ศรีสุวรรณ จรรยา – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 21 Feb 2025 05:14:49 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ศรีสุวรรณชนะคดีถูกฟ้องแจ้งเท็จ กกต. ตรวจสอบ ‘ทักษิณ’ ศาลชี้แสดงความเห็นตามข้อเท็จจริง https://thestandard.co/srisuwan-wins-false-report-case/ Fri, 21 Feb 2025 05:13:21 +0000 https://thestandard.co/?p=1044407

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณ […]

The post ศรีสุวรรณชนะคดีถูกฟ้องแจ้งเท็จ กกต. ตรวจสอบ ‘ทักษิณ’ ศาลชี้แสดงความเห็นตามข้อเท็จจริง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ 3127/2566 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน นักร้องเรียนชื่อดัง เป็นจำเลยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 ประกอบมาตรา 174 ฐานรู้อยู่แล้วว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนคดีอาญาว่ามีการกระทำผิดสั่งสอบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำผิด หรือแกล้งบุคคลใดให้ต้องรับโทษ

 

ขณะที่อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดของศรีสุวรรณว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจยื่นหนังสือร้องเรียนแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อ แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการลือกตั้ง (กกต.) ว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ได้ควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยยินยอมให้ทักษิณควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ เรื่องนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ทำให้พรรคการเมืองขาดความเป็นอิสระ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28 ประกอบมาตรา 29 จึงขอให้ กกต. ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ปรากฏตามหนังสือของสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จ เนื่องจากทักษิณมิได้ควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ทั้งนี้ เพื่อให้ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ต้องรับโทษทางอาญา

 

โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173, 174 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 4 ประกอบมาตรา 101 และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งจำเลยด้วย

 

ขณะที่จำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันนี้ ศรีสุวรรณ จรรยา เดินทางมาศาลอาญาพร้อมกับเปิดเผยก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่า คดีนี้หลังจากที่ตนเองไปยื่นเรื่องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบกรณีของทักษิณที่มีพฤติการณ์ครอบงำพรรคเพื่อไทย จากนั้น วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทุ่งสองห้อง ในฐานะส่วนตัว ซึ่งไม่ได้รับมอบอำนาจจากทักษิณหรือพรรคเพื่อไทย เพียงแต่กล่าวอ้างว่าเห็นข้อมูลจากข่าวจึงนำเรื่องมาแจ้งความ 

 

จากนั้นตำรวจสรุปสำนวนส่งอัยการและส่งฟ้องต่อศาล ก็มีการต่อสู้กันในชั้นศาล ซึ่งตนเองก็ต่อสู้ว่าการร้องเรียนต่อ กกต. เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญไทย และมองว่าวิญญัติไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ก็เป็นสิทธิที่จะมาแจ้งความร้องทุกข์ได้

 

ศรีสุวรรณยังกล่าวอีกว่า การร้องเรียนเรื่องต่างๆ ของตนเองนั้นถือเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญไทยในการตรวจสอบพรรคการเมือง ซึ่งหากเป็นแบบนี้ ใครไปร้อง กกต. ให้ตรวจสอบเรื่องต่างๆ ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมดใช่หรือไม่

 

ต่อมาศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า หนังสือร้องเรียนที่จำเลยยื่นต่อ กกต. เป็นการแสดงความเห็นตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่การยืนยันว่าทักษิณกระทำความผิดแต่อย่างใด

 

แม้ต่อมา กกต. จะมีหนังสือแจ้งการยุติเรื่องร้องเรียนว่าทักษิณไม่ได้มีพฤติกรรมครอบงำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทย 

 

ขณะเดียวกันจำเลยเบิกความยืนยันว่าไม่ได้มีอคติต่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง และไม่ได้มุ่งร้องเรียนเฉพาะทักษิณเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาก็เคยยื่นเรื่องร้องเรียนจนศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยหลายคดี เช่น การยุบพรรคไทยรักษาชาติ ยุบพรรคอนาคตใหม่ และเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฯลฯ จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากลั่นแกล้งทักษิณ 

 

อีกทั้ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยในขณะนั้น ก็เป็นบุตรสาวของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลในครอบครัว มีความใกล้ชิดกัน จึงอาจทำให้คนทั่วไปคิดเหมือนกับจำเลย และประชาชนมีสิทธิร้องเรียนให้ตรวจสอบได้

 

ภายหลังฟังคำพิพากษา ศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง ดังนั้นคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานในการเดินหน้าตรวจสอบนักการเมืองต่อไป 

 

ส่วนที่มีการแจ้งความตนเองนั้นก็เพื่อเตะตัดขาไม่ให้ตนเองไปดำเนินการตรวจสอบนักการเมืองดังกล่าวและมีภาระในการสู้คดี เมื่อมีคำพิพากษายกฟ้องในครั้งนี้ ทำให้ตนและประชาชนทุกคนมีสิทธิตรวจสอบนักการเมืองได้ตามกฎหมายโดยไม่ต้องกังวลว่าประชาชนที่ร้องเรียนหน่วยงานใดจะมีความผิด เพราะเป็นการใช้สิทธิโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความคิดเห็นต่อพนักงานสอบสวนหรืออัยการที่ทำคดีนี้อย่างไรบ้าง

