อาหารเม็กซิกัน – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 01 May 2024 04:31:03 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (1-8 พฤษภาคม 2567) https://thestandard.co/life/calendar-1-8-may-2024 Wed, 01 May 2024 04:31:03 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=928754

เดือนเมษาหน้าร้อนก็ได้ผ่านพ้นกันไปสักที! ต้อนรับเข้าสู่ […]

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (1-8 พฤษภาคม 2567) appeared first on THE STANDARD.

]]>

เดือนเมษาหน้าร้อนก็ได้ผ่านพ้นกันไปสักที! ต้อนรับเข้าสู่เดือนพฤษภาคมที่ทุกคนรอคอยอย่างเป็นทางการ ในเดือนนี้เรามีอีเวนต์และนิทรรศการที่น่าสนใจกำลังรอทุกคนอยู่

 

กิจกรรมทำป๊อปอัพดอกไม้ไทยสุดเก๋ หรือจะเป็นเทศกาลดนตรีแนวฮิปฮอปกับวงดังพร้อมจิบเครื่องดื่มสุดชิล แต่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คงจะเป็นเทศกาลคราฟต์โกโก้ใจกลางเมืองนี่แหละ!

 

กิจกรรมและเทศกาลน่าสนใจขนาดนี้จะอดใจไม่ออกจากบ้านกันไหวเหรอ เตรียมตัวกันให้พร้อมและออกจากบ้านกันมาได้แล้ว

 

 

Nomadic

 

Nomadic จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘ชนเร่ร่อน’ กลุ่มคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยถาวรและย้ายถิ่นฐานไปในที่ต่างๆ โดยนิทรรศการนี้ได้นำแนวคิดของการเคลื่อนย้ายของชนเร่ร่อนมาตีความใหม่และสร้างสรรค์เป็นผลงานออกมาเพื่อให้ทุกคนเข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยทั้งหมดเป็นผลงานของศิลปินจากประเทศไทย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และฮ่องกง ที่ร่วมกันสำรวจและเน้นย้ำถึงประวัติศาสตร์การพลัดถิ่นของผู้คนในทวีปเอเชีย

 

When: วันนี้ – 2 มิถุนายน 2567

Where: ซอยเกษมสันต์ 2

More Info: The Jim Thompson Art Center

 


 

 

MUST Cook Vol. 2

 

MUST Wine Bar ไวน์บาร์ย่านทองหล่อจัด MUST Cook ครั้งที่ 2 โดยรอบนี้ชวนเชฟโอ๊ต จากร้าน HEH บินตรงจากภูเก็ตมาทำอาหารให้ทุกคนชิม พร้อมกับจิบไวน์ของ MUST Wine Bar ควบคู่ไปด้วยกันได้ และงานนี้มีเพียงคืนเดียวเท่านั้น รีบจับจองที่นั่งกันได้แล้วตอนนี้

 

When: 9 พฤษภาคม 2567 เวลา 17.00-00.00 น.

Where: ทองหล่อ 13

More Info: MUST Wine Bar

 


 

 

Somewhere

 

‘Somewhere ที่ไหนสักแห่ง’ เป็นนิทรรศการศิลปะสื่อผสม ที่จะชวนทุกคนรำลึกถึงความทรงจำดีในอดีต บอกเล่าถึงเรื่องราวของจินตนาการในยุคปัจจุบัน กับความเป็นจริงที่กลับมาจากในอดีตซึ่งจางหายไปแล้ว โดย วรัญญู อั๋นประเสริฐ

 

When: วันนี้ – 26 พฤษภาคม 2567

Where: เจริญกรุง

More Info: Central: The Original Store

 


 

 

Cinco de Mayo

 

ร้านอาหารเม็กซิกันสุดโด่งดังย่านเพลินจิต Smokehouse, Santiaga และ La Monita จัดปาร์ตี้สำหรับค่ำคืนแห่งดนตรีที่จะชวนทุกคนไปแดนซ์กระจายกับดนตรีแนว Afrobeats และ Hip-Hop ที่มีแขกรับเชิญในตำนานอย่างวง THAITANIUM มาเล่นสดให้ฟัง ก่อนต่อด้วยดีเจอีกตลอดค่ำคืน ในงานนี้ทุกคนจะได้จิบค็อกเทลพร้อมชิมทาโก้ 5 เมนูพิเศษฝีมือเชฟมือฉมัง

 

When: 5 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น.

Where: เพลินจิต

More Info: La Monita Taqueria

 


 

 

Flowers in the box

 

ชวนทุกคนมาสร้างสรรค์ผลงานด้วยกระดาษกับศิลปินชาวไทย Kias Matt นักออกแบบหนังสือป๊อปอัพเกี่ยวกับดอกไม้ไทยเสริมมงคล ซึ่งคนที่เข้าร่วมเวิร์กช็อปจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการออกแบบ กลไก และได้สร้างสรรค์ผลงานป๊อปอัพขึ้นมาจริงๆ ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยเปิดสอน 2 รอบ คือ 10.00-12.30 น. และ 14.00-16.30 น. มีค่าใช้จ่าย 1,500 บาทต่อคน (ลงทะเบียนล่วงหน้าเท่านั้น)

 

When: 4 พฤษภาคม 2567

Where: พหลโยธิน 59

More Info: JYE Healing Workshops and Retreats

 


 

 

THAILAND CRAFT COCOA

 

เทศกาลคราฟต์โกโก้สุดยิ่งใหญ่ ถ้าใครเป็นสายเข้ม รักรสชาติของช็อกโกแลตและโกโก้ต้องห้ามพลาด โดยงานนี้มีไฮไลต์น่าสนใจถึง 5 โซน คือ Cocoa Go! Tasting Passport พาชิมโกโก้จากแหล่งปลูกทั่วไทย, Hall of Fame โซนรวมแบรนด์คราฟต์โกโก้ไทย ดีกรีรางวัลระดับประเทศจนถึงระดับโลก, International Cocoa Brand แนะนำแบรนด์โกโก้ระดับอินเตอร์ และ Bar Take Over ประสบการณ์ชิมคราฟต์โกโก้แบบใหม่ รวมถึงมีเวิร์กช็อปภายในงานให้เข้าร่วมทุกวันด้วย

 

When: 2-8 พฤษภาคม 2567

Where: โซน Eden 1

More Info: centralwOrld

 


 

 

Tail Wagging Dik Dik

 

นิทรรศการแสดงเดี่ยวของ วรรณศิริ บุญเย็น ที่จะบอกเล่าถึงเพื่อนซี้แสนรัก เรื่องราวความรักและความผูกพันระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ซึ่งงานนิทรรศการนี้จะสะท้อนความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างทางทั้งความสุข ความทุกข์ ความภักดีที่ได้รับจากสัตว์เลี้ยง คนรักสัตว์ไม่ควรพลาด เพราะรายได้จากการจำหน่ายผลงานในนิทรรศการชุดนี้ทุกชิ้น 10% จะเป็นส่วนหนึ่งของการบริจาคส่งต่อโอกาสให้กับทาง Gift Project เพื่อหมาแมวจร

 

When: วันนี้ – 3 พฤษภาคม 2567

Where: นครปฐม

More Info: Qubism Art Space

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (1-8 พฤษภาคม 2567) appeared first on THE STANDARD.

]]>
El Santo ร้านอาหารเม็กซิกันที่จะพาทุกคนไปรื่นเริงบนสังเวียนมวยปล้ำ https://thestandard.co/life/el-santo-restaurant-and-bar Sun, 18 Feb 2024 03:00:33 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=901147 El Santo

แค่บอกว่าเป็นร้านอาหารเม็กซิกัน เราก็ได้กลิ่นความสนุกลอ […]

The post El Santo ร้านอาหารเม็กซิกันที่จะพาทุกคนไปรื่นเริงบนสังเวียนมวยปล้ำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
El Santo

แค่บอกว่าเป็นร้านอาหารเม็กซิกัน เราก็ได้กลิ่นความสนุกลอยมาหาแล้ว และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าร้าน ‘El Santo’ ร้านอาหารเม็กซิกันเปิดใหม่ในซอยสุขุมวิท 29 เพราะร้านมีโซนที่นั่งเอาต์ดอร์ที่ตกแต่งได้จี๊ดจ๊าดสุดๆ เนื่องจากพวกเขามาในธีมสังเวียนมวยปล้ำ แถมยังตั้งชื่อร้านตามนักกีฬามวยปล้ำชื่อดังในตำนานของประเทศเม็กซิโกด้วย

 

 

The Vibe

 

El Santo อยู่ด้านในพื้นที่ของโรงแรม Novotel Living Bangkok Sukhumvit Legacy แค่เลี้ยวเข้าไปก็จะเจอสังเวียนสีสันฉูดฉาดทันที เนื่องจากที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมมวยปล้ำของประเทศเม็กซิโก ทั้งด้านในและด้านนอกจึงมีหน้ากากนักมวยปล้ำที่เป็นสัญลักษณ์อยู่เต็มไปหมด 

 

ร้านมีทั้งหมด 3 โซน คือโต๊ะด้านในที่เป็นเหมือนพื้นที่นั่งชม พื้นที่นั่งด้านนอกที่เป็นเหมือนสังเวียน และบาร์ค็อกเทลที่เป็นเหมือนห้องล็อกเกอร์ของนักกีฬามวยปล้ำ ทุกคนสามารถนั่งโซนไหนก็ได้ เพียงแต่จะสั่งอาหารไปนั่งกินที่บาร์ไม่ได้เท่านั้นเอง

 

 

The Taste

 

