สทนช. – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 23 Sep 2025 00:54:43 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สทนช. ประกาศเตือน อิทธิพลพายุรากาซา ทำฝนถล่มหลายพื้นที่ กทม.เสี่ยงน้ำท่วมขัง https://thestandard.co/heavy-rain-bangkok-ragasa/ Tue, 23 Sep 2025 00:54:43 +0000 https://thestandard.co/?p=1121639

วันนี้ (23 กันยายน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) […]

The post สทนช. ประกาศเตือน อิทธิพลพายุรากาซา ทำฝนถล่มหลายพื้นที่ กทม.เสี่ยงน้ำท่วมขัง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (23 กันยายน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ประจำวันโดยเตือนประชาชนเตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นรากาซา (RAGASA) ที่จะทำให้ร่องมรสุมมีกำลังแรงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่ที่มีปริมาณฝนสูงสุดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ (224 มิลลิเมตร) กาฬสินธุ์ (90 มิลลิเมตร) และจันทบุรี (67 มิลลิเมตร) สำหรับสภาพอากาศวันนี้ มีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในประเทศไทยตอนบน

 

พายุไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งปกคลุมอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและขึ้นฝั่งทางตอนบนของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 24-25 กันยายน 2568 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลง อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของพายุลูกนี้จะทำให้มรสุมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าว ภาคกลางและภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนัก ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก

 

ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีสัดส่วนรวมกันคิดเป็น 78% ของความจุเก็บกักทั้งหมด คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 66%

 

สทนช. ได้ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำหลาก น้ำท่วมขัง และน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 25-30 กันยายน 2568 โดยมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังดังต่อไปนี้

 

  • พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังในเขตเมือง เนื่องจากระบบระบายน้ำไม่ทัน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ

 

  • พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ได้แก่ จังหวัดในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ ตาก และน่าน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น นครราชสีมา และอุบลราชธานี, ภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี และตราด และภาคใต้ เช่น ชุมพร และระนอง

 

  • อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของความจุ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะต้องระบายน้ำ

 

  • พื้นที่ริมแม่น้ำโขง ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฝนตกหนักใน สปป.ลาว

 

  • พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ไปจนถึงปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะบริเวณคลองโผงเผงและคลองบางบาล รวมถึงแม่น้ำน้อยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา

The post สทนช. ประกาศเตือน อิทธิพลพายุรากาซา ทำฝนถล่มหลายพื้นที่ กทม.เสี่ยงน้ำท่วมขัง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เลขาฯ สทนช. เผย ภาคใต้ยังมีพายุอีก 1 ลูก ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร​ อย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้​รักษาชีวิตก่อน​ 2 สัปดาห์​สถานการณ์​ดีขึ้น https://thestandard.co/southern-thailand-storm-safety-advisory/ Sun, 01 Dec 2024 05:04:16 +0000 https://thestandard.co/?p=1014761 ภาคใต้ น้ำท่วม

วันนี้ (1 ธันวาคม) สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานท […]

The post เลขาฯ สทนช. เผย ภาคใต้ยังมีพายุอีก 1 ลูก ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร​ อย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้​รักษาชีวิตก่อน​ 2 สัปดาห์​สถานการณ์​ดีขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
ภาคใต้ น้ำท่วม

วันนี้ (1 ธันวาคม) สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงสถานการณ์ อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่า ประชาชนในพื้นที่ต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยระลอกที่ 2 ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากจะมีพายุเข้าไทยอีก 1 ลูกประกอบกับลานีญา ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้สั่งการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะพื้นที่ใต้เขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ต้องมีการระบายน้ำออกบ้าง แต่ไม่ให้สูงเกินพื้นที่ท้ายเขื่อนเกินกว่า 2 เมตร​ แต่หากไม่ระบายเลยก็ไม่ได้ 

 

ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ เนื่องจากเป็นประธานกรรมการ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)

 

สุรสีห์ยังระบุอีกว่า​ เวลานี้ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการออกจากพื้นที่และยังไม่ต้องรีบกลับเข้ามา พร้อมขออย่าห่วงที่อยู่อาศัยและทรัพย์สิน​ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลเป็นอย่างดี โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตไว้ก่อน เจ้าหน้าที่มีการจัดเตรียมสถานที่พักพิงไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประชาชนต้องเข้าใจและเปิดรับข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอด เพราะเดือนนี้ยังมีโอกาสที่น้ำจะท่วมอยู่อีก แต่คาดว่าในอีก 2 สัปดาห์สถานการณ์จะเบาลง​ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งให้ประชาชนกลับเข้าสู่บ้านเรือนอีกครั้ง

