วันนี้ (26 เมษายน) ความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คาดว่ารายชื่อใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.53 น. บุคคลที่มีรายชื่อติดโผว่าจะได้รับการปรับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเดินทางมาที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เช่น สุชาติ ชมกลิ่น สส. บัญชีรายชื่อ พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ 

จากนั้น เวลา 16.00 น. ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในเวลาไล่เลี่ยกัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 17.00 น. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกรัฐมนตรีที่มีรายชื่อว่าจะถูกปรับออกจาก ครม. เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ประกอบด้วย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการประสานให้เข้าพบแต่ติดภารกิจ ส่วน ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีรายชื่อว่าจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง แจ้งว่ายังไม่ได้รับการประสาน

ต่อมานายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีเรียกรัฐมนตรีขึ้นไปพบว่า เป็นเรื่องงานค้างกันอยู่จำนวนมาก ส่วนการหารือกับสุชาติเพื่อถามไถ่การลงพื้นที่จันทบุรีในวันพรุ่งนี้ ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติส่งรายชื่อ ครม. มาให้แล้วหรือไม่นั้น ส่งเมื่อไรท่านก็ทราบเอง ส่วนโพสต์ต่างๆ ที่มีการปล่อยออกมาขณะนี้ ตนเองอ่านแล้ว ก็ปล่อยให้เขย่ากันไป ก็เหมือนกับอ่านนิยายสนุกๆ ไป 

เมื่อถามถึงการปรับ ครม. ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนิ่งแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ผ่านมานิ่งมาตลอด แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็คุมได้ มั่นคง และยืนยันว่าวานนี้ไม่ได้พบ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามถึงกรณีที่เลขา ครม. ขึ้นไปพบบนตึกไทยคู่ฟ้าด้วย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกวันศุกร์ตนจะเตรียมเรื่องการประชุม ครม. วันอังคาร ก็มาเซ็นนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อไม่ให้มีวาระจรเยอะ จะพิจารณาให้เหลือเพียง 1-2 เรื่องเท่านั้น

เมื่อถามว่า การเรียกคนมาพบวันนี้เป็นการแจกแจงการทำงานของรัฐมนตรีที่จะเข้ามาใหม่หรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า เป็นเรื่องการทำงานธรรมดาเมื่ออยู่ที่ทำเนียบ ไม่ได้ไปไหน ก็สั่งงานทุกคน วันนี้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก็เข้ามาคุยเรื่องแคดเมียม เรื่องโรงงาน เพราะว่าปีนี้อุณหภูมิสูงขึ้นเยอะมาก และมีโรงงานเก็บเคมีภัณฑ์หลายแห่งเริ่มมีการระเบิดหรือไอระเหย ก็กำชับไปทางปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมมาดูแลควบคุมสภาพให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยกับ จิราพร สินธุไพร สส. ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ด้วย เนื่องจากตนจะลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนพวงเพ็ชรนั้นก็มีการพูดคุยเรื่องของการทำงานกรมประชาสัมพันธ์ 

The post นายกฯ เผย เรียก ‘รมต. ชื่อหลุดตำแหน่ง-สุชาติ-พิชชารัตน์’ สั่งงาน-หารือลงพื้นที่ตามปกติ ชี้ปรับ ครม. เมื่อไรทราบเอง appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (13 กุมภาพันธ์) สุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ปรากฏตัวครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลังจากที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งและมีกระแสข่าวว่าจะลาออกจากพรรครวมไทยทั้งชาติไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ว่า ยังไม่หายไปไหน วันนี้เป็นงานเลี้ยงพรรคร่วม จึงอยากขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ทำให้พวกเราได้มาพูดคุยและได้พบเจอกัน ยืนยันว่าตนเองยังอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งต้องทำพรรคให้เติบโตขึ้น 

