วันนี้ (6 มิถุนายน) เมื่อเวลา 10.00 น. เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหลักฐานที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ยังคงติดตามการตรวจสอบ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยวันนี้ถือเป็นการมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมครั้งที่ 7 และจากการติดตามมีประเด็นที่ต้องเอามาให้ กกต. เข้าสำนวน คือกรณีที่ ITV เลิกกิจการแล้วหรือไม่ อย่างไร หากย้อนไปปี 2550 ได้มีข้อพิพาทกัน ซึ่งตอนนั้นคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการบอกว่า การบอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานกับ ITV ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ชอบด้วยกฎหมาย ต่อมา ITV ได้ฟ้องกลับจนอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่าการถูกเลิกสัญญาร่วมงานไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบว่าสัญญาร่วมงานยังถือว่ามีผลอยู่หรือไม่ 

ส่วนกรณีที่ตนจะยื่นคำร้องเพิ่มในวันนี้คือที่มีข่าวว่าพิธาขายหุ้น ITV ไปแล้ว แต่ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน ซึ่งตนมั่นใจว่าในวันรับสมัครเลือกตั้ง พิธายังถือหุ้นสื่ออยู่แน่นอน จึงอยากให้ กกต. สอบถามไปยังบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่าพิธายังถือหุ้น ITV หรือไม่ หรือมีการโอนหุ้นด้วยวิธีใด พร้อมเรียกร้องให้พิธาตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และขอให้แสดงหลักฐานโดยไม่ต้องรอให้ กกต. รับรองคำร้องของตน หรือรอให้ กกต. เรียกมาสอบถาม หากเรื่องนี้ถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้วตัดสินว่าพิธาถือหุ้นสื่อจริง จะถูกตัดสิทธิการเป็น ส.ส. และถูกตัดสิทธิบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี

ต่อมาเวลา 10.30 น. ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วย วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์เสื้อแดง เดินทางมาเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อคัดค้านคำร้องของเรืองไกร และคำร้องของบุคคลอื่น กรณีที่มีการร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อของพิธา 

โดยภัทรพงศ์ระบุว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตราที่ 98 (3) และมาตรา 42 (3) เพื่อไม่ให้ผู้สมัคร ส.ส. ที่ถือหุ้นสื่อ ใช้ประโยชน์ในการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง และสัดส่วนหุ้นที่พิธาถืออยู่จำนวน 42,000 หุ้น เป็นสัดส่วนที่น้อยและไม่ได้มีอำนาจในการสั่งการใดๆ ในการให้นำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อประโยชน์ทางการเมือง 

พร้อมกันนี้ตนเองยังตั้งข้อสังเกตว่าบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ได้หยุดประกอบกิจการไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2550 ตามคำสั่งของ สปน. วันนี้จึงมาร้อง กกต. เพื่อหวังให้ กกต. ตีตกคำร้องของเรืองไกร เช่นเดียวกับการตีตกคำร้องของศรีสุวรรณ ที่ร้องเรียนเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยไปก่อนหน้านี้ และหวังว่า กกต. จะนำเรื่องนี้มาพิจารณาโดยไม่ได้มีผลประโยชน์ส่วนตัวและไม่มีเกมทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

The post เลือกตั้ง 2566 : เรืองไกรยื่น กกต. ครั้งที่ 7 ปมพิธาถือหุ้น ITV ด้านทนายอั๋น-ลุงศักดิ์ ยื่นค้าน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (22 พฤษภาคม) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วย วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์เสื้อแดง เข้ายื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อคัดค้านการร้องเรียนของ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กรณีที่ศรีสุวรรณเคยร้องเรียนให้ กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อนำสู่การยุบพรรคก้าวไกลและพรรคที่มาร่วมรัฐบาล

ภัทรพงศ์กล่าวว่า การมายื่น กกต. ในวันนี้เพื่อคัดค้านคำร้องในทุกเรื่องที่ศรีสุวรรณยื่นร้องต่อ กกต. เพื่อให้ดำเนินการยุบพรรคก้าวไกล รวมถึง 6 พรรคการเมือง โดยศรีสุวรรณได้ตั้งประเด็นว่า มีบุคคลนอกมาร่วมรับประทานอาหารกับพรรคก้าวไกลและพรรคการเมืองพันธมิตรกับก้าวไกล ว่าอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมือง ในประเด็นการปล่อยให้บุคคลนอกครอบงำพรรค

