วันนี้ (13 ธันวาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD เก็บภาพมาสคอตน้อง ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปโปเตมัสแคระ ดาวเด่นแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่ประดับอยู่บนหลังคาของอาคารผู้โดยสารของสถานีรถไฟกรุงเทพ ( หัวลำโพง )

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟให้ข้อมูลว่า ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเป็นเหมือนแลนด์มาร์ก จุดถ่ายภาพยอดนิยมของกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก

ฉะนั้นเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นจึงมีการนำน้องหมูเด้งที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์จากธรรมชาติของสวนสัตว์ไทยมาร่วมสร้างบรรยากาศให้น่ารัก สดใสมากยิ่งขึ้น

สำหรับหมูเด้ง เป็นอีกหนึ่งภาพลักษณ์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่ขณะนี้แพร่หลายไปสู่สายตาของทั่วโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาเยี่ยมชม สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก’

The post ‘หมูเด้ง’ บุกหัวลำโพง ซอฟต์พาวเวอร์ไทยบนแลนด์มาร์กเมือง appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (18 พฤศจิกายน) ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย ระหว่างกระทรวง พม. กับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

ในโอกาสนี้วราวุธพากลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ ขึ้นรถรางเยี่ยมชมสัตว์ป่าภายในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว โดยเฉพาะความน่ารักของ ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปแคระซูเปอร์สตาร์ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นลูกฮิปโปแคระ เพศเมีย เกิดจากแม่ชื่อโจนา และพ่อชื่อโทนี่ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ฮิปโปแคระเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กินพืชเป็นอาหาร จัดอยู่ในวงศ์ฮิปโปโปเตมัส แต่มีขนาดเพียง 1 ใน 10 ของฮิปโปโปเตมัสเท่านั้น เป็นสัตว์ที่รักสันโดษ ขี้อาย และหวาดกลัวมนุษย์

วราวุธกล่าวว่าจังหวัดชลบุรีและระยองมีอากาศค่อนข้างร้อนกว่าปกติ เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งธนาคารโลกศึกษาข้อมูลพบว่าจังหวัดระยองจะมีภาวะแล้งมากที่สุด โดยกระทรวง พม. ร่วมกับธนาคารโลกขับเคลื่อนงานในการดูแลกลุ่มเปราะบางในเหตุการณ์ภัยพิบัติ ทั้งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ รวมถึงผู้ด้อยโอกาส ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและปลอดภัยมากที่สุด อีกทั้งกระทรวง พม. จัดตั้งศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยสาธารณภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ทั้งการวางแผน กำหนดมาตรการช่วยเหลือ รวมไปถึงฟื้นฟูเยียวยา เพื่อให้สามารถฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด และความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้มีสถานที่ที่ทำให้มีการเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ชีวิตให้กับกลุ่มเปราะบางที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. แต่มากไปกว่านั้น การทำงานร่วมกันโดยใช้พื้นที่ของสวนสัตว์ทุกแห่งในทุกภาคของประเทศไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่กลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัยที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. เรียนรู้การอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่สามารถทำให้ระบบนิเวศสมดุล เพราะระบบนิเวศที่สมดุลจะช่วยชะลอผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ในระดับหนึ่ง

วราวุธกล่าวว่าวันนี้กระทรวง พม. ต้องขอบคุณองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ที่เปิดพื้นที่ให้พี่น้องกลุ่มเปราะบางที่กระทรวง พม. ดูแล ได้แก่ ผู้สูงอายุ คนพิการ แม่เลี้ยงเดี่ยว และเด็กเล็ก มีโอกาสเข้าถึงการมาดูหมูเด้งที่เป็นเซเลบของประเทศไทย ไม่ใช่ของจังหวัดชลบุรี เพราะมีชาวต่างชาติจากคนละซีกโลกเข้ามาดูกัน ยิ่งไปกว่านั้น พี่น้องกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศไม่เพียงเข้าดูได้ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวแห่งเดียว เพราะ MOU นี้ครอบคลุมถึงสวนสัตว์ทุกแห่งทั่วประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ

ระหว่างนำกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน เยี่ยมชมหมูเด้ง วราวุธพูดคุยกับหญิงชาวอเมริกันที่มาเข้าคิวรอชมหมูเด้ง ทราบว่ารู้จักหมูเด้งตั้งแต่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว โดยติดตามผ่านโซเชียลมีเดียมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากจะมาเจอตัวจริง วันนี้จึงถือโอกาสหลังจากร่วมงานวันเกิดเพื่อนสนิทที่เป็นชาวไทย แล้วเดินทางเข้ามาชมหมูเด้งตั้งแต่เวลา 07.00 น. เพราะฉะนั้นจะเรียกว่าเป็นการตั้งใจเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อชมน้องเด้งโดยเฉพาะก็ว่าได้

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ กระทรวง พม. ให้การสนับสนุนการอำนวยความสะดวกให้กลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแล เข้ารับบริการในการศึกษาเรียนรู้ในทุกรูปแบบที่สวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และร่วมสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป้าหมายสำหรับวางจำหน่ายในพื้นที่สวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ พร้อมทั้งพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแลซึ่งมีคุณสมบัติตามที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ กำหนด เพื่อเข้ารับการฝึกอาชีพและการจ้างงาน

ในขณะที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ให้การสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. เข้าชมสวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันนี้ – 17 พฤศจิกายน 2570 พร้อมทั้งจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมสำหรับกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย (Universal Design) ที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ทางสวนสัตว์จะสนับสนุนพื้นที่ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. และส่งเสริมการฝึกอาชีพและการจ้างงาน

The post หมูเด้งเป็นสักขีพยาน พม.-องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เซ็น MOU เปิดพื้นที่ช่วยกลุ่มเปราะบางเข้าสวนสัตว์ทั่วไทยฟรี 3 ปี appeared first on THE STANDARD.

ทุกอย่างมันเกินควบคุมแล้ว! หลังภาพความน่ารักของหมูเด้ง ฮิปโปแคระตุ้ยนุ้ยขวัญใจชาวไทย กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียที่ครองหัวใจคนทั่วโลก 

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าชาวเน็ตคงได้เห็นภาพของหมูเด้งที่ไปปรากฏตัวอยู่ตามสื่อดังระดับโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น TIME, CNN, BBC, Forbes, The Guardian และล่าสุด The New York Times ขณะที่เพจ Facebook ของ Instagram ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 68 ล้านคนทั่วโลกก็โพสต์ข้อความด้วยว่า “good morning to Moo Deng and Moo Deng only ” 

กระแสหมูเด้งฟีเวอร์ยังลามไปถึงวงการกีฬาที่โดนตกไปเต็มๆ เช่น ฟีนิกซ์ ซันส์ ทีมบาสเกตบอลชื่อดังของ NBA โพสต์ภาพหมูเด้งคู่กับ เควิน ดูแรนต์ ไปจนถึงบาเยิร์น มิวนิก ทำมีมล้อกับสกอร์ที่ทัพเสือใต้เอาชนะดินาโม ซาเกร็บ 9-2 หรือ F1 ไมอามี ซึ่งโพสต์ภาพบัตร VIP ของหมูเด้งที่ใช้ในศึกไมอามีกรังด์ปรีซ์ และล่าสุดหมูเด้งก็ไปปรากฏบนจอยักษ์สนามกีฬามิชิแกน ระหว่างศึกการแข่งอเมริกันฟุตบอลระหว่าง University of Michigan กับ University of Southern California เรียกว่าน้องรันทุกวงการ

ทำไม ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปแคระเพศเมียวัย 2 เดือนจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวของไทย ถึงกลายเป็นที่เอ็นดูของคนทั่วโลกในชั่วข้ามคืน วิทยาศาสตร์อาจมีคำตอบ

• อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ ทำไมใครๆ ก็รักหมูเด้ง

ผิวนวลเนียนเต่งตึง แก้มสีชมพูน่าหยิก ท่าทางอ้อนพี่เลี้ยงแสนน่าเอ็นดู หรือแม้แต่ตอนสวบขาก็ยังดูน่ารัก หมูเด้งเป็นดาวดวงใหม่ที่ไม่ว่าชาวเน็ตไทยหรือต่างชาติก็อดเอ็นดูไม่ได้ ทำไมกัน

เว็บไซต์ The Washington Post อธิบายปรากฏการณ์หมูเด้งฟีเวอร์ว่า ที่หมูเด้งรวมถึงลูกสัตว์ตัวอื่นๆ มักเป็นที่เอ็นดูของมนุษย์ เพราะความน่ารักของพวกมันเข้ามาครอบงำสมองของเรา 

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ภาพของสัตว์ในช่วงวัยที่ยังเป็นทารกน้อยมักจะกระตุ้นสัญชาตญาณการเลี้ยงดูที่ฝังแน่นอยู่ในตัวมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านี่เป็นลักษณะของวิวัฒนาการที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงอยู่ได้ตลอดหลายพันปี 

แดเนียล ครูเกอร์ นักวิจัยด้านจิตวิทยาเชิงวิวัฒนาการจาก University of Michigan และ The State University of New York at Buffalo กล่าวว่า “เมื่อเราเห็นลักษณะเฉพาะของทารก เช่น ดวงตากลมโต หน้าผากโหนกนูน คางแคบเล็ก และแขนขาอวบอ้วน สมองมนุษย์จะตีความว่านี่คือสัญญาณของสิ่งมีชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือ ต้องการการพึ่งพา ทำให้เรารู้สึกอยากเข้าไปดูแล” พร้อมย้ำด้วยว่า ความรู้สึกเหล่านี้เป็นสิ่งที่ ‘ทรงพลังมาก’ จนทำให้มนุษย์เกิดความรู้สึกได้กับสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1943 คอนราด ลอเรนซ์ นักพฤติกรรมวิทยาและนักชีววิทยาชาวออสเตรีย เป็นคนแรกที่เสนอแนวคิดเรื่อง Baby Schema ซึ่งอธิบายว่า ลักษณะเฉพาะต่างๆ ของทารก เช่น ตากลม แก้มป่อง จมูกนิด ปากหน่อย ร่างกายที่เล็กจิ๋ว ล้วนเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้มนุษย์รู้สึกว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ‘น่ารัก’ และนับแต่นั้นมาก็มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่ามนุษย์รู้สึกดึงดูดใจต่อคุณสมบัติเหล่านี้

ในปี 2009 มีงานวิจัยที่พบว่า Baby Schema เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้มนุษย์ทั้งชายและหญิงต้องการที่จะดูแลสิ่งนั้นๆ ขณะที่งานวิจัยอื่นๆ เผยว่า ความน่ารักของทารกส่งผลต่อความรู้สึกของมนุษย์ผู้ใหญ่แม้พวกเขาจะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ก็ตาม

มอร์เทน คริงเกิลบัค ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาแห่ง University of Oxford กล่าวว่า ความน่ารักน่าชังที่เราเห็นเป็นมากกว่าแค่ภาพ เพราะการเห็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาน่ารักจะกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความสุขอย่างรวดเร็ว นี่จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกและสัตว์หน้าตาน่ารักดึงดูดความสนใจของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว แถมยังยากที่จะละสายตาเสียด้วย

“และนั่นก็เป็นปฏิกิริยาแบบเดียวกับที่ผู้คนรู้สึกเมื่อเห็นสัตว์น่ารักๆ ในสวนสัตว์ รวมถึงลูกฮิปโปแคระในตอนนี้” ครูเกอร์กล่าวเสริม

เดวิด บาราช นักชีววิทยาวิวัฒนาการและศาสตราจารย์กิตติคุณด้านจิตวิทยาแห่ง University of Washington เผยว่า เขาเองก็มองว่า Baby Schema อาจอยู่เบื้องหลังความโด่งดังของหมูเด้ง จนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสวนสัตว์เปิดเขาเขียวพุ่งขึ้นเกินเท่าตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ 

