อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ของไทยกำลังเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นในระดับภูมิภาค ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องปรับยุทธศาสตร์การลงทุนครั้งสำคัญ ล่าสุด บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้เปิดเผยแผนการลงทุนหลายโครงการ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและรับมือกับภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป

ทิศทางดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย พอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างธุรกิจบันเทิงและบริการ เพื่อเป้าหมายการเติบโตในระยะยาวและเสริมความแข็งแกร่งในฐานะศูนย์กลางการจัดงานชั้นนำของเอเชีย

แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ไทยจะมีแนวโน้มที่ดี โดยข้อมูลจากสมาคมการประชุมนานาชาติ (ICCA) ในปี 2567 ระบุว่าไทยครองอันดับ 1 ในอาเซียนด้านจำนวนการจัดงานประชุมนานาชาติ แต่ผู้ประกอบการยังคงเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจโลกและความผันผวนภายในประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายของผู้จัดงาน

ทุ่ม 3 พันล้าน แก้ปัญหาคอขวด ต่อยอดสู่ฮับไมซ์นานาชาติ

หนึ่งในความท้าทายเชิงโครงสร้างที่สำคัญคือข้อจำกัดด้านห้องพัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดึงดูดงานประชุมและนิทรรศการระดับนานาชาติขนาดใหญ่ พอลล์ อธิบายว่า ที่ผ่านมามีผู้จัดงานแสดงสินค้าหลายรายอาจตัดสินใจไม่เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง เพราะไม่มีห้องพักในบริเวณใกล้เคียงเพียงพอสำหรับรองรับผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก และหันไปเลือกประเทศที่มีความพร้อมมากกว่าอย่างฮ่องกงหรือสิงคโปร์

เพื่อแก้ปัญหานี้ อิมแพ็คได้ประกาศแผนลงทุนโครงการโรงแรมมูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยเตรียมลงนามสัญญากับเชนโรงแรมฮิลตัน (Hilton) เพื่อพัฒนาโรงแรม 2 แบรนด์ในอาคารเดียวกันบริเวณริมทะเลสาบ ประกอบด้วย ฮิลตัน จำนวน 300 ห้อง และฮิลตัน การ์เด้น อินน์ (Hilton Garden Inn) จำนวน 700 ห้อง รวมทั้งสิ้น 1,000 ห้อง

แผนการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงต้นปี 2569 และแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2570 สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากการขายโรงแรมโนโวเทลและไอบิสที่มีอยู่เดิมเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

โครงการดังกล่าวเป็นเพียงเฟสแรกของเป้าหมายระยะยาว โดยมีแผนจะเพิ่มจำนวนห้องพักเป็น 3,000 ห้องภายในปี 2571 และจะขยายต่อไปจนครบ 5,000 ห้องภายใน 5 ปีหลังจากนั้น ซึ่งจะทำให้อิมแพ็คสามารถรองรับงานระดับนานาชาติขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่จากกลุ่มนักเดินทางธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง

ผนึก Live Nation พลิกสมการธุรกิจบันเทิง

อีกหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญคือการรุกธุรกิจบันเทิงอย่างเต็มตัว ผ่านการร่วมทุนกับไลฟ์เนชั่น (Live Nation) เพื่อจัดตั้งบริษัท อิมแพ็ค ไลฟ์เนชั่น จำกัด โดยอิมแพ็คถือหุ้น 51% และไลฟ์เนชั่น 49% ซึ่งบริษัทร่วมทุนนี้จะเข้ามาเช่าและบริหารอิมแพ็ค อารีน่า เป็นระยะเวลา 20 ปี

หัวใจของความร่วมมือนี้คือการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อาคาร พอลล์ ชี้ว่าเป้าหมายหลักคือการปรับปรุงสถานที่เพื่อลดระยะเวลาและต้นทุนในการติดตั้งของผู้จัดงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความถี่ในการจัดงานจากเดิมสัปดาห์ละ 1 งาน เป็น 2-3 งานได้ เนื่องจากการติดตั้งคิดเป็นสัดส่วนต้นทุนที่สูงถึง 50-60% ของค่าเช่าทั้งหมด

