สุขภาพดี – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 20 Nov 2025 08:47:55 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ออกแบบ ‘Longevity Lifestyle’ สมดุลสุขภาพดีรอบด้าน ที่ Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เชื่อว่า ‘Healthspan’ เริ่มต้นที่ตัวคุณเอง [Advertorial] https://thestandard.co/life/aestheta-clinic-wellness-aesthetic/ Fri, 21 Nov 2025 05:00:38 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1144570 Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic

มั่นใจว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของ ‘L […]

The post ออกแบบ ‘Longevity Lifestyle’ สมดุลสุขภาพดีรอบด้าน ที่ Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เชื่อว่า ‘Healthspan’ เริ่มต้นที่ตัวคุณเอง [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic

มั่นใจว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของ ‘Longevity’ ว่าไม่ใช่แค่การมีอายุยืนยาว แต่ต้องมี Healthspan หรือสุขภาวะกายใจที่ดี เพื่อมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ  

 

เมื่อภาพของ ‘ชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดีอย่างยั่งยืน’ ชัดเจน ทำให้คนเริ่มหันมาใส่ใจเรื่อง Longevity Lifestyle หรือการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้สุขภาพดีรอบด้านกันมากขึ้น เพราะถ้าการมีอายุยืนยาวหมายถึง การได้ใช้ชีวิตในแบบที่ชอบ อยู่กับคนที่เรารักให้นานขึ้น หรือสำหรับบางคนการมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรค ก็เพียงพอแล้ว

 

แต่นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับบางคน และก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสุขภาพที่ดีแม้จะปฏิบัติตามทุกอย่าง เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อสุขภาพของแต่ละบุคคลต่างกัน

 

‘Lifestyle Medicine’ เวชศาสตร์วิถีชีวิต หรือ การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ให้ความสำคัญกับ 6 เสาหลักสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพ ได้แก่ อาหาร การออกกำลังกาย การควบคุมความเครียด การนอน สังคม และสารที่เป็นอันตราย จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ Longevity Lifestyle

 

ทางเดียวที่จะพิสูจน์ว่าการดูแลร่างกายที่ผ่านมาของเราดีเพียงพอและถูกต้องหรือยัง คือ การตรวจวิเคราะห์สุขภาพเชิงลึกเฉพาะบุคคล THE STANDARD LIFE มีโอกาสแวะเข้าไปที่ ‘Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic’ ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่มุ่งเน้นการออกแบบสุขภาพเฉพาะบุคคลด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย ภายใต้การดูแลของคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย เวชศาสตร์ฟื้นฟู และเวชศาสตร์ป้องกัน อย่างใกล้ชิด

 

Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic

 

แม้จะออกแบบสถานที่ให้มีความหรูหรา พรีเมียม แต่บรรยากาศภายในกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น ผ่อนคลาย ที่สำคัญโปรแกรมต่างๆ รวมถึงแพ็คเกจตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคลก็เป็นราคาที่ใครก็เข้าถึงได้

 

ใครที่สนใจเรื่อง Longevity Lifestyle และอยากปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้มีชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดีอย่างยั่งยืน Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic ตอบโจทย์ เพราะเขามีบริการหลากหลายที่ช่วยดูแล Lifespan และ Healthspan แบบ One Stop Service ภายใต้แนวคิด ‘Aestheta for the Best of Longevity Lifestyle’

 

Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic

 

จุดเด่นของที่นี่ นอกจากจะมีการตรวจวิเคราะห์สุขภาพเชิงลึกเฉพาะบุคคล เพื่อให้คำแนะนำที่ตรงกับปัญหาของแต่ละบุคคลได้อย่างละเอียดแม่นยำแบบ ‘Personalized Medicine’ คุณหมอทุกคนจะให้ความสำคัญกับการพูดคุยเชิงลึก เพื่อค้นหาต้นตอของปัญหา และออกแบบไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมตามแกนของ Lifestyle Medicine เป็นการปรับโครงสร้างพื้นฐานการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน แล้วจึงออกแบบโปรแกรมหรือเลือกเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์ปัญหา เรียกได้ว่า 80% ต้องเริ่มจากการปรับไลฟ์สไตล์ และอีก 20% ที่เหลือ เป็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาในตอนเริ่มต้น

 

Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic

 

เรื่องความครบครันก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ตอบโจทย์คนเมืองที่มีเวลาน้อย ที่นี่รวมทุกเครื่องมือเทคโนโลยีไว้ครบจบในที่เดียว อาทิ ‘Visbody’ วิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายแบบเจาะลึก 360 องศา ด้วยเทคโนโลยี 3D ที่แม่นยำ ปลอดภัย สามารถตรวจวิเคราะห์ร่างกายครบทุกมิติ ตั้งแต่ ตรวจวัดกล้ามเนื้อ ไขมัน ปริมาณน้ำ ระบบเผาผลาญ ค่า BMI ประเมินท่าทางการยืน โครงสร้างร่างกาย องศาการเคลื่อนไหวของหัวไหล่  ไปจนถึงประเมินความเสี่ยงปัญหาสุขภาพในอนาคต

 

Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic

 

นอนน้อย ทำงานหนัก ใช้ชีวิตคุ้ม ไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ส่งผลให้ฮอร์โมนพัง เครียดเรื้อรัง และน้ำหนักตัวขึ้น โปรแกรม ‘Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT)’ เป็นการบำบัดร่างกายด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ลึกถึงระดับเซลล์ กระตุ้นฮอร์โมนการนอน ช่วยให้สมองผ่อนคลาย หลับสนิท ลดความเครียด

 

Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic

 

ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานของคนยุคนี้ที่ไม่ค่อยได้ขยับตัว ทำให้ปัญหาน้ำหนักตัวเกินพุ่งสูงในกลุ่มวัยทำงาน โปรแกรม ‘Cryotherapy’ นวัตกรรมกระตุ้นระบบเผาผลาญด้วยความเย็นติดลบ -110 องศา ให้ร่างกายดึงพลังงานจากไขมันสะสมมาใช้ทันที และยังช่วยบำบัดความเมื่อยล้าสะสม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการบาดเจ็บ เสริมสร้างความสดชื่น และฟื้นคืนพลังงานให้ร่างกาย

 

Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic

 

อีกหนึ่งโปรแกรมที่น่าสนใจคือ ‘Colon Hydrotherapy’ หรือที่เรียกว่า ‘Colon Detox’ เป็นการรีเซ็ตระบบในลำไส้แบบองค์รวม ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ให้ทำงานอย่างเป็นธรรมชาติ กระตุ้นการขับถ่ายอย่างปลอดภัย ลดอาการท้องอืด และปัญหาท้องผูก เรื้อรัง

 

Lifestyle Medicine ที่ Aestheta Clinic

 

ยังมีอีกหลายโปรแกรมที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพร่างกายแบบองค์รวม แต่อย่างที่บอกไป ใช่ว่าทุกโปรแกรมจะเหมาะและจำเป็นกับทุกคน จึงเป็นเหตุผลที่ Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic เน้นย้ำว่าควรเข้ามาพูดคุยและปรึกษากับคุณหมอก่อน เพื่อออกแบบ Longevity Lifestyle ที่เหมาะสม ให้คุณมีช่วงชีวิตที่ยืนยาวไปพร้อมกับการมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน

The post ออกแบบ ‘Longevity Lifestyle’ สมดุลสุขภาพดีรอบด้าน ที่ Aestheta Clinic Wellness & Aesthetic ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เชื่อว่า ‘Healthspan’ เริ่มต้นที่ตัวคุณเอง [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุขภาพดีไม่ได้สร้างแค่ในยิม แต่สร้างได้ระหว่างวันด้วย ‘NEAT’ https://thestandard.co/life/health-built-by-neat/ Sun, 16 Nov 2025 02:21:57 +0000 https://thestandard.co/?p=1143777 สุขภาพดีไม่ได้สร้างแค่ในยิม แต่สร้างได้ระหว่างวันด้วย ‘NEAT’

เราทุ่มเทเวลา 1-2 ชั่วโมงไปยิม ไปวิ่ง ไปเวต ซึ่งเป็นเรื […]

The post สุขภาพดีไม่ได้สร้างแค่ในยิม แต่สร้างได้ระหว่างวันด้วย ‘NEAT’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุขภาพดีไม่ได้สร้างแค่ในยิม แต่สร้างได้ระหว่างวันด้วย ‘NEAT’

เราทุ่มเทเวลา 1-2 ชั่วโมงไปยิม ไปวิ่ง ไปเวต ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยม ทว่าเราอาจเผลอมองข้ามจุดบอดในช่วงเวลาที่เหลือระหว่างวัน

 

ถ้าไลฟ์สไตล์ของคุณคือการนั่งแช่ที่โต๊ะทำงานเป็นประจำ ถึงเวลาของการเพิ่ม ‘NEAT’ ให้ตัวเองแล้วล่ะ

 

NEAT คืออะไร?

 

NEAT (Non-Exercise Activity Thermogenesis) คือ พลังงานที่ร่างกายใช้จากการขยับตัวในชีวิตประจำวันทุกอย่าง ที่ไม่ใช่การออกกำลังกายโดยตรง เช่น การเดินไปชงกาแฟ, การยืนคุยโทรศัพท์, การทำงานบ้าน หรือแม้แต่การบิดตัวยืดเส้น

 

ทำไม NEAT ถึงสำคัญกว่าแค่การแก้เมื่อย?

 

หลายคนอาจคิดว่า ผลเสียของการนั่งนานๆ คืออาการออฟฟิศซินโดรม แต่ความจริงคือ การนั่งแช่มันทำร้ายร่างกายเรามากกว่าที่คิด

 

1. กล้ามเนื้อหลับ (Muscle Inactivity)

 

การนั่งนานๆ โดยไม่ขยับ ก็เหมือนการปิดสวิตช์ การทำงานของกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างขาและก้นชั่วคราว ซึ่งเป็นเตาเผาพลังงานหลักของร่างกาย

 

2. ระบบเผาผลาญลดลง (Metabolism Drops)

 

เมื่อกล้ามเนื้อซึ่งเป็นเตาเผาหลักไม่ทำงาน การดึงน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานก็ลดลงตาม

 

3. ภาวะดื้ออินซูลินถามหา (Insulin Resistance)

 

เมื่อน้ำตาลในเลือดถูกดึงไปใช้น้อยลง เซลล์กล้ามเนื้อจะเริ่มเมินต่ออินซูลิน ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยยังชี้ชัดว่าการนั่งนานๆ คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิด การสะสมไขมันที่หน้าท้องหรือภาวะลงพุงอีกด้วย

 

ผลคือ ตับอ่อนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหลั่งอินซูลินเพิ่มในการคุมน้ำตาล และนี่คือประตูบานแรกที่เปิดไปสู่โรคเบาหวานประเภทที่ 2

 

ปลุกร่างกายด้วย NEAT ง่ายๆ วันนี้

 

ปรับมายด์เซ็ตใหม่ว่า ไม่ต้องรอให้ถึงชั่วโมงออกกำลังกาย เราก็สามารถขยับร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งนาฬิกาลุกทุกชั่วโมง, เดินไปคุยงานกับเพื่อนแทนการส่งแชท, หรือจะบอดี้เวตเบาๆ ระหว่างวันก็ยังได้

 

แล้วคุณจะสัมผัสได้ว่า สุขภาพดีไม่ได้สร้างกันที่ยิม 1-2 ชั่วโมง แต่สร้างได้จากการขยับเล็กๆ น้อยๆ ตลอดทั้ง 16 ชั่วโมงที่เราตื่น

 

อ้างอิง:

The post สุขภาพดีไม่ได้สร้างแค่ในยิม แต่สร้างได้ระหว่างวันด้วย ‘NEAT’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Cardi B ต้อนรับทายาทคนที่ 4 ของเธอ และคนแรกกับ Stefon Diggs https://thestandard.co/cardi-b-diggs-4th-child/ Fri, 14 Nov 2025 04:59:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1143259 Cardi B ต้อนรับทายาทคนที่ 4 ของเธอ และคนแรกกับ Stefon Diggs

แหล่งข่าวคอนเฟิร์มกับสื่อ People ว่า Cardi B คลอดลูกคนท […]

The post Cardi B ต้อนรับทายาทคนที่ 4 ของเธอ และคนแรกกับ Stefon Diggs appeared first on THE STANDARD.

]]>
Cardi B ต้อนรับทายาทคนที่ 4 ของเธอ และคนแรกกับ Stefon Diggs

แหล่งข่าวคอนเฟิร์มกับสื่อ People ว่า Cardi B คลอดลูกคนที่ 4 ที่นับเป็นลูกคนแรกของเธอกับ Stefon Diggs ซึ่งเธอก็สุขภาพดีและมีความสุขมาก โดยเธอเขียนข้อความถึงการก้าวสู่บทใหม่ของชีวิตทั้งในด้านการงานและชีวิตครอบครัวผ่าน Instagram ด้วยว่า “ชีวิตของฉันผสมผสานไปด้วยบทที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา บทล่าสุดในชีวิตของฉันคือการเข้าสู่ฤดูกาลใหม่”

 

“การเริ่มต้นใหม่ไม่เคยเป็นเรื่องที่ง่ายดาย แต่มันก็คุ้มค่าเหลือเกิน ฉันทำเพลงและอัลบั้มใหม่ออกมา และฉันก็พาลูกคนใหม่มาสู่โลกใบนี้ มันนำพาอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ฉันเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ให้ฉันรักตัวเองมากกว่าใครหรืออะไรทั้งหมดเพื่อที่ฉันจะได้มอบความรักและชีวิตให้กับลูกๆ ในแบบที่พวกเขาคู่ควรได้”

 

Cardi B เผยอีกว่า ก้าวต่อไปของเธอก็คือการต่อสู้กับตัวเองเพียงเท่านั้น เพราะเธอกำลังเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมสำหรับการทัวร์คอนเสิร์ตแม้จะเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน ซึ่งเธอก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้แสดงบนเวทีให้แฟนๆ ได้รับชมกัน โดยที่จริงแล้วทางด้าน Stefon Diggs นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลวัย 31 ปีได้ให้สัมภาษณ์เผยเพศลูกของเขากับ Cardi B ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเขาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เลี้ยงดูลูกชาย เขาเผยว่า

 

“เป็นเด็กผู้ชาย และนั่นก็พอแล้วสำหรับผม ผมอยากให้เขาวิดพื้น ซิตอัพ และวิ่งวุ่นไปทั่วจะแย่แล้ว”

 

ภาพ: Pierre Mouton/Getty Images for Balmain

อ้างอิง:

The post Cardi B ต้อนรับทายาทคนที่ 4 ของเธอ และคนแรกกับ Stefon Diggs appeared first on THE STANDARD.

