สถานการณ์น้ำท่วม – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 06 Oct 2025 07:57:54 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เลขาฯ สทนช.​ ชี้สถานการณ์​น้ำไม่น่ากังวลเท่าปี​ 54​ น้ำ จับตาปริมาณฝน​ 7-8 ต.ค.​ ก่อนปรับการปล่อยน้ำ https://thestandard.co/nwa-dam-discharge-increase-sirikit-bhumibol/ Mon, 06 Oct 2025 07:15:27 +0000 https://thestandard.co/?p=1127063 NWA-Dam-Discharge-Increase-Sirikit-Bhumibol

วันนี้ (6 ตุลาคม) ดนุชา​ พิชยนันท์​ เลขาธิการสำนักงานทร […]

The post เลขาฯ สทนช.​ ชี้สถานการณ์​น้ำไม่น่ากังวลเท่าปี​ 54​ น้ำ จับตาปริมาณฝน​ 7-8 ต.ค.​ ก่อนปรับการปล่อยน้ำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
NWA-Dam-Discharge-Increase-Sirikit-Bhumibol

วันนี้ (6 ตุลาคม) ดนุชา​ พิชยนันท์​ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำในปีนี้​ ว่า​ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนตกค่อนข้างมากกว่าปกติในพื้นที่ภาคเหนือ จึงทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนเศรษฐกิจมากกว่าเดิม 

 

แต่จากการหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อาจจะต้องมีการปรับการระบายน้ำใน 2 เขื่อนหลัก ทั้งเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล ที่สัปดาห์ก่อนปล่อยน้ำ 2 เขื่อนรวมกันไม่เกิน 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ในช่วง 2 วันที่ฝนตกผิดปกติ จึงต้องมีการปรับ ปริมาณการปล่อยน้ำเพิ่ม เป็น 40-50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

 

รวมถึงต้องดูวันที่ 7-8 ตุลาคมนี้ ที่จะมีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มเติมว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร โดยอาจจะมีการปรับการระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้น้ำที่ไหลลงมาเขื่อนเจ้าพระยา ความเร็วอยู่ที่ 2,500-2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระดับไม่เกิน 17 เมตร เบื้องต้นในการพูดคุยกับทางกรมชลประทานจะมีการตัดยอดน้ำ​ และจะประเมินอีกครั้งใน 2 วัน ข้างหน้า

 

เลขาฯสทนช.ยังระบุอีกว่า หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการ คือ การประมาณการน้ำฝน ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่นอน โดยจะต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากประเมินสถานการณ์น้ำภาพรวมปี 2568 เทียบกับปี 2554 ตัวเลขต่ำกว่า และปริมาณน้ำช่องว่างที่กักเก็บในเขื่อน ก็มากกว่าปี 2554 ฉะนั้นก็อาจจะไม่ต้องกังวล ว่าจะเกิดถึงขั้นปี 54

 

ส่วนจะมีพื้นที่กรุงเทพมหานครใดที่น่ากังวล​  เลขาฯ สทนช. ระบุว่า พื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ เพราะจะทำให้น้ำเข้าท่วม ซึ่งขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมไปถึงกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการเตรียมการป้องกัน

The post เลขาฯ สทนช.​ ชี้สถานการณ์​น้ำไม่น่ากังวลเท่าปี​ 54​ น้ำ จับตาปริมาณฝน​ 7-8 ต.ค.​ ก่อนปรับการปล่อยน้ำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อรรถกร จ่อลงพื้นที่น่าน ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม หลังพายุวิภาถล่ม เร่งดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ไม่ปล่อยให้เผชิญภัยพิบัติโดยลำพัง https://thestandard.co/flood-relief-nan-sukhothai/ Thu, 24 Jul 2025 03:45:47 +0000 https://thestandard.co/?p=1099126 flood-relief-nan-sukhothai

วันนี้ (24 กรกฎาคม) อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการก […]

The post อรรถกร จ่อลงพื้นที่น่าน ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม หลังพายุวิภาถล่ม เร่งดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ไม่ปล่อยให้เผชิญภัยพิบัติโดยลำพัง appeared first on THE STANDARD.

