สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 01 Nov 2023 06:34:50 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ชวนดู 4 ต้นแบบการเปลี่ยนพื้นที่รกร้างให้กลายเป็น ‘พื้นที่สีเขียวในเมือง’ แล้วย้อนดู ‘กรุงเทพฯ’ เป็นไปได้แค่ไหนที่จะกลายเป็นเมืองสีเขียว [PR NEWS] https://thestandard.co/wasteland-into-green-space-models/ Wed, 01 Nov 2023 12:00:25 +0000 https://thestandard.co/?p=860364 พื้นที่สีเขียวในเมือง

WHO ระบุว่า ประชาชน 1 คนควรมีพื้นที่สีเขียวอยู่ที่ 9 ตา […]

The post ชวนดู 4 ต้นแบบการเปลี่ยนพื้นที่รกร้างให้กลายเป็น ‘พื้นที่สีเขียวในเมือง’ แล้วย้อนดู ‘กรุงเทพฯ’ เป็นไปได้แค่ไหนที่จะกลายเป็นเมืองสีเขียว [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>
พื้นที่สีเขียวในเมือง

WHO ระบุว่า ประชาชน 1 คนควรมีพื้นที่สีเขียวอยู่ที่ 9 ตารางเมตรถึงจะเข้าหลักเกณฑ์ของเมืองที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้คนเมืองมีความสุขเพิ่มมากขึ้นจริงหรือ?

 

เอนู รามาสวามิ วิศวกรสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน กล่าวไว้ว่า “พื้นที่สีเขียวเป็น 1 ใน 7 องค์ประกอบหลักของการเป็นเมือง ซึ่งรวมถึงที่พักพิง น้ำ อาหาร พลังงาน การเชื่อมต่อ และระบบสุขาภิบาล ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีพื้นที่สีเขียว”

 

ความจำเป็นที่ว่านั้นส่งผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับมนุษย์ ไล่เลียงตั้งแต่ต้นไม้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดมลภาวะทางอากาศและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังเป็นเกราะลดมลภาวะทางเสียง เนื่องจากพุ่มใบที่หนาทึบของไม้ยืนต้นและไม้พุ่มช่วยดูดซับเสียง อ้างอิงจากงานวิจัยในเมืองอัมสเตอร์ดัมพบว่า สวนสาธารณะสามารถลดมลภาวะทางเสียงจากสนามบิน Schipol ได้ถึง 50%

 

ยิ่งไปกว่านั้น คนเมืองยังสามารถใช้พื้นที่สีเขียวเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ ได้ด้วย และการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ นอกจากร่างกายจะได้ประโยชน์เต็มๆ จากระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นแล้ว ยังเพิ่มภูมิคุ้มกันความเครียด ช่วยให้เรารับมือกับความวิตกกังวลได้ดีขึ้น และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น ผลวิจัยจาก University of Twente ประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่า ต้นไม้สามารถกระตุ้นให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากถึง 20%

 

พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองยังเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดความอยู่ดีมีสุข (Well-Being) ซึ่งเมืองที่ดีควรมีพื้นที่สีเขียวที่มีคุณภาพในปริมาณที่เหมาะสม สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก ยิ่งเมืองมีความหนาแน่นมากเท่าไร พื้นที่สีเขียวในเมืองยิ่งมีค่ามากขึ้นต่อสุขภาวะของคนเมืองมากขึ้นเท่านั้น

 

ถ้าดีขนาดนี้ แล้วทำไมกรุงเทพฯ ถึงไม่เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น? ถ้าดูรายงานสวนสาธารณะหลักของกรุงเทพมหานครเดือนตุลาคม 2566 กรุงเทพฯ มีสวนหลัก 40 แห่ง และไม่ใช่ทุกเขตของกรุงเทพฯ ที่มีส่วนสาธารณะหลัก

 

แม้ว่าสวนหย่อมขนาดเล็ก สวนชุมชน สวนในหมู่บ้าน สวนถนน หรือสวนเฉพาะทาง จะช่วยเติมสีเขียวให้กับพื้นที่อื่นๆ ในเมืองได้ แต่กรุงเทพฯ ยังเข้าข่าย ‘ขาดแคลน’ พื้นที่สีเขียวอยู่ดี เพราะ WHO กำหนดว่าละแวกชุมชนควรมีพื้นที่สีเขียวกระจายตัวอยู่ในระยะการเดินเท้า 300-500 เมตร แต่ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Urban Design and Development Center: UddC) ระบุว่า ระยะทางเฉลี่ยที่คนกรุงเทพฯ สามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวที่ใกล้ที่สุดคือ 4.5 กิโลเมตร  

 

ผลกระทบโดยตรงคือมลพิษที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดกรมควบคุมมลพิษเตือนให้คนกรุงรับมือกับ PM2.5 ที่เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ เลี่ยงไม่ได้ที่จะเสี่ยงเกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

 

จะเป็นไปได้ไหมที่กรุงเทพฯ จะมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น ในเมื่อมองไปทางไหนก็เจอแต่ตึกสูงและชุมชนแออัด หรือเราจะสามารถใช้พื้นที่รกร้างมาสร้างเป็นพื้นที่สีเขียวได้จริง ถ้ายังนึกภาพไม่ออก เราจะยกตัวอย่างพื้นที่สีเขียวในต่างประเทศให้ดูกันว่าเขาใช้พื้นที่แบบไหน

 

 

Grand Canal Linear Park: จากคลองเก่าแก่ของเมืองสู่สวนสาธารณะ

 

พื้นที่กว่า 73,000 ตารางเมตร เดิมที่เคยเป็นคลองเก่าแก่ของเมืองในประเทศเม็กซิโก ถูกสร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำและป้องกันน้ำท่วมซึ่งเคยเกิดขึ้นอย่างสาหัสในช่วงปี 1604-1607 ปัจจุบันได้กลายเป็น ‘Grand Canal Linear Park’ สวนสาธารณะที่ออกแบบเป็นเส้นตรงตามโครงสร้างคลองเดิม

 

ความพิเศษของสวนแห่งนี้ที่นอกจากจะมีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์มาช่วยกรองมลพิษและเพิ่มอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังถูกออกแบบให้น้ำฝนซึมผ่านได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ รักษาวัตถุประสงค์เดิมของพื้นที่ และลดโอกาสการเกิดน้ำท่วมเมือง

 

มากไปกว่าการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง การทลายโครงสร้างเดิมของคลองยังทลายกำแพงชนชั้นที่เคยปิดกันคนเมืองกว่า 1 แสนคน จากหมู่บ้านกว่า 20 แห่ง ให้สามารถเข้าถึงพื้นที่สาธารณะร่วมกันอีกด้วย 

 

 

Taichung Green Corridor: พัฒนาพื้นที่ใต้ทางรถไฟให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว

 

ตัวอย่างการปฏิรูปพื้นที่ใต้ทางรถไฟให้เป็นพื้นที่สีเขียวที่น่าจะปรับใช้กับกรุงเทพฯ ได้ก็คือโครงการ Taichung Green Corridor ที่เมืองไถจง ประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลกถึงการปฏิรูประบบรางและฟื้นฟูพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ และยังเป็นโครงการต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่ใต้ทางรถไฟในจุดอื่นๆ ของประเทศไต้หวันอีกด้วย