]]>
Olivia Rodrigo ใช้เทคนิค “น้อยแต่มาก” ในการดูแลผิว https://thestandard.co/olivia-rodrigo-less-is-more-skincare/ Tue, 11 Nov 2025 03:19:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1141900 Olivia Rodrigo ใช้เทคนิค “น้อยแต่มาก” ในการดูแลผิว

Olivia Rodrigo ศิลปินสาววัย 22 ปี ผู้เป็นทั้งนักร้องและ […]

The post Olivia Rodrigo ใช้เทคนิค “น้อยแต่มาก” ในการดูแลผิว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Olivia Rodrigo ใช้เทคนิค “น้อยแต่มาก” ในการดูแลผิว

Olivia Rodrigo ศิลปินสาววัย 22 ปี ผู้เป็นทั้งนักร้องและนักแต่งเพลงรุ่นใหม่ที่โด่งดังระดับโลกจากอัลบั้ม SOUR และ GUTS นอกจากพลังเสียงและความมั่นใจบนเวที เธอยังมีแนวทางการดูแลผิวที่เรียบง่ายแต่มีปรัชญาลึกซึ้งในแบบ “น้อยแต่มาก” (Less is More) ซึ่งเธอเปิดเผยผ่านหลายสื่อว่า การดูแลผิวไม่ควรซับซ้อนเกินไป แต่ควรเข้าใจและฟังร่างกายของตัวเองให้มากขึ้น

 

Olivia เล่าว่าเธอเคยเจอปัญหาผิวอักเสบและระคายเคืองจากการลองใช้สกินแคร์หลายชนิดพร้อมกันในช่วงที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน จนค้นพบว่าความเรียบง่ายคือคำตอบ “I think less is more with skincare a lot of the time” เธอบอกกับสื่อ E! News อีกว่าเมื่อเริ่มลดขั้นตอนและเลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นจริง ๆ ผิวกลับแข็งแรงและดูสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน

 

นอกจากนี้เธอพูดยังถึงช่วงเวลาการดูแลผิวว่าเป็น “self-care moment” ที่ทำให้เธอได้อยู่กับตัวเองโดยไม่แตะโทรศัพท์ “มันไม่ใช่แค่สกินแคร์หรือเมกอัพ แต่มันคือช่วงเวลาที่เราได้ชาร์จพลังใจกลับมา” ซึ่งสะท้อนแนวคิดว่าความสวยของ Olivia ไม่ได้เกิดจากการแต่งเติมภายนอกเท่านั้น แต่คือการใช้เวลารับฟังร่างกายและใจอย่างอ่อนโยน ปัจจุบัน Olivia เป็น Global Ambassador ของแบรนด์ Lancôme และเธอก็ชื่นชอบหลายๆ ไอเท็มของ Lancôme ที่ช่วยเธอดูแลผิวได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

 

ภาพ: Courtesy of Lancôme

The post Olivia Rodrigo ใช้เทคนิค “น้อยแต่มาก” ในการดูแลผิว appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่คือ “ความมั่งคั่ง” ใหม่ของประเทศไทย https://thestandard.co/key-takeaway-health-the-new-wealth/ Thu, 06 Nov 2025 12:55:33 +0000 https://thestandard.co/?p=1140490

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เมื่อจำนวนผู้เสียช […]

The post สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่คือ “ความมั่งคั่ง” ใหม่ของประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตเริ่มมากกว่าเด็กเกิดใหม่ และคนไทยมีชีวิตที่ยืนยาวแต่ไม่แข็งแรง โลกหลังจากนี้จึงไม่ได้ตั้งคำถามแค่ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ถึงกี่ปี แต่ถามว่า “เราจะมีชีวิตดีได้อีกกี่ปี?”

 

หมอแอมป์-นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร BDMS Wellness Clinic และ BDMS Wellness Resort ได้ชักชวนให้ผู้ฟังคิดตามว่า ‘สุขภาพดี’ เป็นไปได้มากกว่าแค่เรื่องส่วนตัว แต่สามารถเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจได้ด้วย บนเวที ‘The Wellness Frontier: Redefining Health, Wealth and the Future of Thailand’ ภายในงาน The Standard Economic Forum 2025

 

วิกฤตสุขภาพที่ซ่อนอยู่ในโครงสร้างประชากร

 

ไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด ภายในปี 2576 เมื่อคนอายุเกิน 60 ปีจะมีสัดส่วนมากกว่า 28% ของประชากรทั้งประเทศ
ในขณะที่ปี 2567 อัตราเด็กเกิดใหม่ลดต่ำสุดในรอบ 75 ปี เหลือเพียง 462,000 คน แต่กลับมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 570,000 คน ผลลัพธ์คือจำนวนประชากรไทยติดลบเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน

 

และแม้คนไทยจะมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 77 ปี แต่อายุที่สุขภาพยังดีจริงมีเพียงราว 67 ปีเท่านั้น นั่นหมายความว่าคนไทยใช้เวลาราวหนึ่งทศวรรษสุดท้ายของชีวิตอยู่กับโรคเรื้อรัง ตั้งแต่เบาหวาน ความดัน ไปจนถึงโรคหัวใจ ซึ่งทั้งหมดคือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่คร่าชีวิตคนไทยกว่า 380,000 คนต่อปี เฉลี่ย 44 คนต่อชั่วโมง

 

เมื่อสุขภาพกลายเป็นเศรษฐกิจ

 

“สุขภาพดีแค่ไหนถึงจะทำให้ประเทศมั่งคั่งได้?”