บาราชกล่าวว่า จมูกสั้นๆ ตากลมโต หูเล็กๆ และหุ่นกระปุ๊กลุกของหมูเด้งเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ “และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮิปโปได้รับความนิยมและดูน่ารักน่าชังแม้กระทั่งพวกมันโตเต็มวัย…แม้ว่าฮิปโปในแอฟริกาจะฆ่ามนุษย์มากกว่าสัตว์มีกระดูกสันหลังชนิดอื่นๆ ก็ตาม”

• หมูเด้งกับปรากฏการณ์ Snowball Effect

นอกจากเรื่อง Baby Schema แล้ว กระแสหมูเด้งฟีเวอร์ยังอาจสามารถอธิบายได้ด้วยปรากฏการณ์ Snowball Effect หรือผลกระทบใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมล้วนเริ่มมาจากสิ่งเล็กๆ ที่ทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนลูกบอลหิมะก้อนจิ๋วที่กลิ้งลงจากยอดเขาและสะสมเป็นก้อนหิมะขนาดมหึมาในที่สุด

บาราชกล่าวว่า “เมื่อความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาถึงเกณฑ์บางอย่าง ความสนใจนั้นๆ จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับความโด่งดังของครอบครัวคาร์ดาเชียนก็อธิบายได้ด้วยปรากฏการณ์นี้”

ท้ายที่สุด เราหวังว่ากระแสหมูเด้งฟีเวอร์จะเป็นสิ่งที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาตระหนักเกี่ยวกับฮิปโปแคระมากขึ้น เพราะปัจจุบันฮิปโปแคระจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในบัญชีแดง IUCN Red List การวิจัยในปี 1993 พบว่ามีฮิปโปแคระเหลืออยู่ตามธรรมชาติเพียง 2,000-2,500 ตัวเท่านั้น เนื่องจากพวกมันสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทำลายป่า การทำเหมือง และการล่าสัตว์ คงจะดีไม่น้อยหากความสนใจเหล่านี้ขยายไปยังเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ของหมูเด้ง เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือและปกป้องฮิปโปแคระทั่วโลกต่อไป

ภาพ: ณาณารัฐ ภักดีอาสา / THE STANDARD

อ้างอิง:

• https://www.washingtonpost.com/science/2024/09/18/baby-hippo-moo-deng-viral-science
• https://www.yahoo.com/lifestyle/scientific-reason-obsessed-moo-deng-094501399.html
• https://www.independent.co.uk/asia/southeast-asia/moo-deng-hippo-baby-pygmy-memes-viral-thailand-zoo-b2617216.html?#Echobox=1726875278

The post ทำไมใครๆ ก็รักหมูเด้ง วิทยาศาสตร์อธิบายได้ appeared first on THE STANDARD.

เรียกว่าดังแบบฉุดไม่อยู่สำหรับ ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปแคระสุดน่ารักประจำสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่ตอนนี้ชื่อเสียงดังไกลระดับโลก หลังสื่อนอกให้ความสนใจและพร้อมใจกันรายงานกระแสหมูเด้งฟีเวอร์ รวมถึงสื่อเจ้าใหญ่อย่าง TIME, CNN, BBC, Forbes และ The Guardian

นิตยสาร TIME เขียนบทความของหมูเด้งไว้ในหมวด Celebrities หรือคนดัง โดยกล่าวว่า “ทุกการเคลื่อนไหวของน้องเป็นที่จับตา ภาพถ่ายใหม่ๆ ของน้องถูกแชร์และพูดถึงอย่างกว้างขวาง ผิวที่เป็นประกายแวววาวอย่างเป็นธรรมชาติของเธอทำให้ใครหลายคนต้องอิจฉา แถมเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแฟนอาร์ตรวมถึงลุคการแต่งหน้าใหม่ๆ หมูเด้งจากประเทศไทยไม่ใช่คนดังระดับเอลิสต์ทั่วไป แต่น้องก็ได้รับการปฏิบัติประหนึ่งซูเปอร์สตาร์”

