อาหาร – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 20 Apr 2024 03:10:57 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.3.1 รัฐห่วงสุขอนามัยเด็กในฤดูร้อน ย้ำรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ รักษาความสะอาดร่างกาย เลี่ยงอากาศร้อนป้องกันฮีทสโตรก https://thestandard.co/government-concern-child-summer-hygiene/ Sat, 20 Apr 2024 03:10:57 +0000 https://thestandard.co/?p=924798 สุขอนามัยเด็กในฤดูร้อน

วันนี้ (20 เมษายน) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนต […]

The post รัฐห่วงสุขอนามัยเด็กในฤดูร้อน ย้ำรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ รักษาความสะอาดร่างกาย เลี่ยงอากาศร้อนป้องกันฮีทสโตรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุขอนามัยเด็กในฤดูร้อน

วันนี้ (20 เมษายน) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยในตอนกลางวันบริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปต่อเนื่อง อุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่ 33-43 องศาเซลเซียส 

 

รัฐบาลมีความห่วงใยสุขภาพประชาชนในฤดูร้อน โดยเฉพาะโรคที่มากับฤดูร้อนและฮีทสโตรก จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดดังกล่าว โดยเฉพาะเด็ก 

 

ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะนำให้ผู้ปกครองควรใส่ใจดูแลสุขอนามัยให้แก่เด็กในฤดูร้อนที่มักเกิดโรคในเด็ก เช่น โรคท้องร่วง อาหารเป็นพิษ โรคภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก และฮีทสโตรก 

 

ชัยกล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิสูง เชื้อโรคต่างๆ สามารถเจริญเติบโตได้ดีและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้จะปะปนมากับอาหารและน้ำดื่ม พ่อแม่และผู้ปกครองจึงต้องระมัดระวังเรื่องสุขอนามัยและความสะอาด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ให้มากที่สุด เนื่องจากเด็กเล็กมีภูมิต้านทานร่างกายที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ ส่งผลให้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย


 

โดยข้อมูลกรมการแพทย์ระบุโรคฤดูร้อนที่พบบ่อยในเด็ก เช่น 

 

1.​ โรคท้องร่วง สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว และพยาธิ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อโรคเข้าไป โดยจะพบอาการถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ถ่ายเป็นน้ำหรือมีมูกเลือดปน และเมื่อเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ติดเชื้อในเลือด เสี่ยงต่อการคุกคามถึงชีวิตได้ 

 

2. โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากเชื้อต่างๆ ที่มาจากพิษแบคทีเรีย เชื้อรา หรือสารเคมีที่ปนเปื้อน มักพบได้จากอาหารที่ไม่สุกสะอาด อาการมีไข้ ปวดท้อง อาเจียน คลื่นไส้ และถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง 

 

3. โรคภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก เป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อยในฤดูร้อน อาการของโรคคือ ผิวหนังจะแห้ง คัน และไวต่อสารภายนอกที่มาสัมผัส ทำให้มีผื่นขึ้นในลักษณะเป็นๆ หายๆ การป้องกันทำได้โดยเลือกสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อนุ่ม ใช้สบู่อ่อน และใช้ครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น 

 

4. โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก เกิดจากอากาศที่ร้อนเกินไป จนทำให้ร่างกายปรับสมดุลอุณหภูมิไม่ได้ จนอาจเกิดอาการฮีทสโตรก อาการที่พบ ได้แก่ ปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรืออาจจะช็อกจนเสียชีวิตได้  


 

ชัยกล่าวต่อว่า กรมการแพทย์แนะนำให้ผู้ปกครองควรระมัดระวังในเรื่องสุขภาพและความสะอาดให้แก่เด็กๆ โดยมีหลักสำคัญคือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ รักษาความสะอาดของร่างกาย และหลีกเลี่ยงอากาศร้อน หากร้อนมากควรพยายามลดความร้อนโดยการอาบน้ำ เปิดแอร์ หรือเปิดพัดลม ให้บุตรหลาน ให้อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี ดื่มน้ำมากขึ้นในวันที่มีอากาศร้อนจัด เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ และดูแลสุขอนามัยเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคในฤดูร้อน

The post รัฐห่วงสุขอนามัยเด็กในฤดูร้อน ย้ำรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ รักษาความสะอาดร่างกาย เลี่ยงอากาศร้อนป้องกันฮีทสโตรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
13 กิจกรรมน่าทำช่วงวันหยุดสงกรานต์ ฉบับคนตัวแห้ง https://thestandard.co/life/13-songkran-activities Thu, 11 Apr 2024 14:17:18 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=922079 วันหยุดสงกรานต์

ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์กลับมาเยือนอีกครั้ง แม้ปี […]

The post 13 กิจกรรมน่าทำช่วงวันหยุดสงกรานต์ ฉบับคนตัวแห้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
วันหยุดสงกรานต์

ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์กลับมาเยือนอีกครั้ง แม้ปีนี้รัฐบาลบอกเราให้เฉลิมฉลองกันได้แบบเต็มสูบ แต่ก็ยังมีมนุษย์หลายคนเป็นเผ่าตัวแห้ง ไม่รักความเปียก และอยากใช้เวลาวันหยุดยาวไปทำอย่างอื่นมากกว่าปล่อยตัวปล่อยใจกับการสาดน้ำ หลายคนอาจมีแพลนในใจแล้วว่าสงกรานต์นี้จะใช้เวลาทำสิ่งใด แต่หลายคนกลับตรงข้าม THE STANDARD LIFE รวบรวมไอเดียมาให้คุณแล้ว มีตั้งแต่ทำง่ายอย่างนอนดูหนังเรื่องโปรดไปจนถึงกิจกรรมฮีลใจที่สามารถทำได้จากที่บ้าน 

 

วันหยุดสงกรานต์

 

1. ตระเวนกินเมนูข้าวแช่ให้เย็นใจ

 

ปีนี้คุณกินข้าวแช่แล้วหรือยัง? ถ้ายังก็ไม่ถือว่าผิด แต่ดูเหมือนว่าจะยังขาดอะไรไป เพราะอย่าลืมว่าในแต่ละปี ช่วงที่จะกินข้าวแช่ได้อร่อยที่สุดก็คือฤดูร้อน แถมพอหมดฤดูร้อนแล้วจะไปหากินที่ไหนอีกก็ลำบากแย่ และจะยิ่งกินได้อร่อยมากขึ้นถ้ากินในช่วงที่อากาศร้อนพีคๆ อย่างกลางเดือนเมษายน

 

Recommended: หากใครยังไม่รู้ว่าจะกินของเจ้าไหนดี แนะนำข้าวแช่ระดับตำนานของ Jim Thompson ที่แม้จะเปลี่ยนเฮดเชฟใหม่มาเป็นเชฟเปเป้ แต่ความอร่อยของข้าวแช่ยังคงน่าประทับใจเช่นเคย

 

Where: Jim Thompson, A Thai Restaurant

Budget: 950++ บาทต่อชุด สำหรับรับประทานที่ร้าน และเซ็ตกลับบ้านในปิ่นโตและถุงผ้าลิมิเต็ดเอดิชันในราคา 1,900 บาท (เซ็ตสำหรับ 1 ท่าน) และ 2,500 บาท (เซ็ตสำหรับ 2 ท่าน) เสิร์ฟเพียงวันละ 50 ชุดเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/jim-thompson-a-thai-restaurant

 

 

2. เช็กอิน 4 ร้านใหม่ วิวเส้นขอบฟ้า

 

โซนรูฟท็อปใหม่ที่มาแรงที่สุดในยามนี้ EA Gallery อ่านว่า เอ-ย่า แกลเลอรี เป็นรูฟท็อปด้านกินดื่มบนตึก 55 ของตึกเอ็มไพร์ ส่วนหนึ่งของ EA Rooftop at The Empire จุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มบนชั้น 55-58 โดยมีคอนเซปต์ Eat, Meet, Experience เป็นทั้งแหล่งแฮงเอาต์ สังสรรค์ และมอบประสบการณ์การกินท่ามกลางทัศนียภาพที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร

 

EA Gallery ได้ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ % Arabica ประเดิมเปิดร้านแรกเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ก่อนตามติดด้วยร้านบรันช์ 手 qraft., ร้านอาหารเกาหลีที่เน้นของหมักดองอย่าง Onggi และบาร์สวย Invitation Only 