 

ข้อมูลจาก Global Wellness Institute (GWI) ชี้ว่าในปี 2566 มูลค่าเศรษฐกิจเวลเนสทั่วโลกสูงถึง 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะพุ่งทะยานเป็น 8.9 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ภายในปี 2571 เติบโตเฉลี่ยปีละ 7.3% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของ GDP โลก (4.8%) อย่างชัดเจน

 

แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความมั่งคั่งของชาติในอนาคตอาจไม่ได้วัดกันที่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อีกต่อไป แต่จะวัดกันที่สุขภาวะมวลรวมของประชากร (Gross Wellness of People) การมีพลเมืองที่สุขภาพดี มีผลิตภาพสูง และไม่ต้องใช้ทรัพยากรทางการแพทย์เกินจำเป็น

 

ศักยภาพเวลเนสไทย: จุดแข็งที่โลกจับตา

 

ในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ไทยคือหนึ่งในดาวรุ่งของเศรษฐกิจสุขภาพ มูลค่าตลาดเวลเนสของไทยล่าสุดแตะ 40.5 พันล้านดอลลาร์ฯ เติบโตถึง 28.4% ในปีเดียวโดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่ขยายตัวกว่า 119.5% ครองอันดับ 2 ของโลก รองจากจีนเท่านั้น

 

เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ Wellness Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบและเป็นเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยนี้

 

  • อาหารไทยเพื่อสุขภาพที่ผู้บริโภคยินดีจ่ายแพงขึ้น 10–20% เพื่อเกษตรอินทรีย์
  • สมุนไพรไทย ที่ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ในอาเซียน มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท
  • การแพทย์แผนไทยทางการแพทย์ ที่ผสานภูมิปัญญาโบราณเข้ากับเทคโนโลยีทันสมัย เช่น MRI และ Shockwave Therapy

 

ขณะเดียวกัน มิติของสุขภาวะจิตวิญญาณก็สำคัญ งานวิจัยยืนยันว่าการฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอสามารถลดระดับฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) ได้ถึง 25–30% สะท้อนว่า “สุขภาวะ” ไม่ได้หมายถึงร่างกายเท่านั้น แต่รวมถึงสมดุลของใจด้วย

 

แนวคิดสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การดูแลสุขภาพในฐานะปัจเจกบุคคล แต่คือการมองสุขภาพในฐานะทุนทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

ดังที่ดร. ตนุพล ได้กล่าวว่า เมื่อคนมีร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่มั่นคง และจิตวิญญาณที่ตั้งมั่นในคุณค่า ประเทศก็จะมีพลเมืองที่พร้อมสร้างอนาคตใหม่ไปด้วยกัน เราจะไม่เพียงเป็นคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังเป็น ‘ฟันเฟืองเศรษฐกิจ’ ที่มีศักยภาพสร้างพลังการผลิตและนวัตกรรมใหม่ให้สังคมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

 

รัฐอาจมีบทบาทในการช่วยสนับสนุน Wellness Ecosystem ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ลืมตาอ้าปาก เพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด สูงถึง 119.5% และครองอันดับสองในภูมิภาค โดยจะกลายเป็น ‘ฟันเฟืองเศรษฐกิจ’ ที่ทรงพลังที่สุด เพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้ประเทศไทยในพรมแดนเวลเนสโลก

The post สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่คือ “ความมั่งคั่ง” ใหม่ของประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ถอดมายด์เซ็ต Scarlett Johansson “สวยสุขภาพดี ต้องมีวินัยและบาลานซ์” https://thestandard.co/life/scarlett-johansson-health-balance/ Sat, 05 Jul 2025 00:00:43 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1093049 scarlett-johansson-health-balance

Scarlett Johansson พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการดูแลสุขภาพแบ […]

The post ถอดมายด์เซ็ต Scarlett Johansson “สวยสุขภาพดี ต้องมีวินัยและบาลานซ์” appeared first on THE STANDARD.

]]>
scarlett-johansson-health-balance

Scarlett Johansson พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมันไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น ถ้าเรารู้จักหา “บาลานซ์” ที่ใช่ของตัวเอง และหัวใจสำคัญอยู่ที่ “วินัย” ล้วนๆ โดยเธอเปิดเผยใน Eat This, Not That ว่าเธอให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบ 360 องศา ทั้งร่างกายและจิตใจ สุขภาพดีที่แท้จริงมันไม่ได้วัดกันแค่ตัวเลขบนตาชั่ง หรือรูปร่างที่เป๊ะปัง แต่คือความรู้สึก “ดีจากข้างใน” ที่มันเปล่งประกายออกมาต่างหาก

 

อย่างแรกคือการปรับสมดุลอย่างมีวินัย ไม่ได้แปลว่าต้องเข้มงวดกับตัวเองจนทรมาน แต่เธอเลือกที่จะเน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ (เน้นกินผักผลไม้หลากสี) ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่พอเหมาะ แนวคิดนี้มันตรงข้ามกับเทรนด์ลดน้ำหนักสุดโหด หรือการออกกำลังกายแบบหักโหมที่เราเห็นกันบ่อยๆ ในฟีด การรักษาสมดุลหมายถึงการที่เราต้องให้ความยืดหยุ่นกับตัวเองบ้าง อนุญาตให้ตัวเองได้เอนจอยกับอาหารที่ชอบในบางโอกาส แต่ก็ยังคงมีวินัยในการเลือกสิ่งดีๆ ให้กับร่างกายเป็นหลัก

 

เรื่องอาหารการกินของ Scarlett Johansson มีหลักการที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดีเกินคาด. เธอเน้นกินอาหารที่สดใหม่และมีประโยชน์ เธอชอบอาหารที่ปรุงเองที่บ้านมากๆ และพยายามจะหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปให้ได้มากที่สุด การทำอาหารเองที่บ้านมันมีข้อดีคือสามารถควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบได้เต็มที่ ลดปริมาณสารเคมีและสารกันบูดที่มักเจอในอาหารแปรรูปได้ด้วย แถมยังสร้างความผูกพันกับอาหารที่เรากินอีกด้วย

 

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งเป็นพื้นฐานของสุขภาพดีที่หลายคนมักจะมองข้ามไปเลย น้ำไม่เพียงช่วยในการขับถ่ายนะ แต่ยังช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง และระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติด้วยนะ แม้จะไม่ได้เจาะจงชนิดอาหารแบบละเอียดยิบ แต่โดยหลักการแล้ว อาหารที่เธอเน้นคืออาหารที่มาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านการแปรรูปมากนัก เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีนไม่ติดมัน และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งเป็นพื้นฐานของการกินเพื่อสุขภาพที่ดีแบบไม่มีข้อสงสัยเลย.

 

นอกจากนี้ยังเน้นการออกกำลังกาย ไม่ใช่แค่เบิร์นแคลอรี่ แต่ช่วยฮีลใจด้วย สำหรับ Scarlett Johansson การออกกำลังกายคือพาร์ทสำคัญในชีวิต เธอเชื่อว่าการออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ลดความเครียดได้เป็นอย่างดีเลยแหละ การออกกำลังกายมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนความสุข (เอ็นดอร์ฟิน) ที่ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น ลดความวิตกกังวล และเพิ่มความมั่นใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้เรามีพลังงานล้นเหลือ พร้อมลุยทุกกิจกรรมตลอดวัน

 

สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นจากแนวทางของ Scarlett Johansson คือการที่เธอเข้าใจดีว่าสุขภาพจิตมันโคตรสำคัญไม่แพ้สุขภาพกายเลยนะ เธออาจจะใช้เวลาทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด เช่น การใช้เวลากับคนที่รัก การทำสมาธิ หรือการทำกิจกรรมที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ การดูแลสุขภาพจิตมันไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่มันคือความจำเป็นต่างหาก ความเครียดที่สะสมสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้มหาศาล ตั้งแต่การนอนไม่หลับ ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ไปจนถึงโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดได้เลย

 

