สนามบิน – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 26 Dec 2024 10:15:33 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สุริยะรับ สนามบินดอนเมืองผู้โดยสารแออัด เหตุสายการบินย้ายฐานกลับจากสุวรรณภูมิ สั่งผู้อำนวยการ AOT เร่งแก้ปัญหา https://thestandard.co/suriya-don-muang-overcrowding/ Thu, 26 Dec 2024 10:15:33 +0000 https://thestandard.co/?p=1024167 เทศกาลปีใหม่

วันนี้ (26 ธันวาคม) สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมน […]

The post สุริยะรับ สนามบินดอนเมืองผู้โดยสารแออัด เหตุสายการบินย้ายฐานกลับจากสุวรรณภูมิ สั่งผู้อำนวยการ AOT เร่งแก้ปัญหา appeared first on THE STANDARD.

]]>
เทศกาลปีใหม่

วันนี้ (26 ธันวาคม) สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีสนามบินดอนเมืองมีปัญหาเรื่องการรอคิวล่าช้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากมีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมากว่า เรื่องนี้ตนเองเห็นใจประชาชนที่ใช้บริการ เพราะที่ผ่านมามีสายการบินที่ย้ายกลับจากสุวรรณภูมิมาใช้ฐานที่ดอนเมือง จึงทำให้เกิดปัญหาความแออัดขึ้น จึงสั่งการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่ง กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย รับปากจะลงไปดูปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งขณะนี้ระดมเจ้าหน้าที่ของ AOT ไปแก้ไขปัญหาตรงนี้แล้วเพื่อบรรเทาปัญหา และคิดว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน 

 

ส่วนการเตรียมความพร้อมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เท่าที่ทราบขณะนี้ไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากมีระบบสแกนหน้าอัตโนมัติมาช่วยลดปัญหารอคิว

 

สนามบินดอนเมืองไม่ได้แออัดทั้งวัน

 

กีรติยอมรับว่าที่สนามบินดอนเมืองมีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก เช่น ในช่วงเช้าของวันนี้ (26 ธันวาคม) ในจุดตรวจค้นอาคารภายในประเทศ พบมีคิวผู้โดยสารยืนต่อแถวรอประมาณ 25 นาที ซึ่งถือว่าเกินกว่ามาตรฐานปกติ เพราะมีมาตรฐานปกติอยู่ที่ประมาณ 15 นาทีของกระบวนการตรวจค้น ซึ่งทาง AOT เพิ่มกำลังพลในการเข้ามาช่วยตรวจค้นและตรวจเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารประมาณ 30% เพื่อพยายามเคลียร์ผู้โดยสาร 

 

กีรติกล่าวอีกว่า ความแออัดไม่ได้เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน แต่จะเป็นเฉพาะช่วงพีคของการเดินทางในช่วงเวลาประมาณ 05.30-07.00 น. ในแต่ละวัน และได้เพิ่มช่องทางพิเศษพร้อมจัดเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มอัตรากำลังเพื่อรองรับการเดินทาง 

 

ขณะที่สถานการณ์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กีรติกล่าวอีกว่า การเปิดใช้ระบบ Auto Gate สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทำให้ลดความแออัดและแถวคอยของผู้โดยสารขาออกได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ AOT พยายามเร่งนำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้เพื่อให้การเดินทางของผู้โดยสารสะดวกรวดเร็วขึ้น 

 

ทั้งนี้ ฝากถึงผู้โดยสารที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำหรับผู้โดยสารเดินทางในประเทศขอให้เดินทางมาถึงสนามบินก่อนประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศขอให้เดินทางถึงสนามบินก่อนประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารเดินทางได้ทันอย่างแน่นอน ซึ่งจะใช้โมเดลเดียวกันทุกสนามบิน

The post สุริยะรับ สนามบินดอนเมืองผู้โดยสารแออัด เหตุสายการบินย้ายฐานกลับจากสุวรรณภูมิ สั่งผู้อำนวยการ AOT เร่งแก้ปัญหา appeared first on THE STANDARD.

]]>
รัฐบาลปลื้ม UNESCO ยก ‘ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ’ ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินที่สวยที่สุดในโลก https://thestandard.co/unesco-suvarnabhumi-airport-as-1-of-6-most-beautiful-airports/ Fri, 15 Nov 2024 03:37:03 +0000 https://thestandard.co/?p=1008940 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

วันนี้ (15 พฤศจิกายน) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนา […]

The post รัฐบาลปลื้ม UNESCO ยก ‘ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ’ ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินที่สวยที่สุดในโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

วันนี้ (15 พฤศจิกายน) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้รับการยกย่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ให้ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินที่สวยที่สุดในโลกประจำปี 2567 (The World’s Most Beautiful List 2024)

 

