วานนี้ (10 มกราคม) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์กรณี Forced Sell หุ้น RS

โดย บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ชี้แจงว่า ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ.อาร์เอส (RS) ไม่ได้มีธุรกรรมคงค้างในบัญชีกู้ยืม (Margin) กับ บล.ดาโอ ดังนั้น บล.ดาโอ จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบังคับขายหุ้น (Forced Sell) RS แต่อย่างใด และไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ บล.ดาโอ ยังคงมีสถานะการเงินที่มั่นคงเพียงพอในการประกอบธุรกิจ และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือกลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) ซึ่งถือหุ้น 88% โดยบริษัท DAOL Investment & Securities (DAOL IS) ประเทศเกาหลีใต้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ปมปัญหาเครดิตผู้บริหาร ‘จำนำหุ้น-ถูก Forced Sell’ ฉุด RS ร่วงติดฟลอร์ 3 วันรวด…

The post บล.ดาโอ ออกแถลงการณ์ ยืนยันไร้เอี่ยว Force Sell หุ้น RS appeared first on THE STANDARD.

RS โชว์กำไรปี 2566 อยู่ที่ 1,395 ล้านบาท เติบโตจากธุรกิจคอนเสิร์ต-อีเวนต์ พร้อมเดินหน้าขยายโซเชียลคอมเมิร์ซ ตั้งเป้าสิ้นปีจะสร้างรายได้เติบโตถึง 4,400 ล้านบาท 

อาร์เอส กรุ๊ป เผยผลประกอบการปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,650 ล้านบาท และผลกำไรสุทธิ 1,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 918% จากปีก่อนหน้า จากการฟื้นตัวของธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทั้งคอนเสิร์ต อีเวนต์ สปอนเซอร์ และการขายสื่อโฆษณา 

รวมไปถึงการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2566 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ อาร์เอส กรุ๊ป เร่งขยายอีโคซิสเต็มของทุกธุรกิจ พร้อมปรับโครงสร้างการทำงานในทุกธุรกิจให้มีความคล่องตัวขึ้น เริ่มตั้งแต่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่สร้างการเติบโตทั้งจากการยกระดับคอนเทนต์ของทุกช่องทางสื่อ ขณะที่กิจกรรมออนกราวด์ต่างๆ กลับมาดำเนินได้เป็นปกติตลอดทั้งปี ประกอบกับคอนเสิร์ตทั้งของอาร์เอส และความร่วมมือภายใต้กิจการร่วมค้า ‘อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส’ กับ GMM Music ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ‘เฮียฮ้อ’ จัดทัพผู้บริหารปั้น S-Curve ใหม่ ลุยธุรกิจเพลง-เอ็นเตอร์เทนเมนต์-คอมเมิร์ซ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4.4 พันล้านบาท

• RS ส่งสินค้า-คอนเสิร์ตบุกตลาดส่งท้ายปี หลังจากไตรมาส 3 โกยกำไรไป 1,182 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดจากธุรกิจคอนเสิร์ต มั่นใจไตรมาส 4 โตต่อ

• RS ปิดกำไรไตรมาส 2 ไป 93 ล้านบาท ครึ่งปีหลังเตรียมจัดอีก 2 คอนเสิร์ตใหญ่ พร้อมหาพาร์ตเนอร์ทำ M&A และ JV สร้างโอกาสโต

ทั้งหมดส่งผลให้รายได้ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์เติบโต รวมไปถึงการจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับพาร์ตเนอร์ค่ายเพลงชั้นนำอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Universal Music Group เพื่อบริหารลิขสิทธิ์เพลงร่วมกัน เติบโตจากดิจิทัลแพลตฟอร์มและสตรีมมิง รวมถึงเป็นโอกาสดีในการขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ตลาดภูมิภาค 

ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจคอมเมิร์ซได้ขยายสินค้าและบริการอย่างครบวงจร โดยเฉพาะ RS pet all ซึ่งเป็นธุรกิจสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ปัจจุบันบริษัทแบ่งเป็น 3 ธุรกิจย่อย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ Lifemate, HATO VETERINARY SELECT และ Jungle Monster Thailand และธุรกิจเซอร์วิสภายใต้แบรนด์ HATO Pet Wellness Center และโรงพยาบาลสัตว์ HATO และธุรกิจรีเทลช็อปภายใต้แบรนด์ PET ALL MY LOVE จำนวน 2 สาขา

“จากนี้เราเดินหน้าการทำงานภายใต้โครงสร้างใหม่ที่ชัดเจนขึ้น ด้วยการปรับกลยุทธ์ของแต่ละธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์อยู่ตลอด พร้อมเดินตามแผนกลยุทธ์ Unlock Value ผ่านโครงสร้างใหม่ใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ RS Music, RS Multimedia & Entertainment, RS LiveWell และ RS pet all พร้อมยกระดับการทำงานในแต่ละธุรกิจให้มีความคล่องตัวขึ้น เพื่อสร้างรายได้เพิ่มและต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าว

นอกจากนี้ในปีนี้จะโฟกัสที่การขยายโซเชียลคอมเมิร์ซทุกแพลตฟอร์ม และยกระดับงานคอนเทนต์-บันเทิงผ่านโครงสร้างใหม่ พร้อมเตรียมให้ RS Music เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2568 โดยเรามั่นใจว่ากลยุทธ์ทั้งหมดจะส่งผลให้รายได้รวมในปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมายอยู่ที่ 4,400 ล้านบาท

The post เฮียฮ้อ แม่ทัพใหญ่ RS โชว์กำไรอยู่ที่ 1,395 ล้านบาท เติบโตจากธุรกิจคอนเสิร์ต-อีเวนต์ appeared first on THE STANDARD.

อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Unlock Value ผ่านโครงสร้างใหม่ 4 กลุ่มธุรกิจ เริ่มตั้งแต่ RS Music, RS Multimedia & Entertainment, RS LiveWell และ RS Pet All พร้อมจัดทัพผู้บริหารหญิงเร่งสร้างรายได้ ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การปั้น S-Curve ใหม่ ตั้งเป้าปี 2567 ทำรายได้โต 4,400 ล้านบาท 

ตลอดปี 2566 อาร์เอส กรุ๊ป ขยาย Ecosystem ทั้งธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และธุรกิจคอมเมิร์ซ สร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร ก่อนหน้านี้มีการปรับโครงสร้างการทำงานในทุกธุรกิจให้มีความคล่องตัวขึ้น รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจในหลากหลายรูปแบบตามลักษณะเฉพาะของแต่ละธุรกิจ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• RS ส่งสินค้า-คอนเสิร์ตบุกตลาดส่งท้ายปี หลังจากไตรมาส 3 โกยกำไรไป 1,182 ล้านบาท…
• RS ปิดกำไรไตรมาส 2 ไป 93 ล้านบาท ครึ่งปีหลังเตรียมจัดอีก 2 คอนเสิร์ตใหญ่…
• อุตสาหกรรมเพลงกลับสู่จุดรุ่งเรือง (อีกครั้ง) GMM Music x RS Music ถูกดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้เราพร้อมเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น ‘Life Enriching’ ที่ต้องการยกระดับในทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้า ภายใต้โครงสร้างองค์กรใหม่ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก เริ่มตั้งแต่

1. RS Music ที่มี 4 ค่ายเพลง ได้แก่ BRIQ ENTERTAINMENT, RSIAM, COOL Music และ FASH คอมมูนิตี้สำหรับแฟนเพลง ได้แก่ kamikaze และ RS Friends, สถานีเพลง COOLfahrenheit, RS Showbiz และจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย (TCC) ซึ่งจะอยู่ภายใต้การบริหารของพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ที่พร้อมสร้างรายได้ที่มาจากหลากหลายช่องทาง เพื่อนำ RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2568 รวมไปถึงความร่วมมือกับยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป ที่จะขยายฐานรายได้จัดเก็บลิขสิทธิ์จากช่องทางดิจิทัล ทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิงและโซเชียลมีเดีย

2. RS Multimedia & Entertainment ปรับโครงสร้างใหม่ เปิดโอกาสความร่วมมือจากพันธมิตรในหลากหลายรูปแบบ ที่ไม่เพียงแค่ผลิตรายการและกิจกรรมเพื่อช่อง 8 แต่ยังขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้ในธุรกิจใหม่ๆ โดยแบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ RS Broadcast ธุรกิจที่ผลิตคอนเทนต์หลากหลาย ทั้งรายการข่าว ซีรีส์ วาไรตี้ และกีฬา ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 8, RSDG ออนไลน์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตามด้วยคอมมูนิตี้ของกลุ่ม New Gen, RS MultiX – Entertainment promoter และ Rose studio ธุรกิจที่สร้างคอนเทนต์ ละคร และซีรีส์ เพื่อเผยแพร่ผ่านทางทีวีดิจิทัลและแพลตฟอร์ม OTT นำทีมบริหารโดยนงลักษณ์ งามโรจน์

3. RS LiveWell เป็น Product Company แพลตฟอร์มขายสินค้าที่มีสินค้า House Brands ประกอบไปด้วยแบรนด์ well u, vitanature+, DARING & CO., aviance, Beyonde, iFresh, Happie Homie และ Erb และจำหน่ายสินค้าทั้งหมดผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง RS Mall ซึ่งมีทั้งออนแอร์ ออนไลน์ และเทเลเซล และ ULife ที่ขายสินค้าในรูปแบบ Subscription Model รวมไปถึงการจำหน่ายสินค้าผ่านทีวีดิจิทัลพันธมิตร อยู่ภายใต้การบริหารงานของวรัญญา ราชพลสิทธิ์ ที่จะยกระดับการสร้างแบรนด์และขยายสู่ช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ

4. RS Pet All ธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ แบ่งเป็น 3 ธุรกิจย่อย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ Lifemate, HATO VETERINARY SELECT และ Jungle Monster Thailand นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเซอร์วิสภายใต้แบรนด์ Hato Pet Wellness Center และโรงพยาบาลสัตว์ Hato และธุรกิจรีเทลช็อปภายใต้แบรนด์ PET ALL MY LOVE นำทีมบริหารโดยสุชาดา ธีรวชิรกุล 

ด้านวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการสร้างความแข็งแกร่งให้แต่ละธุรกิจ เติมเต็ม Ecosystem ทั้งการปรับผังข่าวครั้งใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ด้วยการดึง พุทธ อภิวรรณ นั่งแท่นผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายข่าวและผู้ประกาศข่าว พร้อมทำรายการใหม่ ลุยชนข่าว ส่งผลให้เรตติ้งช่อง 8 กลับมาคึกคักอีกครั้ง

หรือแม้แต่การจัดตั้งกิจการร่วมค้า ‘อะครอสเดอะยูนิเวิร์ส’ กับ GRAMMY Music ในการร่วมกันจัดคอนเสิร์ต GRAMMY X RS รวม 3 คอนเสิร์ต ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงการจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับพาร์ตเนอร์ค่ายเพลงชั้นนำอันดับ 1 ของโลกอย่างยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป เพื่อบริหารลิขสิทธิ์เพลงร่วมกัน ซึ่งเป็นการกลับมารุกธุรกิจเพลงของอาร์เอสอย่างจริงจังอีกครั้ง 