El Santo ตั้งใจเสิร์ฟอาหารเม็กซิกันแท้ๆ ด้วยการทำทุกอย่างตามฉบับเม็กซิกันดั้งเดิม นำโดยเชฟแดเนียล คัลเดอรอน คามาโช ชาวเม็กซิกันที่อยากนำเสนอรสชาติบ้านเกิดในสไตล์ร่วมสมัย อาหารแต่ละเมนูจึงไม่ใช่แค่รสชาติดี แต่หน้าตายังดูน่ากิน น่ายกให้เป็นมื้อพิเศษที่สนุกสุดๆ ด้วย เนื่องจากระหว่างกินอาหารจะมีดนตรีเม็กซิกันมาร้องให้ฟังกันถึงขอบโต๊ะ

 

เมื่อมาถึงทุกคนจะได้รับของกินเล่นเป็นตอร์ติญาชิป กับน้ำจิ้มพริกเม็กซิกัน 3 แบบ ก่อนเมนูจริงจะเริ่มลงสังเวียน ซึ่งเมนูแนะนำที่มาแล้วต้องสั่งก็คือ Queso Fundido (380 บาท) ใครชอบชีสต้องลุกขึ้นเต้นแน่นอน เพราะเมนูนี้คล้ายชีสฟองดูว์ แต่เสิร์ฟคู่กับตอร์ติญา ซัลซา และกัวคาโมเล ส่วนด้านล่างสุดเป็นโชริโซหมู หรือใครจะเลือกเป็นเห็ดก็ได้ เวลากินจะฉีกตอร์ติญาแล้วจิ้มตั้งแต่ก้นหม้อขึ้นมา หรือใช้ช้อนตักราดแผ่นแป้งก็ได้เช่นกัน

 

 

Tostada De Tuna (390 บาท) เป็นเมนูโปรดของเราที่ไม่ว่าไปร้านเม็กซิกันร้านไหนจะต้องสั่ง เป็นทาโก้กรอบๆ ท็อปด้วยเนื้อทูน่าดิบ แต่ของ El Santo จะไม่เหมือนที่อื่นตรงเชฟใส่เนื้อส้มมาเพิ่มความสดชื่นเปรี้ยวๆ หวานๆ ด้วย

 

Tacos De Carnitas (260 บาท) ใครชอบทาโก้เนื้อนิ่มให้ลองเมนูนี้ เป็นทาโก้เนื้อเป็ดหมักเครื่องเทศเม็กซิกันนาน 4 ชั่วโมง ก่อนนำไปอบอีก 3 ชั่วโมง 

 

ส่วน Quesa-Birria (460 บาท) เป็นทาโก้เนื้อซี่โครงตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม เมนูนี้เราก็ชอบ เพราะตอร์ติญามีความกรอบๆ นุ่มๆ แถมซอสผสมช็อกโกแลตก็เข้ากันดีสุดๆ ด้วย

 

 

จานหลักเราได้ลอง Salmon En Tamarindo (800 บาท) แซลมอนหมักในซอสมะขาม เสิร์ฟพร้อมผักโขมรสครีมมี่ มะเขือเทศ และข้าวโพดอ่อน ไฮไลต์ที่ต้องต่อสู้เพื่อแย่งกันก็คือหนังแซลมอนกรอบๆ ที่วางมาด้านบน

 

ปิดท้ายยกนี้ด้วย Molten De Cacao (380 บาท) ช็อกโกแลตลาวากับไอศกรีมวานิลลา ราดด้วย Mezcal Flambe

 

 

Good for

 

El Santo เป็นร้านอาหารเม็กซิกันที่ดีทั้งรสชาติและบรรยากาศ เราว่าเหมาะกับชวนเพื่อนมานั่งปาร์ตี้ กินอาหาร จิบค็อกเทลด้วยกันสุดๆ หรือถ้าใครอยากลองกินอาหารเม็กซิกันรสชาติดั้งเดิม มีความจัดจ้าน สนุกสนานแบบเม็กซิกันแท้ๆ เราเชื่อว่าต้องชอบที่นี่

 

แล้วถ้าใครยังสนุกไม่พอ กินเสร็จจะเดินข้ามไปนั่งดื่มต่อที่บาร์ก็ได้เช่นกัน

 

 

El Santo Bangkok

Address: ด้านในโรงแรม Novotel Living Bangkok Sukhumvit Legacy ซอยสุขุมวิท 29

Open: ทุกวัน เวลา 18.00-02.00 น.

Contact: elsantobangkok

Budget: 1,000-2,000 บาท

Map:

 

 

The post El Santo ร้านอาหารเม็กซิกันที่จะพาทุกคนไปรื่นเริงบนสังเวียนมวยปล้ำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
บัฟฟาโล บิลส์ จะขายอาหารธีม เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในเกมเพลย์ออฟที่จะพบกับแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ https://thestandard.co/buffalo-bills-taylor-swift-theme-food/ Sun, 21 Jan 2024 05:33:30 +0000 https://thestandard.co/?p=890250 Taylor Swift

เป็นที่รู้กันมาสักระยะแล้วว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ กำลังคบห […]

The post บัฟฟาโล บิลส์ จะขายอาหารธีม เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในเกมเพลย์ออฟที่จะพบกับแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Taylor Swift

เป็นที่รู้กันมาสักระยะแล้วว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ กำลังคบหากับ ทราวิส เคลซี ปีกในระดับ 5 ดาวของแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ทีมในศึกอเมริกันฟุตบอล NFL

 

ชีฟส์จะลงเล่นเกมนัดดิวิชันนัลเพลย์ออฟ ศึก NFL ในวันพรุ่งนี้ (22 มกราคม) เวลา 06.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจะไปเยือนบัฟฟาโล บิลส์ คู่ปรับร่วมสาย AFC ที่สนามไฮมาร์กสเตเดียมในออร์ชาร์ดพาร์ก ทางเหนือของนิวยอร์ก

 

เพื่อเป็นการต้อนรับทีมชีฟส์ ซึ่งมีคู่รักสุดฮอตแห่งปีอย่าง สวิฟต์-เคลซี บิลส์จึงออกเมนูพิเศษมา 2 เมนูในธีมของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งทั้ง 2 เมนูตั้งชื่อตามเพลงฮิตของเธอทั้งคู่

 

 

เมนูแรกมีชื่อว่า Bad Blood Waffle Fries ซึ่งแน่นอนว่ามาจากเพลง Bad Blood ที่มียอดวิวใน YouTube มากกว่า 1.5 พันล้านครั้ง โดยเมนูจัดเต็มด้วยแซนด์วิชขนาด 2 ฟุต ซึ่งแสดงความเคารพต่ออาหารชื่อดังของแต่ละเมือง เพราะครึ่งหนึ่งราดหน้าด้วยไก่บัฟฟาโลและบลูชีส ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งราดหมูบาร์บีคิว แคนซัสซิตี้ แคทเทิลแมน พร้อมโคลสลอว์และผักดองเนย 

 

 

ส่วนเมนูที่ 2 ชื่อว่า Karma Quesadilla ซึ่งแน่นอนว่ามาจากเพลง Karma โดยเมนูนี้เป็นพิซซ่าสไตล์เม็กซิกันยัดไส้ด้วยเนื้อไก่ เบคอน ผักชี และโรยหน้าด้วยหมูสามชั้น

 

ทั้ง 2 เมนูนี้สามารถหาซื้อได้ในไฮมาร์กสเตเดียม ระหว่างเกมเพลย์ออฟในวันพรุ่งนี้ และที่ร้าน Delaware North ที่เมืองบัฟฟาโลเท่านั้น

 

สำหรับเกมเพลย์ออฟรอบ AFC ดิวิชันนัลเพลย์ออฟ จะแข่งขันกันในวันพรุ่งนี้ เวลา 06.30 น. โดยผู้ชนะจะได้ไปชิงแชมป์สายกับบัลติมอร์ เรฟเวนส์ ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาผู้ที่จะเข้าไปชิงแชมป์ซูเปอร์โบวล์ต่อไป โดยแฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดเกมคู่นี้ได้ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง True Sport 1 (666)

 

ภาพ: delawarenorth_sportservice / Instagram

อ้างอิง:

The post บัฟฟาโล บิลส์ จะขายอาหารธีม เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในเกมเพลย์ออฟที่จะพบกับแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รสชาติแห่งฤดูร้อนของประเทศเม็กซิโกที่แจ่มชัด สดชื่น และแปลกใหม่จาก Santiaga https://thestandard.co/life/santiaga-mexican-cuisine Mon, 07 Aug 2023 01:00:47 +0000 https://thestandard.co/?p=826093 Santiaga

ใครๆ ก็บอกเราว่าต้องลองมาชิมอาหารเม็กซิกันที่ ‘Santiaga […]

The post รสชาติแห่งฤดูร้อนของประเทศเม็กซิโกที่แจ่มชัด สดชื่น และแปลกใหม่จาก Santiaga appeared first on THE STANDARD.