 

Recommended: เริ่มต้นที่ % Arabica หรือ 手 qraft. ก่อนปิดด้วยมื้อเย็นจาก Onggi และดริงก์สนุกๆ ที่ Invitation Only

 

Where: EA Rooftop ชั้น 55 ของตึกเอ็มไพร์

Budget: เริ่มต้นที่ 150-1,500 บาทต่อคน

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/ea-rooftop-at-the-empire

 

วันหยุดสงกรานต์

 

3. จิบกาแฟอิตาเลียนที่ Younique สาขาแรกในโลก

 

Golden Goose แบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์จากอิตาลี เลือกจะเปิดคาเฟ่สาขาแรกในโลกที่ไทย โดยใช้ชื่อว่า Younique และช่วงสงกรานต์คือช่วงเวลาที่คุณจะได้ลิ้มลองกาแฟดีแบบสบายอารมณ์ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องคิว ความเร่งรีบ หรือใดๆ 

 

ด้วยความเป็นร้านกาแฟตามวัฒนธรรมการดื่มแบบอิตาเลียน บรรยากาศภายในร้านจึงเอาความเป็นอิตาเลียนมาใส่ไว้หมด ตั้งแต่เมล็ด กาแฟ สไตล์ร้าน สไตล์เมนูเครื่องดื่ม แถมยังมีเจลาโตที่อร่อยมากๆ อีก

 

Recommended: มาแล้วต้องลองเมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์จากทางร้าน Golden Blend การผสมกันของกาแฟคั่วเข้มแบบอิตาเลียน กับกาแฟคาแรกเตอร์ติดเปรี้ยวนิดๆ พร้อมเมนูสุดฮิตอย่าง Triple Shot Espresso, Golden Tiramisu และ Golden Affogato

 

Where: ชั้น M EMQUARTIER (ข้างร้าน Golden Goose)

Budget: 120-600 บาท

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/younique

 

 

4. อัปเดตคอร์สเมนูไฟน์ไดนิ่งใหม่ทั่วกรุงเทพฯ

 

สำหรับสายการกิน ไม่มีช่วงเวลาไหนเหมาะไปกว่านี้ร้านแล้ว (ถ้าร้านเปิด) เพราะสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนในเมืองหลวงแยกย้ายออกไปใช้ชีวิตตามที่ต่างๆ ทั้งต่างจังหวัด กลับบ้านเกิด ออกไปเที่ยวต่างประเทศ ร้านไฟน์ไดนิ่งทั้งหลายก็เคยจองยากหรือมีหลุดจองกันบ้าง ฉะนั้นนี่คือช่วงเวลาดีที่คุณจะได้ใช้วันหยุดไปอัปสกิลลิ้น ตามชิมคอร์สเมนูใหม่จากไฟน์ไดนิ่งร้านโปรดทั่วกรุง

 

Recommended: กรุงเทพฯ มีร้านไฟน์ไดนิ่งเยอะมาก แนะนำให้เข้าไปดูในลิงก์นี้ https://thestandard.co/life/bangkok-fine-dining-2024 ทีมงานเราอัปเดตลิสต์พร้อมราคาไว้ให้มากถึง 41 ร้าน เลือกกินตามที่ใจอยากได้เลย

 

Where: กรุงเทพฯ และปริมณฑล

Budget: เริ่มต้นที่ 1,800-5,500++ บาท

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/bangkok-fine-dining-2024

 

วันหยุดสงกรานต์

 

5. เช็กอินนิทรรศการใหม่

 

คนชอบงานอาร์ต ชอบเช็กลิสต์นิทรรศการใหม่ ช่วงเวลานี้แหละที่เราสามารถเดินชมงาน ถ่ายรูปเท่ๆ ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคน แต่เราแนะนำว่าให้ไปช่วงปลายๆ สงกรานต์สักนิด วันที่ 16 เมษายนกำลังดี เพราะยังเป็นช่วงวันหยุด และผู้คนยังไม่เยอะเนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากวันเล่นน้ำสงกรานต์ 

 

Recommended: กรุงเทพฯ มีนิทรรศการใหม่เยอะมาก ทั้งเป็นกราฟฟิตี้ ทั้งจัดในหอศิลป์ ลองเช็กวันเปิดและเช็กลิสต์ดู แต่ถ้าคุณนึกไม่ออก คลิกเข้าไปเช็กได้ที่นี่ https://thestandard.co/life/calendar-10-17-apr-2024 ทางทีม LIFE เตรียมไว้ให้แล้ว นิทรรศการดีและหลากหลายเชียวแหละ

 

Where: กรุงเทพฯ และปริมณฑล

Budget: ฟรี

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/calendar-10-17-apr-2024

 

 

6. ดูซีรีส์ & ชิล

 

กิจกรรมน่าอภิรมย์ที่สุดในช่วงวันหยุดยาวคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ชมหนังสักเรื่องหรือซีรีส์เรื่องโปรดทั้งวันทั้งคืน นี่เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่คุณจะได้เคลียร์ลิสต์หนังหรือซีรีส์ที่หมายมั่นปั้นมือให้หมดก่อนเริ่มดองใหม่ อาจเป็นทั้งลิสต์ซีรีส์เกาหลี หนังไตรภาค สารคดีเรื่องโปรด การ์ตูน อนิเมะ ฯลฯ

 

Recommended: ไล่เก็บ Game of Thrones ให้ครบทั้ง 8 ซีซัน 73 เอพิโสด รวมไปถึง House of the Dragon ซีซันแรกอีก 10 ตอน หรือถ้าคุณเก็บหมดแล้ว ลองเปลี่ยนไปดูซีรีส์เรื่องอื่นๆ อย่าง The Last of Us, The Sandman หรือไม่ก็ The White Lotus ที่กำลังยกกองมาติดเกาะยังประเทศไทยในซีซัน 3 หรือถ้าหากคุณเป็นสายซีรีส์เกาหลี ลองเปิดด้วย The Glory, Juvenile Justice, Reborn Rich ฯลฯ แต่ถ้าเป็นสายการ์ตูน หยิบเรื่องยาวๆ ขึ้นหิ้งมาดูอีกรอบก็เป็นความคิดที่ไม่เลว

 

Where: เดี๋ยวนี้ช่องสตรีมมิงมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Disney+, HBO, Viu, iQIYI ชอบแบบไหนเลือกแบบนั้น

Budget: ประมาณ 150 บาทต่อเดือน

 

วันหยุดสงกรานต์

 

7. ฮีลใจวันหยุดด้วยการทำสวน

 

อากาศร้อนๆ แบบนี้ เพิ่มต้นไม้สีเขียวในบ้านช่วยฮีลกายใจ แถมยังประหยัดพลังงานได้ด้วย อย่างที่เราทราบกันดีว่าต้นไม้มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งช่วยเรื่องความสวยงาม ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ทั้งยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของบ้าน ลดปริมาณแสงแดดเข้าสู่บ้านของเรา แม้ปัจจุบันมนุษย์คนเมืองจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านที่มีสวนกว้างขวางใหญ่โตเช่นอดีต บางคนอาศัยอยู่ตามคอนโดสูง พื้นที่น้อย แต่การปลูกต้นไม้ฮีลใจย่อมมิใช่อุปสรรค

 

Recommended: เราแนะนำให้คุณเริ่มต้นปลูกจากต้นไม้เลี้ยงง่ายที่มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศอย่างไทรใบสัก (Fiddle Leaf Fig) พืชเขตร้อน เหมาะกับพื้นที่อากาศร้อนชื้นแบบบ้านเราที่ดูแลรักษาง่าย ใช้น้ำน้อยเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และคอยเช็ดฝุ่นสม่ำเสมอ 

 

Where: กรุงเทพฯ มีแหล่งซื้อต้นไม้อยู่หลายที่ เช่น สวนจตุจักร, ตลาดต้นไม้เทเวศร์, ตลาดต้นไม้กรมทหารราบที่ 11 และเลียบทางด่วนรามอินทรา 

Budget: เริ่มต้นไซส์เล็ก 300++ บาท

 

 

8. ซ้อมวิ่งยาวๆ ให้หนำใจ

 