 

เดิมที Taichung Line เป็นเส้นทางรถไฟสายหลักของเมืองที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1908 แต่หลังจากที่มีการปฏิรูประบบรางช่วงวิ่งผ่านตัวเมืองใหม่ก็ยกระดับรางขึ้นลอยฟ้าจนแล้วเสร็จเมื่อปี 2016 แล้วเริ่มพัฒนาโครงการ Taichung Green Corridor ระยะทางกว่า 1.7 กิโลเมตรให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะเปิดแบบแนวยาว เลียบเคียงไปตามแนวเส้นทางรถไฟเดิมซึ่งอยู่ภายใต้เส้นทางรถไฟยกระดับด้วยคอนเซปต์ Continuous Public Park

 

มีการปรับภูมิทัศน์ด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากหลายพันธุ์ ผสมผสานกับสวนสาธารณะเลียบริมคลองและทะเลสาบขนาดเล็กที่มีอยู่ในชุมชน พร้อมทั้งออกแบบถนนสำหรับเดินเท้า เพื่อให้คนเมืองได้สัญจรท่ามกลางธรรมชาติ รวมไปถึงเส้นทางปั่นจักรยานและเส้นทางการออกกำลังกาย โดยมีลานกิจกรรม จุดชมวิว สนามเด็กเล่น ไปจนถึงสวนสมุนไพร ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนเมืองแล้ว ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ท้องถิ่นไปพร้อมๆ กัน ถือเป็นการออกแบบที่สอดคล้องกับวิถียั่งยืนอย่างแท้จริง 

 

 

Little Island: แปลงโฉมท่าเรือเก่าของนิวยอร์ก สู่สวนสาธารณะแห่งใหม่กลางแม่น้ำฮัดสัน

 

Pier 54 หรือที่คนเมืองนิวยอร์กเคยขนานนามว่าเป็น ‘ท่าเรืออับโชค’ เพราะในอดีตเคยเป็นท่าเทียบเรือของบริษัท White Star Line เจ้าของเรือ Titanic และยังเคยเป็นจุดรับเรือ RMS Lusitania ครั้งสุดท้ายก่อนถูกยิงในสงครามโลกครั้งที่ 1

 

จากท่าเรือที่ถูกทิ้งร้างให้ทรุดโทรม Pier 54 ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวนธารณะลอยน้ำแห่งใหม่ย่านแมนฮัตตันฝั่งตะวันตก พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น Pier 55 บนพื้นที่กว่า 11,000 ตารางเมตร ปกคลุมไปด้วยสวนที่มีพันธุ์ไม้ 370 กว่าสายพันธุ์ ด้วยคอนเซปต์พืชเหนือน้ำ เป็นที่มาของโครงสร้างฐานรูปก้านดอกทิวลิป 132 ต้น ลดหลั่นตามความสูงเพื่อต้านแรงลม มีทางเดินรอบสวนไว้ดูวิวต่างองศาได้ 

 

ต้นไม้กว่า 35 ชนิด พุ่มไม้อีก 65 ชนิด รวมถึงหญ้า พืชยืนต้น และอื่นๆ อีก 270 ชนิดที่เหมาะกับสภาพอากาศทุกฤดูของนิวยอร์ก และยังดึงดูดนกกับแมลงให้มาช่วยขยายพันธุ์ พร้อมด้วยลานกิจกรรมทางศิลปะทุกแขนง เพื่อส่งเสริมความสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริง ออกแบบโดย Thomas Heatherwick สถาปนิกชาวอังกฤษ และได้ Mathews Nielsen ภูมิสถาปนิกแห่ง MNLA มาออกแบบภูมิทัศน์ให้

 

 

Seoullo 7017: โครงการฟื้นฟูทางข้ามแยกที่เสื่อมสภาพให้กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้า

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1960 พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นสะพานยกระดับข้ามแยกระยะทาง 1.24 กิโลเมตรที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้โครงสร้างเสื่อมสภาพ Seoul Metropolitan Government หน่วยงานกำกับดูแลการก่อสร้างของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ จึงตัดสินใจแปลงโฉมสะพานอายุกว่า 50 ปีให้กลายเป็นสวนสาธารณะทางเดินลอยฟ้าในชื่อ ‘Seoullo 7017’

 

ไม่ใช่แค่เปลี่ยนภูมิทัศน์เมือง แต่ยังต้องการยกระดับคุณภาพของเมืองด้วย อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการเดินเท้าของผู้คน เพราะตลอดทางเดินกว่า 1.24 กิโลเมตรมีทางลงที่เชื่อมต่อไปยังถนนต่างๆ ถึง 17 จุด มีลิฟต์สำหรับผู้พิการ และออกแบบให้เป็นสวนสาธารณะที่มีพรรณพืชกว่า 200 ชนิด จำนวนกว่า 24,000 ต้น โดยคัดเลือกพรรณพืชที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล พร้อมทั้งให้ข้อมูลพันธุ์ไม้ตามจุดต่างๆ โดยวางแผนที่จะพัฒนาสวนสาธารณะแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในการอนุบาลและเลี้ยงดูแลกล้าไม้ใจกลางเมือง ซึ่งสามารถขนย้ายไปปลูกในพื้นที่อื่นๆ ของเมืองต่อได้

 

สำหรับชาวต่างชาติอาจมอง Seoullo 7017 เป็นเพียงจุดเช็กอินหรือไม่ก็มองเป็นเพียงสะพานที่สามารถเดินเชื่อมไปยัง Seoul Station แต่สำหรับคนเมือง ที่นี่คือปอดแห่งใหม่ที่พวกเขาสามารถใช้เวลาระหว่างการเดินทางแวะพักเติมพลังใจให้กับชีวิตได้

 

 

มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่กรุงเทพฯ จะมีพื้นที่สวนเพิ่มมากขึ้น

 

อย่างที่บอกไปข้างต้น พื้นที่สวนสาธารณะไทยยังต่ำกว่ามาตรฐานโลกหากอิงตามเกณฑ์ค่าเฉลี่ยมาตรฐานของ WHO ที่กำหนดให้พื้นที่สีเขียวที่เหมาะสมของเมืองควรอยู่ที่ 9 ตารางเมตรต่อคน แต่ปัจจุบันพื้นที่สีเขียวเฉลี่ยของกรุงเทพฯ ตามเกณฑ์นี้อยู่ที่ 7.30 ตารางเมตรต่อคนเท่านั้น 

 

แต่ก็ดูมีแนวโน้มที่ดี เพราะกรุงเทพฯ ก็มีความตั้งใจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ดูได้จากโครงการต่างๆ เช่น Green Bangkok 2030 ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ 10 ตารางเมตรต่อคนภายในปี 2573 รวมถึงเพิ่มพื้นที่สาธารณะสีเขียวที่ประชาชนสามารถเดินถึงได้ในระยะการ 400 เมตร และเพิ่มพื้นที่ร่มไม้ในเมือง (Urban Tree Canopy) จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 17% ให้เป็น 30%

