ์เมื่อเดือนที่แล้ว

 

มีการรายงานว่า WONYOUNG ในวัยเพียง 21 ปี ซื้อวิลล่าที่มีขนาดประมาณ 2,626 ตารางฟุตด้วยเงินสดล้วนทั้งหมด เธอซื้อที่แห่งนี้จาก Lee Ji Yong อดีตซีอีโอแห่งบริษัท Daelim Trading ผู้เป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของ DL Group เนื่องด้วย Lucid House เป็นโปรเจกต์ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โปรเจกต์แรกของบริษัท Daelim D&I ที่ก่อตั้งโดย Lee Hae Sung ทายาทรุ่นที่ 3 ของ DL Group ซึ่งตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มทำการขายวิลล่าครั้งแรกในปี 2017 ราคาต่อยูนิตก็สูงถึง 4 พันล้านวอนแล้ว

 

สิ่งที่ทำให้บ้านของ WONYOUNG เป็นหนึ่งในวิลล่าที่มีความเอ็กซ์คลูซีฟที่สุดของ UN Village ก็คือบ้านมาพร้อมกับทัศนียภาพรอบด้านโดยมองเห็นทั้งวิวแม่น้ำฮันและภูเขานัมซาน และมีเพียง 15 ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ในอาคาร 2 หลังนี้เท่านั้น แน่นอนว่าวิลล่ามีระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงและมีลิฟต์ส่วนตัวของแต่ละยูนิต อีกทั้ง Lucid House ยังค่อนข้างมีชื่อเสียงมาก่อนอยู่แล้ว เพราะนางเอกแถวหน้าแห่งวงการ K-Drama อย่าง Kim Tae Hee ก็เคยอาศัยอยู่ที่แห่งนี้เป็นเวลาหลายปีก่อนที่เธอจะแต่งงานกับ Rain

 

แม้ว่าจะยังอายุน้อย แต่ WONYOUNG เป็นหนึ่งในไอดอลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการ ทั้งในฐานะเซ็นเตอร์แห่งวง IVE ที่มีชื่อเสียงในเรื่องวิชวลอันโดดเด่นบวกกับความสามารถในฐานะศิลปินซึ่งทำให้เธอได้ถ่ายโฆษณามากมายอย่างนับไม่ถ้วน และยังได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Bulgari, Tommy Hilfiger, Dyson, New Balance, Woori Bank และ JIM BEAM เป็นต้น

 

ภาพ: Swan Gallet/WWD via Getty Images

อ้างอิง: https://www.allkpop.com/article/2025/11/ives-jang-wonyoung-purchases-137-billion-krw93-million-usd-luxury-villa-in-hannam-dongs-un-village

The post WONYOUNG วง IVE ซื้อวิลล่าสุดหรูในย่านฮันนัมดงในราคากว่า 302 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
Berkshire Hathaway เงินสดล้น รายได้เริ่มแผ่ว นักลงทุนกังขา กับทิศทางใหม่หากไร้ Buffett https://thestandard.co/brk-cash-slows-investors-doubt/ Sun, 02 Nov 2025 06:10:33 +0000 https://thestandard.co/?p=1138818 Berkshire Hathawayเงินสดล้น รายได้เริ่มแผ่ว นักลงทุนกังขา กับทิศทางใหม่หากไร้ Buffett

ตามเอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถ […]

The post Berkshire Hathaway เงินสดล้น รายได้เริ่มแผ่ว นักลงทุนกังขา กับทิศทางใหม่หากไร้ Buffett appeared first on THE STANDARD.

]]>
Berkshire Hathawayเงินสดล้น รายได้เริ่มแผ่ว นักลงทุนกังขา กับทิศทางใหม่หากไร้ Buffett

ตามเอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น พบว่า Berkshire Hathaway อาณาจักรการลงทุนของ Warren Buffett ถือครองเงินสดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 381.7 พันล้านดอลลาร์ ณ ไตรมาส 3

 

ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานทะยานกว่า 34% เป็น 13.49 พันล้านดอลลาร์ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นผลจากกำไรของกิจการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเกินกว่า 3 เท่า เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีเหตุการณ์ภัยพิบัติต่ำผิดปกติ

 

