วสวรรธน์ พวงพรศรี – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 08 Aug 2025 07:02:35 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 วสวรรธน์เรียกร้องรองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี เร่งเบิกงบเยียวยาฟื้นฟูให้ชาวบ้านศูนย์อพยพ-สร้างบังเกอร์ เหตุเริ่มขาดแคลน https://thestandard.co/wasawat-urgent-budget-release/ Fri, 08 Aug 2025 03:20:16 +0000 https://thestandard.co/?p=1105094 wasawat-urgent-budget-release

วันนี้ (8 สิงหาคม) วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพล […]

The post วสวรรธน์เรียกร้องรองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี เร่งเบิกงบเยียวยาฟื้นฟูให้ชาวบ้านศูนย์อพยพ-สร้างบังเกอร์ เหตุเริ่มขาดแคลน appeared first on THE STANDARD.

]]>
wasawat-urgent-budget-release

วันนี้ (8 สิงหาคม) วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง เรียกร้องให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณในภาวะฉุกเฉินเพื่อเยียวยาฟื้นฟู รวมถึงช่วยเหลือศูนย์อพยพในพื้นที่ชายแดนที่กำลังจะเผชิญวิกฤต ทั้งด้านอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค และความปลอดภัยของผู้พักพิง

 

“ตอนนี้ของบริจาคเริ่มลดลง ขณะที่จำนวนผู้หนีภัยยังลดลงและทรงตัวต่อเนื่อง ผมได้รับแจ้งจากพื้นที่หลายแห่งว่าอาหารสด นมผงสำหรับเด็ก เครื่องใช้จำเป็นเริ่มขาดแคลน และที่น่ากังวลไม่แพ้กันคือเงินฟื้นฟูเยียวยาพี่น้องที่พักพิงในศูนย์เพราะขาดรายได้” วสวรรธน์กล่าว

 

ถึงแม้ว่าการเจรจาจะไปในทิศทางที่ดี แต่ยังไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนที่ยังมีความไม่แน่นอนด้านความมั่นคง เพื่อให้ประชาชนลดความหวาดกลัว

จึงเสนอให้มีการใช้งบประมาณเพื่อจัดสร้าง บังเกอร์ หรือที่หลบภัยชั่วคราวตามหมู่บ้านของผู้อพยพให้เพียงพอ เพราะบางแห่งก็ไม่มีเลย เพื่อเสริมความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยสามารถใช้งบตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยและหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0808.2/ว2135 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ซึ่งระบุชัดว่าสามารถใช้งบเพื่อ

 

  1. ก่อสร้าง หรือปรับปรุงสิ่งก่อสร้าง เพื่อใช้เป็นศูนย์ ที่ปลอดภัย

 

  1. ปรับปรุงพื้นที่ หรือสร้างแนวบังเกอร์ ให้กับผู้อพยพในพื้นที่เสี่ยงภัยหรือใกล้เขตความไม่สงบ

 

  1. จัดหาวัสดุ เครื่องมือ เครื่องใช้ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยขั้นต้นของผู้พักพิง เช่น อุปกรณ์สื่อสาร ไฟฉาย แผงพลังงานแสงอาทิตย์ฉุกเฉิน ฯลฯ

      

  1. ฟื้นฟูเยียวยาบ้านที่เสียหาย อุปกรณ์การเกษตร พืชสวนไร่นา 

 

“นี่คือภาวะยังไม่นิ่ง ความทุกข์ของประชาชนยังมีอยู่และควรเร่งด่วน อย่าปล่อยให้ข้าราชการมัวแต่กลัวผิดระเบียบ  กลับบ้านไปยังไม่มีบังเกอร์เพียงพอ เงินชดเชยเยียวยาฟื้นฟูก็ยังไม่ได้ เงินจ่ายค่าไฟฟ้า จ่ายดอกเบี้ยธนาคารสิ้นเดือนก็ยังไม่มีเพราะขาดรายได้” วสวรรธน์กล่าว

The post วสวรรธน์เรียกร้องรองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี เร่งเบิกงบเยียวยาฟื้นฟูให้ชาวบ้านศูนย์อพยพ-สร้างบังเกอร์ เหตุเริ่มขาดแคลน appeared first on THE STANDARD.

]]>
หัวหน้าพรรคไทรวมพลังเยี่ยมอาสาสมัครและผู้นำชุมชนน้ำยืนหลังอพยพ วอนรัฐจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนสู่ชายแดน https://thestandard.co/trp-leader-visits-nam-yuen/ Fri, 25 Jul 2025 03:48:05 +0000 https://thestandard.co/?p=1099696

วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ว […]

The post หัวหน้าพรรคไทรวมพลังเยี่ยมอาสาสมัครและผู้นำชุมชนน้ำยืนหลังอพยพ วอนรัฐจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนสู่ชายแดน appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี วสวรรธน์ พวงพรศรี หรือ ‘กังฟู’ หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง พร้อมด้วย สมศักดิ์ บุญประชม สส. อุบลราชธานี พรรคไทรวมพลัง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนอาสาสมัครชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และผู้นำชุมชนในหมู่บ้านต่างๆ ทั่วพื้นที่ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ใกล้แนวชายแดน ได้อพยพประชาชนออกไปมากกว่า 80% แล้ว ยังคงเหลือเพียงบรรดาผู้นำหมู่บ้าน และอาสาสมัครที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของทรัพย์สินชาวบ้าน

 

วสวรรธน์ระบุว่า กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้เป็นบุคคลสำคัญที่ทำหน้าที่เพื่อสนับสนุนเหล่าทหารแนวหน้าที่กำลังต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติอย่างไม่ต้องกังวลข้างหลัง เป็นกลุ่มคนที่น่าชื่นชม เพราะทำงานด้วยจิตอาสาและต้องเสียสละตัวเองอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง โดยทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มผู้ชายหัวหน้าครอบครัวที่จะอาศัยอยู่เพื่อดูแลชุมชนของตัวเอง