 

ศรีสุวรรณกล่าวว่า คงต้องไปดูสำนวนและปรึกษาว่ามีกรณีไหนเป็นการขัดขวางการใช้สิทธิโดยชอบและจงใจให้เป็นภาระทางคดี ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เหมือนที่ศรีปราชญ์เคยกล่าวไว้ว่า “ดาบนั้นต้องคืนสนอง” แต่ก็ยังไม่ใช้เร็วๆ นี้ เพราะต้องให้ทีมที่ปรึกษากฎหมายได้พิจารณาและตรวจสอบคำให้การของพยานอย่างถี่ถ้วนทั้งหมด

The post ศรีสุวรรณชนะคดีถูกฟ้องแจ้งเท็จ กกต. ตรวจสอบ ‘ทักษิณ’ ศาลชี้แสดงความเห็นตามข้อเท็จจริง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศรีสุวรรณยื่นฟ้องศาลปกครอง เอาผิดนายกฯ-​ครม. เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ว่าขัดต่อ กม. ทำคนไทยแบกรับหนี้สิน พร้อมขอระงับโครงการ https://thestandard.co/srisuwan-sues-government-digital-wallet/ Fri, 09 Aug 2024 05:25:20 +0000 https://thestandard.co/?p=969315 ศรีสุวรรณ จรรยา

วันนี้ (9 สิงหาคม) ที่ศาลปกครองกลาง ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ […]

The post ศรีสุวรรณยื่นฟ้องศาลปกครอง เอาผิดนายกฯ-​ครม. เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ว่าขัดต่อ กม. ทำคนไทยแบกรับหนี้สิน พร้อมขอระงับโครงการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศรีสุวรรณ จรรยา

วันนี้ (9 สิงหาคม) ที่ศาลปกครองกลาง ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมาศาลปกครองเข้ายื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 โดยขอให้ระงับโครงการ พร้อมขอสั่งคุ้มครองชั่วคราว

 

ศรีสุวรรณกล่าวว่า มีประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยเนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้จำนวนเงินมหาศาล ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวหากไปใช้ในโครงการพัฒนาอื่นๆ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า แต่หากนำมาแจกให้กับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะทำให้ผู้ที่ได้รับเงินและผู้ที่ไม่ได้รับจ่ายเงินจะต้องมาร่วมชดใช้หนี้สิน เพราะเงินดังกล่าวนอกจากจะมาจากภาษีประชาชนแล้ว ยังมาจากเงินกู้ที่จะต้องชำระดอกเบี้ยด้วย

 

ทั้งที่สถานภาพทางเศรษฐกิจ​ตอนนี้ทุกคนต้องแบกรับภาระหนี้ครัวเรือนสูงกว่า 70% ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงหลายหน่วยงานออกมายืนยันว่า การดำเนินการโครงการดิจิทัล10,000 บาท จะทำให้เศรษฐกิจโตได้ 0.6-0.9% เท่านั้น และเกิดในระยะเวลาที่สั้นๆ แต่หลังจากนั้นภาระหนี้สินของประเทศก็จะเพิ่มมากขึ้น

 

ดังนั้นการที่รัฐบาลไม่ฟังเสียงท้วงติงของนักเศรษฐศาสตร์และนักวิชาการ รวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง แต่กลับพยายามจะผลักดันโครงการอย่างถูลู่ถูกัง ทำให้หลายคนมองว่าเรื่องนี้ส่อว่าจะขัดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และ พ.ร.บ.เงินตรา รวมทั้งกฎหมายเกี่ยวกับเงินสำรองงบประมาณ หากไม่หยุดโครงการนี้คนไทยทุกคนก็จะร่วมกันรับผิดชอบ

 

ศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า ตนจึงเดินทางมาเพื่อขอให้ศาลสั่งระงับโครงการดังกล่าว หรือหากรัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้ต่อ ก็ให้ไปปรับเงื่อนไขตามคำแนะนำของหลายองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางคนยากคนจนที่ถือบัตรสวัสดิการ​แห่งรัฐ ที่มีประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งจะใช้เม็ดเงินไม่มากและไม่เป็นภาระสำหรับงบประมาณที่จะใช้ไปพัฒนาโครงการอื่นๆ

 

ศรี​สุวรรณ​ยังกล่าวด้วยว่า แม้รัฐบาลจะมีการปรับที่มาของเงิน โดยออกเป็น พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 ที่เพิ่งผ่านสภา งบประมาณ 1.22 แสนล้านบาท บางส่วนเป็นเงินกู้ ไม่ใช่มาจากงบประมาณเพียงอย่างเดียว แต่รัฐบาลพยายามใช้เทคนิคในการสอดไส้ และอ้างว่าไม่ใช่เงินกู้ แต่ความเป็นจริงแล้วมันคือเงินกู้ ซึ่งสถาบันการเงินหลายแห่งได้ทำวิจัย เพราะว่าคนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้แท้ที่จริงแล้วอาจไม่ใช่ผู้ค้ารายเล็ก แต่จะเป็นประโยชน์ต่อร้านสะดวกซื้อที่กระจายตัวอยู่นับหมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นของนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองหรือนักการเมืองมาโดยตลอด โครงการนี้จึงอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่รัฐบาลโฆษณาชวนเชื่อมาโดยตลอด