]]>
flood-relief-nan-sukhothai

วันนี้ (24 กรกฎาคม) อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเมืองในพื้นที่จังหวัดน่าน  จากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำทะลักพนังกั้นน้ำหลากเข้าท่วมตัวเมือง รวมถึงเขตเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรเป็นวงกว้าง 

 

ทำให้เกษตรกรจำนวนมากได้รับความเสียหายทั้งพืชผลทางการเกษตร และแหล่งน้ำสำหรับทำกิน โดยตนจะลงพื้นที่จังหวัดน่านและสุโขทัย ในวันที่ 25–26 กรกฎาคมนี้ เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์การจัดการน้ำ พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง-อุทกภัย รวมถึงดูแลความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรอย่างใกล้ชิด

 

ในวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 12.00 น. ตนจะเดินทางไปยังจังหวัดน่าน เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำในพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบ พร้อมหารือกับฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น และเกษตรกร เพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือและบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ รวมถึงมอบถุงยังชีพให้กับเกษตรกรที่ประสบภัยด้วย

 

ในวันที่ 26 กรกฎาคม ตนจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุโขทัย ซึ่งถือได้ว่าเป็นพื้นที่รองรับมวลน้ำลุ่มน้ำยม โดยเฉพาะน้ำยมสายหลักที่ไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย ซึ่งตนจะลงตรวจเยี่ยมสถานที่สำคัญ ได้แก่ ประตูระบายน้ำ คลองยม-น่าน, ประตูระบายน้ำ กม.22 ต.คลองกระจง อำเภอสวรรคโลก,จุดส่งน้ำสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า คลองยม-น่าน,สะพานพระร่วง และจุดเสี่ยงริมห้วยแม่ถัง,ระบบจัดการน้ำในพื้นที่รับผิดชอบของกรมชลประทาน พร้อมทั้งร่วมประชุมกับผู้แทนหน่วยงานและผู้นำชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำยม และรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่โดยตรง

 

“ผมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ทั้งส่วนกลางและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด รวมทั้งกำชับให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวด ควบคุมสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย และกระทรวงเกษตรฯ ขอยืนยันว่า เราจะไม่ปล่อยให้ประชาชนและพี่น้องเกษตรกรต้องเผชิญภัยพิบัติโดยลำพังอย่างแน่นอน” อรรถกร กล่าว

The post อรรถกร จ่อลงพื้นที่น่าน ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม หลังพายุวิภาถล่ม เร่งดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ไม่ปล่อยให้เผชิญภัยพิบัติโดยลำพัง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ครม. เยียวยาน้ำท่วมอีก 16 จังหวัด วงเงิน 5,000 ล้านบาท พร้อมเพิ่มงบภัยพิบัติจังหวัดอีก 50 ล้านบาท ย้ำ รัฐบาลนี้จ่ายเงินเยียวยาเร็ว https://thestandard.co/thailand-flood-relief-16-provinces-budget/ Tue, 03 Dec 2024 08:11:42 +0000 https://thestandard.co/?p=1015481 เยียวยาน้ำท่วม

วันนี้ (3 ธันวาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผล […]

The post ครม. เยียวยาน้ำท่วมอีก 16 จังหวัด วงเงิน 5,000 ล้านบาท พร้อมเพิ่มงบภัยพิบัติจังหวัดอีก 50 ล้านบาท ย้ำ รัฐบาลนี้จ่ายเงินเยียวยาเร็ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
เยียวยาน้ำท่วม

วันนี้ (3 ธันวาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ครม. ได้รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีการเพิ่มกรอบเงินทดรองของจังหวัดจากเดิม 20 ล้านบาท เพิ่มอีก 50 ล้านบาท ในจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบภัยพิบัติ 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

 

นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบอนุมัติการใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 เพิ่มเติมในกรอบของงบประมาณตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินที่ให้มีการปรับในกรณีที่อยู่อาศัยประจำพื้นที่น้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายหรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันเกินกว่า 7 วัน ให้ความช่วยเหลืออัตราเดียวกันทุกครัวเรือน ครัวเรือนละ 9,000 บาท จากเดิมใน 57 จังหวัด เพิ่มเติมอีก 16 จังหวัด รวมถึงจังหวัดในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย เป็นจำนวนเงิน 5,000 ล้านบาท จนถึงสิ้นปี 2567 โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป

 

ขออย่าดราม่าน้ำท่วมใต้ ย้ำ มาตรการช่วยเหลือต้องไปถึง

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีดราม่าละเลยคนใต้หลังเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ว่า เรื่องภาคใต้ดราม่าก็ตัดไปบางส่วน คำถามเรื่องมาตรการก็ตอบไปหมดแล้ว ขออย่าเอาดราม่าไปปนกับปัญหา และอย่างที่เคยบอกไปว่าเรื่องดราม่าไม่จำเป็น สิ่งสำคัญคือน้ำท่วมภาคใต้มาตรการต้องไปถึง ส่วนตนจะลงพื้นที่ไปหรือไม่ก็ขอดูสถานการณ์ และเมื่อน้ำลด มาตรการฟื้นฟูไปถึงแน่นอน แต่เดือนธันวาคมมีภารกิจค่อนข้างแน่น เช่นเดียวกับเดือนที่แล้ว จะพยายามทำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด ซึ่งได้ส่งรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปหลายคน

 

“เรื่องการเยียวยาและฟื้นฟูยืนยันว่าไม่มีน้อยกว่าที่ใด พิจารณาตามหลักการ เป็นอัตราเดียวกัน 9,000 บาทต่อครัวเรือน และตั้งแต่น้ำท่วมภาคเหนือ ภาคอีสาน ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้จ่ายเงินค่าเยียวยาได้เร็วมาก ถ้าตัดเรื่องดราม่าแล้วลงไปคุยกับพี่น้องประชาชน จะทราบว่าเราลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหนในประเทศไทยก็ได้รับการดูแลจากรัฐบาลแบบเดียวกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนประชาชนเรียบร้อยแล้ว และในที่ประชุม ครม. พูดคุยกันว่าจะมีฝนตกหนักเพิ่มในพื้นที่ภาคใต้ จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อม และแจ้งเตือนเรียบร้อยหมดแล้ว

 

คาดปีนี้จัดการฝุ่น กทม. ได้ดี

 

นอกจากนี้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการป้องกันมลพิษทางอากาศ ทั้งในส่วนของปัญหาจากการเผาทางการเกษตร ควัน ไอเสียของรถยนต์ และฝุ่นควันจากภาคอุตสาหกรรม โดยกระทรวงการต่างประเทศมีมาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใสร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งยังมีนวัตกรรมอีกจำนวนมากที่รัฐบาลจะสนับสนุนในเรื่องการดักฝุ่นควัน เพื่อไม่ให้เกิดควันเพิ่มขึ้น

 

ส่วนของกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครร่วมมือกับทุกภาคส่วนป้องกันปัญหาการเกิดฝุ่น PM2.5 ซึ่งจำนวนที่ตรวจพบค่าฝุ่น PM2.5 ที่เกินมาตรฐานเมื่อเทียบกับปี 2566 ลดลงถึงร้อยละ 20 จึงคาดการณ์ว่าในปีนี้น่าจะจัดการปัญหาเรื่องฝุ่นควันได้ดียิ่งขึ้น

 

ครม. อนุมัติสร้างทางด่วน M9 บางขุนเทียน-บางบัวทอง

 

จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม (โครงการ M9) ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนให้ความเห็นชอบแล้ว เพื่อช่วยแบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันตก และเชื่อมต่อโครงข่ายทางหลวงพิเศษรอบกรุงเทพมหานคร โดยมีเส้นทางรวมระยะทางประมาณ 35.85 กิโลเมตร

 

จุดเริ่มต้นบริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน สิ้นสุดบริเวณจุดตัดทางแยกต่างระดับบางบัวทอง มีการเวนคืนที่ดินในพื้นที่โครงการทั้งหมด 3 ตำแหน่ง รวมพื้นที่ทั้งหมด 33 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา โดยมีรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีทางขึ้น 8 จุด และทางลง 6 จุด ทางแยกต่างระดับ 5 แห่ง

 

สำหรับการแบ่งปันผลประโยชน์ เอกชนจะเป็นผู้รับสัมปทานเป็นผู้ได้รับอนุญาตในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางตามอัตราค่าธรรมเนียมผ่านทางที่กำหนด โดยให้มีการปรับขึ้นทุก 5 ปี ระยะเวลาโครงการรวมทั้งสิ้น 34 ปี

The post ครม. เยียวยาน้ำท่วมอีก 16 จังหวัด วงเงิน 5,000 ล้านบาท พร้อมเพิ่มงบภัยพิบัติจังหวัดอีก 50 ล้านบาท ย้ำ รัฐบาลนี้จ่ายเงินเยียวยาเร็ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
สมศักดิ์สั่งการแพทย์และ สธ. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พบมีภาวะเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้า https://thestandard.co/southern-floods-29112024-2/ Fri, 29 Nov 2024 03:12:06 +0000 https://thestandard.co/?p=1014039 น้ำท่วมภาคใต้

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณส […]

The post สมศักดิ์สั่งการแพทย์และ สธ. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พบมีภาวะเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
น้ำท่วมภาคใต้

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ได้สร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนและความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างมากนั้น สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยอย่างมาก จึงสั่งการไปยัง อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 และผู้บริหารซึ่งรับผิดชอบทั้งส่วนกลางและในพื้นที่เร่งช่วยเหลือ แก้ไข เยียวยา ฟื้นฟูตามอำนาจหน้าที่อย่างดีที่สุด ทั้งนี้ ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานภาคสนาม 