นอกจากนี้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังถูกเสนอชื่อเข้ารับรางวัล Prix Versailles หมวดหมู่สนามบิน จากคณะกรรมการ The Prix Versailles Selection Committee ซึ่งร่วมกับ UNESCO ทั้งนี้ จะประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ณ สำนักงานใหญ่ UNESCO กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 

 

สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนการออกแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในด้านความงามทั้งภายนอกและภายในอาคาร ประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ผสมผสานกับบริบททางสังคมและสิ่งแวดล้อม สำหรับอาคาร SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นอาคารสูง 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีพื้นที่ 216,000 ตารางเมตร มีประตูทางออกเชื่อมต่อกับหลุมจอดประชิดอาคาร (Contact Gate) จำนวน 28 หลุมจอด 

 

ถือว่ามีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม อัตลักษณ์ การออกแบบ การสร้างประสบการณ์ให้ผู้โดยสาร รวมทั้งให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการถ่ายทอดความวิจิตรของเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ไทย สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ 

 

สำหรับ 6 สนามบินที่เว็บไซต์ prix-versailles.com ประกาศให้เป็น 6 สนามบินที่สวยที่สุดในโลกประจำปี 2567 ได้แก่

 

  1. อาคาร SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport) ประเทศไทย 
  2. อาคารผู้โดยสาร E ท่าอากาศยานนานาชาติโลแกน (Logan International Airport) สหรัฐอเมริกา 
  3. อาคารผู้โดยสารที่ 2 ท่าอากาศยานชางงี (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์ 
  4. ท่าอากาศยานนานาชาติซายิด (Zayed International Airport) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 
  5. ท่าอากาศยานนานาชาติเฟลิเปอังเกเลส (Felipe Ángeles International Airport) ประเทศเม็กซิโก
  6. ท่าอากาศยานนานาชาติแคนซัสซิตี้ (Kansas City International Airport) สหรัฐอเมริกา

The post รัฐบาลปลื้ม UNESCO ยก ‘ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ’ ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินที่สวยที่สุดในโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษก รบ. เตรียมเปิดใช้งานเช็กอินระบบ Biometric ลดการรอคิว นำร่องผู้โดยสารในประเทศ 1 พ.ย. นี้ https://thestandard.co/biometric-airport-checkin-1-nov/ Wed, 30 Oct 2024 07:18:32 +0000 https://thestandard.co/?p=1001767

วันนี้ (30 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายก […]

The post โฆษก รบ. เตรียมเปิดใช้งานเช็กอินระบบ Biometric ลดการรอคิว นำร่องผู้โดยสารในประเทศ 1 พ.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (30 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยินดีกับตัวเลขผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 

 

ในปีงบประมาณ 2567 (เดือนตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) มียอดผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

 

ขณะที่ตารางการบินฤดูหนาว 2024/2025 ของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% และมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 23% โดยเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง

 

จิรายุกล่าวอีกว่า ทอท. ยังขานรับนโยบายรัฐบาลเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เปิดระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ระบุตัวตนของผู้โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย รวดเร็ว และลดระยะเวลารอคิว นำร่องให้ผู้โดยสารภายในประเทศใช้ก่อนในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และเปิดใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศวันที่ 1 ธันวาคม 2567 แต่ทั้งนี้ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลด้วย

 

“รัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในการยกระดับการให้บริการในท่าอากาศยานไทยให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และมีความพร้อมทั้งในด้านระบบ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เน้นความสะดวกสบาย รวดเร็ว และลดระยะเวลาให้กับผู้ใช้บริการ โดยเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยกระดับศักยภาพเป็นท่าอากาศยานที่ดีในระดับโลกได้” จิรายุกล่าว

 

2 วิธีลงทะเบียนใช้งานระบบสแกนหน้า

 

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ เมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป

 

ลงทะเบียนใช้งานได้ 2 วิธี ได้แก่

 

  1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน: ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE)

  2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS): หลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง เลือก Enrollment จากนั้นสแกนบาร์โค้ดจากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้า ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน



The post โฆษก รบ. เตรียมเปิดใช้งานเช็กอินระบบ Biometric ลดการรอคิว นำร่องผู้โดยสารในประเทศ 1 พ.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น https://thestandard.co/traveling-through-6-airports-will-use-the-biometric-system/ Tue, 29 Oct 2024 05:26:38 +0000 https://thestandard.co/?p=1001242 ระบบ Biometric

วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนว […]

The post เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
ระบบ Biometric

วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)

 

ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล

 

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่

 

  1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ

 

  1. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน

 

ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

 

ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ

 

ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง

 

โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์

 

ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73% 

 

โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37% 

 

ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น

 

ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง

 

สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02% 

 

โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00%

The post เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
สนามบินอินชอนเตรียมแยกทางเข้า-ออกพิเศษสำหรับคนดัง เพื่อลดสถานการณ์การรวมตัวของฝูงชน https://thestandard.co/incheon-airport-separate-entrance-celebs/ Thu, 24 Oct 2024 07:35:26 +0000 https://thestandard.co/?p=999585

