เคยสงสัยหรือไม่ว่า ‘ถนนพระราม 2’ ก่อสร้างโครงการใดบ้างในห้วงเวลาตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบันปี 2567 หรือในระยะเวลา 5 ปี ภายในระยะทาง 84.041 กิโลเมตร 

สำหรับอาณาเขตการก่อสร้างพาดผ่านกรุงเทพมหานคร 14.66 กิโลเมตร, สมุทรสาคร 39.215 กิโลเมตร, สมุทรสงคราม 26.951 กิโลเมตร, และราชบุรี 3.215 กิโลเมตร

THE STANDARD ชวนพิจารณาชุดข้อมูลที่ระบุตั้งแต่วันที่เริ่มสัญญา การคาดการณ์แล้วเสร็จ และรายชื่อเอกชนที่เข้ามามีส่วนก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 35 สายดาวคะนอง-วังมะนาว หรือถนนพระราม 2 แห่งนี้

The post ผ่างานก่อสร้าง ‘ถนนพระราม 2’ ใครสร้างอะไร-เสร็จกี่โมง? appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (12 กุมภาพันธ์) จากกรณีที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) มักกะสัน ได้รับแจ้งเหตุ อาคารกำลังก่อสร้างถล่มทับคนงานบาดเจ็บ ต่อมา พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ. จรินทร์ ลำลึก ผู้กำกับ สน.มักกะสัน เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางกะปิ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารพาณิชย์ หลังที่ 5 ความสูง 4 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน) 3 คูหา อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบพื้นและคานปูนบริเวณชั้นที่ 4 และ 3 ถล่มลงมาอยู่ที่ชั้น 2 ของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและค้นหาผู้ติดค้างตามซากปรักหักพังก่อนช่วยเหลือคนงานชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ชาย 1 ราย หญิง 2 ราย มีบาดแผลแตกที่ศีรษะและแผลถลอกตามตัว นอกจากนี้ยังมีหญิงคนงานต่างประเทศ 2 ราย เป็นลมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นำส่งโรงพยาบาลเพชรเวชทั้ง 5 ราย 

จากการสอบสวนทราบว่า อาคารกำลังก่อสร้างดังกล่าว สร้างเป็นอาคารที่พักอาศัยและออฟฟิศ ระยะเวลาการก่อสร้าง 365 วัน มีคนงานก่อสร้างทั้งหมด 130 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมา ก่อนเกิดเหตุมีคนงานตะโกนว่าอาคารจะถล่ม คนงานจำนวนหนึ่งวิ่งหนีออกมาจากที่เกิดเหตุทัน หลังจากนั้นโครงสร้างอาคารชั้นที่ 4 และ 3 ถล่มลงมา ยืนยันไม่มีผู้สูญหายและเสียชีวิต 

ด้าน พล.ต.ท. ธิติกล่าวว่า วิศวกรผู้ควบคุมงานขณะนี้ได้เชิญตัวไปสอบปากคำที่ สน.มักกะสัน พื้นที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมเสนอให้สำนักงานเขตมีคำสั่งยุติการก่อสร้างชั่วคราว โดยให้ปิดพื้นที่เพื่อรอการตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านโครงสร้างเสียก่อน 

ด้าน ธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าโครงสร้างของอาคารถูกต้องสมบูรณ์แบบตามที่ขออนุญาตไว้ เพียงแต่การโหลดปูนขึ้นไปยังบริเวณชั้นที่ 5 ไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม เนื่องจากมีการนำปูนไปไว้ในจุดจุดเดียว ไม่ได้กระจายน้ำหนักไปยังพื้นที่อื่น จึงทำให้โครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักได้ 

ได้ประสานไปยังฝ่ายโยธา สำนักงานเขตห้วยขวาง เป็นที่เรียบร้อย อยู่ระหว่างดำเนินการออกประกาศควบคุมเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ ตามระเบียบของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคารฯ ส่วนจะอนุญาตให้มีการดำเนินการก่อสร้างต่อเมื่อไรนั้น ทางผู้ก่อสร้างจะต้องทำยื่นแผนเสนอเข้ามาเพื่อที่จะให้เขตตรวจสอบความปลอดภัยต่างๆ ให้เรียบร้อยแล้วถึงจะอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างต่อ