แม้ Buffett จะปิดดีลด้วยการเข้าซื้อกิจการ UnitedHealth Group เป็นหุ้นมูลค่ากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ไปเมื่อต้นปีนี้ และเข้าซื้อกิจการ OxyChem ด้วยมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Berkshire Hathaway ยังคงเลือกสถานะถือเงินสดต่อไป โดยมีการขายหุ้นออกไป 6.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว

 

Jim Shanahan นักวิเคราะห์ของ Edward Jones มองว่า “ยังไม่มีโอกาสไหนเข้าตา Buffett เท่าไรนัก ในตอนนี้”

 

เงินสดล้น รายได้แผ่ว

 

แม้จะมีเงินสดสำรองเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการลงทุนสุทธิของบริษัทกลับลดลง 13% เหลือ 3.2 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ลดลง

 

หลังจากที่ขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการประกันภัยช่วงแรก (Primary) และการประกันภัยต่อ (Reinsurance) ก็สามารถพลิกกลับมาทำกำไรก่อนหักภาษีได้ในไตรมาส 3

 

ทว่า กำไรก่อนหักภาษีของ Geico ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ที่ Berkshire ถือครองอยู่ กลับร่วงลง 13% ขณะที่ ยอดเคลมประกันสูงขึ้นเล็กน้อย และต้นทุนการรับประกันก็สูงขึ้น 40% โดยทาง Geico ระบุว่าเป็น ค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าเพิ่ม

 

ซึ่ง Shanahan มองว่า เป็นเงินค่าใช้จ่ายทางโฆษณา โดยสังเกตจาก “โฆษณา Geico ที่เผยแพร่ไปทั่วในตอนนี้”

 

กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจรถไฟ BNSF เพิ่มขึ้น 5% เป็น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากรายได้จากการขนส่งสินค้าเกษตรและพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกธัญพืชที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจสาธารณูปโภคของ Berkshire ซึ่งบริหาร PacifiCorp, MidAmerican และ NV Energy มีกำไรจากการดำเนินงานลดลง 9% เหลือ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาส 3

 

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Pilot กลับไม่ค่อยดีนัก โดยขาดทุนไป 17ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Shanahan สนใจว่า “บริษัทจะพลิกสถานการณ์กลับมาด้วยวิธีใด” โดย Bloomberg ได้รายงานก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคมว่า เครือปั๊มน้ำมันกำลังพิจารณาขายธุรกิจบริหารจัดการน้ำเพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลัก

 

หุ้นร่วงก่อนเปลี่ยนตัวบริหาร แต่ Berkshire ยังอยู่เฉย

 

ผลประกอบการของ Berkshire ถูกจับตามองในฐานะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ย่อส่วนลง เนื่องจากอาณาจักร Berkshire เต็มไปด้วยกิจการที่หลากหลายและมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น กิจการประกันภัย รถไฟ พลังงาน และการผลิต

 

ที่สำคัญกว่านั้น คือบริษัทกำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ เนื่องจาก Buffett ในวัย 95 ปี กำลังจะวางมือ และมอบหมายให้ Greg Abel ในวัย 63 ปีมารับช่วงตำแหน่ง CEO เมื่อสิ้นสุดปีนี้

 

ทั้งนี้ Berkshire ไม่ทำการซื้อหุ้นคืนเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่หุ้นของบริษัทลดลงกว่า 12% นับตั้งแต่ Buffett ประกาศวางมือในเดือนพฤษภาคม

 

Cathy Seifert นักวิเคราะห์จาก CFRA Research กล่าวว่า “นั่นเป็นสารที่ทรงพลังมากต่อผู้ถือหุ้น ถ้าพวกเขาไม่ซื้อหุ้นคืน แล้วทำไมคุณต้องซื้อคืนด้วยล่ะ”

 

แม้กำไรจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้กลับเติบโตอย่างอ่อนแอในไตรมาส 3 ซึ่งไม่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน “ฉันกำลังดิ้นรนอย่างมากในการมองหาปัจจัยที่จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น” Seifert กล่าว

 

อ้างอิง:

The post Berkshire Hathaway เงินสดล้น รายได้เริ่มแผ่ว นักลงทุนกังขา กับทิศทางใหม่หากไร้ Buffett appeared first on THE STANDARD.