 

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะส่งผลต่อโครงการดังกล่าวหรือไม่ ศรี​สุวรรณ​กล่าวว่า หากศาลมองว่าการที่เศรษฐาแต่งตั้งบุคคลที่มีลักษณะ​ต้องห้ามมาเป็นรัฐมนตรี จะส่งผลให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี​หลุดออกจากตำแหน่งทั้งหมด ส่งผลให้โครงการต่างๆ ของรัฐจะต้องถูกระงับไว้ก่อน เพื่อไปฟอร์มคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่หาก ครม.ชุดใหม่ยังมีแต่หน้าเดิมๆ ก็คงจะผลักดันโครงการนี้ต่อไป เพราะเป็นนโยบายของแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หรือหากศาลรัฐธรรมนูญ​วินิจฉัย​ว่าไม่มีความผิด รัฐบาลก็จะเดินหน้าโครงการนี้ต่ออย่างแน่นอน

 

ศรี​สุวรรณ​กล่าวอีกว่า หากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ก็จะทำให้โครงการแจกเงินจะต้องหยุดลงเหมือนกับกรณีที่เคยยื่นฟ้องโครงการเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งศาลปกครองก็ให้การคุ้มครองชั่วคราว จนสุดท้ายโครงการนี้ก็ต้องยุติลง

The post ศรีสุวรรณยื่นฟ้องศาลปกครอง เอาผิดนายกฯ-​ครม. เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ว่าขัดต่อ กม. ทำคนไทยแบกรับหนี้สิน พร้อมขอระงับโครงการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อัยการเลื่อนสั่งคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ‘เจ๋ง ดอกจิก – ศรีสุวรรณ จรรยา’ กับพวก เหตุยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ พร้อมปล่อยชั่วคราว https://thestandard.co/postpone-case-director-general-of-the-rice-department/ Thu, 25 Jul 2024 05:10:05 +0000 https://thestandard.co/?p=962677

วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเ […]

The post อัยการเลื่อนสั่งคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ‘เจ๋ง ดอกจิก – ศรีสุวรรณ จรรยา’ กับพวก เหตุยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ พร้อมปล่อยชั่วคราว appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 นัดฟังคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อดีตข้าราชการการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน กับพวกรวม 5 คน ในคดีที่ ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวหาว่า กลุ่มผู้ต้องหารวม 5 คนเกี่ยวกับกรณีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีการเรียกรับทรัพย์สินรวมทั้งผลประโยชน์อื่นๆ 

 

โดยในวันนี้ยศวริศและศรีสุวรรณ พร้อมด้วยผู้ต้องหารายอื่นๆ เดินทางมาฟังคำสั่งอัยการ 

 

ศรีสุวรรณกล่าวว่า ตัวเองและภรรยาในฐานะผู้ต้องหา ต้องเดินทางมารายงานตัวตามนัด หลังจากนี้เตรียมที่จะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการ เพราะมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาตัวเองไม่ได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่น โดยเฉพาะยศวริศที่เจอกันเพียงครั้งเดียว กระทั่งมาเจอกันในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน 

 

ช่วงที่ผ่านมาตัวเองยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชน เพราะยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ แต่ส่วนของการร้องเรียนหน่วยงานและบุคคล ยอมรับว่าจะต้องมีการทบทวนบทบาทหน้าที่ อีกทั้งต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพราะที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ตัวเองร้องเรียนไปแล้วได้รับการตรวจสอบจนประสบความสำเร็จ ดังนั้นหลังจากที่ตัวเองถูกดำเนินคดีจึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะส่วนตัวมองว่าเป็นผลมาจากการที่ตัวเองเดินสายร้องเรียนเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง

 

ด้านยศวริศกล่าวยืนยันว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์แม้จะถูกกล่าวหา แต่ก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนประเด็นกับศรีสุวรรณนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องเคลียร์ใจกันเป็นการส่วนตัว 

 

หลังจากสัมภาษณ์แล้วเสร็จ ทั้งคู่ได้มีการจับมือให้กำลังใจกันและกัน ก่อนจะเดินขึ้นไปพบพนักงานอัยการ

 

ขณะที่ ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานอัยการรับผิดชอบคดีนี้ แจ้งว่า คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ จึงให้ไปฟังคำสั่งในวันที่ 28 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 น.