 

ล่าสุดโรงพยาบาลจิตเวชสงขลานครินทร์และศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 รายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 ดังนี้

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสีแดง 5 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช, สงขลา, ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส มีอำเภอที่ได้รับผลกระทบรวม 18 อำเภอ โดยได้รับผลกระทบในลักษณะน้ำล้นตลิ่งและท่วมขัง ประชากรที่ได้รับผลกระทบรวม 273,121 คน พบผู้เสียชีวิต 1 รายจากสาเหตุจมน้ำ มีศูนย์อพยพที่มีผู้เข้าพักแล้ว ได้แก่ สงขลา 7 แห่ง มีผู้ประสบภัยเข้าพัก 482 คน, ยะลา 15 แห่ง มีผู้ประสบภัยเข้าพัก 873 คน, ปัตตานี 9 แห่ง ยังไม่มีรายงานผู้เข้าพัก, นราธิวาส 32 แห่ง เปิดแล้ว 27 แห่ง มีผู้ประสบภัยเข้าพัก 1,095 คน

 

ด้าน กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เตรียมทีมเยียวยาจิตใจ MCATT ในพื้นที่ 87 ทีม ออกปฏิบัติการแล้ว 44 ทีม แผนการดำเนินงานประเมินสุขภาพจิตและให้การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่และเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมีทีม MCATT กรมสุขภาพจิต ให้การสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่

ตรีชฎากล่าวว่า การเกิดวาตภัย อุทกภัย และดินโคลนถล่มใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ครั้งนี้สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 ได้รับผลกระทบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), โรงพยาบาล, สาธารณสุขอำเภอ, สาธารณสุขจังหวัด, หน่วยบริการปฐมภูมิ, สถานบริการสาธารณสุขชุมชน (สสช.) รวมถึงหน่วยแพทย์แผนไทย

 

อย่างไรก็ตาม บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งรวมกลุ่มกันเป็นทีมปฏิบัติให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างต่อเนื่องด้วยการไปเยี่ยมบ้าน ให้สุขศึกษา ตรวจรักษา ส่งต่อ มอบชุดดูแลสิ่งแวดล้อม การจัดศูนย์พักพิง อีกทั้งให้บริการด้านสุขภาพจิต พบว่ามีภาวะความเครียดสูง 1,643 ราย เสี่ยงซึมเศร้า 405 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 86 ราย ส่งต่อจิตแพทย์ 310 ราย

 

ขณะที่โรงพยาบาลปัตตานีได้รับรายงานจาก รุซตา สาและ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัตตานี รับคนไข้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และยังใช้ยาฉีดอยู่เข้ามาพักรักษาตัวในโรงพยาบาล มีการขยายเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยให้ได้อย่างน้อย 50-60 คน พร้อมเปิดโรงครัวดูแลทุกระดับ จัดระบบขนส่งโดยมีรถ 6 ล้อจากวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก ปัตตานี รับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่เพื่อระดมแพทย์มาตรวจคนไข้ให้เร็วขึ้น ขออัตรากำลังพยาบาลจากโรงพยาบาลชุมชนมาขยายที่หอผู้ป่วยเพื่อช่วยเหลือให้ทันท่วงที

The post สมศักดิ์สั่งการแพทย์และ สธ. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พบมีภาวะเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
ภูมิธรรมเผย ทุกฝ่ายเร่งระดมกำลังช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ส่งเรือกู้ภัยและอาหารเข้าหาดใหญ่ https://thestandard.co/southern-floods-29112024/ Fri, 29 Nov 2024 03:05:27 +0000 https://thestandard.co/?p=1014036 น้ำท่วมภาคใต้

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี […]

The post ภูมิธรรมเผย ทุกฝ่ายเร่งระดมกำลังช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ส่งเรือกู้ภัยและอาหารเข้าหาดใหญ่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
น้ำท่วมภาคใต้

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้หลายพื้นที่ โดยระบุว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้รัฐมนตรีลงไปบัญชาการในพื้นที่

 

ภูมิธรรมเผยว่า เบื้องต้น พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่แล้ว และวันนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่ในวันนี้ด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ ขอให้คำนึงห่วงความปลอดภัยของชีวิตเป็นหลัก ส่วนเรื่องสิ่งของรัฐจะช่วยดูแล

 