และเพื่อยกระดับในการบริหารงานในปีนี้ อาร์เอส กรุ๊ป จะโฟกัสไปที่กลุ่มธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซที่มีช่องทางการขายเป็นของตนเอง โดยผู้บริหารทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจจะดึงศักยภาพและจุดเด่นของแต่ละกลุ่มธุรกิจมาต่อยอด ซึ่งคาดว่าจะผลักดันรายได้ปี 2567 ให้ได้ 4,400 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ 2,350 ล้านบาท และจากธุรกิจคอมเมิร์ซ 2,050 ล้านบาท

The post ‘เฮียฮ้อ’ จัดทัพผู้บริหารปั้น S-Curve ใหม่ ลุยธุรกิจเพลง-เอ็นเตอร์เทนเมนต์-คอมเมิร์ซ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4.4 พันล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

ผลพวงของธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่กลับมาฟื้นตัว ส่งสัญญาณบวกให้ ‘อาร์เอส กรุ๊ป’ ทำรายได้ครึ่งปีแรก รวม 1,778 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 2 ปิดกำไรสุทธิไป 93 ล้านบาท หลังเปิดรับพาร์ตเนอร์อย่าง แกรมมี่ และยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป (UMG) เข้าเสริมทัพ 

“จากนี้เดินหน้าสร้างการเติบโตผ่านโครงสร้างใหม่ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce เพื่อให้การทำงานในแต่ละธุรกิจมีความคล่องตัวขึ้น รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นในการเปิดรับพาร์ตเนอร์ พร้อมผลักดันรายได้จากความร่วมมือและการลงทุน” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ‘RS Music’ ธุรกิจต้นกำเนิดเครือ RS ที่ถูก ‘เฮียฮ้อ’ ปัดฝุ่น เพื่อแยกออกมาเป็นบริษัทมหาชนในปี 2567 ก่อนจะขยับไปสร้างรายได้ 1,200 ล้านบาท

• RS ดึง Universal Music ค่ายเพลงระดับโลกที่ควักเงิน 1,600 ล้านบาทร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลง พร้อมบุกหนักตลาดเพลงไทย-ต่างประเทศ

• ไม่ได้เลิกเป็นคู่แข่งกัน! Grammy x RS นำทัพศิลปินยุค 90 และ 2000 จัดคอนเสิร์ตใหญ่เอาใจชาว Y2K มั่นใจบัตร ‘Sold Out’ ทันที

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง RS Music จะมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ อาทิ COOLfahrenheit ร่วมกับ อำพลฟูดส์ Present Kamikaze party reunion 2023 และมิวสิกเฟสติวัล 

ส่วนธุรกิจเพลง เตรียมผลิตผลงานเพลงใหม่เพื่อสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง ทั้งทางออนไลน์, ออฟไลน์, Brand Engagement และสร้างการเติบโตผ่านความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อย่างแกรมมี่ ผ่าน JV Across the Universe เพื่อการจัดคอนเสิร์ตร่วมกันของทั้งสองค่ายเพลง โดยตามแผนแล้วจะจัดอีก 2 คอนเสิร์ตคือ 2K Celebration และ HIT100 

รวมถึงพาร์ตเนอร์ต่างประเทศร่วมกับยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป ผ่าน New JV เพื่อการบริหารลิขสิทธิ์เพลงเก่าของอาร์เอสที่มีมากกว่า 13,000 เพลง และใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีในการบริหารลิขสิทธิ์เพลงใหม่ของอาร์เอสบนช่องทางออนไลน์ และต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคต

เช่นเดียวกับธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ RS Multimedia ช่อง 8 ได้จัดโครงสร้างใหม่ เพื่อให้แต่ละธุรกิจสามารถสร้างผลงานและคอนเทนต์ได้อย่างอิสระบนโอกาสทางการตลาด และเปิดกว้างในความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่นอกเหนือไปจากการออกอากาศทางช่อง 8 เท่านั้น 

ขณะที่ธุรกิจคอมเมิร์ซ RS LiveWell มุ่งสร้างแบรนด์และขยายพอร์ตสินค้าสุขภาพทั้งสำหรับคนและสัตว์เลี้ยง เน้นสร้างฐานลูกค้าและการเติบโตของรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวผ่านโมเดล Subscription รวมถึง RS Mall เร่งขยายช่องทางการขายออนไลน์และขยายฐานลูกค้าที่หลากหลาย  

รวมถึง RS pet all ยังคงจับเทรนด์การเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยมุ่งทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำยังปลายน้ำ คาดว่าการเข้าลงทุนในฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จะเสร็จสิ้นและเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 และยังเตรียมเปิด Pet all my love รีเทลช็อปที่มีทั้งสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงครบวงจร

หัวเรือใหญ่อาร์เอส กรุ๊ป ย้ำว่ากลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะทำให้ในครึ่งปีหลังทุกๆ ธุรกิจจะมีการเติบโตทั้งจากการรับรู้รายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2566 บริษัทยังรักษาอัตราการเติบโตของบริษัทฯ โดยมีรายได้รวมถึง 1,778 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 185 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมจากการขายและบริการสำหรับไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน โดยมาจากรายได้ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ทำรายได้รวมอยู่ที่ 630 ล้านบาท ส่วนธุรกิจคอมเมิร์ซรายได้รวมอยู่ที่ 335 ล้านบาท 

The post RS ปิดกำไรไตรมาส 2 ไป 93 ล้านบาท ครึ่งปีหลังเตรียมจัดอีก 2 คอนเสิร์ตใหญ่ พร้อมหาพาร์ตเนอร์ทำ M&A และ JV สร้างโอกาสโต appeared first on THE STANDARD.

