สุรเชชษฐ์ หักพาล – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 20 Sep 2024 06:02:37 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ยื่นเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์คดีเว็บพนัน ปปง. ยืนยันไม่ได้ทำงานช้า จากเงินหลักสิบล้านยึดได้ 4 แสนบาท https://thestandard.co/pol-gen-surachet-filed-a-request-to-revoke-the-asset-seizure-order/ Fri, 20 Sep 2024 06:02:37 +0000 https://thestandard.co/?p=985860

วันนี้ (20 กันยายน) ภายหลังการแถลงข่าวผลการยึดทรัพย์ครั […]

The post พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ยื่นเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์คดีเว็บพนัน ปปง. ยืนยันไม่ได้ทำงานช้า จากเงินหลักสิบล้านยึดได้ 4 แสนบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (20 กันยายน) ภายหลังการแถลงข่าวผลการยึดทรัพย์ครั้งใหญ่ คดีทุจริต พนันออนไลน์ ฉ้อโกงประชาชน และปั่นหุ้น รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท นำโดย 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.), สำนักงานอัยการสูงสุด และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 

 

เทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงาน ปปง. มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้เป็นการชั่วคราว รวม 3 รายการ มูลค่าประมาณ 4.8 แสนบาท ในคดีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงิน เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ www.betflixroyal.com และ www.betflikroyal.net

 

หลังปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการนำเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานไปชำระเบี้ยประกันบางส่วน ตามสัญญาประกันชีวิตของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล และภริยา และต่อมาผู้เอาประกันได้เวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ดังนั้นจึงถือว่าเงินที่ได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ดังกล่าวบางส่วนนั้นเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด

 

เทพสุกล่าวว่า ไม่นานมานี้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ทำหนังสือเพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์ของ ปปง. ซึ่งเป็นไปตามสิทธิที่เจ้าตัวสามารถทำได้ จากนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาว่าทรัพย์สินดังกล่าวเกี่ยวพันกับคดีเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในกระบวนการ 

 

ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ากรมธรรม์ดังกล่าวยอดเงินในครั้งแรกมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แต่ ปปง. ตามยึดอายัดได้หลักแสนบาทเท่านั้น มีความผิดปกติหรือดำเนินการล่าช้าจนทรัพย์สินถูกโยกย้ายหรือไม่

 

เทพสุระบุว่า เงินที่นำมาชำระในกรมธรรม์ของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ และภริยา ทั้งหมด แม้จะโยกย้ายออกไประหว่างการตรวจสอบ แต่ ปปง. สามารถตรวจสอบได้ และหากพบว่าเงินดังกล่าวข้องเกี่ยวกับความผิดก็สามารถตรวจยึดย้อนหลังได้

 

ยืนยันว่าที่ผ่านมาการดำเนินการของ ปปง. เป็นไปตามขั้นตอนอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่ได้ล่าช้า โดยคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ต้องดำเนินการตามกฎหมายแพ่งและคำสั่งทางปกครองควบคู่กัน ซึ่งการที่จะมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์จะต้องเป็นมติของที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม อีกทั้งที่ผ่านมาในขั้นการตรวจสอบ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ร้องขอความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทำให้คณะกรรมการธุรกรรมต้องพิจารณาคำร้องส่วนนั้นด้วย

 

เทพสุกล่าวต่อว่า ในคดีดังกล่าวขอย้ำว่า ปปง. ไม่มีการแบ่งมาตรฐานปฏิบัติ ผู้ที่ถูกกล่าวหาได้รับการปฏิบัติในหลักเดียวกัน ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าใน ปปง. แบ่งฝ่ายดำเนินการในเรื่องนี้ ตนยอมรับว่าในองค์กรที่มีคนจำนวนมากย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่มีหลายมุมมอง แต่ในคณะกรรมการเราจะพยายามใช้มาตรฐานเดียวกันในการดำเนินการ

 

ส่วนกรณีการตรวจสอบการครอบครองบ้านพักที่ต่างประเทศของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เทพสุระบุว่า ต้องพิจารณาตามพยานหลักฐานถึงจะมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ได้ แต่จะเร็วหรือช้า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

