วันนี้ (20 ตุลาคม) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.ต. ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครั้งที่ 1 ประจำปี 2569 ซึ่งมี อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม

พล.ต. ธรรมนูญระบุว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องสำคัญ 4 ประเด็นหลัก มุ่งขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนี้

1. การอนุมัติแผนปฏิบัติการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2568-2570 ซึ่งเป็นแผนบูรณาการร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งด้านความมั่นคง การพัฒนา และการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่

2. การอนุมัติแผนปฏิบัติการความมั่นคงรองรับพื้นที่ที่ใช้ พ.ร.บ. รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2548 ซึ่งขณะนี้ครอบคลุม 20 อำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีแนวโน้มดีขึ้น

3. การปรับโครงสร้าง กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า จากเดิม 6 ส่วนงาน เหลือ 4 ส่วน ได้แก่
•ส่วนอำนวยการ
•ส่วนปฏิบัติการด้านการข่าว
•ส่วนปฏิบัติการพลเรือน ตำรวจ ทหาร
•ส่วนเสริมสร้างความเข้าใจและการพัฒนาเพื่อให้การทำงานเกิดเอกภาพและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4. เป็นการพิจารณาอัตรากำลังและงบประมาณประจำปี 2569 โดยมีหน่วยงานในพื้นที่รวม 106 หน่วย และกำลังพลกว่า 49,000 นาย

ทั้งนี้ พล.ต. ธรรมนูญกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมมีข้อสั่งการสำคัญ 3 ประการ ประกอบด้วย

• การเฝ้าระวังและประเมินภัยคุกคามทุกรูปแบบ โดยเฉพาะภัยใหม่อย่างยาเสพติด การก่อการร้าย และกลุ่มสแกมเมอร์
• การสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด ให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
• การอำนวยการปฏิบัติงานให้เกิดเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อน ใช้ศักยภาพทุกหน่วยอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งพิจารณาแนวทางบรรจุกำลังตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมปฏิบัติงานใน กอ.รมน. เพื่อเสริมความพร้อมในทุกระดับ

โฆษก กอ.รมน. ย้ำว่า หน่วยงานจะขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ส่วนจะประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ยกเลิกไปแล้วหรือไม่ พล.ต. ธรรมนูญกล่าวว่า มีบางอําเภอที่จะขอกลับมาใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ส่วนจะเป็นอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส หรือไม่นั้น ขอกลับไปหาข้อมูลก่อน

The post โฆษก กอ.รมน. เตรียมงัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บังคับใช้ใหม่บางอำเภอ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนแผนเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนใต้ appeared first on THE STANDARD.

ประเทศไทยกลับมารับหน้าที่เจ้าภาพซีเกมส์อีกครั้งในรอบ 18 ปี หลังจากครั้งล่าสุดที่นครราชสีมาเมื่อปี 2007 โดยซีเกมส์ 2025 ครั้งนี้ไม่ได้เน้นเพียงการแข่งขันกีฬาเท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบให้เป็นเวทีแห่งความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเป็นมหกรรมกีฬาครั้งแรกของอาเซียน ที่เดินหน้าสู่แนวคิด Carbon Neutrality การจัดการแข่งขันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

ตั้งแต่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การชดเชยด้วยพลังงานสะอาด, การ Reuse-Recycle, การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งนักกีฬา, ไปจนถึงการออกแบบ ชุดทีมชาติไทยจากวัสดุรีไซเคิล

หลายคนจึงเรียกซีเกมส์ครั้งนี้ว่า Green SEA Games เกมกีฬาที่ไทยไม่ได้เพียงเป็นเจ้าภาพ แต่ยังเป็นผู้นำแนวคิดใหม่ให้กับทั้งภูมิภาคอาเซียน

แต่อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์สำคัญของซีเกมส์ครั้งนี้ คือการกระจายการแข่งขันกีฬา ออกไปยังหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้แต่ละภูมิภาคได้มีส่วนร่วมในบรรยากาศของมหกรรมกีฬาอาเซียน

เรามาดูกันว่า…3 เจ้าภาพหลักของซีเกมส์ 2025 กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลา รับหน้าที่ดูแลกีฬาชนิดใดบ้าง?