ในช่วงเวลาที่ตารางงานยุ่งเหยิงและกดดันสุดๆ Scarlett Johansson ก็ยังแสดงให้เห็นว่าแม้จะต้องทำงานหนักแค่ไหน มีตารางงานแน่นเอี๊ยด แต่เธอก็ยังคงพยายามรักษาวินัยในการดูแลสุขภาพอย่างไม่ลดละ วินัยต้องมาก่อน เธออาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกาย หรือการกินให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ยังคงโฟกัสที่การรักษาสมดุล และดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่คือการแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่สำคัญนะ. เมื่อชีวิตมันไม่เป็นไปตามแผน เราก็ไม่ควรยอมแพ้การดูแลตัวเองไปซะหมด แต่ควรปรับแผนให้มันเข้ากับสถานการณ์จริง นอกจากการดูแลสุขภาพกายและใจแล้ว เธอยังให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณเป็นอย่างดี เธอใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ The Outset ของตัวเองในการดูแลผิวพรรณให้สุขภาพดีอยู่เสมอ การใช้สกินแคร์ที่ดีต่อผิวไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวดูสดใส แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองแบบองค์รวมที่ช่วยเสริมความมั่นใจและความรู้สึกดีต่อตัวเอง 

 

ภาพ: The Outset/ IG

The post ถอดมายด์เซ็ต Scarlett Johansson “สวยสุขภาพดี ต้องมีวินัยและบาลานซ์” appeared first on THE STANDARD.

]]>
จัดบ้านยังไงให้มีชีวิต Wellness แบบคนขี้เกียจ! https://thestandard.co/life/wellness-home-for-lazy/ Wed, 25 Jun 2025 07:19:27 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1088945 ผู้หญิงกำลังจัดของใส่กล่องบริจาค เพื่อจัดบ้านให้โล่งสะอาด

จัดบ้านยังไงให้มีชีวิต Wellness แบบคนขี้เกียจ!   เ […]

The post จัดบ้านยังไงให้มีชีวิต Wellness แบบคนขี้เกียจ! appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้หญิงกำลังจัดของใส่กล่องบริจาค เพื่อจัดบ้านให้โล่งสะอาด

จัดบ้านยังไงให้มีชีวิต Wellness แบบคนขี้เกียจ!

 

เคยไหมคะที่รู้สึกว่าชีวิต Wellness ดูเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกาย เตรียมอาหารคลีนหลายขั้นตอน หรือต้องไปเข้าคอร์ส ฟังแล้วหลายคนก็อาจจะรู้สึกเหนื่อย แต่จริงๆ แล้ว การมีชีวิตที่ดีขึ้น สุขภาพกายใจแข็งแรงขึ้น ไม่ได้ต้องใช้ความพยายามมากมายขนาดนั้นเลยค่ะ วันนี้เราจะชวนคุณมารู้จักกับ Effortless Well-being หรือ สุขภาวะแบบไม่ใช้ความพยายาม แนวคิดที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและใจให้ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ

 

Effortless Well-being คือ การผสานรวมกิจกรรมดีๆ ที่ส่งเสริมสุขภาวะเข้าไปในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น เป็นธรรมชาติ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการฝืนหรือต้องใช้ความพยายามอย่างมหาศาล ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนในการดูแลตัวเองในระยะยาว 

 

ซึ่งเราสามารถค้นพบกับ Effortless Well-being ได้ง่ายๆ เพียงแค่เราจัดบ้าน เพราะบ้านคือพื้นที่ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด การทำให้บ้านเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อสุขภาวะที่ดี จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ ‘Effortless’ ที่สุดอย่างหนึ่ง ไม่ต้องรื้อบ้านใหม่ ไม่ต้องซื้อของแพง แค่ปรับเปลี่ยนบางจุดเล็กๆ น้อยๆ ก็สร้างความแตกต่างได้มหาศาลแล้ว

 

วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำวิธีการจัดบ้านยังไงให้มีชีวิต Wellness แบบคนขี้เกียจ

 

 

เริ่มต้นด้วยการเคลียร์สิ่งที่ไม่จำเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

ความรกเป็นต้นเหตุของความเครียดเล็กๆ ที่สะสม การเคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออกไปจะช่วยให้บ้านสะอาดตาขึ้น และลดภาระการทำความสะอาดลงได้ อันที่จริงไม่ต้องตั้งเป้าหมายใหญ่ว่าจะเคลียร์ทั้งบ้านให้เสร็จในวันเดียว! ลองใช้กฎ ‘วันละชิ้น’ หรือ ‘สัปดาห์ละ 5 ชิ้น’ ก็ได้ แค่หยิบของที่ไม่ใช้แล้ว เสียแล้ว หรือเกินความจำเป็นออกไปทีละนิด หรือตั้งกล่องสำหรับ “บริจาค/ทิ้ง” ไว้มุมหนึ่ง แล้วค่อยๆ ทยอยใส่ลงไป เมื่อเต็มแล้วก็นำไปจัดการ แค่นี้ก็ช่วยลดความรกได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลย

 

 

 

เพิ่มสีเขียวเข้ามาในบ้านแบบไม่ต้องเป็นคนรักต้นไม้

ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ เพิ่มความสดชื่น และมีผลวิจัยชี้ว่าการได้อยู่ใกล้ธรรมชาติช่วยลดความเครียดได้ การมีต้นไม้ในบ้านจะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความสงบ และเราไม่ต้องเลือกต้นไม้ที่ดูแลยาก! เริ่มจากต้นไม้ที่ไม่ต้องรดน้ำบ่อย หรือทนทาน เช่น ลิ้นมังกร ต้นยางอินเดีย วางไว้แค่สักมุมในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือบนโต๊ะทำงาน ก็ช่วยเติมเต็มความรู้สึกผ่อนคลายได้แล้ว

 

 

จัดมุมผ่อนคลายเล็กๆ

การมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนที่เฉพาะเจาะจง จะช่วยให้จิตใจเราได้รับสัญญาณว่า นี่คือเวลาพัก และช่วยให้เราผ่อนคลายได้ง่ายขึ้น ซึ่งไม่ต้องจัดห้องใหม่ทั้งห้อง แค่เลือกมุมเล็กๆ ในบ้านที่คุณรู้สึกสบายที่สุด อาจจะเป็นริมหน้าต่าง หรือมุมห้องที่เงียบสงบ แล้วเพิ่มหมอนอิงนุ่มๆ ผ้าห่มผืนโปรด วางหนังสือดีๆ สักเล่ม แค่นี้คุณก็ได้มุมชาร์จพลังงานส่วนตัวแล้ว

 

 

แสงสว่างและการระบายอากาศ

แสงธรรมชาติและอากาศที่ถ่ายเทดีส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์และสุขภาพ แสงแดดยามเช้าช่วยกระตุ้นการตื่นตัว ส่วนอากาศบริสุทธิ์ช่วยลดเชื้อโรคและกลิ่นอับ เราควรเปิดม่านรับแสงแดดยามเช้า หรือเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวกในวันที่อากาศดีๆ อาจจะติดพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำหรือห้องครัว เพื่อช่วยระบายอากาศเสีย แค่นี้ก็เป็นการดูแลสุขภาพแบบ Effortless ที่ดีเยี่ยมแล้ว

 

 

