เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 กรกฎาคม) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แถลงกล่าวโทษผู้บริหารระดับสูงของ EA ได้แก่ สมโภชน์ อาหุนัย และ อมร ทรัพย์ทวีกุล รวมทั้งผู้ถือหุ้นอย่าง พรเลิศ เตชะรัตโนภาส ว่าร่วมกันทุจริตและได้รับผลประโยชน์รวมกันมากถึง 3.46 พันล้านบาท 

ล่าสุดวันนี้ (15 กรกฎาคม) บริษัทได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการลาออกจากตำแหน่งบริหารของสมโภชน์และอมร พร้อมการแต่งตั้งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารคือ สมใจนึก เองตระกูล ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทอยู่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งการแต่งตั้งบุคคลอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทฯ อาทิ ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ นอกจากนี้ยังมีมติเสนอประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง สุพันธุ์ มงคลสุธี เป็นกรรมการใหม่ของบริษัท

ด้าน สมโภชน์ อาหุนัย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EA กล่าวว่า คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น (ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษ) โดยครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสพูดในนาม EA 

“เราไม่ใช่ STARK แน่นอน เราสามารถสร้างนวัตกรรมที่ทุกคนยอมรับ กระทั่งเมืองนอกก็ยังยอมรับ ตอนนี้คนอาจจะสับสน กลัวว่า EA จะเดินต่อได้ไหม ผมมั่นใจในทีมงานของผม ทีมงานยังเป็นทีมงานเดิม อาจจะขาดแค่ผมและคุณอมร” 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง​: 

• EA ซ้ำเติมวิกฤตศรัทธา ในวันที่นักลงทุนกำลังเมินหน้าหนีหุ้นไทย
• ตลาดหลักทรัพย์ฯ ถอด บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ออกจาก SET ESG Ratings
• ก.ล.ต. ตอบ 7 ปมสงสัยมากสุด กรณีกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA กับพวก ฐานร่วมกันทุจริต ทำบริษัทเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท

สมโภชน์กล่าวต่อว่า อยากให้ทุกคนมีสติ ต้องขอโทษที่เรื่องส่วนตัวมาทำร้ายบริษัท มาทำร้ายพนักงานอีกกว่า 3,000 คน ทั้งๆ ที่ทุกคนมีผลงานให้ได้เห็น 

“ผมไม่คิดว่าบริษัทอย่าง EA ควรจะถูกบูลลี่ ส่วนเรื่องส่วนตัวผมก็น้อมรับว่าต้องไปพิสูจน์กันทางกฎหมาย แต่ผมมั่นใจว่า EA ไม่ใช่ STARK แน่นอน

“EA จะเดินต่อไป ทีมงานไม่ได้ไปไหน การที่ EA ลงทุน ไปดูได้เลยว่าไม่ว่าจะมีกรณีที่ทุจริตหรือไม่ทุจริต ถึงทุจริตแล้วเราก็ยังถูกกว่า (คู่แข่ง) ไม่ใช่โครงการเดียว เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ของทุกโครงการ EA ทำถูกที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด แล้วบริษัทเช่นนี้เป็นบริษัทที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่”

ด้านสมใจนึกกล่าวว่า พวกเราพร้อมจะดำเนินงานต่อ ผมจะลงมาดูการบริหารด้วยตัวเองจนกว่าจะหาซีอีโอใหม่ได้ในอนาคต แม้ก่อนหน้านี้ผมจะดูนโยบายเป็นหลัก แต่ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ต้น ทำให้รู้เกี่ยวกับธุรกิจของ EA เป็นอย่างดี 

ส่วนประเด็นการกล่าวโทษ ภายในวันนี้บริษัทจะเร่งดำเนินการประชุมกรรมการตรวจสอบ รวมทั้งขอเอกสารจาก ก.ล.ต. เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกิดขึ้น หลังจากที่สมโภชน์และอมรลาออกจากการบริหารแล้ว ทำให้บริษัทสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส 

EA เชื่อมั่น ไร้ปัญหาสภาพคล่อง

วสุ กลมเกลี้ยง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน กล่าวว่า บริษัทจะเดินหน้าในการออกขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อไป เพื่อนำมาคืนหนี้หุ้นกู้ชุดเดิมมูลค่า 5.5 พันล้านบาทที่จะครบกำหนดชำระคืนในปีนี้ 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถขายหุ้นกู้ชุดใหม่ได้ครบตามเป้าหมาย บริษัทยังคงมีกระแสเงินสดที่ได้รับจากธุรกิจเดือนละประมาณ 1 พันล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการยืนยันจากสถาบันการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศสำหรับการให้วงเงินกู้ เพื่อเสริมสภาพคล่องในกรณีที่จำเป็นจะต้องใช้เพิ่มเติม 