สร้างปรากฏการณ์ใหม่ไม่หยุดสำหรับ RS Music ธุรกิจในเครือ RS Group ล่าสุดได้ปิดดีลใหญ่ด้วยการจับมือ Universal Music Group ค่ายเพลงอันดับหนึ่งของโลก จัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลง พร้อมดัน RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2567

“สำหรับดีลในครั้งนี้เราได้รับเงินลงทุนจาก Universal Music Group ประมาณ 1,600 ล้านบาท เพื่อร่วมกันตั้งกิจการร่วมค้า โดย Universal Music Group จะมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 70% ขณะที่ RS Music จะถือหุ้นในสัดส่วน 30% ซึ่งกิจการร่วมค้าที่จัดตั้งขึ้นนี้จะมีสิทธิ์ในการบริหารจัดการสิทธิ์ของแคตตาล็อกเพลงกว่า 10,000 เพลง รวมถึงคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น มิวสิกวิดีโอ เนื้อเพลงและบทประพันธ์ รูปภาพและภาพถ่ายต่างๆ รวมถึงสิทธิภายใต้สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าว

สำหรับความร่วมมือกับ Universal Music จะช่วยขยายรายได้จากช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญ เมื่อรวมกับรายได้จากการจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ต การสร้างแคมเปญการตลาดกับลูกค้า และการบริหารศิลปิน คาดว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้ของ RS Music เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ที่ 700 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• RS รุกธุรกิจเวลเนสสัตว์เลี้ยงครบวงจร ทุ่ม 117 ล้านบาท ซื้อหุ้น 51% ใน ‘ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส’…
• ไม่ได้เลิกเป็นคู่แข่งกัน! Grammy x RS นำทัพศิลปินยุค 90 และ 2000 จัดคอนเสิร์ตใหญ่…
• จากคู่แข่งสู่คู่รัก! ส่องปรากฏการณ์ Grammy x RS ตั้งบริษัทร่วมทุนจัดคอนเสิร์ต 3 งานใหญ่…

ยิ่งไปกว่านั้นจุดแข็งของ Universal Music ซึ่งเป็นบริษัทดนตรีรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกและเป็นผู้นำในตลาดเพลง จะทำให้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ด้านดนตรีได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

จากนี้เตรียมเปิดโอกาสทำโปรเจกต์ใหม่ๆ ทั้งกับพาร์ตเนอร์คู่ค้า ทั้งที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้วและคู่ค้าอื่นๆ เพื่อต่อยอดการทำ Music Marketing รวมถึงการจับมือกับศิลปินอิสระหรือจากค่ายต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสในการทำเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังของไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจเพลงให้ครบวงจรและสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง ที่สำคัญจะช่วยผลักดัน Soft Power ของไทยได้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้ถือว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ RS Music ที่ได้กลับมารุกธุรกิจเพลงอีกครั้ง เริ่มจากการสร้างผลงานเพลงใหม่ๆ จากศิลปินที่มีชื่อเสียงของเราภายใต้โปรเจกต์ RS Homecoming และศิลปินรุ่นใหม่จากโปรเจกต์ RS Newcomers ตั้งเป้าสร้างศิลปินใหม่ออกสู่ตลาดเพลงไทยและต่อยอดไปยังต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าเพลงใหม่ๆ ที่ออกมาในปี 2566 จะสร้างความคึกคักให้แฟนเพลง RS และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น  

โดยเป็นไปตามทิศทางในการนำธุรกิจเพลงภายใต้ RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2567 โดยจะมีการประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย

The post RS ดึง Universal Music ค่ายเพลงระดับโลกที่ควักเงิน 1,600 ล้านบาทร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลง พร้อมบุกหนักตลาดเพลงไทย-ต่างประเทศ appeared first on THE STANDARD.

เก่งมาจากไหนก็แพ้ลูกอ้อนสุนัขสี่ขา ไม่เว้นแม้แต่ ‘เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์’ หัวเรือใหญ่ อาร์เอส กรุ๊ป ที่ออกตัวว่าตัวเองเป็นทาสสุนัข กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการรุกธุรกิจเวลเนสสัตว์เลี้ยง และกำลังจะเปิดตัวร้านแฟลกชิปสโตร์ให้บริการสัตว์เลี้ยงครบวงจรสาขาแรกในเดือนกรกฎาคมนี้

สำหรับแฟลกชิปสโตร์ดังกล่าวจะให้บริการด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงครบวงจร ซึ่งอยู่ในช่วงคิดชื่อแบรนด์ เบื้องต้นปีนี้ต้องการเปิดให้ได้ประมาณ 6-7 สาขา ใช้งบลงทุนไม่เกิน 10-15 ล้านบาทต่อสาขา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• RS รุกธุรกิจเวลเนสสัตว์เลี้ยงครบวงจร ทุ่ม 117 ล้านบาท ซื้อหุ้น 51% ใน ‘ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส’ ประกาศแผนทำ IPO ภายใน 3 ปี

• จากคู่แข่งสู่คู่รัก! ส่องปรากฏการณ์ Grammy x RS ตั้งบริษัทร่วมทุนจัดคอนเสิร์ต 3 งานใหญ่ในปี 2566 บัตรเริ่มต้น 2,000-6,000 บาท

• เฮียฮ้อเปิดตัว ‘พุทธ อภิวรรณ’ นั่งผู้อำนวยการฝ่ายข่าวช่อง 8 หลังโบกมือลาอมรินทร์ทีวีช่วงปลายปีที่ผ่านมา