สร้างรูทีนการจัดเก็บของ

การมีที่จัดเก็บที่ชัดเจนจะช่วยลดความวุ่นวายและลดเวลาในการหาของ เมื่อทุกอย่างมีที่ของมัน เราก็จะจัดเก็บได้โดยไม่ต้องใช้สมองคิดมาก แนะนำให้ซื้อตะกร้า กล่อง หรือลิ้นชักที่ใช้งานง่าย มาจัดหมวดหมู่สิ่งของ เช่น ตะกร้าสำหรับเสื้อผ้าใช้แล้ว หรือ กล่องสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อใช้เสร็จแล้วก็แค่เก็บเข้าที่ในกล่องหรือตะกร้าที่กำหนดไว้ แค่นี้ก็ช่วยให้บ้านเป็นระเบียบได้โดยไม่ต้องพับหรือจัดเรียงอย่างสมบูรณ์แบบเสมอไป

 

ภาพ: Shutterstock

The post จัดบ้านยังไงให้มีชีวิต Wellness แบบคนขี้เกียจ! appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้จักปรัชญา Hara Hachi Bu มีสุขภาพดีและอายุยืนแบบชาวโอกินาวา ‘กินอิ่มแค่ 80% พอ’ https://thestandard.co/life/hara-hachi-bu-longevity-secret/ Sun, 15 Jun 2025 02:33:19 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1085178 ภาพผู้สูงอายุชาวโอกินาวากำลังกินอาหารอย่างมีความสุขบนโต๊ะอาหารแบบญี่ปุ่น พร้อมคำว่า Hara Hachi Bu กินอิ่มแค่ 80%

ทุกวันนี้เราต่างมองหาวิถีชีวิตที่จะส่งผลให้ชีวิตของเราย […]

The post รู้จักปรัชญา Hara Hachi Bu มีสุขภาพดีและอายุยืนแบบชาวโอกินาวา ‘กินอิ่มแค่ 80% พอ’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ภาพผู้สูงอายุชาวโอกินาวากำลังกินอาหารอย่างมีความสุขบนโต๊ะอาหารแบบญี่ปุ่น พร้อมคำว่า Hara Hachi Bu กินอิ่มแค่ 80%

ทุกวันนี้เราต่างมองหาวิถีชีวิตที่จะส่งผลให้ชีวิตของเรายืนยาวอย่างมีคุณภาพดีมากขึ้น ‘กฎ 80%’ หรือ ‘Hara Hachi Bu’ (ฮารา ฮาจิ บุ) ซึ่งเป็นปรัชญาการกินของชาวโอกินาวา จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน Blue Zone หรือพื้นที่ที่ประชากรมีอายุยืนยาวที่สุดในโลก จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ปรัชญานี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการลดปริมาณอาหาร แต่เป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการรับฟังร่างกายและการสร้างสมดุลในการกินเพื่ออยู่อย่างแท้จริง

 

THE STANDARD LIFE จึงขอพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับปรัชญา Hara Hachi Bu ว่ามันคืออะไร และทำอย่างไร? ว่าแต่คุณล่ะ พร้อมที่จะลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคุณแล้วหรือยัง?

 

‘Hara Hachi Bu’ (ฮารา ฮาจิ บุ) คืออะไร?

 

Hara Hachi Bu  เป็นคำกล่าวของชาวโอกินาวาที่มีความหมายว่า กินให้อิ่มแค่ 80% ของความจุของท้อง หรือหยุดกินเมื่อรู้สึกอิ่มประมาณ 80% ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่ชาวโอกินาวายึดถือมาอย่างยาวนานและส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขาเชื่อว่าการกินไม่ให้อิ่มจนเกินไป จะช่วยรักษาสุขภาพที่ดี และส่งผลให้มีชีวิตที่ยืนยาวได้นั่นเอง

 

ทำไมต้อง 80%?

 

แนวคิดเบื้องหลังกฎ 80% นี้ไม่ได้คิดขึ้นมาลอยๆ นะ แต่มันตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำงานของระบบย่อยอาหารและสัญญาณความอิ่มของร่างกายอย่างมีเหตุผลรองรับ

 

  • ป้องกันการกินมากเกินไป เมื่อเรากินจนอิ่มเต็มที่หรือจุก ร่างกายจะได้รับแคลอรีเกินความจำเป็น ซึ่งนำไปสู่การสะสมไขมัน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ให้เวลากระเพาะอาหารและสมองสื่อสารกัน สมองของเราใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีในการรับรู้ว่ากระเพาะอาหารเริ่มอิ่ม การกินเร็วเกินไปหรือกินจนเต็มที่โดยไม่รอสัญญาณจากสมอง มักจะทำให้เรากินมากกว่าที่ร่างกายต้องการ
  • ลดภาระของระบบย่อยอาหาร การกินในปริมาณที่พอเหมาะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่

 

ประโยชน์ของการกินแบบ Hara Hachi Bu

 

  • ควบคุมน้ำหนัก เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการน้ำหนักตัว เพราะช่วยลดการบริโภคแคลอรีส่วนเกิน
  • สุขภาพดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคอ้วน เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ และบางชนิดของโรคมะเร็ง
  • เพิ่มพลังงาน เมื่อระบบย่อยอาหารไม่ทำงานหนักเกินไป ร่างกายจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังงานมากขึ้น และไม่ง่วงเหงาหาวนอนหลังมื้ออาหาร
  • ยืดอายุขัย มีงานวิจัยจำนวนมากที่ชี้ให้เห็นว่า การจำกัดปริมาณแคลอรี (Calorie Restriction) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรัชญานี้ มีความเชื่อมโยงกับการมีอายุที่ยืนยาวขึ้นในสัตว์ทดลอง และสอดคล้องกับพฤติกรรมการกินของประชากรที่มีอายุยืนยาวใน Blue Zone

 

วิธีฝึก Hara Hachi Bu ในชีวิตประจำวัน

 

  1. กินช้าๆ และตั้งใจ ใช้เวลาในการเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพลิดเพลินกับรสชาติและเนื้อสัมผัสของอาหาร การกินช้าๆ จะช่วยให้สมองมีเวลาพอที่จะรับรู้สัญญาณความอิ่ม
  2. ฟังเสียงร่างกาย แทนที่จะกินตามเวลา หรือกินตามปริมาณที่กำหนด ลองสังเกตสัญญาณความอิ่มของตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าท้องเริ่มอิ่มขึ้นประมาณ 80% ก็ให้หยุดทันที
  3. ใช้จานขนาดเล็กลง การใช้จานที่มีขนาดเล็กลงจะช่วยให้ดูเหมือนว่าอาหารมีปริมาณเยอะขึ้น ซึ่งส่งผลต่อจิตวิทยาการกิน และช่วยควบคุมปริมาณอาหารได้
  4. ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร การดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนมื้ออาหารประมาณ 15-20 นาที สามารถช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและลดปริมาณการกินได้
  5. หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน ขณะกินอาหาร ควรงดการดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์ หรือทำงาน เพราะจะทำให้เรากินไปโดยไม่รู้ตัว