 

“ยอมรับว่าฝนตกหนักและเยอะจริงๆ เยอะกว่าปีที่แล้วที่ถล่มนราธิวาส​ และฝนในปีนี้ไม่ใช่กระทบเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กระทบไล่ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรีลงไป คณะกรรมการลุ่มน้ำจึงต้องบูรณาการร่วมกัน” สุรสีห์​กล่าว

The post เลขาฯ สทนช. เผย ภาคใต้ยังมีพายุอีก 1 ลูก ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร​ อย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้​รักษาชีวิตก่อน​ 2 สัปดาห์​สถานการณ์​ดีขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปภ. เตือน 11 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วง 2-6 พ.ย. นี้ https://thestandard.co/southern-thailand-flood-warning/ Sat, 02 Nov 2024 03:31:56 +0000 https://thestandard.co/?p=1002877 น้ำท่วม

วันนี้ (2 พฤศจิกายน) เวลา 09.00 น. ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ […]

The post ปภ. เตือน 11 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วง 2-6 พ.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
น้ำท่วม

วันนี้ (2 พฤศจิกายน) เวลา 09.00 น. ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง

 

ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2567 แยกเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม

 

ภาคกลาง 1 จังหวัด

 

  • จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอทับสะแก, บางสะพาน, บางสะพานน้อย)

 

ภาคใต้ 10 จังหวัด 

 

  • จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร, สวี, ทุ่งตะโก, หลังสวน และพะโต๊ะ)
  • จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี, กาญจนดิษฐ์, พนม, บ้านนาสาร, บ้านนาเดิม, พุนพิน, เคียนซา, พระแสง, ดอนสัก และเกาะสมุย)
  • จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช, ปากพนัง, เฉลิมพระเกียรติ, พระพรหม, ร่อนพิบูลย์, จุฬาภรณ์, ขนอม, ทุ่งสง, สิชล, นบพิตำ, ท่าศาลา, พรหมคีรี, ลานสกา, เชียรใหญ่, ชะอวด และหัวไทร)
  • จังหวัดพัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง และอำเภอควนขนุน)
  • สงขลา (อำเภอเมืองสงขลา, กระแสสินธุ์, ระโนด, นาทวี, สิงหนคร, หาดใหญ่ และรัตภูมิ)
  • จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง, กระบุรี, ละอุ่น, กะเปอร์ และสุขสำราญ)
  • จังหวัดพังงา (อำเภอตะกั่วป่า และกะปง)
  • จังหวัดภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
  • จังหวัดกระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่, เหนือคลอง และคลองท่อม)
  • จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง, ย่านตาขาว, ห้วยยอด, นาโยง และวังวิเศษ)

 

ทั้งนี้ พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดระนอง, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, กระบี่ และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่าง และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ

 

พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของคลองบางสะพาน, คลองชุมพร, แม่น้ำหลังสวน, แม่น้ำตาปี, คลองชะอวด, คลองลำ, คลองท่าแนะ และแม่น้ำตรัง

 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงประสานแจ้ง 11 จังหวัดในภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่มได้

 

ทั้งนี้ ได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตกและถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด

 

พร้อมทั้งกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด

The post ปภ. เตือน 11 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วง 2-6 พ.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษก ศปช. ยืนยัน เขื่อนภูมิพลรับน้ำเพียงพอและระบายน้ำปกติ ไม่กระทบประชาชนท้ายน้ำ สั่งเร่งต่อน้ำ-ไฟ จัดการขยะ-น้ำขัง อำเภอแม่สายโดยเร็ว https://thestandard.co/bhumibol-dam-safe-mae-sai-recovery/ Mon, 30 Sep 2024 08:42:47 +0000 https://thestandard.co/?p=989736 เขื่อนภูมิพล

วันนี้ (30 กันยายน) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกร […]