หลังจากที่หน่วย Incheon International Airport Corporati […]

The post สนามบินอินชอนเตรียมแยกทางเข้า-ออกพิเศษสำหรับคนดัง เพื่อลดสถานการณ์การรวมตัวของฝูงชน appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลังจากที่หน่วย Incheon International Airport Corporation ของสนามบินอินชอน ณ ประเทศเกาหลีใต้ ออกมาเผยว่า พวกเขากำลังเตรียมออกนโยบายเข้มงวดสำหรับการมาถึงหรือการเดินทางของเหล่าเซเลบริตี้ ทั้งนักแสดง ไอดอล หรือนักกีฬา เนื่องจากเหตุการณ์ที่ผู้รักษาความปลอดภัยของ บยอนอูซอก ประพฤติตัวไม่เหมาะสม จนสนามบินอินชอนฟ้องร้องบริษัทของผู้รักษาความปลอดภัยกลุ่มดังกล่าวไปแล้วนั้น 

 

ล่าสุด Incheon International Airport Corporation ประกาศถึงการเตรียมแยกทางเข้าและทางออกพิเศษที่สนามบินอินชอนสำหรับเหล่าเซเลบริตี้โดยเฉพาะ โดยองค์กรออกแถลงการณ์ว่า “เพื่อที่จะลดสถานการณ์ที่เกิดการรวมตัวของฝูงชน เราจึงจัดหาวิธีใหม่ที่จะทำให้เหล่าเซเลบริตี้หรือบุคคลสาธารณะใช้ทางเข้าและทางออกเฉพาะของพวกเขาที่สนามบินอินชอน เราจะเริ่มต้นใช้มาตรการนี้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2024 เป็นต้นไป”

 

สนามบินอินชอนอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า “ด้วยความป๊อปปูลาร์ของศิลปินเกาหลีที่เพิ่มมากขึ้นในเวทีระดับโลก จึงเกิดกรณีที่ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงสถานการณ์ที่เหล่าแฟนคลับมารวมตัวกันอยู่ที่สนามบินในช่วงเวลาที่ศิลปินมาถึงหรือเดินทางไปที่อื่น ซึ่งฝูงชนจำนวนมากนี้ก่อให้เกิดความไม่สะดวกและรบกวนผู้โดยสารทั่วไปในสนามบิน อีกทั้งยังทำให้เกิดความกังวลต่อความปลอดภัยอีกด้วย”

 

อย่างไรก็ตาม ทางสนามบินอินชอนไม่ได้สร้างประตูทางเข้า-ออกพิเศษในสนามบินขึ้นมาใหม่ แต่เหล่าเซเลบริตี้จะต้องใช้ประตูที่มีอยู่แล้วที่เกตสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและนักบิน ซึ่งถ้าหากเซเลบริตี้คนใดต้องการใช้ประตูพิเศษจริงๆ ทางเอเจนซีของบุคคลนั้นจะต้องติดต่อสนามบินเพื่อดำเนินการเป็นพิเศษล่วงหน้า

 

ภาพ: The Chosunilbo JNS / Imazins via Getty Images

อ้างอิง: 

The post สนามบินอินชอนเตรียมแยกทางเข้า-ออกพิเศษสำหรับคนดัง เพื่อลดสถานการณ์การรวมตัวของฝูงชน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กองทัพอากาศเปิดพื้นที่สนามบินเก่าให้ประชาชนทิ้งดินโคลน-ขยะ เพื่อฟื้นฟูบ้านเรือนที่รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมเชียงราย https://thestandard.co/air-force-opens-site-chiang-rai-flood-cleanup/ Sat, 28 Sep 2024 08:36:22 +0000 https://thestandard.co/?p=989135 กองทัพอากาศ

วันนี้ (28 กันยายน) พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชา […]

The post กองทัพอากาศเปิดพื้นที่สนามบินเก่าให้ประชาชนทิ้งดินโคลน-ขยะ เพื่อฟื้นฟูบ้านเรือนที่รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมเชียงราย appeared first on THE STANDARD.

]]>
กองทัพอากาศ

วันนี้ (28 กันยายน) พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ สั่งการให้ฝูงบิน 416 เชียงราย ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงของ กองทัพอากาศ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนทิ้งดินโคลน เพื่อฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม

 

โดยร่วมกับ วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวสามารถใช้ฝังกลบดินโคลนและเศษเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นจำนวนมาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วที่สุด

 

สำหรับบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สนามบินเก่า พื้นที่รวมประมาณ 10 ไร่ สามารถใช้ในการฝังกลบดินโคลนและเศษเฟอร์นิเจอร์ โดยการขุดเปิดหน้าดินลึกประมาณ 4 เมตร ลักษณะการดำเนินงานคล้ายการขุดบ่อฝังขยะ โดยจะเกลี่ยกลบเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์หน้าดินได้ดังเดิม