สำหรับมนุษย์เงินเดือน เป็นเรื่องยากกับการหาเวลาไปฝึกซ้อมวิ่งยาวๆ ในมาราธอนงานหน้า ไหนจะต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อรีบไปซ้อมวิ่ง ระหว่างวิ่งก็มัวแต่พะวงว่างานจะเข้าไหม พอวิ่งเสร็จก็ต้องกระวีกระวาด รีบล้างเนื้อตัวเพื่อเข้าออฟฟิศไปเคลียร์งานยามเช้า การมีโอกาสได้ซ้อมวิ่งระยะไกลอย่างสบายใจ สบายอารมณ์ ดื่มด่ำกับโมเมนต์ Runner’s High อย่างเต็มที่จึงถือเป็นสวรรค์ของนักวิ่ง ยิ่งช่วงฮอลิเดย์ที่บ้านเมืองเงียบสงบ รถไม่พลุกพล่าน ท้องถนนก็กลายเป็นสนามซ้อมวิ่งไปโดยปริยาย   

 

Recommended: เส้นทางวิ่งจากสวนลุมพินี-สวนเบญจกิติ เปลี่ยนบรรยากาศจากการวิ่งวนในสวนลุมพินีเป็นการวิ่งบนเส้นทางลอยฟ้าที่เรียกว่า ‘ทางสีเขียว’ (Green Mile) เพื่อข้ามไปยังโรงงานยาสูบ ทะลุสวนเบญจกิติ เบ็ดเสร็จหากวิ่งสวนละรอบ+เส้นทางเชื่อมต่อ ก็สามารถเก็บระยะได้ 8.5 กิโลเมตร หรือวิ่ง City Run ลัดเลาะเส้นสยามสแควร์-จุฬาฯ-ข้ามไปสามย่าน-อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ-สนามศุภชลาศัย วกกลับมาที่จุดเริ่มต้น ก็ร่วมๆ 10 กิโลเมตร

  

When: วันหยุดจะวิ่งเช้า สาย บ่าย เย็น ก็ไม่มีใครว่า แต่แนะนำว่าให้วิ่งในช่วงเช้ามืดหรือเย็นค่ำ เพราะแดดไม่ร้อนจัด ควรวิ่งกันไปเป็นหมู่คณะ เพราะบางเส้นทางค่อนข้างเปลี่ยวและแสงไฟไม่ทั่วถึง

Budget: ฟรี 

 

วันหยุดสงกรานต์

 

9. ชวนเพื่อนไปดู Da Vinci Alive Bangkok

 

นิทรรศการแห่งปี Da Vinci Alive Bangkok ที่เราไม่อยากให้พลาด เพราะผู้จัดได้ร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์เลโอนาร์โด ดา วินชี แห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี นำชิ้นงานสำคัญมาจัดแสดงให้ชมถึงประเทศไทยด้วย นิทรรศการครั้งนี้จึงถือว่าสมบูรณ์ที่สุดในเอเชียและละเอียดครบถ้วนที่สุดในโลก

 

Recommended: Da Vinci Alive Bangkok มีทั้งหมด 3 โซน แต่โซนที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุด คือ ‘The Secrets of the Mona Lisa’ เผยความลับของโมนาลิซาอย่างใกล้ชิดและละเอียด เพราะขยายกว่า 40 เท่า รวมถึงความลับที่ว่า ดา วินชี วาดภาพโมนาลิซาออกมาอย่างไร?

 

Where: ชั้น 6 ICONSIAM

Budget: 1,080 บาท 

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/da-vinci-alive-bangkok-2

 

 

10. ลองคลาสออกกำลังกายใหม่ๆ

 

เดี๋ยวนี้ประเทศไทยเรามีคลาสออกกำลังกายใหม่ๆ ให้เลือกมากมาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โยคะ บอดี้ปั๊ม RPM หรือพิลาทิส ช่วงวันหยุดยาวเป็นโอกาสอันดีที่เราจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ ลองสิ่งใหม่ เพื่อการแปลงโฉมร่าง เปิดคอม หยิบมือถือ แล้วจองคลาสใหม่กัน!

 

Recommended: หนึ่งคลาสที่เราอยากแนะนำให้ลองคือ HYROX คลาสฝึกความอึด เหล่าสายฟิตที่ชื่นชอบทั้งการวิ่งและ Strength Training ที่กำลังมาแรงในหมู่ยิมทั่วโลก 

 

Where: ONTRACK GYM พระราม 3 

Budget: HYROX Class 800 บาทต่อเครดิต, 8,400 บาทต่อ 12 เครดิต และ Unlimited Access 4,800 บาทต่อเดือน

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/hyrox-ontrack-gym

 

วันหยุดสงกรานต์

 

11. อิ่มบุญปีใหม่ไทย ไหว้พระ 9 วัด

 

วันหยุดยาวคราวนี้ออกไปตระเวนทำบุญรับพร ทำจิตใจให้ผ่องใสกันดีกว่า นอกจากกิจกรรมสาดน้ำที่เราทุกคนต่างให้ความใส่ใจตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ความหมายแท้จริงของเทศกาลสงกรานต์คือวันขึ้นปีใหม่ เริ่มต้นจุลศักราชใหม่ตามฉบับคติพราหมณ์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสรรหาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต สำหรับชาวไทยหัวใจพุทธ โดยเฉพาะสายมูเตลู ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าการทำบุญไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ชีวิตมีความสุขราบรื่นตลอดปีตามวิถีพุทธศาสนิกชน 

 

Recommended: รอบๆ เกาะรัตนโกสินทร์มีวัดโบราณและวัดสำคัญตั้งเรียงรายใกล้ๆ กัน เช่น วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร, วัดสามพระยาวรวิหาร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดราชนัดดารามวรวิหาร, วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ฯลฯ

 

Where: รอบเกาะรัตนโกสินทร์และบริเวณใกล้เคียง

Budget: ฟรี 

 

 

12. Staycation ในกรุงเทพมหานคร

 

ช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์เป็นช่วงที่กรุงเทพฯ น่าอยู่ที่สุดแล้ว ถนนโล่ง รถไม่ติด ร้านรวงเปิดให้บริการปกติ แต่ไม่มีผู้คนให้แออัดยัดเยียด ไม่กี่ปีที่ผ่านมากรุงเทพฯ มีโรงแรมขนาดเล็กเกิดใหม่เยอะมาก ทั้งสร้างใหม่ดีไซน์สวยทันสมัย และรีโนเวตตึกเก่าให้กลายเป็นที่พักมากเสน่ห์ การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ต้องพบเจอทั้งความเครียด ความวุ่นวาย สร้างความจำเจให้ชีวิต การเที่ยวเมืองแบบ One Day Trip หรือพักค้างคืนยังโรงแรมเก๋ จึงเป็นหนึ่งวิธีเปลี่ยนบรรยากาศที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ดี ฉะนั้นจะนอนอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทำไม ใช้โอกาสนี้ออกไปสำรวจกรุงเทพฯ กันเถอะ

 

Recommended: YANH Ratchawat ที่พักใหม่ใจกลางย่านราชวัตร ใกล้ของกินอร่อยและสถานที่สำคัญหลายแห่ง นอกจากนั้นยังมีดีไซน์โดดเด่นด้วยลูกกรงและเหล็กดัดที่ได้ลวดลายและแรงบันดาลใจมาจากตึกเก่าประจำย่าน หรือถ้าคุณเป็นพวกชอบตึกเก่า แนะนำให้ปักหมุดยัง Baan Tuk Din Hotel จากบ้านเก่าอายุ 125 ปี สู่ที่พักและบาร์แจ๊สแสนเซ็กซี่ แถมคุณสามารถออกเดินเล่นยังย่านเสาชิงช้า ถนนดินสอ หาของกินอร่อยๆ ได้อีกด้วย หรือถ้าหากยังไม่ใช่สเปก แนะนำให้คลิกเข้าไปดูใน LISTING: 10 Airbnb น่านอนในกรุงเทพฯ มีทั้งดีไซน์สวย นอนอุ่น ชวนเพื่อนมาแฮงเอาต์ได้: https://thestandard.co/listing-10-airbnb-bkk

 

Where: กรุงเทพฯ และปริมณฑล

Budget: เริ่มต้นที่ 1,895 บาท

 

วันหยุดสงกรานต์

 

13. เปลี่ยนมากิน ดื่ม เที่ยว ออกกำลังกายยามค่ำ

 