ภูมิธรรมกล่าวว่า ได้รับรายงานเมื่อวานนี้ (28 พฤศจิกายน) ที่อำเภอหาดใหญ่ได้ปักธงแดงเตือน 13 ชุมชน จากการสอบถามศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทราบว่าอาหารดิบไม่เพียงพอ เนื่องจากเส้นทางการขนส่งถูกตัดขาด ขณะนี้กำลังเร่งแก้ปัญหา และเชื่อว่าหลังจากนี้ ศอ.บต. จะมีการนำส่งอาหารเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาในพื้นที่พบว่าการลำเลียงคนออกมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มคนชรา ยังมีความเป็นห่วงที่พักอาศัย จึงประสานนำเรือท้องแบน หน่วยงานทหารและภาคเอกชนเกือบ 50 ลำ นำกลุ่มเด็กและผู้ป่วย รวมถึงขนเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือ โดยวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะส่งเรือเข้าไปช่วยอีกประมาณ 100 ลำ

 

ภูมิธรรมกล่าวว่า แผนการช่วยเหลือของทหารมีความชัดเจนอยู่แล้วตามขั้นตอนการช่วยเหลือภัยพิบัติ มีแผนเผชิญเหตุอยู่แล้วซึ่งไม่น่าหนักใจ เมื่อวานนี้ผู้บัญชาการทหารบกสั่งการให้กองทัพภาคที่ 4 ทำงานร่วมกับจิตอาสาพระราชทานเข้าไปร่วมกันช่วยเหลือประชาชน พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ทุกฝ่ายเร่งทำงานเต็มที่

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่กังวลเรื่องดินโคลนเหมือนอย่างอุทกภัยภาคเหนือ แต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงสัปดาห์แรกจะต้องมีการประสานงานดูแลให้ดี โดยคาดว่าฝนจะตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อีก 2-3 วัน และหากไม่มีอะไรมากกว่านั้นน้ำก็จะไหลลงทะเลไป ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรจะมีการลงพื้นที่ไปตรวจดูและเยี่ยมประชาชน

 

ส่วนจะประเมินความเสียหายได้เมื่อไรนั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปแล้วให้เริ่มดำเนินการประเมินความเสียหายทันที ซึ่งรูปแบบคงไม่ต่างจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยต้องกลับมาดูว่าจะให้ความช่วยเหลือรายบุคคลและความเสียหายของบ้านแต่ละกรณีจำนวนเท่าไร ซึ่งการประเมินคงแตกต่างภาคเหนือที่มีดินโคลนถล่ม เนื่องจากเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้เป็นเพียงน้ำหลากที่มาแล้วไป

 

ภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีฝากกำลังใจมา อยากให้ประชาชนระมัดระวัง เอาชีวิตไว้เป็นหลัก คำนึงถึงความปลอดภัยของครอบครัวเป็นสำคัญ ส่วนวัตถุนอกกาย รัฐจะพยายามเข้าไปดูแลและจัดการให้ นอกจากนี้ในการประชุม ครม.สัญจร จังหวัดเชียงใหม่ จะมีการเคลียร์เรื่องน้ำท่วมให้จบ และหลังจากนั้นจะลงไปดูพื้นที่

 

ภูมิธรรมยังกล่าวถึงทหารที่ทำงานหนักช่วยเหลือประชาชนในช่วงน้ำท่วม โดยระบุว่า ทหารเป็นหน่วยกำลังพลที่มีไว้เพื่อป้องกันประเทศ ช่วยดูแลทุพภิกขภัย ขอให้กำลังใจทุกหน่วยที่ทำงานหนัก แต่เราก็มีแผนเผชิญเหตุอยู่แล้ว จึงไม่น่าหนักใจอะไร

The post ภูมิธรรมเผย ทุกฝ่ายเร่งระดมกำลังช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ส่งเรือกู้ภัยและอาหารเข้าหาดใหญ่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ณัฐพงษ์ลงพื้นที่ภาคใต้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมสนับสนุนการทำงาน ทำข้อเสนอเยียวยา https://thestandard.co/nattapong-southern-thailand-flood-response/ Thu, 28 Nov 2024 05:55:29 +0000 https://thestandard.co/?p=1013787 ณัฐพงษ์

วันนี้ (28 พฤศจิกายน) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญ […]

The post ณัฐพงษ์ลงพื้นที่ภาคใต้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมสนับสนุนการทำงาน ทำข้อเสนอเยียวยา appeared first on THE STANDARD.