]]>
สัดส่วนการใช้เงินสดในไทยจ่อลดเหลือ 10-20% ใน 3-5 ปีข้างหน้า แบงก์ชาติเปิดทิศทางยกระดับ Digital Payment รองรับบริบทที่เปลี่ยนไป https://thestandard.co/cash-usage-decline-thailand/ Tue, 30 Sep 2025 11:05:09 +0000 https://thestandard.co/?p=1124816 Digital Payment

ธปท. เปิดตัว Payment Directional Paper ฉบับใหม่ ปี 2568 […]

The post สัดส่วนการใช้เงินสดในไทยจ่อลดเหลือ 10-20% ใน 3-5 ปีข้างหน้า แบงก์ชาติเปิดทิศทางยกระดับ Digital Payment รองรับบริบทที่เปลี่ยนไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
Digital Payment

ธปท. เปิดตัว Payment Directional Paper ฉบับใหม่ ปี 2568 โดยเตรียม ยกระดับ Digital Payment มุ่งสู่ความสะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ประชาชน-ธุรกิจ หลังคาดว่า คาดว่า ในระยะ 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนการใช้เงินสดของไทยน่าจะลดลงเหลือประมาณ 10-20%  

 

วันนี้ (30 กันยายน) ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้เผยแพร่ ‘ทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินภายใต้ภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยฉบับใหม่’ ปี 2568  เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า 

 

โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับพัฒนาการข้างต้นและบริบทไทยมากขึ้น โดยเฉพาะโจทย์และความท้าทายเชิงนโยบาย ได้แก่

  1. โครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่มีสัดส่วนของเศรษฐกิจนอกระบบสูง หลายกิจกรรมยังอาศัยเงินสดเป็นหลัก ทำให้ไม่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
  2. การปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ อย่าง Distributed Ledger Technology (DLT) tokenization และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงรูปแบบใหม่ขึ้นมา
  3. ภัยทุจริตและธุรกรรมผิดกฎหมาย จากการที่ระบบการชำระเงินอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำความผิด รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น 

 

 

เปิดสถานการณ์ Digital Payment ไทย

 

ดารณี ยังคาดว่า ในระยะ 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนการใช้เงินสดในไทยน่าจะลดลงเหลือประมาณ 10 ถึง 20%  หลังจาก ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2560-2567) การชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment) ของประเทศไทยมีความก้าวหน้าและขยายตัวอย่างมากโดยตัวเลขการใช้ Digital Payment อยู่ที่ประมาณ 650 ครั้งต่อคนต่อปีในปี 2567 นอกจากนี้ ประเทศไทยมีสัดส่วนการใช้ Fast Payment หรือ PromptPay เป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับนานาชาติ

 

 

โดยปัจจุบัน ปริมาณการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking เพิ่มขึ้นถึง 25 เท่า และ PromptPay มียอดทำธุรกรรมสูงสุดต่อวันประมาณ 95 ล้านรายการ (เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านรายการ) 

 

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้ยกระดับมาตรฐาน Mobile Banking Security เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ส่งผลให้กรณี Unauthorized Payment Fraud (ที่ผู้ใช้ไม่ได้โอนเอง) เหลือศูนย์ 0 ตั้งแต่ต้นปีนี้ เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้คนในการใช้ Digital Payment.

 

ท่ามกลางความก้าวหน้าของการชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment) ซึ่งทำให้การใช้เงินสดในประเทศจะลดลงจริง โดยจากการสำรวจพบว่า คนไทยใช้เงินสดลดลงจากประมาณ 63% ในปี 2564 เหลือ 54% ในปี 2566 ตามข้อมูลจากธปท.