The post พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ยื่นเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์คดีเว็บพนัน ปปง. ยืนยันไม่ได้ทำงานช้า จากเงินหลักสิบล้านยึดได้ 4 แสนบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
อัยการคดีพิเศษนัดฟังคำสั่งคดีเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ 11 ต.ค. นี้ หลังชุดสอบสวนส่งสำนวน 14,080 แผ่น พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง https://thestandard.co/minnie-gambling-network-prosecution/ Tue, 10 Sep 2024 09:57:14 +0000 https://thestandard.co/?p=981845

วันนี้ (10 กันยายน) คณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งกองบัญชากา […]

The post อัยการคดีพิเศษนัดฟังคำสั่งคดีเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ 11 ต.ค. นี้ หลังชุดสอบสวนส่งสำนวน 14,080 แผ่น พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (10 กันยายน) คณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่ 58/2567 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดย พล.ต.ต. วสันต์ เตชะอัครเกษม หัวหน้าคณะ ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 391/2566 จำนวน 14,080 แผ่น รวม 60 แฟ้ม 4 ลังใหญ่ 3 ลังเล็ก ของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) เตาปูน พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (เว็บพนัน BNK Master) ซึ่งได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว นำส่งให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาตามกฎหมาย

 

พ.ต.ท. สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการสอบสวน สน.สายไหม ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์ของ สน.เตาปูน เปิดเผยว่า วันนี้นำสำนวนการสอบสวนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน จำนวนกว่า 14,000 แผ่น และความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 17 คน มามอบให้กับอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง โดยในคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คน ในจำนวนนี้มีชื่อของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับพวก 7 คน

 

สำนวนอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยผู้ต้องหาทั้ง 17 คน ซึ่งเป็นพลเรือน เป็นกลุ่มผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและผูกบัญชีม้า ทาง ป.ป.ช. ได้คืนสำนวนให้ตำรวจ สน.เตาปูน แยกสำนวนคดี โดยมีผู้ต้องหา 6 คนเดินทางมาส่งฟ้องกับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ส่วนผู้ต้องหาอีก 11 คน อยู่ระหว่างการหลบหนี

 

พ.ต.ท. สราวุธ กล่าวยืนยันว่า การทำสำนวนคดีเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันเครือข่ายนี้ไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด พนักงานสอบสวนทำด้วยความละเอียดรอบคอบ มั่นใจในพยานหลักฐาน สามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน

 

ด้าน นาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับมอบสำนวน พร้อมกล่าวว่า ภายหลังรับสำนวน ทางพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้นัดฟังคำสั่งทางคดีในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ต่อไป สำหรับคดีนี้มีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน และส่งไปให้ ป.ป.ช. พิจารณาว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่

 

หาก ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าอยู่ในอำนาจการพิจารณาของพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ทางพนักงานสอบสวนก็สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาให้ทางพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ พิจารณามีคำสั่งทางคดีต่อไป

 

ในส่วนก่อนหน้านี้มีคดีที่เกี่ยวเนื่องกัน ทางพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ยื่นฟ้องจำเลยบางส่วนต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ไปแล้วนั้น เมื่อมีการส่งสำนวนผู้ต้องหาเพิ่มเติมในวันนี้ หากสุดท้ายแล้วอัยการฟ้องคดี ก็จะแยกการดำเนินคดีมายื่นฟ้องที่ศาลอาญา เนื่องจากคดีเป็นพื้นที่ สน.เตาปูน อยู่ในอำนาจศาลอาญา ส่วนคดีที่ฟ้องไปก่อนหน้าเป็นคดีของ สน.ทุ่งมหาเมฆ จะไม่มีการขอรวมพิจารณา สำหรับคดีนี้เดิมมีรายชื่อผู้ต้องหา 17 คน แต่ขณะนี้ได้ตัวมาส่งอัยการ 6 คน

 

สัญญวีณ์ สาสุธรรม ทนายความผู้ต้องหา 4 ใน 6 คน เปิดเผยว่า พร้อมต่อสู้คดีในชั้นศาล ยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับลูกความ โดยตลอดชั้นพนักงานสอบสวนได้ให้การปฏิเสธเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันตามที่ถูกกล่าวอ้าง รวมถึง พิมพ์วิไล ที่อยู่ในสำนวนคดีของ ป.ป.ช. ด้วย