 

ขั้นตอนดำเนินงานได้มอบให้ น.ท. ปราโมทย์ กุยแก้ว ผู้บังคับฝูงบิน 416 เป็นผู้กำกับดูแล ประสานการปฏิบัติ และอำนวยความสะดวกให้กับเทศบาลนครเชียงรายอย่างใกล้ชิด

 

พล.อ.อ. พันธ์ภักดี ระบุต่อว่า กองทัพอากาศ โดยฝูงบิน 416 ยังคงให้การช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติจนกว่าสถานการณ์วิกฤตจะคลี่คลาย

The post กองทัพอากาศเปิดพื้นที่สนามบินเก่าให้ประชาชนทิ้งดินโคลน-ขยะ เพื่อฟื้นฟูบ้านเรือนที่รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมเชียงราย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตม. สนามบินติดสติกเกอร์หัวใจสีรุ้ง สร้างความเชื่อมั่น ลดความกังวลนักเดินทาง LGBTQIA+ บินเข้า-ออกไทย https://thestandard.co/airport-immigration-rainbow-heart-stickers/ Thu, 01 Aug 2024 05:17:32 +0000 https://thestandard.co/?p=965921

วันนี้ (1 สิงหาคม) พล.ต.ต. เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการตร […]

The post ตม. สนามบินติดสติกเกอร์หัวใจสีรุ้ง สร้างความเชื่อมั่น ลดความกังวลนักเดินทาง LGBTQIA+ บินเข้า-ออกไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (1 สิงหาคม) พล.ต.ต. เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ผบก.ตม.2) กล่าวถึงกรณีที่ ตม. สนามบินสุวรรณภูมิติดสติกเกอร์มีสัญลักษณ์เป็นรูปหัวใจสีรุ้ง มีอักษร LGBTQIA2S+ และข้อความ Immigration 2 บริเวณช่องตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าและขาออกประเทศว่า เนื่องจากโลกยุคปัจจุบันเปิดกว้างด้านเพศทางเลือกต่างๆ และรัฐบาลให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางเพศ โดยเฉพาะชาว LGBTQIA+ ซึ่งประเทศไทยประกาศจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2030 ขึ้น 

 

ผบก.ตม.2 กล่าวว่า ในฐานะที่ด่าน ตม. สนามบินทั้ง 5 แห่งของ บก.ตม.2 ได้แก่ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และหาดใหญ่ เป็นประตูหลักของประเทศ และมีคนเดินทางเข้า-ออกจากทั่วโลกกว่าวันละ 1.2 แสนคน มีคนไทยและคนต่างชาติที่มีความหลากหลายทางเพศเดินทางผ่านแดนจำนวนมาก พบว่าที่ผ่านมา กลุ่ม LGBTQIA+ หลายท่านวิตกกังวลต่อการตรวจผ่านแดน เนื่องจากอาจมีเพศสรีระ เช่น การแต่งตัว ที่ไม่ตรงกับเพศสภาพในเอกสารการเดินทาง อาจด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายของประเทศเจ้าของสัญชาติในการเปลี่ยนสถานะทางเพศ หรือบางกรณีอาจทำศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงเค้าโครงใบหน้าผิดไปจากเดิม ทำให้การตรวจผ่านแดนที่ช่องตรวจ ตม. ติดขัดไม่ราบรื่น และอาจเป็นข้อสงสัยว่า เจ้าหน้าที่กีดกั้นเจาะจงเฉพาะกลุ่ม

 

เพื่อสร้างความมั่นใจแก่คนเดินทางที่มีความหลากหลายทางเพศทั้งไทยและต่างชาติในการเข้า-ออกประเทศไทย โดยจะขยายการปฏิบัติไปยังช่องทางตรวจคนเข้าเมืองสนามบินหลักให้ครบทั้ง 5 แห่งในสังกัด บก.ตม.2 และเริ่มคิกออฟตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อบอกให้สังคมโลกได้รับทราบว่า ประเทศไทยเป็นดินแดนที่เปิดกว้างสำหรับนักเดินทางจากทั่วโลก โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเพศแต่อย่างใด และนับเป็นการจัดกิจกรรมที่ด่าน ตม. ของประเทศไทย เป็นแห่งแรกของโลกที่สร้างความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวให้ปรากฏต่อสังคมชาวโลก 

 

แนะนักเดินทางชาว LGBTQIA+ เข้าไทยครั้งแรก 

 