]]>
ณัฐพงษ์

วันนี้ (28 พฤศจิกายน) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเดินทางไปยังกองอำนวยการข้อมูลน้ำส่วนหน้าของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี เพื่อรับฟังข้อมูลปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคใต้ และข้อมูลระดับน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

 

ณัฐพงษ์ระบุว่า จากที่รับฟังข้อมูลมาพบว่าช่วง 3 วันที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างสูงมาก บางพื้นที่สูงประมาณ 500-1,000 มิลลิเมตร ในเวลาเพียง 3 วัน จึงขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ติดตามสถานการณ์ฝนและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้จากวันนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 และจะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจมีน้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น เช่น จังหวัดสงขลาและสตูล

 

ณัฐพงษ์ส่งกำลังใจให้พี่น้องในภาคใต้ทุกคนที่กำลังประสบความยากลำบาก รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง ในวันพรุ่งนี้ (29 พฤศจิกายน) ตนเองจะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับ สส. พรรคประชาชนที่เป็นคณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด สนับสนุนการทำงานของราชการท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ และเตรียมจัดทำข้อเสนอแผนเยียวยาฟื้นฟูภายหลังสถานการณ์น้ำคลี่คลายลง

The post ณัฐพงษ์ลงพื้นที่ภาคใต้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมสนับสนุนการทำงาน ทำข้อเสนอเยียวยา appeared first on THE STANDARD.

]]>
อนุทินเชื่อ ผู้ว่าฯ รับมือสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ได้ ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากส่วนกลาง https://thestandard.co/anutin-confident-local-governors-manage-southern-floods/ Wed, 27 Nov 2024 05:48:42 +0000 https://thestandard.co/?p=1013334

วันนี้ (27 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี […]

The post อนุทินเชื่อ ผู้ว่าฯ รับมือสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ได้ ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากส่วนกลาง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (27 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคใต้เตรียมความพร้อมเต็มที่ ไม่ใช่เฉพาะแค่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยได้ทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นมีอำนาจในตัวเอง หากสถานการณ์รุนแรงก็ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยและสามารถระดมความช่วยเหลือได้โดยไม่ต้องรอส่วนกลาง

 

ขณะเดียวกัน ส่วนกลางก็ยังมีคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ซึ่งมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ก็มีการถอดบทเรียนจากอุทกภัยภาคเหนือ ซึ่งพร้อมที่จะลงไปเข้าช่วยเหลือทันที

 

อนุทินระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ต้องส่งความช่วยเหลือจากส่วนกลางลงไปในภาคใต้ เพราะเป็นสถานการณ์น้ำท่วมทั่วไป การไหลของน้ำอาจจะระบายได้เร็วขึ้น ไม่มีผลกระทบตกค้างเช่นที่ภาคเหนือที่สถานการณ์หนักเพราะมีน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้สูญเสียหน้าดินชะลงมาเป็นโคลนไหลมาด้วย

 

อนุทินกล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมให้เร็วที่สุดตอนนี้คือที่อยู่อาศัยสำหรับให้ผู้ประสบภัยพักพิงหากน้ำท่วมจนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ รวมถึงการตัดกระแสไฟเพื่อความปลอดภัย และการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนทั้งในรูปแบบเคาะประตูบ้านหรือออนไลน์เพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวัง

The post อนุทินเชื่อ ผู้ว่าฯ รับมือสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ได้ ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากส่วนกลาง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศปช. แจ้งประชาชนลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานการณ์น้ำท่วมกำลังเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 วัน https://thestandard.co/chao-phraya-river-flood-situation-08112024/ Fri, 08 Nov 2024 08:52:59 +0000 https://thestandard.co/?p=1006333 ศปช.

วันนี้ (8 พฤศจิกายน) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายก […]

The post ศปช. แจ้งประชาชนลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานการณ์น้ำท่วมกำลังเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศปช.

วันนี้ (8 พฤศจิกายน) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ศปช. ยังคงติดตามการบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในช่วงหน้าแล้ง ประกอบกับผันน้ำออกทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกเพื่อสนับสนุนพื้นที่การเกษตร ทำให้ขณะนี้ทยอยปรับลดการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปรับลดการระบายน้ำเหลือ 850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) โดยกรมชลประทานยืนยันจะปรับลดเหลือระดับต่ำกว่า 700 ลบ.ม./วินาที ได้ภายใน 3 วัน

 

“หากสามารถปรับลดการระบายน้ำได้ต่ำกว่า 700 ลบ.ม./วินาที จะทำให้จุดที่ต่ำที่สุดของลุ่มเจ้าพระยา คือ อำเภอเสนาและอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของลุ่มเจ้าพระยาที่มีน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ สถานการณ์คลี่คลายและไม่เหลือพื้นที่น้ำท่วมในลุ่มเจ้าพระยา ทั้งนี้ การผันน้ำออกทางตะวันตกอาจทำให้มีน้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรบริเวณลุ่มน้ำท่าจีน จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดนครปฐมเล็กน้อย ซึ่งกรมชลประทานนำเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำรวม 60 เครื่องเข้าไปติดตั้งและเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำแล้ว” 