 

มีรายงานว่า สืบเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ในเครือข่าย BNK Master ซึ่งมี พิมพ์วิไล และ ณพรรษกรณ์ เป็นกลุ่มผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ และจ่ายผลประโยชน์มาทางกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครือข่ายของนายตำรวจระดับสูง

 

ซึ่งมี พ.ต.อ. ดุสิต พรหมสิน ยื่นกล่าวหา พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ กับ เบญจมิน ในข้อหาเกี่ยวกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นกรณีที่มีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับเจ้าพนักงานของรัฐ หรือบุคคลอื่นใด ในข้อหาใดๆ บรรดาที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 วรรคแรก ให้พนักงานสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น แล้วส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ

 

ทั้งนี้ได้ส่งสำนวนการสอบสวนกรณีดังกล่าวพร้อมกับผู้ต้องหาจำนวน 22 คน ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามหนังสือกองบัญชาการตำรวจนครบาล ลับ ที่ ตช. 0015.(น.2)/5017 ลงวันที่ 19 เมษายน 2567

 

ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคืนมาให้คณะพนักงานสอบสวน ตามหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ที่ ปช 0004/1184 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2567 ส่งเรื่องกล่าวหาที่ไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจคืนพนักงานสอบสวน โดยรับผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือนไว้ไต่สวนเองจำนวน 7 คน และส่งคืนให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนจำนวน 15 คน ดังนี้

 

กลุ่มผู้ต้องหา 7 คน ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับไว้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ประกอบด้วย

 

  1. พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ ผู้ต้องหาที่ 3
  2. พิมพ์วิไล ผู้ต้องหาที่ 5
  3. เบญจมิน ผู้ต้องหาที่ 7
  4. พ.ต.อ. กิตติชัย สังขถาวร ผู้ต้องหาที่ 19
  5. ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้ต้องหาที่ 20
  6. ส.ต.อ. ณัฐนันท์ ชูจักร ผู้ต้องหาที่ 21
  7. พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล ผู้ต้องหาที่ 22

 

กลุ่มผู้ต้องหา 15 คน ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งคืนให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประกอบด้วย

 

  1. อัญชลี ผู้ต้องหาที่ 1
  2. ภัทรพล ผู้ต้องหาที่ 2
  3. หัสราวดี ผู้ต้องหาที่ 4
  4. พุฒิพงษ์ ผู้ต้องหาที่ 6
  5. อรัญตสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 8
  6. นราธิป ผู้ต้องหาที่ 9
  7. อันวา ผู้ต้องหาที่ 10
  8. อภิชาติ ผู้ต้องหาที่ 11
  9. สิริวิมล ผู้ต้องหาที่ 12
  10. เพชราวลี ผู้ต้องหาที่ 13
  11. วิภาดา ผู้ต้องหาที่ 14
  12. มาลินี ผู้ต้องหาที่ 15
  13. กวิสรา ผู้ต้องหาที่ 16
  14. กนกวรรณ ผู้ต้องหาที่ 17
  15. ณพรรษกรณ์ ผู้ต้องหาที่ 18

 

หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับสำนวนกลับคืนมาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ได้สืบสวนจึงพบผู้ต้องหาเพิ่มเติมจำนวน 2 คน ประกอบด้วย

 

  1. ฮาหรูน ผู้ต้องหาที่ 23
  2. นะบีล ผู้ต้องหาที่ 24

 

รวมผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวนทั้งสิ้น 24 คน

 

แต่เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับผู้ต้องหา 7 คนไว้ไต่สวน และอีก 17 คนอยู่ในอำนาจพนักงานสอบสวน ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาหลบหนี 11 คน ซึ่งมีการออกหมายจับไว้

 

และในวันนี้ได้นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องส่งตัวผู้ต้องหา 6 คนให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ไว้พิจารณา ประกอบด้วย

 

  1. ภัทรพล ผู้ต้องหาที่ 2 
  2. หัสราวดี ผู้ต้องหาที่ 4
  3. พุฒิพงษ์ ผู้ต้องหาที่ 6 บัญชีม้าตำรวจ 
  4. อรัญตสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 8
  5. กวิสรา ผู้ต้องหาที่ 16
  6. ณพรรษกรณ์ ผู้ต้องหาที่ 18

The post อัยการคดีพิเศษนัดฟังคำสั่งคดีเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ 11 ต.ค. นี้ หลังชุดสอบสวนส่งสำนวน 14,080 แผ่น พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง appeared first on THE STANDARD.