 

Screenshot

 

แต่สัดส่วนการใช้เงินสดของคนไทยในรายงาน The global payment report ของ Worldpay by FIS

ในปี 2567 ยังอยู่ที่  31% ซึ่งถือว่า ยังอยู่ในระดับที่สูง และใกล้เคียงกับประเทศญี่ปุ่น

 

ธปท. จึงตั้งเป้าให้ประชาชนใช้ Digital Payment เป็นทางเลือกหลักมากขึ้น ‘แบบมีคุณภาพ’ โดยเฉพาะ กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ แต่ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ เช่น ธุรกิจ SME อย่างไรก็ตาม ธปท. ชี้ว่ามีบางกลุ่มที่ไม่ควรจะถูกกระตุ้นให้ใช้ Digital Payment เช่น กลุ่มผู้สูงวัยที่การใช้อาจมีความเสี่ยงมากกว่าประโยชน์

 

เปิด 3 กรอบทิศทางนโยบายหลัก

 

ดารณีระบุอีกว่า ภายใต้ทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินไทย ฉบับใหม่นี้ มี กรอบการพัฒนาระบบการชำระเงิน 3 กรอบหลัก ดังนี้ 

 

  1. การต่อยอดจากระบบการชำระเงินปัจจุบัน โดยยกระดับระบบพร้อมเพย์ให้มีนวัตกรรมและบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่มมากขึ้น เช่น การพัฒนาบริการชำระเงินที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อสินค้าออนไลน์และบริการที่ทดแทนเช็ค การส่งเสริมการใช้ข้อมูลการชำระเงิน (digital footprint) เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs การเพิ่มความยืดหยุ่นของหลักเกณฑ์การกำกับดูแลให้เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินสดให้สอดรับกับบทบาทที่ลดลง
  2. การยกระดับระบบบาทเนต (BAHTNET) โดยวางรากฐานของระบบบาทเนตให้สามารถปรับตัว ยืดหยุ่น และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความเสี่ยงในโลกอนาคต รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนวัตกรรมด้านการชำระเงิน 
  3. การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนวัตกรรมการชำระเงินในอนาคต ผ่านการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี DLT และ tokenization ควบคู่กับการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ใช้งานและระบบการเงิน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอกภาพของเงิน การป้องกันการถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินหรือฉ้อโกง และการคุ้มครองผู้ใช้งาน โดยมีแนวทางกำกับดูแลเพื่อรองรับการพัฒนาบริการด้วย tokenized money ภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการชำระเงินรูปแบบใหม่และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป 

 

Screenshot

 

ภาพ: Accogliente Design/Shutterstock

The post สัดส่วนการใช้เงินสดในไทยจ่อลดเหลือ 10-20% ใน 3-5 ปีข้างหน้า แบงก์ชาติเปิดทิศทางยกระดับ Digital Payment รองรับบริบทที่เปลี่ยนไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปริศนา 12 ล้านข้างถังขยะ โยงใยถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง https://thestandard.co/key-messages-12-million-baht/ Tue, 10 Jun 2025 13:37:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1083782

การพบลังเงินสดมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท ถูกทิ้งไว้ข้างถังขย […]

The post ปริศนา 12 ล้านข้างถังขยะ โยงใยถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง appeared first on THE STANDARD.

]]>

การพบลังเงินสดมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท ถูกทิ้งไว้ข้างถังขยะในคอนโดมิเนียมย่านเมืองทองธานี กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตา เมื่อชายผู้แสดงตนเป็นเจ้าของเงินคืออดีตทนายความที่ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานรัฐระดับสูง

 

ความสงสัยต่อที่มาของทรัพย์สินมหาศาลนี้นำไปสู่การเข้าตรวจสอบอย่างเข้มข้นจาก 3 หน่วยงานหลักด้านปราบปรามการทุจริต ทั้ง ป.ป.ช., ป.ป.ท. และ ปปป.

 

ลังเงินสดข้างถังขยะ จุดเริ่มต้นปริศนา

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เมื่อ อุษา และเพื่อน ได้พบ ลังพลาสติกสีเทา วางอยู่ข้างถังขยะบริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟต์ ชั้น 4 ตึก P2 คอนโดเมืองทองธานี ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อเปิดออก จึงพบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวนมาก รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท บรรจุอยู่ภายใน

 

นอกจากนี้ยังพบเอกสารสำคัญหลายอย่าง เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งมีชื่อ ทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ระบุอยู่ ซึ่งกลายเป็นเบาะแสสำคัญในการตามหาเจ้าของเงิน

 

พลเมืองดีไม่รอช้า รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

 

อดีตทนาย ในเงาอนุกรรมการ ป.ป.ช.