 

หรือนโยบาย ‘สวน 15 นาที’ ของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ​ที่ต้องการกระจายสวนและพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนเข้าถึงได้ภายใน 15 นาที หรือประมาณ 800 เมตร โดยการพัฒนาพื้นที่รกร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้ฟื้นกลับมา ควบคู่การเพิ่มพื้นที่ใหม่ เพื่อให้คนเมืองได้มีพื้นที่ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ได้หยุดพักจากความเร่งรีบ และใช้เวลาเพิ่มความสุขและเพิ่มพลังให้กับตัวเอง  

 

คนเมืองอย่างเราๆ ก็หวังว่าจะให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น และควรเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนทางกายและชุบชูจิตใจให้มีแรงบันดาลใจเพิ่มมากขึ้น เพราะความหอมสดชื่นจากดอกไม้และแสงแดดภายในพื้นที่สีเขียวจะทำให้เราเบ่งบานในแบบของตัวเองได้อย่างเต็มที่ แล้วคุณล่ะอยากเห็นพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ไหนใกล้บ้านคุณ แสดงความคิดเห็นกันได้เลย

The post ชวนดู 4 ต้นแบบการเปลี่ยนพื้นที่รกร้างให้กลายเป็น ‘พื้นที่สีเขียวในเมือง’ แล้วย้อนดู ‘กรุงเทพฯ’ เป็นไปได้แค่ไหนที่จะกลายเป็นเมืองสีเขียว [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดพิกัด ‘สวนปทุมวนานุรักษ์’ สวนป่ากลางเมือง พื้นที่สาธารณะ มุมพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ https://thestandard.co/pathumwananurak-park-2/ Sat, 27 May 2023 05:56:31 +0000 https://thestandard.co/?p=795958 สวนปทุมวนานุรักษ์

วานนี้ (26 พฤษภาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD สำรวจบรรยา […]

The post เปิดพิกัด ‘สวนปทุมวนานุรักษ์’ สวนป่ากลางเมือง พื้นที่สาธารณะ มุมพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สวนปทุมวนานุรักษ์

วานนี้ (26 พฤษภาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD สำรวจบรรยากาศภายใน ‘สวนปทุมวนานุรักษ์’ สวนสาธารณะระดับชุมชน พื้นที่ 38 ไร่ 1 งาน 73 ตารางวา ตั้งอยู่บริเวณถนนราชดำริ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน โดยสวนแห่งนี้ถูกจัดสรรพื้นที่ภายในเป็น 2 ส่วน

 

ส่วนที่ 1 เป็นลักษณะสวนป่า โดยการปลูกต้นไม้ให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ

 

ส่วนที่ 2 สวนอเนกประสงค์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการให้บริการเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ พื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นให้แก่คนกรุงเทพมหานคร

 

ทั้งนี้ มูลนิธิปทุมวนานุรักษ์ ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ได้เปิดให้บริการสวนปทุมวนานุรักษ์อย่างไม่เป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2566 โดยช่วงแรกจะเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

 

ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับมูลนิธิปทุมวนานุรักษ์ อาสาสมัครจากภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการปรับปรุงสวนปทุมวนานุรักษ์ให้เรียบร้อยเหมาะสมกับการเปิดให้ประชาชนใช้ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ผ่านช่องทางของกรุงเทพมหานคร หรือส่งมายังอีเมล [email protected]

 

โดยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจะถูกนำไปปรับปรุงการให้บริการและพัฒนางานส่วนที่เหลือสำหรับการเปิดสวนปทุมวนานุรักษ์อย่างเป็นทางการต่อไป

 

หากใครกำลังมองหาสถานที่ออกกำลังกายใจกลางเมือง สถานที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจในช่วงแดดร่มลมตกที่มีระบบขนส่งอำนวยความสะดวกครบครัน ‘สวนปทุมวนานุรักษ์’ อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจ

 

สวนปทุมวนานุรักษ์

The post เปิดพิกัด ‘สวนปทุมวนานุรักษ์’ สวนป่ากลางเมือง พื้นที่สาธารณะ มุมพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สวนปทุมวนานุรักษ์ สวนสีเขียวข้างเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้ทดลองใช้แล้ว https://thestandard.co/life/pathumwananurak-park Fri, 26 May 2023 11:07:02 +0000 https://thestandard.co/?p=795778 สวนปทุมวนานุรักษ์

หลังจากก่อสร้างเสร็จและปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 5 ปี เนื่ […]

The post สวนปทุมวนานุรักษ์ สวนสีเขียวข้างเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้ทดลองใช้แล้ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
สวนปทุมวนานุรักษ์

หลังจากก่อสร้างเสร็จและปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 5 ปี เนื่องจากปัญหาการไม่ยอมย้ายที่อยู่ของชุมชนเดิม ในที่สุดสวนปทุมวนานุรักษ์ก็ได้ฤกษ์เปิดให้บริการแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเป็นการเปิดอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนทดลองใช้สวน และฟีดแบ็กความต้องการและปัญหาให้ทาง กทม. นำไปปรับปรุงแก้ไข

 

 

Why here?

 

สวนปทุมวนานุรักษ์เป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงเทพฯ ขนาดประมาณ 27 ไร่ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ติดกับคลองแสนแสบ บนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิปทุมวนานุรักษ์ ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกรุงเทพมหานคร 

 

เดิมเป็น ‘ชุมชนโรงปูน’ กว่าพันหลังคาเรือน ที่ใช้พื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์อาศัยชั่วคราว ก่อนถูกเวนคืนเพื่อเอาพื้นที่มาทำสวนสาธารณะพื้นที่ 27 ไร่ ประกอบด้วยสวนหย่อม สวนป่า บึงรับน้ำ ลานกิจกรรม พื้นที่นิทรรศการกลางแจ้ง และอาคารอเนกประสงค์

 

Worth it 

 

ด้วยความที่เปิดอย่างไม่เป็นทางการ สวนปทุมวนานุรักษ์จึงยังไม่มีกิจกรรมอะไรใหม่มากนัก นอกจากฟังก์ชันพื้นฐานของสวนสาธารณะ ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นหย่อนใจ หรือมาออกกำลังกาย ถ้าถามว่าชอบไหม? ชอบที่ที่นี่เป็นสวนใจกลางเมือง มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่มีจุดให้ถ่ายรูปและนั่งพักผ่อนหลายจุด เด็กวัยรุ่นก็แวะได้ ผู้ใหญ่ก็ออกมาทำกิจกรรมได้ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สีเขียวกลางกรุงที่หายากยิ่ง

 

Good for…

 

ตอนนี้สวนปทุมวนานุรักษ์เพิ่งเปิดให้ใช้บริการอย่างไม่เป็นทางการ โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. และเปิดให้ประชาชนสามารถร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ผ่านช่องทางของกรุงเทพมหานคร หรือส่งมายังอีเมล [email protected] โดยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์จากประชาชนผู้มาใช้บริการ จะนำไปปรับปรุงการให้บริการและพัฒนางานส่วนที่เหลือสำหรับการเปิดสวนปทุมวนานุรักษ์อย่างเป็นทางการต่อไป

 

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์

The post สวนปทุมวนานุรักษ์ สวนสีเขียวข้างเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้ทดลองใช้แล้ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
รีวิว 10 สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ฮีลใจด้วยสวนสีเขียว https://thestandard.co/life/10-public-parks-in-bangkok Tue, 25 Apr 2023 03:00:47 +0000 https://thestandard.co/?p=780370 10 สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ

ใครนึกไม่ออกว่าวันหยุด นอกจากห้างสรรพสินค้าและการไปคาเฟ […]

The post รีวิว 10 สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ฮีลใจด้วยสวนสีเขียว appeared first on THE STANDARD.