การรีโนเวทจะเริ่มขึ้นประมาณวันที่ 1 มกราคม 2569 โดยจะทำเป็นส่วนๆ ไม่มีการปิดให้บริการทั้งหมด สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นคือบริการระดับพรีเมียม เช่น วีไอพีบ็อกซ์และเมมเบอร์คลับ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าชม การปรับตัวนี้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์มากขึ้น แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ปัจจุบันความต้องการจัดคอนเสิร์ตมีสูงมากจนเต็มทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และมีการจองล่วงหน้ายาว 6-9 เดือน ทำให้ต้องขยายพื้นที่จัดงานไปยังอาคาร 5 และอาคารชาเลนเจอร์เพื่อรองรับความต้องการที่ล้นออกมา

เผชิญความท้าทายและปรับพอร์ตธุรกิจ

แม้ธุรกิจบันเทิงจะเติบโต แต่ในฝั่งของงานแสดงสินค้ากลับเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ พอลล์ ให้ข้อมูลว่า ผู้จัดงานหลายรายระบุว่าการขายพื้นที่บูธทำได้ยากขึ้น จากเดิมที่เคยขายหมดก่อนงาน 4-6 เดือน ปัจจุบันบางครั้งก่อนงาน 2 เดือนก็ยังขายไม่หมด ซึ่งสะท้อนว่าผู้ประกอบการรายย่อยอาจมีงบประมาณในการออกบูธลดลง

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้อิมแพ็คต้องปรับตัวเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและหาโอกาสในการเติบโตจากธุรกิจส่วนอื่นมาชดเชย ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านการปรับพอร์ตในกลุ่มธุรกิจบริการ

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการตัดสินใจไม่ต่อสัญญาแฟรนไชส์โรงเรียนสอนทำอาหาร เลอโนท (LeNôtre) หลังจากบริหารมา 10 ปี และหันมาสร้างแบรนด์ของตัวเองในชื่อ อิมแพ็ค คูลิโนวา (IMPACT Culinova) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคมนี้

พอลล์ อธิบายว่าการทำแบรนด์ของตัวเองจะให้อิสระในการพัฒนาหลักสูตรที่หลากหลายและขยายไปสู่ธุรกิจที่ปรึกษาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟรนไชส์เดิมมีข้อจำกัด การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงแนวคิดใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองและปรับตัวตามความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับแผนในอนาคต ยังมีการเตรียมรีโนเวทธันเดอร์โดมครั้งใหญ่ หลังจากจะกลับมาอยู่ภายใต้การบริหารของอิมแพ็คในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายปรับให้เป็นสเตเดียมที่รองรับอีเวนต์ขนาดใหญ่และคอนเสิร์ตกลางแจ้งได้ถึง 40,000 คน

อย่างไรก็ตามคาดว่าในปี 2568 มีรายได้เติบโตกว่า 4,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายว่าในปี 2573 จะมีรายได้แตะ 9,000 ล้านบาท

ภาพ: Thanaphat Kingkaew / Shutterstock

The post เป้าหมาย ‘อิมแพ็ค’ สู่รายได้ 9 พันล้านบาท จากโรงแรม 5,000 ห้อง สู่การรีโนเวทธันเดอร์โดมเป็นสเตเดียม 40,000 ที่นั่ง และร่วมทุน Live Nation บริหาร ‘อิมแพ็ค อารีน่า’ 20 ปี appeared first on THE STANDARD.

สนามกีฬาพานาธิเนอิกในกรุงเอเธนส์ ซึ่งสร้างด้วยหินอ่อนเพนเทลิกสีขาวล้วน ยังคงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงมรดกจากโอลิมปิก

เมื่อครั้งที่สนามกีฬาแห่งนี้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1896 โค้งที่แคบผิดปกติและลู่วิ่งที่ยาวขึ้นทำให้นักวิ่งต้องชะลอความเร็วลงอย่างมากเพื่อให้อยู่ในเลน โทมัส เบิร์ก ผู้ชนะการแข่งขัน 100 เมตร ทำเวลาได้ 12.0 วินาที ซึ่งช้ากว่าสถิติโลก 10.8 วินาทีในขณะนั้นอย่างมาก