]]>
พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ยืนยัน ยังไม่เตรียมพยานสู้ปมสอบวินัยร้ายแรง-ฟ้องศาลกรณีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน ขอรอตามกระบวนการ https://thestandard.co/surachet-disciplinary-action-response/ Mon, 09 Sep 2024 12:14:47 +0000 https://thestandard.co/?p=981574

ความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพ […]

The post พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ยืนยัน ยังไม่เตรียมพยานสู้ปมสอบวินัยร้ายแรง-ฟ้องศาลกรณีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน ขอรอตามกระบวนการ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เมื่อช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

 

วันนี้ (9 กันยายน) พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยระบุว่า ไม่ทราบกรณีนี้ ขอให้ติดตามต่อไป และรอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม

 

เมื่อถามต่อถึงการเตรียมพยานเพื่อใช้ในการต่อสู้การถูกสอบสวนวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กับพวก ซึ่งมี พล.ต.อ. สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการชุดสอบสวน

 

พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้มีการเตรียมหรือยื่นพยานใดๆ เพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ กรณีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ทางคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา หาก พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุด โดยวิธีการยื่นฟ้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาล หรือยื่นฟ้องโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบคำวินิจฉัย

The post พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ยืนยัน ยังไม่เตรียมพยานสู้ปมสอบวินัยร้ายแรง-ฟ้องศาลกรณีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน ขอรอตามกระบวนการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ เตรียมพยานสู้ปมสอบวินัยร้ายแรง ช้า-เร็วขึ้นอยู่กับการหักล้างข้อมูล 2 ฝ่าย https://thestandard.co/surachate-prep-witness-investigation/ Wed, 04 Sep 2024 09:31:59 +0000 https://thestandard.co/?p=979449 สุรเชชษฐ์

ความคืบหน้ากรณีการสอบสวนวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ. สุรเชชษ […]

The post ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ เตรียมพยานสู้ปมสอบวินัยร้ายแรง ช้า-เร็วขึ้นอยู่กับการหักล้างข้อมูล 2 ฝ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุรเชชษฐ์

ความคืบหน้ากรณีการสอบสวนวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก ซึ่งมี พล.ต.อ. สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการชุดสอบสวน

 

วันนี้ (4 กันยายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แหล่งข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา (พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์) จัดหาพยานเพื่อแก้ต่างในข้อกล่าวหาตามสิทธิแล้ว ซึ่งเป็นได้ทั้งพยานบุคคลและเอกสารรายงาน โดยไม่ได้กำหนดจำนวนของพยานว่าต้องมีกี่คน ใช้เอกสารเท่าใด 

 

จากนั้นเมื่อ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ จัดหาพยานเสร็จสิ้นแล้วทางคณะกรรมการฯ จะนำมาประมวลประกอบกับพยานฝั่งของชุดตรวจสอบเพื่อหักล้างกัน หากข้อมูลของฝ่ายใดเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนจะยึดตามพยานนั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายที่ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสแก้ต่าง

 

แต่ทั้งนี้แหล่งข่าวยืนยันว่ายังไม่สามารถกำหนดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นเมื่อใด จะทันการเกษียณอายุราชการของประธานคณะกรรมการฯ หรือไม่ แต่ในส่วนการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ไม่ได้ช้าหรือเร็วเกินไป แต่พยายามจัดการด้วยความรอบคอบ ซึ่งกระบวนการฝั่งสอบสวนเสร็จไป 80% แล้ว