 

ขณะเดียวกันหัวหน้าพนักงานอัยการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงยื่นขออนุญาตต่อ สุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ขอไม่ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดและปล่อยชั่วคราวไป โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีคำสั่งอนุญาตไม่ฝากขัง ให้ปล่อยตัวชั่วคราว และให้มาพบพนักงานอัยการตามกำหนดในวันที่ 28 สิงหาคม 2567 

 

สำหรับคดีนี้ ณัฏฐกิตติ์ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ ศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด โดยยศวริศกับพวกถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดคนละ 6 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวน กองปราบปราม นำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567

The post อัยการเลื่อนสั่งคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ‘เจ๋ง ดอกจิก – ศรีสุวรรณ จรรยา’ กับพวก เหตุยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ พร้อมปล่อยชั่วคราว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศรีสุวรรณประกาศเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมให้สังคม ยืนยันไม่รู้เห็น-ทำผิด คดีเรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว https://thestandard.co/srisuwan-continue-serve-people-justice/ Fri, 22 Mar 2024 10:03:00 +0000 https://thestandard.co/?p=914061 ศรีสุวรรณ จรรยา

วันนี้ (22 มีนาคม) เมื่อเวลา 13.30 น. ศรีสุวรรณ จรรยา เ […]

The post ศรีสุวรรณประกาศเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมให้สังคม ยืนยันไม่รู้เห็น-ทำผิด คดีเรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศรีสุวรรณ จรรยา

วันนี้ (22 มีนาคม) เมื่อเวลา 13.30 น. ศรีสุวรรณ จรรยา เข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตามหมายนัดคดีเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าว

 

ศรีสุวรรณกล่าวยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมประกาศว่าจะเดินหน้าทวงคืนความยุติธรรมเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

 

ทั้งนี้ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีการเปิดเผยคลิปเสียงก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในรูปคดี ขอไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ เกรงว่าถ้าพูดออกไปจะกระทบต่อสำนวนคดี 

 

ศรีสุวรรณกล่าวว่า ขณะนี้ได้ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ และพร้อมรับใช้ประชาชนเต็มที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่หายไปจากหน้าจอสื่อไม่ใช่การหลบหน้าเพราะมีคดีหรือหนีแต่อย่างใด แต่เป็นการหยุดเคลื่อนไหว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานคดีของตน

 

และตนก็ยังรับฟ้องร้องคดีความให้กับประชาชนในโครงการต่างๆ เช่น คอนโดมิเนียมก่อสร้างมิชอบ โรงงานปล่อยน้ำเสียในชุมชน

 

ศรีสุวรรณกล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอาจเป็นการเตะตัดขา เพื่อไม่ให้ตนได้เดินหน้าตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง แต่ตนพร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมกับตน

The post ศรีสุวรรณประกาศเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมให้สังคม ยืนยันไม่รู้เห็น-ทำผิด คดีเรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศรีสุวรรณส่งเอกสารให้การคดีเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวด้วยตัวเอง ยืนหยัดที่จะสู้ต่อ มีกำลังใจเต็มร้อย https://thestandard.co/srisuwan-janya-rice-thailand/ Fri, 23 Feb 2024 09:23:38 +0000 https://thestandard.co/?p=903546 ศรีสุวรรณ จรรยา

วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ต้องหาคดีเรีย […]

The post ศรีสุวรรณส่งเอกสารให้การคดีเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวด้วยตัวเอง ยืนหยัดที่จะสู้ต่อ มีกำลังใจเต็มร้อย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศรีสุวรรณ จรรยา

วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ต้องหาคดีเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว เดินทางมายังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตามนัดหมายในการยื่นคำให้การกับพนักงานสอบสวน

 

ศรีสุวรรณกล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีการนัดหมายตนทุกเดือนให้มารายงานตัว วันนี้ได้นำคำให้การมายื่นเพิ่มเติม เป็นเอกสาร 16 หน้า อธิบายที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

 

ที่ผ่านมาไม่มีใครติดต่อตนได้เพราะไม่มีมือถือ ทางพนักงานสอบสวนได้มีการยึดไว้เพื่อตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ตอนนี้ตนสบายดี และยังมีกำลังใจเต็มร้อย ส่วนที่สังคมสงสัยว่าตนเองนั้นทำอาชีพอะไร ตนมีหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์ต่อสู้กับนักการเมืองมามากกว่า 10 ปี ฟ้องคดีไม่ต่ำกว่า 5,000 คดี เช่น รถเมล์ควันดำ และล่าสุดคือเรื่องแอชตัน อโศก ทรัพย์สินที่ได้มามาจากน้ำใจชาวบ้าน ส่วนครุฑก็ได้มาจากธนาคารเก่าที่มีการโละออก ทั้งนี้ ตนยืนหยัดที่จะสู้ต่อ

 

ศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า ในคดีนี้ตนตกเป็นเป้าใหญ่ และเป็นเป้าหลักของเรื่องนี้ ตนไม่อยากพูดถึงความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น แต่เมื่อตนถูกกล่าวหาก็ต้องหาพยานหลักฐานมาให้ได้เยอะที่สุด ในวันนี้ตนมีความมั่นใจค่อนข้างสูงในทางคดี ยืนยันไม่มีเงินจากบัญชีม้ามาถึงตนและภรรยาเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ส่วนเงินที่ถูกแขวนหน้าบ้าน ตนมองว่าเป็นพิรุธ เชื่อว่าเป็นเกมการเมืองที่ตนได้รับเรื่องร้องทุกข์มานานและไปเหยียบตอขนาดใหญ่ ถ้าหากตนทำผิดจริงคงไม่รับฟ้องร้องคดีได้นานจนถึงทุกวันนี้