  1. กรณีผู้เดินทางซึ่งเดินทางเข้าไทยครั้งแรก และเพศสภาพซึ่งระบุในหนังสือเดินทางมีความแตกต่างจากเพศสรีระจริงที่ปรากฏตัว ไม่ว่าจะเป็นกรณีทำศัลยกรรมหรือกรณีเพศสรีระไม่ตรงกับหนังสือเดินทาง เช่น แต่งกายเป็นหญิง แต่หนังสือเดินทางระบุเป็นชาย ฯลฯ ผู้เดินทางควรมีเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน (Citizen Card) หรือใบอนุญาตขับขี่ (Driving License) หรือเอกสารเดินทางซึ่งเคยใช้ก่อนหน้า หรือเอกสารหรือประวัติทางการแพทย์ที่แสดงถึงการรับการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงเพศ ฯลฯ เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ตม. หากมีข้อซักถาม เพื่อยืนยันตัวตนด้วย

 

  1. กรณีผู้เดินทางที่มีใบหน้าหรือสรีระทางกายขณะปัจจุบันแตกต่างกันกับภาพข้อมูลบุคคลในหนังสือเดินทาง แต่เคยมีการบันทึกข้อมูลใบหน้าและลายนิ้วมือตามข้อแรกดังกล่าวมาแล้ว ทางระบบ ตม. จะเก็บข้อมูลไว้ในระบบ Biometric เพื่อตรวจเปรียบเทียบใบหน้าผู้เดินทางปัจจุบันกับข้อมูลชิปภายในหนังสือเดินทางเพื่อยืนยันตัวตน โดยไม่ต้องเรียกซักถามอีก

 

  1. ผู้เดินทางคนไทย และคนต่างชาติที่เป็นชาว LGBTQIA+ ที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย โดยเฉพาะคนต่างชาติที่ได้รับสิทธิยกเว้นวีซ่าหรือได้รับวีซ่าเข้าประเทศไทย จะได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมเช่นเดียวกับนักเดินทางอื่นๆ โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกในการตรวจหนังสือเดินทางตามนโยบายรัฐบาล

 

  1. กรณีที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม World Pride ในปี 2030 ตม. สนามบินพร้อมให้ความร่วมมือ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เพื่อจัดช่องทางพิเศษ และอำนวยความสะดวกด้านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองตามที่ประสานงานอย่างเต็มที่ 

 

ทั้งนี้ เครื่องหมายสติกเกอร์หัวใจสีรุ้งของ ตม. ที่จัดทำขึ้น มาจากแนวคิดธงสีรุ้งที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ภายใต้การออกแบบของ กิลเบิร์ต เบเกอร์ ศิลปินชาวอเมริกันและนักขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนของเกย์ในปี 1978

The post ตม. สนามบินติดสติกเกอร์หัวใจสีรุ้ง สร้างความเชื่อมั่น ลดความกังวลนักเดินทาง LGBTQIA+ บินเข้า-ออกไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
AOT เดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ใส่เงินลงทุน 1.8 แสนล้านบาท ลุยเพิ่มขีดความสามารถสนามบิน https://thestandard.co/aot-180-billion-baht-investment-airport-expansion/ Thu, 04 Jul 2024 11:12:55 +0000 https://thestandard.co/?p=954142 AOT

บมจ.ท่าอากาศยานไทย ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ ทุ่มงบกว่า 1 […]

The post AOT เดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ใส่เงินลงทุน 1.8 แสนล้านบาท ลุยเพิ่มขีดความสามารถสนามบิน appeared first on THE STANDARD.

]]>
AOT

บมจ.ท่าอากาศยานไทย ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ ทุ่มงบกว่า 1.8 แสนล้านบาท ลงทุนขยายขีดความสามารถสนามบิน รองรับปี 2577 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มเป็นประมาณ 210 ล้านคน

 

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในระยะ 5 ปีข้างหน้านับจากงวดบัญชีปี 2567 (เดือนตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) ของบริษัทตั้งงบลงทุนรวมไว้ประมาณกว่า 1.8 แสนล้านบาท โดยสัดส่วนหลักจะใช้ลงทุนขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบินเพื่อรองรับการเติบโตของการเดินทางและจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยตามแผนงานดังกล่าวมีรายละเอียดโครงการลงทุนที่สำคัญดังนี้

 

  • โครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิด้านทิศใต้ (South Terminal) วงเงินลงทุน 1.2 แสนล้านบาท รองรับผู้โดยสารอีก 60 ล้านคนต่อปี เพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารได้อีก 512,000 ตารางเมตร 
  • โครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ของสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าลงทุน 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารได้อีก 81,000 ตารางเมตร ทำให้สามารถรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น จาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง 
  • โครงการพัฒนาอาคารรับรองผู้โดยสาร 3 (Terminal 3) พร้อมการปรับปรุงพื้นที่ภายในทั้งหมดของสนามบินดอนเมือง มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท 
  • โครงการปรับปรุงสนามบินภูเก็ต ระยะที่ 2 มูลค่า 8 พันล้านบาท
  • โครงการลงทุนพัฒนาสนามบินเชียงใหม่ ระยะที่ 2 มูลค่า 7 พันล้านบาท

 