The post ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ เตรียมพยานสู้ปมสอบวินัยร้ายแรง ช้า-เร็วขึ้นอยู่กับการหักล้างข้อมูล 2 ฝ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดคำสั่งปลด 8 ลูกน้องคนสนิท ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ ออกจากราชการไว้ก่อน หลังพบพฤติการณ์เข้าข่ายหุ้นส่วน-ฟอกเงิน เว็บพนัน https://thestandard.co/surachate-team-official-dismiss/ Mon, 02 Sep 2024 14:02:04 +0000 https://thestandard.co/?p=978643 สุรเชชษฐ์

วันนี้ (2 กันยายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต. […]

The post เปิดคำสั่งปลด 8 ลูกน้องคนสนิท ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ ออกจากราชการไว้ก่อน หลังพบพฤติการณ์เข้าข่ายหุ้นส่วน-ฟอกเงิน เว็บพนัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุรเชชษฐ์

วันนี้ (2 กันยายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 436/2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ด้วยข้าราชการตำรวจดังต่อไปนี้

 

  1. พล.ต.ต. นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการ ศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล
  2. พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4
  3. พ.ต.อ. เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดจันทบุรี
  4. พ.ต.อ. อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผู้กำกับการ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
  5. พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ (ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 177/2567 ลงวันที่ 18 เมษายน 2567)
  6. พ.ต.ต. ชานนท์ อ่วมทร สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
  7. ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจร ตามโครงการพระราชดำริ 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร (ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เมษายน 2567)
  8. ส.ต.อ. อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม) สถานีตำรวจภูธรบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

 

มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง สืบเนื่องจาก พล.ต.ต. นำเกียรติ กับพวกรวม 8 นาย ถูกสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 93/2567 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยปรากฏผลการสืบสวนข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลเครือข่าย หุ้นส่วน นายทุน เจ้าของเว็บไซต์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์

 

ซึ่งตรวจสอบพบการกระทำความผิด มีการเปิดบริการให้เล่นพนันออนไลน์ สล็อต บาคาร่า คาสิโนออนไลน์ เกมพนันออนไลน์อื่นๆ จึงได้สืบสวนสอบสวนในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

 

สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน โดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วตามคดีอาญาที่ 468/2566 ของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ต่อมาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 ศาลอาญาได้มีคำสั่งอนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจทั้ง 8 นายดังกล่าว

 

จากการตรวจสอบข้อมูลที่ตรวจยึดได้ พบสรุปยอดบันทึกว่า ‘จ่ายตำรวจ’ พร้อมระบุ จำนวนเงินและข้อมูลของ ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ หรือ มินนี่ ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ พบว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พ.ต.อ. ภาคภูมิ โดยมีหลักฐานที่ พ.ต.อ. ภาคภูมิ ให้ธันยนันท์โอนเงินค่าตำรวจ โดยวิธีการนำเงินสดไปฝากเข้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ เพื่อปกปิดอำพรางการได้มา

 

โดย พ.ต.อ. ภาคภูมิ ส่งเลขบัญชีธนาคารและภาพหน้าสมุดธนาคารไปยังธันยนันท์ เพื่อให้ดำเนินการนำเงินสดไปฝากเข้าตู้เอทีเอ็มเข้าบัญชีของ กิตติชัช และพุฒิพงษ์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าเงินค่าตำรวจซึ่งเข้าไปในบัญชีของกิตติชัชมีความสัมพันธ์เชื่อมโยง มีการทำธุรกรรมรับโอนเงิน และโอนเงินเข้าไปในบัญชีธนาคารของพุฒิพงษ์, ครรชิต, วราวุฒิ และพิมพิลาศ ซึ่งเป็นบัญชีที่ พ.ต.ท. คริษฐ์ เป็นผู้ถือและใช้บัญชี และได้โอนเงินและรับโอนเงินผ่านบัญชีดังกล่าวไปยัง พล.ต.ต. นำเกียรติ, พ.ต.อ. เขมรินทร์, พ.ต.อ. อาริศ, พ.ต.ต. ชานนท์, ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ และ ส.ต.อ. อภิสิทธิ์

 

ซึ่งเป็นการโอนเงินและรับโอนเงินจากบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดการพนันออนไลน์ และน่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์เรียกรับเงินค่าตำรวจดังกล่าว เหตุเกิดในห้วงปี 2565-2566 กรณีนี้จึงมีมูลที่ควรกล่าวหาว่า พล.ต.ต. นำเกียรติ กับพวกรวม 8 นาย กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง

 

อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 105, มาตรา 119 และมาตรา 179 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. 2547 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้ เพื่อสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว

 

  1. พล.ต.ท. สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ เป็นประธานกรรมการ
  2. พล.ต.ต. อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นกรรมการ
  3. พ.ต.อ. รณชัย เมฆชัย รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 3 เป็นกรรมการ
  4. พ.ต.อ. ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นกรรมการ
  5. พ.ต.อ. ธรรมนิตย์ บุญเพ็ญ ผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 3 เป็นกรรมการและเลขานุการ
  1. พ.ต.ท. วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ รองผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นกรรมการ
  2. พ.ต.ท. พฤฒ ศุภจิตตากร สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลปากคลองสาน เป็นกรรมการ

 

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ยังได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 437/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ด้วยข้าราชการตำรวจดังต่อไปนี้

 

  1. พล.ต.ต. นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการ ศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล
  2. พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4
  3. พ.ต.อ. เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดจันทบุรี
  4. พ.ต.อ. อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผู้กำกับการ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
  5. พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ (ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 177/2567 ลงวันที่ 18 เมษายน 2567)
  6. พ.ต.ต. ชานนท์ อ่วมทร สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
  7. ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจร ตามโครงการพระราชดำริ 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร (ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เมษายน 2567)
  8. ส.ต.อ. อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม) สถานีตำรวจภูธรบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

 

มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน

 

โดยมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเครือข่ายหุ้นส่วน นายทุน เจ้าของเว็บไซต์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ สล็อต บาคาร่า คาสิโนออนไลน์ เกมพนันออนไลน์อื่นๆ และต้องหาคดีอาญาที่ 468/2566 ของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ในข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน

 

ซึ่งเป็นกรณีต้องหาคดีอาญาร้ายแรง จนถูกศาลอาญาออกหมายจับ ลงวันที่ 22 กันยายน 2566 ในกรณีดังกล่าว และมีเหตุผลให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ข้อ 3 (1) คือ ถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญา

 

โดยผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการตำรวจ มีหน้าที่และอำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา แต่กลับต้องหาว่ากระทำผิดทางอาญาเสียเอง ซึ่งเป็นคดีสำคัญ อยู่ในความสนใจของประชาชน ประกอบกับปรากฏข้อเท็จจริงตามเอกสารข่าว

 

สำนักงานอัยการสูงสุด ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ว่ามีพฤติการณ์การกระทำในเชิงคุกคามข่มขู่พนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ และขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน และภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรง ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการ ประกอบกับการสอบสวนพิจารณาในเรื่องนี้มีความยุ่งยาก สลับซับซ้อน และมีผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเป็นเครือข่ายจำนวนมาก พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

 

ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 มาตรา 131 และมาตรา 179 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2567 ข้อ 5 จึงให้ พล.ต.ต. นำเกียรติ กับพวกรวม 8 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

อนึ่งผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 141 ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัย อุทธรณ์ สั่ง ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2567

 

มีรายงานว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องแจ้งให้ประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยทราบ เพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณี พล.ต.ต. นำเกียรติ เนื่องจากเป็นตำรวจระดับผู้บังคับการ นายกรัฐมนตรีต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 140 วรรคสอง

 

ทั้งนี้สำหรับนายตำรวจทั้ง 8 นายถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความใกล้ชิดกับ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถูก พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในขณะนั้น สั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2567 ต่อมา พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 106/2567 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ให้ตำรวจทั้ง 8 นายปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. เช่นเดิม

The post เปิดคำสั่งปลด 8 ลูกน้องคนสนิท ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ ออกจากราชการไว้ก่อน หลังพบพฤติการณ์เข้าข่ายหุ้นส่วน-ฟอกเงิน เว็บพนัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชุดสอบวินัยร้ายแรง พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ สอบพยานปากเอกเพิ่ม 5 คน ปมเส้นทางการเงินเว็บพนัน คาดเสร็จภายในวันนี้ https://thestandard.co/surachate-disciplinary-probe-witnesses/ Wed, 21 Aug 2024 04:12:04 +0000 https://thestandard.co/?p=973399