กรุงเทพฯ หัวใจของพิธีเปิดและความทรงจำกีฬาไทย

ทุกครั้งที่เสียงเพลงประจำซีเกมส์ดังขึ้น กรุงเทพฯ มักเป็นเมืองแรกที่ผู้คนในอาเซียนนึกถึง เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยจุดไฟแห่งการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาคเมื่อหลายสิบปีก่อน และวันนี้กลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้ง ในฐานะหัวใจของซีเกมส์ ประจำปี 2025

ปีนี้ กรุงเทพฯ ยังคงเป็นศูนย์กลางหลักของการแข่งขัน ด้วยจำนวนน่าทึ่ง 31 ชนิดกีฬา จากทั้งหมด 54 รายการ จัดแข่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมกว่า 28 สนาม ทั้งสนามเก่าในตำนาน และสนามใหม่ที่ถูกปรับปรุงจนพร้อมต้อนรับนักกีฬาจากทั่วอาเซียน

แน่นอนว่า สนามราชมังคลากีฬาสถาน คือเวทีเอกของพิธีเปิดและพิธีปิด สนามยักษ์ที่รองรับผู้ชมกว่า 50,000 คน รอบบริเวณ หัวหมาก สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ก็จะคึกคักตลอดทั้งซีเกมส์

ทั้ง อินดอร์สเตเดียม, สระว่ายน้ำ, สนามยิงปืน, และ อาคารกีฬาอเนกประสงค์ ซึ่งจะใช้จัดการแข่งขันตั้งแต่วอลเลย์บอลในร่ม, วอลเลย์บอลชายหาด, มวยสากลสมัครเล่น, ไปจนถึงอีสปอร์ต

ส่วนใจกลางเมือง ย่านปทุมวัน ก็จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งกับ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นเวทีแห่งชัยชนะของนักกีฬาไทยในหลายยุค ที่นี่ยังเป็นสนามหลักของกรีฑา ขณะที่อาคารใกล้เคียงอย่าง นิมิบุตร และ จันทนยิ่งยง จะเปิดไฟอีกครั้งเพื่อรองรับการแข่งขันบาสเกตบอล และเนตบอล

สำหรับผู้ที่อยากชมกีฬานอกสนามใหญ่ กรุงเทพฯ มีสนามกระจายทั่วมุมเมือง ดังนี้

• เทเบิลเทนนิส – เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
• สเก็ตน้ำแข็ง – อิมพีเรียล สำโรง
• เทควันโด และ ฟันดาบ – แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา
• ศิลปะการต่อสู้แบบผสม MMA (ซึ่งถูกบรรจุเป็นกีฬาสาธิต) – เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
• แบดมินตัน, ตะกร้อ, ยิมนาสติก, โปโลน้ำ – ศูนย์กีฬาม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
• กระโดดน้ำและระบำใต้น้ำ – มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
• ยูยิตสู – มหาวิทยาลัยรังสิต
• ซอฟท์บอล – ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
• คริกเก็ต – สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)

ในปีที่ไทยกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง กรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นเพียงเมืองกีฬา หากยังเป็นเวทีที่รวมความทรงจำของคนไทยทั้งรุ่นเก่าและใหม่ เมืองที่ทุกเสียงเชียร์สะท้อนถึงอดีตที่งดงาม และอนาคตที่ยังคงเดินหน้า

ชลบุรี เมืองชายทะเลกับพลังแห่งกีฬาเยาวชน

ชลบุรี เมืองชายทะเลที่อบอวลด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของซีเกมส์ 2025 เพราะที่นี่ไม่เพียงมีชายหาดสวยและเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างพัทยาเท่านั้น แต่ยังมีโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาแน่นหนา พร้อมเปิดบ้านต้อนรับนักกีฬากว่า 10 ประเทศด้วยรอยยิ้มแบบคนตะวันออก

จังหวัดชลบุรีใช้สนามแข่งขันมากถึง 16 แห่ง ครอบคลุม 14 ชนิดกีฬา หลากหลายตั้งแต่กีฬาทางน้ำ กีฬาทางอากาศ ไปจนถึงกีฬาความเร็วและความแข็งแรง กีฬาหลักที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ ฟุตบอลหญิง ที่จะฟาดแข้งกันที่สนามของ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี สนามแห่งความภาคภูมิใจของนักกีฬารุ่นเยาว์ไทย ซึ่งเคยปั้นดาวเด่นมาสู่ทีมชาติหลายต่อหลายรุ่น

เสียงนกหวีดของกรรมการอาจดังพร้อมกับเสียงคลื่นที่ซัดเข้าชายหาดจอมเทียน เพราะกีฬาทางน้ำอย่าง เรือใบ, ไตรกีฬา, และว่ายน้ำในทะเล จะจัดขึ้นในเส้นทางที่ทอดยาวระหว่าง หาดจอมเทียน – เกาะล้าน – เกาะแสมสาร พื้นที่ที่ทั้งสวยงามและท้าทาย เหมาะกับการเป็นสมรภูมิของนักกีฬาที่ต้องต่อสู้กับทั้งคู่แข่งและธรรมชาติ

ส่วนกีฬาอื่นๆ ก็ไม่แพ้กัน ฮอกกี้ แข่งขันที่สนามชลบุรี สเตเดียม สนามที่ออกแบบใหม่ให้ได้มาตรฐานสากล, กอล์ฟ จัดที่สนามหรู สยามคันทรีคลับ พัทยา, และ จักรยานเสือภูเขา แข่งในเส้นทางธรรมชาติของ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่จะกลายเป็นเวทีสุดตื่นตาเมื่อความเร็วของจักรยานตัดผ่านผืนป่าที่เต็มไปด้วยชีวิต