“แผนการลงทุน 5 ปีนี้จะใช้ลงทุนรวมกว่า 1.8 แสนล้านบาท หรือเกือบ 2 แสนล้านบาท ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ AOT ในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งตอนนี้เห็นเทรนด์แล้วว่าอุตสาหกรรมการบินฟื้นกลับมาแน่นอน เพราะปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารใน 4 สนามบินที่หนาแน่นมาก จึงมั่นใจว่าไม่ใช่การลงทุนที่ Overinvestment แต่เป็นการเปิดโอกาสจำนวนผู้โดยสารที่กำลังจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งแหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่สร้างได้แต่ละปี และจะพิจารณาช่องทางอื่นๆ ที่เหมาะสมร่วมด้วย”

 

โครงการลงทุน  South Terminal 1.2 แสนล้านบาท

 

คาดผู้โดยสารปี 2577 แตะ 210 ล้านคน

 

ดร.กีรติ คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศของสนามบินในสังกัด 6 แห่งในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2572 คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มเป็นประมาณ 170 ล้านคน และมีเที่ยวบินประมาณ 1 ล้านเที่ยวบิน และในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือปี 2577 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มเป็นประมาณ 210 ล้านคน และมีเที่ยวบินประมาณ 1.2 ล้านเที่ยวบิน

 

โดยเป็นการทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 8 เดือนของงวดปี 2567 (เดือนตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) มีผู้โดยสารรวมจาก 6 สนามบิน อยู่ที่ 81.05 ล้านคนฟื้นตัว 83.4% เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 และในงวดปี 2568 AOT คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นไปแตะ 140 ล้านคนเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด 

 

ทั้งนี้ปัจจุบันผู้โดยสารจากยุโรป อินเดีย สหรัฐฯ มีจำนวนสูงกว่าที่เคยเข้ามาช่วงปี 2562 สะท้อนถึงอุตสาหกรรมการบินและการเดินทางระหว่างประเทศที่ฟื้นตัวกลับมาแล้ว โดยชาวจีนเป็นผู้โดยสารสำคัญในการฟื้นตัวกลับมา ปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารจีนกลับเข้ามาในสัดส่วนประมาณ 65% ของจำนวนในอดีต ดังนั้นเชื่อว่าในงวดปี 2568 มีโอกาสที่จะเห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น

 

รายได้ปี 2567 ใกล้เคียงปี 2562 ที่ทำได้ 6.47 หมื่นล้านบาท

 

ขณะที่คาดว่ารายได้รวมของบริษัทงวดปี 2567 (เดือนตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) จะทำได้ไม่น้อยกว่าปี 2562 ที่มีรายได้รวม 6.47 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์ก่อนที่จะมีโควิด และดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 4.84 หมื่นล้านบาท หลังจากในงวดครึ่งปีแรกงวดบัญชีปี 2567 (เดือนตุลาคม 2566 – มีนาคม 2567) ทำรายได้รวม 3.4 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศและจำนวนผู้โดยสารที่มีการฟื้นตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี

 

ส่วนกรณีขอคืนพื้นที่ดิวตี้ฟรีขาออกบางส่วนนั้นก็เพื่อทำให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้เป็น 80 ล้านคนต่อปีในช่วงอีก 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 60 ล้านคน โดยบริษัทต้องจัดเตรียมพื้นที่รองรับผู้โดยสารและกลุ่มผู้โดยสารพักรอคอยมากขึ้น เช่น Co-working Space รวมทั้งจัดพื้นที่ให้แม่และเด็กในการให้นมบุตร ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางในการให้บริการผู้โดยสารมากขึ้น  

 

อย่างไรก็ดี การขอคืนพื้นที่คืนดังกล่าวจะกระทบกับรายได้ค่าเช่าพื้นที่ลดลงประมาณเดือนละ 90 ล้านบาท แต่เชื่อว่าบริษัทจะได้รับค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges: PSC) ที่คิดอัตรา 730 บาทต่อคนเข้ามาชดเชย 

 

AOT

แผนขยายขีดความสามารถทุกสนามบินของ AOT

 

ยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้าไม่กระทบรายได้

 

ส่วนกรณีการยกเลิกพื้นที่ร้านสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ขาเข้า รวมถึงยกเลิกการยกเว้นอากรสินค้าที่ซื้อจากร้านดิวตี้ฟรีสำหรับผู้โดยสารขาเข้า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ในส่วนของบริษัทพร้อมจะยกเลิกพื้นที่ดิวตี้ฟรีขาเข้าทุกสนามบิน เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ส่วนกลางในการให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งพื้นที่เชิงพาณิชย์ขาเข้ามีไม่มาก รวมแล้วมีประมาณ 20% ของพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมด และคิดเป็นรายได้ไม่ถึง 10% ของพื้นที่ขาออก ดังนั้นจึงไม่ได้กระทบกับรายได้ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ 

 

ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ผลักดันให้สนามบินของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ และเพิ่มความสามารถของสนามบินให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นเพื่อก้าวเป็น Aviation Hub 