The post รู้จักปรัชญา Hara Hachi Bu มีสุขภาพดีและอายุยืนแบบชาวโอกินาวา ‘กินอิ่มแค่ 80% พอ’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทำอย่างไรให้ Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องไม่ไกลตัว เกิดขึ้นได้สม่ำเสมอแบบ EVRYDAY [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/healthy-lifestyle-everyday/ Thu, 05 Jun 2025 01:20:53 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1081946 healthy-lifestyle-everyday

‘Wellness’ คำคำนี้มีให้เห็นอยู่รอบตัวและทุกวัน สำหรับใค […]

The post ทำอย่างไรให้ Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องไม่ไกลตัว เกิดขึ้นได้สม่ำเสมอแบบ EVRYDAY [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
healthy-lifestyle-everyday

‘Wellness’ คำคำนี้มีให้เห็นอยู่รอบตัวและทุกวัน สำหรับใครหลายคนคือชีวิต แต่สำหรับบางคนอาจดูไกลตัวเกินไป ทั้งตารางชีวิตที่แน่นจนไม่มีเวลาคิดถึงอาหารเช้า หรือช่วงค่ำที่เหนื่อยเกินกว่าจะออกกำลังกาย คำว่า ‘ดูแลตัวเอง’ กลายเป็นสิ่งที่ต้องรอ

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวสำหรับเรา พฤติกรรมเล็กๆ ของเรา ก็สามารถกลายเป็น Wellness ในแบบของตัวเองได้ทุกวันแบบ EVRYDAY

 

Self-Care ทำได้โดยไม่ต้องรอว่าง

 

ในโลกที่เร่งรีบ การดูแลตัวเองไม่ควรเป็นภารกิจพิเศษที่ต้องรอให้พร้อมก่อนจึงจะทำได้ แต่ควรเป็นสิ่งที่แทรกอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน หรือไม่มีเวลาแค่ไหน

 

Self-Care ที่ดีไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะหรือเวลาเยอะ แต่คือการไม่ลืมตัวเอง แม้ในวันที่ทุกอย่างดูรีบเร่ง เหมือนการนอนให้พอในคืนหนึ่ง การหยุดพักสายตาจากหน้าจอระหว่างวัน หรือการเลือกอาหารที่ดีต่อร่างกายโดยไม่กดดันตัวเองมากเกินไป

 

 

Wellness ที่ดีต้องเข้าใจตัวเองและเกิดจากความตั้งใจ

 

‘กินคลีนทุกมื้อ ออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์’ Self-Care แบบนี้ฟังดูยากมากๆ แต่ในชีวิตจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป

 

Wellness ที่แท้จริงไม่ควรมากับความรู้สึกผิดหรือแรงกดดัน แต่ควรมาพร้อมความเข้าใจตัวเอง และความตั้งใจจะกลับมาดูแลตัวเองใหม่ได้ทุกวัน แม้ว่าวันก่อนจะพลาดไปบ้างก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือเรายังเลือกดูแลตัวเองอยู่

 

สุขภาพดีไม่ใช่เป้าหมาย แต่คือกระบวนการ

 

สุขภาพดีไม่ใช่ปลายทางที่ต้องวิ่งไปให้ถึง แต่คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นจากพฤติกรรมเล็กๆ ที่ทำซ้ำได้ทุกวัน ยิ่งสิ่งนั้นเรียบง่ายและเหมาะกับชีวิตจริงของเรามากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทำได้ต่อเนื่องมากขึ้นเท่านั้น

 

และเมื่อเราทำซ้ำพฤติกรรมเล็กๆ เหล่านั้น มันจะกลายเป็น ‘ระบบดูแลตัวเอง’ ที่ติดตัวเราไปในทุกวัน โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายเหมือนตอนเริ่มต้น

 

EVRYDAY กับความเชื่อว่าสุขภาพเกิดขึ้นได้จากสิ่งเล็กๆ

 

เมื่อแนวคิด wellness ที่ยั่งยืนคือสิ่งที่เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ และทำได้ทุกวัน ‘EVRYDAY’ จึงเป็นแบรนด์หนึ่งที่ก่อตั้งขึ้นจากความเชื่อนั้นของ แพรว-จิรวดี สายะเสวี และ ทัฬห์ โกสิยพงษ์ 2 ผู้ก่อตั้ง EVRYDAY ที่ต้องการให้สุขภาพดีเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้จริง

EVRYDAY ได้ออกแบบ ‘Daily Self-Care Vitamin Pack’ วิตามินรวมที่จัดมาในซองพกพา พร้อมใช้งาน ไม่ต้องจัดเอง ไม่ต้องเปิดหลายกระปุก และไม่ต้องกังวลว่าจะลืม นอกจากความสะดวกแล้ว สิ่งนี้ยังช่วยให้การดูแลตัวเองกลายเป็นนิสัยที่ทำได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องฝืน

 

วิธีทำให้ Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องง่ายในชีวิตประจำวัน

 

EVRYDAY ไม่ได้เน้นแค่สุขภาพภายนอก แต่ให้ความสำคัญกับระบบภายในที่ส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวอย่าง ‘After Meal Probiotics 20 Billion CFU’ ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เสริมระบบย่อยอาหาร ลดอาการแน่นท้อง และยังมีผลต่ออารมณ์และภูมิคุ้มกันด้วย เพราะลำไส้ถือเป็นสมองที่สองของร่างกาย

 

วิธีทำให้ Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องง่ายในชีวิตประจำวัน

 

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คือ ‘Night Routine’ ที่ช่วยให้หลับลึกอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่นอนหลับไม่สนิท พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตมากกว่าที่คิด

 

วิธีทำให้ Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องง่ายในชีวิตประจำวัน

 

ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบให้ใช้ง่าย ทำได้จริง และสอดคล้องกับชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตทั้งหมด

 

Wellness ไม่ใช่สิ่งหรูหรา แต่ทุกคนมีได้

 

ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อ True Well-Being ที่เริ่มจากการใส่ใจตัวเองแบบจริงจัง ไม่ต้องสุดโต่ง และไม่ต้องรอให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนก่อน เพียงคุณยังเลือกทำสิ่งเล็กๆ คุณก็ได้เริ่มดูแลตัวเองแล้วในแบบที่ไม่กดดัน

 

วิธีทำให้ Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องง่ายในชีวิตประจำวัน

 

ดั่งความเชื่อของ EVRYDAY ว่า “Wellness is not a luxury. It’s a way of honoring your body, your pace, and your future.” เรื่องของ Wellness ไม่ใช่เรื่องหรูหรา แต่เป็นหนทางในการให้เกียรติร่างกาย จังหวะชีวิต และอนาคตของคุณ

 

แค่คุณยังไม่ลืมตัวเองในวันนี้ นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ Wellness ที่ยั่งยืนแล้ว

 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

The post ทำอย่างไรให้ Wellness และ Self-Care เป็นเรื่องไม่ไกลตัว เกิดขึ้นได้สม่ำเสมอแบบ EVRYDAY [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ถอดสูตร ‘HArmonyCa™’ นวัตกรรมเสริมคอลลาเจนให้ผิวรูปแบบฉีด ทางเลือกสำหรับคนที่อยากมีผิวแน่นกระชับ ดูสุขภาพดี [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/harmonyca-collagen-boost/ Tue, 01 Apr 2025 08:30:15 +0000 https://thestandard.co/?p=1053748 harmonyca-collagen-boost