จุดเริ่มต้นธุรกิจเวลเนสสัตว์เลี้ยง เกิดจาก ‘แพสชัน’ ล้วนๆ

“ต้องยอมรับว่าผมเป็นทาสสุนัข จากการเลี้ยงสุนัขทำให้เราติดตามอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงมานาน และมองว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตและอยู่ในเทรนด์ เห็นได้จากบริบทสังคมที่เปลี่ยนไป ไทยเริ่มก้าวสู่สังคมสูงวัย หลายคนเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยนิยมมีลูกก็ต่างหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนเช่นเดียวกัน จึงทำให้เราสนใจธุรกิจสัตว์เลี้ยงอย่างมาก” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าว

ทำให้เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท อาร์เอส เพ็ท ออล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ได้เข้าลงทุนในบริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด ในสัดส่วน 51% และล่าสุดได้เปิดตัวโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ ชัยพฤกษ์ ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยงครบวงจร และจากนี้ Hato จะมีการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมที่หลากหลาย ชูจุดขายราคาที่เข้าถึงง่าย เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มคนรักสัตว์ โดยมีเป้าหมายเตรียม Spin-off เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3 ปี

แม้ธุรกิจเพลงรายได้ไม่มาก แต่มาร์จิ้นดีมาก

อีกหนึ่งธุรกิจที่บริษัทจะหันมาโฟกัสมากขึ้น คือ RS Music ที่เริ่มเห็นความชัดเจนขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 1 และปัจจุบันบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงใหม่ โดยรวมธุรกิจที่เกี่ยวกับเสียงเพลงทั้งหมดมาไว้ด้วยกัน ได้แก่ 3 ค่ายเพลงหลัก, สถานีเพลง COOLfahrenheit, โชว์บิซ, การทำการตลาดออนไลน์และออนกราวด์ รวมถึง Artist Management ซึ่งทุกๆ ธุรกิจจะมีการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และแม้ว่าในครึ่งปีแรกธุรกิจเพลงจะยังทรงๆ อยู่จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่มองว่าครึ่งปีหลังจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ยังได้เปิดรับออดิชันคนรุ่นใหม่เข้ามาสู่การเป็นศิลปินในสังกัด ภายใต้โปรเจกต์ RS Newcomers ตามด้วยโปรเจกต์ RS Homecoming ได้มีการเปิดตัวศิลปินเบอร์แรก บีม กวี ที่ได้รวมตัวกับแฝดอย่างพี่ธีร์-น้องพีร์ ผ่านแนวเพลงอิเล็กโทรป๊อป และหลังจากไตรมาส 3 เป็นต้นไปจะเริ่มเห็นผลงานของศิลปินใหม่

ยิ่งไปกว่านั้นในปีนี้ยังมีคอนเสิร์ตและมิวสิกเฟสติวัลที่จัดขึ้นโดย COOLive และคอนเสิร์ต Grammy RS อีก 3 คอนเสิร์ต 

รวมถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์จากต่างประเทศ คาดว่าจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ซึ่งถือเป็นดีลขนาดใหญ่ที่จะสร้างมูลค่าให้ทั้งกลุ่ม และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการผลักดันธุรกิจเพลงให้มีศักยภาพและขยายธุรกิจให้เติบโตได้ทั้งในประเทศและระดับโลก 

ถึงกระนั้นการกลับมารุกธุรกิจเพลงอีกครั้งในรอบ 15 ปี ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงจากอดีต เราต้องปรับตัวตลอดเวลา และแม้รายได้จะไม่มาก แต่มาร์จิ้นดีมาก และอนาคตการนำ RS Music เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้จะช่วยให้เห็นทิศทางการเติบโตได้มากขึ้น

ธุรกิจสื่อสร้างรายได้เติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม 

หัวเรือใหญ่อาร์เอส กรุ๊ป กล่าวต่อไปว่า ในช่วงต้นปีนับเป็น Low Season ของธุรกิจสื่อโฆษณา แต่รายได้กลุ่มธุรกิจสื่อของอาร์เอส กรุ๊ป กลับเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างบริหารการขายทุกสื่อโฆษณาให้มารวมศูนย์อยู่ภายใต้สายงานการตลาดและขายสื่อโฆษณา (Media Sales and Marketing) รวมไปถึงการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปสู่ OTT Platform ทั้งในและต่างประเทศ

ขณะที่ธุรกิจแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้า RS Mall ได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า ทั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอาหารเสริมอื่นๆ ที่ไม่ได้ทับซ้อนกับสินค้าที่พัฒนาภายใต้บริษัท RS LiveWell จึงทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น ส่วน RS Connect ที่ประกอบด้วย ULife กับ DeBeste ก็มีการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของรายได้ในระยะยาว

เช่นเดียวกับช่อง 8 หลังจากได้แต่งตั้ง พุทธ อภิวรรณ เข้ามารับหน้าที่พิธีกรข่าวในรายการลุยชนข่าวในช่วงไพรม์ไทม์ ทำให้เรตติ้งเติบโตขึ้น 100-200% และสามารถเข้าถึงฐานผู้ชมกว่า 3.2 ล้านคน

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 813 ล้านบาท ทำกำไรได้ 92 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจสื่อ และรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่สูงขึ้น รวมไปถึงการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้น CHASE บางส่วน 

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 5 พันล้านบาท มีกำไรเติบโต 10-12%

มั่นใจกลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ครึ่งปีหลังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง

The post เกิดจากแพสชันล้วนๆ เมื่อ ‘เฮียฮ้อ’ หัวเรือใหญ่ RS กลายเป็นทาสสุนัข เตรียมเปิดแฟลกชิปสโตร์บริการสัตว์เลี้ยงครบวงจร เจาะกลุ่มคนรักสัตว์ appeared first on THE STANDARD.