The post สั่งควบคุมพื้นที่ก่อสร้างย่านพระราม 9 ชั่วคราว หลังทรุดตัว พร้อมสอบวิศวกรคุมงานหาสาเหตุ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) จากพรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ จากกรณีที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารสูงบริเวณถนนวิทยุเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยย้ำว่านี่ไม่ใช่รายแรก พร้อมส่งข้อเรียกร้องไปยัง กทม. ให้ทำงานเชิงรุกในการกวดขันความปลอดภัยในไซต์งานก่อสร้าง

วิโรจน์กล่าวว่า “อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในไซด์ก่อสร้างคือสิ่งที่เกิดขึ้นถี่เกินไปแล้วใน กทม. ที่ผ่านมา กทม. เน้นแต่ทำงานเชิงรับ คือ โยธาธิการเขตเข้าไปตรวจสอบหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุและมีคนตายแล้ว ไม่มีการทำงานเชิงรุกเลย

“ผมคิดว่าสำนักการโยธาควรจะต้องทำงานร่วมกันในการตรวจสอบไซต์ก่อสร้างทุกเขตใน กทม. เพื่อกวดขันในเรื่องความปลอดภัยและการดำเนินการให้ถูกหลักวิศวกรรม ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดเหตุนั่งร้านถล่มแล้วจึงไปตรวจสอบ แล้วก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป

“คนที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ แม้จะเป็นแรงงานที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ต่างจังหวัดแต่เมื่อเขามาทำงานเพื่อพัฒนาให้กับคน กทม. ผมถือว่าพวกเขาคือคน กทม. ที่สมควรได้รับการดูแลให้มีความปลอดภัย เราจะละเลยความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขาไม่ได้” 

The post วิโรจน์ลงพื้นที่เกิดเหตุนั่งร้านถล่ม จี้ กทม. กวดขันความปลอดภัยไซต์ก่อสร้าง หยุดอุบัติเหตุคร่าชีวิตคนงาน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (5 มกราคม) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย และสุขภาพอนามัยของนายจ้างและลูกจ้าง โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เริ่มทวีความรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก และพบการติดเชื้อในกลุ่มผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับเป็นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ที่ลูกจ้างส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศไทยมีความรุนแรงมากขึ้นได้ 

กระทรวงแรงงานจึงได้มอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ออกประกาศเพื่อขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการ แคมป์ก่อสร้างให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข DMHTT ด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและตรวจหาเชื้อ และใช้งานแอปพลิเคชันไทยชนะ พร้อมทั้งเข้าตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการแคมป์ก่อสร้าง เพื่อตรวจสอบและประชาสัมพันธ์แนวปฏิบัติในการเฝ้าระวัง การป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิดในสถานประกอบกิจการเพื่อให้สถานประกอบกิจการใช้เป็นแนวทางในการป้องกัน และควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

ขณะที่ นิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า หลังเทศกาลวันปีใหม่หากพบลูกจ้างมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะติดเชื้อ จำเป็นต้องไปรับการตรวจรักษา ให้นายจ้างอนุญาตให้ลูกจ้างใช้สิทธิลาป่วย หรือใช้สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีตามกฎหมายหรือตามที่ตกลงกัน 

ทั้งนี้ หากสถานประกอบกิจการ นายจ้าง และลูกจ้าง มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่และการปฏิบัติตามแนวทางนี้ ให้ติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1546 หรือ 1506 กด 3

The post กระทรวงแรงงานส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแคมป์ก่อสร้าง เฝ้าระวังการระบาดโอไมครอนหลังหยุดยาวปีใหม่ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (27 มิถุนายน) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมระหว่างกระทรวงแรงงานกับผู้ประกอบการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 24 คน อาทิ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน), บริษัท ฤทธา จำกัด, บริษัท ทวีมงคลก่อสร้าง จำกัด, บริษัท ยูเวิร์ค999 จํากัด และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ฯลฯ เพื่อหารือในแนวปฏิบัติกรณีปิด (Seal) แคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในกลุ่มแรงงานไทยและต่างด้าว 

สุชาติกล่าวว่า ตามที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง งดการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในคลัสเตอร์แคมป์คนงานนั้น และได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่าย เงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการ 

สุชาติกล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่มีการปิดแคมป์ กระทรวงแรงงานจะจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19 เนื่องจากสถานประกอบการถูกปิดตามคำสั่ง ศบค. โดยให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายเป็นเงินสด 50% ของค่าจ้างให้คนงานทุกๆ 5 วัน พร้อมดูแลเรื่องอาหารทุกมื้อด้วยตลอด 1 เดือน ตามรายชื่อที่นายจ้างรับรองวันต่อวัน ตลอดเวลาการปิดแคมป์ก่อสร้าง 