“วันนี้เรามี สส. ทั้งหมด 36 คน ซึ่งพรรคเราเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่ตัวเลข 36 สส. นั้นถือว่าเยอะ ครั้งต่อไปให้คูณ 3 หรือประมาณกว่า 100 คน ยืนยันว่าพร้อมที่จะแก้มือ เพราะอย่างที่รู้กันว่าเป็นเรื่องปกติที่การเมืองทุกภาคมีปัญหาทุกจังหวัด ซึ่งพอเรารู้ปัญหาแล้ว เราก็ต้องไปแก้ไขปัญหาตรงนั้น แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อยู่ในพรรคแล้ว แต่ก็มี สส. ที่ย้ายมาจากหลายพรรค ซึ่งก็ไม่น่ายากอะไร” สุชาติกล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือไม่นั้น สุชาติกล่าวว่า บ้านเราอยู่ใกล้กัน เราก็พี่น้องกัน เราถือเขาเป็นพี่ รวมถึงกับ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็สนิทกัน โดยสุชาติปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่ามีการชักชวนกันจริงหรือไม่ 

โดยสุชาติกล่าวย้ำอีกว่า เรามีพี่น้องอยู่ทุกพรรค แต่ตนนั้นยังอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ยังคงมีความสุข ส่วนพรรคอื่นๆ นั้นก็ต่างมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยร่วมรัฐบาลด้วยกันมาในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งยังพูดคุยและปรึกษาหารือกันอยู่เหมือนเดิม ต้องยอมรับว่าบรรยากาศการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลณขณะนี้เป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข คนเราต้องมีอุดมการณ์ร่วมกัน เคมีต้องตรงกัน มีจุดเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน ก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้

ส่วนจะกลับเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้น สุชาติกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับบุญวาสนา แต่ต้องยอมรับว่า การที่จะเป็นผู้บริหารหรือรัฐมนตรีก็มีหลายองค์ประกอบ รวมถึงจังหวะและความเมตตาของผู้ใหญ่ด้วย รวมถึงบทบาทที่เราจะไปอยู่เหมาะสมไหม และสุดท้ายเราก็ต้องเคารพมติของการอยู่ร่วมกัน

The post สุชาติ ชมกลิ่น ยังอยู่รวมไทยสร้างชาติแม้ไม่มีประยุทธ์ ปฏิเสธตอบย้ายซบภูมิใจไทย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (24 มกราคม) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน สุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 14 คน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นฟ้องอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), รักษาการอธิบดีดีเอสไอ และผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ของดีเอสไอ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สืบเนื่องจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีมติเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา มีมติกล่าวหาอดีตรัฐมนตรีว่าการ 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน 2 คน รวม 4 คน ในความผิดมาตรา 149 และ 157 หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการหักหัวคิวแรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ จำนวน 12,000 คน ระหว่าง ปี 2563-2566 คนละ 3,000 บาท รวมค่าเสียหาย 36 ล้านบาท

สุชาติกล่าวว่า การที่ดีเอสไอ ออกมาแถลงข่าว ส่งผลให้ตนเอง ครอบครัว ได้รับความเสียหาย แม้ว่าครั้งนั้นจะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่ได้พูดว่ารัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ ทำให้ประชาชนและหลายคนเข้าใจว่าเป็นตน และการที่ตนมายื่นฟ้องในครั้งนี้ถือเป็นการรักษาสิทธิ และเชื่อว่าการที่ดีเอสไอออกมาแถลงเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง 

เนื่องจากคดีสำคัญที่ประชาชนได้รับผลกระทบกลับไม่แถลง แต่มาแถลงคดีนี้ทั้งที่มีการยื่นสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปี 2566 ที่แล้ว แต่ยังกลับมาแถลงข่าวอีก โดยก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีการเรียกตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบถามทั้งที่ตนก็เป็นข้าราชการระดับสูง 

เมื่อถามว่าขณะดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2563 มีการร้องเรียนเรื่องการเรียกรับสินบนในลักษณะที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ สุชาติยอมรับว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจริง และได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว เป็นบริษัทเอกชนกับเอกชน และผลตรวจสอบออกมาก็ไม่พบ 

นอกจากนี้ยังฝากถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ควบคุมดูแลหน่วยงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งวันนี้ที่ตนเองมายื่นเรื่องก็มาในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ปกป้องสิทธิเช่นกัน 

โดยภายหลังยื่นฟ้องสุชาติกล่าวต่อว่า ศาลได้รับคำฟ้องแล้วนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้