 

จิรายุกล่าวต่อไปว่า จากแนวโน้มที่ภาคใต้ยังมีฝนตกต่อเนื่องในเดือนนี้และเดือนหน้า ศปช. เน้นย้ำให้หน่วยงานด้านการบริหารจัดการน้ำทั้งหมดบูรณาการร่วมกันในการพร่องน้ำในเขื่อน เพื่อเตรียมความพร้อมรับปริมาณน้ำที่อาจเติมเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าว โดยขณะนี้ที่เขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ปรับลดการระบายน้ำจาก 16 ล้าน ลบ.ม./วัน เหลือ 12 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ท้ายเขื่อน ทั้งนี้ ศปช. เน้นย้ำให้ประเมินศักยภาพในการรับน้ำของพื้นที่ท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

The post ศปช. แจ้งประชาชนลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานการณ์น้ำท่วมกำลังเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
นฤมล ควง 2 รมช.เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์น้ำเมืองเพชรบุรี เผยปีนี้ ‘ไม่ท่วม-ไม่แล้ง’ แน่นอน https://thestandard.co/water-situation-in-phetchaburi-31102024/ Fri, 01 Nov 2024 01:35:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1002423 น้ำท่วม เพชรบุรี

วานนี้ (31 ตุลาคม) ศ. ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่า […]

The post นฤมล ควง 2 รมช.เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์น้ำเมืองเพชรบุรี เผยปีนี้ ‘ไม่ท่วม-ไม่แล้ง’ แน่นอน appeared first on THE STANDARD.

]]>
น้ำท่วม เพชรบุรี

วานนี้ (31 ตุลาคม) ศ. ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย อิทธิ ศิริลัทธยากร และ อัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่บริเวณเขื่อนเพชร ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง และบริเวณสะพานดำ ถนนข้าวแช่ ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย

 

ศ. ดร.นฤมล กล่าวว่า ตนเองและรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 ท่าน รวมถึงอธิบดีกรมชลประทาน และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเพชรบุรีและติดตามความพร้อมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้รับรายงานจากสำนักงานชลประทานที่ 14 กรมชลประทาน คาดว่าน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับพี่น้องชาวเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำท่วมหรือน้ำแล้งต่างๆ ก็จะไม่ต้องประสบปัญหานั้นแล้ว

 

ในปีนี้ปริมาณฝนน่าจะไม่สูงตามที่หลายคนคาดการณ์และกังวลไว้ก่อนหน้านี้ โดยปัจจุบันยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และปริมาณน้ำของอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 อ่างยังสามารถกักเก็บได้เพิ่มอีกประมาณ 30% ดังนั้นหากมีพายุเข้ามาก็ยังเก็บกักได้ ทั้งนี้ กรมชลประทานแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ได้ประมาท และเตรียมแผนป้องกันหากเกิดภาวะที่ไม่คาดคิดขึ้น โดยมีขั้นตอนและบูรณาการงานต่างๆ กับท้องถิ่น แผนประชาสัมพันธ์ และเตรียมความพร้อมของเครื่องมือเครื่องจักรที่จะต้องใช้ ตรงนี้มีพร้อมทั้งหมดแล้ว

 

“ข่าวดีของชาวจังหวัดเพชรบุรีอีกหนึ่งเรื่องก็คือ ในปีนี้ปัญหาน้ำแล้งก็จะไม่มี เพราะปริมาณน้ำที่เก็บกักไว้ยังเพียงพอที่จะให้พี่น้องชาวเพชรบุรีสามารถทำนาปรังได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นก็น่าจะคลายความกังวลว่าปีนี้เมืองเพชรไม่ท่วมและไม่แล้งอย่างแน่นอน” ศ. ดร.นฤมล กล่าว

 

นอกจากนี้ ศ. ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงงบประมาณ 2,500 ล้านบาทเพื่อเยียวยาพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยว่า ในส่วนนี้อยู่ในการกำกับของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งน่าจะเป็นไปตามขั้นตอนที่จะสามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้ในไม่ช้า ในส่วนของงบฟื้นฟูที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ก็ผ่านคณะอนุฯ ที่ดูรายละเอียดของโครงการฟื้นฟูที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอไปในเรื่องของการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

 

ขณะนี้ผ่านไปหลายขั้นตอนแล้ว เหลือแค่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (29 ตุลาคม) คาดการณ์ว่าจะมีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาแต่ว่าไม่ทัน จึงคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการนำเข้าพิจารณา ซึ่งถ้างบประมาณผ่านลงมาก็น่าจะทันใช้ในช่วงทำนาปรัง