นอกจากนี้ ยังมีระบบการตรวจสอบว่าแรงงานที่จะได้รับการเยียวยาจะต้องอยู่ในแคมป์ก่อสร้าง หากไม่อยู่ก็จะไม่ได้รับเงินชดเชยดังกล่าว กระทรวงแรงงานจะประสานกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุก (Swab) แก่แรงงานในแคมป์คนงาน 100% หากตรวจพบเชื้อจะต้องแยกตัวแรงงานเพื่อมาเข้าสู่การรักษาตามขั้นตอนของสาธารณสุข ส่วนผู้ที่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อก็จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งการเฝ้าระวังตรวจสอบทุกโรงงานในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ หรือ Bubble and Seal 

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังได้มอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าไปตรวจตราทำความเข้าใจกับนายจ้างผู้ประกอบการให้เข้มงวดถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 ของลูกจ้างในแคมป์คนงาน และกรมการจัดหางานเข้าไปตรวจสอบหากกรณีพบว่ามีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายก็จะนำเข้าสู่ระบบทำให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post กระทรวงแรงงานหารือสมาคมก่อสร้าง เยียวยาคนงาน-ดูแลอาหาร ตลอดการปิดแคมป์ เร่งตรวจเชื้อและฉีดวัคซีนให้ได้ 100% appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (27 มิถุนายน) แคมป์คนงานก่อสร้างที่ซอยสีลม นำอาหารมาให้คนงาน หลัง ศบค. มีคำสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างนั้นมีคนงานที่เคยติดโควิด-19 แต่หายป่วยและไม่พบเชื้อแล้วเดินทางกลับมาที่แคมป์ดังกล่าวพอดี

วันเดียวกันนี้ พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) ได้สั่งการให้จัดกำลังพล ร่วมสนธิและวางกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกับ กทม. และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเจ้าหน้าที่รวมจำนวน 10,000 นายเศษ เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในพื้นที่ 50 เขตของ กทม. จำนวน 575 แคมป์งานก่อสร้าง 

สำหรับกำลังพลที่เข้าปฏิบัติหน้าที่แต่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้โดยเร็ว โดยระหว่างนี้กำลังพลทุกนายจะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด และกักตนเองแยกจากครอบครัวเป็นเวลา 14 วัน

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post แรงงานรับแจกอาหารก่อนล็อกดาวน์แคมป์ก่อสร้าง ฝ่ายมั่นคงส่งเจ้าหน้าที่หมื่นนายคุม 575 แคมป์ appeared first on THE STANDARD.

THE STANDARD ลงพื้นที่แคมป์คนงานย่านถนนสีลม พบร้านลาบเป็ดที่เปิดขายริมถนนแห่งนี้กว่า 25 ปี ขนเอาวัตถุดิบทั้งหมดของร้านมาบริจาคที่แคมป์คนงานที่อยู่ใกล้เคียงกัน

พ่อค้าเล่าให้เราฟังว่า โควิด-19 ระลอกสามสาหัสกับชีวิตที่สุด ก่อนหน้าที่ยังให้กินในร้านได้ลูกค้าก็หายไปแล้ว 80% เพราะคนไม่ออกมา ยังเหลือลูกค้าประจำบ้างนิดหน่อย แต่พอประกาศห้ามนั่งกินในร้านกะทันหันแบบนี้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่ ก่อนหน้านี้ตนลงทุนวัตถุดิบไปเป็นหมื่นบาท แต่ขายไปได้แค่ครึ่งเดียวก็ตัดสินใจปิดร้าน และเอาวัตถุดิบตีราคาได้ประมาณ 4-5 พันบาทมาบริจาคให้แคมป์ก่อสร้าง เพราะเปิดขายไปก็ไม่มีลูกค้า ของเน่าเสียไปเปล่าๆ 

เมื่อเราถามว่าหยุดขายไปจะเอารายได้จากไหน พ่อค้าตอบว่าไม่มีรายได้ แต่การเปิดร้านแล้วไม่มีลูกค้าเสียหายมากกว่า ตอนนี้ขอหยุดตั้งหลัก และถ้ามีลูกค้าประจำโทรมาเรียกร้องระดับหนึ่งถึงจะตัดสินใจกลับมาเปิดร้านอีกครั้ง