ความสนุกยังขยายไปทั่วพัทยาและบางแสน เมื่อ สนุกเกอร์ จะแข่งขันที่โรงแรมแอมบาสเดอร์, ยกน้ำหนัก ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี, กีฬาทางอากาศ ที่อ่างเก็บน้ำหนองค้อ และ ขี่ม้า ที่สโมสรขี่ม้าไทยโปโลแอนด์อีเควสเตรียนคลับ สนามระดับโลกที่ผสมความหรูหราเข้ากับกลิ่นอายกีฬาอย่างลงตัว

สงขลา พลังใหม่จากแดนใต้

หากกรุงเทพฯ คือหัวใจของพิธีเปิด และชลบุรีคือจิตวิญญาณแห่งเมืองชายทะเล
สงขลาก็คือ จังหวะหัวใจ ของคนใต้ ที่เต้นไปพร้อมเสียงเชียร์ในสนามติณสูลานนท์ เมืองที่มีกลิ่นอายของทะเล เสียงคลื่น และพลังของผู้คนที่รักกีฬาอยู่ในสายเลือด

ปีนี้ สงขลาก้าวขึ้นมามีบทบาทใหญ่ในฐานะหนึ่งในสามเจ้าภาพหลัก จัดการแข่งขันมากถึง 9 ชนิดกีฬา ครอบคลุมทั้งในร่ม กลางแจ้ง และศิลปะการต่อสู้ โดยใช้สนามรวมกว่า 6 แห่งทั่วเมือง ที่กระจายอยู่ระหว่างสงขลาและหาดใหญ่ ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการศึกษาแห่งภาคใต้

กีฬาหลักอย่างฟุตบอล ถูกจับตามองมากที่สุด รอบแบ่งกลุ่มจะดวลกันที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ และสนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ (พรุค้างคาว) ซึ่งต่างเป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจของคนใต้ เมื่อเสียงเชียร์ดังก้องจากอัฒจันทร์ริมทะเลสาบสงขลา ก็เหมือนประกาศว่า แดนใต้พร้อมแล้ว สำหรับการเป็นเจ้าภาพในระดับภูมิภาค

ส่วนกีฬาในร่ม กาบัดดี้และหมากรุก จะจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่โอบล้อมด้วยบรรยากาศสงบและร่มรื่น ขณะที่ ปันจักสีลัต กีฬาเชิงศิลปะการต่อสู้ประจำภูมิภาค ได้รับการบรรจุแข่งที่สนามกีฬาจิระนคร ใจกลางเมืองหาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะคึกคักด้วยเสียงกลองและเสียงเชียร์จากแฟนเจ้าถิ่น

ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ‘เซ็นทรัลหาดใหญ่’ จะถูกปรับให้กลายเป็นลานประลองสำหรับ คาราเต้และมวยปล้ำ สร้างสีสันแบบกีฬากลางเมือง ที่เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่าย ขณะเดียวกัน วูซู แข่งขันที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งพร้อมด้วยระบบแสง สี เสียง มาตรฐานระดับนานาชาติและปิดท้ายด้วย มวยไทย ที่จัดแข่งขัน ณ ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ เมืองหลักภาคใต้ (พรุค้างคาว) เวทีที่คาดว่าจะเต็มไปด้วยเสียงเชียร์ของแฟนมวยทั่วสารทิศ

มากกว่านั้น การจัดกีฬาในครั้งนี้ยังเชื่อมโยงกับหัวเมืองอื่นๆ ด้วย เช่น เชียงใหม่ รับหน้าที่จัดฟุตบอลชายที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี สนามในตำนานที่รายล้อมด้วยขุนเขา และ ราชบุรี จัดการแข่งขัน ยิงเป้าบิน ที่สนามยิงปืนโพธาราม ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามยิงเป้าที่ทันสมัยที่สุดของไทย

สำหรับ ‘ซีเกมส์ 2025’ จึงถูกมองว่าเป็นมากกว่ามหกรรมกีฬาทั่วไป เพราะนี่คือเวทีที่ประเทศไทยได้เล่าตัวตนของเรา ผ่านทุกจังหวัดเจ้าภาพ

ไล่ตั้งแต่ ความยิ่งใหญ่ของกรุงเทพฯ ความมีชีวิตชีวาของชลบุรี ไปจนถึงความอบอุ่นของสงขลา แต่ละเมืองต่างถ่ายทอดเอกลักษณ์ของตัวเอง ผ่านเสียงเชียร์ รอยยิ้ม และพลังของผู้คนที่ร่วมสร้างงานนี้ขึ้นมาด้วยหัวใจเดียวกัน

