อาหารไทย – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 30 Jan 2025 01:16:21 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ชิมสำรับอาหารไทยสไตล์ Nusara ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่มาพร้อมวิววัดโพธิ์ https://thestandard.co/life/nusara-fine-dining-wat-pho Fri, 31 Jan 2025 00:30:19 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1035925 nusara-fine-dining-wat-pho

หลังจากได้ยินชื่อเสียงมานานตั้งแต่สมัย ‘Nusara (นุสรา)’ […]

The post ชิมสำรับอาหารไทยสไตล์ Nusara ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่มาพร้อมวิววัดโพธิ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
nusara-fine-dining-wat-pho

หลังจากได้ยินชื่อเสียงมานานตั้งแต่สมัย ‘Nusara (นุสรา)’ ยังอยู่ในซอยท่าเตียน จนกระทั่งย้ายมาอยู่ในตึกใหม่ริมถนนมหาราช พร้อมวิววัดโพธิ์ที่สวยสะกดจนแม้แต่คนไทยเองมาเห็นก็เชื่อว่าต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาชิมอาหารไทยของร้านแห่งนี้ที่ครองรางวัลมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรางวัลอันดับ 6 บนลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurants ประจำปี 2024

 

Nusara Thai Dining

Nusara Thai Dining

Nusara Thai Dining

 

เมนูที่เราได้มาลิ้มรสในครั้งนี้เป็นเมนูประจำฤดูหนาว เสิร์ฟมาในรูปแบบสำรับ 12 คอร์สที่ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ผู้อยู่เบื้องหลังร้านแห่งนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณยายนุสราของเขา อาหารไทยที่ Nusara จึงใส่ความทันสมัยลงไปเหมือนกับอุปนิสัยของคุณยายที่เชฟจำได้ ทว่ารสชาติยังมีความไทยๆ แบบที่คนไทยกินแล้วก็ยังถูกปาก

 

Nusara Thai Dining

Nusara Thai Dining

Nusara Thai Dining

 

หลังจากขึ้นไปนั่งจิบเครื่องดื่มต้อนรับที่ชั้นบน ทุกคนจะได้ลงมานั่งรับประทานที่ห้องอาหารซึ่งมาพร้อมวิววัดโพธิ์ตอนกลางคืน โดยเมนูแรกที่เสิร์ฟคือ ‘ปลากับดอกดาหลา’ เป็นเมี่ยงปลาที่กินแบบเมี่ยงคำ ก่อนตามด้วย ‘ยำปลาหมึก’ ที่สไลซ์หมึกเป็นเส้นๆ กินพร้อมน้ำยำที่รสชาติสดชื่นจากมะเขือเทศ

 

Nusara Thai Dining

 

‘แกงปูใบชะพลูกับหมี่กรอบ’ เป็นเมนูที่เราชอบ เพราะรสชาติจัดจ้านและหอมเครื่องแกง แถมเชฟใส่ไข่แมงดาเพิ่มความกรอบนุ่มด้วย

 

Nusara Thai Dining

Nusara Thai Dining

 

หลังจาก ‘ต้มข่าปลาสลิด’ ก็เข้าสู่สำรับอาหารที่มีกับข้าวหลายอย่าง เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย ได้แก่ พะแนงเนื้อสูตรโบราณ แกงรสชาติหอมเข้มข้นที่ใส่ยอดมะพร้าวดอง, ยำถั่วพูกุ้งแม่น้ำ ใช้ถั่ว 3 ชนิดคลุกกับมันเนื้อวากิว ราดน้ำสลัด ไข่แดงไชยา และครีมกะทิ

 

น้ำพริกสี่ภาค, ซุปเนื้อต้มยำ และ ผัดเนื้อซอสกะเพราแดง ที่ด้านบนท็อปด้วยไข่แดงเค็มไชยา จานนี้เราชอบมาก ยิ่งกินกับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งถูกใจ

 

Nusara Thai Dining

Nusara Thai Dining

 

หลังจากนั้นเข้าสู่เมนูของหวาน เชฟเสิร์ฟ ‘ฝรั่งชมพูพันธุ์ทิพย์กับดอกกระเจี๊ยบ’ ให้ล้างปาก ก่อนตามด้วย ‘สาคูมะพร้าวอ่อน’ ที่ใช้สาคูแท้จากต้น ถ้าใครได้ชิมแล้วจะรู้สึกถึงความต่างแน่นอน

 

ก่อนปิดท้ายด้วยขนมชิ้นเล็กๆ อีกหลายเมนู เช่น แซนด์วิชไอศกรีมชาไทย, ช็อกโกแลตน้ำปลาคาราเมล, เยลลี่สับปะรด หรือผลไม้ตามฤดูกาลกับน้ำปลาหวาน

 

Nusara Thai Dining

Nusara Thai Dining

 

เราชอบที่ Nusara นำอาหารไทยมาทำใหม่แบบที่ยังมีกลิ่นอายอาหารไทยดั้งเดิมอยู่ แถมรสชาติก็เข้าใจง่าย ครบรส และเลือกความเผ็ดได้ด้วย เนื่องจากที่นี่มีชาวต่างชาติแวะมาเยอะพอตัว โดยคอร์สเมนูนี้ราคา 5,990++ บาทต่อคน แนะนำเครื่องดื่มแพริ่งซึ่งมีให้เลือกทั้งไวน์ ค็อกเทล และม็อกเทล

 

สอบถามเพิ่มเติมหรือจองที่นั่งได้ที่ Nusara – นุสรา 

The post ชิมสำรับอาหารไทยสไตล์ Nusara ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่มาพร้อมวิววัดโพธิ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception ชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย พร้อมหารือดึง Salesforce ร่วมลงทุนระบบคลาวด์ภาครัฐ https://thestandard.co/thailand-reception-event/ Thu, 23 Jan 2025 00:29:30 +0000 https://thestandard.co/?p=1033265 Thailand-Reception-Event

วันนี้ (22 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส สมาพันธรัฐ […]

The post นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception ชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย พร้อมหารือดึง Salesforce ร่วมลงทุนระบบคลาวด์ภาครัฐ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Thailand-Reception-Event

วันนี้ (22 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวเปิดงาน Thailand Reception ในการประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 (WEF AM 2025) 

 

นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขอบคุณพันธมิตรไทยที่ให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความงดงามและจิตวิญญาณของประเทศไทย ตลอดจนความแข็งแกร่งทั้งในด้านซอฟต์พาวเวอร์ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมถึงอาหารไทยที่แฝงไปด้วยภูมิปัญญาและความพิถีพิถันของบรรพบุรุษ สามารถนำมาต่อยอดผสมผสานความทันสมัยและนวัตกรรม รองรับความต้องการด้านอาหารที่หลากหลายในโลก

 