 

“ขอให้พี่น้องที่พักอยู่ในศูนย์อพยพในอำเภอเดชอุดม ได้นอนหลับสนิทอย่างไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวลเรื่องบ้านและทรัพย์สิน เพราะทางเจ้าหน้าที่และผู้นำท้องถิ่น ชรบ. ได้ร่วมกันเฝ้าระวังและสอดส่องดูแลอย่างเต็มกำลัง” วสวรรธน์ระบุ

 

วสวรรธน์กล่าวว่า อยากฝากถึงรัฐบาลได้ช่วยจัดสรรงบประมาณอย่างเร่งด่วนมายังแนวหน้าพื้นที่ชายแดน ให้งบประมาณมาลงถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงจะเกิดการกระจายมาสู่ผู้ปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ในตอนนี้ยังคงต้องการการสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค เตาจุดไฟอย่างง่ายเพื่อชงกาแฟ และอาหารแห้ง สำหรับให้พี่น้องทหารและอาสาสมัครที่อยู่แถวหน้า ซึ่งหากประชาชนต้องการจะช่วยบริจาคสามารถส่งสิ่งของมาได้ที่ อบต.โดมประดิษฐ์ หรือเทศบาลตำบลโซง

The post หัวหน้าพรรคไทรวมพลังเยี่ยมอาสาสมัครและผู้นำชุมชนน้ำยืนหลังอพยพ วอนรัฐจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนสู่ชายแดน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กังฟู วสวรรธน์ นำทีมชาวอุบลราชธานีมอบกำลังใจทหารชายแดนไทย-กัมพูชา https://thestandard.co/wasawat-leads-support-for-border-soldiers/ Sat, 07 Jun 2025 11:23:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1082807 กังฟู วสวรรธน์

วันนี้ (7 มิถุนายน) วสวรรธน์ พวงพรศรี หรือ กังฟู หัวหน้ […]

The post กังฟู วสวรรธน์ นำทีมชาวอุบลราชธานีมอบกำลังใจทหารชายแดนไทย-กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>
กังฟู วสวรรธน์

วันนี้ (7 มิถุนายน) วสวรรธน์ พวงพรศรี หรือ กังฟู หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง พร้อมด้วย สมศักดิ์ บุญประชม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อุบลราชธานี พรรคไทรวมพลัง ได้นำคณะประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี เข้ามอบสิ่งของสนับสนุนแก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

 

โดยมี พ.อ. จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และ พ.อ. สุรกิจ กาฬเนตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี เป็นผู้รับมอบ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

 

พ.อ. จิรัฏฐ์ ได้กล่าวขอบคุณในนามของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่กองกำลังสุรนารี โดยระบุว่า “ขอขอบคุณน้ำใจจากแนวหลังของพี่น้องประชาชนที่มีความปรารถนาดีกับพวกเรา เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถือเป็นกำลังใจที่สำคัญที่มาเติมเต็มให้กับพวกเรา”

 

ด้านวสวรรธน์เปิดเผยว่า การมอบสิ่งของในวันนี้เป็นการแสดงออกถึงน้ำใจของชาวอีสาน โดยได้รับทราบว่าในพื้นที่ยังคงมีความต้องการสิ่งของจำเป็นเพิ่มเติม เช่น ยากันยุงชนิดทา และผ้าเต็นท์ขนาด 5 x 6 เมตร เนื่องจากมีกำลังพลเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพิ่มขึ้นตามคำสั่งจากส่วนกลาง

 

นอกจากนี้ กลุ่มครูเกษียณและชาวบ้านจากอำเภอเดชอุดมและอำเภอพิบูลมังสาหาร ซึ่งร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ ได้เปิดเผยว่าได้นำสิ่งของหลากหลายชนิดมามอบให้เจ้าหน้าที่ทหาร ได้แก่ น้ำดื่ม, ข้าวเหนียวเนื้อทอด, กาแฟ, ยากันยุง และสิ่งของอื่นๆ

 

โดยทุกคนต่างมีความปรารถนาที่จะสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ

The post กังฟู วสวรรธน์ นำทีมชาวอุบลราชธานีมอบกำลังใจทหารชายแดนไทย-กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘เพื่อไทรวมพลัง’ เปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไทรวมพลัง’ ชูจุดยืนเสรีก้าวหน้าสายกลาง เน้นนโยบายคนรุ่นใหม่ กระจายอำนาจ พัฒนาท้องถิ่น https://thestandard.co/pue-thai-rumphlang-to-thai-rumphlang/ Sat, 20 Apr 2024 08:23:18 +0000 https://thestandard.co/?p=924926 ไทรวมพลัง

วันนี้ (20 เมษายน) ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อ […]

The post ‘เพื่อไทรวมพลัง’ เปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไทรวมพลัง’ ชูจุดยืนเสรีก้าวหน้าสายกลาง เน้นนโยบายคนรุ่นใหม่ กระจายอำนาจ พัฒนาท้องถิ่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไทรวมพลัง

วันนี้ (20 เมษายน) ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทรวมพลัง ครั้งที่ 1/2567 ที่โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานี ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น ‘ไทรวมพลัง’ (ทรพ.) โดยคำว่า ‘ไท’ แปลว่าอิสระหรือเพื่อนที่มาร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง พร้อมเปลี่ยนโลโก้พรรคเป็นตัวอักษร ทร. สีชมพู-ม่วง และประกาศจุดยืนพรรคคือเสรีนิยมก้าวหน้าสายกลาง พรรคแรกของประเทศ ไม่สุดโต่ง และเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ นโยบายยกเว้นภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาที่เริ่มต้นทำงานใหม่ 5 ปี และภาษีธุรกิจสตาร์ทอัพให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสตั้งตัว สร้างครอบครัว รัฐก็สามารถจัดเก็บได้ต่อได้ ทำให้ไม่อยากหลบภาษี เน้นการกระจายอำนาจและไม่ทิ้งประเด็นความต้องการของท้องถิ่น (Think Locally, Act Globally) พร้อมย้ำว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลจะทำงานร่วมกัน 