ทั้งนี้ วสุเชื่อมั่นว่าอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของบริษัทจะไม่ถูกปรับลด เพราะฐานะการเงินของบริษัทยังคงไม่แตกต่างไปจากช่วงก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะมีประเด็นการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เกิดขึ้นมา

The post สมโภชน์ยืนยัน EA ไม่เหมือน STARK ส่วนกรณีถูกกล่าวโทษ รอพิสูจน์ทางกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) แต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ ‘สมใจนึก เองตระกูล’ นั่งรักษาการซีอีโอ พร้อมปรับทัพทีมงานใหม่ มั่นใจมีแผนคืนหนี้หุ้นกู้ได้ตามกำหนด

โดย สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ประกาศลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เพื่อความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้เกิดการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติแต่งตั้งให้ สมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการบริษัทฯ ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมแต่งตั้งกรรมการบริษัทฯ เพิ่มเติม ประกอบด้วย ชัชวาลย์ เจียรวนนท์, วสุ กลมเกลี้ยง และ ฉัตรพล ศรีประทุม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป 

เปิดประวัติ สมใจนึก เองตระกูล รักษาการซีอีโอ EA

วันเกิด: วันที่ 21 เมษายน ปี 2487 

การศึกษา: 

• ปี 2536: สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 35 ปีการศึกษา 2535-2536 
• ปี 2533: นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม 
• ปี 2509: B.A. (Economics), Upsala College, New Jersey, U.S.A. 

การเข้ารับราชการ:

• ปี 2536: อธิบดีกรมสรรพสามิต
• ปี 2535: รองปลัดกระทรวงการคลัง
• ปี 2534: ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
• ปี 2529: นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ กรมศุลกากร 2530 และรองอธิบดีกรมศุลกากร (ฝ่ายปราบปราม) 
• ปี 2528: ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภูมิภาคที่ 1 (จังหวัดสงขลา) กรมศุลกากร 
• ปี 2528: ผู้อำนวยการกองควบคุมยานและสินค้า กรมศุลกากร

ประสบการณ์การทำงานในระยะเวลา 5 ปีย้อนหลัง:

• ปี 2563 – ปัจจุบัน: ประธานกรรมการ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
• ปี 2551 – ปัจจุบัน: ประธานกรรมการ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
• ปี 2551 – ปัจจุบัน: ประธานกรรมการ บริษัท เวชธานี จำกัด (มหาชน)
• ปี 2547 – ปัจจุบัน: ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)
• ปี 2538 – ปัจจุบัน: ประธานกรรมการ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

กิจการที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน:

• ปี 2551 – ปัจจุบัน: กรรมการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
• ปี 2543 – ปัจจุบัน: กรรมการ บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด

นอกจากนี้ยังมีมติเห็นชอบเพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการ และพิจารณาแต่งตั้ง สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เป็นกรรมการใหม่ของบริษัทฯ

พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ดังนี้

สมใจนึกกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าสมโภชน์และอมรจะต้องลาออกไป แต่มั่นใจว่าจะไม่เป็นปัญหาต่อการดำเนินธุรกิจ แผนการขยายธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ทำงานด้วยระบบและทีมงานที่ตั้งขึ้นมาเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับสมโภชน์และอมรในโครงการต่างๆ มายาวนานและเป็นมืออาชีพ ผมเชื่อมั่นว่า EA อยู่ในธุรกิจที่ดี มีอนาคต และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้”

กรณีคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหารบริษัทฯ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ และรายงานต่อคณะกรรมการบริษัทฯ ทราบโดยเร็ว

การปรับโครงสร้างกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารระดับสูง ส่งผลให้บริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการยื่นขอออกตราสารหนี้หรือตราสารทุนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ 

ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม สำหรับภาระหนี้สินของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดชำระในไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2567 นี้ ประกอบด้วยภาระหนี้จากสถาบันการเงินประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 5,500 ล้านบาทนั้น สามารถชำระได้ด้วยกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมประมาณ 5,000 ล้านบาท (หัก Adder ของโครงการที่ครบกำหนดแล้ว) และได้เตรียมวงเงินสำรองจากสถาบันการเงินและหุ้นกู้ที่จะเสนอขายเพิ่มเติม โดยหุ้นกู้อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต. เพื่อเสนอขาย

The post เปิดประวัติ ‘สมใจนึก เองตระกูล’ ผู้นั่งเก้าอี้รักษาการซีอีโอ คุม EA แทน สมโภชน์ อาหุนัย appeared first on THE STANDARD.

ตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ต่อ DSI และได้ส่งเรื่องต่อไปยัง ปปง. จากกรณีทุจริต ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีมติถอด EA ออกจากรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษ สมโภชน์ อาหุนัย และ อมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการ และผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) รวมทั้ง พรเลิศ เตชะรัตโนภาส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกระทำการทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควร ได้แก่ ตนเองและ/หรือผู้อื่น และได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• สมาคม บลจ. ชี้ ถึงเวลาทบทวนรายงานข้อมูล ESG แบบ Self Report
• สมโภชน์ยืนยัน EA ไม่เหมือน STARK ส่วนกรณีถูกกล่าวโทษ รอพิสูจน์ทางกฎหมาย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคณะทำงานเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน ได้มีมติถอด EA ออกจากรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings เนื่องจากบริษัทฯ ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ SET ESG Ratings ที่กำหนดไว้ว่า “ต้องไม่เป็นบริษัทที่ถูกกล่าวโทษหรือได้รับการตัดสินความผิดจากทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือมีกรรมการหรือผู้บริหารถูกกล่าวโทษหรือได้รับการตัดสินความผิดจากทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการกำกับดูแลกิจการ การสร้างผลกระทบด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อม” 

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567

The post ตลาดหลักทรัพย์ฯ ถอด บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ออกจาก SET ESG Ratings appeared first on THE STANDARD.

‘สมโภชน์-อมร’ กรรมการและผู้บริหารของ EA ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อยืนยันความโปร่งใสของบริษัท ยืนยันไม่ได้ร่วมกันทุจริต พร้อมให้ความร่วมมือเพื่อพิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ประจักษ์

สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ประกาศลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหาร เพื่อความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้เกิดการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ มั่นใจในความบริสุทธิ์ พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการสอบสวน

กรณีเรื่องการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ และ/หรือการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่นครสวรรค์และลำปาง ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมกันทำทุจริต เพราะกระบวนการในการจัดจ้างผู้รับเหมาเป็นการคัดเลือกผ่านมติคณะกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นการรับเหมาแบบทั้งโครงการ (Turnkey) มีการทำสัญญาก่อสร้างแบบ Engineering, Procurement and Construction Contract (EPC) โดยผู้รับเหมาเป็นผู้ออกแบบ จัดซื้อ ก่อสร้าง และติดตั้งระบบงานต่างๆ ของโครงการทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ก.ล.ต. ตอบ 7 ปมสงสัยมากสุด กรณีกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA กับพวก ฐานร่วมกันทุจริต
• ก.ล.ต. กล่าวโทษ ‘สมโภชน์-อมร’ ผู้บริหาร EA และ ‘พรเลิศ’ ต่อ DSI ฐานร่วมกันทุจริต…

การจัดซื้ออุปกรณ์เป็นหน้าที่และเป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้รับเหมา ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของบริษัท ของสมโภชน์ หรือของอมร โดยผู้รับเหมาจะได้รับรายละเอียดของโครงการรวมทั้งรายการอุปกรณ์ที่ต้องไปจัดหา โดยกำหนดยี่ห้อของแต่ละอุปกรณ์มากกว่า 1 ยี่ห้อ แล้วให้ผู้รับเหมาไปตัดสินใจเลือกซื้อเอง

ทั้งนี้ การกำหนด Specification ของอุปกรณ์หลักต้องได้รับการอนุมัติโดยที่ปรึกษาด้านเทคนิคของโครงการ ที่แต่งตั้งโดยสถาบันการเงินซึ่งเป็นที่ปรึกษาระดับโลกที่มีความเป็นอิสระ ไม่สามารถชี้นำหรือควบคุมได้ โดยที่ปรึกษาด้านเทคนิคของโครงการยังให้ความเห็นว่า ค่าก่อสร้างของโครงการเหมาะสมเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในช่วงเวลานั้น อย่างที่เห็นประจักษ์แล้วว่า ต้นทุนการก่อสร้างโครงการบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับค่าก่อสร้างของโครงการลักษณะคล้ายกันของบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลาเดียวกัน โครงการของ EA ก็มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด และมีประสิทธิภาพในการทำกำไรสูงสุด จนทำให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) สูงสุด

อย่างไรก็ตาม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษมานั้น เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ยังไม่ได้ถือว่าขณะนี้สมโภชน์และอมรเป็นบุคคลผู้กระทำผิด และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อพิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ต่อไป

The post ‘สมโภชน์-อมร’ ประกาศลาออกเพื่อความโปร่งใส ยันไม่ได้ร่วมกันทุจริต และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อพิสูจน์ความจริง appeared first on THE STANDARD.

