ใกล้เข้าสู่เดือน 6 ที่ประเทศไทยกำลังเข้าใกล้ฤดูฝนอย่างเต็มรูปแบบ ความเฉอะแฉะของพื้นดินและสภาพอากาศทำให้หลายคนไม่ชื่นชอบเที่ยวในฤดูฝน รวมถึงหลายอุทยานฯ ก็ปิดไม่รับนักท่องเที่ยวเนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะน้ำหลากหรือดินถล่ม ทว่าอันที่จริง ฤดูฝนมีเส้นทางเดินป่าดีเยอะมาก มีทั้งแบบเดินง่ายไม่กี่ชั่วโมง ไปจนถึงค้างอ้างแรมที่ทำให้การเดินป่าของคุณสนุกยิ่งขึ้น 

อ้อ! อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์กันฝนและระวังเหตุน้ำหลากด้วยล่ะ

1. ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์

เริ่มต้นด้วยเส้นทางง่ายๆ อย่างถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ โกรกถ้ำขนาดใหญ่ที่มีธารน้ำใสไหลผ่าน ว่ากันว่าในอดีตที่นี่เคยเป็นที่หลบภัยของมนุษย์โบราณ และยังเป็นเส้นทางทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย

เส้นทางเดินของถ้ำธารลอดจะเป็นเส้นทางเดินจากบริเวณถ้ำธารลอดน้อยที่อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ เลียบป่าลัดเลาะไปตามทางสู่ถ้ำธารลอดใหญ่ที่เป็นโกรกโพรงถ้ำของผาหินขนาดใหญ่ ซึ่งถูกลมฝนชะล้าง กัดกร่อนจนเกิดเป็นภาพแปลกตา เส้นทางนี้เดินไม่ยาก ผู้ใหญ่เดินได้ เด็กเดินดี ตลอดทางมีน้ำตกและทัศนียภาพสวยงาม ระยะทางไปกลับประมาณ 5 กิโลเมตร แนะนำให้ออกเดินช่วงเช้าก่อนเที่ยง แวะเล่นน้ำตามน้ำตกจุดต่างๆ ก่อนเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง และเดินกลับมาถึงบริเวณถ้ำธารลอดน้อยอีกครั้งในช่วงเย็น

พิกัด: อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี

ระยะทาง: 2.5 กิโลเมตร 

ระยะเวลา: 3 ชั่วโมง

2. น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

ตามติดด้วยเส้นทางในจังหวัดเดียวกัน น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ว่าจะชาวไทยหรือต่างชาติต่างปักหมุดมายังน้ำตกนี้ทั้งนั้น เดิมมีชื่อว่า น้ำตกสะด่องม่องลาย อันเป็นชื่อของลำห้วยม่องลายที่เป็นต้นน้ำ 

น้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีจุดเป็นสายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมกับแอ่งน้ำสีเทอร์ควอยส์ ลงเล่นน้ำได้ทุกจุด ระยะทาง 3-4 ชั้นแรกอยู่ใกล้กัน และพบเห็นคนเล่นน้ำอยู่เยอะ แต่พอชั้น 5 เป็นต้นไประยะทางเดินจะไกลขึ้น รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,500 เมตร

พิกัด: อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี

ระยะทาง: 1.5 กิโลเมตร 

ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง

3. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

ออกเดินทางไปกางเต็นท์ค้างแรมที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำปาด อุทยานแห่งนี้มีน้ำตกสูงคือ น้ำตกภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์ และรายล้อมด้วยป่า ทำให้มีความชุ่มชื้นสูง มีมอสขึ้นปกคลุมทั่วไป ไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้คือทุ่งไม้ในป่าสน ช่วงฤดูฝนชูช่อออกดอกเป็นกลุ่มหนาไปทั่วบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม

ที่นี่เป็นสนามซ้อมของนักวิ่งเทรล สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติ นักเดินป่าจะพบกับเนินเขาทั้งหมด 5 เนิน ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ จากนั้นจึงถึงลานกางเต็นท์