ด้าน CNN ก็เกาะกระแสความร้อนแรงของหมูเด้งด้วยเช่นกัน โดยบอกว่า “ด้วยแก้มอมชมพูและเสน่ห์ตามธรรมชาติ ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปแคระวัย 2 เดือน มีแฟนคลับติดตามบนโลกออนไลน์แล้วหลายล้านคน”

นิตยสาร Forbes เขียนบทความอธิบายที่มาที่ไปถึงความโด่งดังของหมูเด้งในชื่อ Who Is Moo Deng? The Viral Baby Hippo, Explained (หมูเด้งคือใคร? รู้จักฮิปโปน้อยที่กำลังเป็นไวรัล) โดยบอกว่าหมูเด้งเป็นฮิปโปแคระที่ดังมาจาก TikTok คลิปยอดชมหลักล้าน ขณะภาพต่างๆ ของหมูเด้งถูกนำไปเป็นมีมบนโลกออนไลน์ ขนาดที่ SEPHORA ยังทำคอนเทนต์ ‘ปัดแก้มอมชมพูแบบฮิปโปน้อย’ อีกทั้งยังเขียนด้วยว่า “ความลับที่ทำให้หมูเด้งมีเสน่ห์ดึงดูดใจนั้นเรียบง่าย เพราะมันน่ารักมาก เหมือนโปเกมอนมากกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ”

หนังสือพิมพ์ The Guardian เล่าเรื่องราวระหว่างหมูเด้งและ อรรถพล หนุนดี เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสวนสัตว์ ซึ่งบอกว่า “วันที่ผมเห็นหมูเด้งเกิด ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้หมูเด้งโด่งดัง แต่ไม่เคยคิดว่าจะดังไปทั่วโลก ผมคิดว่าหมูเด้งจะดังได้ในประเทศไทย แต่ไม่ดังในระดับนานาชาติ” พร้อมอธิบายด้วยว่า ญาติๆ ของหมูเด้งหลายตัวมีชื่อเป็นอาหารที่ทำจากหมู ทั้งหมูหวาน พะโล้ หมูตุ๋น (แต่เป็นฮิปโปทุกตัว)

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายสำนักข่าวเผยแพร่ตรงกันคือ ประเด็นด้านความปลอดภัยของหมูเด้ง หลังชื่อเสียงที่โด่งดังทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันเข้ามาชมความน่ารัก และเป็นเหตุให้มีคนบางกลุ่มทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ขว้างเปลือกหอยใส่ หรือราดน้ำใส่หมูเด้ง ซึ่ง ณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ขอความกรุณานักท่องเที่ยวว่าอย่าปาสิ่งของใส่หมูเด้งเพราะอาจจะบาดเจ็บได้ ขอให้เคารพกติกาของสถานที่ มีมารยาทในการเที่ยวชม

ปัจจุบันฮิปโปแคระจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในบัญชีแดง IUCN Red List การวิจัยในปี 1993 พบว่า มีฮิปโปแคระเหลืออยู่ตามธรรมชาติประมาณ 2,000-2,500 ตัว พวกมันสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยเพราะกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทำลายป่า การทำเหมือง และการล่าสัตว์ ซึ่งนักอนุรักษ์หวังว่ากระแสหมูเด้งฟีเวอร์จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนตระหนัก เรียนรู้ และเข้าใจธรรมชาติของฮิปโปแคระมากขึ้น

อ้างอิง:

• https://time.com/7021047/moo-deng-baby-pygmy-hippo-thailand-viral-cute-safety-concerns/
• https://edition.cnn.com/2024/09/14/travel/pigmy-hippo-thailand-latest-online-sensation-intl-hnk/index.html
• https://www.bbc.com/news/articles/cy848292dr4o
• https://www.forbes.com/sites/danidiplacido/2024/09/13/the-internet-is-obsessed-with-moo-deng-the-viral-baby-hippo/
• https://www.theguardian.com/world/2024/sep/13/moo-deng-hippo-tiktok-khao-kheow-open-zoo-thailand-viral