 

โดยผลการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคยังคงได้ กังฟู-วสวรรธน์ พวงพรศรี เป็นหัวหน้าพรรค, วรเชษฐ เชิดชู เป็นเลขาธิการพรรคเช่นเดิม แต่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค และเป็นกรรมการบริหารพรรคมากขึ้น

 

ด้าน วสวรรธน์ หัวหน้าพรรค กล่าวต่อที่ประชุมว่า นโยบายหลักของพรรคที่จะเร่งผลักดันหลังจากนี้ 5 ข้อคือ ยกเว้นภาษีตั้งตัว 5 ปีสำหรับบุคคลธรรมดาที่เริ่มต้นทำงานใหม่และธุรกิจสตาร์ทอัพ, เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้ใหญ่บ้านมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี, เพิ่มเงินกองทุนฟื้นฟูแก้หนี้เกษตรกรและธนาคารน้ำใต้ดิน, เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาเป็นสภาพลเมืองหรือหุ้นส่วนพัฒนาจังหวัด และสามารถเสนอกฎหมายเข้าสภาโดยไม่ต้องใช้ตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น 

 

ทั้งนี้ วสวรรธน์ชี้แจงว่า เราพร้อมจะทำงานร่วมกับทุกพรรค ก่อนการจัดตั้งรัฐบาล พรรคสนับสนุนที่หนึ่งคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล แต่เมื่อไม่ผ่านติดเงื่อนไข สว. ก็ต้องยกมือเลือกที่สองตามกติกา เพื่อไม่ให้ไปถึงที่สามและที่สี่ตามเสียงของประชาชน กฎหมายไหนที่สำคัญเราพร้อมจะสนับสนุน ไม่เลือกฝ่าย เช่น ร่างแก้ไขกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายอากาศสะอาด หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม เราเป็นพรรคที่ทำการเมืองแบบใหม่และจะค่อยๆ เติบโต ขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนพวกเราต่อไป 

 

จากนั้นให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นเป็นพรรคสาขาของเพื่อไทยหรือไม่ หัวหน้าพรรคไทรวมพลังตอบว่า ไม่ใช่พรรคตัวแทนของใคร และวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าการปรับโฉมใหม่เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ ด้วยแนวคิดเสรีก้าวหน้าสายกลาง ทันสมัย ไม่ฮาร์ดคอร์ พร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรค วันนี้ร่วมรัฐบาลอยู่ก็ต้องขับเคลื่อนนโยบายที่พรรคหาเสียงไว้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ทั้งนี้ยังชี้แจงว่าพรรคไทรวมพลังเกิดมาจากท้องถิ่น แต่ก็อินเตอร์ได้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้มีพื้นที่ได้ส่งเสียงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม พรรคไทรวมพลังไม่ได้ปรับโฉมเพื่อเตรียมต่อสู้กับใคร แต่สู้กับตัวเอง ทำงานให้มากขึ้น ขยันให้มากขึ้น รักษาสัญญาที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เพราะโซเชียลมีเดียเร็ว เราพูดอะไรไว้ก็ต้องทำ

 

อย่างไรก็ตาม วสวรรธน์ย้ำว่าพรรคของตนเป็นคนกลางประสานให้มีการขับเคลื่อนประเทศ พร้อมย้ำว่าทุกพรรคการเมืองออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ หากเอาอคติออกเชื่อว่าทุกคนทำงานด้วยกันได้หมด

 

ทั้งนี้ พรรคไทรวมพลังมี สส. เขต 2 คน ได้แก่ พิมพกาญจน์ พลสมัคร เขต 3 และ สมศักดิ์ บุญประชม เขต 10 มาร่วมกิจกรรม และยังมีตัวแทนจากพรรคก้าวไกล จังหวัดอุบลราชธานี และกลุ่มเพื่อไทยโคราช มาแสดงความยินดี

The post ‘เพื่อไทรวมพลัง’ เปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไทรวมพลัง’ ชูจุดยืนเสรีก้าวหน้าสายกลาง เน้นนโยบายคนรุ่นใหม่ กระจายอำนาจ พัฒนาท้องถิ่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
กังฟู เพื่อไทรวมพลัง คาดประชุม 8 พรรคร่วม 2 ส.ค. นี้ ยันไม่มีคุย-มติให้ก้าวไกลถอยเป็นฝ่ายค้าน 312 เสียงยังมัดกัน https://thestandard.co/meeting-8-coalition-parties-on-aug-2/ Mon, 31 Jul 2023 05:17:31 +0000 https://thestandard.co/?p=823827 วสวรรธน์ พวงพรศรี

วันนี้ (31 กรกฎาคม) วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไ […]

The post กังฟู เพื่อไทรวมพลัง คาดประชุม 8 พรรคร่วม 2 ส.ค. นี้ ยันไม่มีคุย-มติให้ก้าวไกลถอยเป็นฝ่ายค้าน 312 เสียงยังมัดกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
วสวรรธน์ พวงพรศรี

วันนี้ (31 กรกฎาคม) วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง กล่าวถึงความคืบหน้าของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่จะประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมรัฐสภา เพื่อเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้

 

วสวรรธน์กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้มีการนัดหมายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 2 สิงหาคมนี้ โดยในการประชุมคาดว่าจะพูดคุยถึงเรื่องหากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจะรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบให้เสนอชื่อหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซ้ำ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะทำอย่างไรต่อ แนวทางการแก้ไขมาตรา 112 ทางพรรคก้าวไกลว่าอย่างไร 

 

ซึ่งทางพรรคก้าวไกลเขาก็น่าจะทำการบ้านมาแล้ว รวมถึงความคืบหน้าเรื่องการหาเสียงของพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพิ่มเติม เพราะต่างคนต่างไปพูดคุยกันมาแล้วมาหารือกัน