วันนี้ (21 สิงหาคม) ที่กองบังคับการปราบปราม คณะกรรมการช […]

The post ชุดสอบวินัยร้ายแรง พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ สอบพยานปากเอกเพิ่ม 5 คน ปมเส้นทางการเงินเว็บพนัน คาดเสร็จภายในวันนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (21 สิงหาคม) ที่กองบังคับการปราบปราม คณะกรรมการชุดสอบสวนวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก ซึ่งมี พล.ต.อ. สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน

 

จะสอบปากคำพยาน 5 คน ที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอให้คณะกรรมการสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่ากลุ่มพยาน 5 คนนี้ สามารถอธิบายเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับปมเว็บพนันออนไลน์ที่เข้ามาพัวพันกับ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ได้

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการเชิญพยานทั้ง 5 คนมาสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้

The post ชุดสอบวินัยร้ายแรง พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ สอบพยานปากเอกเพิ่ม 5 คน ปมเส้นทางการเงินเว็บพนัน คาดเสร็จภายในวันนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทนายตั้มระบุ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ มีความเครียด ส่วนตัวเชื่อ อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นคนสู้ชีวิต จะหาทางกลับมา หลังถูกโปรดเกล้าฯ พ้นตำแหน่ง https://thestandard.co/surachate-stress-after-dismissal/ Tue, 20 Aug 2024 07:17:29 +0000 https://thestandard.co/?p=973086 สุรเชชษฐ์

ความคืบหน้าหลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประก […]

The post ทนายตั้มระบุ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ มีความเครียด ส่วนตัวเชื่อ อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นคนสู้ชีวิต จะหาทางกลับมา หลังถูกโปรดเกล้าฯ พ้นตำแหน่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุรเชชษฐ์

ความคืบหน้าหลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งเป็นกรณีของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถาม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือทนายตั้ม ว่าได้ติดต่อกับ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หรือไม่ 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ษิทรากล่าวว่า ได้พูดคุยกันล่าสุดเมื่อประมาณ 10 วันที่แล้ว เป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามปกติ ทั้งนี้ อดีตรอง ผบ.ตร. มีความเครียด แต่ท่านเป็นคนสู้ชีวิต เชื่อว่าจะหาทางกลับมา

 

เมื่อถามต่อว่า ได้คุยกันถึงแนวทางหลังจากนี้หรือไม่ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ษิทรากล่าวว่า ขอไม่ตอบผ่านสื่อ

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ สามารถใช้สิทธิฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตนเอง หลังผลคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะต้องทำภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2567

The post ทนายตั้มระบุ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ มีความเครียด ส่วนตัวเชื่อ อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นคนสู้ชีวิต จะหาทางกลับมา หลังถูกโปรดเกล้าฯ พ้นตำแหน่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ไม่คาดหวังเป็น ผบ.ตร. หลังได้อาวุโสอันดับ 1 แทน พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ที่พ้นรอง ผบ.ตร. https://thestandard.co/pol-gen-kittirat-does-not-expect-to-become-commissioner-general/ Fri, 16 Aug 2024 10:03:11 +0000 https://thestandard.co/?p=972042

วันนี้ (16 สิงหาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผ […]

The post พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ไม่คาดหวังเป็น ผบ.ตร. หลังได้อาวุโสอันดับ 1 แทน พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ที่พ้นรอง ผบ.ตร. appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (16 สิงหาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่วานนี้ (15 สิงหาคม) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 

 

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการสิ้นสุดตามกระบวนการแล้ว ตนเองในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ณ เวลานั้น 

 

ยืนยันว่าได้ดำเนินการด้วยเหตุผลและเจตนาที่สุจริต ไม่มีอคติต่อผู้ใด รวมทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ดุลยพินิจให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย การที่เรื่องดำเนินมาจนถึงบัดนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ที่ตนเองได้ใช้ดุลยพินิจและดำเนินการไป ตนเองไม่ได้มีความรู้สึกดีใจหรือเสียใจ 

 

จากนี้หาก พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ต้องการใช้สิทธิ์เรียกร้องความเป็นธรรมก็ยังสามารถใช้ช่องทางฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุดได้ หากศาลมีคำวินิจฉัยเช่นไรก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น