ทั้งนี้ ในฐานะพลเมืองไม่อยากให้ประเทศเดินหน้าแบบไม่ปกติและมีการเล่นเกมการเมือง จึงขอให้ กกต. พิจารณาคำร้องของศรีสุวรรณด้วยความโปร่งใส โดยไม่มีเกมการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว และขอให้ระงับคำร้องของศรีสุวรรณทั้งหมด เพราะส่อทำให้ประเทศชาติเสียหาย

พร้อมฝากคำถามถึงศรีสุวรรณว่าทำเพื่ออะไร ที่ร้องมาทั้งหมดได้อะไร มีใครสั่งมาหรือไม่ พร้อมมองว่าต้นตอของปัญหาความวุ่นวายทั้งหมดเกิดจากศรีสุวรรณมากกว่า

ด้านวีรวิชญ์กล่าวว่า วันนี้ตนไม่ได้มาในนามของลุงศักดิ์เสื้อแดงที่เคยต่อยศรีสุวรรณ แต่วันนี้ตนต้องการให้มีประชาธิปไตยที่รอมา 9 ปี ตนจึงต้องการขอความอนุเคราะห์ ขอวุฒิสภา และ กกต. ให้ยึดหลักประชามติเสียงข้างมากของประชาชน เพราะเรารอวันนี้มากว่า 8 ปีแล้ว ควรให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาบริหารประเทศ

สำหรับเรื่องของตนกับศรีสุวรรณ หลังจากเกิดเหตุที่ตนต่อยศรีสุวรรณไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนและทนายอั๋นได้คุยกันว่าสาเหตุในวันนั้นไม่ได้เกิดจากที่ตนไปชกศรีสุวรรณ เพราะมันคือปลายเหตุ ซึ่งตนได้ติดต่อพูดคุยกับศรีสุวรรณแล้ว เพราะตนเป็นคนที่มีวุฒิภาวะพอ และไม่อยากจะให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคมอีก

The post ทนายอั๋น พร้อมลุงศักดิ์เสื้อแดง ยื่น กกต. คัดค้านคำร้องศรีสุวรรณ กรณีขอให้ยุบพรรคก้าวไกล appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (11 พฤษภาคม) ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนหนึ่งที่ก่อเหตุเข้ามาชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บที่ปาก หลังจากตนยื่นเรื่องร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ศรีสุวรรณกล่าวว่า ได้ลงบันทึกประจำวันและแจ้งความดำเนินคดีอาญากับชายคนดังกล่าว ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 โดยหลังจากนี้จะไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและจะนำใบรับรองแพทย์มามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดี

สำหรับเหตุการณ์นี้ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเป็นครั้งที่ 2 ที่ผ่านมาการร้องเรียนให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบเรื่องต่างๆ ล้วนเป็นสิทธิของบุคคลทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงาน กกต. ก็มีทั้งประชาชนและนักการเมืองมาร้องเรียนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการทำร้ายร่างกายผู้อื่นในสถานที่ราชการถือว่าไม่เคารพสิทธิของบุคคลอื่น ส่วนตัวก็กลัวว่าจะมีการก่อเหตุไปมากกว่านี้ แต่หลังจากนี้ก็เตรียมจัดทีมรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น

ศรีสุวรรณกล่าวต่ออีกว่า สำหรับผู้ก่อเหตุ ที่ผ่านมาเคยเห็นเดินทางไปตามสถานที่ที่ร้องเรียนอื่นๆ มาแล้วหลายครั้ง โดยขอเข้ามาถ่ายรูปคล้ายกับผู้สื่อข่าว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว

ส่วนคดีก่อนหน้านี้ที่ถูก วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ เข้ามาชกที่ใบหน้าขณะร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ศาลได้เรียกคู่ความมาตกลงค่าเสียหายทางแพ่งแล้ว โดยที่ตนเรียกร้องค่าเสียหายไป 1 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่กระทบความรู้สึก และเป็นบุคคลที่ประชาชนรู้จัก ซึ่งมาก่อเหตุต่อหน้าสื่อมวลชนถือว่าเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม

แต่คดีนี้วีรวิชญ์ยังไม่ยินยอมจ่ายค่าเสียหายตามข้อตกลง พร้อมระบุว่าจะไม่ยินยอมจ่ายค่าเสียหาย ซึ่งตนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยที่ไม่ยอมความ

สำหรับคดีนี้ต้องดูรายละเอียดด้านความเสียหายก่อน แต่เบื้องต้นคาดว่าจะตั้งไว้ที่ 1 ล้านบาทเช่นกัน พร้อมทั้งไม่ต้องการคำขอโทษจากผู้ก่อเหตุ และขอดำเนินคดีในชั้นศาลเท่านั้น

ศรีสุวรรณกล่าวด้วยว่า จากนี้ก็จะเดินหน้าร้องเรียนต่อโดยที่ไม่หมดกำลังใจ เนื่องจากเป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถทำได้