The post สุชาติยื่นฟ้อง อธิบดีดีเอสไอกับพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-กลั่นแกล้งให้รับโทษ ปมถูกกล่าวหาเป็น รมว.หักหัวคิว แรงงานฟินแลนด์ appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (26 สิงหาคม) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะ สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ กรณีไม่ปรากฏรายชื่อในคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลที่นำโดย เศรษฐา ทวีสิน

ระบุว่า “ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ไม่เสียใจที่หลุดโผ กระผมกราบขอบพระคุณทุกคำอวยพร ทุกกำลังใจ ทุกความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน เพื่อน สส. ทุกท่าน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งที่ผ่านมา

1. มีโอกาสรับใช้พี่น้องประชาชน พี่น้องผู้ใช้แรงงาน ในช่วงซึ่งถือเป็นเวลาสำคัญสำหรับเราทุกคนคือโควิด-19 ทุกวินาทีในตอนนั้นมันคือชีวิต ความเป็นอยู่ ความปลอดภัย การว่างงานตกงานของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และเราต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหากับนายจ้างให้คงอยู่ให้ได้ เพื่อพี่น้องผู้ใช้แรงงานจะได้ไม่ตกงาน การชดเชยเยียวยาทุกสถานการณ์ เพราะว่าชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องผู้ใช้แรงงานสำคัญที่สุดในความคิดกระผมตอนนั้น แล้ววันนี้สถานการณ์ก็ผ่านพ้นไป เช่นกันกับการผันเปลี่ยนของทุกสิ่งในโลกนี้ เราอยู่และเรียนรู้ด้วยความเข้าใจและไม่เข้าใจต่อไป

2. มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานท่านนายกฯ ลุงตู่ ผู้ดำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเข้มแข็ง ห่วงใยทุกข์สุขพี่น้องประชาชนตลอดเวลา ผู้ซึ่งทรงเกียรติและเป็นความภาคภูมิของชายชาติทหาร

วันนี้และต่อไป กระผมและเพื่อนๆ กลุ่ม สส. ภาคกลางจะยังคงรับผิดชอบและทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มกำลังความสามารถครับ

ท้ายนี้ กระผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับตำแหน่ง และรับใช้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อย่างที่ทุกท่านตั้งใจไว้”

อ้างอิง: เฟซบุ๊ก ‘สุชาติ ชมกลิ่น’

The post สุชาติไม่เสียใจที่หลุดโผ ครม. ขอบคุณทุกกำลังใจ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ประชาชนในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (25 สิงหาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรครวมไทยสร้างชาติ ในสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 เก้าอี้ ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการ 2 เก้าอี้ รัฐมนตรีช่วย 2 เก้าอี้ โดยโผรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติปรากฏชื่อ สุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค เป็นหนึ่งในบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี 

แต่เมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติได้ส่งรายชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีปรากฏว่าไม่มีชื่อสุชาติ จึงทำให้กลุ่มสุชาติเกิดความไม่พอใจ และมีการถกเถียงกันอย่างหนักในไลน์กลุ่ม สส. ของพรรค ขณะเดียวกันทางเพจพรรครวมไทยสร้างชาติได้โพสต์ประกาศเชิญชวนสมาชิกพรรคเสนอรายชื่อบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค 4 เก้าอี้ ก่อนจะลบข้อความดังกล่าวออก

อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 4 เก้าอี้ในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติประกอบด้วย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีชื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, ม.ล.ชโยทิต กฤดากร สส. บัญชีรายชื่อ มีชื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, สุพล จุลใส สส. ชุมพร มีชื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ อนุชา นาคาศัย สส. ชัยนาท มีชื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค 4 เก้าอี้นั้น ได้ส่งรายชื่อไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากพรรคการเมืองใดจัดทำบัญชีรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ทยอยส่งมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อจะได้มีการตรวจสอบประวัติล่วงหน้าไปก่อน

The post รทสช. เคาะ 4 เก้าอี้รัฐมนตรีแล้ว เตรียมส่งประวัติให้ สลค. ตรวจสอบ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (23 สิงหาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความยินดีกับว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วยความจริงใจ ส่วนเรื่องโผ ครม. นั้น ตนเองไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ และตนจะได้ตำแหน่งอะไรหรือไม่นั้น ยืนยันว่ายังไม่คิดอะไรทั้งสิ้น