The post นฤมล ควง 2 รมช.เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์น้ำเมืองเพชรบุรี เผยปีนี้ ‘ไม่ท่วม-ไม่แล้ง’ แน่นอน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าผลกระทบน้ำท่วมยังไม่จบ หวั่นกรณีเลวร้ายส่อฉุด GDP ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท https://thestandard.co/thai-economy-flood-damage-50-billion-baht/ Wed, 16 Oct 2024 08:24:33 +0000 https://thestandard.co/?p=996597 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกมาประเมินผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 256 […]

The post ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าผลกระทบน้ำท่วมยังไม่จบ หวั่นกรณีเลวร้ายส่อฉุด GDP ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกมาประเมินผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 2567 อาจคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือ 0.16% ของ GDP ประเทศ เสี่ยงที่น้ำจะเคลื่อนจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มาที่ภาคกลางและภาคใต้  

 

วรรณวิษา ศรีรัตนะ ผู้บริหารสายงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้จนถึงปัจจุบันยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากยังไม่หมดฤดูฝน โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำประเมินว่า พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันจะเคลื่อนจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ในเดือนกันยายนและตุลาคม มาเป็นภาคกลางและภาคใต้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม

 

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหายต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งพื้นที่และผลผลิตทางการเกษตร รายได้ของครัวเรือน ธุรกิจ/ผู้ประกอบการ รวมถึงสิ่งปลูกสร้าง/ที่อยู่อาศัย และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของรัฐ เช่น ถนนทรุด สะพานขาด 

 

ทั้งนี้ภายใต้สมมติฐานน้ำท่วมแต่ละพื้นที่กินเวลาเฉลี่ยประมาณ 15 วัน และเกิดความสูญเสียต่อ Gross Provincial Product (GPP) ในสัดส่วนประมาณ 20% ของจังหวัดนั้นๆ ยกเว้นบางพื้นที่อย่างเชียงรายที่น้ำท่วมซ้ำหลายรอบ ระยะเวลาจะมากกว่าเฉลี่ย และเชียงใหม่ที่เกิดน้ำท่วมในเขตเมือง สัดส่วนความสูญเสียต่อ GPP จะมากกว่าเฉลี่ย  

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินต่อว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 2567 อาจคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือ 0.16% ของ GDP ประเทศ อย่างไรก็ดี ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวกินระยะเวลานานขึ้น หรือขยายขอบเขตไปยังพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองของภาคกลางและภาคใต้ ผลกระทบในกรณีเลวร้ายอาจมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท หรือ 0.27% ของ GDP ประเทศ 

 

อย่างไรก็ดีแม้ในแง่เม็ดเงินผลกระทบปี 2567 จะน้อยกว่าปี 2554 ที่เกิดมหาอุทกภัย ซึ่งในปีนั้นกินระยะเวลานาน กระทบโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมและภาคการผลิตเป็นหลัก เพิ่มเติมจากภาคเกษตรและครัวเรือน แต่ภัยพิบัติในปีนี้นับว่ารุนแรงมากโดยเฉพาะในบางพื้นที่ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ซึ่งความเสียหายหลักส่วนใหญ่จะตกในภาคเกษตร รายได้ของครัวเรือน และการท่องเที่ยวในบางจังหวัด ส่งผลกระทบตามมาต่อการบริโภคและเศรษฐกิจไทยในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 

 

นอกจากนี้มองว่าการฟื้นฟูหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายคงจะมาจากงบประมาณของภาครัฐและการใช้จ่ายของภาคเอกชน ซึ่งคงช่วยหนุนกิจกรรมการก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านได้บางส่วน แต่ขณะเดียวกันครัวเรือนคงจำเป็นต้องก่อหนี้ ซึ่งจะมีผลกดดันการใช้จ่ายสินค้าและบริการที่ไม่จำเป็นอื่นๆ ตามมา 

 

มองไปข้างหน้า จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสุดขั้วทำให้ภัยพิบัติมีความเสี่ยงจะเกิดถี่และรุนแรงขึ้นอีก ดังนั้นทุกฝ่ายควรวางแนวทางรับมือ เช่น ระบบเตือนภัยในชุมชน/ท้องถิ่นที่เข้าใจง่าย แผนปฏิบัติการฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุในแต่ละระดับ การทำประกันภัย และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับความเสี่ยง 

 

 

The post ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าผลกระทบน้ำท่วมยังไม่จบ หวั่นกรณีเลวร้ายส่อฉุด GDP ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>