The post โฆษก ศปช. ยืนยัน เขื่อนภูมิพลรับน้ำเพียงพอและระบายน้ำปกติ ไม่กระทบประชาชนท้ายน้ำ สั่งเร่งต่อน้ำ-ไฟ จัดการขยะ-น้ำขัง อำเภอแม่สายโดยเร็ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
เขื่อนภูมิพล

วันนี้ (30 กันยายน) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รวมถึง ศปช. ส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าน้ำจากตอนบนไหลเข้า เขื่อนภูมิพล จำนวนมาก จนเกรงว่าเขื่อนจะไม่สามารถกักเก็บน้ำได้เพียงพอและอาจต้องระบายน้ำออกจำนวนมากนั้น ในที่ประชุม ศปช. ส่วนกลาง ได้ติดตามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้รับการยืนยันตรงกันว่า ขณะนี้ (30 กันยายน 2567) ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีศักยภาพเพียงพอในการรับน้ำได้อีกมาก และการปล่อยน้ำของเขื่อนจะไม่กระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนแต่อย่างใด

 

“เขื่อนภูมิพลที่รับน้ำจากแม่น้ำปิงนั้นสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 8,247 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 61% ของความจุทั้งหมด ซึ่งยังสามารถรับน้ำได้อีก 5,215 ล้าน ลบ.ม. และจากผลการประชุม สรุปว่า มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนวันละ 134 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่การระบายน้ำอยู่ที่ 1 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น ซึ่งถือว่าอยู่ในภาวะปกติ ศปช. ยืนยันได้ว่าการระบายน้ำของ เขื่อนภูมิพล ไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีข้อสรุปว่าปลายสัปดาห์หน้า ฤดูในพื้นที่ภาคเหนือจะเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว จึงจะทำให้ปริมาณน้ำฝนลดลง” จิรายุกล่าว

 

เร่งต่อน้ำ-ไฟเข้าบ้านประชาชนในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมสั่งเร่งจัดการขยะ

 

ส่วนการประชุม ศปช. ส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งมี ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นที่ปรึกษาการประชุม

 

จิรายุระบุว่า คณะทำงานรายงานเรื่องการฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ว่า ขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ดำเนินการฟื้นฟูระบบจ่ายไฟให้กลับมาใช้งานได้ทั้งหมดแล้ว เช่นเดียวกับระบบน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ กฟภ. จังหวัดเชียงราย กำลังเร่งต่อไฟจากระบบสายเมนตามถนนเข้าบ้านเรือนประชาชน

 

จิรายุกล่าวอีกว่า ประชาชนขอให้ ศปช. เร่งจัดการขยะและระบายขังที่น้ำเน่าเสีย ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีปริมาณขยะตกค้างอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก เนื่องจากบ่อขยะถูกน้ำท่วม ซึ่งมีการแก้ปัญหาด้วยการจัดจุดพักขยะชั่วคราว

The post โฆษก ศปช. ยืนยัน เขื่อนภูมิพลรับน้ำเพียงพอและระบายน้ำปกติ ไม่กระทบประชาชนท้ายน้ำ สั่งเร่งต่อน้ำ-ไฟ จัดการขยะ-น้ำขัง อำเภอแม่สายโดยเร็ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
สทนช. ขอประชาชนริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูง 18-21 ก.ย. โดยเฉพาะนครพนม ส่วนปริมาณฝนภาคเหนือหนักสุดอยู่ที่พะเยา https://thestandard.co/onwr-mekong-river-water-level-beware/ Tue, 17 Sep 2024 01:24:21 +0000 https://thestandard.co/?p=984306 แม่น้ำโขง

วันนี้ (17 กันยายน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) […]

The post สทนช. ขอประชาชนริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูง 18-21 ก.ย. โดยเฉพาะนครพนม ส่วนปริมาณฝนภาคเหนือหนักสุดอยู่ที่พะเยา appeared first on THE STANDARD.

]]>
แม่น้ำโขง

วันนี้ (17 กันยายน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ เวลา 07.00 น.