โดยนายกรัฐมนตรีเชิญชวนผู้เข้าร่วมงานสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารไทย เช่น เมนูต้มยำกุ้งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ พร้อมย้ำว่าไทยกำลังพัฒนาในภาคเกษตรกรรม ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI, หุ่นยนต์ และการเกษตรแม่นยำ เพิ่มคุณภาพ ลดขยะ และเพิ่มผลผลิต เพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคต 

 

ไทยยังพร้อมเป็นผู้นำพัฒนาธุรกิจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในระดับโลก พร้อมเชิญชวนให้ผู้ลงทุนพิจารณาไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการลงทุน เนื่องจากประเทศไทยเต็มไปด้วยโอกาสและศักยภาพทางเศรษฐกิจ

 

ขยายความร่วมมือการค้าการลงทุนบังกลาเทศ

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหารือกับ ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุส ประธานคณะที่ปรึกษารัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการเร่งขับเคลื่อน FTA ระหว่างไทยกับบังกลาเทศ เพื่อเพิ่มการค้าระหว่างกัน โดยมีเป้าหมายมูลค่าการลงทุนประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ขณะที่ศาสตราจารย์มูฮัมหมัดชื่นชมที่ไทยนำแนวคิดการปล่อยสินเชื่อขนาดเล็กไปปรับใช้ในโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุนแก่ผู้มีรายได้น้อยให้มีอาชีพและชีวิตที่ดีขึ้น และมีแนวทางสอดคล้องกันในการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้มีบทบาททั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง 

 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวเชิญศาสตราจารย์มูฮัมหมัดเป็นผู้บรรยายพิเศษในการประชุม Young Gen Forum ที่ไทยจะจัดในห้วงการประชุม BIMSTEC Summit ครั้งที่ 6 ในวันที่ 4 เมษายน 2568 ที่กรุงเทพฯ ก่อนจะส่งมอบตำแหน่งประธาน BIMSTEC ให้แก่บังกลาเทศ  

 

ดึง Salesforce ร่วมลงทุนระบบคลาวด์ภาครัฐ 

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีหารือกับ ซาบาสเตียน ไนล์ส ประธานฝ่ายกฎหมายและกิจการองค์กรบริษัท Salesforce บริษัทซอฟต์แวร์และผู้ให้บริการคลาวด์สัญชาติอเมริกัน 

 

ทั้งสองฝ่ายเห็นถึงโอกาสความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่ดิจิทัลทั้งในภาคธุรกิจและภาครัฐ รวมถึงความร่วมมือในการพัฒนา SMEs สตาร์ทอัพดิจิทัล และการบริการคลาวด์และ AI

 

นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการสร้างความต่อเนื่องในนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสีเขียว รวมถึงการเชิญชวนนักลงทุนจากต่างประเทศลงทุนใน Data Center และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล 

 

โดยเชิญชวนให้บริษัท Salesforce เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบาย Cloud First ของรัฐบาล เพื่อปรับปรุงการบริการภาครัฐให้ทันสมัยและเพิ่มความรู้ด้านดิจิทัลแก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตลาดงานดิจิทัล รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการยกระดับทักษะแรงงานด้วย

 

นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception

The post นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception ชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย พร้อมหารือดึง Salesforce ร่วมลงทุนระบบคลาวด์ภาครัฐ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯ เปิดงานซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ชูโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟ ผลักดันเป็นทูตวัฒนธรรมเผยแพร่อาหารไทยสู่ต่างชาติ https://thestandard.co/pm-paetongtarn-soft-power-food/ Thu, 19 Dec 2024 09:24:03 +0000 https://thestandard.co/?p=1021483

วันนี้ (19 ธันวาคม)​ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น […]

The post นายกฯ เปิดงานซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ชูโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟ ผลักดันเป็นทูตวัฒนธรรมเผยแพร่อาหารไทยสู่ต่างชาติ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (19 ธันวาคม)​ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ ‘Soft Power Food’ กับการพัฒนาประเทศไทย โดยมีรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเชฟชื่อดังเข้าร่วม เช่น ชุมพล แจ้งไพร 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของซอฟต์พาวเวอร์ในฐานะเครื่องมือที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (One Family One Soft Power: OFOS) ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ 14 สาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทย เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทรงพลังที่สุด เพราะเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ กระทรวงอุตสาหกรรมผลักดันโครงการดังกล่าว และมีเป้าหมายสร้างงานและอาชีพกว่า 75,000 ตำแหน่ง เพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ กว่า 3.5 พันล้านบาท

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้เป็นงานสำคัญที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ แน่นอนว่าอาหารไทยของเราเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วทั่วโลก แต่วันนี้เราต้องการยกระดับอาหารไทยให้มีหลักเกณฑ์ให้ทุกพื้นที่พัฒนาอย่างมีรูปแบบ โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย จะช่วยพัฒนาศักยภาพของประชาชนที่มีทักษะทำอาหารอยู่แล้วให้มีโอกาสเรียนรู้ มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เมื่อเข้าหลักสูตรนี้จบแล้วก็จะสามารถเป็นเชฟที่เป็นมืออาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองได้ และยังเผยแพร่สูตรอาหารของตัวเองได้

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากหลักสูตรนี้มุ่งหวังให้เชฟทุกคนพร้อมเผยแพร่อาหารไทยในแบบต้นตำรับ ซึ่งอาหารไทยมีหลายแบบ ทุกท่านอาจเคยชิน แต่อาจไม่ทราบว่าเมนูต่างๆ เรียกว่าอะไร ซึ่งในหลักสูตรจัดอาหารไว้หลากหลาย ทั้งอาหารโบราณ อาหารชาววัง อาหารประจำถิ่นที่แต่ละภาคมีความแตกต่างกันออกไป เชื่อว่าคนไทยมีฝีมือมาก หลายคนทำอาหารที่บ้าน อาศัยองค์ความรู้ที่สืบทอดต่อกันมาจากครอบครัว แต่เมื่อเข้าหลักสูตรแล้วก็จะรู้วิธีประกอบอาหารได้ตามหลักสูตร รวมถึงได้ใบประกาศว่าผ่านขั้นตอน ผ่านความรู้ที่เป็นระบบมา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเรื่องการหางานได้ง่ายขึ้น

 

นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า เมื่อเราผลิตเชฟอาหารไทย ยังสามารถเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้ ซึ่งนอกจากสร้างงาน สร้างรายได้แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมทูตวัฒนธรรมไปยังประเทศต่างๆ เพราะในหลายประเทศที่เป็นเมืองท่องเที่ยวจะมีร้านอาหารไทย ตนเชื่อว่าอาหารไทยเป็นอาหารโปรดของชาวต่างชาติหลายคน 

 