]]>
Santiaga

ใครๆ ก็บอกเราว่าต้องลองมาชิมอาหารเม็กซิกันที่ ‘Santiaga’ ให้ได้ เพราะนี่ไม่ใช่รสชาติที่จะหาเจอตามร้านทั่วไป ไหนจะวัตุถดิบ เทคนิคการทำอาหาร และประสบการณ์อื่นๆ ที่จะได้เจออีก การมาเยือน Santiaga เป็นครั้งแรกของเราครั้งนี้บอกเลยว่าเต็มไปด้วยความสนุก น่าจดจำ และไม่ต้องลังเลเลยหากจะกลับมา

 

ส่วนใครที่เคยมาแล้ว รอบนี้เชฟบิลลี่บอกว่าเขาอยากให้ทุกคนเอ็นจอยกับอาหารได้จนจบคอร์ส (แบบไม่ทรมาน) เซ็ตเมนูฤดูร้อนจึงยอมลดเหลือ 7 คอร์ส แต่รับรองว่ายังอิ่ม และรสชาติยังหลากหลายเหมือนกำลังพาทุกคนไปเที่ยวเม็กซิโกเช่นเดิม

 

 

The Vibe

 

Santiaga เปิดอยู่ในมหาทุน พลาซ่า บนชั้น 2 ของร้านบาร์บีคิว Billy’s Smokehouse ซึ่งเป็นอีกร้านอาหารของเชฟบิลลี่เช่นกัน (แล้วยังมี La Monita ร้านอาหารเม็กซิกัน-อเมริกันที่อยู่ถัดไปอีกไม่กี่ก้าวด้วย) โดยที่นี่จะเป็นร้านเล็กๆ สไตล์เชฟส์เทเบิล มีเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ประมาณ 7 ที่นั่งต่อรอบ

 

และถึงแม้จะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส แต่เพราะบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง ทำให้กินแล้วสนุก ชวนอยากคุยกับเชฟเกี่ยวกับอาหารเม็กซิกันชื่อไม่คุ้นหู

 

 

The Taste

 

เมนูที่เสิร์ฟวันนี้เป็นรสชาติของฤดูร้อน ‘Summer Flavors of Mexico’ เชฟบิลลี่บอกว่าทุกคนจะได้ลองอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เต็มไปหมด โดยเฉพาะน้ำพริกเม็กซิกัน หรือ ‘โมเล’ ที่เชฟจะนำเสนอ 2 ชนิดพิเศษ ซึ่งปกติแล้วหาชิมไม่ได้นอกจากในสหรัฐอเมริกา

 

ในแต่ละคอร์สเชฟจะพาไปเที่ยวภาคต่างๆ ของเม็กซิโก และยิ่งลงใต้มากเท่าไรก็จะเจอความร้อนแรงมากเท่านั้น

 

เปิดด้วยของกินเล่น ‘Tlayudas’ พิซซ่าสไตล์เม็กซิกันที่ใช้แป้งตอร์ติญา ร้านทำเองใหม่ๆ ก่อนนำไปปิ้งบนกระทะแบบพิเศษจนกรอบ ราดด้วยซอสเม็กซิกัน ใส่ท็อปปิ้งถั่ว โชริโซ อะโวคาโด เสิร์ฟให้เราพร้อมซอส 2 สีที่ทำจากพริกคนละชนิด รับรองใครชอบความจัดจ้านจะไม่ผิดหวัง แถมเมนูนี้ยังกินเพลิน เป็นจานกระตุ้นต่อมน้ำลายสุดๆ

 

 

‘Agave Salad’ เข้าสู่คอร์สแรกด้วยความสดชื่น เราว่าคล้ายสลัดผลไม้ เชฟเสิร์ฟผักผลไม้ที่นำไปหมัก อบแห้ง หรือเสิร์ฟสดๆ แล้วราดด้วยซอสอะกาเวผสมเตกีลา

 

‘Molito’ จานนี้เด็ด เป็นโมเลชนิดพิเศษที่รสไม่จัดจ้านเกิดไป เชฟบอกเรียกว่า Baby Mole ทว่ายังมีรสเข้มข้นสไตล์ดั้งเดิม เสิร์ฟคู่กับปูนิ่มดรายเอจทอดกรอบ จิ้มกับโมเลแล้วเข้ากันดีมากๆ มีเกาลัดดองตัดรสด้วย

 

ตัดด้วยความสดชื่นอีกครั้ง ‘Paleta’ เป็นป๊อปซิเคิลโรย Sal de gusano หรือหนอนปรุงรสผสมพริกกับเกลือ เชฟบอกว่าหนอนที่ใช้คือ Larvae นำไปอบจนกรอบแล้วบดให้กลายเป็นเครื่องปรุงรส อยากให้ทุกคนได้ลองเมนูนี้

 

 

‘Aguachile’ หรือเมนู Chili Water ปกติแล้วชาวเม็กซิกันจะเสิร์ฟกับกุ้ง แต่เชฟบิลลี่ใช้หมึกแทน ซอสสีเขียวที่ราดทำจากพริกชนิดที่เผ็ดกว่าฮาลาเปโญ

 

เราชอบจานปลา ‘Tikin Xic’ เชฟนำปลาหมอทะเลไปย่าง ก่อนเคลือบด้วยซอสเครื่องเทศเม็กซิกัน กินคู่กับซัลซา แตงกวา และผักชี

 

‘Mole de Jamaica’ จานนี้ใช้โมเลชนิดพิเศษที่มีส่วนผสมของดอกชบา ทำให้รสชาติมีทั้งความสดชื่น เอิร์ธตี้ แต่ไม่ฉุนรุนแรง กินคู่กับหัวกุ้งทอดกรอบ เนื้อกุ้ง และเนื้อขนุน เป็นคอร์สที่เต็มไปด้วยรสชาติหลายมิติ หลายเนื้อสัมผัส แถมยังน่าสนใจมากๆ แล้วจึงปิดมื้อนี้ด้วยเมนู ‘Sandia y Brioche’ ขนมปังบริยอชรสนมกับซอร์เบตแตงโมผสมกุหลาบ 

 

 

Good for…

 

เพราะเชฟบิลลี่ตั้งใจนำเสนอวัฒนธรรมเม็กซิกันผ่าน Santiaga ตั้งแต่รสชาติ อาหาร วัตถุดิบ ทุกอย่างที่เรากินจึงเต็มไปด้วยความสนุก แปลกใหม่ และเข้าใจง่าย ไหนจะเครื่องดื่มแพริ่งที่มีครบทุกสไตล์อีก เหมือนเรากำลังได้ท่องไปในโลกของวัฒนธรรมอาหารเม็กซิกันในมุมมองใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเจอ

 

ฉะนั้นคนไหนที่เป็นแฟนอาหารเม็กซิกันตัวยง นี่คืออีกร้านที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะ

 

Santiaga

Open: เปิดวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันอังคาร) เวลา 17.30-21.30 น. 

Address: มหาทุน พลาซ่า เพลินจิต

Contact: Santiaga Mexican Cuisine 

Budget: 2,900++ บาทต่อ 7 คอร์ส (คอร์สวีแกน 2,700++ บาท, เครื่องแพริ่ง 1,300++ บาท)

Map: 

 

 

The post รสชาติแห่งฤดูร้อนของประเทศเม็กซิโกที่แจ่มชัด สดชื่น และแปลกใหม่จาก Santiaga appeared first on THE STANDARD.

]]>
Taco Tuesday ชวนกินทาโก้หลากรสทุกวันอังคาร บนชั้น 76 ของตึกมหานคร https://thestandard.co/life/ojo-king-power-mahanakhon Thu, 29 Jun 2023 12:19:28 +0000 https://thestandard.co/?p=809500

ต่อไปนี้วันอังคารถ้าไม่รู้จะกินอะไร ให้ปักหมุดไปกินทาโก […]

The post Taco Tuesday ชวนกินทาโก้หลากรสทุกวันอังคาร บนชั้น 76 ของตึกมหานคร appeared first on THE STANDARD.

]]>

ต่อไปนี้วันอังคารถ้าไม่รู้จะกินอะไร ให้ปักหมุดไปกินทาโก้

 

ใครชอบกินทาโก้บ้างยกมือขึ้น! สำหรับคนไทยถ้าเอ่ยถึงอาหารเม็กซิกันทุกคนย่อมนึกถึงทาโก้เป็นอันดับแรก โดยวันนี้เราจะพาคุณไปลองทาโก้ 4 รสชาติ ของร้าน Ojo ร้านอาหารเม็กซิกันบนชั้น 76 ของตึก King Power Mahanakhon ที่ตอนนี้ปล่อยโปรโมชัน Taco Tuesday เอาใจคนรักทาโก้ออกมา

 

 

The Vibe

 

ด้วยตั้งอยู่บนชั้น 76 ของตึก King Power Mahanakhon แน่นอนว่า Ojo โดดเด่นด้วยวิวเมืองกรุงในมุมสูง สามารถมองเห็นกรุงเทพมหานครได้กว้างและสวยงามไม่ต่างจากจุดชมวิว Mahanakhon SkyWalk แต่คุณไม่จำเป็นต้องเข้าคิวและฝ่าฝูงชนไปชมวิวยังชั้นดาดฟ้า แถมยังนั่งชิลกินอาหารอร่อยๆ ได้อีกด้วย

 

Taca Dorado (540 บาท)

 

ซ้าย: Lamb Barbacoa Taco

ขวา: Esquites

 

The Taste

 

Taco Tuesday เสิร์ฟเมนูทาโก้ 4 แบบ ให้เลือกลิ้มลอง มีให้กินทั้งแบบเนื้อสัตว์และมังสวิรัติ เริ่มต้นที่ชิ้นแรก Pulled Pork Taco ทาโก้หมูฉีกหรือพูลพอร์ก ผสมหอมแดงดอง พริกฮาลาพิโนดอง และชิชาร์รอน ชิ้นที่ 2 Grilled Mushroom Taco ทาโก้เห็ดย่าง ท็อปด้วยซอส Zarandeado อะโวคาโด และหัวหอมดอง ตามด้วย Baja Fish Taco ทาโก้ปลาบาฮาเสิร์ฟคู่สาหร่ายผักดอง ชิโพเทล และกัวคาโมเล และชิ้นสุดท้ายคือ Lamb Barbacoa Taco ทาโก้เนื้อแกะบาร์บีคิว เนื้อแกะย่างนำไปวางบนแผ่นแป้งข้าวโพด โปะด้วยกรีนซัลซา ซัลซาโบรัชชา ผักชีและหัวหอม รสเข้มหอมเนื้อแกะ ให้รสชาติเข้มข้นแบบเต็มคำ