The post หมูเด้งฟีเวอร์! สื่อดังของโลกพร้อมใจพูดถึง ‘ฮิปโปแคระ’ เซเลบขวัญใจคนไทย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (14 กันยายน) ช่างภาพ THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจความน่ารักของ ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปแคระที่กำลังดังไกลไปทั่วโลก จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาชื่นชมความน่ารักของหมูเด้งตั้งแต่ช่วงเช้า ส่งผลให้การจราจรบริเวณด้านหน้าสวนสัตว์ติดขัดยาว บริเวณที่ขายตั๋วทางเข้าสวนสัตว์มีหลายครอบครัวต่อแถวรอซื้อตั๋วเข้าชมตั้งแต่เวลา 07.00 น. ขณะที่สวนสัตว์เปิดให้บริการในเวลา 08.00 น.



ทั้งนี้ เนื่องจากมีประชาชนสนใจเข้าชมความน่ารักของลูกฮิปโปแคระจำนวนมาก วันนี้สวนสัตว์จึงจัดระเบียบการเข้าชม โดยช่วงบ่ายจะต้องมีการรับบัตรคิวเพื่อเข้าชมเป็นรอบๆ เพื่อให้การรับชมหมูเด้งไม่แออัด และสวนสัตว์ขอความร่วมมืออย่ารังแกน้อง อย่าโยน เท หรือขว้างปาสิ่งของต่างๆ ใส่น้อง เพราะอาจทำให้น้องหมูเด้งได้รับบาดเจ็บ

สำหรับ ‘หมูเด้ง’ เป็นชื่อของฮิปโปแคระเพศเมีย ของพ่อแม่ฮิปโปแคระ ‘โจน่าและโทนี่’ เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 โดยชื่อ ‘หมูเด้ง’ มาจากการโหวตของแฟนๆ สวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่ติดตามชีวิตสัตว์น่ารักๆ ของสวนสัตว์มาโดยตลอด

ทั้งนี้ หากใครยังไม่พร้อมฝ่าการจราจรและผู้คนมาชมหมูเด้งที่สวนสัตว์ สามารถติดตามไลฟ์สดของเพจสวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo เพื่อรับชมบรรยากาศความน่ารักของน้องหมูเด้งได้เลย

The post แห่ชมความน่ารัก ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปแคระ ทำสวนสัตว์เปิดเขาเขียวรถติดยาว appeared first on THE STANDARD.

ก่อนหน้านี้สวนสัตว์และอุทยานแห่งชาติ ได้ปิดให้บริการเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเริ่มคลี่คลาย ได้มีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ และได้มีการพิจารณากลับมาเปิดสวนสัตว์อีกครั้ง ในวันที่ 15 มิถุนายน และเปิดอุทยานแห่งชาติในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

THE STANDARD พาไปสำรวจสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี กับความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้งในรูปแบบ ‘Zoo New Normal’

The post ‘Zoo New Normal’ ชมความพร้อมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ก่อนเปิดอีกครั้ง 15 มิถุนายนนี้ appeared first on THE STANDARD.

แม้ไม่มีเขาดิน แต่คนรักสัตว์อย่าเพิ่งสิ้นใจ เพราะปีหน้าเมืองไทยยังมีสวนสัตว์ดีๆ ที่รอคอยให้ทุกคนไปเยี่ยมเยือนอีกเพียบ แถมถ้าใครมาเที่ยวช่วงปีใหม่ สวนสัตว์ 6 แห่งทั่วประเทศยังจัดโปรโมชันพิเศษ จ่ายค่าเข้า 3 คน ฟรีเข้าชม 1 คน ให้เพลิดเพลินกันได้อย่างเต็มที่ แล้วพบกันที่สวนสัตว์ใกล้บ้านคุณ

ภาพประกอบ: Nisakorn R.

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post สวนสัตว์น่าไป ที่ไหนมีอะไรเป็นดาวเด่น appeared first on THE STANDARD.