 

ด้าน พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้เสียหายบางกลุ่ม บางวง เปลี่ยนใจไม่เข้าให้ข้อมูลเพราะหวั่นเดือดร้อน ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง มีแต่คนจะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่ม ตอนนี้สามารถขยายไปได้ถึง 3 วงแล้ว ในวงที่ 3 นี้อยู่ในระหว่างการพูดคุยกับผู้เสียหาย และยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดถึงข้อมูลเพิ่มเติม

 

เมื่อถามว่าศรีสุวรรณจะขอโทรศัพท์มือถือคืนนั้น พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ระบุว่า ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะพิจารณาส่งคืนหรือไม่ เพราะบางอย่างเป็นของกลาง ไม่สามารถคืนให้ได้

The post ศรีสุวรรณส่งเอกสารให้การคดีเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวด้วยตัวเอง ยืนหยัดที่จะสู้ต่อ มีกำลังใจเต็มร้อย appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดปม ‘กำไล EM’ อดีตเป้าขบวนการนักร้องศรีสุวรรณ https://thestandard.co/key-messages-em-srisuwan/ Tue, 20 Feb 2024 08:46:22 +0000 https://thestandard.co/?p=902170

โครงการจัดเช่ากำไล EM ของกระทรวงยุติธรรม ในสมัยที่ สมศั […]

The post เปิดปม ‘กำไล EM’ อดีตเป้าขบวนการนักร้องศรีสุวรรณ appeared first on THE STANDARD.

]]>

โครงการจัดเช่ากำไล EM ของกระทรวงยุติธรรม ในสมัยที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เคยตกเป็นเป้าหมายในขบวนการร้องเรียนนำโดย ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน และ ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ทั้งสองเปิดหน้าเดินทางไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรมด้วยตัวเองเมื่อ 20 ตุลาคม 2566 ก่อนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อที่สภาผู้แทนราษฎร

 

โดยขณะนั้นมีการร้องขอให้ทางกระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดขบวนการฮั้วประมูลโครงการจัดเช่ากำไล EM มูลค่า 1,600 ล้านบาท 

 

THE STANDARD ชวนย้อนดูความเป็นมาของโครงการพันล้านว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงนำไปสู่การร้องเรียน

 

9 ปีที่ผ่านมา ‘ยุติธรรม’ ทำอะไรกับ ‘กำไล EM’

 

ทีมข่าวได้สืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ ‘ภาษีไปไหน’ โดยค้นหาด้วยคำว่า ‘อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว’ สืบย้อนไปตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 จนถึงปัจจุบัน (ปี 2567) ซึ่งปรากฏข้อมูลว่าหน่วยที่จัดซื้อคือกรมคุมประพฤติ สังกัดกระทรวงยุติธรรม มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

ปีงบประมาณ 2561

 

  • โครงการจ้างผลิตแผ่นพับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวและแผ่นพับความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวสำหรับประชาชน ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 400,180 บาท

 

ปีงบประมาณ 2563

 

  • โครงการประกวดราคาเช่าโครงการการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวมาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก ครั้งที่ 2 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) งบประมาณ 848,245,371 บาท
  • โครงการจ้างที่ปรึกษาโครงการการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring: EM) สำหรับผู้กระทำผิดในกระบวนการยุติธรรม โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 864,000 บาท

 

ทั้งนี้ในปี 2563 มี 2 โครงการที่กรมราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยจัดซื้อ ได้แก่

 

  • โครงการจ้างเหมารถบัสปรับอากาศและรถตู้ปรับอากาศ โครงการสัมมนาเพื่อวางแผนแนวทางและการปฏิบัติต่อนักโทษเด็ดขาดที่ต้องใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring: EM) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 38,000 บาท
  • โครงการจ้างเช่าห้องประชุม สำหรับโครงการสัมมนาเพื่อวางแผนแนวทางและการปฏิบัติต่อนักโทษเด็ดขาดที่ต้องใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring: EM) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 20,000 บาท

 

ปีงบประมาณ 2564

 

  • โครงการซื้อวัสดุหมึกพิมพ์คอมพิวเตอร์ โครงการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงราย โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 66,961 บาท
  • โครงการซื้อหมึกพิมพ์ใช้สำหรับเครื่องพิมพ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 24,400 บาท
  • โครงการซื้อกระดาษถ่ายเอกสาร โครงการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว EM โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 11,900 บาท

 

ปีงบประมาณ 2565

 

  • โครงการจ้างดำเนินกิจกรรมสร้างความเข้าใจในการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring: EM) มาใช้เฝ้าระวังผู้กระทำความผิดคดีทางเพศหรือใช้ความรุนแรงภายหลังพ้นโทษ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 100,000 บาท

 

ปีงบประมาณ 2566

 