 

ซ้าย: Pescado Zarandeado

ขวา: Arroz Con Leche

 

หากคุณคิดว่าทาโก้ 4 ชิ้นน้อยไป เราแนะนำให้สั่ง Esquites (390 บาท) ข้าวโพดอ่อนย่างที่ใช้ซอสมายองเนสผสมพริกฮาลาพิโนโรยหน้าด้วยชีสมากินเพิ่มเพื่อเรียกน้ำย่อย หรือสั่ง Pescado Zarandeado (1,800 บาท) มาเติมเต็มมื้ออาหาร ปลาย่างโรยเครื่องเทศทั้งตัว เสิร์ฟพร้อมผักย่าง เลมอน อะโวคาโด แผ่นแป้งย่าง และข้าวเหนียว จะกินห่อแบบทาโก้หรือกินแยกเพลินๆ ก็ได้เช่นกัน

 

เสร็จแล้วปิดท้ายด้วยของหวาน Arroz Con Leche (350 บาท) พุดดิ้งข้าวที่ทางร้านใช้แผ่นข้าวกรอบ ไอศกรีมอบเชยใส่ไวต์ช็อกโกเลตและเกร็ดที่ทำจากถั่วเหลือง

 

Good for

 

นักชิมที่กำลังเบื่อของกินเดิมๆ อยากลองกินอะไรใหม่ๆ หรือหาที่แฮงเอาต์เย็นๆ แบบราคาดี วิวหลักล้าน เราว่าโปรโมชัน Taco Tuesday เหมาะมาก โดยเซ็ตนี้สนนราคาอยู่ที่ 690++ บาท สามารถเลือกคละเมนูทาโก้ได้ 3 ชิ้นต่อเซ็ต รวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ Aguas Frescas 1 แก้ว หรือเลือกดื่มด่ำค็อกเทลมาร์การิตาเพิ่มเติมได้ในราคา 180++ บาท

 

 

ภาพ: พลอยจันทร์ สุขคง

 


 

Ojo

 

Location: ชั้น 76 ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon

Open: ทุกวัน มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. และมื้อเย็นเวลา 17.30-00.00 น.

Budget: Taco Tuesday 690++ บาท (ทาโก้ 3 ชิ้น + เครื่องดื่ม Aguas Frescas 1 แก้ว)

Facebook: www.facebook.com/Ojobangkok (แท็กเพจด้วยค่ะ)

Website: www.standardhotels.com/bangkok/properties/bangkok

Map: https://goo.gl/maps/dmKKTLenRiqYFcgF6

 

 

The post Taco Tuesday ชวนกินทาโก้หลากรสทุกวันอังคาร บนชั้น 76 ของตึกมหานคร appeared first on THE STANDARD.

]]>
CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (5-11 เมษายน 2566) https://thestandard.co/life/calendar-5-11-april Wed, 05 Apr 2023 03:41:46 +0000 https://thestandard.co/?p=773114 CALENDAR

เข้าสู่เดือนเมษายนอันร้อนระอุ แต่ถึงแม้อากาศจะโหดร้ายมา […]

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (5-11 เมษายน 2566) appeared first on THE STANDARD.

]]>
CALENDAR

เข้าสู่เดือนเมษายนอันร้อนระอุ แต่ถึงแม้อากาศจะโหดร้ายมากแค่ไหน ทุกคนก็อย่าเพิ่งยอมแพ้และพลาดอีเวนต์สนุกๆ ในสัปดาห์นี้ไปนะ

 

เพราะเรามีทั้งนิทรรศการครั้งใหญ่ที่เข้ามาจัดในประเทศไทยครั้งแรก บรันช์สุดพิเศษที่ร้านมื้อสายย่านพร้อมพงษ์ หรือเทศกาลดนตรีระดับโลกที่จะเกิดขึ้นช่วงสงกรานต์ที่กำลังมาถึง 

 

เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากรู้ว่าสัปดาห์นี้ไม่ควรพลาดกิจกรรมที่ไหนบ้าง รีบมาเช็กกับ #TheStandard_Calendar กันเลย

 

CALENDAR

VAN GOGH ALIVE BANGKOK / NOW – 31 JUL / ICONSIAM

 

1. Van Gogh Alive Bangkok

ใครยังลังเลอยู่ ไม่ต้องลังเลแล้วนะ เพราะนี่คืองานศิลปะครั้งใหญ่ ‘Van Gogh Alive Bangkok’ ที่เข้ามาจัดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมยกผลงานกว่า 3,000 ชิ้นของศิลปินในตำนาน Vincent Van Gogh มาจัดแสดงให้ชมแบบเต็มตา โดยไฮไลต์อยู่ตรงโซน ‘Gallery Hall’ ห้องฉายภาพวาดขนาดใหญ่ มาพร้อมเสียงดนตรีคลาสสิกชวนด่ำดิ่งไปกับชิ้นงานกว่า 40-45 นาที 

 

งานจัดที่ไอคอนสยาม ชั้น 6 บัตร VIP ราคา 1,490 บาท, บัตรทั่วไป ราคา 990 บาท, บัตร Early Bird ราคา 690 บาท (ใช้ได้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2566) และบัตรนักเรียน / นักศึกษา ราคา 480 บาท

 

When: วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2566 

Where: เจริญนคร

More Info: Van Gogh Alive Bangkok

(แท็ก https://www.facebook.com/VanGoghAliveBangkok/)

 

CALENDAR

MEXICAN BREAKFAST / 7-8 APR / LARDER

 

2. Mexican Breakfast

ร้านมื้อสายสไตล์โปแลนด์ Larder จัดมื้อเช้าสไตล์เม็กซิกันที่จะเสิร์ฟเพียง 2 วันเท่านั้น โดยเป็นการคอลแลบกับอดีตหัวหน้าเชฟจากร้านอาหาร Ms.Maria​ &​ Mr.Singh

 

ทุกคนจะได้ชิมอาหารเช้าเมนูพิเศษ ซึ่งเป็นการพบกันของสองวัฒนธรรมโปแลนด์และเม็กซิกัน อาทิ Chistorra (ไส้กรอกเม็กซิกัน), Huevos Rancheros (ตอร์ติญา ชิโซะ และซัลซา), Chilaquiles (คริสป์กรอบๆ ในซัลซาและชีสสด) หรือ Torta de Milanesa (แซนด์วิชสไตล์เม็กซิกันไส้เนื้อเซอร์ลอยน์กรอบ)

 

 

แนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้าผ่านทางเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมของ Larder

 

When: วันที่ 7-8 เมษายน 2566 เวลา 08.00-17.00 น.

Where: พร้อมพงษ์

More Info: Larder BKK

 

CALENDAR

UTOPIA NOW / NOW – 30 JUN / THE JIM THOMPSON ART CENTER

 

3. Utopia Now

นิทรรศการศิลปะโดย Kay Walkowiak ศิลปินชาวออสเตรีย ที่ต้องการตั้งคำถามต่อขนบธรรมเนียมตะวันตกและโลกเสรีทุนนิยม จนนำมาสู่แนวคิดยูโทเปีย โลกในอุดมคติ เล่าผ่านผลงานภาพยนตร์ Neon Ghost แสดงโดยศิลปิน ธีระวัฒน์ คาเงะ มุลวิไล 

 

งานมีค่าเข้าชมสำหรับคนทั่วไปราคา 50 บาท สมาชิกและเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เข้าชมฟรี

 

When: วันนี้ – 30 มิถุนายน 2566 

Where: ซอยเกษมสันต์ 2 

More Info: The Jim Thompson Art Center 

 

CALENDAR

EPIC BAR IN BKK / 8 APR / UNTITLED BAR

 

4. EPIC Bar in BKK

บาร์เทกโอเวอร์ครั้งแรกของ Untitled บาร์ค็อกเทลย่านทองหล่อ ที่ชวนทีมบาร์เทนเดอร์จาก Epic เซียงไฮ้ ประเทศจีน มายืนประจำเพียงหนึ่งคืน

 

โดย EPIC เป็นบาร์ค็อกเทลสไตล์ดิสโก้ที่เปิดมานาน 8 ปี และเป็นบาร์เพียงหนึ่งเดียวในลิสต์ World’s 50 Best Bars ที่ทีมบาร์เทนเดอร์เป็นชาวจีนทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าหากใครไม่อยากพลาดดริงก์สไตล์จีน ต้องรีบแวะไป!