หลังสวนสัตว์เขาดินปิดทำการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนย้ายสัตว์ชนิดต่างๆ ก็เริ่มต้นขึ้น ผ่านมาแล้ว 1 เดือนเต็ม ลองมาดูกันว่าสัตว์ชนิดต่างๆ ไปพักอาศัยกันอยู่ที่ไหนบ้าง

ภาพประกอบ: Karin Foxx

The post 897 ชีวิตสัตว์ในเขาดิน ไปอยู่ไหนกันบ้าง appeared first on THE STANDARD.

นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขนย้ายสัตว์ภายในสวนสัตว์ดุสิต (เขาดินวนา) ออกไปยังสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วประเทศในสังกัดขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะเริ่มวางแผนขนย้ายหลังปิดเขาดินในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาขนย้ายสัตว์ทั้งหมดกว่า 1,600 ตัวแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

ภาพประกอบ: Thiencharas W.

The post ปิดเขาดิน 30 กันยายน ขนย้ายสัตว์ไปไหนบ้าง appeared first on THE STANDARD.

นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขนย้ายสัตว์ภายในสวนสัตว์ดุสิต (เขาดินวนา) ออกไปยังสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วประเทศในสังกัดขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่า จะเริ่มวางแผนขนย้ายหลังปิดเขาดินในวันที่ 30 ก.ย. นี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาขนย้ายสัตว์ทั้งหมดกว่า 1,600 ตัว ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

สำหรับความคืบหน้าของการสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่บริเวณคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบโครงสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ที่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปี โดยจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปี 2565 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เคยถูกน้ำท่วมขัง จึงต้องสำรวจและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อออกแบบก่อสร้างสวนสัตว์ให้มั่นคงแข็งแรง ด้วยการเรียนรู้จากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 มาถอดบทเรียนการสร้างแนวป้องกันพื้นที่

ขณะที่การขนย้ายสัตว์ตามแผน หลังปิดเขาดินจะต้องให้สัตว์พักฟื้นและมีระยะเวลาให้สัตว์ปรับตัว ก่อนทำการเคลื่อนย้ายสัตว์ไปฝากไว้ในสวนสัตว์ 6 แห่ง และโครงการคชอาณาจักร ภายใต้การบริหารขององค์การสวนสัตว์

ขณะนี้ได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วว่าจะเคลื่อนย้ายสัตว์แต่ละตัวไปที่ใดบ้าง ‘แม่มะลิ’ ฮิปโปโปเตมัสที่มีอายุมากที่สุด และต้องดูแลเป็นพิเศษ จะถูกส่งไปที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เช่นเดียวกับยีราฟ กวาง เก้ง นกฟลามิงโก ส่วนช้าง ไปอยู่ที่โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ และสัตว์ปีกส่วนใหญ่จะส่งไปอยู่ที่สวนสัตว์อุบลราชธานี

งู จะย้ายไปสวนสัตว์นครราชสีมา ลิง ค่าง ชะนี จะย้ายไปสวนสัตว์นครราชสีมา และสวนสัตว์ขอนแก่น นกเงือก จะย้ายไปสวนสัตว์สงขลา ส่วนสัตว์ตระกูลหมี จะย้ายไปสวนสัตว์เชียงใหม่

ปัจจุบันเขาดินมีสัตว์ป่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมกว่า 1,600 ตัว และยังมีเกิดใหม่เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการรายงานตัวเลขว่า ช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมสวนสัตว์เขาดิน 426,417 คนแบ่งเป็น เดือน ส.ค. 341,617 คน ส่วนช่วง ก.ย. (วันที่ 1-10 ก.ย.) จำนวน 84,800 คน

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

• news.thaipbs.or.th/content/274520
• news.ch7.com/detail/302959
• www.prachachat.net/general/news-218077

The post เขาดินเตรียมย้ายสัตว์ไปสวนสัตว์ทั่วประเทศ แม่มะลิ ไปเขาเขียว คาดแล้วเสร็จในสิ้นปี appeared first on THE STANDARD.