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคลรวม 3 ราย คือ สมโภชน์ อาหุนัย และ อมร ทรัพย์ทวีกุล ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) รวมทั้ง พรเลิศ เตชะรัตโนภาส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกระทำการทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้แก่ตนเอง และ/หรือผู้อื่น ทำให้ EA และบริษัทย่อยเสียหาย พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 7 คำถามที่พบบ่อย กรณีกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA กับพวก ดังนี้

1. เหตุใดกรณีนี้จึงใช้เวลาในการดำเนินการ

คำตอบ: ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนในช่วงปลายปี 2559 และตั้งประเด็นตรวจสอบหลายประเด็น เกี่ยวพันกันหลายมาตรา มีความซับซ้อนในการตรวจสอบ และมีข้อมูลที่ต้องพิจารณาจำนวนมากในแต่ละประเด็น

นอกจากนี้ ตามกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ก.ล.ต. ให้เวลาและโอกาสผู้ต้องสงสัยชี้แจงอย่างเต็มที่เพื่อความเป็นธรรม ทั้งกรณีการเรียกมาสอบถ้อยคำ และการให้ชี้แจงเป็นหนังสือ อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ประสานหน่วยงานกำกับในต่างประเทศหลายแห่ง และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ก.ล.ต. กล่าวโทษ ‘สมโภชน์-อมร’ ผู้บริหาร EA และ ‘พรเลิศ’ ต่อ DSI ฐานร่วมกันทุจริต ทำบริษัทเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมส่งเรื่องต่อ ปปง.
• หุ้น EA ดิ่งเหลือ 10 บาท มูลค่าหายกว่า 3 แสนล้านบาท สถาบันเทขาย หวั่นปัญหาหนี้

2. คดีนี้มีอายุความกี่ปี

คำตอบ: การกระทำความผิดเกิดในช่วงปี 2556 ถึงปี 2558 ต่อเนื่องกัน โดยกรณีนี้เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 311 ซึ่งมีอายุความ 15 ปี จึงจะหมดอายุความในปี 2573 (นับแต่ปี 2558) ส่วนกรณีความผิดตามมาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 89/24 มีอายุความ 10 ปี จึงจะหมดอายุความในปี 2568 (นับแต่ปี 2558)

3. เหตุใดกรณีนี้จึงดำเนินคดีทางอาญา

คำตอบ: กรณีเป็นความผิดทุจริตมาตรา 311 ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา จึงไม่สามารถใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งได้ (มาตรา 311 และมาตรา 281/2 วรรคสอง ไม่ได้รวมอยู่ในมาตรา 317/1)

4. การกล่าวโทษในกรณีนี้ ส่งผลให้ผู้ถูกกล่าวโทษขาดคุณสมบัติในการเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัท
จดทะเบียน/บริษัทหลักทรัพย์ หรือไม่

คำตอบ: การถูกกล่าวโทษข้างต้นมีผลให้ผู้ถูกกล่าวโทษเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนนับตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวโทษ ไปจนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี ตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 3/2560 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท https://publish.sec.or.th/nrs/7200s.pdf

5. โทษสูงสุดตามกฎหมายในกรณีนี้มีอะไรบ้าง ในความผิดแต่ละมาตรา

คำตอบ: กรณีผู้กระทำผิดเป็นกรรมการ/ผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียนที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีโทษตามมาตรา 313 คือ ระวางโทษจำคุก 5-10 ปี และปรับเงิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่บุคคลดังกล่าวได้กระทำการฝ่าฝืน

กรณีผู้กระทำผิดเป็นผู้สนับสนุนมีโทษตามมาตรา 311 ตามความในมาตรา 315 ไม่ต้องรับโทษตามมาตรา 313 เนื่องจากไม่ได้เป็นกรรมการ/ผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

6. ก.ล.ต. ได้รับเบาะแสการกระทำผิด หรือมีจุดเริ่มต้นของการดำเนินการจากที่ใด

คำตอบ: ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า EA อาจมีการทุจริตผ่านบริษัทย่อยในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 2 แห่ง พร้อมส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องบางส่วน จึงได้ตรวจสอบหาความจริงและความถูกต้องว่าเป็นไปตามข้อร้องเรียนหรือไม่ ซึ่งได้ทำการตรวจสอบข้อมูลผ่านหน่วยงาน ก.ล.ต. หลายประเทศ พบว่า บุคคลทั้งสามกระทำผิดจริง จึงได้กล่าวโทษ