 

  1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงสูงสุด ได้แก่ 

 

ภาคเหนือ: จังหวัดพะเยา (106 มิลลิเมตร) 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย (107 มิลลิเมตร) 

ภาคกลาง: จังหวัดสมุทรสงคราม (45 มิลลิเมตร) 

ภาคตะวันออก: จังหวัดตราด (263 มิลลิเมตร) 

ภาคตะวันตก: จังหวัดกาญจนบุรี (44 มิลลิเมตร) 

ภาคใต้: จังหวัดภูเก็ต (262 มิลลิเมตร)

 

  1. สทนช. ขอให้เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำ แม่น้ำโขง เพิ่มขึ้นช่วงวันที่ 16-21 กันยายน 2567

 

เนื่องจากขณะนี้มวลน้ำหลากใน แม่น้ำโขง ได้ไหลผ่านจังหวัดเลย หนองคาย และบึงกาฬ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดหนองคายสูงสุด 21,187 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สูงกว่าตลิ่ง 1.62 เมตร และจะเคลื่อนตัวผ่านจังหวัดบึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี 

 

ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5-1.0 เมตร ในช่วงวันที่ 18-21 กันยายน 2567 โดยเฉพาะจังหวัดนครพนม ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง 0.3-0.5 เมตร ในวันที่ 18 กันยายน 2567 

 

จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นและเตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำโขง และริมลำน้ำบางสาขาของประเทศไทยที่ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้โดยสะดวก

 

  1. สถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 16 กันยายน ในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ 

 

จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย แม่ฟ้าหลวง แม่จัน เชียงแสน ดอยหลวง เทิง เวียงแก่น และเชียงของ) จังหวัดสุโขทัย (อำเภอกงไกรลาศ) จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอเมืองพิษณุโลก บางระกำ และพรหมพิราม) จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย สังคม ท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ และรัตนวาปี) จังหวัดอุดรธานี (อำเภอเมืองอุดรธานี นายูง น้ำโสม หนองหาน และโนนสะอาด) จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ โซ่พิสัย บึงโขงหลง เซกา พรเจริญ ปากคาด บุ่งคล้า และศรีวิไล) จังหวัดปราจีนบุรี (อำเภอกบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ และประจันตคาม) จังหวัดอ่างทอง (อำเภอวิเศษชัยชาญ) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (อำเภอบางบาล บางปะหัน ผักไห่ เสนา พระนครศรีอยุธยา บางไทร และบางปะอิน) จังหวัดเลย (อำเภอปากชมและเชียงคาน) จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี และตะกั่วทุ่ง) จังหวัดชุมพร (อำเภอพะโต๊ะ) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ตและถลาง) และจังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ควนโดน ท่าแพ และมะนัง)

The post สทนช. ขอประชาชนริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูง 18-21 ก.ย. โดยเฉพาะนครพนม ส่วนปริมาณฝนภาคเหนือหนักสุดอยู่ที่พะเยา appeared first on THE STANDARD.

]]>
อนุทินเล็งหารือนายกฯ ใหม่ หลังงบป้องกันน้ำท่วมถูกดึงจากมหาดไทยไปอยู่ สทนช. ระบุ ทำงานยากขึ้น จะสร้างฝายสักฝายยังทำไม่ได้ https://thestandard.co/anutin-flood-budget-transfer-concerns/ Mon, 16 Sep 2024 06:28:11 +0000 https://thestandard.co/?p=984075 กระทรวงมหาดไทย

วันนี้ (16 กันยายน) ที่รัฐสภา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกร […]

The post อนุทินเล็งหารือนายกฯ ใหม่ หลังงบป้องกันน้ำท่วมถูกดึงจากมหาดไทยไปอยู่ สทนช. ระบุ ทำงานยากขึ้น จะสร้างฝายสักฝายยังทำไม่ได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
กระทรวงมหาดไทย

วันนี้ (16 กันยายน) ที่รัฐสภา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่น้ำท่วมว่า การช่วยเหลือต่างๆ ในเรื่องอาหาร เวชภัณฑ์ ที่พักพิง และเครื่องมือเครื่องจักร ที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ตอนนี้ยืนยันได้ว่าพร้อมและเราจะระดมพลเข้าไป ซึ่งในจังหวัดเชียงรายก็จะหนักหน่อย เพราะมีโคลนหรือดินที่เข้าไปอยู่ในบ้าน ต้องเร่งทำความสะอาด เอาออกมาให้หมดก่อนที่จะแห้ง และถ้าเป็นดินเหนียวก็จะยาก

 