ในโลกธุรกิจการผนึกกำลังระหว่างแบรนด์นับเป็นการลงทุนที่ค […]

The post ถอดสูตร ‘HArmonyCa™’ นวัตกรรมเสริมคอลลาเจนให้ผิวรูปแบบฉีด ทางเลือกสำหรับคนที่อยากมีผิวแน่นกระชับ ดูสุขภาพดี [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
harmonyca-collagen-boost

ในโลกธุรกิจการผนึกกำลังระหว่างแบรนด์นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะไม่เพียงสร้างโอกาสใหม่ๆ แต่ความเชี่ยวชาญที่ต่างกันย่อมนำไปสู่การเกิดขึ้นของ ‘นวัตกรรม’ ใหม่ๆ อยู่เสมอ

 

นี่คือสิ่งที่คนในวงการความงามเข้าใจเป็นอย่างดี เพราะกว่าจะได้มาซึ่ง ‘นวัตกรรมความงาม’ ทีมวิจัยและพัฒนาต้องคัดสรรสารสกัดจากธรรมชาติ ให้ผลลัพธ์เชิงบวกต่อผู้ใช้ พร้อมทั้งแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด การพัฒนาจะทวีความเข้มข้นขึ้น หากนวัตกรรมนั้นมีการนำคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของสารจากธรรมชาติที่ต่างกันมาผนึกกำลังกัน

 

HArmonyCa

 

สำหรับ ‘แอลเลอร์แกน เอสเธติกส์’ (Allergan Aesthetics)  เวชศาสตร์ความงามจากอเมริกา แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ  และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดและจัดจำหน่ายไปทั่วโลกต้องมีข้อมูลทางการแพทย์และงานวิจัยรองรับเท่านั้น 

 

เมื่อ ‘แอลเลอร์แกน เอสเธติกส์’ ภายใต้บริษัท แอ๊บวี่ ฟาร์มาซูติคอลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว ‘ฮาร์โมนิก้า’ (HArmonyCa™) นวัตกรรมอัปผิวแน่นแบบดูโอ้รูปแบบฉีด ที่ผสานคุณค่าดูโอ้ของสารจากธรรมชาติ 2 ชนิดไว้ด้วยกัน ภายใต้คอนเซปต์ ‘ดูโอ้ อัปผิวแน่น’ THE STANDARD ไม่รอช้าที่จะพาทุกคนไปไขความลับของผลิตภัณฑ์ที่ว่ากันว่าจะทำให้การมีผิวกระชับ เฟิร์มแน่น 

 

HArmonyCa

 

‘ฮาร์โมนิก้า’ (HArmonyCa™) คืออะไร

 

HArmonyCa™ คือ ผลิตภัณฑ์เสริมชั้นผิวที่มีคอลลาเจนนวัตกรรมใหม่ที่นำเอาจุดเด่นของสารจากธรรมชาติ 2 ชนิด ได้แก่ CaHA (Calcium Hydroxyapatite) และ HA (Hyaluronic Acid) มารวมเข้าไว้ด้วยกัน

 

Calcium Hydroxyapatite หรือ คา-ฮ่า (CaHA) เป็นสารออกฤทธิ์เสริมชั้นผิวที่มีคอลลาเจนจากธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในร่างกาย พบได้ในกระดูกและฟันของมนุษย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสารสำคัญในกระบวนการสร้างเส้นใยคอลลาเจน โดยโครงร่างคอลลาเจนที่สร้างขึ้นใหม่จะทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้น โดยผลลัพธ์นี้จะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ และแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Polymer เช่น PLLA, PDLLA ที่จะออกฤทธิ์ในระยะกระตุ้นการอักเสบ ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน และอาจทำให้เกิดการนูนใต้ผิวได้

 

ขณะที่ Hyaluronic Acid หรือ HA คือสารธรรมชาติที่เข้ามาเสริมการทำงานของ CaHA ให้ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น และมีคุณสมบัติในการยกกระชับผิวได้หลังฉีด สามารถย่อยสลายได้เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ตกค้าง ต่างกับสารโพลิเมอร์กลุ่ม CMC ที่จะตกค้างใต้ผิวในระยะยาว ซึ่งการรวมกันของสารออกฤทธิ์ทั้งสองนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเสริมผิวที่มีคอลลาเจนไปอีกระดับ

 

HArmonyCa

 

HArmonyCa™ ทำงานอย่างไร


HArmonyCa™ จะออกฤทธิ์ผ่านสองกลไกที่กล่าวมา โดยถูกออกแบบมาให้ฉีดลงไปในผิวหนังชั้นล่าง (Sub Dermis) โดยมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ที่ช่วยลดความเจ็บปวด ในการฉีดหนึ่งครั้งจะเห็นผลลัพธ์ของการเติมเต็มผิวเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณใบหน้าให้แลดูแน่นขึ้น จึงตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการปรับรูปหน้า อัปผิวแน่น 

 

*ทั้งนี้ ความยาวนานของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะผิวและการตอบสนองของแต่ละบุคคล

 

สำหรับบริเวณที่เหมาะสำหรับฉีดผลิตภัณฑ์เติมเต็มผิว HArmonyCa™ ได้แก่ 

  • บริเวณแก้ม: เพื่อเติมเต็ม ทำให้ผิวแลดูเอิบอิ่ม ผิวแน่นขึ้น
  • บริเวณกราม: เสริมกรามให้เกิดเป็นแนวสัน ดูคมชัด และช่วยปรับรูปหน้าให้แลดูสมส่วนมากขึ้น
  • บริเวณคาง: ปรับคางให้เข้ากับรูปหน้า ทำให้คางได้สัดส่วน

 

HArmonyCa

 

ผลลัพธ์ที่ได้

 

คุณรัชนา ดังโกสินทร์ ผู้บริหาร แอลเลอร์แกน เอสเธติกส์ ประเทศไทย เผยว่า “ดูโอ้อัปผิวแน่นการรวมกันของสารจากธรรมชาติ CaHA และ HA จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเสริมผิวชั้นที่มีคอลลาเจนไปอีกระดับ ช่วยให้ผิวแลดูเติมเต็มและอัปผิวแน่นขึ้น มีส่วนช่วยในการปรับปรุงรูปหน้าได้  อีกทั้งนวัตกรรมการผลิตเฉพาะและเทคนิคการฉีดโดยแพทย์  จะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์  เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ความงามของหนุ่มสาวปีนี้ ทั้งนี้ ความยาวนานของผลลัพธ์สูงสุดถึง 18 เดือน แต่อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะผิวและการตอบสนองของแต่ละบุคคล”

 

HArmonyCa

 

HArmonyCa™ เหมาะกับใคร

 

นวัตกรรมนี้จะตอบโจทย์คนที่มีปัญหาผิวหน้าไม่กระชับ หน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ไปจนถึงคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน

 

The post ถอดสูตร ‘HArmonyCa™’ นวัตกรรมเสริมคอลลาเจนให้ผิวรูปแบบฉีด ทางเลือกสำหรับคนที่อยากมีผิวแน่นกระชับ ดูสุขภาพดี [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>