The post ศรีสุวรรณไม่รับคำขอโทษชายชกหน้าที่ กกต. เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท จากนี้เตรียมชุดรักษาความปลอดภัยติดตาม appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่ศาลเเขวงพระนครเหนือ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธิน ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องครั้งที่ 1 วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 296 

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถนนพหลโยธิน โดยผู้ต้องหาได้ทำการชกต่อยและเตะ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ผู้กล่าวหา ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้กล่าวหาได้เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ 

โดยศาลแขวงพระนครเหนืออนุญาตผัดฟ้องตามคำร้องเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565

The post ศาลเเขวงพระนครเหนือ อนุญาตผัดฟ้อง ‘ลุงศักดิ์’ คดีทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรอง กรณีชก ‘ศรีสุวรรณ’ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่ศาลแขวงดุสิต พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดุสิต นำตัว ลุงศักดิ์-วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล อายุ 62 ปี ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องต่อศาลครั้งแรก โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเวลา 15.20 น. ของวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ผู้ต้องหาถูกจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวนในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 

พฤติการณ์แห่งคดีเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ได้มีกลุ่มสหภาพแรงงานไทรอัมพ์เดินทางมาบริเวณสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ขณะนั้น เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหาย ได้เชิญตัวแทนของกลุ่มสหภาพเข้าประชุม วีรวิชญ์ได้ตะโกนเรียกผู้กล่าวหาและได้ชกต่อยผู้เสียหายจำนวนหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ แล้วหลบหนีไป 

ต่อมาวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบผู้ต้องหาที่อาคารมาลีนนท์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงหมายจับของศาลแขวงที่ 185/2564 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจริงและไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน จึงแจ้งข้อหาให้ทราบ จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี การกระทำของผู้ต้องหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

โดยศาลแขวงดุสิตอนุญาตผัดฟ้องเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องที่ยื่นวันนี้เป็นการขอผัดฟ้องเท่านั้น ไม่ได้ยื่นฝากขัง จึงไม่มีกระบวนการควบคุม ไม่ต้องยื่นประกันตัว

The post ศาลแขวงดุสิตอนุญาตผัดฟ้อง ‘ลุงศักดิ์’ คดีชกแรมโบ้อีสานเมื่อปี 64 appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (19 ตุลาคม) ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธิน วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จากกรณีทำร้ายร่างกาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา

หลังจากการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ภัทรพงศ์ ศุภักษร ทนายความ กล่าวว่า วีรวิชญ์เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ และข้อหาทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ซึ่งวีรวิชญ์ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา และตอนนี้คดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และขอให้ว่าไปตามกระบวนการ ส่วนรายละเอียดเรื่องการได้รับบาดเจ็บของศรีสุวรรณ ต้องรอใบรับรองแพทย์โดยละเอียด

ด้านวีรวิชญ์กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่ศรีสุวรรณไปร้องดำเนินคดีกับ อุดม แต้พานิช ในการแสดงทอล์กโชว์ เดี่ยว 13 นั้นว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ จะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยก ทั้งนี้ ต้นเหตุของความขัดแย้งไม่ใช่เกิดจากใคร แต่เกิดจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

วีรวิชญ์กล่าวถึงศรีสุวรรณว่า ไปสู้กันตามกระบวนการของกฎหมาย

พร้อมโชว์ร่องรอยบาดแผลบริเวณแขนขวา ที่คาดว่าเกิดจากรอยเล็บที่มาจากการชกต่อยกับศรีสุวรรณ ซึ่งวีรวิชญ์กล่าวว่า จะใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดี ส่วนตัวมองว่าเป็นการทะเลาะวิวาทปกติ

วีรวิชญ์กล่าวต่ออีกว่า การชกต่อยกับศรีสุวรรณ ตนเองต้องการเพียงแค่สั่งสอน ไม่ได้มีเจตนาทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหากจะทำให้ได้รับบาดเจ็บตนก็สามารถทำได้ แต่ไม่ทำ เพราะไม่ได้อาฆาตอะไร และเมื่อกระทำเสร็จ ถูกดำเนินคดี ตนเองก็เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เพราะตนก็ไม่นิยมความรุนแรง

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้นัดหมายให้วีรวิชญ์รายงานตัวและเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้

The post ‘ลุงศักดิ์’ ปฏิเสธทุกข้อหา คดีทำร้าย ‘ศรีสุวรรณ’ แจงเป็นการทะเลาะปกติ พร้อมสู้ตามกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (19 ตุลาคม) พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีทำร้ายร่างกาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา 