เมื่อมีหลักสูตรและได้ไปเผยแพร่วัฒนธรรมไทยอย่างถูกต้อง ก็เหมือนเป็นการส่งตัวแทนคนไทย ทั้งรูปแบบการปรุงอาหาร การรับประทานแบบไทย ทำให้ต่างชาติหลายคนที่ไม่เคยเดินทางมาประเทศไทยได้เรียนรู้ประเทศไทยจากร้านอาหารไทย ดังนั้น การที่เราผลิตเชฟอาหารไทยที่มีคุณภาพจึงเป็นประโยชน์ทั้งในเรื่องอาหารและวัฒนธรรม

 

ส่วนสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการส่งออกอาหารไทย ทั้งวัตถุดิบ พืชผลทางการเกษตร จะต้องพัฒนาด้านเทคโนโลยี ทั้งการแช่แข็ง การถนอมอาหาร เพื่อให้วัตถุดิบเหล่านั้นมีอายุนานขึ้นและรสชาติยังคงเดิมเหมือนที่รับประทานในประเทศไทย นอกจากจะเป็นการพัฒนาคนแล้ว ยังพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารได้อีกด้วย โดยต้องเริ่มตั้งแต่เกษตรกรไปยังภาคอุตสาหกรรม เพื่อส่งออกอาหารที่ดีและเชฟที่ดีให้ต่างชาติได้รับรู้

 

“เราอยากให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและเป็นครัวของโลก ดิฉันไปที่ประเทศไหนก็พูดเรื่องนี้อย่างเต็มปากว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นความมั่นคงทางอาหารให้ทั่วโลก ซึ่งบางประเทศมีความไม่สงบหรือการเกษตรไม่เพียงพอ เราเองสามารถเป็นผู้เก็บอาหารหรือความมั่นคงทางอาหารให้ได้ ที่สำคัญเราพร้อมส่งออกทุกวันทั้งปี ซอฟต์พาวเวอร์เรื่องอาหารเป็นสิ่งที่พูดแล้วทุกคนรู้จักได้ง่าย และอุตสาหกรรมอาหารสามารถเติบโตอย่างเต็มรูปแบบได้อีกมาก รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่แน่นอน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการ ‘Mini Showcase: The Best of Thai Foods in Different Regions’ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี โดยได้ลองชิมเมนูอาหารต่างๆ ที่เชฟนำมาโชว์ภายในงาน เช่น ข้าวมันไก่ แกงคั่วหัวตาล เมี่ยงกลีบบัว และต้มยำกุ้ง

 

The post นายกฯ เปิดงานซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ชูโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟ ผลักดันเป็นทูตวัฒนธรรมเผยแพร่อาหารไทยสู่ต่างชาติ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดแล้ว SAVA Central Chidlom ร้านที่เปลี่ยนเมนูกินง่ายให้โมเดิร์นขึ้น https://thestandard.co/life/sava-central-chidlom Fri, 13 Dec 2024 01:03:34 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1019060 SAVA Central Chidlom

เปลี่ยนเมนูที่คุ้นเคยให้กลายเป็นอาหารไทยที่โมเดิร์น &nb […]

The post เปิดแล้ว SAVA Central Chidlom ร้านที่เปลี่ยนเมนูกินง่ายให้โมเดิร์นขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
SAVA Central Chidlom

เปลี่ยนเมนูที่คุ้นเคยให้กลายเป็นอาหารไทยที่โมเดิร์น

 

ตอนนี้ SAVA ร้านอาหารไทยสไตล์ Refined Home Cooking ที่สร้างสรรค์โดย หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา เปิดสาขา 2 แล้วที่ชั้น 1 โซน Public Lane, Central Chidlom สาขานี้ยังคงเป็นร้านอาหารที่หยิบเอาเมนูกินง่ายที่เราคุ้นเคยมาปรับให้มีความโมเดิร์นขึ้นด้วยการปรุงที่พิถีพิถันและวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม ทั้งในอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม แต่ในร้านสาขาใหม่นี้ก็มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เปลี่ยนไปจากสาขาเดิม เช่น การเติมสีเขียวเข้าไปเพื่อความร่มรื่นมากขึ้น แถมยังเพิ่มเมนูพิเศษมาอีกด้วย

 

 

The Vibe

 

โดยรวมสาขานี้ยังคงใช้ลาย Chinoiserie สีฟ้า-ขาวมาเป็นการตกแต่งหลักของร้าน แต่เพิ่มโทนสีเขียวให้กับลาย Chinoiserie บางส่วนเพื่อให้ร้านดูร่มรื่นขึ้น และยังเพิ่มที่นั่งแบบโซฟาโค้ง ทำให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่น สบาย เหมาะกับการมาแฮงเอาต์กับเพื่อนๆ หรือมากินข้าวกับครอบครัวแบบสุดๆ

 

 

The Taste

 

ถึงแม้จะเป็นสาขาใหม่ แต่ SAVA ยังคงขนเมนูซิกเนเจอร์มากมายจากสาขาแรกมาให้ชิมกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวกากหมูคั่วพริกเกลือ, ขนมกุยช่าย, ขนมผักกาดผัดซีฟู้ด และพุดดิ้งมะตูม แต่ร้านก็เพิ่มเมนูใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้าไป อย่างเช่น ข้าวไข่ข้นซอสไข่ปูและเนื้อปู (550 บาท) ซึ่งเป็นเมนูไข่ข้นที่เสิร์ฟคู่น้ำราดแบบจีนๆ ที่มีเนื้อปูอยู่ข้างใน เมนูนี้มีน้ำจิ้มมาให้ 2 แบบ คือ น้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วขิง และน้ำจิ้มซีฟู้ดสำหรับคนอยากได้รสชาติความแซ่บแบบไทย

 

 

อีกเมนูใหม่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เส้นผักบุ้งยำเย็นตาโฟ (370 บาท) เมนูเย็นตาโฟน้ำขลุกขลิกและเข้มข้น ทางร้านอยากลองตีความเย็นตาโฟใหม่ให้ผักบุ้งเป็นพระเอกของชามนี้ ด้วยการหั่นผักบุ้งให้เป็นเหมือนเส้นพาสต้าแล้วกินคู่เครื่องเย็นตาโฟที่เป็นนางเอก 

 

 

และถ้าถามว่าอะไรที่พลาดไม่ได้ในร้าน SAVA แนะนำให้สั่ง ตับนุ่มทอดเกลือกระเทียมกรอบ (250 บาท) เป็นตับที่นุ่ม เด้ง ไม่แข็ง สุกกำลังพอดี และหอมกระเทียมมาก ส่วนใครมากันหลายคน แนะนำให้ลอง เนื้อออสเตรเลียสตริปลอยน์ Grain Fed 150 วัน ย่างจิ้มแจ่ว (730 บาท) ทางร้านใช้เนื้อคุณภาพดีจากฟาร์มที่ออสเตรเลียชื่อ Rangers Valley สามารถเลือกระดับความสุกได้ แถมเสิร์ฟมาพร้อมข้าวจี่และน้ำจิ้มแจ่วแบบไทยๆ สุดท้ายสำหรับคนที่กำลังมองหาซุป แนะนำ ต้มข่าไก่มะพร้าวอ่อน (330 บาท) เป็นเมนูที่มีความหอมละมุนจากกะทิและมะพร้าวอ่อน ไก่ในซุปนุ่ม และรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบ เหมาะกับการสั่งมาชิมด้วยกันกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว 