  • โครงการประกวดราคาเช่าการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวมาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) งบประมาณ 782,000,000 บาท
  • โครงการซื้อหมึกพิมพ์เพื่อใช้ในภารกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว โดยวิธีเฉพาะเจาะจง งบประมาณ 13,400 บาท

 

ผู้ชนะประมูลโครงการใหญ่มีเพียงรายเดียว

 

หากพิจารณา 2 โครงการที่มีงบประมาณมากที่สุด และตกเป็นเป้าในการร้องเรียนในเวลาต่อมาคือ โครงการจัดเช่ากำไล EM ในปีงบประมาณ 2563 และ 2566 ซึ่งรวมมูลค่างบประมาณอยู่ที่ 1,630,245,371 บาท

 

ผู้ชนะการประมูลจากทั้ง 2 ปีงบประมาณคือ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

 

เมื่อค้นหาข้อมูลกิจการจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าบริษัท ฟอร์ท จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 8 กรกฎาคม 2548 ทุนจดทะเบียน 467,687,350 บาท 

 

มีรายชื่อกรรมการ 10 คน โดยพบว่ามี สนิท วรปัญญา อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก อดีตสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดลพบุรี และเป็นอดีตประธานวุฒิสภา และ พงษ์ชัย อมตานนท์ กรรมการองค์การเภสัชกรรม ร่วมด้วย

 

ประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด 2565 คือการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รับเหมาผลิตและรับจ้างประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

 

ข้อมูลผลประกอบการเบื้องต้น ปีงบการเงิน 2565 มีรายได้รวม 3,139,372,519 บาท มีกำไรสุทธิ 499,147,880 บาท

 

มูลค่าหุ้นและสัดส่วนการลงทุนจำแนกตามสัญชาติ (ข้อมูลปี 2563-2567) ประเทศไทย 442.26 ล้านบาท รวม 8,750 ราย ประเทศอื่นๆ 25.43 ล้านบาท รวม 45 ราย

 

ข้อชี้แจงจากกรมคุมประพฤติ

 

เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2566 วิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์จากกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ. 2564 ถึงความผิดปกติในโครงการกำไล EM โดยสรุปได้ว่า

 

  • การที่บริษัท ฟอร์ท เสนอราคากำไล EM แพงกว่า แต่ชนะการประมูล เพราะการประกวดราคาปี 2563 มีผู้ยื่นข้อเสนอ 2 ราย แต่มีเพียงบริษัท ฟอร์ท ที่มีการนำอุปกรณ์มาทดสอบ และมีคุณสมบัติผ่านถูกต้องครบถ้วนตาม TOR จึงเป็นผู้ชนะการประกวดราคา
  • สาเหตุที่กรมคุมประพฤติต้องเช่าซื้อ ไม่ซื้อขาด เพราะอุปกรณ์นี้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ต้องอาศัยเรื่องระบบการสื่อสาร สัญญาณดาวเทียม และเครือข่ายโทรศัพท์ เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้พัฒนาตลอด ถ้าเราจัดซื้ออุปกรณ์เอง หากเทคโนโลยีเปลี่ยนอุปกรณ์นั้นจะกลายเป็นเศษเหล็ก 
  • การเช่าอุปกรณ์ EM ปี 2564 วงเงินสัญญา 849 ล้านบาท รวมค่าเช่าอุปกรณ์เป็นเวลา 30 เดือน ประกอบด้วย 1. เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว 30,000 เครื่อง 2. ค่าบริการเครือข่ายสื่อสารสำหรับแท็ก 30,000 เครื่อง 3. ค่าวงจรสื่อสาร 4. โปรแกรมควบคุมเครื่องมือติดตามตัว 5. ระบบแจ้งเตือนผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะ 6. ค่าจ้างบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ควบคุมไม่น้อยกว่า 62 คน และ 7. ค่าฝึกอบรมบุคลากรไม่น้อยกว่า 240 คน
  • การเช่าอุปกรณ์ปี 2563-2565 เป็นราคาที่รวมครุภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ การปรับปรุงศูนย์ EM และการใช้ระบบสัญญาณสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้ระบบ 4G ส่วนของปี 2561-2563 เป็นราคาไม่รวมครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์และการปรับปรุงศูนย์ EM และใช้เป็นระบบ 2G 

 

ร่วมมือเปิดโปงขบวนการเรียกรับทรัพย์

 

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ เป็นครั้งแรกที่ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) อย่างเป็นทางการ นำข้อมูลและพยานหลักฐานที่มีเพื่อขยายผลพฤติการณ์ขบวนการเรียกรับทรัพย์

 

หลังย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 ตัวเขาที่ขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเคยถูกสมาชิกหนึ่งในขบวนการติดต่อมาพูดคุยในลักษณะ ‘คล้ายกันกับที่อธิบดีกรมการข้าว’ โดน

 

นายกองตรี ธนกฤต ยืนยันว่าเป้าหมายครั้งนั้นของขบวนการเรียกทรัพย์คือ ‘โครงการจัดเช่ากำไล EM’

 