ใครจะคิดว่าคู่แข่ง Grammy กับ RS ที่เคยฟาดฟันและแข่งกันสร้างศิลปินและผลงานเพลงมาตลอด 4 ทศวรรษ จะลุกขึ้นมาจับมือกันสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ให้กับวงการเพลงได้ 

สิ่งที่เรียกเสียงตื่นเต้นจากแฟนคลับทั้ง 2 ค่ายใหญ่ได้มากที่สุด คือการจับมือปั้นคอนเสิร์ต 3 งานใหญ่ต่อปี ซึ่งจะใช้งบรวมกันราว 100 ล้านบาท โดยในแต่ครั้งจะมีธีมและไลน์อัพศิลปินที่แตกต่างกันออกไป และจะมีผลงานเพลงที่เคยโด่งดังในอดีตมาขึ้นโชว์จากศิลปินตั้งแต่ยุค 90 และ 2000 มากกว่า 100 คนของทั้ง 2 ค่าย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• จับตาปรากฏการณ์ครั้งใหญ่! ความร่วมมือพิเศษของยักษ์ค่ายเพลง ‘Grammy x RS’ ที่แว่วๆ ว่าไม่ได้มีแค่การจัดคอนเสิร์ตร่วมกัน

• กระแส T-Pop กลับมาร้อนแรง! GMM Music เดินหน้าลงทุนผลิตเพลง ‘ป๊อป-ร็อก-ลูกทุ่ง’ เล็งส่ง ‘ศิลปินป๊อปไอดอล’ อีก 15-20 คนเข้าสู่วงการ

• ถึงเวลา เฮียฮ้อ ฟื้นคืนชีพธุรกิจเพลง RS อีกครั้งในรอบ 15 ปี นำศิลปินเก่ากลับมาทำเพลงใหม่ พร้อมปั้นศิลปินหน้าใหม่จับทุก Gen

นำโดยเจ เจตริน, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, คริสติน่า อากีล่าร์, แร็พเตอร์, ใหม่ เจริญปุระ, โดม-ปกรณ์ ลัม, มอส ปฏิภาณ, ลิฟท์-ออย, ทาทา ยัง, เต๋า สมชาย, นิโคล เทริโอ, เจมส์ เรืองศักดิ์, มาช่า วัฒนพานิช, นุ๊ก สุทธิดา, นัท มีเรีย, เกิร์ลลี่ เบอร์รี่, ซาซ่า, โฟร์ ศกลรัตน์, กอล์ฟ พิชญะ, หวาย, 2002 ราตรี, ไชน่าดอลส์, แคทรียา อิงลิช, เนโกะจัมพ์, ญาญ่าญิ๋ง, เฟย์ ฟาง แก้ว, เป๊ก ผลิตโชค, แดน-บีม, ลิเดีย ศรัณย์รัชต์, ชิน ชินวุฒ, บาซู, ไอซ์ ศรัณยู, ดัง พันกร, แบงค์ ปรีติ, ปาน ธนพร, หนุ่ม กะลา, แหม่ม พัชริดา, โบ สุนิตา, ฟลุ๊ค ไอน้ำ, อ๊อฟ ปองศักดิ์, ศรราม, จั๊ก ชวิน, นิว-จิ๋ว, โจ๊ก โซคูล, อู๋ ธรรพ์ณธร, แอม เสาวลักษณ์, หญิงลี, ไท ธนาวุฒิ, ปีเตอร์ คอร์ป, อี๊ด ฟลาย, ป๊อบ ปองกูล, อนัน อันวา และศิลปินอีกมากมาย

เริ่มประเดิมตั้งแต่วันที่ 29-30 กรกฎาคม ตามด้วยวันที่ 9-10 กันยายน และวันที่ 28- 29 ตุลาคม 2023 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี มีราคาบัตรประมาณ 2,000-6,000 บาท 

“ประเมินว่าบัตรจะ Sold Out ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย และถือเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกและเป็นดีลที่ค่อนข้างใหญ่ จึงค่อนข้างได้รับการตอบรับจากสปอนเซอร์มากกว่า 10-15 ราย”

เมื่อเจาะลึกถึงกระบวนการทำงาน ‘ภาวิต จิตรกร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค และ ‘วิทวัส เวชชบุษกร’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน อาร์เอส กล่าวว่า ทั้ง 2 ค่ายจะนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญมาช่วยกันพัฒนากระบวนการทำงาน โดยหลักๆ Grammy จะรับหน้าที่ดูภาพรวมธุรกิจ จำหน่ายตั๋ว และโปรดักชัน ส่วน RS จะช่วยพิจาณาเรื่องงบประมาณและทำการตลาดประชาสัมพันธ์ ที่สำคัญทุกอย่างจะมาจากการตัดสินใจร่วมกัน 

การร่วมมือกันในครั้งนี้คาดหวังว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 220-250 ล้านบาทขึ้นไป และยิ่งไปกว่ารายได้ การร่วมมือกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์นี้จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเพลงไทยและวงการคอนเสิร์ตในไทยให้เติบโตขึ้น

ด้วยความที่อยู่คนละค่ายทำให้ดีลดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะใช้เวลาในการเจรจานานกว่า 5 ปี และเกิดเป็นการจดทะเบียนจัดตั้งกิจการร่วมค้า (JV) ACROSS THE UNIVERSE ลงทุนเท่ากันทั้ง 2 ฝ่าย ระบุสัญญากัน 3 ปี ร่วมมือกันในรูปแบบรายโปรเจกต์  

“เบื้องต้นเราจะโฟกัสการจัดซีรีส์คอนเสิร์ตร่วมกัน ซึ่งหากได้รับการตอบรับดีก็อาจต่อยอดไปในรูปแบบหรือช่องทางอื่นๆ ในอนาคต”