 

 

มื้อหลักจบไปแล้ว อย่าลืมของหวาน สตรอเบอรี่เฟรนช์โทสต์ (320 บาท) ร้านใช้ขนมปังบริยอชหนาพิเศษมาทำโทสต์ และใช้เทคนิค Crème Brûlée มาราดบนโทสต์ ปิดท้ายด้วยการมี Strawberry Coulis มาตัดรสชาติให้เปรี้ยวขึ้น อีกเมนูขนมที่พลาดไม่ได้คือ แอปเปิ้ลคาราเมลชีสเค้ก (240 บาท) ร้านนำแอปเปิ้ลไปทำ Caramelised ก่อน จากนั้นเติมรสซินนามอนเข้าไป กินคู่กับชีสเค้กเนื้อละมุน

 

 

Good for

 

ร้าน SAVA สาขา Central Chidlom เหมาะกับเป็นมื้อเที่ยงของชาวชิดลม เพราะบรรยากาศนั่งสบาย เหมาะกับการมานั่งพักกินข้าวตอนเที่ยงกับแก๊งเพื่อน มีอาหารทั้งจานเดี่ยวและแบบแชริ่งให้เลือก กินของคาวเสร็จต่อด้วยของหวานและเครื่องดื่มได้เลย หรือใครอยากนัดครอบครัวและเพื่อนๆ มากินมื้อเย็นก็ได้เช่นกัน

 

SAVA Central Chidlom

Open: ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

Address: ชั้น 1 โซน Public Lane, Central Chidlom

Budget: 300-1,000 บาท

Facebook: SAVA Modern THAI Flavour

Map: https://maps.app.goo.gl/UnVPPkTb6QskkagD7?g_st=ic

 

 

The post เปิดแล้ว SAVA Central Chidlom ร้านที่เปลี่ยนเมนูกินง่ายให้โมเดิร์นขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘อาหาร’ ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power และอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนการเติบโตให้เศรษฐกิจไทย https://thestandard.co/market-focus-food-5/ Tue, 03 Dec 2024 09:06:35 +0000 https://thestandard.co/?p=1015518 อาหาร

‘อาหาร’ ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power และอุตสาหกรรมเป้าหมาย […]

The post ‘อาหาร’ ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power และอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนการเติบโตให้เศรษฐกิจไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
อาหาร

‘อาหาร’ ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power และอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงในการสร้างโอกาสการเติบโตและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับไทย เพราะนอกจากอาหารไทยจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลกมาอย่างยาวนานแล้ว ประเทศไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของวัตถุดิบ มาตรฐานการผลิตซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งยังมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่แข็งแกร่งและครบวงจรอีกด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนที่ดีในการสนับสนุนและต่อยอดการขับเคลื่อนและส่งออก Soft Power ด้านอาหารของไทย

 

การผลักดันยุทธศาสตร์ Soft Power ด้านอาหาร

 

ทั้งนี้ กลไกในการผลักดันยุทธศาสตร์ Soft Power ด้านอาหารสามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ผ่านสื่อบันเทิงต่างๆ เช่น ละคร ซีรีส์ ภาพยนตร์ รวมทั้งการเผยแพร่ผ่านผลงานศิลปะและดนตรี หรือแม้แต่การโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ที่เชื่อมโยงเข้ากับประเพณี วิถีวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น และกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อผู้เล่นที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิตอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังทำให้ภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ซึ่งกลไกการผลักดันเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทยดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

 

 

การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Soft Power

 

ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่ากุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จคือการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อและสนับสนุนต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านนี้ เพื่อติดอาวุธและสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการไทย โดยมีสิ่งสำคัญที่ประกอบด้วย

  • การพัฒนาคน ด้วยการยกระดับศักยภาพของคนไทยให้เปลี่ยนจากแรงงานทักษะต่ำเป็นแรงงานทักษะสูง รวมถึงการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะความรู้ความสามารถเชิงสร้างสรรค์และทักษะเฉพาะทาง
  • การจัดตั้งหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Soft Power ซึ่งปัจจุบันมี THACCA ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการอำนวยความสะดวก ประสานงานกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในไทย เพื่อปลดล็อกศักยภาพ แก้ปัญหาอุปสรรคด้านกฎหมาย และสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหาร
  • การวางยุทธศาสตร์การส่งออกและการตลาด เพื่อประชาสัมพันธ์ จัดทำแผนและกระบวนการด้านการส่งออกของดีของประเทศไทยให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดปลายทาง

 

SCB EIC มองว่าการผลักดัน Soft Power ด้านอาหารจะมีส่วนช่วยสนับสนุนภาคการผลิตและภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การส่งออกอาหารและผลิตภัณฑ์ ร้านอาหาร โรงเรียนสอนทำอาหาร ร้านของฝากและของที่ระลึก หรือแม้แต่การท่องเที่ยวเชิงอาหาร และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ความท้าทายสำคัญคือการสร้างมาตรฐานและกำหนดยุทธศาสตร์

 

การดำเนินงานที่มีความสอดคล้องและมีทิศทางเดียวกันทั้ง Ecosystem รวมถึงการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อตอกย้ำภาพจำที่เด่นชัดกับผู้บริโภคในตลาดโลก

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่: https://www.scbeic.com/th/detail/product/soft-power-031224?utm_source=Influencer&utm_medium=Link&utm_campaign=INFOCUS_SOFTPOWER_DEC_2024

 

The post ‘อาหาร’ ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power และอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนการเติบโตให้เศรษฐกิจไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
คนไทยเตรียมฉลอง ‘ต้มยำกุ้ง-เคบายา’ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ https://thestandard.co/unesco-tom-yum-goong-kebaya/ Sat, 30 Nov 2024 10:59:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1014659 ต้มยำกุ้ง และ เคบายา

วานนี้ (29 พฤศจิกายน) สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว […]

The post คนไทยเตรียมฉลอง ‘ต้มยำกุ้ง-เคบายา’ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ต้มยำกุ้ง และ เคบายา

วานนี้ (29 พฤศจิกายน) สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO จะมีการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 (The Nineteenth Session of the Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ ที่นครอซุนซิออน สาธารณรัฐปารากวัย หรือตรงวันที่ 4 ธันวาคม ตามเวลาประเทศไทย (เร็วกว่า 10 ชั่วโมง) จะมีการพิจารณาและลงมติรับรองการเสนอขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ และเชื่อมั่นว่ารายการที่ประเทศไทยเสนอคือ ต้มยำกุ้ง ของไทย และ เคบายา (เสนอร่วม) จะได้รับการรับรองให้ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ประจำปี 2567 โดยกระทรวงวัฒนธรรมพร้อมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้ดังไกลทั่วโลก