 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าทางพรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย แต่จะถอยไปเป็นฝ่ายค้าน วสวรรธน์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี ยังเป็น 8 พรรค 312 เสียงอยู่ ยังไม่ได้มีการคุยกันว่าก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน มีแต่หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส บอกให้ถอย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ออกมาเป็นมติ 8 พรรคร่วม

 

วสวรรธน์กล่าวต่อว่า การประชุม 8 พรรคร่วมที่ผ่านมาตนก็เสนอว่าให้ไปขอเสียงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา มาพิจารณา ทางพรรคเพื่อไทยก็ได้รับฉันทมติจากอีก 7 พรรคให้ไปคุย 

 

“เราก็ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นพรรคไหน แล้วแต่พรรคเพื่อไทย เราให้เกียรติเขาที่จะไปคุยกับพรรคไหน เราไม่ได้ไปบังคับว่าต้องไปเอาใครมา เขาบอกเราว่าเชิญมาพูดคุยไม่ได้เชิญมาร่วม ไม่ได้อยากให้เอาไปเป็นประเด็นว่าลุงมาด้วยแล้วพรรคก้าวไกลจะไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะ 8 พรรคยังไม่มีมติตรงนี้ 312 ยังต้องมัดกัน เพราะหากแตกกันก็จะไม่มีรัฐบาลจากฝั่งที่ประชาชนคาดหวัง”วสวรรธน์กล่าว

 

เมื่อถามว่าที่ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ติดต่อมา วสวรรธน์ได้ติดต่อสอบถามอะไรไปหรือไม่ เนื่องจากใกล้ถึงวันโหวตแล้ว วสวรรธน์กล่าวว่า เขาคงกำลังประสานกันอยู่ งานเขาก็เยอะ เราก็ไม่ได้ไปเร่งเขา เรารู้อยู่แล้วว่าเวลามีเท่านี้ก็แค่เตรียมตัวเองให้พร้อม และวันนี้จะเดินทางเข้าไปสแตนด์บายที่กรุงเทพฯ

The post กังฟู เพื่อไทรวมพลัง คาดประชุม 8 พรรคร่วม 2 ส.ค. นี้ ยันไม่มีคุย-มติให้ก้าวไกลถอยเป็นฝ่ายค้าน 312 เสียงยังมัดกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
“ไม่มีวันทิ้งก้าวไกล – 8 พรรคร่วมฯ” กังฟู ชี้ 312 เสียงคือทางออก บอกเพื่อไทยเดินเกมเร็ว มินต์ช็อกทำประชาชนช็อก แนะไม่ต้องแก้ไข MOU https://thestandard.co/8-parties-forming-a-government-260766/ Thu, 27 Jul 2023 00:48:46 +0000 https://thestandard.co/?p=822548 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

วานนี้ (26 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้า […]

The post “ไม่มีวันทิ้งก้าวไกล – 8 พรรคร่วมฯ” กังฟู ชี้ 312 เสียงคือทางออก บอกเพื่อไทยเดินเกมเร็ว มินต์ช็อกทำประชาชนช็อก แนะไม่ต้องแก้ไข MOU appeared first on THE STANDARD.

]]>
8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

วานนี้ (26 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ชี้แจงถึงความสัมพันธ์ภายใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า 8 พรรคร่วมฯ เข้าใจดีถึงการเลื่อนประชุมของพรรคเพื่อไทย มีเหตุผลเรื่องความคืบหน้าของการรวมเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะ ส.ว. หลายคนรับปากว่าจะช่วยโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากฝั่ง 8 พรรคร่วมฯ ในครั้งหน้า

 

วสวรรธน์ระบุว่า ตอนนี้ตัวเลข 312 เสียงของ 8 พรรคร่วมฯ คือทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ ยังคงจับมือกันอย่างเหนียวแน่น มีทั้งความหวังและความพยายามเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน

 

“ผมไม่มีวันทิ้งพรรคก้าวไกลและ 8 พรรคร่วมฯ อยู่แล้ว เรายังอยู่ด้วยกัน และไม่อยากให้มีการพูดว่าผลักพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน การทำเช่นนั้นก็เหมือนผลักประชาชนไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะประชาชนเลือกมา 14 ล้านเสียง” วสวรรธน์กล่าว

 

เมื่อถามถึงการปรับ MOU ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย โดยยังอยู่ใน 8 พรรคร่วมฯ เดิมนั้น วสวรรธน์กล่าวว่า ทั้ง 8 พรรคต้องมาระดมสมองว่าจะแก้แบบไหน อย่างไร แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ได้มีความจำเป็นต้องแก้ เพราะเนื้อหายังเป็นแบบเดิม และลงนามไปแล้ว เอาเวลาในการแก้ MOU ไปทำยุทธศาสตร์ในการหาคะแนนเสียง ส.ว. หรือ ส.ส. เพิ่มดีกว่า

 

“เข้าใจได้ว่าพรรคเพื่อไทยเดินเกมเร็ว นอกจากมินต์ช็อกแล้ว ประชาชนก็ช็อกด้วย ผมก็ช็อกเหมือนกัน แต่เข้าใจว่ามีข้อจำกัดทางเวลาที่น้อย อาจเป็นสิ่งที่ผิดพลาดไปนิดหนึ่ง ก็ให้กำลังใจทางพรรคเพื่อไทย ทั้ง 8 พรรคไม่อยากจะเลือกข้างกันเชียร์ เพราะจะเป็นจุดอ่อนและเปิดโอกาสจากฝั่งตรงข้ามเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย” วสวรรธน์กล่าว

 

เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องรวมเสียงจากพรรคการเมืองต่างขั้วจริงๆ พรรคมีเงื่อนไขหรือไม่ วสวรรธน์กล่าวว่า ตามที่พี่ใหญ่ 2 คนบอกว่า “มีลุงไม่มีเรา” ทำให้เป็นการขีดเส้นว่าจะเดินหน้าอย่างไร และกุมชะตาเราอยู่ ก็ต้อง “มีเราไม่มีลุง” และพรรคก็ยึดมั่นในจุดยืนประชาธิปไตยมาตั้งแต่ก่อตั้ง 