 

When: 8 เมษายน 2566 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

Where: ซอยทองหล่อ 10

More Info: Untitled.thonglor 

 

CALENDAR

THE COMET AND THE NOSTALGIC SOULS / NOW – 8 APR / NOVA CONTEMPORARY 

 

5. The Comet and The Nostalgic Souls

นิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งแรกของ ศุภวิชญ์ วีสเพ็ญ กับผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดาวหางสีเขียว ผสานกับระบบแสงสีดิจิทัล จนกลายมาเป็นชิ้นงานสะท้อนให้เห็นถึงความสวยงาม ความลึกลับ และท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกโหยหา

 

พร้อมการแสดง Sound Performance ที่เป็นเสียงบำบัด โดยอิงจากพิธีกรรมรำผีฟ้าทางภาคอีสาน

 

When: วันนี้ – 8 เมษายน 2566 

Where: ซอยมหาดเล็กหลวง 3 

More Info: Nova Contemporary 

 

CALENDAR

GAME CHANGERS / NOW – 23 APR / RIVER CITY BANGKOK

 

6. Game Changers

นิทรรศการเกี่ยวกับนักปฏิวัติระดับโลกที่เป็นผู้เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ ผลงานทั้งหมดเป็นฝีมือของศิลปิน Rudy Meyer ชาวฝรั่งเศส ผู้ถนัดการสร้างผลงานสไตล์นีโอ-ป๊อป 

 

งานเปิดให้เข้าชมฟรี อยู่ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก

 

When: วันนี้ – 23 เมษายน 2566 

Where: เจริญกรุง 

More Info: River City Bangkok 

 

CALENDAR

PURE IMAGINATION / NOW – 30 APR / ATT 19

 

7. Pure Imagination 

นิทรรศการศิลปะที่รวมผลงานของศิลปินออทิสติกทั้ง 23 คน มาถ่ายทอดลงบนผืนผ้าไหม เพื่อบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชาวบ้านในอุตสาหกรรมผ้าไหม อาหาร ท้องทะเล ภาพวาดดอกไม้ รวมถึงชิ้นงานอื่นๆ ที่ชวนสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมาย

 

นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปทุกสัปดาห์ อย่างการเย็บปักผ้า การทอผ้า และการประดิษฐ์ดอกไม้จากผ้าอีกด้วย

 

When: วันนี้ – 30 เมษายน 2566 

Where: ซอยเจริญกรุง 30 

More Info: ATT 19 

 

CALENDAR

SYMPHONY / NOW – 17 APR / 333GALLERY

 

8. Symphony

นิทรรศการเดี่ยวของศิลปิน ทวีศักดิ์ อุชุคตานนท์ ที่ปลดปล่อยอารมณ์และละเลงสีสันชวนดึงดูดตาลงบนชิ้นงาน เพื่อสร้างความจรรโลงใจและแบ่งพลังงานดีๆ ให้แก่ผู้ชม

 

งานเปิดให้เข้าชมฟรี ณ ไอคอนสยาม

 

When: วันนี้ – 17 เมษายน 2566 

Where: เจริญนคร 

More Info: 333Gallery

 

CALENDAR

BLUE TREE SONGKRAN / 14-15 APR / BLUE TREE PHUKET 

 

9. Blue Tree Songkran 

มาแล้ว! เทศกาลดนตรีระดับโลกที่พร้อมชวนทุกคนไปสาดความสนุก และสะบัดเรือนร่างไปพร้อมกับเสียงดนตรีเทคโนจากเหล่าดีเจชื่อดัง เช่น Teenage Mutants, Alex Stein, Nakadia, Bart Skils หรือ Juliet Fox

 

ร่วมด้วยศิลปินท้องถิ่น เช่น Dan Buri, Vicky Kroon, Kolorone, Rui Tang, Notto, Dennis Lee และอีกมากมาย

 

งานจัด 2 วันเต็ม ราคาบัตรเริ่มต้นที่ 4,000 บาท หากซื้อหน้างาน 4,500 บาท ใครสนใจสามารถจองบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/zaapworld/bluetreesongkran

 

When: 14-15 เมษายน 2566 

Where: ภูเก็ต

More Info: Blue Tree Songkran Phuket

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (5-11 เมษายน 2566) appeared first on THE STANDARD.

]]>
THE STANDARD CALENDAR: อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 https://thestandard.co/calendar-28-dec-1-jan-2023/ Wed, 28 Dec 2022 00:31:42 +0000 https://thestandard.co/?p=729590

และแล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้อย่างเ […]

The post THE STANDARD CALENDAR: อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 appeared first on THE STANDARD.

]]>

และแล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้อย่างเป็นทางการ หลายคนน่าจะกำลังวางแผนค่ำคืนแห่งการฉลองต้อนรับปีใหม่ หรือใครหลายๆ คนอาจเตรียมทำให้สุดสัปดาห์นี้มีแต่เรื่องสนุกสุดๆ ไปเลย

 

แต่ไม่ว่าคุณจะยังคงอยู่ในกรุงเทพฯ หรือเตรียมตัวออกเดินทางไปในที่ไกลๆ เราก็มีกิจกรรมและอีเวนต์น่าสนใจมาบอกเล่ากันเช่นเคย เพราะใครจะไปรู้ว่าคุณอาจกำลังอยากจูงมือคนพิเศษออกไปเดินดูนิทรรศการด้วยกันส่งท้ายปี แล้วค่อยออกเดินทางไปใช้เวลากับครอบครัวสิ้นปีนี้ก็ได้

 

ถ้าใครพร้อมเดินเล่นแกลเลอรีด้วยกันครั้งสุดท้ายในปีนี้แล้ว มาลองดูกันเลยว่ามีงานศิลปะที่ไหนน่าสนใจรอคุณอยู่บ้าง

 

 

 

1. THE LETTER OF RAINBOW

นิทรรศการของ คณัสสนันท์ คะสุวรรณ์ นำเสนอผลงานภาพวาดและศิลปะการจัดวางที่ถ่ายทอดเรื่องราวการก้าวผ่านออกจากกรอบของแต่ละช่วงเวลาในฐานะศิลปิน 

 

ความรู้สึกกดดันจากสายตาคนรอบข้าง การถูกล้อเลียนทางเพศ ความกดดันจากสังคมเมื่อครั้งวัยเยาว์ ทั้งหมดสะท้อนออกมาผ่านผลงานที่เปรียบเหมือน ‘สาส์น’ หวังส่งถึงผู้คนให้หันมารักตัวเองผ่านมุมมองที่ไม่ได้มาจากสายตาคนอื่น 

 

When: วันนี้ – 30 ธันวาคม 2565

Where: พีเพิลส์แกลเลอรี ชั้น 2 หอศิลปกรุงเทพฯ

More Info: Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

 

 

 

 

2. Colorful Platter

นิทรรศการกลุ่มรวบรวมผลงานของ 6 นักวาดภาพประกอบชาวไทยที่เคยฝากผลงานน่าประทับใจไว้ในงาน Bangkok Illustration Fair ปี 2565 ได้แก่ BlueBlurryMonday, Chatchawan, May Wai, meanapas.c, Pnk.ff และ toddyinthemood 

 

ศิลปินสร้างสรรค์ชิ้นงานร่วมกันด้วยเทคนิคลายเส้นและโทนสีที่หลากหลาย ชวนให้ผู้ชมได้รู้สึกเหมือนรับประทานอาหารแบบ Chef’s Table ซึ่งหากเปรียบศิลปะเป็นดั่งอาหาร ศิลปินก็คือเชฟนั่นเอง

 

When: วันนี้ – 8 มกราคม 2566

Where: ผนังโค้ง ชั้น 5 หอศิลปกรุงเทพฯ

More Info: Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

 

 

 

3. NEW YEAR’S EVE SALSA PARTY

บาร์ค็อกเทลที่มาพร้อมอาหารเม็กซิกัน Mezcal ชวนทุกคนมาสนุกส่งท้ายปีด้วยกันใน Salsa Party ที่มีทั้งเสียงเพลงจากดีเจให้สนุก การแสดงพิเศษให้ชม และอาหารกับเครื่องดื่มสุดพิเศษให้เพลินกันทั้งคืน

 

งานนี้ใครอยากเคานต์ดาวน์ปีใหม่ที่บาร์ค็อกเทล รีบจองที่นั่งเลย

 

When: 31 ธันวาคม 2565

Where: ถนนสาทรใต้

More Info: Mezcal Bar

 

 

 

4. VIVID RECOLLECTION of the Past 

นิทรรศการที่เสมือนเป็นการเก็บความประทับใจอย่างไม่มีวันลืมของ อัญชนา นังคลา ที่มีต่อ Claude Monet ศิลปินแนวอิมเพรสชันนิสม์ผู้เป็นต้นแบบ เมื่อครั้งมีโอกาสไปชมผลงานจริงของ Monet ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงปารีส จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเขียนภาพเพื่อรำลึกความรู้สึกในการไปเยือนฝรั่งเศส และได้ชมผลงานจริงของศิลปินที่เธอเคารพรัก 

 

When: วันนี้ – 8 มกราคม 2566

Where: ชั้น 1 River City Bangkok

More Info: River City Bangkok

 

 

 

5. ทวิ-พบ (Me and Them)

ปฏิบัติการทางศิลปะของ ธวัชชัย สมคง ที่ชุบชีวิตจิตรกรผู้ล่วงลับเจ้าของผลงานภาพวาดอายุนับร้อยปี นำพวกเขากลับมามีตำแหน่งอีกครั้งในโลกปัจจุบัน

 

ผลงานของช่างเขียนรูปตะวันตกจากตลาดนัดขายของเก่าในอิตาลี หรือแม้แต่ eBay ศิลปินนำภาพวาดเหล่านั้นมาสอดแทรกและแต่งเติมสาระให้กับภาพ ดึงเอาคุณลักษณะที่น่าสนใจของชิ้นงานขึ้นมานำเสนอใหม่ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์เฉพาะตัว ด้วยการใช้ศาสตร์ของจิตรกรในการแต่งแต้ม ดัดแปลงเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลงานดั้งเดิม จนเกิดเป็นสภาวะของความกลมกลืน แนบเนียน หรือแม้กระทั่งโดดเด่นจนดูน่าขัดแย้งในเวลาเดียวกัน

 

When: วันนี้ – 22 มกราคม 2566

Where: ถนนหลานหลวง 47

More Info: Matdot Art Center

 

 

 

6. A Primordial Void

นิทรรศการที่จะพาคุณเดินทางเข้าไปในถ้ำจำแลง และเชื้อเชิญให้จ้องมองความมืดที่กลืนกิน มองเข้าไปในความกลวงเปล่า ล้วงสายตาลึกเข้าไปในลำไส้ของผืนดิน และในท้องไส้ของตนเอง 

 

งานนี้เป็นของศิลปิน จัน-เพ็ญจันทร์ ลาซูส ผู้โผตัวดำดิ่งลงไปในความมืดมิดที่ว่างเปล่า เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการแปลงเปลี่ยน คิดถึงถ้ำในฐานะสถานที่ลี้ลับแห่งการก่อกำเนิด 

 

When: วันนี้ – 21 มกราคม 2566

Where: ถนนจันทน์เก่า

More Info: Blind Space Bangkok

 

 

 

7. The Elements 

นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ เจฟ อภิสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบลายเส้นสไตล์การ์ตูนที่มีความคมชัดและโดดเด่นในการใช้สี เปรียบเปรยมุมมองชีวิตกับงานศิลปะว่ามีความเหมือนกัน ศิลปินจึงบอกเล่าเหตุการณ์ในชีวิตผ่านลายเส้น และการลงสีเสมือนเป็นการจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงในผลงาน

 

When: วันนี้ – 29 มกราคม 2566

Where: ร่วมฤดีซอย 2

More Info: KICHgallery

The post THE STANDARD CALENDAR: อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 appeared first on THE STANDARD.