7. หลังจากที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษแล้ว มีกระบวนการอย่างไรต่อไป

คำตอบ: หลังจาก ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจะสืบสวนสอบสวนรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และเสนอความเห็นเกี่ยวกับคดีไปยังพนักงานอัยการ และพนักงานอัยการจะพิจารณาความสมบูรณ์ครบถ้วนของสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ก่อนมีความเห็นสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาตามสำนวนการสอบสวนดังกล่าว และในคดีที่พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยแล้ว ศาลยุติธรรมจะเป็นผู้พิจารณาและพิพากษาต่อไป

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว

The post ก.ล.ต. ตอบ 7 ปมสงสัยมากสุด กรณีกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA กับพวก ฐานร่วมกันทุจริต ทำบริษัทเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคลรวม 3 ราย คือ สมโภชน์ อาหุนัย และ อมร ทรัพย์ทวีกุล ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) รวมทั้ง พรเลิศ เตชะรัตโนภาส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกระทำการทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้แก่ตนเอง และ/หรือผู้อื่น ทำให้ EAและบริษัทย่อยเสียหาย พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกแถลงการณ์ว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษ สมโภชน์ อาหุนัย และ อมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการและผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ และบริษัทย่อยที่ EAเป็นผู้ถือหุ้น 99.99% ได้แก่ บริษัท อีเอ โซล่า นครสวรรค์ จำกัด, บริษัท อีเอ โซล่า ลำปาง จำกัด และ พรเลิศ เตชะรัตโนภาส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

• หุ้น EA ดิ่งเหลือ 10 บาท มูลค่าหายกว่า 3 แสนล้านบาท สถาบันเทขาย หวั่นปัญหาหนี้
• ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมสั่ง EA แจงข้อมูลเพิ่ม หลังพบผู้บริหารรายงานการขายหุ้นต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. ไม่สอดคล้องกัน
• สมโภชน์ชี้แจง 6 ประเด็น เคลียร์อนาคตหุ้น EA หวังฟื้นความเชื่อมั่น

โดยปรากฏข้อเท็จจริงและหลักฐานที่พิจารณาได้ว่า ในช่วงปี 2556-2558 บุคคลทั้ง 3 รายร่วมกันกระทำการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ และ/หรือทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EAผ่านบริษัทย่อย 2 บริษัทดังกล่าว เป็นเหตุให้บุคคลทั้ง 3 รายได้รับผลประโยชน์จำนวนรวม 3,465.64 ล้านบาท

โดยการกระทำของบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แล้วแต่กรณี ก.ล.ต.จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 รายต่อ DSI เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต.ยังแจ้งการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ข้างต้นต่อ ปปง. อันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต.เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ ทั้งนี้ ก.ล.ต.จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อไป และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษแล้ว

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ในการรวบรวมเอกสารหลักฐานในคดีดังกล่าว ก.ล.ต.ได้ประสานความร่วมมือและได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานกำกับดูแลของต่างประเทศหลายแห่ง

ด้านการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น EAวันนี้ (12 กรกฎาคม) ปิดการซื้อ-ขายที่ 13.10 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 3.68% เปรียบเทียบจากราคาปิดวันก่อนหน้า โดยระหว่างขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ 13.80 บาท ส่วนราคาต่ำสุดลดลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 13 บาท

The post ก.ล.ต. กล่าวโทษ ‘สมโภชน์-อมร’ ผู้บริหาร EA และ ‘พรเลิศ’ ต่อ DSI ฐานร่วมกันทุจริต ทำบริษัทเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมส่งเรื่องต่อ ปปง. appeared first on THE STANDARD.

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส EV สาย 38 ใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำ เป็นอุบัติเหตุจากการขับชนคานตอม่อสะพานใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำจนแบตเตอรี่บนหลังคารถเสียหายรุนแรงจนเกิดไฟไหม้

จากกรณีที่คืนของวันที่ 8 เมษายน 2566 เกิดเหตุไฟไหม้รถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า สาย 38 สีน้ำเงิน ที่ผลิตและประกอบโดย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ใช้วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณใต้สะพานลอยข้ามแยกประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

ล่าสุด อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อกรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถโดยสารไฟฟ้า สาย 38 ที่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี นั้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าอุบัติเหตุเกิดจากคนขับรถโดยสารไฟฟ้าเลี้ยวรถเบี่ยงไปช่องทางขวาเพื่อหลบรถยนต์ที่จอดอยู่ในช่องทางซ้าย โดยไม่ทันสังเกตว่าด้านบนมีคานตอม่อสะพานยื่นล้ำออกมา ทำให้หลังคารถไปชนกับคานของสะพานข้ามแยก ส่งผลให้แบตเตอรี่ด้านบนหลังคารถเสียหายรุนแรงจนเกิดเพลิงลุกไหม้ ซึ่งในบริเวณนี้เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง 

ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทางบริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่าแบตเตอรี่ของบริษัทฯ ผ่านกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของการผลิต ตามมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์ IATF 16949:2016 และแบตเตอรี่ของบริษัทฯ ยังได้รับรองมาตรฐานระดับสากลเช่นเดียวกับค่ายรถชั้นนำทั่วโลกทุกค่าย ในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย ตามมาตรฐาน IEC 62660-2:2018, IEC 62660-3:2016 และ ECE R100.02 ซึ่งเป็นมาตรฐานหลักของระบบแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ

ด้าน คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เน็กซ์ พอยท์ หรือ NEX ซึ่งกลุ่ม EA เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 40.01% แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรถบัสไฟฟ้า ได้ดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจะอำนวยความสะดวกในการซ่อมแซมรถคันดังกล่าวให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ด้านการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นวันนี้ (10 เมษายน) EA เปิดตลาดที่ 75.25 บาท ติดลบ 0.33% โดยระหว่างการซื้อขายราคาร่วงไปทำจุดต่ำสุดที่ 73 บาท ติดลบ 3.31% ส่วนราคา NEX เปิดตลาดที่ 13.20 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง โดยระหว่างการซื้อขายราคาร่วงไปทำจุดต่ำสุดที่ 12.90 บาท ติดลบ 2.27% 

The post ‘EA’ แจง ไฟไหม้รถบัส EV สาย 38 เป็นอุบัติเหตุขับชนคานสะพาน ยันแบตเตอรี่ของบริษัทได้มาตรฐาน ด้านหุ้นร่วงกว่า 3% รับข่าวร้าย appeared first on THE STANDARD.

EA จับมือ CRRC Dalian และ สจล. ทดสอบวิ่งหัวรถจักร EV สามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 300 กม. ช่วยประหยัดต้นทุนพลังงานลงได้ 40% เมื่อเทียบกับหัวรถจักรดีเซล

อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวว่า EA ร่วมกับ CRRC Dalian ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่จากประเทศจีน ได้รับโอกาสจากกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผลักดันนโยบาย EV on Train พร้อมร่วมมือกับภาควิชาการ เริ่มทดสอบระบบสับเปลี่ยนขบวน (Shunting) ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยหัวรถจักรไฟฟ้า (EV) หรือ MINE Locomotive แบตเตอรี่ขนาด 4.1 MWh สามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร (กม.) โดยใช้เทคโนโลยีการอัดประจุ Ultra-Fast Charge ของ EA Anywhere ใช้เวลาชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง และประหยัดต้นทุนพลังงานได้กว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับหัวรถจักรดีเซล รวมถึงลงทุนต่ำกว่าระบบไฟฟ้าเหนือหัวกว่าครึ่งและสามารถขยายได้ทั้งประเทศ

ทั้งนี้ เป็นการออกแบบตามมาตรฐานการรถไฟไทยเพื่อการใช้งานหลากหลาย ทั้งการสับเปลี่ยนขบวน (Shunting) เข้าชานชาลาสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อลดมลพิษในอาคารผู้โดยสาร สามารถลากขบวนสินค้า (Cargo Train) จาก ICD ลาดกระบังจนถึงแหลมฉบัง และขบวนโดยสาร (Passenger Train) ในเขตเมืองและระหว่างจังหวัด ด้วยความเร็วสูงสุด (Max Operating Speed) 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อม Regenerative Braking ที่สามารถชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่จากการเบรก

โดยสอดคล้องกับเทรนด์โลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานไฟฟ้า นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของประเทศไทย ที่จะส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ยกระดับผลิตภัณฑ์โดยฝีมือของคนไทยที่ทัดเทียมกับนานาชาติได้อย่างก้าวกระโดด EA มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ Green Product โดยยกระดับการขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งรถโดยสารไฟฟ้า (MINE Bus) รถกระบะไฟฟ้า (MINE MT30) เรือโดยสารไฟฟ้า (MINE Smart Ferry) และหัวรถจักรไฟฟ้า (MINE Locomotive) เพื่อตอบโจทย์การคมนาคมด้านรถ เรือ ราง และจะกลายเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยสร้างอุตสาหกรรมให้กับประเทศไทยบนพื้นฐานความยั่งยืน ให้เดินหน้าพร้อมสร้างความสมดุลในการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อม ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของภาคธุรกิจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต (New S-Curve) เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Economy)

นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนโฉมการคมนาคมทางราง ที่จะขับเคลื่อนประเทศให้เข้าสู่สังคมปลอดคาร์บอนได้เร็วยิ่งขึ้น โดย EA ได้นำนวัตกรรมหัวรถจักรไฟฟ้า ‘MINE Locomotive’ สู่เมืองไทย ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างประโยชน์ในทุกมิติและพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐ เพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานและการคมนาคมของประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• พร้อมกันหรือยัง? ‘Great Wall Motor’ เตรียมเปิดตัว ORA Grand Cat รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ครั้งแรกในไทย
• ‘NETA’ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ส่ง ‘NETA S’ บุกไทย เปิดโฉมครั้งแรกในงาน Motor Expo 2022
• ‘VinFast’ จับมือ ‘Autonomy’ จัดหารถยนต์ไฟฟ้า 2,500 คันป้อนตลาดสหรัฐฯ

The post EA จับมือ CRRC Dalian ทดสอบวิ่ง ‘หัวรถจักร EV’ ระยะทางกว่า 300 กม. ระบุประหยัดพลังงานลงกว่าเดิม 40% appeared first on THE STANDARD.

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA เปิดเผยแผนการและความคืบหน้าในการรุกคืบสังเวียนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า โดยล่าสุดได้ออกมาประกาศว่า ภายในปี 2564 นี้พวกเขาจะดำเนินการทยอยจัดส่งรถบัสไฟฟ้าให้ครบราว 500 คัน โดยจะเริ่มต้นจากการจัดส่ง 120 คันในช่วงกลางปีนี้ก่อน

ขณะที่โรงงานประกอบรถบัส AAB ที่มีกำลังการผลิตที่ 3,000-5,000 คันต่อปี คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงกลางปีนี้ และจะเริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นต้นไป 

อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ตามแผนที่วางไว้ แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมส่งมอบรถบัสไฟฟ้าจำนวน 120 คัน และจะทยอยส่งมอบไปจนถึงปลายปีนี้รวมประมาณ 500 คัน ซึ่งในระยะแรกบริษัทได้ใช้บุคลากรของ บริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จํากัด และบริษัทในกลุ่ม NEX ในการประกอบรถบัสไฟฟ้า และเมื่อโรงงาน AAB ก่อสร้างแล้วเสร็จจึงจะเริ่มผลิตรถบัสในล็อตถัดไป

ทั้งนี้โครงการรถบัสไฟฟ้าตามแผนกลยุทธ์ในการขยายไปยังธุรกิจรถบัสโดยสาร ผ่านพันธมิตร บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตรถบัสและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภท และถือหุ้นในสัดส่วน 55% (ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อย อีเอ โมบิลีตี โฮลดิง จำกัด (EMH)

รวมทั้งยังได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ในสัดส่วนประมาณ 40% ผ่าน EMH ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ และการอัดประจุไฟฟ้าที่พัฒนาจากกลุ่ม EA เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะรถบัสไฟฟ้าได้ครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ประกอบ จัดจำหน่าย ตลอดจนการขายและให้บริการหลังการขาย

สำหรับโรงงานของ AAB ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่การผลิตของโรงงานประมาณ 55,000 ตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร โดยมีกำลังการผลิต 3,000-5,000 คันต่อปี สามารถรองรับการผลิตรถได้หลายประเภท เช่น รถบัส รถบรรทุก และรถตู้ มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,750 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศมาประกอบร่วมกับชิ้นส่วนสำคัญที่ออกแบบและผลิตในประเทศ คาดว่าแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3 นี้

“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากโครงการลงทุนใหม่ในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้บริษัทจะเน้นให้ความสำคัญกับการเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการโดยสารสาธารณะ” นายอมรกล่าว

สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อยชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ATT) ระยะที่ 1 ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันยังเดินหน้าได้ตามแผน โดยอยู่ระหว่างการทดสอบการทำงานของเครื่องจักรทั้งระบบ คาดว่าโรงงานจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่ 1 ได้ในช่วงกลางปี 2564 โดยระยะแรกจะจำหน่ายแบตเตอรี่ไปยังกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าภายในกลุ่มของบริษัท ได้แก่ รถบัสไฟฟ้าและเรือไฟฟ้า