 

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ AOT ที่ 55% มาจากรายได้จากกิจการการบิน (Aero) ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องการบิน (Non-Aero) อยู่ที่ 45%

โดย Non-Aero นอกจากพื้นที่ให้เช่าร้านค้า บริษัทยังมีพื้นที่ Airport City ประมาณ 600 ไร่ และพื้นที่ 723 ไร่ ใกล้สนามบิน โดยจะนำพื้นที่ Airport City มาให้สัมปทาน เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์ประชุมโรงแรม หรืออื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มรายได้กลุ่ม Non-Aro ได้เพิ่มขึ้น คาดว่าจะเปิดประมูลให้ผู้ที่สนใจโครงการในปลายปี 2567 นี้ และคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในปี 2568  

 

สำหรับส่วนพื้นที่ 723 ไร่ ปัจจุบันได้เริ่มเจรจากับผู้ประกอบการบางส่วนที่สนใจเพื่อจะพัฒนาเป็นโลจิสติกส์พาร์ก กับศูนย์ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่การบินของสายการบิน โดยประเมินว่าบริษัทจะได้รับรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ทั้งจาก Airport City และพื้นที่ 723 ไร่ ได้ประมาณ 900 ล้านบาทต่อปี  ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2569 หรือ 2570 โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะยังใกล้เคียงกับปัจจุบัน โดยมาจากรายได้จากกิจการการบิน (Aero) สัดส่วน 55% ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องการบิน (Non-Aero) อยู่ที่ 45% 

The post AOT เดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ใส่เงินลงทุน 1.8 แสนล้านบาท ลุยเพิ่มขีดความสามารถสนามบิน appeared first on THE STANDARD.

]]>
วราวุธทดลองนั่งวีลแชร์ขึ้นเครื่องบิน เพื่อให้เข้าใจผู้พิการ เตรียมเสริมอารยสถาปัตย์อำนวยความสะดวก https://thestandard.co/varawut-tries-wheelchair-to-board-plane/ Sun, 26 May 2024 05:14:05 +0000 https://thestandard.co/?p=937699

วันนี้ (26 พฤษภาคม) ที่จังหวัดร้อยเอ็ด วราวุธ ศิลปอาชา […]

The post วราวุธทดลองนั่งวีลแชร์ขึ้นเครื่องบิน เพื่อให้เข้าใจผู้พิการ เตรียมเสริมอารยสถาปัตย์อำนวยความสะดวก appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (26 พฤษภาคม) ที่จังหวัดร้อยเอ็ด วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทดลองนั่งรถวีลแชร์เพื่อทำความเข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกอย่างแท้จริงของคนพิการที่ใช้บริการสายการบินและสนามบิน พร้อมได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มคนพิการจังหวัดร้อยเอ็ดที่สนามบินจังหวัดร้อยเอ็ด

 

ทั้งนี้ กลุ่มคนพิการได้เสนอแนะขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพิ่มอารยสถาปัตย์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการภายในสนามบิน อาทิ ที่จอดรถ และการอำนวยความสะดวกคนพิการที่ใช้รถวีลแชร์ในการใช้บริการสายการบินและสนามบิน

 

วราวุธกล่าวว่า ตนเองมีความเห็นใจคนพิการถึงความยากลำบากในการเดินทาง แต่ขณะเดียวกันต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย ซึ่งการทดลองนั่งรถวีลแชร์ในครั้งนี้เพื่อที่กระทรวง พม. จะได้หาจุดตรงกลางที่พอรับได้ของทุกฝ่าย ระหว่างคนพิการ สายการบิน และสนามบิน จึงได้กำชับ อนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. และ กันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยจะรับฟังทุกข้อเสนอแนะที่กระทรวง พม. จะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในการอำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการในการเดินทางด้วยเครื่องบิน

 

วราวุธกล่าวด้วยว่า จากการที่ตนเดินทางมาลงพื้นที่นั้น ได้เห็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการในส่วนของสายการบินและสนามบินเป็นอย่างไร จึงทำให้อยากรู้ด้วยตัวเองว่าหากเป็นคนพิการมาใช้บริการจะเป็นอย่างไร อยากรู้และเข้าใจถึงการอำนวยความสะดวกที่แท้จริงให้กับคนพิการว่ามีทางลาด มีบันไดขึ้นเครื่องบินอำนวยความสะดวกอย่างไร และที่สำคัญคือหัวใจของคนพิการ เวลาเดินทางนั้นมีความยากลำบาก มีอุปสรรคอย่างไร ทำให้อยากรู้ว่าการขึ้นแรมป์ ทางลาดในการขึ้นเครื่องบินจะยากง่ายอย่างไร ความลาดชันเป็นอย่างไร เพื่อนำมาเป็นกำลังใจให้กับสายการบินและสนามบิน

 