พล.ต.ต. อาชยนกล่าวว่า ภายหลังตำรวจได้ควบคุมตัว วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ ตามหมายจับเก่าคดีทำร้ายร่างกาย เสกสกล อัตถาวงศ์ และยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดุสิต แล้ว จากนั้นวีรวิชญ์ได้มารับทราบข้อกล่าวหากรณีทำร้ายร่างกาย ศรีสุวรรณ จรรยา ที่ สน.พหลโยธิน 

ทางพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการในวันศุกร์นี้ (21 ตุลาคม) เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต. อาชยนกล่าวต่อไปว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับการดำเนินคดีให้ตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ขณะเดียวกันได้กำชับหน่วยเพิ่มความเข้มมาตรการไม่ให้เกิดความรุนแรงในสถานที่ราชการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์พฤติกรรมเลียนแบบขึ้นอีก

ทั้งนี้ มีรายงานว่าหมายจับของวีรวิชญ์ที่มีค้างเก่าอีก 1 หมาย เป็นหมายจับในคดีเกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีไปปราศรัยโจมตี เสกสกล อัตถาวงศ์ ขณะนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยมีการมาแจ้งความไว้และออกหมายจับเมื่อเดือนมกราคม 2565

The post ตำรวจนัดส่งฟ้องอัยการ คดีลุงศักดิ์ชกศรีสุวรรณ ศุกร์นี้ เฝ้าระวังการใช้ความรุนแรงในสถานที่ราชการ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (19 ตุลาคม) ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดุสิตภายหลังที่ตำรวจควบคุมตัว วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ศักดิ์ อายุ 62 ปี ตามหมายจับคดีทำร้ายร่างกาย แรมโบ้อีสาน-เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 

ภายหลังได้รับการประกันตัว วีรวิชญ์กล่าวว่า ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ในวันนี้ จากที่ได้มาพบตำรวจมีสิ่งที่เซอร์ไพรส์หลายเรื่องที่ประชาชนต้องคาดไม่ถึง ทั้งเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เกิดขึ้นคือเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ได้รับหมายจับจาก สน.ดุสิต ไปเชิญตัวจากสถานีโทรทัศน์มาบันทึกการจับกุม

และอีกประเด็นคือตนมีหมายจับจากปี 2564 ที่จังหวัดกระบี่ และมีกรอบเวลาว่าจะต้องเดินทางไปรายงานตัวภายในสัปดาห์นี้ เมื่อได้ทราบเรื่องทั้งหมด ตนจึงอยากถามกลับไปว่าการที่ใช้ความรุนแรงนั้น ทำไมตนโดนกลั่นแกล้งมาตลอด

วีรวิชญ์กล่าวต่อไปว่า ยังไม่ทราบว่าปี 2564 เป็นคดีอะไร แต่มีหมายจับออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ตนยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ว่าในสัปดาห์นี้จะเดินทางไปรับทราบคดีดังกล่าวแน่นอน

สำหรับคดีการทำร้ายเสกสกลที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม วันต่อมาวันที่ 20 ตุลาคมตนได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไปลงบันทึกประจำวันเพื่อมอบตัว หากกรณีฝ่ายตรงข้ามจะดำเนินคดี แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เลย จนกระทั่งเจอเหตุการณ์ของ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่เกิดขึ้นวานนี้ (18 ตุลาคม) หมายของเสกสกลจึงกลับมา

วีรวิชญ์กล่าวว่า เรื่องการใช้ความรุนแรงตนไม่ได้ชอบ แต่บางครั้งก็ต้องเกิดขึ้นบ้างเป็นการอบรมสั่งสอน แต่ไม่อยากให้มีการเลียนแบบเพราะเรื่องแบบนี้คนจะทำต้องมีกึ๋น

ในส่วนประเด็นยอดเงินบริจาคมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท จากการรายงานของสื่อสำนักหนึ่ง วีรวิชญ์ถามกลับว่าสื่อไหนเป็นผู้รายงาน และนำข้อมูลนี้มาจากไหน ตนไม่ได้หากินกับเรื่องแบบนี้ พี่น้องประชาชนที่มาช่วยไม่ได้ช่วยเหลือเป็นจำนวนมากขนาดนั้น และหลังเสร็จสิ้นจากกระบวนการทุกอย่างเรียบร้อยจะมีการเปิดเผยในส่วนของยอดบัญชีต่อไป

หลังจากนี้ถ้ามีการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับตนอีก ตนจะดำเนินคดีกลับกับผู้ที่ให้ข้อมูล และถ้ามีใครต้องการดูตัวเลขยอดบริจาคก็ให้มาดูตรวจสอบได้ และสำหรับจุดประสงค์ในการเปิดบัญชี เปิดรับมาตั้งแต่เริ่มทำช่องทางเผยแพร่ส่วนตัวแล้ว

