สินค้าไม่ได้มาตรฐาน – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 20 Oct 2025 11:23:58 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ของกลางไม่ได้มาตรฐานหายหมื่นชิ้น! จ่าสิงห์ สั่งดำเนินคดี ไม่ว่าคนในหรือคนนอก กฎหมายต้องถึงตัวการ https://thestandard.co/missing-evidence-prosecution-ordered/ Mon, 20 Oct 2025 11:23:58 +0000 https://thestandard.co/?p=1133029 ของกลางไม่ได้มาตรฐานหายหมื่นชิ้น จ่าสิงห์ สั่งดำเนินคดี ไม่ว่าคนในหรือคนนอก กฎหมายต้องถึงตัวการ

วันนี้ (20 ตุลาคม) เกิดเหตุอุกอาจสะเทือนวงการอุตสาหกรรม […]

The post ของกลางไม่ได้มาตรฐานหายหมื่นชิ้น! จ่าสิงห์ สั่งดำเนินคดี ไม่ว่าคนในหรือคนนอก กฎหมายต้องถึงตัวการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ของกลางไม่ได้มาตรฐานหายหมื่นชิ้น จ่าสิงห์ สั่งดำเนินคดี ไม่ว่าคนในหรือคนนอก กฎหมายต้องถึงตัวการ

วันนี้ (20 ตุลาคม) เกิดเหตุอุกอาจสะเทือนวงการอุตสาหกรรม เมื่อของกลางสินค้าผิดมาตรฐานที่อยู่ระหว่างกระบวนการคดีถูกลักลอบนำออกจากโกดังเก็บของกลางกว่า 10,000 ชิ้น มูลค่าหลายล้านบาท กระทบต่อความเชื่อมั่นของสาธารณชน และสร้างความเสี่ยงร้ายแรงหากสินค้าดังกล่าวถูกนำกลับไปจำหน่ายในตลาด

 

จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังในพื้นที่แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ด้วยตนเอง พร้อมด้วย พีรวัส สมวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรี และ เอกนิติ รมยานนท์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) หลังได้รับรายงานว่า ของกลางที่อายัดไว้ก่อนหน้านี้สูญหายไปจำนวนมาก

 

ของกลางที่ตรวจยึดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 รวมกว่า 12,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 2.37 ล้านบาท ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อันตราย เช่น เครื่องเป่าผม อะแดปเตอร์ พาวเวอร์แบงก์ หม้อหุงข้าว เครื่องปิ้งขนมปัง เตาไฟฟ้า หลอดไฟ LED และหมวกกันน็อก โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินคดี แต่จากการตรวจสอบล่าสุด พบเหลือเพียง 315 ชิ้นเท่านั้น

 

“นี่คือเหตุอุกอาจท้าทายกฎหมาย ของกลางในคดีถูกขโมยไปกว่าหมื่นชิ้น ผมย้ำให้ชัดต้องหาคนผิดให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอก ไม่มีข้อยกเว้น กฎหมายต้องถึงตัว”

 

จ่าเอก ยศสิงห์ ยังสั่งการให้ สมอ. ร่วมกับตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง ขยายผลตรวจเส้นทางของกลางและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมยืนยันว่า “ยุคนี้ไม่มีเส้น ไม่มีเคลียร์ใต้โต๊ะ ผิดคือผิด และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว ดำเนินคดีไม่เว้นเช่นกัน”

 

นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้ สมอ. ทบทวนมาตรการรักษาของกลางทั่วประเทศ เพื่ออุดช่องโหว่ ป้องกันการลักลอบนำของกลางออกไปจำหน่ายในตลาดมืดอีก

 

ด้าน เอกนิติ รมยานนท์ เลขาธิการ สมอ. ระบุว่า ผู้ประกอบการรายนี้จำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามกฎหมายกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ขณะเดียวกัน การลักลอบขนย้ายของกลางยังเข้าข่ายความผิดเพิ่มเติม ได้แก่

 

  • จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ความผิดตาม มาตรา 142 ฐานทำลายหรือเอาเอกสารอายัดราชการออกไป มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ผู้ดูแลโกดังอ้างว่า “ไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้า แค่รับจ้างแพ็กของ” แต่ สมอ. ยืนยันว่า “ต้องเอาผิดตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด” เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้สินค้าที่เป็นอันตรายมีโอกาสกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง

 

รมช.อุตสาหกรรมเตือนประชาชนอย่างชัดเจนว่า “อย่าเสี่ยงชีวิตกับของถูก สินค้าไม่มี มอก. อันตรายถึงตายได้ ต้องเลือกสินค้าได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว”

The post ของกลางไม่ได้มาตรฐานหายหมื่นชิ้น! จ่าสิงห์ สั่งดำเนินคดี ไม่ว่าคนในหรือคนนอก กฎหมายต้องถึงตัวการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สมอ. เผยผลดำเนินงานรอบ 9 เดือน พบผู้ทำผิดกฎหมายรวม 249 ราย มูลค่าการยึดอายัดกว่า 3.4 พันล้านบาท https://thestandard.co/tisi-9-months-results/ Mon, 26 Aug 2019 06:18:19 +0000 https://thestandard.co/?p=281758

เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) วันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมา […]

The post สมอ. เผยผลดำเนินงานรอบ 9 เดือน พบผู้ทำผิดกฎหมายรวม 249 ราย มูลค่าการยึดอายัดกว่า 3.4 พันล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) วันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ยังคงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการลงทุน สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ตามนโยบายรัฐบาล Thailand 4.0 อีกทั้งเร่งแก้ปัญหาสินค้าไม่ได้มาตรฐานในท้องตลาดให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง 

 

โดยผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – มิถุนายน 2562 ที่ สมอ. เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจตราสินค้าในท้องตลาด ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค พบว่า มีผู้ประกอบการมาขอใบอนุญาตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 7,437 ฉบับ เมื่อเปรียบเทียบกับผลงาน 9 เดือนของปีที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2,585 ฉบับ คิดเป็น 54.63% 

 

 

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีผู้ประกอบการทำผิดกฎหมายลดลงกว่าเท่าตัว เห็นได้จากมูลค่าการยึดอายัดผลิตภัณฑ์และการทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ยึดอายัดไว้ให้สิ้นสภาพ โดยปี 2561 มีผู้กระทำความผิดจำนวน 175 ราย มูลค่าการยึดอายัด 2,066.6671 ล้านบาท และปี 2562 มีผู้กระทำความผิดจำนวน 74 ราย มูลค่าการยึดอายัด 1,430.8958 ล้านบาท ซึ่งหากรวมทั้ง 2 ปี จะพบผู้กระทำผิดรวม 249 ราย มูลค่าการยึดอายัดราวๆ 3.4 พันล้านบาท แต่ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขจากทั้ง 2 ปี จะพบว่า ยอดผู้ทำผิดมีจำนวนมูลค่าการยึดอายัดลดลง 635.7713 ล้านบาท และมีผู้กระทำความผิดลดลงถึง 101 ราย 

 

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากที่ สมอ. ดำเนินการอย่างเข้มงวดกับผู้ประกอบการที่ละเมิดกฎหมาย โดยจัดตั้งทีมเฉพาะกิจด้านการปราบปรามสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ลงตรวจสอบอย่างเข้มข้นในท้องตลาด และร้านค้าออนไลน์ด้วย ​อีกทั้งยังได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์และนโยบายรัฐบาลที่จะลดขั้นตอนการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจตามนโยบาย Ease of Doing Business ของรัฐบาล ซึ่งได้มีการเพิ่มโทษสำหรับผู้ทำ นำเข้า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานบังคับด้วย เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการกระทำความผิดลดลงอย่างเห็นได้ชัด

​​

นอกจากนี้เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “จากผลการดำเนินการดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีจิตสำนึกในเรื่องคุณภาพมาตรฐานมากขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการผลิต สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีผลิตภาพ (Productivity) เพิ่มสูงขึ้น และเพิ่มมูลค่าผลผลิต ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างบรรยากาศธุรกิจที่เอื้อต่อการลงทุน สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยไม่ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน” วันชัย พนมชัย กล่าวทิ้งท้าย

 

 

ภาพ: Royal Thai Government

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

The post สมอ. เผยผลดำเนินงานรอบ 9 เดือน พบผู้ทำผิดกฎหมายรวม 249 ราย มูลค่าการยึดอายัดกว่า 3.4 พันล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>