]]>
THE STANDARD CALENDAR: อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจระหว่างวันที่ 19-25 ธันวาคม 2565 https://thestandard.co/calendar-19-25-dec-2022/ Mon, 19 Dec 2022 12:35:04 +0000 https://thestandard.co/?p=725869

ในที่สุดก็มาถึงสัปดาห์ที่ทุกคนรอคอย เพราะสัปดาห์นี้มีวั […]

The post THE STANDARD CALENDAR: อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจระหว่างวันที่ 19-25 ธันวาคม 2565 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในที่สุดก็มาถึงสัปดาห์ที่ทุกคนรอคอย เพราะสัปดาห์นี้มีวันคริสต์มาสที่หลายคนรักรวมอยู่ด้วยนั่นเอง! ถ้าใครพร้อมออกไปสนุกสนานพร้อมรับลมหนาวที่พัดมาถึงสักทีแล้ว รีบมาดูกันเลยดีกว่าว่าสัปดาห์นี้จะมีอะไรสนุกๆ รอพวกเราอยู่บ้าง

 

เพราะพวกเราคัดมาให้เลือกตั้งแต่นิทรรศการศิลปะ เทศกาลไฟย่านเจริญกรุง หรือชวนหยิบของเล่นไปแลกเครื่องดื่มฟรีในวันคริสต์มาสกันที่ร้านอาหารเม็กซิกันลับๆ ในซอยย่านอโศก

 

เอาล่ะ อย่ารอช้า รีบมาเลือกอีเวนต์ที่ชอบ พร้อมแท็กคนที่ใช่ให้ไปด้วยกันเลยดีกว่า

 

 

1. POORBOYLIFE

นิทรรศการถ่ายทอดชีวิตของศิลปิน ต้น-เกษมวิทย์ ชวีวัฒน์ ผ่านคาแรกเตอร์ POORBOY เจ้าขนปุยสีขาวที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นเพื่อนคู่ใจ พร้อมพาผองเพื่อนออกเดินทางจากป่ามาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความสนุก แต่ก็รู้สึกแปลกแยกในเวลาเดียวกัน เพราะใจหนึ่งก็หลงใหลแสงสี อีกใจหนึ่งก็คิดถึงบ้านเกิด งานนี้คงสะท้อนใจใครหลายคนไม่มากก็น้อย

 

When: วันนี้ – 31 มกราคม 2566

Where: RCB Galleria 1 River City Bangkok

More Info: TrendyGallery.Art

 

 

 

2. Awakening Bangkok

กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลแสงไฟที่จะทำให้เจริญกรุง-ตลาดน้อยสว่างไสวไปทั่วย่าน อากาศดีๆ ช่วงปลายปีแบบนี้ ไปเดินเล่นชมผลงานศิลปะที่รอบนี้มาในคอนเซปต์ Endless Tomorrow: เพื่อพรุ่งนี้ และตลอดไป ชวนให้ขบคิดเฝ้าหาคำตอบของการมีชีวิตอยู่อย่างยืนยาว อยู่อย่างไรถึงจะไม่ตาย ปรับตัวอย่างไรจึงจะทนต่อความเปลี่ยนแปลง และทำอย่างไรสิ่งรอบตัวจะยั่งยืนยาวไปกับเรา

 

When: วันนี้ – 25 ธันวาคม 2565

Where: ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย

More Info: Awakening Bangkok 2022

 

 

 

3. The Thing Called Labyrinth A Photographic Group Exhibition By BAD EYES

สิ่งที่เรียกว่าเขาวงกต คือสิ่งที่กลุ่มศิลปินอิสระ BAD EYES เปรียบเทียบว่าชีวิตของเรานั้นช่างคล้ายคลึง พวกเขาถ่ายทอดผ่านนิทรรศการภาพถ่าย บอกเล่าเรื่องราวของศิลปินทั้งสี่ที่พยายามหลีกหนี ลัดเลาะ และก้าวผ่านออกจากเขาวงกต เพราะในแต่ละก้าวของชีวิต เราต่างต้องย่ำลงบนทางเดินคดโค้งที่ลัดเลี้ยวไปมาในพื้นที่น่าฉงนจนดูไม่มีที่สิ้นสุด

 

When: วันนี้ – 9 มกราคม 2566

Where: ชั้น 3 โซน MUNx2 ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

More Info: HOP Hub Of Photography

 

 

 

4. The City & The City: Fool’s Garden and the Glass Human (สวนคนเขลาและมนุษย์แก้ว) 

ฟิล์ม-อชิตพนธิ์ เพียรสุขประเสริฐ และ น้ำอุ่น-พิชชาภา หวังประเสริฐกุล สองศิลปินรุ่นใหม่นำนิทรรศการออนไลน์ในปี 2021 มาต่อยอด เพื่อขยายความหมายของ ‘บ้าน’ สู่ ‘เมือง’ มาจนถึง ‘สวนคนเขลาและมนุษย์แก้ว’ เพื่อชวนให้เราครุ่นคิดถึงความหมายของการจัดเก็บสิ่งนามธรรมในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ปัญญา การรับรู้ หรือความสัมพันธ์ที่ถูกแปรสภาพให้เป็นมูลค่าโดย ‘ทุนนิยม’

 

When: วันนี้ – 7 มกราคม 2566

Where: ถนนพระราม 4 

More Info: Art4C, Gallery and Creative Learning Space

 

 

 

5. Cholos Xmas Tito’s Toys and Tacos!

ร้านอาหารเม็กซิกันสไตล์แอลเอ Cholos BKK เตรียมเปิดประตูร้านสไตล์ฟู้ดทรักให้ทุกคนมานั่งสนุก พร้อมมีดีเจเปิดเพลงให้ฟังด้วยกันในวันคริสต์มาส 

 

งานนี้นอกจากจะมีเมนูทาโก้ให้อิ่มท้องกันแล้ว ทุกคนจะได้รับเครื่องดื่ม Tito ฟรีอีกด้วย เพียงแค่นำของเล่นมาแลก เพราะร้านร่วมกับ SECOND CHANCE BANGKOK ผู้จะนำของเล่นทุกชิ้นไปส่งต่อความสุขให้เด็กๆ ในชุมชนคลองเตย

 

When: 25 ธันวาคม 2565

Where: สุขุมวิท 12

More Info: Cholos Bkk

 

 

 

6. Arahmaiani | Nomadic Ecologies

นิทรรศการภาคต่อ หนึ่งในโปรเจกต์ Nomadic Ecologies ของ Arahmaiani ศิลปินและนักเคลื่อนไหวชาวอินโดนีเซีย เธอใช้ศิลปะเป็นตัวแทนการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงผู้คนที่มีความแตกต่างให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปรองดอง

 

โดยศิลปินหยิบยก The Flag Project Thailand มาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนมุสลิมในประเทศไทย ที่บางอย่างไม่เคยเปิดเผยที่ไหน เพื่อชวนให้เราทำความเข้าใจถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม

 

When: วันนี้ – 14 มกราคม 2566

Where: เจริญกรุง 36

More Info: WarinLab

 

 

 

8. Vessel of desires

นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ Trevor Foster ศิลปินนักเดินทางผู้มาเยือนดินแดนที่ตนไม่คุ้นเคย ก่อนถูกดึงดูดไว้ด้วยความงดงามของศิลปะพื้นถิ่นของแต่ละแห่งที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 

 

เขาเปลี่ยนพื้นที่จัดแสดงให้กลายเป็นห้องมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยศิลปวัตถุที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทาง ประยุกต์เข้ากับลวดลายชวนสะดุดตา สะท้อนคุณค่าและประเพณีในแต่ละพื้นถิ่นเอาไว้

 

When: วันนี้ – 15 มีนาคม 2566

Where: ซอยสุขุมวิท 39

More Info: SAC Gallery

The post THE STANDARD CALENDAR: อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจระหว่างวันที่ 19-25 ธันวาคม 2565 appeared first on THE STANDARD.