 

The post “ไม่มีวันทิ้งก้าวไกล – 8 พรรคร่วมฯ” กังฟู ชี้ 312 เสียงคือทางออก บอกเพื่อไทยเดินเกมเร็ว มินต์ช็อกทำประชาชนช็อก แนะไม่ต้องแก้ไข MOU appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิด 3 มติจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ให้สิทธิเพื่อไทยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล https://thestandard.co/3-resolutions-from-8-coalition-parties/ Fri, 21 Jul 2023 13:54:08 +0000 https://thestandard.co/?p=820390

หลังจากวันนี้ (21 กรกฎาคม) พรรคก้าวไกลแถลงเปิดทางให้พรร […]

The post เปิด 3 มติจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ให้สิทธิเพื่อไทยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลังจากวันนี้ (21 กรกฎาคม) พรรคก้าวไกลแถลงเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ MOU ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งในเวลาต่อมามีการนัดหมายหารือแกนนำทั้ง 8 พรรคที่พรรคเพื่อไทย

 

ล่าสุดที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้มีมติ 3 ข้อในการเดินหน้าให้สิทธิพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเตรียมความพร้อมในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้

 

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

The post เปิด 3 มติจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ให้สิทธิเพื่อไทยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
8 พรรคร่วมมอบเพื่อไทยเดินหน้าหาเสียง ส.ส.-ส.ว. ให้ได้ 375 เสียง เผยแผน 3 เตรียมสละบางพรรค ยันส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว รู้พร้อมกัน 26 ก.ค. https://thestandard.co/pheu-thai-to-seek-for-375/ Fri, 21 Jul 2023 12:03:50 +0000 https://thestandard.co/?p=820352

วันนี้ (21 กรกฎาคม) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย แกนนำ 8 พรรคร่ […]

The post 8 พรรคร่วมมอบเพื่อไทยเดินหน้าหาเสียง ส.ส.-ส.ว. ให้ได้ 375 เสียง เผยแผน 3 เตรียมสละบางพรรค ยันส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว รู้พร้อมกัน 26 ก.ค. appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (21 กรกฎาคม) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย แกนนำ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แถลงผลการหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, ทวี สอดส่อง เลขาธิการ พรรคประชาชาติ, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย, ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม, กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม, สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย, วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่

 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า หลังจากพรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้แถลงการณ์และส่งมอบภารกิจให้พรรคอันดับที่ 2 ซึ่งคือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราได้ปรึกษาหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้รัฐบาลของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย และในที่ประชุมมีมติดังนี้ ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 27 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ประธานรัฐสภาได้บรรจุระเบียบวาระในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทย ส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ โดยพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอชื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นร่วมกัน ให้เป็นไปตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน 27 ล้านเสียงที่เลือกเรามา ส่วนวิธีการที่จะได้มาซึ่งเสียงสนับสนุน ที่ประชุมได้เสนอแนวทาง ดังต่อไปนี้ 

 

  1. 8 พรรคร่วม ซึ่งประกอบด้วย 312 เสียง จะดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาให้ได้ครบจำนวนที่ต้องเติมให้ถึง 375 เสียง หรือคืออีก 63 เสียง โดยอาจจะมีเงื่อนไขที่ ส.ว. ได้ตั้งไว้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะต้องไปพูดคุย ในกรณีที่ ส.ว. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลดเงื่อนไขในมาตรา 112 ทางพรรคเพื่อไทยจะรับฟัง แล้วนำมาพูดคุยกับพรรคก้าวไกลและในที่ประชุม 8 พรรคร่วมต่อไป

 

  1. กรณีที่ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้เพียงพอจะให้สิทธิพรรคเพื่อไทยดำเนินการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นควร เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฝ่ายของสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคการเมืองที่จะไปพูดคุยนั้น ที่ประชุมให้เป็นเสรีภาพของพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ

 

  1. แนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมได้ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ 

 

นพ.ชลน่านกล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือแนวทางที่เราจะได้มาซึ่งการจัดตั้งรัฐบาล 375 เสียง ในการประชุมวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาลดเพดานมาตรา 112 นพ.ชลน่านกล่าวว่า ข้อเสนอของที่ประชุมร่วมให้แนวทางว่าพรรคก้าวไกลอยากทราบรายละเอียดถึงการลดเงื่อนไขว่าคืออะไร จึงได้มอบหมายพรรคเพื่อไทยไปหารือกับสมาชิกวุฒิสภาแต่ละท่าน เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำกลับไปพิจารณา

 

ขณะที่ชัยธวัชกล่าวเสริมถึงการลดเพดานมาตรา 112 ว่า ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ ต้องให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยว่ารูปแบบของการปลดล็อกความไม่สบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลหลังปลดล็อกแล้วจะเป็นอย่างไร เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำไปพิจารณา โดยยืนยันว่ามาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้าง เป้าหมายสูงสุดคือเราอยากเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลตามที่ประชาชนลงคะแนนเสียงมา ตอนนี้โดยมารยาทต้องมอบหมายบทบาทหลักให้ทางพรรคเพื่อไทยในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ เรื่องการลดเพดานมาตรา 112 เป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทยในการดำเนินการ โดยมารยาทพรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อไปแล้ว ต้องรอรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทยอีกที

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ประกาศว่าจะไม่ร่วมสนับสนุนพรรคการเมืองที่ยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในแนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากที่ประชุมของ 8 พรรคร่วม ซึ่งมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไร

 