ช่วงเวลากลางคืนในเทศกาลสงกรานต์คือช่วงเวลาปลอดภัยของคนตัวแห้ง เรียกว่าไม่เปียกแน่ๆ ยกเว้นเสียว่าเราจะแวะเวียนไปยังสถานที่เล่นน้ำตามผับบาร์ เพราะฉะนั้นสายกิจกรรมอาจต้องผันตัวเองออกมาใช้ชีวิตยามค่ำ ซึ่งกรุงเทพฯ เรามีเยอะมาก ครบทั้งของกิน คาเฟ่ ที่ออกกำลังกาย รวมไปถึงบอร์ดเกมสนุกที่เล่นได้ยันเช้า

 

Recommended: เราแนะนำให้ลอง D-Sports Stadium ที่นี่มีทั้งโซนเครื่องเล่นกีฬากับเกม มีทั้งเบสบอล ฟุตบอล บาสเกตบอล ต่อยมวย และยังมีเครื่องเกม Arcade อีกหลายเครื่อง แต่ถ้าคุณยังไม่ถูกใจ ลองแวะเข้าไปดูในลิสต์นี้ได้ https://thestandard.co/life/30-after-midnight-lifestyle-places

 

Where: สุขุมวิท, สีลม, สาทร 

Budget: ฟรี 

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/30-after-midnight-lifestyle-places

 

ภาพ: Shutterstock, THE STANDARD TEAM, Courtesy of Brand

The post 13 กิจกรรมน่าทำช่วงวันหยุดสงกรานต์ ฉบับคนตัวแห้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Portrait (Taste) of Phetchaburi ชวนตามหารสชาติเฉพาะตัวของ 8 อำเภอเมืองเพ็ชร์ https://thestandard.co/life/portrait-taste-of-phetchaburi Tue, 19 Mar 2024 12:29:20 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=913017 Portrait (Taste) of Phetchaburi

นอกจากงานเทศกาลสุดโรแมนติกประจำปีอย่าง ‘พระนครคีรี-เมือ […]

The post Portrait (Taste) of Phetchaburi ชวนตามหารสชาติเฉพาะตัวของ 8 อำเภอเมืองเพ็ชร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Portrait (Taste) of Phetchaburi

นอกจากงานเทศกาลสุดโรแมนติกประจำปีอย่าง ‘พระนครคีรี-เมืองเพชร’ ครั้งที่ 37 ที่กำลังจัดอยู่ในขณะนี้ ใครที่แวะไปจังหวัดเพชรบุรีในช่วงนี้ เราอยากให้เผื่อเวลาแวะไปชมงานนิทรรศการดีๆ ที่อาคารโบราณโรงงานเพ็ชรปิ่นแก้ว บริเวณตีนเขาวังด้วย

 

‘Portrait (Taste) of Phetchaburi รูปรสแห่งเมืองเพ็ชร์’ นิทรรศการศิลปะสื่อผสมที่นำเสนอเรื่องราวของชุมชนสร้างสรรค์ในจังหวัดเพชรบุรีผ่าน ‘รสชาติ’ ของอาหารที่เป็นมากกว่าอาหาร และยังแสดงถึงประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ธรรมชาติ ไปจนถึงผู้คนที่หลอมรวมจนกลายเป็นรสชาติเฉพาะตัวของเมืองเพชรบุรีที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไปในทั้ง 8 อำเภอ 

 

Portrait (Taste) of Phetchaburi Portrait (Taste) of Phetchaburi

 

ตัวนิทรรศการแบ่งออกเป็นหลายส่วน โดยมีทั้งนิทรรศการหลักและย่อย ได้แก่

 

🔸 Portrait (Taste) of Phetchaburi

 

นิทรรศการภาพถ่ายที่ตั้งอยู่ชั้น 1 อาคารโบราณโรงงานเพ็ชรปิ่นแก้ว ชวนไปรู้จัก 8 อำเภอเมืองเพชรบุรี ย้อนเวลาไปทำความรู้จักกับกิจการขนมของฝากดั้งเดิมแห่งแรกๆ ของเมืองเพชรบุรี พร้อมกับลิ้มรสชาติเมืองเพชรบุรีผ่านผลงานศิลปะหลากหลายประเภทกลับไปเป็นของฝาก 

 

🔸 Tiny Taste of Phetchaburi

 

นิทรรศการอาหารจิ๋ว ผลงานของ พลอยดาว ธีระเวช แห่ง Le Petit Restaurant ที่คราวนี้ยกครัวจากกรุงเทพฯ มาจัดแสดงอาหารจาก 8 อำเภอเมืองเพชรบุรีในเวอร์ชันอาหารจิ๋ว ที่ทั้งน่ารักและอร่อยด้วย

 

🔸 บางควาย’s เทเบิล

 

โปรแกรม Food Journey ที่จะพานักชิมไปรู้จักกับชุมชนบางควาย ชุมชนชาวประมงเล็กๆ ในละแวกชะอำ ผ่านอาหารและการกิน 

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: https://thestandard.co/life/bangkwais-table-cha-am

 

🔸 หนังสือ Portrait (Taste) of Phetchaburi

 

หนังสือที่บันทึกเรื่องราวที่น่าสนใจผ่านอาหาร ผู้คน ประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยว ไปจนถึงของดีที่น้อยคนจะล่วงรู้ของชุมชนสร้างสรรค์และพื้นที่รอบข้างในจังหวัดเพชรบุรีทั้ง 8 อำเภอ เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้จักรสชาติของเพชรบุรีมากกว่าที่เคย 

 

Portrait (Taste) of Phetchaburi Portrait (Taste) of Phetchaburi

 

Portrait (Taste) of Phetchaburi รูปรสแห่งเมืองเพ็ชร์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-23 มีนาคม 2567 เวลา 13.00-21.00 น. ณ โรงงานเพ็ชรปิ่นแก้ว แวะเยี่ยมชมงานแล้วก็เดินเล่นเที่ยวงาน ‘พระนครคีรี-เมืองเพชร’ ต่อได้เลยยาวๆ

The post Portrait (Taste) of Phetchaburi ชวนตามหารสชาติเฉพาะตัวของ 8 อำเภอเมืองเพ็ชร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Food School พื้นที่มอบความรู้ด้านอาหาร ตั้งแต่ทำกินเองที่บ้านจนถึงเป็นเจ้าของกิจการ https://thestandard.co/life/the-food-school Mon, 18 Mar 2024 14:46:27 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=912626 The Food School

โรงเรียนที่แทบจะสอนทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร!   […]

The post The Food School พื้นที่มอบความรู้ด้านอาหาร ตั้งแต่ทำกินเองที่บ้านจนถึงเป็นเจ้าของกิจการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Food School

โรงเรียนที่แทบจะสอนทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร!

 

สำหรับใครที่อยากจะลองก้าวเข้าสู่วงการอาหาร แต่ยังรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี แนะนำให้ลองมาที่ The Food School ที่นี่เป็นโรงเรียนที่พร้อมจะให้ความรู้ด้านอาหารให้กับคุณแบบครบวงจร ที่บอกว่าครบนี่คือ เขามีหลักสูตรให้เลือกเรียนหลากหลายมากๆ และสอนโดยโรงเรียนชั้นทำส่งตรงมาจาก 3 ประเทศ 3 สัญชาติ คือ อาหารไทยจาก Dusit Thani College, อาหารญี่ปุ่นจาก Tsuji และอาหารอิตาเลียนจาก Alma

 

 

หลักสูตรที่นี่ออกแบบมาให้ทุกคนเรียนได้ สำหรับมือใหม่อาจจะเลือกจากหลักสูตรระยะสั้น ฝึกทำเมนูโปรดแบบเข้าใจง่าย หรือถ้าอยากจริงจังขึ้นมาหน่อยแบบที่ทำอาหารเป็น ก็มีหลักสูตรวันสุดสัปดาห์ 88 ชั่วโมง แต่ถ้าอยากจริงจังระดับที่เป็นมืออาชีพ เขาก็มีหลักสูตรที่ได้ประกาศนียบัตร เรียนจัดเต็ม 200 ชั่วโมงไปเลย นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรอีกมากมายให้ได้เลือกกัน

 

 

ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากที่สุด โดยเขาจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ R&D Kitchen เป็นครัวปฏิบัติการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน, Dining Hall พื้นที่ส่วนกลางเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบออร์แกนิกจากทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับคนที่มีใจรักอาหารอีกด้วย

 

 

หนึ่งจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Incubator Kitchens เป็นพื้นที่สำหรับการมอบข้อมูลและ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจอาหารโดยผู้เชี่ยวชาญ สำหรับใครที่สนใจอยากก้าวเข้าสู่วงการนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://thefoodschool.com/th/

 

ภาพ: The Food School

The post The Food School พื้นที่มอบความรู้ด้านอาหาร ตั้งแต่ทำกินเองที่บ้านจนถึงเป็นเจ้าของกิจการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจบุกโรงงานผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสานเถื่อนย่านบางเขน ส่งขายทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล https://thestandard.co/police-head-illicit-isan-sausage-factory/ Fri, 15 Mar 2024 07:23:24 +0000 https://thestandard.co/?p=911498 ไก่ยอ ไส้กรอกอีสาน

วันนี้ (15 มีนาคม) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัต […]

The post ตำรวจบุกโรงงานผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสานเถื่อนย่านบางเขน ส่งขายทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไก่ยอ ไส้กรอกอีสาน

วันนี้ (15 มีนาคม) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทลายโรงงานผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสานเถื่อนย่านบางเขน ตรวจยึดไก่ยอและไส้กรอกอีสานไม่มีเลขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กว่า 729 กิโลกรัม 

 

สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค มีมาตรการในการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อาหารที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดก่อนจำหน่าย ซึ่งอาจนำมาสู่กระแสอาหารสกปรก จึงเฝ้าระวังและสืบสวนหาข่าวเรื่อยมา 

 

ต่อมาพบว่ามีโรงงานไก่ยอและไส้กรอกอีสานเถื่อนย่านบางเขน กทม. ซึ่งโรงงานดังกล่าวส่งไก่ยอและไส้กรอกอีสานขายตลาดขนาดใหญ่ เช่น ตลาดสี่มุมเมืองและตลาดบางกะปิ 

 

เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนหาข่าว พบว่าในพื้นที่เขตบางเขน กทม. มีโรงงานลักลอบผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสานเถื่อน โดยลักลอบผลิตจำนวนมากในสถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ บรรจุส่งขายตามตลาดขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบถึงแหล่งผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสานดังกล่าว 

 

ต่อมาในวันที่ 13 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญามีนบุรี ค้นบ้านพักอาศัยที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสาน ภายในซอยคู้บอน 27 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ตรวจยึด

 

  1. ไก่ยอ ไม่ระบุยี่ห้อ ถุงละ 1 กิโลกรัม จำนวน 17 ถุง
  2. ไก่ยอ ยี่ห้อ KMF ถุงละ 1 กิโลกรัม จำนวน 127 ถุง
  3. ไส้กรอกอีสาน ยี่ห้อหม่ำแซ่บ ถุงละ 1 กิโลกรัม จำนวน 10 ถุง
  4. ถุงบรรจุภัณฑ์ยี่ห้อต่างๆ 3 ยี่ห้อ ได้แก่ KMF, แม่กระบอก และหม่ำแซ่บ รวม 680 ใบ
  5. เนื้อไก่สด จำนวน 450 กิโลกรัม
  6. เครื่องบด จำนวน 1 เครื่อง
  7. เครื่องตีผสม จำนวน 1 เครื่อง
  8. เครื่องยิงไส้กรอก จำนวน 1 เครื่อง
  9. เครื่องเป่าลมไส้กรอกให้แห้ง จำนวน 2 เครื่อง
  10. เครื่องซีล จำนวน 1 เครื่อง
  11. หม้อต้ม จำนวน 3 ใบ
  12. แป้งสำเร็จรูปและส่วนผสมต่างๆ 

 

ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 จำนวน 15 รายการ รวมตรวจยึดไก่ยอ ไส้กรอกอีสาน และส่วนผสมต่างๆ กว่า 729 กิโลกรัม, เครื่องจักร, บรรจุภัณฑ์ และส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตลูกชิ้น รวมกว่า 15 รายการ 

 

โชติกา แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ รับสารภาพว่าผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสานโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และไม่มีเลขสารบบอาหารแต่อย่างใด โดยใช้บ้านพักดัดแปลงเป็นสถานที่ผลิต จากนั้นนำมาแช่ไว้ในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่เพื่อรอการจำหน่ายให้กับลูกค้า ซึ่งเนื้อไก่ที่ใช้เป็นวัตถุดิบซื้อมาจากโรงงานแยกชิ้นส่วนไก่ แล้วนำมาผลิตเป็นไก่ยอและไส้กรอกอีสานที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งขายให้ลูกค้าตามตลาดสดในพื้นที่ กทม. และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ตลาดสี่มุมเมืองและตลาดบางกะปิ 

 

จากนั้นจะมีผู้ค้ารายย่อยมารับสินค้าไปกระจายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่ยอและไส้กรอกอีสานวันละประมาณ 100 กิโลกรัม เฉลี่ยเดือนละ 1,600 กิโลกรัม โดยทำมาแล้วประมาณ 4 ปี 

 

ทั้งนี้ ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์หาสารบอแรกซ์ ชนิดและปริมาณวัตถุกันเสีย และจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบสารต้องห้ามในอาหารเพิ่มเติม จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฐานผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

The post ตำรวจบุกโรงงานผลิตไก่ยอและไส้กรอกอีสานเถื่อนย่านบางเขน ส่งขายทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘ข้าวแช่จิม ทอมป์สัน’ คลายร้อนกับข้าวแช่ระดับตำนานที่มีให้กินเพียงปีละครั้ง https://thestandard.co/life/jim-thompson-a-thai-restaurant Thu, 14 Mar 2024 08:28:23 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=911056 Jim Thompson, A Thai Restaurant

ฤดูข้าวแช่กลับมาอีกครั้ง   เผลอไม่ทันไร จากปีใหม่ก […]

The post ‘ข้าวแช่จิม ทอมป์สัน’ คลายร้อนกับข้าวแช่ระดับตำนานที่มีให้กินเพียงปีละครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Jim Thompson, A Thai Restaurant

ฤดูข้าวแช่กลับมาอีกครั้ง

 

เผลอไม่ทันไร จากปีใหม่ก็เข้าสู่ฤดูร้อนอีกแล้ว และอาหารคู่ฤดูร้อนอย่าง ‘ข้าวแช่’ ก็เวียนกลับมาให้ลิ้มลองกันอีกครั้ง โดยข้าวแช่ร้านแรกที่เราจะพาไปชิมในฤดูกาลนี้ เป็นเซ็ตข้าวแช่จากจิม ทอมป์สัน ที่แม้จะเปลี่ยนเฮดเชฟใหม่มาเป็นเชฟเปเป้ แต่ความอร่อยของข้าวแช่ยังคงน่าประทับใจเช่นเคย

 

 

The Vibe

เซ็ตข้าวแช่จิม ทอมป์สัน จะถูกเสิร์ฟใน Jim Thompson, A Thai Restaurant ร้านอาหารไทยในขอบรั้วเดียวกับพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว ตัวร้านตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 เดินเข้าจากประตูเพียงนิดเดียว ด้านในโอ่โถง สวยงามแบบไทยร่วมสมัย คุมโทนด้วยสีแดงชาดตัดกับสีทอง

 

 

The Taste

เซ็ตข้าวแช่จิม ทอมป์สัน ประกอบไปด้วยข้าวอบควันเทียนและน้ำลอยดอกมะลิ เป็นตัวเอก เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอีก 7 อย่างที่เราคุ้นหูกันดี ได้แก่ ลูกกะปิชุบไข่ทอด, หอมแดงยัดไส้ปลาช่อนหวาน, ไชโป๊ผัดหวาน, ปลายี่สนผัดหวาน, ลูกปลาเค็ม, พริกหนุ่มเขียวยัดไส้ และพริกแห้งยัดไส้ปลาช่อน

 