]]>
10 สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ

ใครนึกไม่ออกว่าวันหยุด นอกจากห้างสรรพสินค้าและการไปคาเฟ่ฮอปปิ้งแล้วจะไปที่ไหน ในกรุงเทพฯ ยังมีสวนสาธารณะมากมายให้เราได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรมสนุกๆ และใช้วันหยุดท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อเป็นการชาร์จพลังก่อนเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ 

 

และเหล่านี้คือรีวิว 10 สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ที่เราอยากให้เพื่อนๆ แวะไปเช็กอินกันดู 

 

1. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)

 

 

สวนรถไฟคือสวนสาธารณะระดับย่านที่ใหญ่ที่สุดในจตุจักร สวนในดวงใจของชาวจตุจักรแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวแสนร่มรื่นขนาดประมาณ 375 ไร่ สร้างภายใต้คอนเซปต์ ‘สวนครอบครัว’ 

 

นอกจากบรรยากาศจะอบอุ่นใจ ก็ยังเหมาะสำหรับการเดิน-วิ่งออกกำลังกายให้เพลิดเพลิน แถมยังมีพื้นที่รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมการปั่นจักรยานบนเส้นทางจักรยานยาว 3.2 กิโลเมตร, การเล่นสเกตบอร์ด, การชมอุทยานผีเสื้อและแมลงขนาด 1 ไร่, การสำรวจเมืองจราจรจำลองสำหรับเด็ก และอื่นๆ รวมถึงการช้อปปิ้งที่ร้านค้าและกินอาหารสตรีทฟู้ดตลาดชื่อดังในระยะไม่กี่ก้าวเดิน เช่น ตลาดนัดสวนจตุจักร และตลาด อ.ต.ก. เป็นต้น 

 

อ๋อ ปัจจุบันที่นี่มี Pet Park จะเอาสุนัขมาเดินเล่นเคียงข้างคุณก็ทำได้แล้วนะ

 

2. สวนสันติชัยปราการ

 

 

สวนระดับชุมชนเมืองที่ดีต่อใจคนกรุง เหมาะสำหรับการปล่อยใจชิลๆ บนพื้นที่ขนาดกะทัดรัด 8 ไร่เศษ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ยุครัตนโกสินทร์ อยู่คู่กับคนบางลำพูมานานถึง 200 ปี 

 

ที่นี่โดดเด่นด้วยโบราณสถานสีขาวตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวสด ลานหญ้ากว้างโอบล้อมป้อมพระสุเมรุ ภายในมีต้นลำพู ซึ่งเป็นที่มาของชื่อย่านบางลำพู ยืนต้นอยู่ 

 

โลเคชันสวนสันติชัยปราการตั้งอยู่บริเวณริมน้ำ ทำให้มองเห็นทิวทัศน์สุดโรแมนติกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีสะพานพระราม 8 ทอดผ่านได้ง่าย ในพื้นที่มีศาลาทรงไทยวิจิตรสำหรับจัดงานเทศกาลประเพณีในโอกาสสำคัญ เช่น งานประเพณีสงกรานต์ และงานลอยกระทง ฯลฯ 

 

นอกจากสวนก็ยังมีหอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา อยู่ใกล้ๆ ให้เยี่ยมชม ถ้าเราหิวหรือคอแห้ง ก็มีร้านกินดื่มชื่อดังเรียงรายบนถนนพระอาทิตย์ให้เลือกสรรและรอให้ทุกคนแวะไปพักผ่อนหย่อนใจ

 

3. สวนรมณีนาถ

 

 

อดีตเรือนจำสำหรับการคุมขังและอบรมผู้ถูกคุมขังในเขตพระนคร ซึ่งถูกชาวบ้านจดจำในฐานะพื้นที่คุกเก่า ถูกเนรมิตใหม่จนกลายเป็นสวนระดับชุมชนบนเนื้อที่ 29 ไร่ 

 

พื้นที่สีเขียวสุดร่มรื่นใกล้ๆ ชุมชนแห่งนี้สามารถรักษาตัวสถาปัตยกรรมเก่าๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเรือนจำได้อย่างกลมกลืนกับสวนที่ถูกสร้างสรรค์ใหม่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบริเวณป้อมยาม กำแพง หรืออาคารต่างๆ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์และพิพิธภัณฑ์เสรีไทยอนุสรณ์ สำหรับคนที่ชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์หรืออยากจะทอดสายตาไปกับดอกไม้และบรรยากาศริมบึงก็ทำได้ 

 

แถมสวนรมณีนาถยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนมหาไชย ซึ่งเป็นแหล่งสตรีทฟู้ดไทยอร่อยๆ มีร้านอาหารตลอดทั้งเส้น อยากกินอะไรก็ขอให้บอกมา เพราะแทบจะหาทุกอย่างได้อย่างครบครัน

 

4. อุทยานเบญจสิริ

 

 

อุทยานหรือสวนระดับชุมชนขนาด 29 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนย่านเศรษฐกิจแถบสุขุมวิท ขนาบข้างด้วยออฟฟิศ สำนักงาน และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ใจกลางของสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ บริเวณพื้นที่ริมน้ำมักมีคนมานั่งเล่นและนอนเล่นอยู่เสมอ ภายในสวนยังมีประติมากรรมระดับชาติจำนวน 12 ชิ้น กระจายตัวอยู่เต็มสวน 

 

ใครที่ชื่นชอบกีฬาโลดโผนที่นี่ก็มีโซนลานสเกตบอร์ดให้ได้เล่นโดยเฉพาะ ส่วนกีฬาอื่นๆ ก็มีให้เลือกสรร เพราะมีทั้งสนามตะกร้อ สนามวอลเลย์บอล สนามบาสเกตบอล และสระว่ายน้ำ มาแค่ที่เดียว แต่เลือกออกกำลังกายให้หัวใจเต้นรัวได้อย่างหลากหลายรูปแบบ

 

5. สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ

 

 

สวนระดับชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ ชั้นใน แต่เดิมถูกร่ำลือเรื่องความน่ากลัว แต่ปัจจุบันถูกพลิกโฉม ลบล้างภาพลักษณ์ความสยองขวัญ จากป่าช้าวัดดอนจึงกลายพื้นที่ที่เป็นมิตร น่ารัก และดีต่อใจคนในชุมชนที่ต้องการมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 

 