“ผมมาทดลองในวันนี้อยากรู้ว่าพี่น้องคนพิการใช้รถวีลแชร์ขึ้นเครื่องบินจะยากลำบากแค่ไหน แต่ขณะเดียวกันเราต้องเข้าใจสายการบินและสนามบินด้วย กระทรวง พม. จะได้ดูว่ามีปัญหาอุปสรรคใดที่เราจะช่วยกันแก้ไข เพื่อให้มาพบเจอกันคนละครึ่งทางและลงตัว และวันนี้ได้ความรู้หลายอย่าง และเราจะกลับไปแก้ปัญหาให้กับพี่น้องคนพิการ ซึ่งจะทำให้สายการบินและสนามบินไม่ลำบาก และผมขอให้ผู้โดยสารคนปกติทั่วไปได้เข้าใจและเห็นใจถึงความยากลำบากของคนพิการที่อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าปกติในฐานะเพื่อนร่วมทางด้วย” วราวุธกล่าว

The post วราวุธทดลองนั่งวีลแชร์ขึ้นเครื่องบิน เพื่อให้เข้าใจผู้พิการ เตรียมเสริมอารยสถาปัตย์อำนวยความสะดวก appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘สนามบินสุวรรณภูมิ’ ถูกยกให้เป็นอันดับที่ 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ด้าน ‘เศรษฐา’ ตั้งเป้าติด Top 20 ของโลกภายใน 5 ปี https://thestandard.co/suvarnabhumi-airport-ranked-58th-best-in-world/ Thu, 18 Apr 2024 10:21:48 +0000 https://thestandard.co/?p=924218 ‘สนามบินสุวรรณภูมิ’ ถูกยกให้เป็นอันดับที่ 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ด้าน ‘เศรษฐา’ ตั้งเป้าติด Top 20 ของโลกภายใน 5 ปี

เศรษฐาตั้งเป้าดันสนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 20 ของ […]

The post ‘สนามบินสุวรรณภูมิ’ ถูกยกให้เป็นอันดับที่ 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ด้าน ‘เศรษฐา’ ตั้งเป้าติด Top 20 ของโลกภายใน 5 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘สนามบินสุวรรณภูมิ’ ถูกยกให้เป็นอันดับที่ 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ด้าน ‘เศรษฐา’ ตั้งเป้าติด Top 20 ของโลกภายใน 5 ปี

เศรษฐาตั้งเป้าดันสนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี โดยปี 2024 SKYTRAX จัดอันดับขยับดีขึ้นเป็น 58 จากปี 2023 อยู่ที่อันดับ 68

 

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT กล่าวว่า ตามที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตั้งเป้าหมายการผลักดันท่าอากาศยานของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 1 ปี และติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี ซึ่ง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยนั้น 

 

ล่าสุดในปี 2024 เว็บไซต์ SKYTRAX ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับการให้บริการของสนามบิน ได้ประกาศสนามบินที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Airport) ประจำปี 2024 ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิติดอันดับที่ 58 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 68 โดยขึ้นมา 10 อันดับจากปี 2023 ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมืองติดอันดับ 10 ของสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Low-Cost Airline Terminals) ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าวมาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้เดินทางด้วยเครื่องบินทั่วโลก ภายใต้การสำรวจที่ชื่อว่า World’s Airport Survey จัดทำโดยบริษัท SKYTRAX ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการบินชั้นนำของประเทศอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการของสายการบินและสนามบินทั่วโลก โดยคำนึงถึงหมวดการให้บริการสนามบิน เช่น การเดินทาง สภาพแวดล้อมและการออกแบบ เจ้าหน้าที่สนามบิน สิ่งอำนวยความสะดวก และการให้บริการ 

 

โดยอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการประเมิน 4 ดาว จากด้านสถาปัตยกรรม ความสะอาด บรรยากาศโดยรวม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร 

 

นอกจากนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการปรับปรุงกระบวนการ ณ จุดตรวจค้น และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจหนังสือเดินทาง ทำให้สามารถลดระยะเวลารอของผู้ใช้บริการลง โดยระยะเวลาการใช้บริการในกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 26 นาทีต่อคน จากเป้าหมายที่ AOT กำหนดไว้ที่ 40 นาทีต่อคน และกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 37 นาทีต่อคน จากเป้าหมายที่ AOT กำหนดไว้ที่ 55 นาทีต่อคน

 

ขณะที่กระบวนการผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน จากเป้าหมายที่ AOT กำหนดไว้ที่ 35 นาทีต่อคน และกระบวนการผู้โดยสารขาออกภายในประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 25 นาทีต่อคน จากเป้าหมายที่ AOT กำหนดไว้ที่ 40 นาทีต่อคน

The post ‘สนามบินสุวรรณภูมิ’ ถูกยกให้เป็นอันดับที่ 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ด้าน ‘เศรษฐา’ ตั้งเป้าติด Top 20 ของโลกภายใน 5 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>