]]>
TASTE: เรียนรู้วัฒนธรรมอาหารเม็กซิกันแท้ๆ กับคอร์ส Mexican 101 ที่ Santiaga https://thestandard.co/taste-mexican-101-santiaga/ Tue, 02 Aug 2022 06:56:34 +0000 https://thestandard.co/?p=661640

หลังจากประสบความสำเร็จกับอาหารเม็กซิกันสไตล์แคลิฟอร์เนี […]

The post TASTE: เรียนรู้วัฒนธรรมอาหารเม็กซิกันแท้ๆ กับคอร์ส Mexican 101 ที่ Santiaga appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลังจากประสบความสำเร็จกับอาหารเม็กซิกันสไตล์แคลิฟอร์เนียจากร้าน La Monita มาแล้ว เชฟ Billy Bautista และ โอ๋-กษมา เหล่าพาณิชย์ ขอสานฝันทำร้านอาหารเม็กซิกันแบบออริจินัล เพื่อแนะนำให้คนไทยได้รู้จักรสชาติระดับเวิลด์คลาส จากวัฒนธรรมอาหารที่มีอายุมากกว่า 500 ปี

 

Mexican 101 Santiaga

 

Santiaga คือร้านอาหารเม็กซิกันน้องใหม่บนชั้น 2 ของ Billy’s Smokehouse แตกต่างจากร้านอื่นในเมืองไทยที่ส่วนใหญ่จะเน้นอาหารแนวสตรีทฟู้ด กินง่าย กินไว โดยใส่บรรยากาศความเป็นไฟน์ไดนิ่งลงไป เพราะจริงๆ แล้วอาหารเม็กซิกันมีเรื่องราว กระบวนการ และเทคนิคที่ไม่ต่างจากอาหารเวิลด์คลาสอื่นๆ อย่างอาหารฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น หรือไทย โดยทั้งคู่ได้ศึกษาและหาวัตถุดิบมาผสมกับเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติแบบเม็กซิกันแท้ๆ

 

Mexican 101 Santiaga

เชฟ Billy Bautista (คนกลาง)

 

ความใส่ใจในรายละเอียดเริ่มตั้งแต่การเลือกใช้อุปกรณ์อย่าง Clay Comal กระทะดินเผาโบราณ ที่นำมาใช้ทำแผ่นตอร์ติญาซึ่งทำมือทุกแผ่น ส่วนวัตถุดิบอย่างข้าวโพดก็รับโดยตรงมาจากเกษตรกร โดยเลือกข้าวโพด 3 ชนิด เพื่อให้สีและเท็กซ์เจอร์ที่ตรงใจ ในขณะที่เครื่องเทศบางส่วนก็นำเข้าจากเม็กซิโก เช่น พริกจากแคว้นวาฮากา เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่ซับซ้อนแบบต้นฉบับจริงๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเทศที่นำมาปลูกในฟาร์มออร์แกนิกในเมืองไทยอีกด้วย 

 

Mexican 101 Santiaga

Mexican 101 Santiaga

 

โอ๋เล่าว่าจริงๆ คนไทยรู้จักอาหารเม็กซิกันมาร่วม 10 ปีแล้ว และเป็นอาหารที่มีความจัดจ้านถูกปากคนไทย การเปิด Santiaga ก็เพราะอยากแนะนำความหลากหลายของอาหารเม็กซิกันที่มีจุดเด่นในแต่ละภูมิภาค ไม่ต่างจากอาหารไทยที่มีทั้งอาหารเหนือ ใต้ กลาง อีสาน จนเกิดเป็น Maxican 101 ที่เหมือนพาเที่ยวเม็กซิโกด้วยอาหาร 11 คอร์ส (ราคา 2,700 บาท)

 

Grilled Japanese Oyster 

 

Mexican 101 Santiaga

 

หอยนางรม Sanriku ของญี่ปุ่น นำมาย่าง ทาด้วยเนยฝรั่งเศสผสมเข้ากับ Epazote สมุนไพรจากเม็กซิโกที่ทางร้านนำมาปลูกในไร่ออร์แกนิก แล้วนำไปสโมกให้กลิ่นมีมิติมากยิ่งขึ้น เป็นการผสมผสานวัตถุดิบและเทคนิคที่หลากหลาย แต่ยังคงให้รสชาติแบบเม็กซิกันดั้งเดิม 

 

Sopa Ofelia 

 

Mexican 101 Santiaga

 

ซุปสูตรคุณยายของเชฟ โดยเป็นซุปที่ทำจากถั่ว ผสมเข้ากับกระบองเพชรที่เจ้าของปลูกเองที่บ้าน นำมาหั่นเป็นลูกเต๋า โรยด้วยกึ๋นไก่ รสชาติเข้มข้นและยังได้รสสัมผัสความกรุบทั้งจากกระบองเพชรและกึ๋นไก่อีกด้วย 

 

Santiga Grilled Salad 

 

Mexican 101 Santiaga

 

สลัดผักย่างที่ได้แรงบันดาลใจจากข้าวโพดปิ้งแบบเม็กซิกันที่มักทามายองเนส มะนาว โรยพริก และชีส นำมาปรับให้เป็นผักคอสย่างแล้วเดรสซิ่งให้เหมือนข้าวโพดปิ้งแทน จึงได้รสหอมมัน ส่วนที่ด้านล่างเป็นสลัดร็อกเก็ตเดรสซิ่งด้วย Pineapple Tepache น้ำสับปะรดหมักเครื่องดื่มพื้นเมืองยอดนิยมของเม็กซิโก คล้ายคอมบูชา นำมารีดักชันให้เข้มข้น รสชาติออกเปรี้ยวสดชื่น กลายเป็นซิกเนอเจอร์ของทางร้านที่หารับประทานที่อื่นไม่ได้ 

 

Seafood Cocktail 

 

Mexican 101 Santiaga

 

อาหารทะเลราดด้วยเดรสซิ่งรสชาติจัดจ้านคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ดของไทย ซึ่งปกติจะกินกับแผ่นตอร์ติญาชิป แต่ทางร้านปรับใหม่ด้วยการนำแป้งตอร์ติญาที่ทำเป็นถ้วยเอาไปทอด เพื่อให้ได้ความกรอบเพื่อเบรกความจัดจ้าน 

 

CDMX Gordita

 

Mexican 101 Santiaga

 

เบอร์เกอร์ชิ้นเล็ก อาหารยอดนิยมจากเม็กซิโกซิตี ซึ่งร้านอาหารเม็กซิกันในเมืองไทยนิยมใช้แผ่นแป้งสีขาวใส่เนื้อและชีสแล้วนำไปย่าง แต่ทางร้านเลือกทำแบบออริจินัล ด้วยการใช้ข้าวโพด นำไปทอดแล้วยัดใส่ซัลซาและชีส เพื่อให้ได้รสชาติแบบเม็กซิโกซิตีจริงๆ 

 

Pescado Taco

 

Mexican 101 Santiaga

 

ทาโก้ปลาที่นำมาประยุกต์ด้วยการนำปลาปลาทูน่าครีบเหลืองมาสโมกให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แล้วใส่ส่วนผสมด้านบนด้วยกะหล่ำปลีและแครอตดอง เพิ่มความมันด้วยอะโวคาโดฝาน 

 

Canitas Taco 

 

Mexican 101 Santiaga

 

Canitas คือเมนูหมูที่อบสไตล์เม็กซิกันยอดนิยมในเมืองไทย แต่ที่ Santiaga ใส่ความแตกต่างด้วยการใช้หม้อทองแดง แล้วนำส่วนไหล่ของหมูลงไปซูวีด์ร่วมกับส่วนอื่นๆ ทั้งหู ขา และหนังหมู ให้ได้ความชุ่มฉ่ำตามสูตรเม็กซิกันแท้ๆ ผสมเข้ากับซัลซาอะโวคาโด ส่วนด้านบนโรยด้วยผักแพวที่คล้ายกับผักชนิดหนึ่งของเม็กซิโก และเพิ่มเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบด้วยแคปหมู

 
Carne Asada Taco

 

Mexican 101 Santiaga

 

ทาโก้เนื้อโดยเลือกใช้เนื้อวากิวส่วนท้องที่มีมันแทรก มีรสชาติดี แต่จะยังมีความเด้งสู้ฟัน ด้านบนโรยด้วย Machaca หรือเนื้อแดดเดียวเอาไปทุบและยีให้ฟู มีกลิ่นสโมกกี้นิดๆ ช่วยเพิ่มรสอูมามิ

 

Enchilada de Pato  

 

Mexican 101 Santiaga

 

อกเป็ดม้วนในแผ่นตอร์ติญาบนซอสสูตรเฉพาะ ที่ใช้นม เนยฝรั่งเศส และครีม เอามาผสมกับเครื่องเทศ แล้วราดด้วยพริกที่มีกลิ่นสโมกหน่อยๆ ให้รสเผ็ดช่วยตัดเลี่ยน ทำให้รสชาติกลมกล่อมนุ่มนวลขึ้น 

 

Chicken Pipian 

 

Mexican 101 Santiaga

 

โมเลที่คล้ายแกงของบ้านเรา ด้วยส่วนผสมมากกว่า 30 ชนิด แล้วนำมาเคี่ยว ความจริงแล้วมีโมเลทั้งสีเขียว แดง และขาว ซึ่งก็จะให้รสชาติที่ต่างกันออกไป โดยทางร้านเปิดตัวด้วยโมเลสีแดง รสชาติเผ็ดปานกลาง (ซอสในอาหารเม็กซิกันส่วนใหญ่สีเขียวจะมีรสเผ็ดที่สุด) ด้านบนเป็นไก่อบ แล้วนำมาจี่บนกระทะเพื่อให้ได้หนังที่กรอบเพิ่มเท็กซ์เจอร์

 

Pan De Elote Con Rompope 

 

Mexican 101 Santiaga

 

ขนมที่สูตรดั้งเดิมจะใช้สปันจ์เค้ก แต่ทางร้านปรับสูตรให้เป็นเค้กข้าวโพดนำไปแช่ในนม 3 ชนิด ทำให้หอมกลิ่นข้าวโพด ด้านบนราดด้วย Rompope ที่มีส่วนผสมของเหล้ารัม ทำให้รสชาติมีมิติยิ่งขึ้น 

 

Mexican 101 Santiaga

 

นอกจากเมนู 11 คอร์ส ในอนาคตทางร้านยังจะเปิดโอมากาเสะอาหารเม็กซิกันเต็มรูปแบบอีกด้วย ส่วนตอนนี้ถ้าใครอยากลองประสบการณ์ก่อนคนอื่น ทางร้านก็เปิดโต๊ะโอมากาเสะสำหรับหมู่คณะ ที่มีให้เลือกระหว่างอาหาร 11 หรือ 13 คอร์สแบบเซ็ตเมนู

 

Santiaga Mexican Cuisine

Location: บนชั้น 2 ของ Billy’s Smokehouse บริเวณอาคารมหาทุน พลาซ่า เพลินจิต 

Open: เปิดบริการวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 17.00-21.30 น. 