 

หลังจากข่าวการพบเงินแพร่ออกไปวันต่อมา 6 มิถุนายน 2568 ทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ซึ่งปรากฏชื่อบนเอกสารในกล่องเงิน ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อแสดงตนเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาทดังกล่าว

 

ทวีวัฒน์ ชี้แจงเบื้องต้นว่าเงินจำนวนนี้เป็น เงินเก็บสะสมที่ได้มาจากการทำงานเป็นทนายความและที่ปรึกษาให้กับบริษัทเอกชนหลายแห่งมานานกว่า 15 ปี โดยเงินได้ถูกเบิกมาจากธนาคารตั้งแต่ปี 2563 ส่วนสาเหตุที่นำเงินไปทิ้งไว้ ทวีวัฒน์ระบุว่า ‘ห้องพักเกิดน้ำรั่วซึม’ ทำให้ต้องรีบขนของออกจากห้อง รวมถึงกล่องใส่เงินสดนี้ด้วย ซึ่งตนเองลืมทิ้งไว้ที่จุดทิ้งขยะ

 

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ทวีวัฒน์ ไม่ใช่แค่เพียงอดีตทนายความ แต่ยังมีตำแหน่งเป็น คณะอนุกรรมการในสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลายคณะ ตั้งแต่ปี 2565 และที่สำคัญยังเป็น อนุกรรมการไต่สวนในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย

 

ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยถึงที่มาของเงิน และความโปร่งใสในการดำเนินงานของบุคคลที่มีตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ

 

3 หน่วยงานรัฐจับมือคลี่คลายปม เงิน 12 ล้าน

 

วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา สุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), อรณิช สุขบาล ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ พล.ต.ต. ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามที่มาของเงิน 12 ล้านบาท

 

ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง สุขสันต์ เปิดเผยว่า ป.ป.ช. จะแบ่งการตรวจสอบออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ เพื่อให้มีมติในการตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของภรรยาของทวีวัฒน์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการในหน่วยงาน ป.ป.ช. เอง

 

โดยตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กำหนดให้ต้องยื่นแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินทั้งของตัวเอง คู่สมรส และครอบครัวทุก 3 ปี หากพบว่ามีการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน จะมีโทษทั้งทางอาญาและทางวินัย คาดว่าจะมีมติภายใน 1-2 วันนี้

 

อีกส่วนหนึ่งคือการร่วมตรวจสอบที่มาที่ไปของเงิน 12 ล้านบาท โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่ (สภ.ปากเกร็ด) พิสูจน์ทราบก่อนว่าเงินดังกล่าวเป็นของผู้ใด และมีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ส่งหลักฐานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานแล้ว หากได้ข้อสรุปเรื่องเงินแล้ว จึงจะเป็นอำนาจหน้าที่ของ 3 หน่วยงาน ในการพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร และได้มาจากอาชีพสุจริตหรือไม่

 

หากเป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป สุขสันต์ย้ำว่า ตอนนี้ยังต้องรอผลสอบของตำรวจในพื้นที่ก่อน

 

ด้าน พล.ต.ต. ประสงค์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 มิถุนายน ทั้ง 3 หน่วยงานจะเดินทางไปประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อกำหนดแนวทางการสอบสวนต่อไป ส่วน อรณิช ตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินอาจไม่ได้มีแค่ 12 ล้านบาท แต่จะต้องร่วมประชุมกับตำรวจพื้นที่อีกครั้งเพื่อรวบรวมข้อมูล

 

ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ป.ป.ช. เตรียมสอบลึกบัญชีทรัพย์สิน

 

คดีนี้ได้ยกระดับการสอบสวนให้เข้มข้นขึ้น โดย พล.ต.ต. กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (ผบก.ภ.จว.นนทบุรี) ได้เข้ามาควบคุมการสอบสวนอย่างใกล้ชิด และล่าสุด (10 มิถุนายน) ตำรวจยังคง ไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมดของทวีวัฒน์

 

และกำลังเร่งรวบรวมหลักฐาน ตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด เพื่อยืนยันที่มาของเงิน และความเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมายหรือการฟอกเงินหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่พบในลังพลาสติกด้วย

 

คดีนี้ยังคงเป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก และบุคคลที่มีตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสและธรรมาภิบาล

The post ปริศนา 12 ล้านข้างถังขยะ โยงใยถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Berkshire ถือเงินสดเพิ่มเป็น 12.8 ล้านล้านบาท ทุบสถิติใหม่ บัฟเฟตต์ชี้ ‘ความไม่แน่นอน’ กีดขวางการลงทุน https://thestandard.co/berkshire-cash-reserve-128-trillion/ Sun, 04 May 2025 03:56:18 +0000 https://thestandard.co/?p=1071007

Berkshire Hathaway Inc. อาณาจักรการลงทุนของตำนานนักลงทุ […]

The post Berkshire ถือเงินสดเพิ่มเป็น 12.8 ล้านล้านบาท ทุบสถิติใหม่ บัฟเฟตต์ชี้ ‘ความไม่แน่นอน’ กีดขวางการลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>

Berkshire Hathaway Inc. อาณาจักรการลงทุนของตำนานนักลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2025 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Earnings) ลดลงประมาณ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 9.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินสดของบริษัทพุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์ถึง 3.477 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 12.8 ล้านล้านบาท ท่ามกลางความยากลำบากในการตัดสินใจนำเงินไปลงทุน เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าโลกและกำแพงภาษี

 

ในแถลงการณ์ผลประกอบการที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม Berkshire Hathaway ระบุว่า “ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับผลลัพธ์สุดท้ายของเหตุการณ์เหล่านี้” โดยอ้างถึงนโยบายการค้าระหว่างประเทศและมาตรการกำแพงภาษีที่กำลังดำเนินอยู่

 

ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่เมืองโอมาฮาเมื่อวันเสาร์ บัฟเฟตต์ได้กล่าวถึงประเด็นภาษีโดยตรงมากขึ้น โดยมีมุมมองที่น่าสนใจว่า “ผมคิดว่าคุณสามารถให้เหตุผลที่ดีมากๆ ว่าการค้าที่สมดุลนั้นดีต่อโลก” แต่ในขณะเดียวกันก็เตือนว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการค้าสามารถเป็นการแสดงออกของสงครามได้” พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า สหรัฐฯ “ควรจะมองหาการค้ากับส่วนอื่นๆ ของโลก”

 

สัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว? – งดซื้อหุ้นคืน 3 ไตรมาสติด

 

รายงานระบุว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ภายใต้อาณาจักร Berkshire มีรายได้และกำไรลดลงในไตรมาสแรก ซึ่ง แคธี ไซเฟิร์ต นักวิเคราะห์จาก CFRA Research มองว่าอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมกำลังชะลอตัวลง “สิ่งที่เราเห็นคือผลกระทบต่อ Berkshire จากเศรษฐกิจในวงกว้างซึ่งกำลังชะลอตัว” ไซเฟิร์ตกล่าว

 

นอกจากนี้ Berkshire Hathaway ยัง ไม่ได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืน (Share Repurchase) เป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน ซึ่งไซเฟิร์ตให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อาจเป็นสัญญาณว่าราคาหุ้นของ Berkshire ในปัจจุบัน “มีมูลค่าสูงเกินไปในมุมมองของ Berkshire”

 

พอร์ตลงทุน-ธุรกิจประกัน

 

  • ณ สิ้นเดือนมีนาคม หุ้น 5 อันดับแรกที่ Berkshire ถือครองในสัดส่วนมากที่สุดยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ American Express Co., Apple Inc., Bank of America Corp., Coca-Cola Co. และ Chevron Corp.

 

  • อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรก บริษัทเป็นผู้ขายสุทธิ ในตลาดหุ้น โดยขายหุ้นออกไปมากกว่าซื้อเข้า คิดเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ 

 

  • รายได้จากการลงทุน (Investment Income) ของกลุ่มธุรกิจประกันภัย เพิ่มขึ้น 11% เป็น 2.9 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนหลักจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นถึง 31% จากการที่บริษัทถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Treasury Bills) มากขึ้นในภาวะดอกเบี้ยสูง

 

  • Geico ซึ่งเป็นธุรกิจประกันภัยรถยนต์ มีกำไรเพิ่มขึ้นจากการได้ลูกค้าใหม่ แต่ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกันจากการพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด

 

  • กำไรจากการรับประกันภัย (Underwriting Earnings) โดยรวมของกลุ่มธุรกิจประกัน ลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในไตรมาสนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลขาดทุนหลังหักภาษีราว 860 ล้านดอลลาร์ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