กว่า 125 ปีต่อมา รูปแบบของลู่วิ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าสนามกีฬาแห่งนี้จะเคยจัดการแข่งขันยิงธนูและวิ่งมาราธอนในโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ ปี 2004 สำเร็จ แต่ผู้จัดงานกลับหลีกเลี่ยงการใช้สนามกีฬาแห่งนี้ในการแข่งขันวิ่งระยะสั้น เนื่องจากต้องเจอกับทางโค้งที่ท้าทายเช่นเดียวกับที่เคยสร้างความผิดหวังให้กับนักกีฬาในปี 1896

สนามกีฬาแห่งนี้ ซึ่งคนในท้องถิ่นรู้จักกันในชื่อ “คัลลิมาร์มาโร” ที่แปลว่า หินอ่อนอันงดงาม ยังคงทำหน้าที่เป็นเส้นชัยของการแข่งขันวิ่งมาราธอนประจำปีที่กรุงเอเธนส์ และยังคงเป็นจุดเริ่มต้นของการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกทุกครั้ง

แม้จะมีแผนการปรับปรุงใหม่ในปี 2026 แต่รูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของสนามกีฬาแห่งนี้จะยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้ผู้เข้าชมในอนาคตได้สัมผัสกับเส้นทางวิ่งเดิมที่สร้างแรงบันดาลใจและท้าทายนักกีฬาโอลิมปิกยุคใหม่คนแรกๆ ของโลก

The post พานาธิเนอิก สเตเดียม สนามกีฬาโอลิมปิกหินอ่อนล้วนแห่งเดียวในโลก appeared first on THE STANDARD.

ทีมศิลปินประกอบไปด้วย ALEX FACE, MXRNIES และทีม DREAMGRAFF นำโดย KANAET จัดเวิร์กช็อปเพื่อลงสีสนาม Dream Stadium: Paint Your Dream Space by Big One ที่ลานกีฬาหลังด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพหลโยธิน (ซอยพระนาง) เมื่อวันอาทิตย์ที่ที่ผ่านมา (11 พฤษภาคม)

สนามดังกล่าวเป็นสนามล่าสุดในโครงการ Dream Stadium ของ Think Curve – คิดไซด์โค้ง ก่อนหน้านี้มีการนำภาพวาดจากการ์ตูน ‘กัปตันซึบาสะ’ ลายเส้นถูกลิขสิทธิ์ โดย โยอิจิ ทากาฮาชิ มาใช้ปรับปรุงสนามหลายแห่ง เช่น สนามปิ่นเจริญ 3 ดอนเมือง, ชุมชนกุฎีจีน, ชุมชนแฟลตห้วยขวาง, ชุมชนเชื้อเพลิง, ชุมชนเคหะคลอง 6, สนามฟุตซอลเอื้ออาทร เศรษฐกิจ 3 ฯลฯ

ในคราวนี้มีการสานต่อโปรเจกต์เดิมภายใต้คอนเซปต์ใหม่ Paint Your Dream Space ที่จะร่วมมือกับศิลปินชั้นนำมากมายในเมืองไทย โดยเริ่มต้นสนามแรกที่ลานกีฬาหลังด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพหลโยธิน (ซอยพระนาง) 

ALEX FACE, MXRNIES, DREAMGRAFF และผู้สนับสนุน ร่วมกันลงสีสนามและวาดลวดลายด้วยฝีมือของตัวเอง บนพื้นผิวสนามตามรูปแบบและจุดที่กำหนดตามการออกแบบอย่างละเอียด ก่อนที่จะมีการส่งมอบสนามที่แล้วเสร็จเรียบร้อย ภายในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ให้ทางชุมชนช่วยกันดูแลต่อไป

The post ALEX FACE นำทีมเวิร์กช็อปลงสีสนาม Dream Stadium appeared first on THE STANDARD.