“วันนี้เราได้เห็นแล้วว่ารูปแบบขบวนการนี้มีจุดเริ่มต้นจากคนปั้นข้อมูล ส่วนคนอื่นก็แบ่งหน้าที่และบทบาททำเป็นขบวนการ รูปแบบไม่ต่างกันในการก่อเหตุแต่ละครั้ง” นายกองตรี ธนกฤต กล่าว

 

ด้าน พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะหัวเรือใหญ่ที่ดำเนินคดีขบวนการรีดทรัพย์ ได้ระบุว่า จากการพูดคุยและรับพยานหลักฐานเบื้องต้น พิจารณาได้ว่า 2 กรณีมีลักษณะแผนประทุษกรรมไม่ต่างกัน เพียงแต่ของกรมการข้าวมีการระบุจำนวนเงิน แต่ของกระทรวงยุติธรรมยังไม่มีการระบุจำนวนเงิน แต่ใช้ ‘คำแบบเดียวกัน’ กับกลุ่มเป้าหมาย

 

1 เดือนบุกจับนักร้อง ผู้เสียหายยังไม่สิ้นสุด

 

มาจนถึงวันนี้ (20 กุมภาพันธ์) ระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือนตั้งแต่ปฏิบัติการบุกจับนักร้องและขยายผลต่อไปถึงพรรคพวก ได้ปรากฏผู้เสียหายในหลายแวดวงตั้งแต่ข้าราชการไปจนถึงหน่วยงาน และดูเหมือนว่าจะยังไม่สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้

 

มีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใบ้มาอย่างมีนัยแล้วว่าผู้เสียหายยังมีอีกหลายวง เพราะอย่าลืมว่าแม้บางรายจะยังไม่รับ-ให้เงิน แต่ในทางกฎหมายก็ถือว่าความผิดนั้นเกิดขึ้นสมบูรณ์แล้ว

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

The post เปิดปม ‘กำไล EM’ อดีตเป้าขบวนการนักร้องศรีสุวรรณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจแจง ศรีสุวรรณกับพวกขอเลื่อนให้การคดีตบทรัพย์ ยอมรับอาจเรียกนักร้องรายอื่นๆ มาสอบปากคำ https://thestandard.co/srisuwan-to-postpone-testimony/ Fri, 16 Feb 2024 07:49:36 +0000 https://thestandard.co/?p=900736 ตำรวจแจง ศรีสุวรรณ จรรยา ขอเลื่อนให้การคดีตบทรัพย์

วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผ […]

The post ตำรวจแจง ศรีสุวรรณกับพวกขอเลื่อนให้การคดีตบทรัพย์ ยอมรับอาจเรียกนักร้องรายอื่นๆ มาสอบปากคำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจแจง ศรีสุวรรณ จรรยา ขอเลื่อนให้การคดีตบทรัพย์

วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน กับพวก มีพฤติการณ์ร่วมกันตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า ตามกำหนดการเดิม ทนายความของศรีสุวรรณประสานว่าจะขอยื่นเอกสารคำชี้แจงข้อกล่าวหาภายในวันนี้ 

 

แต่ล่าสุดทางทนายความได้ติดต่อมาขอเลื่อนไปเป็นวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ส่วนกรณีของ ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน เลขาของเจ๋ง ขอเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 แทน 

 

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า กรณีของศรีสุวรรณ พนักงานสอบสวนยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องการจะสอบปากคำ แต่ศรีสุวรรณจะให้การหรือไม่นั้น ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ส่วนกรณีของ เอกลักษณ์ วารีชล หรือ อาจารย์เอก ปากน้ำ ยังไม่มีความชัดเจนในการกำหนดวันที่จะมายื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหา 

 

ภายในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวนจะเรียก วีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจากการพูดคุยกันในเบื้องต้นนั้น วีระมีหลายเรื่องที่อยากจะชี้แจงกับพนักงานสอบสวน อีกทั้งยังมี นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ที่จะให้ข้อมูล แต่ยังอยู่ระหว่างการกำหนดวันและเวลา 

 

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า ผู้เสียหายวงแรกมีเวลาให้พนักงานสอบสวนทำงาน 6 เดือน ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ทำด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อวางเป็นต้นแบบแผนประทุษกรรม ก่อนจะทำการสืบสวนสอบสวนไปยังผู้เสียหายวงอื่นๆ 

 

ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่พนักงานสอบสวนอาจจะพิจารณาเรียกนักร้องเรียนหรือผู้ร้องเรียนรายอื่นๆ มาสอบปากคำและให้ข้อมูลเพิ่มเติม ขณะนี้พบว่ามีหลายคน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นบุคคลใดบ้าง

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

The post ตำรวจแจง ศรีสุวรรณกับพวกขอเลื่อนให้การคดีตบทรัพย์ ยอมรับอาจเรียกนักร้องรายอื่นๆ มาสอบปากคำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อาณาจักร 200 ล้าน ‘คุณนายกรมการข้าว’ คนซ้อนแผนจับศรีสุวรรณ https://thestandard.co/tim-a-farmers-son-rice-department/ Tue, 06 Feb 2024 00:30:57 +0000 https://thestandard.co/?p=896378 ติ๋ม ลูกชาวนา

ธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร ภรรยาของ ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อ […]

The post อาณาจักร 200 ล้าน ‘คุณนายกรมการข้าว’ คนซ้อนแผนจับศรีสุวรรณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ติ๋ม ลูกชาวนา

ธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร ภรรยาของ ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ซึ่งเป็นที่รู้จักในฉายา คุณนายกรมการข้าว เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ถือว่ามีบทบาทอย่างมากในคดี ‘รีดทรัพย์’ ของขบวนการนักร้อง 

 

เพราะเธอเป็นผู้ที่ซ้อนแผนการส่งมอบเงินให้ ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จนนำไปสู่การจับกุมของเจ้าหน้าที่และขยายผลหาเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลัง

 

วันนี้ THE STANDARD ชวนทำความรู้จักคุณนายกรมการข้าว หรือ ติ๋ม ลูกชาวนา ผ่านโมเดลฟาร์มเลี้ยงสัตว์จังหวัดลพบุรี มูลค่า 235 ล้านบาท

 

 

 

ห้างหุ้นส่วนจำกัดทุกแห่งอยู่ในสถานะ ‘ยังดำเนินกิจการอยู่’ ปรากฏชื่อ ธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร เป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของทุกกิจการ โดยที่ตั้งของทุกแห่งอยู่ที่จังหวัดลพบุรี

 

ลูกชาวนา ฟาร์ม จดทะเบียนจัดตั้งเป็นที่แรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 และที่จดทะเบียนล่าสุดคือ ลูกชาวนา ฟาร์ม (9) เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563

 

จากข้อมูลปรากฏว่าในส่วนกำไร (ขาดทุน) ตามการส่งงบการเงินของปี 2565

  • ลูกชาวนา ฟาร์ม (4) ที่ประกอบธุรกิจเลี้ยงสัตว์ มีกำไรมากสุดคือ 3,595,959.90 บาท
  • ลูกชาวนา ฟาร์ม (7) ที่ประกอบธุรกิจสนับสนุนการเลี้ยงสัตว์ มีกำไรน้อยสุดคือ 10,620.66 บาท
  • ลูกชาวนา ฟาร์ม (2) ที่ประกอบธุรกิจสนับสนุนการเลี้ยงสัตว์ มีตัวเลขติดลบอยู่ที่ -8,112,878.02 บาท

 

สำหรับข้อมูลทุนจดทะเบียนเป็นข้อมูลล่าสุดของนิติบุคคล ส่วนประเภทธุรกิจคือการอ้างอิงจากประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด

The post อาณาจักร 200 ล้าน ‘คุณนายกรมการข้าว’ คนซ้อนแผนจับศรีสุวรรณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
งบจัดซื้อจัดจ้างมากที่สุด ‘กรมการข้าว’ ยุคอธิบดีไฟต์ศรีสุวรรณ https://thestandard.co/rice-thailand-highest-purchase-budget/ Mon, 05 Feb 2024 09:09:06 +0000 https://thestandard.co/?p=896224 กรมการข้าว

THE STANDARD ชวนพิจารณาข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของกรมการ […]

The post งบจัดซื้อจัดจ้างมากที่สุด ‘กรมการข้าว’ ยุคอธิบดีไฟต์ศรีสุวรรณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
กรมการข้าว

THE STANDARD ชวนพิจารณาข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของกรมการข้าว หน่วยงานระดับกรมในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ภายใต้การบริหารงานของ ‘ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์’ ผู้ที่ออกมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกร้องสอบปมทุจริตคอร์รัปชันจากขบวนการนักร้อง-นักรีด

 

ทั้งนี้การอ้างอิงช่วงเวลาการดำรงตำแหน่ง ‘อธิบดีกรมการข้าว’ มาจากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 โดยให้ตำแหน่งมีผลตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565

 

กรมการข้าว

 

ภาพประกอบ: กันยกร กาญจนวิไล

The post งบจัดซื้อจัดจ้างมากที่สุด ‘กรมการข้าว’ ยุคอธิบดีไฟต์ศรีสุวรรณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: เจาะขบวนการ ‘ศรี’ มีไม้เอกเป็นคนคุม ตบทรัพย์เกือบ 100 ล้าน? | THE STANDARD https://thestandard.co/thestandardnow020267-2/ Fri, 02 Feb 2024 16:37:23 +0000 https://thestandard.co/?p=895480

เจาะขบวนการ ‘ศรี’ มีไม้เอกเป็นคนคุม ตบทรัพย์เกือบ 100 ล […]

The post ชมคลิป: เจาะขบวนการ ‘ศรี’ มีไม้เอกเป็นคนคุม ตบทรัพย์เกือบ 100 ล้าน? | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.

]]>

เจาะขบวนการ ‘ศรี’ มีไม้เอกเป็นคนคุม ตบทรัพย์เกือบ 100 ล้าน?

 

 

The post ชมคลิป: เจาะขบวนการ ‘ศรี’ มีไม้เอกเป็นคนคุม ตบทรัพย์เกือบ 100 ล้าน? | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.

]]>