ความพิเศษของเซ็ตนี้คือความพิถีพิถันของเชฟเปเป้ ที่เลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพจากจังหวัดต่างๆ ทั่วไทย ไม่ว่าเป็นข้าวออร์แกนิกจากฟาร์มไร่ทอง จังหวัดเชียงราย, กะปิรสเลิศหอมเคยจากคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม, ไชโป๊คุณภาพจากราชบุรี หรือเมนูลูกปลาเค็มก็ใช้ไก่แบบเลี้ยงปล่อยผสมปลาอินทรีเค็มแทนไก่จากฟาร์มปิด เป็นต้น

 

 

นอกจากเซ็ตข้าวแช่ที่แสนคุ้นเคย เราสามารถสั่งอาหารไทยจานอื่นในเวอร์ชันทวิสต์ที่แปลกตาออกไปตามฉบับเชฟเปเป้มาลิ้มลองได้ด้วย เช่น ผัดไทยที่ใช้เส้นหมึกดำ หรือข้าวตังที่คล้ายข้าวก้นหม้อของไทย นำมาเสิร์ฟพร้อมเนื้อปูและซอสครีมสูตรพิเศษ เคี้ยวเพลินๆ อร่อยไปอีกแบบ

 

 

Good for

หลังจากลิ้มลองมาแล้ว เราว่าชุดข้าวแช่ของจิม ทอมป์สัน นั้นน่าประทับใจและเป็นหนึ่งในชุดข้าวแช่ที่นักชิมต้องไม่ผิดหวัง สามารถกินได้ทั้งครอบครัว เด็กรุ่นใหม่หรือชาว Gen Z ที่อยากมีประสบการณ์การกินข้าวแช่ครั้งแรกก็เหมาะ ส่วนใครที่นัดกับแก๊งเพื่อน เปลี่ยนเซ็ตน้ำชามาเป็นข้าวแช่ และแวะไปดื่มกันต่อที่ The O.S.S Bar ด้านบนก็ไม่เลว

 

Jim Thompson, A Thai Restaurant

Location: ซอยเกษมสันต์ 2 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

Open: ทุกวัน เวลา 12.00-16.30 น. และ 18.00-23.00 น.

Budget: 950++ บาทต่อชุด สำหรับรับประทานที่ร้าน และเซ็ตกลับบ้านในปิ่นโตและถุงผ้าลิมิเต็ดเอดิชันในราคา 1,900 บาท (เซ็ตสำหรับ 1 ท่าน) และ 2,500 บาท (เซ็ตสำหรับ 2 ท่าน) เสิร์ฟเพียงวันละ 50 ชุดเท่านั้น

Facebook: www.facebook.com/jimthompsonrestaurant.thailand

Website: https://jimthompsonrestaurant.com/restaurant/bangkok

Map: 

 

The post ‘ข้าวแช่จิม ทอมป์สัน’ คลายร้อนกับข้าวแช่ระดับตำนานที่มีให้กินเพียงปีละครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก้าวไกลนัดฝ่ายค้านดินเนอร์ กระชับมิตร เพิ่มความเป็นเอกภาพ 1 ก.พ. นี้ https://thestandard.co/move-forward-party-opposition-dinner/ Wed, 31 Jan 2024 02:25:37 +0000 https://thestandard.co/?p=894119 ก้าวไกลอาหารเย็น

วานนี้ (30 มกราคม) ที่พรรคก้าวไกล พริษฐ์ วัชรสินธุ สมาช […]

The post ก้าวไกลนัดฝ่ายค้านดินเนอร์ กระชับมิตร เพิ่มความเป็นเอกภาพ 1 ก.พ. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก้าวไกลอาหารเย็น

วานนี้ (30 มกราคม) ที่พรรคก้าวไกล พริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการนัดรับประทานอาหารเย็นกระชับมิตรของแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็น 1 วันหลังจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

 

พริษฐ์กล่าวว่า เรื่องวันที่ประจวบเหมาะกัน น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ ความจริงการหารือร่วมกันระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นประจำ เพื่อให้การทำงานร่วมกันมีเอกภาพ แม้ว่าการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาจไม่ได้มีลักษณะเดียวกันกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอาจไม่ได้มีการรวมตัวกันเป็นกิจจะลักษณะ แต่การหารือแนวทางการทำงานร่วมกันก็เป็นเรื่องสำคัญ

 

ส่วนเรื่องหัวข้อในการอภิปรายทั่วไป พริษฐ์กล่าวว่า เคยถูกพูดคุยอย่างเป็นทางการในการประชุมมาแล้วเบื้องต้น แม้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจเรื่องวันเวลา แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากงบประมาณปี 2567 ผ่าน 3 วาระไปแล้ว ซึ่งเวลาที่เป็นไปได้สุดคือช่วงต้นเดือนเมษายน ก่อนที่จะปิดสมัยประชุม ส่วนจะเป็นแบบลงมติหรือไม่ต้องหารืออีกที

 

ขณะที่อาจมีการเปรียบเทียบกับการรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น พริษฐ์กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีนี้เป็นการหารือทั่วไปที่เกิดขึ้นโดยปกติอยู่แล้ว 

 

“ในระบบรัฐสภา ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ไม่ได้มีลักษณะเหมือนกัน พรรคร่วมฝ่ายค้านในหลายประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภาอาจมีจุดยืนที่เหมือนและแตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี เพราะอาจไม่ได้ตั้งใจมารวมกันเพื่อเป็นฝ่ายค้าน แต่เป็นกลุ่มพรรคที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งรัฐบาลเท่านั้น”

 

พริษฐ์กล่าวย้ำอีกว่า จุดไหนที่เห็นตรงกันก็ร่วมมือกันได้ และจะพยายามร่วมมือกันอย่างเป็นเอกภาพที่สุด ในมุมของพรรคก้าวไกล ตั้งเป้าจะให้เวทีสภาผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ในวันที่เราเป็นเสียงข้างน้อย เราจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจาก สส. ทั้งพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลด้วย หากมีวาระใด ที่ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดที่จะมาร่วมกับเรา ก็เป็นหน้าที่และความต้องการของเราที่จะแสวงหาความร่วมมืออยู่แล้ว

 

สำหรับช่วงเวลาในการนัดรับประทานอาหารนั้น พริษฐ์เผยว่า เท่าที่ทราบคือช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ หลังการประชุมสภา เป็นร้านในละแวกรัฐสภา แต่รายละเอียดชื่อร้านขอให้รอการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

The post ก้าวไกลนัดฝ่ายค้านดินเนอร์ กระชับมิตร เพิ่มความเป็นเอกภาพ 1 ก.พ. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Food Trends 2024 เทรนด์วงการอาหารและเครื่องดื่มที่จะมาแรงในปีนี้ https://thestandard.co/life/food-trends-2024 Fri, 05 Jan 2024 03:00:50 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=884295

ปีที่ผ่านมาวงการอาหารและเครื่องดื่มมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย […]

The post Food Trends 2024 เทรนด์วงการอาหารและเครื่องดื่มที่จะมาแรงในปีนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ปีที่ผ่านมาวงการอาหารและเครื่องดื่มมีอะไรเกิดขึ้นมากมายจริงๆ จนในปี 2024 เราเองก็ตั้งตารอเหมือนกันว่าอะไรจะมาแรง อะไรจะไปเร็ว หรือจะเกิดเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ น่าจับตามองอย่างไรบ้าง

 

ถ้าใครพร้อมเริ่มต้นปี 2024 ด้วยเอเนอร์จี้ใหม่ๆ ด้วยการออกไปกินดื่มแบบไม่หยุดพัก เอ็นจอยอีทติ้งจนกว่าจะเจอสิ่งที่ใช่ มาดูกันเลยว่าเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่จะมาแรงในปีนี้ มีอะไรบ้าง?

 


 

 

1. It’s All About the Process

 

พวกเราจะหันมาใส่ใจขั้นตอนการทำอาหาร เลือกเมนูที่กิน เมนูที่สั่งมากขึ้น ทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม อีกทั้งไม่ใช่แค่ในร้านอาหารทั่วไป แต่รวมถึงอาหารมื้อด่วน อาหารเดลิเวอรี อาหารในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำด้วย เพราะคนในยุคนี้หันมากินอาหารนอกบ้านจริงจังมากขึ้น เนื่องจากร้านใหม่ๆ น่าสนใจเปิดอยู่ทุกเส้นถนน เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครอยากกินของไม่ดีต่อสุขภาพบ่อยๆ จริงไหม?