ส่วนการขยายสถานีประจุไฟฟ้าได้ดำเนินการติดตั้งอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเกือบ 500 สถานี มีหัวชาร์จมากกว่า 1,600 หัว มีตั้งแต่ระบบธรรมดา หรือ AC Charger ไปจนถึงระบบชาร์จเร็วและทันสมัยที่สุด หรือ DC Super-Fast Charge ที่ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที และบริษัทยังคงดำเนินแผนเปิดรับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อขยายการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

สำหรับในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ประมาณ 6,100 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงาน สัดส่วน 46%, ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า 25%, ธุรกิจแบตเตอรี่ 20%, ธุรกิจสถานีชาร์จ 7% และอีก 2% สำหรับลงทุนโครงการใหม่ 

ส่วนธุรกิจเดิมทั้งธุรกิจไบโอดีเซลและ PCM รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ เพื่อให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าดีขึ้น รวมถึงมองหาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย

พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ

The post EA ประกาศแผนส่งมอบรถบัสไฟฟ้ารวม 500 คันภายในปี 2564 เริ่มกลางปีนี้ 120 คันก่อน ส่วนโรงประกอบรถบัสจะเริ่มผลิตไตรมาส 3 นี้ appeared first on THE STANDARD.

อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า จากการวางแผนกลยุทธ์และการลงทุนของกลุ่ม EA เพื่อสร้าง New S-Curve ตลอดช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา จะเริ่มเห็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม และสร้างผลประกอบการอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป 

โดยล่าสุดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเฟสแรกขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี (GWh) ที่ ณ ปัจจุบัน ได้ดำเนินการมาจนถึงระยะใกล้จะผลิตจริง โดยอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักร และคาดว่าจะสามารถเริ่มทำการผลิตได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปีนี้เป็นต้นไป

ส่วนโรงงานประกอบรถบัสโดยสารไฟฟ้าและรถขนาดใหญ่จะเริ่มทำการผลิตและส่งมอบได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 นี้เช่นกัน โดยโครงการเรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry ที่เปิดให้บริการทดลองวิ่งฟรีอยู่จนถึงช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ก็พร้อมเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบได้ในช่วงกลางปีนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมที่กำลังมีการพัฒนาไปสู่ประเภท Solid-state นั้น EA อยู่ระหว่างการศึกษาเช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งจากความร่วมมือระหว่าง Amita Technologies Inc., บริษัทย่อยในไต้หวัน กับ Industrial Technology Research Institute หรือ ITRI ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของรัฐบาลไต้หวัน ได้ดำเนินการจนประสบความสำเร็จ โดยได้ร่วมกันทำการพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-state ในชื่อ NAEPE (Networked-Amide Epoxy Polymer Electrolyte) จนได้รับรางวัล R&D100 ประจำปี 2020 ซึ่งเป็นรางวัลด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลก และได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น The Oscars of Innovation Awards 

จากผลสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้ EA เชื่อว่า กลุ่มของบริษัทฯ จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวจนนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ และต่อยอดไปยังยานยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิสูงยิ่งขึ้นได้ต่อไป

สำหรับปี 2564 บริษัทฯ ตั้งงบประมาณการลงทุนไว้ประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปีก่อนธุรกิจแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของผลประกอบการ

“ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯในปี 2564 จะแสดงถึงการก้าวเข้าสู่ New S-Curve อย่างชัดเจน และเชื่อว่าจะมีรายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ทั้งหมดจะมีการเติบโตที่เกี่ยวเนื่องและสนับสนุนกัน 

“ขณะที่ธุรกิจเดิมคือโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิตรวม 664 เมกะวัตต์ ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และอัตรากำไรที่แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการขยายไปยังโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรูปแบบใหม่ ทั้งโซลาร์รูฟท็อป และโซลาร์ลอยน้ำ อีกทั้งยังมีการศึกษาและเตรียมการพัฒนาโครงการอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนใครงการต่างๆ ปีนี้รวม 6,141 ล้านบาท ” อมรกล่าว

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 โดยจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท (สามสิบสตางค์) ซึ่งได้กำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อกำหนดสิทธิในการรับปันผลประจำปี 2563 เป็นวันที่ 15 มีนาคม 2564 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 พร้อมทั้งอนุมัติการออกหุ้นกู้มูลค่ารวมไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ลงทุน และชำระคืนหุ้นกู้และเงินกู้ระยะยาวที่ครบกำหนด ทั้งนี้ จะนำเสนอเพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 เมษายน 2564 ต่อไป

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post EA ลุยโรงงานลิเทียมไอออนเฟสแรก 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง ผลิตรถบัสไฟฟ้า Q2 นี้ ตั้งงบลงทุน 6 พันล้านบาท ประกาศปันผล 0.30 บาท appeared first on THE STANDARD.