และเมื่อวันนั้นมาถึง…เรามาร่วมกันเป็น ‘เจ้าภาพที่น่ารัก’ ของอาเซียนไปด้วยกันเถอะ

The post กรุงเทพฯ – สงขลา – ชลบุรี เส้นทางแห่งหัวใจเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (23 กันยายน) ที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 10.00 น. ศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย แม่ทัพภาคใต้ จะทยอยเปิดตัวผู้สมัคร สส.ของแต่ละจังหวัด เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร ซึ่งในวันนี้เป็นจังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มี สส.ในพื้นที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา แต่ได้มีการพิจารณาบุคคลที่คิดว่ามีความเหมาะสม และเป็นผู้ที่ประสบ ความสำเร็จในการทำธุรกิจ 

วันนี้จะมีการประกาศพื้นที่เขต 8 อำเภอเทพา และอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งคนส่วนใหญ่ในพื้นที่เป็นชาวมุสลิม จึงคิดว่าผู้ที่จะมาเสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส. ต้องเป็นคนที่มีความเหมาะสม และเป็นที่รักของประชาชนในเขตพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงได้ทำกิจกรรมสัมผัสใกล้ชิดกับชาวบ้าน แต่สิ่งสำคัญคือต้องเป็นคนดีที่ประชาชนให้การยอมรับและเป็นชาวมุสลิมที่ยึดถือตามหลักศาสนา ซึ่งผู้สมัครที่จะเปิดตัวในวันนี้คือ ฆอซาลี ดุสะเหม๊าะ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคนในพื้นที่และทำธุรกิจจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็คือธุรกิจไก่อบโอ่ง

ขณะที่ พิพัฒน์ กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งพื้นที่พรรคภูมิใจไทยได้ไปทาบทามผู้สมัครและเชิญเข้ามาร่วมทำงานทางการเมือง ซึ่งอำเภอจะนะและ อำเภอเทพา เป็น 2 ใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่พิเศษ ที่เชื่อมต่อทางพื้นที่กับจังหวัดปัตตานี ซึ่งพื้นที่พิเศษทางภาคใต้มีทั้งหมด 5 จังหวัด คือจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งใน 4 อำเภอนี้มี สส.ทั้งหมด 2 เขต ประกอบไปด้วยเขต 7 อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย และบางส่วนจากอำเภอเทพา ซึ่งมี สส.ของพรรคภูมิใจไทยคือ ณัฐชนนท์ ศรีก่อเกื้อ ประจำอยู่ในพื้นที่แล้ว

ขณะที่เขต 8 จะเป็นพื้นที่อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา ซึ่งมีส่วนสำคัญ ซึ่งอำเภอจะนะเป็นที่ขึ้นของท่อแก๊ส เป็นการนำขึ้นจากอ่าวไทย ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญมาก ๆ ของจังหวัดสงขลา ดังนั้นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ได้เชิญผู้สมัคร สส.จึงมีความมุ่งหวังอย่างสูงว่าจะได้ตัวแทนในพื้นที่เขต 8 ซึ่งจังหวัดสงขลามี สส.ทั้งหมด 9 เขต 

พิพัฒน์ ย้ำว่าในพื้นที่เขต 7 และ 8 จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทย จะนำตัวแทนผู้สมัครของพรรคเรา และหวังว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่จะให้การสนับสนุน เพื่อให้เป็นตัวแทนของประชาชนในอำเภอจะนะและเทพา และมาเป็น สส.ในนามของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้สมัครคนดังกล่าว มีอะไรทางการเมืองที่คิดว่าจะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งได้ พิพัฒน์ ระบุว่า ในช่วงจากวิกฤตโควิดนั้น ฆอซาลีได้ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสจนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งขายทั้งแจก แต่สิ่งที่มั่นใจคือพี่น้องชาวจะนะและเทพา เป็นผู้เรียกร้องเพราะเป็นผู้มีจิตอาสาและช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งนี้การเลือกตั้งที่ผ่านมาเราเคยส่งผู้สมัคร สส.ในพื้นที่เขต 8 แต่ไม่ประสบความสำเร็จซึ่งในครั้งนี้มีความมั่นใจการที่ได้นายฆอซาลี ซึ่งเป็นคนหนุ่มมีจิตใจซื่อตรงและโอบอ้อมอารีเป็นที่ยอมรับของผู้นำในท้องที่ รวมถึงชาวบ้าน ก็หวังว่าจะสามารถชนะการเลือกตั้งในครั้งถัดไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มนิพนธ์ บุญญามณี อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ จะยังร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ หลังมีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะสนับสนุนอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งว่า วันนี้เรามีนัดกับสมยศ แต่ท่านติดภารกิจ ซึ่งเราหารือในการสรรหาผู้สมัครสงขลาด้วยกัน ขณะที่ นิพนธ์ วันนี้เดินทางไปธุระที่อังกฤษ 1 สัปดาห์ ซึ่งท่านก็ได้ประสานมาเช่นกัน และการที่เราได้ฆอซาลี ดุสะเหม๊าะ มาร่วมงานก็ใช้คนหลายคนช่วยประสาน