 

มูลค่าตลาดของ Berkshire Hathaway ยังคงยืนอยู่เหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม โดยมีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (Price-to-Book Ratio) อยู่ที่ 1.79 เท่า ณ ราคาปิดตลาดวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา

 

อ้างอิง:

The post Berkshire ถือเงินสดเพิ่มเป็น 12.8 ล้านล้านบาท ทุบสถิติใหม่ บัฟเฟตต์ชี้ ‘ความไม่แน่นอน’ กีดขวางการลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘เงินสด’ ไม่ใช่ ‘หลุมหลบภัย’ ที่ดีที่สุดเสมอไป อย่าเลียนแบบปู่ Buffett กูรูชี้ หุ้น-พันธบัตร ชนะเงินสดระยะยาว แม้ตลาดผันผวนก็ต้องลงทุน https://thestandard.co/stocks-bonds-cash-long-term/ Tue, 29 Apr 2025 03:23:20 +0000 https://thestandard.co/?p=1069307

เงินสดมหาศาลถึง 334,000 ล้านดอลลาร์ที่ Warren Buffett ส […]

The post ‘เงินสด’ ไม่ใช่ ‘หลุมหลบภัย’ ที่ดีที่สุดเสมอไป อย่าเลียนแบบปู่ Buffett กูรูชี้ หุ้น-พันธบัตร ชนะเงินสดระยะยาว แม้ตลาดผันผวนก็ต้องลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>

เงินสดมหาศาลถึง 334,000 ล้านดอลลาร์ที่ Warren Buffett สำรองไว้ในบริษัท Berkshire Hathaway กำลังสร้างความฮือฮาในวงการการเงิน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านักลงทุนทั่วไปควรเลียนแบบกลยุทธ์นี้โดยไม่ไตร่ตรอง

 

ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มหาเศรษฐีผู้มีสมญาว่า ‘เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา’ ยังคงยืนยันว่า “แม้บางคนจะมองว่าเรามีเงินสดมากผิดปกติ” แต่ความจริงแล้วสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของ Berkshire ยังคงอยู่ในรูปของหุ้น และ Berkshire จะ “ไม่มีวัน” เลือกถือเงินสดแทนการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน

 

ย้อนดูแล้ว กลยุทธ์การถือเงินสดก้อนใหญ่ของ Buffett ดูชาญฉลาด โดยเฉพาะในช่วงที่นโยบายภาษีนำเข้าของรัฐบาล Trump ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในตลาด แต่สำหรับนักลงทุนทั่วไป การมีเงินสดมากเกินไปอาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในระยะยาว

 

นักลงทุนทั่วโลกกำลังกักตุนเงินสดมหาศาลถึง 6.88 ล้านล้านดอลลาร์ในกองทุนตลาดเงิน (ข้อมูล ณ 16 เมษายน) แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการถือเงินสดมากเกินไปอาจทำให้พลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า

 

Jack Manley นักกลยุทธ์จาก JPMorgan ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนแบบผสมผสานระหว่างหุ้น 60% และพันธบัตร 40% ให้ผลตอบแทนดีกว่าการถือเงินสดในระยะยาวอย่างชัดเจน จากการศึกษาย้อนหลังตั้งแต่ปี 1995 ถึง 2024 พบว่ายิ่งระยะเวลาลงทุนนานขึ้น โอกาสที่พอร์ตแบบนี้จะชนะเงินสดยิ่งสูงขึ้น

 

ตัวเลขน่าสนใจคือ ในระยะสั้นแค่หนึ่งเดือน พอร์ตแบบนี้ชนะเงินสด 65% แต่เมื่อขยายเวลาลงทุนเป็น 12 ปี พอร์ตแบบ 60/40 ชนะเงินสด 100% โดยไม่มีข้อยกเว้น นั่นหมายความว่า หากใครอดทนลงทุนยาวนานพอ การถือหุ้นและพันธบัตรจะให้ผลดีกว่าการถือเงินสดเสมอ

 

“เวลาที่นักลงทุนใช้อารมณ์นำเหตุผล มักตัดสินใจผิดพลาด โดยเฉพาะเมื่อตื่นตระหนก พวกเขามักจะวิ่งไปหาเงินสดเป็นที่พึ่ง” Manley อธิบาย