ส่วนบทบาทในพรรคจะเป็นอย่างไรนั้น สุชาติระบุว่า ยังไม่มองถึงขณะนั้น คงต้องดูกันทีละเรื่อง แต่สิ่งที่เห็นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา พรรครวมไทยสร้างชาติโหวตนายกฯ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายในพรรคถือว่ามีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และยังยืนหยัดที่จะทำพรรคการเมืองให้เป็นที่พึ่งพาของประชาชน พร้อมย้ำว่ายังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะทำงานมาด้วยกันและสร้างบ้านมาด้วยกัน ส่วนที่เคยบอกว่าใจเป๋นั้น เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อสร้างพรรคให้แข็งแรงขึ้นและใหญ่ขึ้น

สุชาติยังกล่าวว่า ยังไม่ทราบถึงสัดส่วน 4 เก้าอี้รัฐมนตรีของพรรค รทสช. ว่าพรรคได้อะไร ตรงไหน เพียงแต่ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้

เมื่อถามอีกว่าประกาศรายชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรคแล้วไม่มีชื่อของท่าน ทำให้ผิดหวังจนต้องออกจากพรรคหรือไม่ สุชาติกล่าวว่า เราต้องยอมรับและต้องเคารพกติกา เราไม่ได้ยึดติดตรงนี้ เราแค่คิดว่าจะทำงานเพื่อให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินไปด้วยกันได้ และมีอุดมการณ์เดียวกัน

เมื่อถามย้ำว่าการพิจารณาเก้าอี้รัฐมนตรีภายในพรรคจะพิจารณาอย่างไร สุชาติกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้ ต้องรอดูความชัดเจนว่าเมื่อขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรีจบแล้ว ต้องรอให้ขั้นตอนต่อไปในเรื่องต่างๆ จบก่อน แล้วค่อยคิดถึงแนวทางของพรรคว่าจะเป็นไปในแนวทางแบบไหน อย่างไร รวมถึงโครงสร้างและมติของพรรคว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าวันนี้ได้อำลานายกรัฐมนตรีหรือไม่ สุชาติหัวเราะ พร้อมระบุว่า “แหม! จะอำลาอะไรกัน ผมก็อยู่กับนายกฯ อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเราจะจบกันตรงนี้ แล้วจะไปไหนท่านมีบุญคุณกับเรา เราก็ต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณกันอยู่แล้ว เรารู้ว่าใครคือคนที่ให้โอกาสเราในห้วงเวลาที่ผ่านมา”

The post สุชาติย้ำ ยังอยู่กับประยุทธ์ บุญคุณต้องตอบแทนไม่ใช่จบกันตรงนี้ ยอมรับมติพรรคหากไร้ชื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (17 สิงหาคม) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวลูกจ้างสาวรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก โดยนำภาพแชตที่คุยกับหัวหน้าที่ทำงาน กรณีขอลางานเนื่องจากแม่ป่วยหนักและใกล้จะเสียชีวิต แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ลางาน ว่า ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย 

เบื้องต้น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 34 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ได้กำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นได้ปีละไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลากิจเพื่อกิจธุระอันจำเป็นเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปีหนึ่งต้องไม่เกิน 3 วันทำงาน เนื่องจากการลากิจธุระอันจำเป็นเป็นสิทธิพื้นฐานที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดสิทธิให้ลูกจ้างทุกประเภทมีสิทธิลากิจได้ แม้จะเป็นลูกจ้างทดลองงาน ลูกจ้างรายวัน และลูกจ้างประเภทอื่น ย่อมได้รับความคุ้มครองตามมาตรฐานขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม สุชาติได้กำชับให้พนักงานตรวจแรงงานเร่งสอบข้อเท็จจริงจากนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป โดยกระทรวงแรงงานจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน

นิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา (สสค.นครราชสีมา) ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย หากลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำงาน สามารถปรึกษา ร้องทุกข์ และร้องเรียนได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร 10 พื้นที่ หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546