“ยืนยันเราหารือกันตลอด และขณะนี้ยังอยู่ด้วยกันในความเป็นเพื่อน เพราะท่านยังเป็นสมาชิก และเป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์ การจะมาร่วมกันจริงๆ คงเป็นการเลือกตั้งต่อไป หลังจากอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแก้รัฐธรรมนูญ และยุบสภาใน 4 เดือน” พิพัฒน์ กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อวยพรศรี เชาวลิต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ จะมาพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ พิพัฒน์ กล่าวว่า อวยพรศรี เป็น สส.ในพื้นที่อำเภอท่าศาลา เราคุ้นเคยกับท่าน และสามี  จึงได้พูดคุยทาบทามให้มาร่วมงานกับภูมิใจไทย ซึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังมีอีก 2-3 คน ที่จะมาจากพรรคอื่น หลังจากนี้จะค่อยๆเปิดตัวให้ทราบ แต่ขณะนี้ทุกคนมีสังกัดซึ่งยังไม่ได้ยุบสภา จึงยังมาภูมิใจไทยไม่ได้ และคงมาร่วมงานการเมืองหลังยุบสภา รวมถึงการเลือกตั้ง และจะมีการเปิดตัวผู้สมัคร 14 จังหวัดภาคใต้ ทั้งฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย โดยอนุทินพร้อมกัน

The post ภูมิใจไทยแถลงเปิดตัว ‘ฆอซาลี’ พ่อค้าขายไก่อบโอ่ง เป็นผู้สมัคร สส.สงขลาเขต 8 จะนะ-เทพา เผยเป็นที่ยอมรับชาวบ้านในพื้นที่ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (18 สิงหาคม) โชตินรินทน์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่เอกสารที่อ้างเป็นคำสั่งราชการในสื่อสังคมออนไลน์ อ้างผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ให้มาอำนวยความสะดวก จัดอาหารว่าง และเครื่องดื่ม พร้อมร่วมต้อนรับ-ส่ง เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในวันนี้ที่สนามบินหาดใหญ่นั้น

โชตินรินทน์กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวไม่ใช่หนังสือราชการจริง โดยวันที่มีการกล่าวอ้างนั้น ตนมีภารกิจตลอดทั้งวันและไม่มีการลงนามออกหนังสือในลักษณะดังกล่าว หากมีหนังสือราชการส่งถึงนายอำเภอ จะต้องออกจากที่ทำการปกครองจังหวัดตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติราชการที่ชัดเจน ดังนั้นเอกสารที่เผยแพร่จึงไม่ถูกต้อง และถือว่าเป็นโมฆะหากไม่ได้ลงนามรับรองโดยผู้ว่าราชการจังหวัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันจังหวัดมีภารกิจสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยในจังหวัด การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในเดือนกันยายน รวมทั้งการขับเคลื่อนงานพัฒนาจังหวัดในทุกมิติ จึงไม่ควรมีข้อมูลที่บิดเบือนหรือสร้างความสับสนในสังคม เพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัด

ในส่วนของการทำงานร่วมกับรัฐมนตรีฯ ผู้ว่าฯ ชี้แจงว่า ต้องแยกบทบาทระหว่างการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการทำหน้าที่รัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นเกียรติของจังหวัดสงขลาที่มีผู้แทนได้รับตำแหน่งทางการเมืองระดับชาติ และการใช้ชื่อหรือลายเซ็นในทางราชการต้องเป็นไปตามระเบียบที่กำหนด หากมีการนำไปใช้โดยมิชอบจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน พร้อมฝากถึงผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารว่า เรื่องดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้ 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นการปลอมแปลงหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบได้ทางระบบราชการหรือด้วยกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป

The post ผู้ว่าฯ สงขลาแจง เอกสารสั่งนายอำเภอดูแลต้อนรับ เดชอิศม์ รมช.มหาดไทย ไม่ใช่หนังสือราชการจริง appeared first on THE STANDARD.