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังจากเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารสำคัญต่าง ๆ ภายในสนามกีฬาหัวหมาก หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.4 ที่ประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาว่า

โดยทาง ดร.ก้องศักด กล่าวว่า “กกท. โดย ฝ่ายวิศวกรรมกีฬา, ผู้แทนจากสภาวิศวกรรมแห่งประเทศไทย และวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ได้เข้าทำการตรวจสอบและประเมินภาพรวมของอาคารต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กกท. หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว

“โดยการตรวจสอบในครั้งนี้ประกอบด้วย อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา, ราชมังคลากีฬาสถาน, อินดอร์สเตเดียม, สนามเวโลโดรม รวมทั้งอาคารที่พักนักกีฬา 200 เตียง และ 300 เตียง ที่มีนักกีฬาทีมชาติเก็บตัวและฝึกซ้อมอยู่ในขณะนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักกีฬาทีมชาติ

“และจากการตรวจสอบพบว่า ภาพรวมโครงสร้างหลักของอาคารต่าง ๆ นั้น ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ยังคงสามารถใช้ดำเนินงาน และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งปัจจุบันและในอนาคตได้ตามปกติ โดยเฉพาะอาคารที่พักนักกีฬาทั้ง 200 เตียง และ 300 เตียง จึงขอให้นักกีฬาทีมชาติที่เก็บตัวฝึกซ้อมได้มั่นใจในความปลอดภัย เพื่อลดความกังวล และตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อเป้าหมายต่อไป”

ทั้งนี้ กกท. ขอขอบคุณสภาวิศวกรรมแห่งประเทศไทย, วิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ที่ให้ความอนุเคราะห์เป็นอย่างดี และเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วยความรวดเร็ว เพิ่มความมั่นใจให้กับทุกคนที่ใช้บริการในสนามกีฬาหัวหมาก และ กกท. จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องโครงสร้างหลักของอาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

The post กกท. ร่วมกับวิศวกร ตรวจสอบโครงสร้างอาคารสนามกีฬาหัวหมาก appeared first on THE STANDARD.

เซซาร์สซูเปอร์โดม สนามกีฬาความจุกว่า 70,000 ที่นั่งในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ได้รับเลือกให้จัด ซูเปอร์โบวล์ มาแล้ว 8 ครั้ง รวมถึงครั้งล่าสุดที่จะแข่งขันกันในวันจันทร์ (10 กุมภาพันธ์) ตามเวลาประเทศไทยด้วย

แล้วอะไรเป็นหัวใจที่ทำให้สนามแห่งนี้ยังคงเป็นหนึ่งในสนามที่ได้รับความนิยมจนนำมาจัดซูเปอร์โบวล์ รวมถึงอีเวนต์ต่างๆ บ่อยครั้ง ทั้งที่อายุสนามแห่งนี้ร่วม 50 ปีแล้ว

คำตอบอยู่ในโพสต์นี้แล้ว

สร้างสนามครั้งเดียวต้องจัดได้ทุกอย่าง – นอกจากเป็นสนามกีฬาแล้ว ซูเปอร์โดมยังสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดงานอีเวนต์ยักษ์ใหญ่อื่นๆ อย่างคอนเสิร์ต และยังเคยปรับเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยจากเฮอริเคนแคทรีนาด้วย

สนามที่ใหญ่ต้องมีทางออกมากกว่า 1 แห่ง – สนามทั่วไปมักจะมีประตูใหญ่เพียง 1 ประตู แต่ซูเปอร์โดมมีถึง 5 ประตู เพื่อลดความแออัดในการออกจากสนามของแฟนๆ หลังเกมจบ

มีจุดให้ผู้ชมใช้เงินได้ทั่วสนาม – ซูเปอร์โดมกระจายซุ้มขายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นสิ่งที่ทำเงินให้สนามกีฬาได้อย่างมาก ดังนั้นจึงควรมีให้เพียงพอ และลดเวลารวมถึงความแออัดในช่วงพักเกมได้

หัวใจสำคัญคือง่ายต่อแฟนๆ ที่จะเข้ามาใช้งาน – ซูเปอร์โดมจะจัดสรรพื้นที่ในแต่ละโซน แต่ละชั้น อย่างชัดเจน เพื่อให้คนที่เข้ามาในสนามเดินไปสู่ที่นั่งของตัวเองได้สะดวก ซึ่งจะลดความวุ่นวายขณะอยู่ในสนามได้อย่างมาก