ด้าน ณัฐพล คุ้มวงศ์สกุล ทนายความ กล่าวว่า วันนี้มีการประกันในส่วนของคดีความที่ สน.ดุสิต 40,000 บาท เงินจำนวนนี้เป็นเงินส่วนตัว แต่ในส่วน สน.พหลโยธิน จะเป็นการรายงานตัวเท่านั้น เบื้องต้นไม่มีการพูดคุยเรื่องเงินบริจาค เพราะตนทำคดีความเท่านั้น

The post ‘ลุงศักดิ์’ โดนหมายจับอีก 1 คดี ถามกลับทำไมโดนกลั่นแกล้ง ยันยอดเงินบริจาคไม่ถึง 6 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

สด ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว ‘ลุงศักดิ์’ มาสอบปากคำในหมายจับเก่าคดีทำร้ายร่างกายแรมโบ้

The post ชมคลิป: สด ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว ‘ลุงศักดิ์’ มาสอบปากคำในหมายจับเก่าคดีทำร้ายร่างกายแรมโบ้ | THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (19 ตุลาคม) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่กองบังคับการปราบปราม ตำรวจควบคุมตัว วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ อายุ 62 ปี ผู้ก่อเหตุทำร้าย ​ศรี​สุวรรณ​ จรรยา​ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มาถึงที่กองบังคับการปราบปราม โดยทันทีที่มาถึง ตำรวจได้คุมตัวขึ้นไปด้านบนชั้น 2 เพื่อสอบปากคำทันที โดยวีรวิชญ์มีสีหน้ายิ้มแย้ม และได้โบกมือทักทายสื่อมวลชน รวมถึงเพื่อนยูทูเบอร์ที่มารอให้กำลังใจ ทั้งนี้ เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง วีรวิชญ์ตอบสั้นๆ ว่า ก็โอเค เจ้าหน้าที่เขาทำตามหน้าที่ 

ขณะที่ผู้ติดตามของวีรวิชญ์กล่าวว่า ตอนที่ตำรวจเข้าไปจับกุม มีตำรวจเข้ามากันประมาณ 6 คน โดยไม่ได้ให้ดูหมายจับใดๆ ให้ดูเพียงแค่รูปภาพจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตนมองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะเป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่ฆ่าคนตาย และยังไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน 

ขณะที่เพื่อนที่มารอให้กำลังใจกล่าวว่า ตั้งใจมารอให้กำลังใจวีรวิชญ์ เพราะรู้ว่าจะเข้ามามอบตัวอยู่แล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ต้องบุกไปจับกุม ส่วนเรื่องบัญชีที่เปิดรับบริจาค เท่าที่รู้คือวีรวิชญ์ไม่ได้เปิดเอง แต่มีคนเปิดให้ ส่วนยอดบริจาคเมื่อวาน คาดว่าได้ประมาณ 2-3 แสนบาท จะนำไปต่อสู้คดีความ แต่คิดว่าคงไม่พอ เพราะมีคดีเล็กคดีน้อยเยอะ

ด้าน พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามหมายจับค้างเก่าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามตรวจพบ จึงต้องนำกำลังไปจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะลงบันทึกจับกุมที่กองบังคับการปราบปราม และอาจนำตัวไปส่งให้สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พื้นที่ที่เกิดเหตุคือ สน.ดุสิต หรืออาจประสานให้ตำรวจ สน.ดุสิต มารับตัวที่กองบังคับการปราบปราม 

ส่วนขั้นตอนการดำเนินการภายหลังจากถึงที่ สน.ดุสิต แล้ว ตามขั้นตอนพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต จะแจ้งข้อกล่าวหา และจะพิจารณาว่าจะควบคุมตัวไว้หรือจะส่งอัยการและศาลตามขั้นตอนภายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้

“ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งผู้ต้องหาแต่อย่างใด แต่เมื่อตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ ณ จุดใด ก็ต้องนำกำลังไปควบคุมตัว ซึ่งที่ผ่านมากองบังคับการปราบปรามก็จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่ามาหลายคดีแล้ว หากทราบว่าอยู่ ณ ที่ใด ก็พร้อมไปเข้าจับกุมทันที” พ.ต.อ. เอนกกล่าว

The post คุมตัว ‘ลุงศักดิ์’ ถึงกองปราบ ตำรวจเผยคุมตัวตามหมายค้างเก่า ไม่มีกลั่นแกล้ง appeared first on THE STANDARD.