 

สุดาวรรณเปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจาก UNESCO แล้วจำนวน 4 รายการ ได้แก่ โขน นวดไทย โนรา และประเพณีสงกรานต์ ในประเทศไทย สำหรับต้มยำกุ้งจะถือเป็นรายการที่ 5 ของไทยที่ได้รับการรับรอง 

 

ในส่วนของเคบายาจะเป็นรายการที่เสนอร่วม 5 ประเทศ คือ บรูไน, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และไทย ในชื่อ Kebaya: Knowledge, Skills, Traditions and Practices หรือเคบายา: ความรู้, ทักษะ, ประเพณี และการปฏิบัติ ในการขึ้นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันในครั้งนี้ด้วย

 

สำหรับเคบายาเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายของสตรีที่มีความประณีต งดงาม สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และประเพณีที่มีร่วมกันของผู้คน และเชื่อมโยงชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีส่วนในการสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค

 

ในโอกาสที่น่ายินดีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมกิจกรรมงานฉลอง ต้มยำกุ้ง และเคบายา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ระหว่างที่ 6-8 ธันวาคมนี้ ณ Quartier Avenue ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ โดยในวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 18.00 น. จะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ภายในงานจะมีการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดเคบายา, การสาธิตการทำต้มยำกุ้งโดยเชฟตุ๊กตา (ร้านบ้านยี่สาร) หนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย พร้อมชิมต้มยำกุ้งฟรี, ชมนิทรรศการ ‘ต้มยำกุ้ง’ และนิทรรศการสาธิตการปักชุด ‘เคบายา’ รวมทั้งยังมีการแสดงดนตรีและการแสดงทางวัฒนธรรมให้ชมตลอดงาน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และเฟซบุ๊ก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

The post คนไทยเตรียมฉลอง ‘ต้มยำกุ้ง-เคบายา’ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯ ปาฐกถา​ 3 โอกาสประเทศไทย ‘อาหาร-สุขภาพ-ซอฟต์พาวเวอร์’ ย้ำ​บนเวทีโลก รัฐบาลอยู่ครบเทอม เตรียมแถลงผลงาน 12 ธ.ค. นี้ https://thestandard.co/pm-speech-3-opportunities-food-health-soft-power/ Thu, 21 Nov 2024 05:17:33 +0000 https://thestandard.co/?p=1011061 นายกฯ ปาฐกถา

วันนี้ (21 พฤศจิกายน) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ […]

The post นายกฯ ปาฐกถา​ 3 โอกาสประเทศไทย ‘อาหาร-สุขภาพ-ซอฟต์พาวเวอร์’ ย้ำ​บนเวทีโลก รัฐบาลอยู่ครบเทอม เตรียมแถลงผลงาน 12 ธ.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯ ปาฐกถา

วันนี้ (21 พฤศจิกายน) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี​ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา PRACHACHAT THAILAND 2025 โอกาส | ความหวัง | ความจริง และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘ประเทศไทย: โอกาส-ความหวัง-ความจริง’ โดยมี​ มนพร​ เจริญ​ศรี​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​คมนาคม​ ร่วมคณะ

 

นายก​ฯ กล่าวปาฐกถาว่า​โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย และกลับมาจากเปรู ได้คุยกับผู้นำทั่วโลก​ ซึ่งรัฐบาลมองเห็น​ ‘โอกาสที่จับต้องได้’ รัฐบาลเชื่อมั่นมาตลอดว่าคนไทยมีศักยภาพ รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายว่าจะต้องกระจายโอกาสโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจไปให้ถึงประชาชนทุกคนอย่างเท่ากันทั้งประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาความยากจนให้สำเร็จภายใต้ข้อจำกัดที่มี ทำงานกันอย่างเต็มที่​ ไม่ใช่เพียงวิธีเดียว​ และสิ่งแรกที่รัฐบาลต้องการทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ​ เพราะหากท้องอิ่มศักยภาพก็จะถูกผลักดันออกมา ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ มีแรงที่จะผลักดันประเทศ​ และลดความเหลื่อมล้ำ

 

สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุไว้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอยู่ที่ 2.7 ซึ่งอยู่ในช่วงฟื้นตัว ในไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ 3%​ โดยรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวที่ยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากกว่า 28% จากปีที่แล้ว คาดว่าในปีนี้จะมียอดนักท่องเที่ยวสูงถึง 36 ล้านคน​ และภาคการท่องเที่ยวของเรากำลังกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ผลลัพธ์นี้เกิดจากนโยบายด้านการท่องเที่ยว ฟรีวีซ่า การพัฒนาการบริการของสนามบิน และนโยบาย Festival Country ที่ทำต่อเนื่อง

 

ในระหว่างเยือนต่างประเทศได้แลกเปลี่ยนกับผู้นำระหว่างประเทศ ซึ่งตนพยายามย้ำว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น นักธุรกิจต่างชาติก็จะมั่นใจ ตนมีหน้าที่ เคยบอกทุกคนให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะอยู่จนครบเทอม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และสิ่งที่ เศรษฐา​ ทวีสิน​ อดีตนายกฯ เคยไปบอกทั่วโลก ตนก็จะสานต่อ

 

ทั้งนี้ สถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา หลังโดนัลด์​ ทรัมป์​ ชนะการเลือกตั้ง​ ซึ่งทรัมป์มีนโยบายพุ่งเป้าไปยังประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ทั้งจีน เม็กซิโก ญี่ปุ่น รวมถึงไทยด้วย ประเทศเหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าอย่างแน่นอน

 

นายกฯ ยังเน้นย้ำ​ถึงโอกาสของประเทศ​ซึ่งมีอยู่ 3 ทาง​ ประกอบด้วย โอกาสในอาหาร​ ที่จะต้องพัฒนาแบบภาพรวมผ่านการใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดความสดและปลอดภัยของอาหาร​ และพยายามฟื้นครัวไทยสู่ครัวโลก ​การขายอาหารสำเร็จรูปทั้งสมุนไพรและเครื่องปรุง​ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของเชฟผ่านโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย​

 

โอกาสในสุขภาพ หรือ Wellness อย่างนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่ยกระดับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ให้ทุกคนเข้าถึงอย่างง่ายดายและไม่เสียเวลา ซึ่งทั่วโลกยอมรับและต้องการศึกษาว่าจะทำอย่างไรได้บ้างให้มีนโยบายประมาณนี้​ ขณะเดียวกัน หมอในไทยมีศักยภาพสูง ได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติและต้องการเข้ามารักษาในไทย จึงจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ นอกจากนี้ ในส่วนของมวยไทย ที่ยุโรปมีค่ายมวยกว่า 40,000  แห่งที่ต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพ เพื่อให้ได้รับการรับรองต่อไป​ พร้อมกับส่งเสริมพืชสมุนไพรเพื่อให้เป็นยารักษาโรค เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ

 

รวมถึงโอกาสในอุตสาหกรรมที่สร้างซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งวัฒนธรรมของไทยมีเสน่ห์ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ จึงจำเป็นต้องผูกวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาคเข้าด้วยกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมกับส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย​ เพื่อให้เกิดการขยายการจ้างงานในพื้นที่​ ส่วนภาพยนตร์ของไทยเองก็จะมีการสนับสนุน เนื่องจากปัจจุบันได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศ อย่างเรื่อง หลานม่า ขณะเดียวกัน เกมของไทยสามารถเป็นสิ่งอำนวยการผลักดันสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศ

 

ขณะที่เรื่องพลังงาน​และก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย วันหนึ่งก็จะหมดไป​ เนื่องจากคาดว่า 10 ปีก๊าซจะหมด เพราะฉะนั้น MOU 44 ที่เป็นกระแส เราจำเป็นต้องพูดคุยกับกัมพูชาว่าจะแบ่งการใช้ก๊าซธรรมชาติร่วมกันได้อย่างไร จึงต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ และเกาะกูดไม่เกี่ยว ขณะที่พลังงานสะอาดซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกนั้นรัฐบาลยืนยันว่าจะสนับสนุนการใช้โซลาร์เซลล์ให้มากขึ้น

 

นายกฯ กล่าวทิ้งท้ายว่ารัฐบาลจะแถลงผลงานครบ 90 วันในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ รับรองได้ว่าจะมีนโยบายดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับประชาชนด้วย

The post นายกฯ ปาฐกถา​ 3 โอกาสประเทศไทย ‘อาหาร-สุขภาพ-ซอฟต์พาวเวอร์’ ย้ำ​บนเวทีโลก รัฐบาลอยู่ครบเทอม เตรียมแถลงผลงาน 12 ธ.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อาหารไทยจับคู่ไวน์ไทย TAAN x GranMonte เสิร์ฟเพียง 2 คืน 3,990++ บาทต่อคน https://thestandard.co/life/taan-x-granmonte Thu, 21 Nov 2024 04:46:56 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011037 TAAN x GranMonte

ใครชื่นชอบน้ำผลไม้จากองุ่นต้องเคยได้ยินชื่อ GranMonte ไ […]

The post อาหารไทยจับคู่ไวน์ไทย TAAN x GranMonte เสิร์ฟเพียง 2 คืน 3,990++ บาทต่อคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
TAAN x GranMonte

ใครชื่นชอบน้ำผลไม้จากองุ่นต้องเคยได้ยินชื่อ GranMonte ไร่ไวน์ที่เขาใหญ่อยู่บ้าง เพราะเป็นไวน์สัญชาติไทยที่ได้รางวัลมาไม่น้อย แถมยังนิยมใช้ในร้านอาหารหลายแห่งด้วย เช่นเดียวกับร้าน TAAN ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่รสชาติดีและหยิบวัตถุดิบมาใช้ได้น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่ง เราเชื่อว่านักชิมทุกคนต้องรู้จักฝีมือของ เชฟเทพ-มนต์เทพ กมลศิลป์ เฮดเชฟของร้านแห่งนี้ดีไม่แพ้กันแน่นอน

 

และถ้าใครอยากลองอัปเลเวลประสบการณ์ด้วยการชิมอาหารไทยสไตล์ TAAN จับคู่กับไวน์ไทยจากเขาใหญ่ของ GranMonte เราไม่อยากให้พลาดมื้อพิเศษนี้ที่จะเกิดขึ้นเพียง 2 คืนเท่านั้น

 

มื้อนี้มีชื่อว่า Khao Yai Region: A Culinary Road Trip เสิร์ฟอาหารที่ใช้วัตถุดิบจาก 6 ผู้ผลิตท้องถิ่นในเขาใหญ่ซึ่งเชฟได้เจอจากการเดินทาง ได้แก่ โรงคั่วกาแฟ Mountain Goat Coffee Roasters, ฟาร์มไข่ Thai Black KORAT Anda Farm, ไร่มะม่วง Khao Yai The Mango House Farm, ผู้ผลิตชีส The Cheese Maker, ไร่น้อยหน่า น้อยหน่า กลางดวง, ไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์ GranMonte

 

ทุกคนจะได้เริ่มจากของกินเล่น 5 เมนู จับคู่กับไวน์จากเขาใหญ่ ก่อนตามด้วยประสบการณ์พิเศษจากผู้ผลิต และนั่งชิมอาหาร 5 คอร์สโดยห้องอาหาร TAAN โดยมื้อนี้ราคา 3,990++ บาทต่อคน เสิร์ฟระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

 

ห้องอาหารรับได้เพียง 24 ที่นั่งเท่านั้น เราแนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้า สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ TAAN Bangkok

The post อาหารไทยจับคู่ไวน์ไทย TAAN x GranMonte เสิร์ฟเพียง 2 คืน 3,990++ บาทต่อคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ใครๆ ก็ชอบอาหารไทย เซ็น กรุ๊ป ส่ง ‘เขียง’ ปักหมุดเอเชีย พร้อมบุกตลาดปิ้งย่าง 9 พันล้านบาทด้วย ‘หมูกระทะตำมั่ว’ https://thestandard.co/zen-corporation-group-asian-market/ Thu, 31 Oct 2024 04:53:57 +0000 https://thestandard.co/?p=1002045 เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป

เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป สร้างการเติบโตแบบต่อเนื่อง เตรี […]

The post ใครๆ ก็ชอบอาหารไทย เซ็น กรุ๊ป ส่ง ‘เขียง’ ปักหมุดเอเชีย พร้อมบุกตลาดปิ้งย่าง 9 พันล้านบาทด้วย ‘หมูกระทะตำมั่ว’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป

เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป สร้างการเติบโตแบบต่อเนื่อง เตรียมรับเทรนด์ผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกที่ชื่นชอบอาหารไทย นำร่องสร้างความแข็งแกร่งในตลาดเอเชีย ปักหมุดญี่ปุ่น สปป.ลาว มาเลเซีย และฟิลิปปินส์แล้ว คาดธุรกิจโตและมีแผนขยายตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง รวมถึงการขยายไปยังเซ็กเมนต์ใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง

 

ศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อาหารไทยได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก เพราะมีความหลากหลายและรสชาติที่จัดจ้านเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเมนูกะเพรา ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ดีที่สุดของไทย และมักถูกยกให้เป็นเมนูที่ต้องลองเมื่อมาที่ประเทศไทย 

 

จุดนี้เพิ่มโอกาสทางธุรกิจของร้านอาหารไทยในเครือของเราเป็นอย่างมาก พร้อมผลักดันบุกตลาดโลกแบบเต็มสูบ เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกได้ลิ้มรสชาติอาหารไทยแท้ๆ และยังมุ่งสร้างความแข็งแกร่งในตลาดเอเชียให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