‘ฮวงซุ้ยชาวจีนดั้งเดิม’ ที่ตั้งเรียงรายเป็นทิวแถว ถูกดีไซน์ให้สอดประสานไปกับพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทั้งลู่วิ่งระยะสั้น ลานกีฬา และลานออกกำลังกาย มีโซนลานนาบุญ ซึ่งเป็นโซนสวนสงบๆ เพื่อให้คนมานั่งพักผ่อนเงียบๆ ละเลียดอ่านหนังสือในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยต้นไม้และพื้นที่สีเขียวร่มรื่น 

 

บางเวลาจะมีเสียงร้องเพลงคาราโอเกะของอากง-อาม่าที่น่ารักคลอเป็นซาวด์แทร็กให้พื้นที่สวนไม่เงียบเหงาอีกด้วย

 

6. อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

 

อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ หรือที่คนทั่วไปเรียกกันอย่างติดปากว่า สวนจุฬาฯ 100 ปี มีขนาด 28 ไร่ เป็นสวนระดับชุมชนยอดฮิตของวัยรุ่นกลางสามย่าน พื้นที่แห่งนี้เคยได้รับรางวัลระดับประเทศและระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย ล่าสุดในปี 2022 เพิ่งได้รับรางวัล 12th Dubai International Award for Best Practices หัวข้อ Urban Regeneration and Public Spaces ที่เฟ้นหาโครงการนวัตกรรมจากทั่วโลก 

 

สวนแห่งนี้ถูกดีไซน์เป็นป่าในเมือง เป็นพื้นที่หน่วงน้ำ เป็นห้องเรียนรู้กลางแจ้งที่มีอยู่หลายโซนด้วยกัน แถมถูกคิดค้นและดีไซน์มาเพื่อให้จุคนได้มากที่สุดในหลักพัน 

 

เคยเป็นสถานที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น อีเวนต์ คอนเสิร์ต หรืองานดนตรีในสวนโดยหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันที่นี่ฮอตฮิตในแพลตฟอร์ม TikTok มาก จนกลายเป็นแหล่งถ่ายรูปยอดนิยมของคน Gen Z ไปโดยปริยาย 

 

7. สวนชุมชนโชฎึก

 

 

Pocket Park หรือสวนสาธารณะขนาดเล็กในเขตสัมพันธวงศ์ บริเวณพื้นที่ชุมชนริมคลองผดุงกรุงเกษม ความน่าสนใจของสวนนี้คือ การเป็นพื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการพัฒนาที่ว่างรกร้างเลียบคลอง โดยการออกแบบร่วมกันทั้งในส่วนของภาครัฐ เอกชน ประชาชน และดีไซเนอร์ มีทางลาดที่ผสานไปกับสนามเด็กเล่นโชฎึกดีไซน์เท่ใจกลางสวน และม้านั่งดีไซน์เป็นกระบะต้นไม้ในตัว รวมถึงเครื่องออกกำลังเพื่อการยืดเหยียดต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานผู้สูงอายุที่มีอยู่จำนวนมากในชุมชน

 

8. สวนป่าเบญจกิติ

 

 

สวนสาธารณะระดับย่านขนาด 320 ไร่ สวนที่สร้างขึ้นด้วยแนวคิดสวนน้ำและสวนป่า ซึ่งสวนเบญจกิติที่เป็นสวนน้ำสร้างเสร็จเป็นลำดับแรก จากนั้นสวนป่าเบญจกิติจึงค่อยๆ พัฒนาตามมาเรื่อยๆ ทั้งพื้นที่ธรรมชาติแบบป่าในเมือง พื้นที่ออกกำลังกาย รวมถึงโกดังและโรงงานยาสูบที่จะรีโนเวตเป็นพื้นที่กีฬาในร่มและส่วนพิพิธภัณฑ์ 

 

ในสวนป่ามีระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ เพื่อเอาไว้เก็บน้ำและบำบัดน้ำเสีย มีการจัดสวนวนเกษตร ปลูกพืชพื้นบ้านและพืชริมคลองเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมแบบไทยๆ ส่วนใครที่ต้องการออกกำลังกาย ที่นี่ก็พร้อมรองรับการปั่นจักรยาน การเดิน และการวิ่ง อีกทั้งยังมี Skywalk ที่เชื่อมต่อไปยังสวนลุมพินีอีกด้วย

 

9. สวนลุมพินี

 

 

สวนลุมพินีคือสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ และของไทย เป็นสวนระดับย่านขนาด 360 ไร่ ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับชาวเมือง เหมาะสำหรับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่รำไท้เก๊ก ฟังดนตรี เล่นฟิตเนสกลางแจ้ง เต้นลีลาศ หรือจะอ่านหนังสือที่ห้องสมุดก็ทำได้ 

 

และด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แถมยังมีพื้นที่โล่งอยู่เยอะมาก จึงเป็นสถานที่สำหรับการจัดกิจกรรมทั่วไป เช่น งานเฉลิมฉลอง หรืองานอีเวนต์ต่างๆ ที่จัดขึ้นเรื่อยๆ 

 

ส่วนใครที่ชอบถีบเรือเป็ดในบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่นี่น่าจะขึ้นชื่อและเป็นภาพจำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว

 

10. ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน

 

 

ศูนย์กีฬาบึงหนองบอนมีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 644 ไร่ ที่นี่เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำที่แรกของกรุงเทพมหานคร นอกจากการเป็นแหล่งเก็บน้ำและระบบระบายน้ำสู่ทะเล ที่นี่ยังเป็นเซ็นเตอร์ของกิจกรรมทางน้ำสารพัดรูปแบบ ทั้งเรือใบ, เรือคายัค, เรือแคนู, การพายซัพบอร์ด และการเล่นวินด์เซิร์ฟ ทุกคนสามารถสมัครสมาชิกเพื่อเรียนรู้ทักษะกีฬาทางน้ำได้อย่างเต็มรูปแบบ 

 

สำหรับสายวิ่ง, ปั่นจักรยาน, สเกตบอร์ด, บาสเกตบอล, ฟุตซอล, ตะกร้อ และอื่นๆ ก็ไม่ต้องห่วง ที่นี่มีพื้นที่รองรับกิจกรรมแบบสบายหายห่วง 

 

ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังยินดีต้อนรับสุนัขและแมวของเราด้วยนะ 

The post รีวิว 10 สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ฮีลใจด้วยสวนสีเขียว appeared first on THE STANDARD.

]]>
สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ: เปลี่ยนป่าช้าวัดดอน จากสุสานน่ากลัวสู่สวนน่าวิ่งใจกลางเมือง https://thestandard.co/life/teochew-cemetery-park Tue, 07 Mar 2023 02:37:25 +0000 https://thestandard.co/?p=759337 สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ

ตามไปดูสวนสาธารณะที่มาจากการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เก่าแล้วเ […]

The post สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ: เปลี่ยนป่าช้าวัดดอน จากสุสานน่ากลัวสู่สวนน่าวิ่งใจกลางเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ

ตามไปดูสวนสาธารณะที่มาจากการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เก่าแล้วเอามาเล่าใหม่ให้น่าใช้สอยและชุบชูใจมากกว่าที่เคย

 

อดีตป่าช้าที่น่ากลัว

 

คุณเคยได้ยินตำนานผีเฮี้ยนจากป่าช้าวัดดอนไหม?