นพ.ชลน่านกล่าวยอมรับว่า ให้ความสำคัญหลักอยู่ที่เสียงของ ส.ว. มากกว่า ส.ส. และยังดำเนินตามทางเลือกที่ 1 คือมีเพียง 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่มีพรรคการเมืองอื่นๆ มาเพิ่มเติม พร้อมหาคะแนนเสียงจาก ส.ว. ควบคู่กันไป และหากมีพรรคการเมืองใดให้ความเห็นชอบแคนดิเดตของ 8 พรรคร่วมโดยไม่ขอร่วมรัฐบาล จะถือเป็นมิติใหม่ของพรรคการเมือง ทั้งนี้ยังอยู่ที่การพูดคุย 

 

ส่วนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยนั้น จะทราบภายในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยจะเสนอเพียงชื่อเดียวเท่านั้น แต่ต้องมีกระบวนการสร้างความมั่นใจก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภาว่า แคนดิเดตคนดังกล่าวต้องได้เสียงสนับสนุนเกิน 375 ขึ้นไป ขณะที่ทางเลือกอื่นๆ ซึ่งอาจไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งอยู่ในสมการนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับสิทธิจากที่ประชุมร่วมให้ไปดำเนินการและนำกลับมาปรึกษาหารือ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจัยที่จะทำให้ไปสู่ทางเลือกที่ 3 คืออะไร นพ.ชลน่านตอบว่า ก็ต่อเมื่อทางเลือกที่ 1 และ 2 ไม่สำเร็จ กรอบเวลาช้าสุดคือภายในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงื่อนไข ‘มีเราไม่มีลุง’ ของบางพรรคการเมืองนั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราพยายามทำแนวทางที่ 1-2 ให้สำเร็จให้ได้ก่อน เรื่องอื่นเรายังไม่พูดถึง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีอาจมีการยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องที่ประชุมรัฐสภาวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 ซึ่งอาจทำให้มีการเสนอชื่อพิธารอบ 2 ได้นั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า คงต้องไปดูรายละเอียด เพราะอยู่คนละจังหวะเวลากัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแกนนำจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเพื่อไทย MOU มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขณะนี้เรายึดแนวทางนั้น แต่เมื่อดำเนินการแล้ว อะไรที่ต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน บางเรื่องที่เขียนไม่ตรงก็ต้องปรับแก้ 

The post 8 พรรคร่วมมอบเพื่อไทยเดินหน้าหาเสียง ส.ส.-ส.ว. ให้ได้ 375 เสียง เผยแผน 3 เตรียมสละบางพรรค ยันส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว รู้พร้อมกัน 26 ก.ค. appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย อุ๊งอิ๊งเข้ามาร่วมต้อนรับ พิธา-หมอชลน่าน หลบสื่อขึ้นห้องประชุม https://thestandard.co/party-meeting-to-form-government-at-pheu-thai-party/ Wed, 07 Jun 2023 04:37:50 +0000 https://thestandard.co/?p=800172 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

วันนี้ (7 มิถุนายน) บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนัดหม […]

The post ประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย อุ๊งอิ๊งเข้ามาร่วมต้อนรับ พิธา-หมอชลน่าน หลบสื่อขึ้นห้องประชุม appeared first on THE STANDARD.

]]>
พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

วันนี้ (7 มิถุนายน) บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนัดหมายการประชุมร่วมกันของหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค นำโดยพรรคก้าวไกล ในช่วงเวลา 10.00 น.

 

โดยแกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทยอยเดินทางมาถึงทั้ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม และ วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง

 

นอกจากนี้ยังมี อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ามาร่วมต้อนรับแกนนำที่มาประชุม อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ามาอีกช่องทางหนึ่งขึ้นไปยังห้องประชุมทันที โดยไม่ได้พบกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

 

The post ประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย อุ๊งอิ๊งเข้ามาร่วมต้อนรับ พิธา-หมอชลน่าน หลบสื่อขึ้นห้องประชุม appeared first on THE STANDARD.

]]>
เลือกตั้ง 2566 : พิธาประกาศตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน ตั้งทีมเจรจารายละเอียดพร้อมเปิด MOU ร่วมรัฐบาล 22 พ.ค. นี้ https://thestandard.co/pita-announces-peoples-government/ Thu, 18 May 2023 06:57:25 +0000 https://thestandard.co/?p=792238

วันนี้ (18 พฤษภาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าว […]

The post เลือกตั้ง 2566 : พิธาประกาศตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน ตั้งทีมเจรจารายละเอียดพร้อมเปิด MOU ร่วมรัฐบาล 22 พ.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (18 พฤษภาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง, ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม และ เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์​กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ แถลงข่าวประกาศตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน ซึ่งจากผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นทางการ มีจำนวนผู้แทนราษฎรรวมกันทั้งสิ้น 313 คน

 

พิธากล่าวว่า พวกเราทุกพรรคขอขอบคุณทุกเสียงที่ประชาชนมอบให้ เสียงของประชาชนทุกเสียงคือเสียงแห่งความหวัง คือเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชน และเราจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน

 

ทุกพรรคขอประกาศจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนร่วมกัน ด้วยความเคารพในฉันทมติของประชาชน ดังนี้

 

  1. ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากจากผลการเลือกตั้งของประชาชน

 

  1. ทุกพรรคจะร่วมกันจัดทำข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแสดงถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรค และจะแถลงต่อสาธารณะในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ

 

  1. ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้แบบไร้รอยต่อ

 

หลังจากนั้นเปิดให้สื่อมวลชนถามคำถาม โดยพิธาให้ความเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและโดยราบรื่น จำนวน 313 เสียง มีความเพียงพอและเป็นความปกติของระบอบประชาธิปไตย

 

ขณะนี้ คณะทำงานทั้ง 2 ทีม ได้แก่ คณะเจรจาและคณะเปลี่ยนผ่านอำนาจ ได้เตรียมการวางแผนในหลายรูปแบบว่าจะมีฉากทัศน์ใดเกิดขึ้นบ้าง แต่ละฉากทัศน์จะบริหารจัดการอย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงพิจารณาว่าจุดยืนและนโยบายของทุกพรรคการเมือง จะทำงานร่วมกันอย่างไรโดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง กระบวนการทั้งหมดจะคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาลและการมีส่วนร่วมของทุกพรรคการเมือง เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วง ทุกพรรคการเมืองสามารถสานต่อนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน

 

สำหรับความเห็นของ ส.ว. หลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะโหวตนายกฯ ตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรนั้น พิธากล่าวว่าขอขอบคุณ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องของระบบ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด

 

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงจุดยืนในการแก้ไข ม.112 พิธาระบุว่า จุดยืน ม.112 ในช่วงก่อนเลือกตั้งมีการดีเบตและพูดคุยกันเยอะแล้ว มีความชัดเจนครบแล้ว ซึ่งแต่ละพรรคได้พูดถึงจุดยืนร่วมกันแล้ว

 

ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ว่าไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา ม.112 นั้น มองว่าเป็นเรื่องของภูมิใจไทย เพราะพรรคที่อยู่ตรงนี้มีเอกภาพ มีจุดยืนในการจัดตั้งรัฐบาล

 

ทั้งนี้ไม่มีความห่วงใย ตอนนี้กำลังจัดทำ 2 คณะ คือคณะกรรมการที่จะใช้ร่วมรัฐบาล และคณะกรรมการที่เปลี่ยนผ่านอำนาจ และการแถลงข่าววันนี้ไม่ได้มีเนื้อหา MOU เพราะจะแถลงวันที่ 22 พฤษภาคม แต่มาแถลงหลังหารือกันเมื่อวาน ส่วนเรื่อง ม.112 ขอให้รอฟังรายละเอียดวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

 

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีถ้าเสียงโหวตในสภาแล้วไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นจะทำอย่างไร พิธาตอบว่า เนื่องจากขณะนี้มีกรรมการ 2 คณะ และได้วางแนวทางไว้หลายรูปแบบ เพื่อลดความเสี่ยงในการจัดตั้งรัฐบาล และไม่ได้กังวลใจ พร้อมยืนยันว่าคะแนนโหวตจะผ่านแน่นอน    

 

ส่วนการทำความเข้าใจกับ ส.ว. ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ตั้งมา

 

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีพรรคอื่นมาร่วมอีกหรือไม่นั้น พิธาตอบว่า ขึ้นอยู่คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะเป็นผู้พิจารณา โดยจะพิจารณาในเรื่องจุดยืน นโยบาย ที่ทำร่วมกัน ซึ่งจะเอาประชาชนมาเป็นที่ตั้ง และต้องคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาล โดยตนเองก็ไว้วางใจคณะกรรมการ ซึ่งเป็นตัวแทนของทุกพรรค เป็นการทำงานแบบทีมเวิร์ก

 

พิธายังบอกอีกว่า 313 เสียงเป็นไปตามระบบประชาธิปไตยที่เพียงพอ การตามหาอีก 60 กว่าเสียงยังไม่ได้เป็นเรื่องที่จะต้องทำในตอนนี้ และย้ำว่ายังมั่นใจว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยจะมีตัวเลขที่เหมาะสม และมีเสถียรภาพ หาจุดตรงกลางให้ได้ และพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยยืนยันจะเหนียวแน่นกลมเกลียวไม่ปล่อยมือกันแน่นอน

 

ส่วนเนื้อหา MOU นั้น จะเป็นหลักการจะทำให้มีความครอบคลุมมิติการเมือง ปากท้อง และมิติของประเทศ

 

พิธายังตอบคำถามเรื่องการจัดสรร ตกลงเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยว่า ครั้งนี้ไม่ได้เป็นการพูดคุยเรื่องของเก้าอี้ว่าต้องได้กระทรวงไหน แต่เอาวาระของประชาชนมาเป็นตัวตั้ง และเอาปัญหาประชาชนมาเป็นตัวตั้ง แล้วค่อยมาดูว่ากระทรวงไหนจะทำงานร่วมกันให้เป็นเอกภาพได้ ทำงานเป็นองคาพยพเดียวกันได้เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดคุย และคงจะมีอัปเดตความคืบหน้าทุกๆ สัปดาห์ จนกว่าจะตั้งรัฐบาลได้ เพราะถ้าเอากระทรวงเป็นตัวตั้งก็ไม่มีประโยชน์อะไร

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการร้องเรียนคุณสมบัติของตัวพิธาที่เกิดขึ้นว่าอาจจะมีเสียงแตก กังวลหรือไม่ พิธาตอบว่า ไม่กังวล แต่ก็ไม่ประมาท เพราะการเมืองต้องเตรียมตัวว่ามีมิติไหนบ้าง และการเป็นบุคคลสาธารณะก็ต้องพร้อมให้ตรวจสอบและพร้อมเตรียมรับผลกระทบเหล่านั้น

 

ส่วนผลโหวตของ ส.ว. ก็เป็นเรื่องยินดี หากจะมีการโหวตให้ไม่ว่าจะเป็นตนเองหรือไม่ใช่ตนเอง แต่เป็นการเห็นถึงระบบประชาธิปไตยที่มีอำนาจสูงสุด

 

โดยหลังจากพิธาตอบคำถามเสร็จสิ้น แกนนำของแต่ละพรรคก็ได้พูดถึงการร่วมจัดตั้งรัฐบาล

 

เริ่มที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงสนับสนุนให้หัวหน้าพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งความหวัง ความฝันให้ประชาชน ก่อนระบุว่าจะให้ตนพูดอีกกี่ร้อยครั้งก็จะยืนยันแบบนี้ 

 

นพ.ชลน่านบอกถึงแนวทางการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ว่าทุกเรื่องจะนำมาประกอบทั้งหมด อีกทั้งเงื่อนไขหลักยกเป็นหน้าที่ให้พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ ส่วนจุดใดร่วมกันได้ไม่ได้ หรือจุดใดต้องแก้ไข คงจะต้องมีการหารือกันก่อน ส่วนประเด็น ม.112 ที่หลายคนมองจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่านบอกว่า เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่คงจะมีการพูดคุยกัน แต่หากมีการลงนามข้อสรุปกันแล้ว ถือว่าทุกคนทุกพรรคเห็นทางออกร่วมกันได้