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือ วันนี้เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมเพื่อตั้งศูนย์บัญชาการแห่งชาติเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วม ส่วนข้อสั่งการที่ตนได้รับจากนายกฯ มาตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน คือ เร่งเข้าไปสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน และให้กระทรวงมหาดไทยนำเสนอเรื่องบัญชีเป็นรายครัวเรือนว่าแต่ละครัวเรือนจะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลอย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของเม็ดเงิน และเรามีแนวทาง มาตรการอยู่แล้ว และทางกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึงการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)

 

ทั้งนี้นายกฯ ได้สั่งการให้ตนไปให้นโยบายกับคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง ให้หาวิธีช่วยเหลือเยียวยา เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ในพื้นที่ประสบภัย ถ้าไม่ต้องจ่ายเงินในเดือนกันยายนได้ก็ทำเลย ถ้าทำไม่ได้หรือผิดกฎอะไรก็จะลดอัตราค่าใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาของประชาชน ซึ่งกำลังเร่งประชุมคณะกรรมการอย่างเร่งด่วน ฉะนั้นในเรื่องการเยียวยาเราเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่

 

อนุทินกล่าวต่อว่า เรื่องการป้องกันต้องยอมรับว่าในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทั้งหลาย เรื่องของการวางแผนป้องกันอุทกภัยจะอยู่ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ดังนั้นกระทรวงมหาดไทย เรื่องงบป้องกันถูกตัดหมดเลย คงต้องมานั่งคุยกันใหม่ สำหรับงบประมาณปี 2569 ถ้าไม่ให้ทำเรื่องการป้องกัน ก็ต้องไปอัดงบป้องกันที่ สทนช. และต้องเพิ่มองคาพยพต่างๆ ให้เขาสามารถทำเรื่องป้องกันได้

 

“กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตอนนี้หนักไปที่บรรเทาแล้ว เพราะเรื่องการป้องกันถูกดึงอำนาจออกไปหมดเลย สร้างฝายสักฝายยังไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมวันนี้คงต้องนำเรื่องนี้หยิบยกขึ้นมาหารือ เพราะเป็นกฎหมายก่อนหน้าที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาบริหาร ก่อนหน้ารัฐบาลชุดที่แล้วด้วยซ้ำ” อนุทินกล่าว

 

อนุทินยังกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย และนครพนม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย เมื่อประกาศก็จะมีเงินทดรองในการเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านโดยที่ไม่ต้องรอการอนุมัติใดๆ ถ้าวงเงินใช้หมดแล้วไม่พอก็ทำเรื่องขยาย เหมือนเชียงรายที่ได้ดำเนินการก่อนหน้า และนายกฯ ก็ได้ให้ความเห็นชอบ ส่วนเรื่องเงินชดเชยความเสียหายจะมีเกณฑ์อยู่ ถ้ามีความเสียหายของบ้านเรือนคาดว่าจะประมาณ 49,000 บาท ย้ำว่างบประมาณมีเพียงพอ แต่เราต้องพยายามหาวิธีการวางแผนป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดอุทกภัยซ้ำซากมากกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ

 

อนุทินยังย้ำถึงงบประมาณที่ใช้บริหารสถานการณ์และเยียวยาประชาชนว่า มีเพียงพออยู่แล้ว ทั้งงบประมาณสำหรับภัยพิบัติ รวมถึงงบกลาง ที่นายกฯ สามารถใช้ดุลพินิจอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หากจำเป็นเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน ยืนยันว่างบประมาณมีเพียงพอ แต่จากนี้ต้องหาวิธีการวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก เนื่องจากมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่ต้องพูดคุยเจรจากับต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายกระทรวงเข้ามาเกี่ยวข้อง

The post อนุทินเล็งหารือนายกฯ ใหม่ หลังงบป้องกันน้ำท่วมถูกดึงจากมหาดไทยไปอยู่ สทนช. ระบุ ทำงานยากขึ้น จะสร้างฝายสักฝายยังทำไม่ได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สทนช. รายงานสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ น้ำท่วม 7 จังหวัด ภาคเหนือ ‘เชียงใหม่’ มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากที่สุด https://thestandard.co/thailand-flood-report-7-provinces-chiang-mai-rainfall/ Wed, 11 Sep 2024 02:04:30 +0000 https://thestandard.co/?p=982061 น้ำท่วม

วันนี้ (11 กันยายน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) […]

The post สทนช. รายงานสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ น้ำท่วม 7 จังหวัด ภาคเหนือ ‘เชียงใหม่’ มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
น้ำท่วม