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post ร้านลาบเป็ดย่านสีลม เลิกขายชั่วคราว หลังถูกห้ามรับประทานในร้าน บริจาควัตถุดิบให้แคมป์คนงาน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (27 มิถุนายน) พล.ต. ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงตำรวจ, กองบัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเหล่าทัพ จัดกำลังพล ร่วมสนธิและวางกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกับกรุงเทพมหานครและกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเจ้าหน้าที่รวมจำนวน 10,000 นายเศษ

เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร จำนวน 575 แคมป์งานก่อสร้าง 

สำหรับกำลังพลที่เข้าปฏิบัติหน้าที่แต่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้น จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้โดยเร็ว โดยระหว่างนี้กำลังพลทุกนายจะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติภารกิจตลอดเวลา การสวมใส่เฟซชิลด์ และพกสเปรย์แอลกอฮอล์

รวมทั้งการรักษาสุขอนามัยในขณะปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ กำลังพลจะถูกส่งเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองโรค และกักตนเองแยกจากครอบครัวเป็นเวลา 14 วัน

ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ขอแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจแก่กำลังพลทุกนาย ซึ่งเป็นผู้มีความทุ่มเท เสียสละ อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยมิเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แม้จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า 

แต่ยังคงมีความมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอุตสาหะเพื่อเป็นป้อมปราการหลักที่สำคัญในการดูแลพี่น้องประชาชนภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พร้อมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการปฏิบัติตนตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด และร่วมส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกนายในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อดูแลประชาชนในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ต่อไป

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post กองทัพไทย ส่งกำลัง ‘ทหาร-ตร.’ กว่า 10,000 นายเข้าคุมพื้นที่ ‘แคมป์ก่อสร้าง’ 575 แห่ง ในพื้นที่ กทม. แล้ว appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (26 มิถุนายน) ศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้มีหนังสือสั่งการทางวิทยุ (ด่วนที่สุด) ถึงผู้อำนวยการเขตทุกเขต ความว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีได้แถลงหลังจากการประชุม เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเวลา 15 วัน หรือ 1 เดือน ขึ้นกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฯ ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ 

จึงให้สำนักงานเขตดำเนินการ ดังนี้ 

1. เร่งสื่อสารและสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการที่มีแคมป์คนงานก่อสร้างทุกแห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดฯ ตามที่ทางราชการกำหนด 
2. งดการเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นเวลา 15 วัน โดยประสานหน่วยงานทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความร่วมมือในการปฏิบัติงานดังกล่าวโดยด่วน 
3. ให้มีมาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการกำกับ ตักเตือน และสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่ทางราชการกำหนด

ทั้งนี้ จะมีการประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 ให้ทราบอีกครั้งในโอกาสต่อไป

ขณะที่วันนี้ พล.ต. ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการเร่งด่วนผ่านระบบ VTC โดยสั่งการให้หน่วยขึ้นตรงศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) บูรณาการการจัดกำลังสนับสนุนและประสานการปฏิบัติกับจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ในการสนธิกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ให้มีความเข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติภารกิจควบคุมแคมป์คนงาน และไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่ รวมทั้งการควบคุมการเคลื่อนย้ายของประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา, ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส) โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ (26 มิถุนายน 2564) เป็นต้นไป

ด้าน สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวยืนยันว่า บางข่าวอาจจะบอกว่าปิดแคมป์คนงานแล้วจะทำให้คนงานหนีกลับต่างจังหวัด อะไรก็แล้วแต่ นั่นคือส่วนของคนไทย แต่นายจ้างอย่างไรก็ต้องรักลูกน้องตัวเอง ไม่ให้กลับแน่นอน เพราะกลัวงานเปิดแล้วไม่กลับมาทำงาน ส่วนแรงงานต่างด้าวไม่ไปไหนแน่นอน เพราะไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย เขาต้องอยู่ที่แคมป์ มีที่อยู่ ที่กิน ที่นอน มีรายได้อีก 50% ในมาตรา 33 ที่เราจ่ายให้ เขาไม่ไปไหนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม THE STANDARD ลงพื้นที่แคมป์คนงานย่านอารีย์ พบว่าคนงานหลายคนกังวลเรื่องการเยียวยาของรัฐ ว่าจะได้เมื่อไร เดือนไหน และแม้จะเยียวยาจ่ายค่าแรง 50% แต่ในความเป็นจริงเมื่อมีรายรับน้อยลง แต่รายจ่ายเท่าเดิม มีค่าผ่อนรถผ่อนของต่างๆ ค่าใช้จ่ายต้องส่งต้องจ่ายทุกเดือน ทุกคนรู้สึกเครียด ไม่รู้จะหาจากไหน ออกไปไหนก็ไม่ได้เลย  