 

นพ.ชลน่านยังยืนยันจะทำภารกิจให้สำเร็จคือการผลักดันคะแนนเสียงในรัฐสภาให้ถึง 376 เสียง ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง เราต้องช่วยกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีของประชาชน

 

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทยได้พูดเป็นสัญญาประชาคม ว่าสนับสนุนให้ทุกฝ่ายเดินตามครรลองประชาธิปไตย เมื่อพรรคก้าวไกลได้ฉันทมติจากประชาชน พรรคไทยสร้างไทยยังย้ำว่า ยืนยันตั้งแต่วันแรกว่าจะยกมือสนับสนุนให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี 

 

ส่วนข้อตกลงเรื่องนโยบายยังไม่ได้เริ่มนับ 1 หลังจากนี้จะตั้งคณะทำงานร่วมกัน โดยขอยืนยันว่าการทำนโยบายจะทำเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญกว่าการแบ่งกระทรวง เพราะตนเป็นคนหนึ่งที่มองว่าหากเป็นรัฐบาลเพื่อแบ่งกระทรวงในการทำมาหากินก็ไม่จำเป็นต้องมาเป็นรัฐบาล แต่มุ่งหมายทำเพื่อประชาชน ต้องการให้ประเทศไทยไปยืนอยู่บนแผนที่โลกให้ได้

 

สำหรับจุดยืน ม.112 นั้น พรรคไทยสร้างไทยชัดเจนว่าต้องรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดังนั้น การจะทำอะไรให้สถาบันฯ เสื่อมเสียนั้นต้องปกป้อง ส่วนการที่มีผู้มีอำนาจมาใช้ ม.112 กลั่นแกล้ง ทำลายบุคคล ต้องนำมาพิจารณา เพื่อปกป้องสถาบันฯ ไม่ให้ใครนำไปเป็นอำนาจทำร้ายคนอื่น

 

ส่วนการจะลงรายละเอียดของจุดยืนแต่ละพรรคต้องคุยกัน ไม่ใช่เพียง ม.122 แต่ทุกนโยบาย

 

ด้าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุว่า พรรคประชาชาติเราเคารพในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนคนไทยทุกคน การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาชนได้มอบและให้ความไว้วางใจและพรรคก้าวไกลมีเสียงข้างมากที่สุดของพรรคการเมืองทุกพรรค ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประชาชนต้องการผู้นำรัฐบาลที่มาจากพรรคก้าวไกล และด้วยความเคารพคะแนนเสียงของประชาชน พรรคประชาชาติจึงขอสนับสนุนพิธาในการจัดตั้งรัฐบาล และพรรคประชาชาติยินดีให้ความร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ให้สำเร็จ และอยากเรียกร้องทุกฝ่ายให้ความเคารพต่อการตัดสินใจของประชาชนในประเทศนี้ ถ้าเราไม่เคารพเสียงการตัดสินใจของประชาชน เราก็จะติดกับดักปัญหาเดิมๆ ที่ไม่สามารถจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสง่างาม

 

จึงอยากให้ทุกฝ่ายทั้ง ส.ส., ส.ว. และข้าราชการ คำนึงถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดว่าเขาตัดสินใจอย่างไร และต้องการอะไร เพื่อเราจะได้เดินไปข้างหน้าไปด้วยกัน เพราะปัญหาวิกฤตของประเทศมีมากมายทั้งระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก จึงไม่อาจอยู่กับปัญหาเดิมๆ ได้ เราจะรักใครชอบใคร แต่เราต้องรักประชาชน ถ้าเราไม่รักประชาชนปัญหาเดิมๆ ก็จะกลับมาอีก และอยากให้ประชาชนให้กำลังใจพวกเรา เพื่อให้พวกเราทำงานให้กับประเทศ เพื่อให้รอดพ้นกับวิกฤตในครั้งนี้ให้ได้

 

และที่พิธาพูดเป็นสิ่งที่เราตัดสินใจร่วมกัน แม้วันนี้จะยังไม่มีรายละเอียดที่ตัดสินใจร่วมกัน แต่วันที่ 22 พฤษภาคม ท่านจะเห็นแสงที่จะก้าวไปข้างหน้า และขอฝากความหวังนี้ให้กับทุกคน

 

ขณะที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า เวลาลงไปหาเสียงก็จะบอกว่าให้ประชาชนเลือกพรรคเสรีรวมไทยทั้งคนทั้งพรรค เพื่อที่จะรวมตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศชาติ ซึ่งขณะนี้ผลการเลือกตั้งก็ออกมาแล้วว่าพี่น้องประชาชนสนับสนุนพรรคก้าวไกลมาบริหารประเทศ โดยมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นตนจะเปลี่ยนคำพูดหรือคิดอย่างอื่นก็คงเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ต้องยืนยันตามเจตนารมณ์ของตนและพี่น้องประชาชนที่จะให้พรรคที่มีเสียงข้างมากได้จัดตั้งรัฐบาล โดยหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ 

 

วันนี้มาแสดงตัวตนต่อหน้าสื่อมวลชนว่าพรรคเสรีรวมไทยสนับสนุนก้าวไกล และให้พิธาเป็นนายกฯ วันนี้ต้องการแค่มาประกาศจุดยืนร่วมกันทั้ง 8 พรรค เพื่อสนับสนุนพิธาเป็นนายกฯ เท่านั้น ประเด็นอื่นยังไม่ถึงเวลาที่จะชี้แจง แม้จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันแล้ว เราก็ต้องทำงานร่วมกัน แต่ในบางประเด็นที่ไม่ตรงกันต้องคุยกัน

 

The post เลือกตั้ง 2566 : พิธาประกาศตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน ตั้งทีมเจรจารายละเอียดพร้อมเปิด MOU ร่วมรัฐบาล 22 พ.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>