ผู้บริหารทั้ง 2 ค่ายย้ำว่า ในอดีตการเป็นคู่แข่งกันไม่ได้แปลว่าเป็นศัตรูกัน เมื่อถึงเวลาและจังหวะที่ดีก็ต้องสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการเพลง ที่สำคัญคือไม่ได้บอกว่าต่อจากนี้จะไม่ได้เป็นคู่แข่งกันแล้ว เพราะในเชิงธุรกิจก็ย่อมมีการแข่งขันกันเหมือนเดิม

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้ง 2 ค่ายออกมาประกาศรุกธุรกิจเพลงอีกครั้ง โดย RS จะจับมือกับพาร์ตเนอร์นำศิลปินเก่ากลับมาทำเพลงใหม่ พร้อมปั้นศิลปินหน้าใหม่เพื่อเจาะทุกเจเนอเรชัน 

ส่วนในปี 2023 GMM Music เตรียมผลิตเพลงใหม่เพิ่มเป็น 500 เพลง, 32 อัลบั้ม, 160 ซิงเกิล, 5,000 เพลย์ลิสต์ต่อปี ควบคู่กับการสร้างศิลปินหน้าใหม่ทุกแนวเพลง ทั้งป๊อป ร็อก และลูกทุ่ง เพื่อแจ้งเกิดในตลาด 

The post ไม่ได้เลิกเป็นคู่แข่งกัน! Grammy x RS นำทัพศิลปินยุค 90 และ 2000 จัดคอนเสิร์ตใหญ่เอาใจชาว Y2K มั่นใจบัตร ‘Sold Out’ ทันที appeared first on THE STANDARD.

ธุรกิจเพลงกลับมาคึกคักอีกรอบ หลังป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม โพสโลโก้ Grammy RS Concerts พร้อมข้อความ ‘ปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำ’ สร้างความฮือฮาในโซเซียลอย่างมาก หลายคนจับตาความร่วมมือพิเศษระหว่าง Grammy และ RS ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ 

หากย้อนไปในอดีตธุรกิจเพลงเคยสร้างรายได้ให้กับวงการเพลงอย่างมาก แต่เมื่อถึงจังหวะที่ต้องถูกดิสรัปต์จากดิจิทัลแน่นอนว่ามีผลต่อช่องทางการเสพเพลงและพฤติกรรมผู้คนเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการโฟกัสแค่เพียงธุรกิจเพลงอย่างเดียวคงไม่พอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ถึงเวลา เฮียฮ้อ ฟื้นคืนชีพธุรกิจเพลง RS อีกครั้งในรอบ 15 ปี นำศิลปินเก่ากลับมาทำเพลงใหม่ พร้อมปั้นศิลปินหน้าใหม่จับทุก Gen
• กระแส T-Pop กลับมาร้อนแรง! GMM Music เดินหน้าลงทุนผลิตเพลง ‘ป๊อป-ร็อก-ลูกทุ่ง’ เล็งส่ง ‘ศิลปินป๊อปไอดอล’ อีก 15-20 คนเข้าสู่วงการ
• เปิดพอร์ต เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และ ‘สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง’ หลังเข้าถือหุ้น GIFT

เช่นเดียวกับค่ายเพลงยักษ์ ‘Grammy และ RS’ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าทั้งสองค่ายไม่ได้โฟกัสธุรกิจเพลงมากนัก และหันมาหารายได้จากธุรกิจใหม่ๆ โดย Grammy นั้นมีหลายธุรกิจ ทั้งสื่อ ภาพยนตร์ ดิจิทัล สถานีโทรทัศน์ คอนเสิร์ต และอีเวนต์ต่างๆ ส่วน RS ก็มีธุรกิจสื่อโทรทัศน์ และธุรกิจพาณิชย์ Multi Platform Commerce ที่กลายเป็นแหล่งทำรายได้ใหม่

แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาทั้งสองค่ายต่างออกมาเคลื่อนไหวในธุรกิจเพลงอย่างมากโดยเริ่มจาก RS ภายใต้การนำทัพของเฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ที่ประกาศกลับมาทำธุรกิจเพลงอีกครั้ง หลังจากลดความสำคัญไปเมื่อ 15 ปีก่อน

การกลับมาในครั้งนี้เฮียฮ้อบอกว่าจะมีทั้งรูปแบบการจับมือกับพาร์ตเนอร์นำศิลปินเก่ากลับมาทำเพลงใหม่ ผ่าน RS MUSIC ที่มีค่ายเพลง RSIAM, Kamikaze, Rose Sound และบริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล พร้อมปั้นศิลปินหน้าใหม่เพื่อเจาะทุกเจเนอเรชัน ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 1 ปีนี้

ขณะที่ ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธุรกิจเพลงมีโอกาสเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรม T-Pop วันนี้ทั้งค่ายเล็กและใหญ่ผลิตผลงานเพลงออกมาอยู่เป็นระยะๆ 

ในปี 2566 GMM Music เตรียมผลิตเพลงใหม่เพิ่มเป็น 500 เพลง, 32 อัลบั้ม, 160 ซิงเกิล, 5,000 เพลย์ลิสต์ต่อปี ควบคู่กับการสร้างศิลปินหน้าใหม่ทุกแนวเพลง ทั้งป๊อป ร็อก และลูกทุ่ง เพื่อแจ้งเกิดในตลาด 

เรียกได้ว่าที่ผ่านมาทั้งสองค่ายเพลงนั้นเป็นคู่แข่งกันมาตลอด จนกระทั่งล่าสุด ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส หน่วยงาน Showbiz Senior Executive President-Show บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์ภาพโลโก้ Grammy RS Concerts พร้อมข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัวว่า  