 

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ถูกสอบสวนวินัยร้ายแรงโดยคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการตำรวจ ที่มี พล.ต.อ. สราวุฒิ การพานิชย์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ผลจะออกมาเป็นเช่นไรไม่สามารถไปก้าวก่ายได้

 

ทางคณะกรรมการสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และใช้ดุลยพินิจว่าจะเป็นความผิดทางวินัยในระดับใด หากไม่ผิดก็ยุติการสอบสวน หากพบว่าผิดวินัยร้ายแรงก็ดำเนินการปลดออก ไล่ออก ตามขั้นตอน ส่วนจะมองว่าเป็นการลงดาบสองหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ

 

เมื่อถามถึงประเด็นที่ขณะนี้มีแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป 3 คน โดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ถือว่าอาวุโสอันดับที่ 1 แทน พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ 

 

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นอาวุโสระดับใดก็สามารถถูกนำเสนอชื่อได้ ตนเองในฐานะอาวุโสอันดับ 1 ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องถูกเสนอชื่อ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากประวัติ ผลงาน ความประพฤติ ประกอบกับระดับอาวุโสตามกฎหมายของตำรวจ

The post พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ไม่คาดหวังเป็น ผบ.ตร. หลังได้อาวุโสอันดับ 1 แทน พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ที่พ้นรอง ผบ.ตร. appeared first on THE STANDARD.

]]>
ย้อนประวัติ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ก่อนถูกปลดจากตำแหน่ง เพราะถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง https://thestandard.co/surachate-hakparn-big-joke/ Thu, 15 Aug 2024 13:10:54 +0000 https://thestandard.co/?p=971641

พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล (โจ๊ก) เกิดวันที่ 29 ตุลาคม พ. […]

The post ย้อนประวัติ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ก่อนถูกปลดจากตำแหน่ง เพราะถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>

พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล (โจ๊ก) เกิดวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2513 (ปัจจุบันอายุ 54 ปี) ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา, ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล, ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และปริญญาเอก สาขาวิชาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมและสังคม (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยมหิดล

 

เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 47 และนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 31 มีกำหนดเกษียณอายุราชการปี 2574

 

มีผลงานเป็นที่รู้จัก อาทิ คดีแอม ไซยาไนด์, คดีคนไทยรับจ้างอุ้มบุญ, คดีมูลนิธิคุ้มครองเด็ก (บ้านครูยุ่น) ทำร้ายเด็ก-บังคับไปทำงานรีสอร์ต, ทลายเครือข่ายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน, คดีทุนจีน, ปัญหาบุกรุกที่ดินเกาะหลีเป๊ะ

 

นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ซึ่งในส่วนงานนี้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ได้เคยระบุว่า ผลการประเมินของประเทศไทยจากองค์กรสากลขยับขึ้นในทิศทางที่ดีขึ้น

 

พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ผลักดันการแก้ประวัติอาชญากร ปรับปรุงระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ. 2566

 

ทั้งนี้ ก่อนจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ได้ใช้พื้นที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นพื้นที่รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์จากประชาชนที่ได้รับความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม

 

จนถึงวันนี้ (15 สิงหาคม) ที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ รับราชการมาแล้วประมาณ 30 ปี (เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2537)

The post ย้อนประวัติ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ก่อนถูกปลดจากตำแหน่ง เพราะถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ ให้ ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ พ้นจากตำแหน่งรอง ผบ.ตร. หลังถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง https://thestandard.co/surachet-royal-gazette-150867/ Thu, 15 Aug 2024 12:21:23 +0000 https://thestandard.co/?p=971562

วันนี้ (15 สิงหาคม) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกา […]

The post เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ ให้ ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ พ้นจากตำแหน่งรอง ผบ.ตร. หลังถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (15 สิงหาคม) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567

 

เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน และขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 140 และ 178 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565

 

ประกอบข้อ 11 ของกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว

 

บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567

 

ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2567

 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี

The post เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ ให้ ‘พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์’ พ้นจากตำแหน่งรอง ผบ.ตร. หลังถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>