คิดถึงคนดูในสนาม ไม่ใช่แค่กำไรสูงสุด – ซูเปอร์โดมจะวางเก้าอี้แต่ละชั้นโดยคิดถึงผู้ใช้งานที่จะต้องลุกเข้า-ออกตลอดเวลา ดังนั้นเก้าอี้จะวางโดยให้เดินเข้า-ออกง่าย และมีทางเดินที่ไม่ชันมากเกินไปเพื่อความปลอดภัยด้วย

เลือกพื้นที่ที่เข้าถึงได้ไม่ลำบาก – ซูเปอร์โดมนับเป็นหนึ่งในไม่กี่สนามที่สร้างไว้ในเขตเมืองของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการเดินทางมาถึงสนามจึงไม่ยากเกินไป ทำให้เป็นที่นิยมในการจัดอีเวนต์ต่างๆ

มีการดูแลและปรับปรุงให้ทันสมัยเสมอ – ซูเปอร์โดมเป็น 1 ใน 5 สนามที่เก่าแก่ที่สุดของ NFL มีอายุร่วม 50 ปีแล้ว แต่ก็ยังได้รับเลือกให้จัดซูเปอร์โบวล์อยู่เสมอ เนื่องจากสนามแห่งนี้ได้รับการดูแลและปรับปรุงใหม่เป็นระยะ ทำให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดเวลา

The post นิวออร์ลีนส์ซูเปอร์โดม: สร้างสนามอย่างไรให้จัดซูเปอร์โบวล์ได้ถึง 8 หน appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่ ไรอัน เรย์โนลด์ส และ ร็อบ แม็กเอลเฮนนีย์ เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรเร็กซ์แฮม ก็มีสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นกับสโมสรแห่งนี้มากมาย ทั้งความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นและสปอนเซอร์ที่หลั่งไหลเข้ามา

ล่าสุดแฟนๆ รวมไปถึงชาวเมืองแห่งนี้ก็ยังได้รับข่าวดีอย่างต่อเนื่อง หลังสโมสรประกาศเปิดตัวการออกแบบอัฒจันทร์ Kop Stand ใหม่ของ STōK Cae Ras สนามเหย้าของพวกเขา

โดย Kop Stand แห่งใหม่ได้รับการออกแบบโดย Populous บริษัทสถาปนิกกีฬาชื่อดังระดับโลก ผู้เคยสร้างชื่อกับการออกแบบท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียมมาแล้ว

นอกจากจะมีอัฒจันทร์ใหม่แล้ว สโมสรเร็กซ์แฮมยังยืนยันว่าการปรับปรุงสนามครั้งนี้ พวกเขาจะปรับปรุงตามข้อกำหนดของยูฟ่าด้วย เพื่อหวังนำการแข่งขันระดับนานาชาติมาสู่เมืองแห่งนี้ในอนาคต

อ้างอิง:

• https://www.soccerbible.com/news/2025/02/wrexham-reveal-design-of-new-kop-stand-at-st%C5%8Dk-cae-ras-stadium/

ภาพ: Wrexham AFC / Facebook

The post สโมสรเร็กซ์แฮมเผยการออกแบบอัฒจันทร์ใหม่ ความจุ 5,500 ที่นั่ง appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (20 มกราคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ลานกีฬาพัฒน์ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใต้ทางพิเศษศรีรัช บริเวณแยกอุรุพงษ์ ราชเทวี 

พื้นที่สำหรับออกกำลังกาย เล่นกีฬา และจัดกิจกรรมของชุมชน ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้กลับมาใช้งานได้จริงอีกครั้งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด เพื่อหวังให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงที่ประชาชนต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกปล่อยให้มีสภาพเสื่อมโทรมมาช่วงระยะหนึ่ง

สำหรับโครงการลานกีฬาพัฒน์ 2 เป็นการส่งมอบพื้นที่จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม มีวัตถุประสงค์ก่อสร้างเป็นสนามกีฬา สนามเด็กเล่น ลานผู้สูงอายุ และที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจในช่วงปี 2558

The post 10 ปีของ ลานกีฬาพัฒน์ 2 สวนกลางเมืองใต้ทางด่วน appeared first on THE STANDARD.