นำร่องด้วยแบรนด์เขียง เมื่อต้นปีเปิดที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น 1 สาขา, มาเลเซีย 2 สาขา และ สปป.ลาว 1 สาขา โดยช่วงไตรมาส 4 มีแผนเปิดเพิ่มที่ สปป.ลาว อีก 2 สาขา, ฟิลิปปินส์ 2 สาขา และมาเลเซีย 1 สาขา 

 

ไฮไลต์สำคัญต่อมาคือการปั้นแบรนด์ ‘หมูกระทะตำมั่ว’ ลงสนามชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดปิ้งย่างที่มีมูลค่ากว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเปิดแล้ว 3 สาขา เน้นไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยสาขาแรกปักหมุดโลตัส คลองหลวง, สาขา 2 บิ๊กซี สะพานควาย และสาขา 3 โรบินสัน เพชรบุรี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ชอบความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่าย เริ่มต้นเพียง 199 บาท คาดแบรนด์เติบโตต่อเนื่องและสร้างความคึกคักให้ตลาดปิ้งย่าง

 

อย่างไรก็ตาม แบรนด์ไทยยังคงให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในประเทศไทยด้วยไม่แพ้กัน โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมาเปิดลาวญวน 3 สาขา (สาขาลงทุนเอง), เขียงแฟรนไชส์ 1 สาขา, ตำมั่วแฟรนไชส์ 1 สาขา และในไตรมาส 4 มีแผนเตรียมเปิดแฟรนไชส์ในประเทศเพิ่มคือแบรนด์ลาวญวน 3 สาขา และตำมั่ว 4 สาขา นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดเดอตำมั่วสาขาที่ลงทุนเองอีก 2 สาขาภายในสิ้นปีนี้

 

“ทั้งนี้ แบรนด์ไทยของเราทุกแบรนด์ยังคงเน้นย้ำเรื่องการสร้าง Brand Awareness และตั้งเป้ารักษา Brand Love ด้วยคุณภาพอาหารและการบริการ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการ Collaboration กับแบรนด์ที่มีความน่าสนใจ การสร้างสรรค์เมนูใหม่ และการออกโปรโมชันที่น่าดึงดูดตลอดทั้งปี เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรงควบคู่ไปกับกลยุทธ์การขยายไปต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะมีแผนการขยายไปประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน” ศิรุวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย

The post ใครๆ ก็ชอบอาหารไทย เซ็น กรุ๊ป ส่ง ‘เขียง’ ปักหมุดเอเชีย พร้อมบุกตลาดปิ้งย่าง 9 พันล้านบาทด้วย ‘หมูกระทะตำมั่ว’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
บ้านเขียวมุก อาหารไทยสไตล์โฮมมี่ที่ให้ฟีลเหมือนเพื่อนทำให้กิน https://thestandard.co/life/baan-keaw-mook Tue, 24 Sep 2024 01:00:44 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=986990

มุก-ภัทรวดี เหลืองอร่ามรัตน์ ผู้ไม่เคยร่ำเรียนวิธีการทำ […]

The post บ้านเขียวมุก อาหารไทยสไตล์โฮมมี่ที่ให้ฟีลเหมือนเพื่อนทำให้กิน appeared first on THE STANDARD.

]]>

มุก-ภัทรวดี เหลืองอร่ามรัตน์ ผู้ไม่เคยร่ำเรียนวิธีการทำอาหารแม้แต่น้อย แต่การคลุกคลีกับคุณแม่ในครัวตั้งแต่เด็กทำให้เธอสั่งสมสกิลทำอาหารอยู่เรื่อยมาจนบรรดาเพื่อนพ้องต่างยกให้เป็นแม่ครัวประจำกลุ่ม เธอริเริ่มธุรกิจเล็กๆ ด้วยการทำขนมจีนน้ำยา เมนูสุดโปรดของตัวเองขายตามออร์เดอร์

 

 

จากการทำขายตั้งแต่ก่อนยุคโควิดจนต้องเลิกขายเพราะยอดสั่งเยอะเกินกำลัง มุกตัดสินใจก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนตามแรงเชียร์จากเพื่อน แล้วพลิกชั้นหนึ่งของบ้านตัวเองเป็น ‘บ้านเขียวมุก’ บ้านที่เสิร์ฟอาหารไทยสไตล์โฮมมี่ที่ให้ไวบ์เหมือนไปกินข้าวบ้านเพื่อนจริงๆ

 

 

นับจากวันที่ 22 กุมภาพันธ์ วันแรกที่ประกาศเปิดร้านอย่างเป็นทางการ ยอดจองของบ้านเขียวมุกก็พุ่งเต็มยาวเหยียดทะลุต้นปีหน้าไปเรียบร้อย

 

The Vibe

 

ขับรถเข้ามาในหมู่บ้านแล้วตรงไปสุดกำแพง เลี้ยวไปตามหมุดก็จะเจอกับบ้านที่เปิดประตูลานจอดรถรอต้อนรับ เดินเข้าปุ๊บจะเจอกับกองรองเท้าสลิปเปอร์นุ่มนิ่มพร้อมบรรยากาศบ้านสไตล์คนจีนเรียบหรู ด้วยความที่เป็นบ้านจริงๆ เลยมีโต๊ะอาหารเพียง 1 โต๊ะ และพอเหลือบไปมองกำแพงรอบด้านก็ถึงบางอ้อถึงที่มาของชื่อร้าน

 

 

The Taste

 

อาหารของบ้านเขียวมุกเป็นสไตล์โฮมคุก ปราศจากผงชูรส ผงปรุงรส และล้วนเป็นเมนูที่เพื่อนกับครอบครัวชอบกิน โดยจะเสิร์ฟเป็นเซ็ตใหญ่ประมาณ 10 เมนู รวมข้าวสวย มีให้เลือกสำหรับ 2-5 คน (6,900 บาท) และสำหรับ 6-10 คน (8,900 บาท) โดยเธอยังเป็นผู้รับจบทุกอย่าง ตั้งแต่การจ่ายตลาดคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพและเข้าครัวลงมือทำเองทุกจาน ส่วนเซ็ตเมนูจะมีการสลับเปลี่ยนกันไปตามซีซัน

 

 

“เราเสิร์ฟ คุณกิน” ไม่ต้องฟังพรีเซนเทชันอะไรให้ยืดยาว ประเดิมด้วยน้ำพริกบ้านเขียวที่ดูผิวเผินแล้วหน้าตาคล้ายน้ำพริกหนุ่ม แต่รสชาตินั้นจัดจ้านกว่าน้ำพริกหนุ่มเป็นเท่าตัว ด้วยการเพิ่มรสเปรี้ยว เผ็ด น้ำปลาร้า แล้วทวิสต์จากแคบหมูเป็นกุ้งเสียบจากภูเก็ต ซึ่งกุ้งเสียบสูตรนี้จะเป็นแบบจืด เมื่อกินกับน้ำพริกรสจัดแล้วเข้ากันอย่างลงตัว มั่นใจว่าใครชอบรสแซ่บถูกใจจานนี้แน่