 

ร้านอาหารจึงต้องเจอคำถามว่า เมนูนี้ทำอย่างไร ใช้ซอสแบบไหน ใส่น้ำตาลเยอะหรือเปล่า ผสมอะไรลงไปบ้าง บ่อยขึ้นแน่นอน

 


 

 

2. Slushyyy!

 

ขอสันนิษฐานว่าเกิดจากเมนูสลัชชี่ชาไทยที่ทำให้ ‘สลัชชี่’ กลายเป็นเครื่องดื่มฮิตขึ้นมา ตอนนี้จึงมีหลายคาเฟ่และค็อกเทลบาร์บางแห่งเริ่มมีเมนูสลัชชี่บ้างแล้วเหมือนกัน แถมยังเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ สดชื่นเหมาะกับฤดูร้อนช่วงต้นปีของประเทศไทยด้วย เพราะฉะนั้น เราอาจได้เห็นอีกหลายร้านทำเมนูนี้มาให้ลองแน่นอน

 


 

 

3. Restaurants by World-Class Chefs

 

นอกจากเชฟชื่อดังทั้งเบอร์เล็ก เบอร์ใหญ่ จะเดินทางมาทำอาหารในประเทศไทยบ่อยๆ ปีนี้เราเชื่อว่าเชฟเหล่านั้นจะพาร้านดังของตัวเองมาเปิดในประเทศไทยมากขึ้นด้วย หรืออาจเป็นป๊อปอัพชวนทุกคนจองคิวมาลองกัน และนักชิมที่ไม่เคยพลาดของกินดีๆ ก็จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ

 


 

 

4. Asian Food Rising

 

พูดได้เต็มปากแล้วว่าหมดยุคของพาสต้าเส้นสดและพิซซ่าซาวโดว์ (แต่ถ้าใครยังกินอยู่ก็ไม่ผิดนะ) เพราะปีนี้ถึงเวลาของอาหารเอเชีย! ไม่ว่าจะเป็นจีน ไทย ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ก็จะกลับมาป๊อปปูลาร์ทั้งนั้น และไม่ใช่แค่เมนูเดิมๆ อย่างหม่าล่าหรือปิ้งย่าง พวกเราจะได้เจอทั้งขนมหวาน ร้านอาหารใหม่ๆ เมนูใหม่ๆ มาเปิดตัวกันให้พรึ่บ

 


 

 

5. No Food Waste, More Sustainable

 

หลายคนได้ยินคำเหล่านี้จนเบื่อ แต่เชื่อเราเถอะว่าในปีนี้ ร้านอาหารและเชฟส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้แทบทุกอณู ทำให้พวกเราเองก็จะมองหาสิ่งเหล่านี้บ้างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบยั่งยืน เมนูที่กินแล้วดีต่อสิ่งแวดล้อม ร้านที่ใช้วัตถุดิบสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น หรือร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบแบบไม่เหลือทิ้ง เป็นต้น

 


 

 

6. Bring Back the Classic

 

หลายคนเริ่มมองหาความเรียบง่าย ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย ทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม เพราะที่ผ่านมามีร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ที่เสิร์ฟและตกแต่งอย่างฟู่ฟ่าเต็มไปหมด ทำให้ในปีนี้เมนูที่เรียบง่าย ดั้งเดิม แต่รสชาติดีจะได้รับความนิยมในทุกวงการ

 


 

 

7. Wallet & Taste Friendly

 

‘ถ้าหากอร่อย ไม่ว่าใครก็ยอมจ่าย’ นี่จะกลายเป็นคอนเซปต์ในการเลือกเดินเข้าร้านอาหารของคนในยุคนี้ ทุกคนจะมองหาความคุ้มค่า ต่อให้ราคาสูงหน่อย แต่ถ้าหากอร่อย ใช้วัตถุดิบดี ไม่ว่าใครก็พร้อมกลับไปกินซ้ำ เพราะเรื่องกินไม่เคยเป็นเรื่องเล่นๆ ไม่มีใครอยากเดินออกจากร้านแบบผิดหวังหรอก จริงไหม?

 


 

 

8. Taste Like Home

 

ร้านอาหารรสมือแม่ ใช้ตำราอาหารเก่าแก่ หรือเสิร์ฟรสชาติสไตล์โฮมคุกจะกลายเป็นร้านจองยาก (กว่าเดิม) และได้รับความนิยมมากในปีนี้ เพราะอย่างที่บอกว่าหลายคนกินข้าวนอกบ้านมากขึ้น จึงโหยหาความเรียบง่าย กับข้าวบ้านๆ ที่รสชาติอร่อย ร้านอาหารที่เจ้าของสูตรลงมือทำเองอย่างพิถีพิถันจึงกลายเป็นร้านพิเศษของหลายๆ คนขึ้นมา เพราะฉะนั้น ถ้าใครเล็งร้านไหนไว้ก็รีบจองคิวเลย 

 


 

 

9. Food Tour & Eating Festival

 

ปีที่ผ่านมาทุกคนให้ความสนใจกับงานอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้นเยอะ ในปีนี้เราจึงเชื่อว่าทุกอย่างจะจัดเต็มขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมแน่นอน โดยเฉพาะกิจกรรม Food Tour หรือเวิร์กช็อปต่างๆ ที่จะได้รับความนิยม เพราะใครบ้างจะไม่ชอบการเดินเล่น แวะกินของอร่อยๆ ไปตามทาง แถมยังมีเพื่อนเอ็นจอยอีทติ้งเดินไปพร้อมๆ กันอีก

 


 

 

10. Health Focus & Mindful Eating

 

ไม่ใช่แค่การกินอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่จะเลือกกินตามประโยชน์ที่ร่างกายต้องการมากขึ้น อย่างเช่น เพิ่มธัญพืชในจานเพราะต้องการแร่ธาตุและวิตามิน ดื่มมัทฉะเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือกินเมนู Plant-based บ่อยขึ้น เพราะดีต่อทั้งโลกและร่างกาย

 


THE STANDARD LIFE NOW​ AND NEXT 2024

 

 

The post Food Trends 2024 เทรนด์วงการอาหารและเครื่องดื่มที่จะมาแรงในปีนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
8 วิธีลดความโหยหิว แก้นิสัยกินจุบจิบหลังปาร์ตี้ปีใหม่ https://thestandard.co/life/8-ways-reduce-hunger-appetite Fri, 05 Jan 2024 00:46:43 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=884450 8 วิธีลดความโหยหิว

ก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่แบบนี้ เราเชื่อว่าใครหลายคนอาจยังห […]

The post 8 วิธีลดความโหยหิว แก้นิสัยกินจุบจิบหลังปาร์ตี้ปีใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
8 วิธีลดความโหยหิว

ก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่แบบนี้ เราเชื่อว่าใครหลายคนอาจยังหวนรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในเดือนธันวาคมที่ผ่านมากันอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นทริปพักร้อนหรือโมเมนต์แห่งการสังสรรค์ จัดเต็มกับอาหารจานอร่อยและดริงก์แก้วโปรดติดกันหลายวัน หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ยังรู้สึกติดลมกับการเอ็นจอยมื้ออาหาร อยากกินจุบกินจิบอยู่ตลอดเวลาแต่ก็รู้สึกผิดกับตัวเอง ลองมาดู 8 วิธีลดความโหยหิวที่ LIFE นำมาบอกต่อกัน

 

1. เลี่ยงเริ่มต้นวันด้วยน้ำตาล

โดนัทเคลือบน้ำตาล แพนเค้กราดไซรัป เดนิชผลไม้ แทนที่จะเริ่มต้นวันด้วยเบเกอรีหวานฉ่ำในตอนเช้า ลองเปลี่ยนเป็นโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนแบบไม่หวาน เพราะการที่เรากินน้ำตาลในช่วงท้องว่างนั้น ร่างกายจะย่อยและดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการหลั่งอินซูลินในปริมาณมาก เมื่ออินซูลินมีปริมาณมากเกินไป น้ำตาลในเลือดก็จะตกลง และส่งผลให้หิววนไปอีกรอบ

 