วันนี้ (11 กันยายน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ เวลา 07.00 น. ว่า ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงสูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ (222), ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครพนม (91), ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (41), ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี (124), ภาคตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี (45 มม.) และภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช (48)

 

ขณะที่สภาพอากาศวันนี้ ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน

 

ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ คาดการณ์ช่วงวันที่ 14-16 กันยายน ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

 

สำหรับสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม: ปริมาณน้ำรวม 64% ของความจุเก็บกัก (51,736 ล้าน ลบ.ม.) และปริมาณน้ำใช้การ 48% (27,555 ล้าน ลบ.ม.)

 

ขณะที่มีประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดังนี้

 

ในช่วงวันที่ 13-18 กันยายน เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน บริเวณที่ลุ่มต่ำและชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ รวมทั้งน้ำป่าไหลหลาก

 

ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

 

ภาคกลาง จังหวัดลพบุรี สระบุรี และนครนายก

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 

ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

 

ภาคใต้ จังหวัดชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตรัง และสตูล

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ข้อมูล ณ วันที่ 10 กันยายน ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (อำเภอแม่สาย เชียงของ ขุนตาล และพญาเม็งราย), จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอฝาง และแม่อาย), จังหวัดตาก (อำเภอแม่สอด), จังหวัดสุโขทัย (อำเภอกงไกรลาศ), จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอพรหมพิราม บางระกำ และเมืองพิษณุโลก), จังหวัดอ่างทอง (อำเภอวิเศษชัยชาญ) และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (อำเภอเสนา บางบาล บางปะหัน ผักไห่ บางไทร พระนครศรีอยุธยา และบางปะอิน)

The post สทนช. รายงานสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ น้ำท่วม 7 จังหวัด ภาคเหนือ ‘เชียงใหม่’ มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประยุทธ์สั่งประเมินวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-แล้ง ล่วงหน้า 6 เดือน ย้ำเตือนประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือได้ทันท่วงที https://thestandard.co/prayut-assess-water-situation/ Fri, 07 Jul 2023 04:04:29 +0000 https://thestandard.co/?p=813519 ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วันนี้ (7 กรกฎาคม) อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐ […]

The post ประยุทธ์สั่งประเมินวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-แล้ง ล่วงหน้า 6 เดือน ย้ำเตือนประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือได้ทันท่วงที appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วันนี้ (7 กรกฎาคม) อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการประเมินสถานการณ์น้ำของประเทศ ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา, สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน), กรมทรัพยากรน้ำ, กรมชลประทาน, กรมทรัพยากรธรณี, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ พบว่าปัจจุบันภาพรวมปริมาณฝนทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติ 25% ซึ่งที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ยังมีฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย โดยฝนจะตกในพื้นที่ภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก

 

ขณะที่สถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 40,808 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 50% ของความจุรวมทั้งหมด ในปริมาณนี้เป็นน้ำใช้การ 16,698 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 29% ซึ่งปัจจุบันมีการใช้น้ำนับจากช่วงต้นฤดูฝนไปแล้วประมาณ 10% โดยภาคกลางเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยที่สุดในขณะนี้ สำหรับการจัดสรรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่งให้แก่พื้นที่ต่างๆ มีการจัดสรรแล้วรวม 6,604 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 42% ของแผนทั้งหมด โดยภาคที่มีการจัดสรรน้ำมากที่สุด ได้แก่ ภาคเหนือ โดยจัดสรรไปแล้ว 54% ของแผน

 

อนุชากล่าวว่า รัฐบาล โดย กอนช. ได้จำลองปริมาณน้ำจากปี 2562 เพื่อใช้คาดการณ์ปริมาณน้ำใช้การของอ่างฯ ขนาดใหญ่ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 พบว่า จะมีปริมาณน้ำใช้การ 26,071 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 55% ซึ่งน้อยกว่าเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่า ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 จะมีอ่างฯ ขนาดใหญ่ จำนวน 21 แห่ง มีโอกาสเสี่ยงน้ำน้อย ได้แก่ ภาคเหนือ 7 แห่ง ภาคตะวันออก 6 แห่ง ภาคตะวันตก 4 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 แห่ง และภาคกลาง 2 แห่ง 

 

นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำใช้การล่วงหน้าในปี 2567 พบว่า ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2567 จะมีปริมาณน้ำใช้การ 12,162 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 26% และ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 จะมีปริมาณน้ำใช้การ 11,646 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 25% ซึ่งลดลงไปประมาณครึ่งหนึ่งจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดย กอนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องติดตามเฝ้าระวังการใช้น้ำ 

 

รวมทั้งติดตามในเรื่องแผนการจัดสรรน้ำอย่างเคร่งครัด โดยระบายน้ำให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ และใช้เสริมจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเท่านั้น เพื่อให้มีน้ำสำรองกักเก็บไว้ในแหล่งน้ำ โดยเฉพาะในอ่างฯ ขนาดใหญ่ให้ได้มากที่สุด รวมถึงมีการจัดรอบเวรการรับน้ำ แบ่งออกเป็น ต้นคลอง กลางคลอง และปลายคลอง เพื่อให้สามารถกระจายน้ำให้แก่ทุกพื้นที่ที่ต้องการใช้น้ำได้อย่างทั่วถึง ขณะนี้มีพื้นที่ซึ่งมีการจัดรอบเวรการส่งน้ำโดยกรมชลประทานแล้ว ได้แก่ คลองมะขามเฒ่าอู่ทอง ตั้งแต่จังหวัดชัยนาทถึงจังหวัดสุพรรณบุรี และคลองชัยนาท-ป่าสัก 

 

พร้อมกันนี้ รัฐบาล โดย กอนช. ได้ประเมิน วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม น้ำแล้ง ล่วงหน้า 6 เดือน ตามปริมาณฝนคาดการณ์ ONE MAP พบว่า มีพื้นที่ที่มีภาวะความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนกลางของประเทศ และยังคงมีพื้นที่ซึ่งเป็นแนวรับลมที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมจากฝนตกหนัก โดยในเดือนกรกฎาคม 2566 พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในบริเวณชายขอบของประเทศ ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือตอนบนในจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และจังหวัดน่าน พื้นที่บริเวณชายขอบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ภาคกลางในจังหวัดเพชรบูรณ์ บริเวณลุ่มน้ำป่าสัก และพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดระนองลงไป และพบพื้นที่เสี่ยงแล้ง เช่น จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดเพชรบุรี จึงขอย้ำให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน National ThaiWater เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

The post ประยุทธ์สั่งประเมินวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-แล้ง ล่วงหน้า 6 เดือน ย้ำเตือนประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือได้ทันท่วงที appeared first on THE STANDARD.

]]>
จับตาพายุ ‘หมาเหล่า’ และน้ำทะเลหนุน หวั่นกระทบแม่นำ้สายหลัก สั่ง สทนช. ปรับการระบายน้ำช่วย 15 จังหวัดที่เจอน้ำท่วม https://thestandard.co/flood-in-thailand-2564-64/ Sun, 24 Oct 2021 12:08:36 +0000 https://thestandard.co/?p=551795 พายุหมาเหล่า

วันนี้ (24 ตุลาคม) พล.อ. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า […]

The post จับตาพายุ ‘หมาเหล่า’ และน้ำทะเลหนุน หวั่นกระทบแม่นำ้สายหลัก สั่ง สทนช. ปรับการระบายน้ำช่วย 15 จังหวัดที่เจอน้ำท่วม appeared first on THE STANDARD.

]]>
พายุหมาเหล่า

วันนี้ (24 ตุลาคม) พล.อ. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมี ความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ 15 จังหวัดที่ยังประสบปัญหาอุทกภัย และกังวลพายุลูก ใหม่ซ้ำเติม ขณะที่ฝนยังมากต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง ภาคตะวัน ออกและภาคใต้ และน้ำทะเลหนุนสูง ระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม

 

พล.อ. ประวิตร ได้กำชับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งขาติ (สทนช.) ให้ติดตามพยากรณ์สภาพอากาศและพายุ ‘หมาเหล่า’ โดยให้ประเมินสถานการณ์น้ำเข้าเขื่อน และพิจารณาปรับการระบาย น้ำลงแม่น้ำสายหลัก ไม่ให้น้ำล้นตลิ่งกระทบพื้นที่โดยรอบ สำหรับการบริหารจัดการ อุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีน ขอให้ประสานกรมชลประทาน ใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ เจ้าพระยาช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน โดยให้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำใน แม่น้ำท่าจีนตามจุดต่างๆ เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรีและนครปฐม

 

ทั้งนี้ภาพรวมการช่วยเหลือน้ำท่วมของกระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพปัจจุบันยังคงสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ และทำงานร่วมกับจิตอาสา ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องมา โดยยังคงหมุนเวียนกำลังทหารกว่า 15,000 นาย รวมทั้งเครื่องมือช่างและยานพาหนะกว่า 900 คัน กระจายลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งการอพยพประชาชน ผู้ป่วย ผู้สูงอายุและเด็ก การขนย้ายสัตว์เลี้ยงจำนวนมากออกจากพื้นที่น้ำท่วมเข้าพื้นที่ปลอดภัย และได้เร่งติดตั้งสะพานทางทหารและซ่อมแซมสะพานในเส้นทางที่ถูกตัดขาดกว่า 10 แห่งในพื้นที่ จังหวัดพะเยา เพชรบูรณ์และ นครราชสีมา ร่วมไปกับการจัดยานพาหนะอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนให้สามารถสัญจรได้ปกติ

 

ขณะเดียวกันทุกเหล่าทัพได้สนับสนุนการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนและจัดกำลังพร้อมเครื่องมือช่าง เร่งเข้าไปเสริมความแข็งพนังกั้นน้ำในพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ริมแม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา และเปิดทางระบายน้ำลงแม่น้ำสายหลัก และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เรือระบายน้ำกว่า 40 ลำ เร่งระบายและผลักดันน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมขังและความเสียหายที่เกิดขึ้น

The post จับตาพายุ ‘หมาเหล่า’ และน้ำทะเลหนุน หวั่นกระทบแม่นำ้สายหลัก สั่ง สทนช. ปรับการระบายน้ำช่วย 15 จังหวัดที่เจอน้ำท่วม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประวิตรปัดตอบ ส.ส. ลงพื้นที่เร่งหาเสียง ชี้พายุลูกใหม่เข้าเหนือไม่น่าห่วง ถือเป็นผลดี เก็บนำ้ไว้ใช้ https://thestandard.co/prawit-reject-answer-on-mp-election-campaign/ Tue, 05 Oct 2021 03:45:28 +0000 https://thestandard.co/?p=544077 ประวิตร

วันนี้ (5 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประวิตร วงษ์สุ […]

The post ประวิตรปัดตอบ ส.ส. ลงพื้นที่เร่งหาเสียง ชี้พายุลูกใหม่เข้าเหนือไม่น่าห่วง ถือเป็นผลดี เก็บนำ้ไว้ใช้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประวิตร

วันนี้ (5 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า มีการเฝ้าระวังตลอดเวลา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เตรียมการไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่วันพรุ่งนี้จะมีนำ้ขึ้นที่เจ้าพระยาสูง 50 เซนติเมตร อาจต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ตามแนวตลิ่ง  

 

ส่วนพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาทางภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลดีกับประเทศ จะได้มีการเก็บกักน้ำไว้ใช้ ส่วนภาคกลางคงได้รับผลกระทบไม่มากนัก พร้อมย้ำว่า จากสถานการณ์ที่ผ่านมาได้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้พร้อมรับมืออยู่แล้ว สทนช. ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนทุกครั้ง 

 

ขณะที่มาตรการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็ได้มีการเตรียมการไว้ พร้อมแล้ว 

 

พล.อ. ประวิตร ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ว่า นอกจากสถานการณ์นำ้ท่วมที่ต้องไปติดตาม ตนจะไปดูเรื่องของการศึกษาและเรื่องที่ดิน 

 

ซึ่ง พล.อ. ประวิตร ปฏิเสธว่า การลงพื้นที่ของ ส.ส. พรรค ไม่ได้เป็นการหาเสียง และการลงพื้นที่ของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ลุยนำ้แจกของให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็เป็นเรื่องของพรรค พร้อมปฏิเสธว่าจะเป็นผลบวกกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่

The post ประวิตรปัดตอบ ส.ส. ลงพื้นที่เร่งหาเสียง ชี้พายุลูกใหม่เข้าเหนือไม่น่าห่วง ถือเป็นผลดี เก็บนำ้ไว้ใช้ appeared first on THE STANDARD.

]]>