The post สุชาติ สั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานสอบข้อเท็จจริง ปมนายจ้างไม่ให้ลูกจ้างลาไปดูแลแม่ป่วยจนเสียชีวิต appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (15 สิงหาคม) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ สุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า การจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ขึ้นอยู่กับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้บริหารสูงสุดจะเป็นผู้พูดคุยถึงทิศทางการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้ตำแหน่งคณะรัฐมนตรี 4 ตำแหน่งนั้น คิดว่าเป็นการวิเคราะห์ของสื่อมวลชนมากกว่า โดยเอาจำนวน สส. ของพรรคหาร ซึ่งใช้สูตรเดียวกัน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกัน และไม่รู้ว่าได้กี่ตำแหน่ง ต้องรอผู้บริหารพรรคไปพูดคุย ขณะที่ตนเองจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต่อหรือไม่นั้นก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ และตรงนั้นยังพูดไม่ได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคเคยไปคุยมาแล้วได้มาแจ้งกับสมาชิกหรือไม่ว่าแนวทางเป็นอย่างไร สุชาติกล่าวว่า ตอนนั้นเป็นการพูดคุยกันคร่าวๆ ยังไม่ได้ลงลึกอะไรซึ่งรายละเอียด หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคต้องคุยรายละเอียดมากกว่านี้ เพราะผู้บริหารสูงสุดคือหัวหน้าและเลขาฯ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าน่าจะได้คุมกระทรวงแรงงานเหมือนเดิมหรือไม่ สุชาติกล่าวว่า ตรงนั้นยังไปพูดไม่ได้ มันเป็นเรื่องอนาคต ทุกอย่างอยู่ที่ผู้บริหารจะพูดคุยกัน 

เมื่อถามว่า ดูแนวโน้มจะสดใสหรือไม่ในการจัดตั้งรัฐบาล สุชาติกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าถ้าจะเดินทางไปข้างหน้าได้มันก็ต้องมีการพูดคุยกัน พรรคที่เป็นแกนนำก็ต้องมีการพูดคุยกันทุกพรรคอยู่แล้ว พรรคไหนที่ไปด้วยกันได้ก็ร่วมไป เพราะเป้าหมายคือประเทศชาติและประชาชน มันต้องเดินไปให้ได้แค่นั้นเอง ซึ่งนโยบายของเรามีแค่อย่างเดียวคือไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมคุยกันหรือไม่ว่าไม่ควรจะโหวตนายกฯ ก่อนที่จะคุยเรื่องโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี สุชาติกล่าวว่า เราไม่ได้คุยลึกขนาดนั้น วันนี้ทุกคนยังไม่รู้เลยว่าตกลงจะเป็นใคร ต้องรอหลังศาลฯ พิจารณา ตอนนี้ขอไปทีละสเต็ป 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ติดใจใช่หรือไม่หากเพื่อไทยจะเสนอใครมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ สุชาติกล่าวว่า ทางผู้บริหารพรรคบอกไปแล้วว่าเราติดเรื่องเดียว คือต้องไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112

The post สุชาติ โยนถาม พีระพันธุ์-เอกนัฏ ร่วมรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ ส่วนทิศทางโหวตนายกฯ รอหลังศาลฯ พิจารณา ขอไปทีละสเต็ป appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (8 สิงหาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวที่มีชื่อว่าจะย้ายไปอยู่พรรคอื่นว่า ตนยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เราทำงานการเมืองในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนเป็นทั้ง สส. และสมาชิกพรรค