อาร์เซนอลเล็งขยายความจุสนามอีกราว 33% เพื่อเพิ่มความจุเอมิเรตส์สเตเดียมเป็น 80,000 ที่นั่ง

ปัจจุบันสนามเหย้าของทีมปืนใหญ่มีความจุอยู่ที่ 61,000 ที่นั่ง ซึ่งน้อยกว่าท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ทีมคู่ปรับในลอนดอนเหนือเกือบ 2,000 ที่นั่ง

โดยอาร์เซนอลใช้เอมิเรตส์สเตเดียมมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2006 หรือเกือบ 20 ปีแล้ว ทำให้พวกเขาเล็งพัฒนาสนามเพื่อให้ทันสมัยมากขึ้นและตอบรับความต้องการของแฟนบอลเพิ่มเติม

พวกเขาพร้อมทุ่มงบประมาณถึง 500 ล้านปอนด์ หรือราว 2.2 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาสนามครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความจุ เพราะอาจนำมาซึ่งรายได้จากการขายตั๋วในระยะยาว

นอกจากขยายความจุแล้ว อาร์เซนอลยังหวังที่จะพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามให้ทันสมัยขึ้นและอาจเพิ่มจอขนาดใหญ่ในสนามด้วย

ภาพ: Ryan Pierse / Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.bloomberg.com/news/newsletters/2024-11-15/arsenal-emirates-stadium-might-boost-capacity-by-33-to-80-000

The post อาร์เซนอลเล็งเพิ่มความจุสนามเป็น 80,000 ที่นั่ง appeared first on THE STANDARD.

สนามซานติอาโกเบร์นาเบว ของเรอัล มาดริด ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากการออกแบบของ L35 Arquitectos ร่วมกับ gmp Architects และ Ribas & Ribas Arquitectos ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสนามกีฬาที่ดีที่สุดในโลกในปี 2024 โดย World Football Summit หรือ WFS

รางวัลดังกล่าวแสดงถึงความยอดเยี่ยมขององค์ประกอบต่างๆ ของซานติอาโกเบร์นาเบว ทั้งการสร้างสรรค์การออกแบบ รวมไปถึงคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ

ความยอดเยี่ยมของสนามแห่งนี้นอกจากดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อย่างสนามหญ้าแบบพับเก็บได้รุ่นใหม่ พร้อมเรือนกระจกใต้ดินด้วย

รางวัลนี้ยังเน้นย้ำถึงความสามารถในการปรับตัวของสนามกีฬา ที่เป็นมากกว่าสนามกีฬาทั่วไป เพราะสนามแห่งนี้กลายมาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางวัฒนธรรมแห่งกรุงมาดริดไปแล้ว

ภาพ: Angel Martinez, Visionhaus, Florencia Tan Jun, David Ramos / Getty Images

อ้างอิง

• https://www.realmadrid.com/en-US/news/club/latest-news/el-santiago-bernabeu-elegido-el-mejor-estadio-del-mundo-por-la-world-football-summit-12-09-2024

The post ซานติอาโกเบร์นาเบว สนามที่ดีที่สุดในโลก ปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

สัปดาห์หน้า เทนนิสยูเอสโอเพนจะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการในฟลัชชิง เมโดว์ส มหานครนิวยอร์ก และเพื่อเป็นการต้อนรับฤดูกาลเทนนิสของมหานครแห่งนี้ Apeksha Agarwal ช่างภาพ และ AI Creative ชื่อดังแห่งนิวยอร์ก ได้ลองจินตนาการว่าจะเป็นอย่างไร หากคอร์ตเทนนิสไปอยู่ในสถานที่ชื่อดังต่างๆ ของมหานครแห่งนี้

โดยเธอลองนำเอาคอร์ตเทนนิสไปไว้ทั้งในพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ สถานีแกรนด์เซ็นทรัล สะพานบรูกลิน และดาดฟ้าตึกในจินตนาการ ซึ่งภาพที่ออกมานอกจากได้ความรู้สึกของนิวยอร์กซิตี้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ยังให้ความรู้สึกถึงยูเอสโอเพนอย่างแรงกล้าด้วย

ภาพ: apekshagarwal / Instagram

อ้างอิง:

• https://www.apekshaphotography.com/bio

The post หากสถานที่ชื่อดังในนิวยอร์กกลายเป็นที่ตั้งของสนามเทนนิส? appeared first on THE STANDARD.