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post กทม.-ฝ่ายความมั่นคง สั่งคุมเข้มแคมป์ก่อสร้าง งดเคลื่อนย้ายคน-แรงงาน ระบุจ่ายเงิน 50% แต่หนี้สินที่ผ่อนทุกเดือนไม่ได้ลดลง appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 มิถุนายน) ตกานต์ สุนนทวุฒิ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตหลักสี่ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย สุรชาติ เทียนทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตหลักสี่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า อยากเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครเร่งเยียวยาช่วยเหลือชุมชนรอบคลัสเตอร์ก่อสร้างแคมป์หลักสี่ เพราะตอนนี้โควิด-19 จากแคมป์คนงานก่อสร้างระบาดเข้าชุมชนรอบๆ แคมป์ก่อสร้างไปติดชาวบ้านได้รับเชื้อกันอย่างรุนแรงทั้งครอบครัว โดยเฉพาะชุมชนมิตรประชาพัฒนาพบว่า ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมจนถึงปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อไปแล้วรวมมากกว่า 30 คน ซึ่งครอบครัวที่ตนเองไปเยี่ยมก็เป็นครอบครัวที่พบมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ 17 คน อาศัยในบ้านไม้ขนาด 8 ตารางเมตร คือถ้าเดินเข้าไปในบ้านแล้วคือต้องนอนเลย เพราะอยู่กันอย่างแออัด แม่อี๊ด เจ้าบ้าน เล่าว่า พบเชื้อคนแรกคือผู้สูงอายุวัย 60 ปี ทีมงานประสานงานให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตามขั้นตอน จากนั้นคนในบ้านอีก 16 คน ก็ทยอยติดเชื้อกันครบทุกคน โดยติดเชื้อกันตั้งแต่ผู้สูงอายุอายุ 60 กว่าปี ลงมาถึงเด็ก 5 คน โดยเด็กที่ติดเชื้ออายุน้อยที่สุดคือ 4 เดือน ติดเชื้อเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทีมงานก็เข้ามาดูและประสานให้ผู้ติดเชื้อทุกคนไปกักตัวดูอาการที่โฮสเทลแห่งหนึ่งที่พุทธมณฑลสาย 3 และทยอยกลับมาบ้านได้บางส่วน แต่มีข้อกำหนดจากแพทย์ว่าจะต้องกลับมาและกักตัวอยู่ในบ้านต่อไปอีกอย่างน้อย 7 วัน ตลอดมาไม่เคยได้รับความช่วยเหลืออะไรจากภาครัฐ กรุงเทพมหานคร หรือบริษัทก่อสร้างที่เป็นต้นเหตุแพร่เชื้อเลย 

“เราตกงานตั้งแต่โควิด-19 จนติดโควิด-19 จนกลับมากักตัว ก็ยังไม่เคยเห็นรัฐจะมาช่วยอะไร มีแต่มาบอกให้เรากักตัวอยู่แต่ในบ้าน แคมป์ก่อสร้างตัวแพร่เชื้อมีกิน แต่เราติดเชื้อจากเขา เราไม่มีกิน” ทั้งนี้ ทีมงานมอบอาหารแห้งและของใช้จำเป็นจนกว่าจะกักตัวครบตามกำหนด

“ชาวบ้านอึดอัดใจว่ารัฐห่วงแต่บริษัทก่อสร้าง ทั้งที่เขาร่ำรวย แต่ชาวบ้านในชุมชนติดเชื้อจากเขาเป็นคนยากจนและตกงาน ออกไปทำงานไม่ได้ แต่รัฐกลับไม่เคยเหลียวแลเยียวยา จึงอยากให้ภาครัฐและบริษัทก่อสร้างได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้เขาอยู่รอด อย่าปล่อยเขาตามยถากรรมเลย” ตกานต์กล่าว

The post 17 ชีวิตติดโควิด-19 ยกบ้าน ลามจากคลัสเตอร์ก่อสร้างหลักสี่ ยากจน-ตกงาน ยังไม่ได้รับการเยียวยา appeared first on THE STANDARD.