เดือนสิงหาคมนี้ เตรียมปักหมุดไป ‘เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้’ หรือ ‘Pakk Taii Design Week 2025’ เทศกาลสร้างสรรค์โดยพี่น้องชาวใต้ทั้ง 14 จังหวัด ที่จะมาร่วมกันต่อยอดเสน่ห์ชวนหลงใหลของปักษ์ใต้ ให้ผู้มาเยือนได้รู้ว่า ‘ปักษ์ใต้มีดี’ และ ‘มีโอกาส’

โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม ‘South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน’ สะท้อนการตอบสนองต่อวิกฤตโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งด้านเศรษฐกิจ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ และนโยบายระหว่างประเทศ ท่ามกลางความผันผวนนี้ ผู้คนกำลังแสวงหาความสงบ ความสบายใจ และประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยวและการอยู่อาศัย

เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568 นำเสนอเรื่องราวผ่าน 5 คอนเซ็ปต์หลัก ได้แก่

• South Destress Main Pavilion: แสดงศักยภาพใหม่ของภาคใต้ ท่ามกลางวิกฤตที่รายล้อม ผ่านการออกแบบพาวิลเลียนพื้นที่สาธารณะเพื่อทุกคน
• 14 City Potential Space: โปรเจกต์ส่งต่อของดี 14 จังหวัดของภาคใต้ที่เชื่อมโยงกับความผ่อนคลาย
• South Market: ตลาดสร้างสรรค์ รวบรวมของดีจากภาคใต้ พร้อมทั้งเป็นสนามทดลองให้กับผู้ประกอบการรุ่นเก๋าและรุ่นใหม่ในการพัฒนาโปรดักต์
• South Collaboration: โปรเจกต์พิเศษของเหล่าพันธมิตร มีทั้งเวิร์กช็อป โปรโมชั่นพิเศษ และโปรแกรมต่างๆ ทั้งระดับท้องถิ่นและนานาชาติ

Pakk Taii Design Week 2025 หรือ PTDW2025 จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับจังหวัดสงขลา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นักออกแบบและนักสร้างสรรค์ชาวใต้

ปักหมุดกันไว้ แล้วพบกันวันที่ 28 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 ณ ย่านเมืองเก่าสงขลาและหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. แล้วมาค้นหาประสบการณ์ใหม่ที่สะท้อนความสุขสำราญใจในแบบฉบับปักษ์ใต้ไปด้วยกัน

ดูรายละเอียดข้อมูลได้ที่ www.pakktaiidesignweek.com หรือ www.facebook.com/pakktaiidesignweek

The post ‘Pakk Taii Design Week 2025’ กลับมาอีกครั้ง ปักหมุด 28 ส.ค. – 7 ก.ย. ย่านเมืองเก่าสงขลา appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (16 พฤษภาคม) พล.ต.ต.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า พยาบาล (สบ 6) โรงพยาบาลตำรวจ และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจร่างกายของ ด.ต. นิสาธิต คงเทพ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อย่างละเอียด 

หลังถูกทำร้ายร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยมีอาการตามองไม่ชัด ปวดบริเวณโหนกแก้มข้างขวา

จากการตรวจโดยทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าผู้ป่วยมีอาการฟกช้ำบริเวณหน้าผากขวา รอบดวงตาขวา สะบักหลังขวา ใบหน้าฝั่งขวาดูบวมและไม่สมมาตรกับฝั่งซ้าย กระดูกใต้ตาขวามีลักษณะยุบลง ส่งผลให้การมองเห็นลดลงตั้งแต่วันเกิดเหตุ แพทย์ได้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทั้งสมองและกระดูกใบหน้า ผลไม่พบเลือดออกในสมองหรือกระดูกหัก

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจโดยจักษุแพทย์ พบว่ามีเลือดออกในนัยน์ตาดำ จึงให้ยา และแนะนำให้งดกิจกรรมที่อาจทำให้ดวงตาสั่นสะเทือน เช่น การออกแรงหรือกระแทก เนื่องจากเสี่ยงต่อการเลือดออกมากขึ้นหรือจอประสาทตาหลุดลอก 

นอกจากนี้ แพทย์ยังประเมินว่าผู้ป่วยอาจเผชิญภาวะเครียดหลังประสบเหตุการณ์รุนแรง (PTSD) จึงขอให้เฝ้าระวังอาการ เช่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล หรือความเครียด ตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้าน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันว่า จะดูแลข้าราชการตำรวจทุกนายอย่างดีที่สุด ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสิทธิที่พึงมี เพื่อให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด

The post ผบ.ตร. สั่ง รพ.ตำรวจ ตรวจร่างกาย ตชด. เหยื่อที่ถูก สจ. สงขลา ทำร้ายร่างกาย อย่างละเอียด หลังมีอาการตามองไม่ชัด appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (12 พฤษภาคม) พล.ต.อ. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามและกำกับดูแลคดีกลุ่มสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) พร้อมพวกรวม 7 คน ก่อเหตุรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ขณะปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งจนได้รับบาดเจ็บ โดยล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 7 รายแล้ว และได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

การลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.ต.อ. ธนายุตม์ ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9), พล.ต.ต. ณรงค์ ธนานันทกุล ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 4 (ผบก.ตชด.ภาค 4), พล.ต.ต. เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (ผบก.ภ.จว.สงขลา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นย้ำถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด และยืนยันว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีผู้ใดสามารถอยู่เหนือกฎหมายได้