Contact: 0 2651 4399

Budget: 1,000 บาท 

Facebook: www.facebook.com/santiagabkk

Map: https://goo.gl/maps/idaq9a8vgk4DYBDYA

 

 

The post TASTE: เรียนรู้วัฒนธรรมอาหารเม็กซิกันแท้ๆ กับคอร์ส Mexican 101 ที่ Santiaga appeared first on THE STANDARD.

]]>
TASTE: Ojo เม็กซิกันสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมรสชาติดั้งเดิม https://thestandard.co/taste-ojo-mexican-style/ Wed, 22 Jun 2022 10:45:55 +0000 https://thestandard.co/?p=645086 Ojo

ลืมทาโก้และนาโชส์ไปก่อน เพราะ Ojo มาพร้อมนิยามใหม่ของอา […]

The post TASTE: Ojo เม็กซิกันสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมรสชาติดั้งเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
Ojo

ลืมทาโก้และนาโชส์ไปก่อน เพราะ Ojo มาพร้อมนิยามใหม่ของอาหารเม็กซิกันในเมืองไทย

 

Ojo (โอโฮ) หรือดวงตาในภาษาสเปน เป็นห้องอาหารเปิดใหม่บนชั้น 76 ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่นำเสนออาหารเม็กซิกันที่มีรสดั้งเดิมแต่เสิร์ฟมาในสไตล์โมเดิร์น โดยมีเชฟชาวเม็กซิกันแต่กำเนิดเป็นผู้คิดค้นสูตรอาหารอย่าง ฟรานซิสโก ปาโก รูอาโน (Francisco ‘Paco’ Ruano) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับอินเตอร์ จากการเปิดร้านอาหาร Alcalde ในประเทศบ้านเกิดจนคว้ารางวัล Latin America’s 50 Best Restaurants มาครอง ซึ่งที่ Ojo แห่งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้สร้างสรรค์เมนูอาหารให้กับร้านที่อยู่นอกประเทศเม็กซิโก เชฟปาโกจึงอยากนำรสชาติเม็กซิกันแท้ๆ ที่ยังไม่ค่อยเห็นในบ้านเรา มาผสมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ ที่เข้ามาช่วยยกระดับอาหารเม็กซิกันของ Ojo ตั้งแต่หน้าตา การนำเสนอ รสชาติ และประสบการณ์ใหม่ๆ หลังจากที่ได้ชิมอาหารเม็กซิกันของที่นี่

 

Ojo

ออกแบบและตกแต่งโดย Ou Baholyodhin Studio (OBS)

 

Ojo

Ojo

 

เมนูของที่นี่เชฟปาโกเน้นไปที่วัตถุดิบจากเมืองไทย ที่คัดสรรวัตถุดิบที่ดีจากเกษตกรและชาวประมงไทย เริ่มจากจานกินเล่นอย่าง Ojo Guacamole (480 บาท) หรือกัวคาโมเลสูตรโอโฮ ที่อัดแน่นด้วยเนื้อปูและไข่ปลาอิคุระ กินคู่กับแป้งตอร์ติญาแผ่นบางกรอบสไตล์โฮมเมด Aguachile (590 บาท) ที่ทางร้านใช้กุ้งลายเสือที่สุกระดับเนื้อกุ้งยังหวานเด้ง ใส่มะเขือเทศเขียว ท็อปด้วยแตงกวาฝานและพริกเขียว ให้รสชาติที่คล้ายกุ้งแช่น้ำปลาที่มีความกลมกล่อม ไม่เผ็ดโดด แต่มีรสเปรี้ยวนำ สดชื่น

 

Ojo

Ojo Guacamole (480 บาท)

 

Ojo

Aguachile (590 บาท)

 

Coconut Ceviche (420 บาท) ที่เสิร์ฟมาในผลมะพร้าว ใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนมาปรุงรสด้วยถั่วเหลืองหมัก กะทิ และพริกเหลือง หรือ Esquites (390 บาท) ข้าวโพดอ่อนย่างที่ใช้ซอสมายองเนสผสมพริกจาลาปิโน โรยหน้าด้วยชีส

 

Ojo

Esquites (390 บาท)

 

Ojo

Coconut Ceviche (420 บาท)

 

ในขณะที่จานหลักแนะนำเป็น Pollo & Pipian (1,300 บาท) หรือไก่ย่างเสิร์ฟพร้อมซอสกรีนโมลที่ทำจากผักใบเขียวและเม็ดฟักทองบด ตัวไก่นุ่มกำลังดี ไม่แห้ง เข้ากันกับซอสสูตรพิเศษ จานปลา Pescado Zarandeado (1,100 บาท) ปลาย่างเตาไม้พิเศษกินคู่กับอะโวคาโด มาพร้อมเลมอนที่นำไปกริลล์เพื่อชูรสชาติ

 

Ojo

Pollo & Pipian (1,300 บาท)

 

Ojo

Carnitas (1,400 บาท) และ Pescado Zarandeado (1,100 บาท)

 

หรือ Birria (2,500 บาท) ซี่โครงเนื้อที่เชฟนำไปสโลว์คุกจนเนื้อนุ่มละลายแทบไม่ต้องเคี้ยว รสชาติเข้มข้น นอกจากนี้ยังมี Carnitas (1,400 บาท) ซี่โครงหมูที่ท็อปด้านบนด้วยผักใบที่มีรสและกลิ่นฉุนเล็กน้อย ทั้งหมดนี้เข้ากันได้ดีกับแป้งตอร์ติญาหรือข้าวเหนียวแบบไทยๆ ที่เชฟเลือกเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารด้วย 

 

Ojo

Birria (2,500 บาท)

 

ส่วนขนมหวานเราได้ลอง Arroz Con Leche (350 บาท) หรือพุดดิ้งข้าว ที่ทางร้านใช้แผ่นข้าวกรอบ ไอศกรีมอบเชยใส่ไวต์ช็อกโกเลตและเกร็ดที่ทำจากถั่วเหลือง

 

Ojo

Arroz Con Leche (350 บาท) 

 

Ojo

ที่นี่ยังมีค็อกเทลไว้ให้บริการอีกด้วย

 

หลังจากที่ได้ลิ้มลองอาหารที่ทางเชฟปาโกระบุว่านี่แหละคืออาหารเม็กซิกันแบบดั้งเดิมจริงๆ ก็รู้สึกว่าอาหารเม็กซิกันนั้นมีความใกล้เคียงกับอาหารไทยไม่น้อย เพราะแต่ละจานมีรสชาติที่ครบรส ไม่ว่าจะเปรี้ยว เค็ม กลมกล่อม หรือเผ็ดร้อนด้วยพริกเม็กซิกัน จึงถือเป็นอาหารต่างชาติที่กินง่ายและน่าจะเข้าปากคนไทยที่ไม่ได้เป็นสายนม เนย ครีม ชีส หรือต้องหนักด้วยแป้ง

 

และไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่ได้รับการยกระดับ Ojo ยังสวยเป็นพิเศษด้วยฝีมือการออกแบบและตกแต่งโดย Ou Baholyodhin Studio (OBS) หรือที่รู้จักกันในนาม อู้ พหลโยธิน ที่เน้นความหรูหราร่วมสมัย โดดเด่นด้วยโทนสีทองที่แสดงถึงความโอ่อ่า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโลหะและหินอัญมณี รวมถึงสิ่งทอที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมลาตินอเมริกา ทำให้ห้องอาหารแห่งนี้สวยทั้งยามก่อนพระอาทิตย์ตกดินและยามค่ำคืนที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯ จากชั้น 76 ได้อย่างเต็มตา

 

Ojo

Ojo

 

แนะนำว่าควรมาจิบค็อกเทลในช่วงเย็นก่อน เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกและเก็บภาพสวยๆ ของที่นี่ ก่อนที่จะนั่งโต๊ะดินเนอร์อย่างจริงจัง เพื่อให้การมาที่ Ojo นั้นเต็มอิ่มทั้งภาพที่เห็นและรสสัมผัสของอาหารที่เราได้ลิ้มลองในค่ำคืนนั้น

 

Ojo

 

Ojo

Location: ชั้น 76 ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon

Open: ทุกวัน มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. และมื้อเย็นเวลา 17.30-24.00 น.

Contact: 0 2085 8888

Budget: 1,000 บาท 

Website: www.standardhotels.com/bangkok/properties/bangkok

Map: https://goo.gl/maps/dmKKTLenRiqYFcgF6

 

 

 

ภาพ: ภควรรษ ประเสริฐศักดิ์

The post TASTE: Ojo เม็กซิกันสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมรสชาติดั้งเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>