 

‘ป่าช้าวัดดอน’ หรือที่เรียกกันว่า ‘สุสานแต้จิ๋วฯ’ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คนร่ำลือกันถึงความน่ากลัว จนทำให้ในช่วงเวลาค่ำคืนคนไม่กล้าย่างกรายไปใกล้ หรือแม้แต่รถราก็ไม่กล้าที่จะขับผ่าน 

 

เรื่องราวความหลอนของพื้นที่อาจเกิดจากประสบการณ์สยองที่ผู้คนเคยพบเจอหรือเล่าต่อๆ กันมาก็จริง แต่การปล่อยทิ้งพื้นที่ที่เคยฝังร่างกว่าแสนร่างบนเนื้อที่ 150 ไร่ให้ร้างและทรุดโทรมลงเรื่อยๆ โดยไม่มีไฟฟ้า ถนนผุพัง มีน้ำเน่าเสีย และมีสัตว์เลื้อยคลานอาศัยอยู่จำนวนมาก เมื่อประกอบเข้ากับความรกร้างวังเวง โดยรวมแล้วก็ยิ่งทำให้มวลทั้งหมดยิ่งน่าหวาดผวามากขึ้น…มากขึ้น

 

 

จนกระทั่งสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทยมีโครงการสวนสวยในป่าช้าที่พลิกฟื้นฟูให้ป่าช้ากลายเป็นสวนสวยชื่อ ‘สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ’ ซึ่งเริ่มในปี 2539 เปิดโอกาสให้คนมานั่งเล่น นอนเล่น เดินเล่น และวิ่งออกกำลังกายเคียงข้างหลุมศพ จนปัจจุบันกลายเป็นสวนที่มีมุมมองโดดเด่น ผู้คนต่างวัย หลุมศพ พื้นที่สีเขียว ตึกสูงใหญ่กลางเมือง คือภาพที่ดูขัดแย้ง แต่สุดท้ายอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว

 

ถ้ายังไม่เคยไปเยี่ยมสวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ เราขอท้าให้ทุกคนลองไปสักหน แต่ก่อนจะไปมาดูกันดีกว่าว่าคุณจะได้เจออะไรที่สวนสุขภาพแห่งนี้กันบ้าง

 

เปลี่ยนป่าช้าเป็นสวนสวย

 

เมื่อก่อนสวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ ถูกเรียกว่าป่าช้าวัดดอน เพราะเวลานำร่างไร้วิญญาณเข้ามาสุสานต้องผ่านประตูผีซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าวัดดอน ตอนนี้พอไม่ได้เปิดรับการฝังศพอีกแล้ว ประตูจึงถูกรื้อถอนไปเป็นที่เรียบร้อย

 

ปัจจุบันสวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ถูกลบล้างภาพความน่ากลัวให้กลายพื้นที่ที่เป็นมิตร น่ารัก และดีต่อใจของคนในชุมชนที่ต้องการมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 

 

ถ้าคุณลองไปเยี่ยมเยียนสวนสวยในสุสานแต้จิ๋วแห่งนี้ จะมีโอกาสได้เห็นและสัมผัสความโดดเด่นของ ‘ฮวงซุ้ยชาวจีนดั้งเดิม’ ที่ตั้งเรียงรายเป็นทิวแถวจำนวนมาก และปัจจุบันถูกดีไซน์ให้สอดประสานไปกับพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทั้งลู่วิ่งระยะสั้น ลานกีฬา ลานออกกำลังกาย มีโซนลานนาบุญซึ่งเป็นโซนสวนสงบๆ เพื่อให้คนมานั่งพักผ่อน ละเลียดอ่านหนังสือในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยต้นไม้และพื้นที่สีเขียวร่มรื่น 

 

 

ทั้งยังมีมุมบ้านหนังสือของกรุงเทพฯ พื้นที่สวนแสนสนุกสำหรับเด็กๆ ที่รักการเล่นในสนามเด็กเล่น ที่สำคัญสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือที่นี่มีกิจกรรมชมรมที่ชาวชุมชนออกมาจอยร่วมกันกว่า 30 ชมรม ตั้งแต่ชมรมหลักอย่างสมาคมนักวิ่งแต้จิ๋ว, ชมรมเพาะกาย, ชมรมแบดมินตัน, ชมรมหมากรุก, ชมรมเทควันโด, ชมรมแอโรบิก และอื่นๆ อีกมากมาย จนที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งออกกำลังกายชื่อดังในย่านสาทร ที่มีผู้เข้าใช้บริการตั้งแต่เด็กเล็กจนไปถึงผู้ใหญ่อายุ 80 กว่าๆ โดยมีผู้เข้าใช้บริการวันละประมาณถึง 1,000 คนเลยทีเดียว 

 

 

ส่วนกลุ่มที่เราสังเกตเห็นระหวางเดินเล่นและรู้สึกชอบใจมากเป็นพิเศษคือกลุ่มของอากง อาม่า คุณลุง และคุณป้าที่เข้ามาขับร้องเพลงในรูปแบบคาราโอเกะ ทั้งเพลงไทย-จีนสารพัด ถือเป็น Ambient สนุกที่ไม่ว่าสวนไหนๆ ก็ให้ไม่ได้อย่างแน่นอน

 

ความเป็นไปได้ใหม่ของสวนสาธารณะในสุสาน

 

นอกจากการมาวิ่ง ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจโดยทั่วไปแล้ว ยังมีผู้ใช้บริการบางส่วนเฝ้ามองหลุมศพหรือฮวงซุ้ยในฐานะสัญลักษณ์ เพื่อการระลึกถึงการมีชีวิตอยู่อย่างมีสติ เพราะชีวิตมนุษย์นั้นเปราะบาง และไม่มีใครรู้ได้ว่าเราจะลาจากโลกใบนี้ไปในตอนไหน ส่วนวัยรุ่นก็ได้เอ็นจอยกับกิจกรรมของตัวเองอย่างเต็มที่

 

 

“บ้านผมอยู่แถวนี้ ปกติผมเข้ามา 4-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อออกกำลังกายที่ยิมด้านหน้า และมาเดินเล่นต่อในสวน สวนนี้แตกต่างจากที่อื่นตรงความเป็นกันเอง คนที่มาเป็นขาประจำ เห็นหน้ากันแทบทุกวันเพราะเป็นคนในละแวกนี้ คุ้นหน้าคุ้นตา มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ที่อื่นๆ เขาอาจต่างคนต่างมา เช่น ในสวนใหญ่อย่างสวนลุมพินี แต่ที่นี่จะขนาดเล็กๆ และโลคัลมากกว่า 

 

“จุดเด่นของที่นี่คือมีสุสาน หันซ้ายหันขวาก็จะเจอเต็มไปหมดเลย ผมชอบยิมข้างหน้าที่สุดเพราะค่าบริการไม่แพง เดือนละ 10 บาทเอง แรกเข้าก็แค่ 150 บาท แต่ไม่มีเทรนเนอร์ มาเล่นกันเอง ส่วนคนที่เป็นผู้สูงอายุหน่อยและเล่นมานานแล้ว เขาจะมาช่วยสอนเด็กใหม่ ทั้งจัดท่าให้ เหมือนพี่สอนน้องให้เล่นได้ถูกท่า”