พล.ต.อ. ธนายุตม์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ เหิมเกริม ท้าทายอำนาจรัฐ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและประชาชนไม่อาจยอมรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้กระทำผิดเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งควรเป็นผู้ที่รู้กฎหมายดี แต่กลับละเมิดกฎหมายเสียเอง

“การดำเนินคดีจะเป็นไปอย่างเฉียบขาด บังคับใช้กฎหมาย 100% ไม่มีการละเว้นหรือเลือกปฏิบัติ ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 7 รายได้ครบถ้วนแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง ไม่มีการจับแพะอย่างแน่นอน จากพฤติการณ์พบว่ามีการวางแผนและไตร่ตรองก่อนก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังพบว่าบางรายมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งจะมีการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด หากพบความผิดเดิม จะดำเนินคดีเพิ่มเติมและขอให้ศาลเพิ่มโทษตามกฎหมาย” พล.ต.อ. ธนายุตม์ กล่าว

ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ยังให้คำมั่นว่า กระบวนการสอบสวนจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่มีการปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซงหรือมีอำนาจเหนือกฎหมาย หากการสอบสวนขยายผลไปถึงบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงหรือผู้ให้การสนับสนุน จะมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด 

พร้อมกันนี้ได้ประกาศเตรียมการกวาดล้างอิทธิพลครั้งใหญ่ เพื่อขจัดภัยต่อสังคม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อ้างอิง: 

• สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

The post พล.ต.อ. ธนายุตม์ ลงใต้คุมคดี สจ. ทำร้าย ตชด. เผยจับครบ 7 ราย บังคับใช้กฎหมาย 100% เตรียมกวาดล้างกลุ่มอิทธิพล appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (12 พฤษภาคม) จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกทำร้าย ด.ต. นิสาธิต คงเทพ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 หลังไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายภาพภายในคูหาเลือกตั้ง 

พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลจังหวัดสงขลาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย โดยมี สิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ. กอล์ฟ อายุ 28 ปี เป็นผู้ต้องหาที่ 1 ในฐานะผู้ใช้ให้เกิดเหตุ พร้อมพวกอีก 6 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวเพิ่มเติม

คืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 5 ราย พร้อมนำเข้าสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ส่วนอีก 2 ราย รวมถึง สจ. กอล์ฟ ยังอยู่ระหว่างติดตามตัว โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่ ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.308/2567

ล่าสุด สมยศ พลายด้วง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และบิดาของ สจ. กอล์ฟ ได้พาบุตรชายเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ 

ขณะที่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า การกระทำนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจ ผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาเยี่ยมให้กำลังใจกับตำรวจผู้ถูกกระทำที่ได้รับบาดเจ็บ และให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาลงไปกำกับการปฏิบัติเรื่องนี้ด้วยตนเอง รวมถึงเร่งรัดการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด พร้อมให้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษปฏิบัติการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายและต้องจับกุมมาดำเนินคดีให้หมดทุกราย 

อีกทั้งให้สอบสวนขยายผลว่าผู้กระทำผิดมีความเกี่ยวพันกับการกระทำผิดอื่นอีกหรือไม่ และให้ดำเนินคดีทุกความผิดอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ยังขอประณามการกระทำที่อยู่เหนือกฎหมายเช่นนี้ และไม่สนว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร ได้สั่งการให้สืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีในทุกข้อหาโดยเร็วที่สุด จะมีใครทำตัวเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจเหนือกฎหมายไม่ได้ ทุกคนต้องเคารพและอยู่ภายใต้กฎ กติกา กฎหมายของบ้านเมือง หากทำผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย

ด้าน เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้น เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีความเชื่อมโยงกับพรรคประชาธิปัตย์ และส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวกับพรรค ขณะนี้ได้รับทราบและมีการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายแล้ว แต่ตนยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยสอบถามกับสมยศ จึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้ในขณะนี้

“ดิฉันขอแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจไปยัง ด.ต. นิสาธิต คงเทพ เจ้าหน้าที่ ตชด. ที่ดูแลความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง ผู้ได้รับบาดเจ็บ และขอให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ภาพ: ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

The post สส. สมยศ พา สจ. กอล์ฟ เข้ามอบตัว หลังศาลออกหมายจับคดีรุมทำร้าย ตร. กลางหน่วยเลือกตั้ง ด้าน ผบ.ตร. สั่งเร่งจับกุมมาลงโทษให้ครบทุกราย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (12 พฤษภาคม) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยแพร่เอกสารระบุถึงกรณีที่ ด.ต. นิสาธิต คงเทพ สังกัดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
และนายกเทศมนตรีตำบลพะวง หน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ที่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ถูกกลุ่มบุคคลทำร้ายร่างกาย เนื่องจากห้ามและชี้แจงไม่ให้บุคคลที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งเข้ามาภายในหน่วยเลือกตั้ง ทำให้เกิดความไม่พอใจ และต่อมามีกลุ่มคนเข้ามาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บในขณะปฏิบัติหน้าที่ และเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลสงขลานั้น