 

ปี 2024 เป็นปีทองของพอร์ตแบบ 60/40 ที่ทำผลตอบแทนได้ถึง 15% ตามข้อมูลจาก Morningstar ซึ่งดีกว่าพอร์ตที่กระจายลงทุนใน 11 สินทรัพย์ต่างๆ ที่ทำได้เพียง 10%

 

แต่ภาพนี้เริ่มเปลี่ยนในปี 2025 เมื่อนโยบายภาษีใหม่ของสหรัฐฯ เข้ามามีบทบาท Amy Arnott จาก Morningstar ชี้ว่า พอร์ตที่กระจายการลงทุนกลับมาแซงหน้า โดยทองคำพุ่งสูงถึง 32% ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตรทั่วโลก และอสังหาริมทรัพย์ ก็เอาชนะหุ้นสหรัฐฯ ได้อย่างชัดเจน

 

สำหรับเงินสด Morningstar พบว่า ในช่วงดอกเบี้ยสูงเช่นนี้ เงินสดกลายเป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล แต่มีข้อแนะนำว่า ควรแยกเงินสดไว้นอกพอร์ตการลงทุนหลัก ใช้เป็นเงินฉุกเฉินหรือรองรับค่าใช้จ่ายใหญ่ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะผู้เกษียณควรสำรองเงินสดไว้สำหรับค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 1-2 ปี

 

“แม้ตลาดจะผันผวนในตอนนี้ แต่อย่าเพิ่งรีบปรับเปลี่ยนการลงทุนแบบหักด้ามพร้า เพราะการตัดสินใจแบบเร่งรีบมักให้ผลลัพธ์แย่กว่าเดิม” Arnott กล่าว “หากคุณมีการจัดสรรสินทรัพย์ที่เหมาะกับกรอบเวลาและเป้าหมายการลงทุนของคุณก่อนหน้านี้ การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเพียงเพราะความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในตอนนี้อาจไม่ใช่ความคิดที่ดี” Arnott กล่าว

 

Adrianna Adams ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินจาก Domain Money สังเกตว่า คนที่มีเงินสำรองพอดีมักรู้สึกสบายใจในช่วงตลาดผันผวน แต่เธอเตือนว่า หากคุณมีเงินฉุกเฉินเพียงพอแล้ว เงินส่วนที่เหลือควรนำไปลงทุนในตลาดจะดีกว่าปล่อยไว้เฉยๆ

 

“เงินที่ตั้งใจเก็บไว้ใช้ระยะยาว ไม่ควรปล่อยให้เป็นเงินสด” Adams ให้คำแนะนำ “แต่ถ้าเป็นเงินที่ต้องใช้ภายในสองปีนี้ ควรเก็บเป็นเงินสดไว้จะดีกว่า”

 

“คนส่วนใหญ่นิยมเก็บเงินฉุกเฉินในบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง” Adams กล่าว “แต่สำหรับคนที่เสียภาษีในอัตราสูง ควรพิจารณาลงทุนในกองทุนพันธบัตรท้องถิ่นแทน เพราะดอกเบี้ยที่ได้รับจะได้รับการยกเว้นภาษี”

 

ในขณะที่ Buffett อาจมีเหตุผลเฉพาะในการถือเงินสดมหาศาล นักลงทุนทั่วไปควรระมัดระวังในการหาความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความปลอดภัยของเงินสดและโอกาสในการเติบโตจากการลงทุนในตลาด 

 

เพราะในท้ายที่สุด ศิลปะของการลงทุนไม่ได้อยู่ที่การเลียนแบบกลยุทธ์ของผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ไตร่ตรอง แต่อยู่ที่การปรับใช้หลักการให้เข้ากับสถานการณ์เฉพาะของตัวเอง

 

ภาพ: Roman Samborskyi / Shutterstock

อ้างอิง:

The post ‘เงินสด’ ไม่ใช่ ‘หลุมหลบภัย’ ที่ดีที่สุดเสมอไป อย่าเลียนแบบปู่ Buffett กูรูชี้ หุ้น-พันธบัตร ชนะเงินสดระยะยาว แม้ตลาดผันผวนก็ต้องลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>