 

 

 

“ตอนกลางคืนก็ลองมาเดินดูครับ อาจจะเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ได้ เพราะที่อื่นไม่เคยมีเลยครับที่จะทำให้เราได้มาเดินเล่นในสุสานจีนแบบนี้” บิ๊ก-คลังทรัพย์ วาทนเสรี นักศึกษาอายุ 21 ปี ผู้ใช้สวนจริงเล่าให้เราฟัง

 

 

นอกจากนักศึกษาเราลองขยับไปคุยกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่เข้ามาใช้ลานบาสเกตบอลที่นี่อยู่เป็นประจำอย่าง ฟีนิกซ์-ชยพล รองเดช นักเรียนอายุ 15 ปี เขาเล่าว่า 

 

 

“ผมมาบ่อยครับ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อมาเล่นบาสเกตบอล นั่งรถสองแถวมาช่วงหลังเลิกเรียน เพราะโรงเรียนไม่ได้ไกลเลยเดินทางมาที่นี่ได้สะดวก ช่วงปิดเทอมก็มาเรื่อยๆ

 

“หลุมศพอาจทำให้บางคนไม่อยากมา แต่จริงๆ ที่นี่ไม่น่ากลัวเลย ผมไม่เคยเจอที่ไหนมีหลุมศพแบบที่นี่ ถ้าเทียบกับสวนอื่นๆ ที่เคยไปมาที่นี่จะสบายกว่าครับ และส่วนมากคนรู้จักก็จะเล่นบาสเกตบอลกันอยู่แถวนี้ด้วย ทั้งเพื่อนๆ รุ่นพี่ และรุ่นน้องก็มาที่นี่ เพราะที่นี่เป็นที่กลางแจ้งเล่นบาสบาสเกตบอล แถมมีทั้งพื้นที่ให้วิ่ง เล่นบาสเกตบอล และวอลเลย์บอลก็เล่นได้ครับ”

 

เรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ภาพลักษณ์ และฟังก์ชันของสวนสวยที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้มีจุดแข็งแรงมากพอที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมไทยและจีน รวมไปถึงการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับประเทศ หรืออาจจะระดับโลกเลยก็ยังได้ เพราะเราเคยเห็นเคสที่สุสานกลายเป็นอนุสรณ์ของประวัติศาสตร์และความทรงจำที่มีผู้เข้ามาเยี่ยมเยียนจำนวนมาก ทั้งในไทย อย่าง ‘สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก’ หรือ ‘สุสานทหารสหประชาชาติ’ ที่คนกาญจนบุรีมักเรียกกันสั้นๆ ว่าป่าช้าอังกฤษ มีศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะเกือบ 7,000 กว่าหลุม

 

 

หรือจะเป็น ‘Japanese Cemetery Park’ ประเทศสิงคโปร์ ที่มีหลุมศพของพลเรือนญี่ปุ่นและทหารญี่ปุ่นในประเทศสิงคโปร์นับตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่เราคิดว่าสวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ มีมิติของการทำกิจกรรมที่หลากหลายมากกว่า ถ้าเราบำรุงรักษาสวนให้ปัง ที่นี่จะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งสำคัญที่ฉายแววโดดเด่นไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย

 

 

เมื่อปี 2565 ในสวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ ยังเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดงานกิจกรรมดนตรีในสวน แสดงโชว์ของวงดนตรีในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งมีทั้งวงสะล้อซอซึง แสนละเมา, วง PGVIM Percussion Ensemble และวง PGVIM Symphonic Band เข้าไปบรรเลงดนตรีให้คนฟังกันอย่างสนุกสนาน

 

ในทุกๆ ปีงานเชงเม้งที่จัดในสวนแห่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างเป็นปกติ ดำเนินไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกายของคนที่เข้ามาใช้บริการเป็นกิจวัตร ลูกหลานก็ไหว้บรรพบุรุษไป ส่วนนักออกกำลังก็ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบไป ทำให้ภาพสวนของที่นี่มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมาก และตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคนเมืองในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในสวนต้องห้ามพลาด ที่เป็นตัวอย่างของการปรับพื้นที่ให้มีแหล่งพักผ่อนในท้องถิ่น และแน่นอน เราอยากชวนให้ทุกคนไปเยือนด้วยตัวเองสักครั้ง

 

Information 

ชื่อ: สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ

สถานที่ตั้ง:

 

 

 

เวลาเปิด: เวลา 05.00-19.00 น.

ประเภท: สวนระดับชุมชน

ขนาด: 85 ไร่

 

อ้างอิง:

The post สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋วฯ: เปลี่ยนป่าช้าวัดดอน จากสุสานน่ากลัวสู่สวนน่าวิ่งใจกลางเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Pet Park ที่สวนรถไฟ นำเพื่อนรักแสนรู้ใจมาเดินเล่น https://thestandard.co/pet-park-at-rot-fai-park/ Sun, 05 Mar 2023 03:10:20 +0000 https://thestandard.co/?p=758800

วันนี้ (4 มีนาคม) เป็นวันแรกที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิ […]

The post Pet Park ที่สวนรถไฟ นำเพื่อนรักแสนรู้ใจมาเดินเล่น appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (4 มีนาคม) เป็นวันแรกที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดให้สวนรถไฟเป็น Pet Park อย่างเป็นทางการ โดยสวนรถไฟมีขนาดพื้นที่ 2 ไร่ มีทางเข้าโดยเฉพาะ ไม่กระทบกับเลนจักรยาน 

 

Pet Park ไม่ได้จำกัดแค่สุนัข สามารถนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้ามาใช้บริการได้ ซึ่งขยายจาก Dog Park เดิม และเป็นหนึ่งในนโยบาย 216 ข้อของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. อีกด้วย

 

สำหรับกฎระเบียบเบื้องต้นในการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามา ครั้งแรกต้องนำสัตว์เลี้ยงมาลงทะเบียนก่อน เพื่อที่จะได้ทราบว่ามีการฉีดวัคซีนต่างๆ มาแล้วหรือไม่ หลังจากนั้นก็สามารถเช็กอินให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงจำนวน เพื่อจะได้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม 

 

ทั้งนี้ กทม. ได้จัดเตรียมพื้นที่ถ่ายอุจจาระของสัตว์ รวมทั้งมีถุงและถังขยะให้บริการ เจ้าของสามารถหยิบทิ้งได้ทันที

 

The post Pet Park ที่สวนรถไฟ นำเพื่อนรักแสนรู้ใจมาเดินเล่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
Dog Park เปิดแล้ววันแรกที่ ‘สวนเบญจกิติ’ สวนน้องหมากลางใจเมือง https://thestandard.co/dog-park-benjakitti-park/ Thu, 15 Sep 2022 12:38:56 +0000 https://thestandard.co/?p=682141

วันนี้ (15 กันยายน) สวนเบญจกิติ เปิดให้บริการพื้นที่สวน […]