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอแสดงความห่วงใยและเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการเลือกตั้ง สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งอย่างรับผิดชอบและแข็งขัน และจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายอย่างเต็มที่

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยเงินชดเชยผู้ประสบภัยเนื่องจากการปฏิบัติงานเลือกตั้ง พ.ศ. 2555 กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ มีสิทธิได้รับเงินบำรุงขวัญและเงินชดเชยให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ดังนี้

1. เงินบำรุงขวัญ กรณีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส รายละ 10,000 บาท หรือกรณีที่ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส รายละ 5,000 บาท

2. เงินชดเชย กรณีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงทุพพลภาพ หรือเจ็บป่วยเรื้อรังจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ไม่เกินรายละ 100,000 บาท

ทั้งนี้ ร.ต.อ. สมนึก กุลมณี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา และคณะ เป็นผู้แทนของคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มอบกระเช้าผลไม้และเงินบำรุงขวัญ จำนวน 5,000 บาท พร้อมด้วยเงินสมทบของพนักงานสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา จำนวน 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 15,000 บาท เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ ด.ต. นิสาธิต และจะดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริง เอกสารหลักฐาน และรายงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาตามระเบียบดังกล่าว และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้อง และยืนยันว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะไม่เพิกเฉยต่อความเสียหายที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ในกระบวนการเลือกตั้ง

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนให้ร่วมกันสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งที่ปราศจากความรุนแรง สุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย เพื่อธำรงไว้ซึ่งหลักประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน

The post กกต. ประณามเหตุใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งสงขลา เตรียมดำเนินคดีผู้กระทำผิด appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (24 เมษายน) พรรคประชาชนจังหวัดสงขลา ออกแถลงการณ์เรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ช่วงตั้งวันที่ 18 เมษายน 2568 จนถึงวันที่ 22 เมษายน 2568 ส่งผลให้สามเณรที่อยู่ระหว่างการบรรพชาในช่วงปิดภาคเรียนมรณภาพ 1 รูป และได้รับบาดเจ็บอีก 1 รูป 

โดยแถลงการณ์ระบุตอนหนึ่งว่า พรรคประชาชนจังหวัดสงขลา ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย และไม่เห็นด้วยกับการกระทำอันโหดร้าย และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบอย่างถึงที่สุด เหตุการณ์ครั้งนี้มิใช่เพียงเหตุการณ์ที่แยกขาดกับสถานการณ์โดยภาพรวม หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มความรุนแรงที่ทวีความถี่และความรุนแรงมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทุกฝ่ายควรตระหนักและร่วมกันเฝ้าระวังอย่างจริงจัง 

การที่บุคคลในสมณเพศ ผู้นำศาสนา หรือครูสอนศาสนา ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีหรือได้รับผลกระทบจากความรุนแรงนั้นยังมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เป็นเรื่องที่บั่นทอนบรรยากาศแห่งการอยู่ร่วมกัน และอาจนำไปสู่การแบ่งขั้วแบ่งข้างทางสังคม สร้างความรู้สึกบาดหมางในหมู่ประชาชนผู้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มเลวร้ายลง และยากต่อการคลี่คลายมากยิ่งขึ้น

ด้าน วิจักษณ์ พฤกษ์สุริยา รองเลขาธิการพรรคประชาชน สัดส่วนภาคใต้ กล่าวว่า ตอนนี้เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ บทเรียนจากอดีตชี้ชัดว่าพลเรือนและประชาชนผู้บริสุทธิ์มักเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างสาหัสจากวงจรความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างโปร่งใส สืบสวนหาข้อเท็จจริง และนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว 

พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงจังในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยยึดแนวทางทางการเมืองเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับการแสวงหาทางออกผ่านการพูดคุย การสร้างความเข้าใจ และการลดความเกลียดชัง เราขอย้ำอย่างหนักแน่นว่า ความรุนแรงไม่เคยเป็นคำตอบของปัญหาใด ๆ และการใช้ความรุนแรงโต้ตอบกับความรุนแรงจะนำมาซึ่งหายนะ และทำให้เราเข้าใกล้สันติภาพที่ทุกฝ่ายปรารถนายากขึ้น

The post พรรคประชาชนจังหวัดสงขลาเรียกร้องรัฐบาลจริงจังแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ หาทางออกผ่านการพูดคุย ย้ำความรุนแรงไม่เคยเป็นคำตอบ appeared first on THE STANDARD.