 

 

เริ่มด้วยจานที่แซ่บแล้วก็อย่าหยุด ไปต่อกับยำมะม่วงปุ๋มปิ๋ม แรงบันดาลใจของชื่อจานนี้ได้มาจากเพื่อนที่ชอบกินยำมะม่วงสุดใจ มะม่วงมีความกึ่งสุกกึ่งดิบ ซึ่งให้รสหวานนิดๆ เมื่อเทน้ำกะปิลงไปคลุกเคล้าด้วยแล้วบอกเลยว่ายืนหนึ่ง ทุกอย่างอร่อยนัวลงตัวไร้ที่ติ

 

 

ต่อด้วยใบเหลียงผัดไข่ ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นด้วยการท็อปด้วยไข่เป็ดและไข่ไก่เยิ้มๆ โรยด้วยกุ้งเสียบชนิดเค็ม อร่อยฉ่ำ เคี้ยวกรุบในทุกคำ

 

 

เติมโปรตีน (และไขมัน) กันบ้างกับคอหมูทอด ที่ถูกหั่นเต๋า กัดคำแรกก็สัมผัสได้ถึงความฉ่ำและอนุภาคของมันที่ปะทุในปาก เป็น Guilty Pleasure ที่ต้องยอม

 

 

เขยิบมาฝั่งซีฟู้ดกันบ้าง เริ่มที่ผัดผงกะหรี่ปูก้อน รสชาติกลมกล่อมกลางๆ ไม่โดด ตักราดกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ ยิ่งฟิน และขอกระซิบดังๆ ว่าข้าวหอมมะลิของที่นี่ไม่มีขายในไทย เพราะเป็นข้าวหอมมะลิสำหรับส่งออกเท่านั้น

 

 

ต่อด้วยเมนูปูอีกจานอย่างไข่เจียวปูก้อนที่ทอดเป็นแพ ให้เท็กซ์เจอร์กรอบนอกนุ่มใน

 

 

เชื่อว่าใครที่ชอบกินปลาจะต้องถูกใจปลาอินทรีทอดน้ำปลาของที่นี่เหมือนเรา เนื้อปลาทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำปลาที่เคี่ยวด้วยน้ำตาลมะพร้าว หอมหวานเค็มลงตัว

 

 

มาถึงเมนูไฮไลต์ที่ทีม THE STANDARD LIFE อยากจะตั้งวงตีลังกามอบโล่ให้ กุ้งแม่น้ำทอดเกลือ แวบแรกที่มาเสิร์ฟก็ทำเอาทุกคนเซอร์ไพรส์ปนสงสัยว่า ‘นี่คือกุ้งจริงเหรอ’ แต่ละชิ้นใหญ่ล้นมือ สามารถแบ่งกินตัวละ 2 คนได้ แนะนำให้ค่อยๆ หั่นบริเวณหัว เพราะมันกุ้งอาจพุ่งทะยานไปสู่คนนั่งตรงข้ามได้

 

 

เรื่องความสดไม่ต้องสงสัย เนื้อสดหวานกรอบเด้งแน่น เป็นการกินกุ้งที่เต็มปากเต็มคำและสะใจที่สุดในชีวิตแล้ว

 

 

มาถึงการพรีวิว 2 เมนูใหม่ที่จะเสิร์ฟในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมปีนี้อย่างแกงป่าไก่ ซึ่งเวอร์ชันของที่นี่จะให้รสกลมกล่อม ไม่จัดจ้านจนเกินไป

 

 

และปลาเพียวทอดกรอบ ปลาตัวเล็กในลุ่มแม่น้ำภาคเหนือ ตระกูลเดียวกับปลาเนื้ออ่อน บอกเลยว่ากินเพลิน ยิ่งถ้าแกล้มกับเครื่องดื่มเย็นๆ ด้วยแล้วมีเบรกแตก

 

 

นอกจากนี้เรายังมีโอกาสได้ลิ้มลองอีก 3 เมนูจากเมนูอาหารช่วงเปิดร้านแรกๆ แม้ว่าพื้นที่กระเพาะจะร้องขอชีวิตแล้ว แต่พอเห็นหน้าตาอาหารก็ต้องยอม คอหมูย่างเนื้อฉ่ำกรอบเด้ง กินกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรโฮมเมด อร่อยเหาะ

 

 

ส่วนใครเลิฟความจัดจ้านถึงพริกถึงขิงจะต้องถูกใจคั่วกลิ้งหมูกรึบแน่นอน เครื่องแกงแทรกซึมสู่หมูสับในทุกอณู กัดพริกสดไปด้วยยิ่งสาแก่ใจ

 

 

สุดท้ายอย่างไรก็คงขาดเมนูนี้ไปไม่ได้ ขนมจีนน้ำยาลูกชิ้นปลายักษ์ ซึ่งปลาที่ใช้จะเป็นปลานิล ส่วนลูกชิ้นนั้นมาจากภูเก็ต รสนัวกลมกล่อมละมุน เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงขายดี

 

 

ปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวานที่เป็นเมนูโปรดของมุกอีกเช่นกัน ยาคูลท์กราแตงท็อปด้วยเงาะเย็นๆ ให้ความสดชื่นเป็นอย่างดี ส่วนแผ่นกลมๆ โลโก้บ้านเขียวมุกนั้นไม่ใช่กระดาษแต่เป็นเวเฟอร์ที่สามารถกินไปด้วยได้

 

 

Good for

 

ใครที่ชื่นชอบอาหารไทยเป็นทุนเดิม และอยากเปลี่ยนบรรยากาศมากินในบ้านแบบสบายๆ เป็นกันเอง บ้านเขียวมุกถือเป็นที่ที่เหมาะมาก แนะนำให้มากับครอบครัวและก๊วนเพื่อนจะได้บรรยากาศที่ม่วนจอยไปอีกแบบ แนะนำให้รีบจอง เพราะได้ข่าวว่าตอนนี้คิววันหยุดสุดสัปดาห์ยาวไปถึงสงกรานต์ปีหน้าแล้ว

 

 

บ้านเขียวมุก (Baan keaw mook)

Open: ทุกวัน เวลา 18.00-21.00 น. (รับเพียง 1 โต๊ะต่อวัน)

Address: เกศินีวิลล์

Instagram: https://www.instagram.com/baan.keaw.mook/

Budget: เซ็ตอาหารสำหรับ 2-5 คน ราคา 6,900 บาท และเซ็ตอาหารสำหรับ 6-10 คน ราคา 8,900 บาท

Map:

 

 

The post บ้านเขียวมุก อาหารไทยสไตล์โฮมมี่ที่ให้ฟีลเหมือนเพื่อนทำให้กิน appeared first on THE STANDARD.

]]>