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มีกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปร่วมรัฐบาล สุชาติกล่าวว่า มันมีสูตรคณิตศาสตร์เยอะ แต่เราไม่ได้เป็นคนคิดสูตร ซึ่งสูตรต่างๆ ที่นักวิชาการคิดและสื่อมวลชนคิด ก็คิดในทางออกของประเทศว่าสูตรไหนถึงจะตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งถือเป็นสิทธิที่นักวิชาการและสื่อมวลชนคิดได้ แต่ตนยืนยันว่ายังอยู่ตรงนี้ และทางออกของประเทศมันมีหลายสูตรอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะตกผลึกอย่างไร มันไม่ใช่อยู่ที่เราฝ่ายเดียว แต่อยู่ที่สภาทั้ง สส. และ สว. รวมถึงยังไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอย่างไร จะเดินซ้าย เดินขวา เดินตรง หรือเดินถอยหลัง ดังนั้นต้องอยู่เฉยๆ ก่อน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แต่ดูเหมือนว่าจะพุ่งเป้ามาที่ท่าน เพราะเคยระบุตอน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่าใจเป๋นั้น สุชาติกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะต้องยอมรับว่าการทำหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรี ถือว่าได้รับโอกาสจากนายกฯ เป็นอย่างสูง ซึ่งตอนทำงานก็รู้สึกผูกพันกับนายกฯ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากมติพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย จะทำตามหรือจะทิ้งพรรครวมไทยสร้างชาติไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย สุชาติกล่าวว่า ตนอยากให้สื่อมวลชนและประชาชนที่ติดตามการเมืองดูในวันที่ 16 สิงหาคมว่าศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไร และเงื่อนไขเป็นอย่างไร จะรับหรือไม่รับ หรือถ้าหากรับแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ มันต้องตอบทีละยก พรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมหรือไม่ร่วม มันตอบตรงนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้ยืนยันจากปากตนว่า ขอให้ประเทศชาติมีความเจริญและไปต่อได้เร็ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วจะมีความชัดเจนใช่หรือไม่ว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อ สุชาติกล่าวว่า ต้องดูว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยจะต้องมานั่งพูดคุยกันภายในพรรค

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วในใจของท่านคิดอย่างไร สุชาติกล่าวว่า ตนพูดจากใจว่าอยากให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ แค่เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่มีการร่วมกันแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล หุ้นก็เขียวทั้งกระดาน ตอนนี้จะต้องทำอย่างไรให้นักลงทุนและการท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้คนรู้สึกว่าประเทศไทยน่าท่องเที่ยวและน่าอยู่ ทั้งนี้ เรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างก็สามารถเห็นแตกต่างได้ แต่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ 

สุชาติกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมรัฐบาล แต่ตนอยากให้ตั้งรัฐบาลได้โดยเร็วเพราะเศรษฐกิจจะได้เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนตัวจะยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้มีเสียงเพียงพอและให้ประเทศเดินหน้าไปได้ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากจำเป็นต้องโหวตแคนดิเดตนายกฯ สวนมติพรรค เพื่อทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ก็จะทำใช่หรือไม่ สุชาติกล่าวว่า ถ้าโหวตตามมติพรรคแล้วทำให้ประเทศชาติเสียหายคุณจะทำหรือไม่ เราเป็นผู้แทนก็ต้องดูว่าถ้าพรรคเดินหน้าแล้วทำให้เกิดความขัดแย้งและเดินไม่ได้ก็ต้องมีการพูดคุยกันในพรรคเพื่อหาข้อตกผลึกกันให้ได้ ทั้งนี้ ร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมรัฐบาลไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยเดินไปได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้ปรึกษา พล.อ. ประยุทธ์ในช่วงที่บ้านเมืองมีรอยต่อหรือไม่ สุชาติกล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ได้วางมือทางการเมืองแล้ว ชีวิตพวกตนทำการเมืองเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อประชาชน พร้อมที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ แม้บางครั้งตัวเองไม่ได้รับประโยชน์อะไรก็รับได้ แต่จะต้องทำอย่างไรให้ลดความขัดแย้ง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น ทุกฝ่ายมีกองเชียร์ แต่ฝ่ายที่เห็นต่างจะต้องอยู่ภายใต้กรอบกติกา เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ถ้าเลือกตั้งแล้วจะบอกว่าต้องเป็นคนของฉัน มันไม่ใช่ มันอยู่ที่ว่าสุดท้ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าไม่ผิดคุณต้องยอมรับ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากอะไรถึงผู้ใหญ่และพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังม็อบหรือไม่ สุชาติกล่าวว่า คุณต้องนึกถึงประเทศชาติก่อน ถ้าคุณรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คุณต้องรู้ว่าคุณทำอะไรอยู่ คุณต้องรักประชาชนด้วย คุณรู้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตขนาดไหน คนที่ลำบากยังมีอยู่เยอะ ฝากความหวังกับคนที่มาท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้นักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเราไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่ก็อยากฝากบอกว่ามันไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ การที่ตนแสดงความคิดเห็นอย่างนี้ เราเคารพความคิดเห็นและการตัดสินใจของทุกคน การเลือกตั้งจะแพ้หรือจะชนะก็ว่ากันไปตามเสียงของประชาชน แต่การตั้งรัฐบาลอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและข้อบังคับต่างๆ ของสภา ถ้ายอมรับกติกา ยอมรับรัฐธรรมนูญไม่ได้ก็ไม่ควรเป็นคนไทย ตนขอพูดตรงๆ และขอพูดแรงๆ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ตัวแคนดิเดตนายกฯ มีผลต่อการตัดสินใจของท่านหรือไม่ สุชาติกล่าวว่า เราต้องยอมรับมติเสียงส่วนใหญ่ และเอกสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะโหวตและตรวจสอบใคร 

The post สุชาติยัน ยังอยู่รวมไทยสร้างชาติ ชี้โหวตนายกฯ รอหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย-มติพรรค พร้อมโหวตสวนใช้เอกสิทธิ์ตัวเอง หากทำให้ประเทศเดินหน้า appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (25 กรกฎาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทยวันนี้ว่า เราเพิ่งได้รับแจ้งจากเลขาธิการสภาว่าให้เลื่อนการประชุมโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ออกไปก่อน เนื่องจากเป็นไปตามประเด็นที่ทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทย จะไปเข้าอบรมปฐมนิเทศที่รัฐสภา ทั้งนี้ ตนได้เร่งให้ทุกคนได้ดำเนินการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน อย่าให้ขาดตกบกพร่องหรือมีประเด็นปัญหา เพราะไม่อยากไปเลือกตั้งซ่อม  

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ใจเป๋เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศวางมือนั้น พรรคภูมิใจไทยจะทาบทามมาร่วมงานกับพรรคหรือไม่ว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ก่อนถามสื่อกลับว่า ทำไมต้องใจเป๋ เพราะเป็นแกนนำหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมี ส.ส. ในสังกัดหลายคน พร้อมชื่นชมว่า เป็นรัฐมนตรีที่ทำงานดี ขยัน ส่วนสนใจหรือไม่นั้น อนุทินระบุว่า ยังไม่ได้คุย เอาตัวเองให้รอดก่อน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับรถยนต์ พร้อมเนื้อเพลง เจ้ากบ ของวงแกรนด์เอ็กซ์ สื่อนัยทางการเมืองหรือไม่ อย่างไรนั้น อนุทินปฏิเสธว่า ไม่ได้มีนัยอะไร เป็นแค่การเตือนตัวเองเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการสื่อไปถึงใคร เพราะพูดกับตัวเอง เหมือน ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ใครเป็นกบ อนุทินกล่าวว่า ผมนี่แหละครับ จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามให้อนุทินร้องเพลง เจ้ากบ ให้ฟัง เจ้าตัวได้ฮัมเพลง เห่เฮ้ เจ้ากบ อ๊บอ๊บ  พร้อมบอกว่า ขอให้สื่อไปฟัง เพลงนี้เพราะ เป็นเพลงของวงแกรนด์เอ็กซ์ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไร รถซีตรองเป็นรถของคุณพ่อที่ได้มา แล้วตนได้นำไปรีคอนเทชันใหม่ และหน้ามันเหมือนกบแค่นั้นเอง พอดีเป็นคนชอบรถเก่า ส่วนที่หลายคนตีความว่ามีนัยทางการเมือง อนุทินระบุว่า อย่าให้การเมืองนำความเป็นตัวของตัวเราไปเป็นอย่างอื่น ซึ่งตนก็เล่นเฟซบุ๊กของตัวเองมาตั้งนานแล้ว และตั้งเป็นส่วนตัว ให้แต่เพื่อนดูเท่านั้น

The post อนุทินแจง โพสต์เพลงเจ้ากบพูดถึงตัวเอง ไม่ได้สื่อถึงใคร เตือนลูกพรรคเช็กบัญชีทรัพย์สินให้ดี อย่าให้ขาดตกบกพร่อง ไม่อยากเลือกตั้งซ่อม appeared first on THE STANDARD.