The post Dog Park เปิดแล้ววันแรกที่ ‘สวนเบญจกิติ’ สวนน้องหมากลางใจเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (15 กันยายน) สวนเบญจกิติ เปิดให้บริการพื้นที่สวนน้องหมา โดยให้ประชาชนและน้องหมาของตนเองได้เข้าไปใช้พื้นที่สวนได้วันนี้เป็นวันแรก ได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดาคนรักน้องหมาจำนวนมาก

 

พื้นที่สวนดังกล่าวตั้งอยู่ตรงข้ามลานจอดรถสวนเบญจกิติ ยาวมาถึงฝั่งขวาของประตู 1 ทางเข้าสวนฝั่งถนนรัชดาภิเษก โดยที่ผู้ใช้บริการจะต้องลงทะเบียนน้องหมาก่อนพาเข้าสวน (LINE: @701uemys หรือสแกน QR Code ในโปสเตอร์)

 

ทั้งนี้ มีข้อปฏิบัติจำนวน 3 ข้อ

 

  1. น้องหมาต้องใส่สายจูง และเจ้าของต้องจูงน้องเสมอ (ไม่อนุญาตให้ถอดสายจูงน้องหมา)
  2. ต้องลงทะเบียนให้น้องหมา และแสดงหลักฐานการยืนยันการลงทะเบียนให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนเข้าใช้บริการ
  3. เจ้าของน้องหมาต้องพกถุงใส่อุจจาระน้องหมา และจัดเก็บอุจจาระน้องหมาแล้วทิ้งขยะให้เรียบร้อย โดยที่ทางสวนฯ ได้จัดเตรียมห้องน้ำสำหรับสุนัขไว้ให้

 

นอกจากนี้ ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (17 กันยายน) เวลา 15.00-18.00 น. กรุงเทพมหานคร (กทม.) นำโดยสำนักสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกับภาคีคนรักน้องหมา จะร่วมจัดกิจกรรม ‘Dog ParK at สวนเบญจกิติ’ โดยมีบูธฉีดวัคซีนน้องหมา ตัดขนน้องหมา โดยโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. สำนักพัฒนาสังคม กทม. และบูธกิจกรรมสำหรับน้องหมา

 

ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมพิเศษ เวิร์กช็อปจาก ครูนล-พันธุ์นุชิต โปษยานนท์ (Nol’s Puppy Class) ในหัวข้อ ‘การพาสุนัขไปที่สาธารณะ’ แนะนำการใช้อุปกรณ์เบื้องต้นและการฝึกสุนัขด้วยตนเอง เพื่อให้สุนัขและเจ้าของเข้าใจในการอยู่ร่วมกันอย่างถูกวิธี สามารถเข้าไปอยู่ในสังคมภายนอกได้อย่างปกติ และป้องกันพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นในที่สาธารณะด้วย

 

The post Dog Park เปิดแล้ววันแรกที่ ‘สวนเบญจกิติ’ สวนน้องหมากลางใจเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
กทม. วาง 7 มาตรการ คุมสวนสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ ป้องกันกลุ่มนัดมีเซ็กซ์ไม่เหมาะสม https://thestandard.co/7-preventive-measure-from-have-sex-in-public-park/ https://thestandard.co/7-preventive-measure-from-have-sex-in-public-park/#respond Wed, 15 Aug 2018 12:29:26 +0000 https://thestandard.co/?p=113756

    จากกระแสข่าวที่ระบุว่า มีกลุ่มบุคคลกระทำอ […]

The post กทม. วาง 7 มาตรการ คุมสวนสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ ป้องกันกลุ่มนัดมีเซ็กซ์ไม่เหมาะสม appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

 

จากกระแสข่าวที่ระบุว่า มีกลุ่มบุคคลกระทำอนาจารในพื้นที่สวนสาธารณะ ล่าสุดสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ได้ออกแนวทางป้องกันเรื่องดังกล่าวหลังการประชุมแนวทางการดูแลสวนสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯ

 

โดย นางวัลยา วัฒนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผยว่า พื้นที่สวนสาธารณะถือเป็นพื้นที่สำหรับประชาชนทุกเพศทุกวัย เป็นพื้นที่ของครอบครัว การทำอนาจารในพื้นที่สวนสาธารณะจึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและผิดกฎหมายการใช้พื้นที่สาธารณะ

 

ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในรูปแบบสวนปิดจำนวน 36 แห่ง ทุกสวนมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย โดย กทม. จ้างจากสำนักงานรักษาความปลอดภัย องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก รวมเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น 507 คน โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตามสภาพพื้นที่สวนเป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่สวนตามวงรอบที่กำหนด 1 ชั่วโมง

 

ซึ่งหลังจากนี้สำนักสิ่งแวดล้อมจะกำหนดแนวทาง 7 ข้อ เพื่อดูแลสวนให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดังนี้

 

1. เพิ่มความถี่ในการตรวจตราพื้นที่โดยรอบสวนของพนักงานรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น และติดตั้งตู้เขียวเพื่อลงบันทึกการตรวจของพนักงานรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสวนสาธารณะ

 

2. กรณีเกิดเหตุการณ์ผิดปกติต้องมีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว ทั้งทางโทรศัพท์ ไลน์ และรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น

 

3. กรณีเป็นเหตุอาชญากรรม เช่น การทะเลาะวิวาท การชิงทรัพย์ การทำอนาจาร ต้องมีการแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับสถานีตำรวจท้องที่

 

4. จัดทำป้ายประกาศ ข้อห้าม ระเบียบการใช้สวนขึ้นใหม่ และเพิ่มข้อห้าม เช่น ห้ามใช้อากาศยานไร้คนขับ (Drone) และห้ามกระทำอนาจาร ซึ่งจะมีการใช้ภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วย

 

5. ติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น

 

6. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตรา กำกับ ดูแลพื้นที่โดยรอบบริเวณห้องน้ำให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ

 

7. ประสานสำนักงานเขต และขอความร่วมมือจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจตราดูแลความปลอดภัยภายในสวนสาธารณะเป็นระยะ รวมทั้งสถานีตำรวจในพื้นที่ด้วย

 

โดยย้ำว่า หากพบการกระทำอนาจารใดๆ ในสวน เจ้าหน้าที่จะเอาผิดตามกฎหมาย โดยแจ้งตำรวจ สน. ท้องที่เพื่อดำเนินคดีทันที

 

ซึ่งผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมเชื่อมั่นว่า แนวทางการเพิ่มระเบียบการใช้สวนสาธารณะให้เข้มงวดมากขึ้นนี้ จะช่วยให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ แต่การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดจะต้องให้การศึกษา ปลูกจิตสำนึกที่ดี ให้คนในสังคมตระหนักถึงวัฒนธรรมที่ดีของสังคมไทย และขอบคุณทุกภาคส่วนในสังคมช่วยเป็นหูเป็นตา เพราะว่าเราคงห้ามมิให้ใครเข้าใช้บริการสวนสาธารณะคงไม่ได้ เพราะสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานครเป็นสวนสำหรับครอบครัวของคนทุกเพศทุกวัย

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post กทม. วาง 7 มาตรการ คุมสวนสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ ป้องกันกลุ่มนัดมีเซ็กซ์ไม่เหมาะสม appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/7-preventive-measure-from-have-sex-in-public-park/feed/ 0