“เป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำ อยากบอกมานาน แต่ไม่ได้บอกสักที Concerts ที่จะหยุดทุก Concert โปรดสังเกตว่ามี S ท้าย Concert เตรียมเปลี่ยนแผนทุกแผนที่คุณเตรียมในปีนี้ และเตรียมซ้อมร้องเพลงแกรมมี่และอาร์เอสไว้ให้พร้อม”

ทำให้เกิดเสียงฮือฮาบนช่องทางออนไลน์อย่างมาก โดยรายละเอียดจะถูกแถลงข่าวในวันที่ 28 มีนาคม 2566 แต่เบื้องต้นแหล่งข่าวให้ข้อมูลมาว่าความร่วมมือพิเศษระหว่าง Grammy และ RS ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ไม่ใช่แค่จัดคอนเสิร์ตร่วมกันเท่านั้น แต่จะเป็นการทำผลงานออกมาร่วมกันในหลากหลายรูปแบบ 

ต้องจับตาดูว่าโปรเจกต์ดังกล่าวจะออกมาในรูปแบบไหน แต่สามารถเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแน่นอน

The post จับตาปรากฏการณ์ครั้งใหญ่! ความร่วมมือพิเศษของยักษ์ค่ายเพลง ‘Grammy x RS’ ที่แว่วๆ ว่าไม่ได้มีแค่การจัดคอนเสิร์ตร่วมกัน appeared first on THE STANDARD.

เส้นทางการเริ่มต้นธุรกิจของชายที่ชื่อ เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ปัจจุบันเดินทางมายาวกว่า 40 ปีแล้ว หลังเริ่มต้นธุรกิจในปี 2519 จากธุรกิจตู้เพลงและการอัดเพลงจากแผ่นเสียงลงตลับเทปด้วยแบรนด์ ‘ดอกกุหลาบ’ จากนั้นตั้งบริษัทชื่อ Rose Sound ด้วยเงินลงทุน 50,000 บาทเท่านั้น

‘เฮียฮ้อ’ ในฐานะ ‘ซีอีโอ’ สร้างสามารถอาณาจักรของ บมจ.อาร์เอส หรือ RS ที่ปัจจุบันยังถือหุ้นใหญ่ สามารถเติบโตขึ้นต่อเนื่อง หลังปั้น RS ให้เป็นบริษัทธุรกิจบันเทิงครบวงจร ครอบคลุมทั้งรายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ ละครทีวี และภาพยนตร์ และด้วยสถานการณ์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงจึงปรับเปลี่ยนโมเดลต่อยอดธุรกิจทรานส์ฟอร์มเป็นบริษัทธุรกิจคอมเมิร์ซ จนทำให้วันนี้ RS มีมาร์เก็ตแคปรวมอยู่ที่ประมาณ 1.50 หมื่นล้านบาท

แน่นอนว่านอกจากในฐานะนักธุรกิจแล้ว ‘เฮียฮ้อ’ ยังเป็นนักลงทุน เพราะเห็นว่าในอดีตเคยเข้าไปลงทุนส่วนตัวในบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวนหลายแห่ง ซึ่งรายชื่อเหล่านี้ปัจจุบันไม่ได้ถือหุ้น ได้แก่ บมจ.หลักทรัพย์ แอสเซท พลัส (ASSET), บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND) และ บมจ.ดาต้าแมท (DTM)

ในฝั่งการต่อยอดและหาโอกาสในการ Synergy ธุรกิจของ RS ช่วงต้นปี 2564 RS ประกาศทุ่มงบ 920 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น บมจ.เชฎฐ์ เอเชีย หรือ CHASE ซึ่งประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์-สินเชื่อรายย่อย ปัจจุบันมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จึงมีโอกาสที่จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไร แต่หากนับเฉพาะในส่วนหุ้นที่ RS ถือใน CHASE ปัจจุบันสัดส่วน 20.35% ถึงตอนนี้มีมูลค่าเพิ่มเป็น 1,419 ล้านบาทก็นับว่ากำไรแล้ว

และล่าสุด ‘เฮียฮ้อ’ ประกาศปิดดีลใช้เงินลงทุนส่วนตัว 340.88 ล้านบาท ซื้อ Big Lot หุ้นของ บมจ.แกรททิทูด อินฟินิท หรือ GIFT 62.5% จนขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน GIFT พร้อมควบเก้าอี้ ‘ซีอีโอ’ เพราะมองเห็นว่า GIFT ทำธุรกิจขายและนำเข้าผลิตภัณฑ์เคมีชนิดต่างๆ ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงเครื่องดื่มและอาหารที่ครอบครัวมีความสนใจ โดยการลงทุนรอบนี้ใน GIFT เป็นโอกาสต่อธุรกิจของ RS ที่ทำธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องในกลุ่มนี้อยู่แล้ว ส่วนมูลค่าหุ้น GIFT ที่ ‘เฮียฮ้อ’ ถือ ปัจจุบันมีมูลค่าขึ้นไปถึง 1,519 ล้านบาทแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ถึงเวลา เฮียฮ้อ ฟื้นคืนชีพธุรกิจเพลง RS อีกครั้งในรอบ 15 ปี นำศิลปินเก่ากลับมาทำเพลงใหม่ พร้อมปั้นศิลปินหน้าใหม่จับทุก Gen
• เปิดพอร์ต เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และ ‘สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง’ หลังเข้าถือหุ้น GIFT
• เฮียฮ้อ ‘ไม่ตอบรับ’ หรือ ‘ปฏิเสธ’ กรณีมีข่าว RS จะใช้เงิน 900 ล้านบาท เข้าซื้อธุรกิจขายตรงของยูนิลีเวอร์

ภาพประกอบ: พุทธิพงศ์ โรจน์ศตพงค์

The post เปิดพอร์ตพันล้าน ‘เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์’ ถือหุ้นอะไรบ้าง appeared first on THE STANDARD.