2. เน้นโปรตีนไว้ก่อน

ด้วยความที่มื้ออาหารในช่วงเฟสทีฟส่วนใหญ่จะหนักไปทางแป้งและไขมัน ในช่วงปรับตัวนี้ลองหันมากินโปรตีนให้มากขึ้น เพราะโปรตีนมีส่วนช่วยลดฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ที่ส่งผลต่อความหิว ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของแป้งและไขมันก็ยังกินได้ เพียงแต่คุมปริมาณและเลือกกินประเภทแป้งและไขมันที่ดี เช่น ข้าวกล้อง, ขนมปังไม่ขัดสี, อะโวคาโด, ถั่ว, อัลมอนด์ เป็นต้น

 

3. กินอาหารไฟเบอร์สูง

การกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยให้ร่างกายใช้เวลาในการย่อยนาน ส่งผลให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความอิ่ม ลดความอยากกินจุบจิบระหว่างวันได้ นอกจากนี้ยังมีผลวิจัยอีกว่า พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วลันเตา, ถั่วลูกไก่, ถั่วเลนทิล สามารถเพิ่มความรู้สึกอิ่มท้องได้มากถึง 31% เลยทีเดียว  

 

4. ดื่มน้ำก่อนเริ่มมื้ออาหารและจิบตลอดวัน

เคยสังเกตไหมว่าวันไหนที่ดื่มน้ำน้อย เราจะรู้สึกหิวมากขึ้น ความจริงแล้วอาการหิวที่ว่าอาจเป็นเพราะกระหายน้ำก็เป็นได้ ลองดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารสัก 30 นาที เพื่อป้องกันการกินในปริมาณที่มากเกินไป และที่สำคัญคืออย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ แนะนำให้พกกระติกน้ำไว้จิบตลอดวัน 

 

คำถามคือ “เราควรจะดื่มน้ำกี่ลิตรต่อวัน?” ประเด็นนี้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเผยว่า ไม่มีสูตรตายตัว ปริมาณของน้ำที่ควรดื่มต่อวันขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน   

 

5. กินให้ช้า เคี้ยวให้ละเอียด

ชั่วโมงที่เร่งรีบทำให้เราต้องรีบคว้าอาหารเข้าปากและเคี้ยวไปส่งๆ ก่อนบึ่งไปทำงาน ผลที่ตามมาคืออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย บ้างก็อาจทำให้กินมากขึ้นเพราะร่างกายไม่มีช่วงเวลาให้ส่งสัญญาณไปยังสมองว่าอิ่มแม้แต่น้อย ลองปรับให้ตัวเองได้ใช้เวลาในการกินให้นานขึ้น เคี้ยวอาหารให้ละเอียดอย่างตั้งใจ นอกจากจะช่วยให้รู้สึกอิ่มไวขึ้นแล้ว ระบบขับถ่ายจะดีขึ้นอีกด้วย 

 

6. แปรงฟันหลังมื้ออาหาร

โดยธรรมชาติเราจะไม่ค่อยรู้สึกอยากกินอะไรหลังการแปรงฟันก่อนนอนด้วยความรู้สึกสะอาดของช่องปาก ใครที่ติดกินจุบจิบแบบหยุดไม่ได้ ลองหันมาแปรงฟันหลังมื้ออาหารกันดู นอกจากจะช่วยลดความโหยหิวแล้ว ยังช่วยให้ช่องปากสะอาด ลดปัญหาคราบหินปูนไปในตัว 

 

7. นอน 7-9 ชั่วโมง

แม้จะเจอกองงานหลังปีใหม่เป็นพะเนินแค่ไหนก็ต้องหาทางบาลานซ์ชีวิตให้ดีโดยเฉพาะเรื่องการนอน เคยสังเกตไหมว่าวันไหนที่เรานอนน้อย ร่างกายจะไม่เพียงแค่ดูไม่กระปรี้กระเปร่าแต่ยังรู้สึกหิวบ่อย บ้างก็น้ำหนักขึ้น ทั้งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่มีผลต่อความอยากอาหาร ซึ่งการที่เวลานอนลดลงจะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนความอิ่มลดลง ในขณะเดียวกันก็ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนความหิวเพิ่มขึ้น และการมีช่วงเวลาที่ตื่นเพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้มีระยะเวลาการกินมากขึ้นเช่นกัน 

 

แน่นอนว่าเมื่อกินมากเกินที่ร่างกายต้องการ ตัวเลขบนตาชั่งก็จะเพิ่มขึ้นในท้ายที่สุด ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี วัยผู้ใหญ่ควรจะนอนหลับพักผ่อนโดยเฉลี่ยที่ 7-9 ชั่วโมง 

 

8. อย่าเครียด

ใครหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีกับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียด ยิ่งเราเครียดมากร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากตาม และผลที่ตามมาคือความอยากอาหารที่เพิ่มมากขึ้น 

 

นอกจากนี้ฮอร์โมนคอร์ติซอลยังมีหน้าที่ในการปรับระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย เมื่อร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากกว่าปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงรู้สึกโหยน้ำตาลเวลาเครียดนั่นเอง  

 

อย่างไรก็ตาม บางครั้งความเครียดอาจส่งผลให้ความอยากอาหารลดลงได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าการกินไม่ได้นอนไม่หลับคงไม่ส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาวแน่ ดังนั้นเมื่อรู้ตัวแล้วว่ากำลังเครียด ลองหากิจกรรมง่ายๆ ทำ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย เล่นโยคะ นอนฟังเพลง จิบชาคาโมมายล์อุ่นๆ ดูหนังเรื่องโปรด เป็นต้น

 

อ้างอิง:

The post 8 วิธีลดความโหยหิว แก้นิสัยกินจุบจิบหลังปาร์ตี้ปีใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สำรวจ 8 วิธีที่ช่วยให้ความจำดีขึ้น https://thestandard.co/life/8-memory-boost-tips Mon, 18 Dec 2023 10:03:30 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=878145 ความจำ

การมีความจำที่ดีสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในหลายๆ […]

The post สำรวจ 8 วิธีที่ช่วยให้ความจำดีขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
ความจำ

การมีความจำที่ดีสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือแม้แต่การดำเนินชีวิตประจำวัน ต่อไปนี้คือ 8 เคล็ดลับที่ LIFE คัดสรรมาฝากผู้อ่าน หวังว่าการนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้ความจำของคุณดีขึ้น และแน่นอนว่านอกจากความจำดีแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพจิตและร่างกายของคุณแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

 

 

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยให้สมองแข็งแรงด้วย การออกกำลังกายสามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังสมอง ซึ่งช่วยในการทำงานของความจำ

 

 

การนอนหลับที่เพียงพอ

เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการฟื้นฟูและซ่อมแซมสมอง การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ความจำและความสามารถในการเรียนรู้ลดลง 

 

 

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

โดยเน้นรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ปลา ผลไม้ และผัก ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

 

 

การฝึกสมอง

ไม่ว่าจะเป็นเกมไขปริศนา การเล่นหมากรุก หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ การฝึกใช้อวัยวะข้างที่ไม่ถนัด ช่วยให้สมองของคุณแข็งแรงและยืดหยุ่นเหมือนได้ออกกำลังกายสมองไปในตัว

 

 

การฝึกจำ

ควรฝึกการใช้เทคนิคการจำ เช่น การใช้เรื่องราวหรือการเชื่อมโยงภาพ การจับคู่ภาพหรือสัญลักษณ์ ช่วยให้จำข้อมูลได้ง่ายขึ้น 

 

 

พยายามลดความเครียด

ความเครียดที่มีมากเกินไปสามารถทำลายความจำของคุณได้ ให้ลองมาฝึกโยคะ การทำสมาธิ หรือหาเวลาพักผ่อนสมอง จะช่วยลดความเครียดได้ดี ซึ่งส่งผลดีต่อความจำในสมอง

 

ทำสมาธิ

การฝึกสมาธิช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อหรือโฟกัสอะไรได้นานขึ้น แถมยังช่วยฝึกความจำของสมองให้ดียิ่งขึ้นด้วย

 

การเข้าสังคม

การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและการมีชีวิตทางสังคมที่ดีช่วยให้สมองและความจำของคุณแข็งแรง อย่าทำอะไรซ้ำเดิม อยู่คนเดียวแบบห่อเหี่ยว ให้ออกไปรับแสงแดด พบปะคนใหม่ๆ ให้สุขภาพจิตสดใส สมองก็จะสดใสตาม 

The post สำรวจ 8 วิธีที่ช่วยให้ความจำดีขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>