พิกัด: อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

ระยะทาง: 6.5 กิโลเมตร 

ระยะเวลา: 6 ชั่วโมง

อ่านเพิ่มเติม: ภูสอยดาว หลงเสน่ห์ ภูเขาช่วงวัสสานฤดู

4. ดอยหลวงตาก อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน

เส้นทางเดินป่าที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน บนความสูง 1,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีระยะทางเดินทางเดียว 11 กิโลเมตร ลักษณะเส้นทางมีทั้งทางราบสลับลาดชัน มีทั้งทางเดินเลียบลำธาร ปีนป่ายหิน มือใหม่เดินได้สบาย เหมาะแก่การเดินทางฤดูฝนจนถึงหนาว ระหว่างทางมีดอกไม้และพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ ผ่านป่าดิบเขา ทุ่งเลี้ยงวัวของชาวบ้าน เส้นทางนี้มีทากบ้างประปราย ส่วนใหญ่มักเจอในช่วงฤดูฝน บางวันสภาพอากาศแปรปรวนหนัก ต้องเตรียมยาและเสื้อกันฝนมาให้ดี ตอนเช้ามีหมอกอ่อนๆ ปกคลุม อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

พิกัด: อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก

ระยะทาง: 11 กิโลเมตร 

ระยะเวลา: 2 วัน 1 คืน

5. ลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี

เส้นทางผจญภัยในจังหวัดกาญจนบุรี ที่เราแนะนำว่าสมควรไปปักหมุดให้ได้สักครั้งในชีวิต กับเส้นทางเดินป่า ‘ลำคลองงู’ ณ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ซึ่งอยู่ใกล้กับเทือกเขาตะนาวศรี ใครที่ชอบการผจญภัย การปีนป่าย ลอยคอในลำธาร นี่คือเส้นทางที่สนุกมากเส้นทางหนึ่ง

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู มีเส้นทางผจญภัยทั้งหมด 2 เส้นทาง ใครที่มาครั้งแรก แนะนำเส้นทางถ้ำนกนางแอ่น รวมเส้นทางเดินเท้าและลอยคอในลำธาร รวมทั้งสิ้นเกือบ 4 กิโลเมตร เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่มีธารน้ำใสไหลตลอดปี ด้านในมีม่านหินย้อยสวยงามตระการตา บริเวณปากถ้ำและเพดานถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่นลมจำนวนมาก

พิกัด: อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 

ระยะทาง: 4 กิโลเมตร 

ระยะเวลา: 4 ชั่วโมง 

อ่านเพิ่มเติม: ‘ลำคลองงู’ ผจญภัยในป่าดิบชื้น ลอยคอในลำธาร ดูโกรกถ้ำดึกดำบรรพ์

6. น้ำตกปิตุ๊โกร ทีลอซู จังหวัดตาก

เส้นทางเดินป่าที่ถือว่าเอาเรื่องมากๆ ทั้งอากาศชื้นแฉะ พื้นดินเปียก ยิ่งถ้าวันไหนเจอฝนตกด้วย ทั้งจมโคลน ทั้งลื่นไถล แถมบางช่วงต้องลุยลำธารน้ำ เส้นทางเดินป่าน้ำตกปิตุ๊โกร ทีลอซู เป็นเส้นทางเดินป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ใกล้กับยอดเขาดอยมะม่วงสามหมื่น ติดกับเขตรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา  

ไฮไลต์ของเส้นทางนี้อยู่ที่น้ำตกขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยรูปหัวใจเป็นเอกลักษณ์ ชาวกะเหรี่ยงเรียกน้ำตกนี้ว่า ‘ปิตุ๊โกร’ แต่คนทั่วไปมักคุ้นหูในชื่อ เปรโต๊ะลอซู การเดินทางกว่าจะมาถึงต้องนั่งรถผ่านโค้ง 1,219 โค้ง และต้องเดินเท้าเข้าป่าเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร ผ่านทั้งลำธาร ทางรกชัฏ และผาสูง แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อไปถึงแล้ว ความสวยงามและอลังการของธรรมชาตินั้นคุ้มค่าจริงๆ 

พิกัด: อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

ระยะทาง: 8-12 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับโปรแกรม)

ระยะเวลา: 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน 

7. น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่-น้ำตกตะเพินคี่น้อย

เส้นทางเดินป่าในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเดินเท้าที่ขนานกับเส้นทางรถ ผ่านน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ น้ำตกตะเพินคี่น้อย ไปจบที่ลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ ลักษณะของเส้นทางเป็นลำธารสลับป่าไผ่ มีผาน้ำตกและโขดหินเป็นบางช่วง เดินได้ไม่ยาก ไม่มีทาก แต่ต้องปีนป่าย และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางตลอดเส้นทาง ระยะทางทั้งสิ้น 6.5 กิโลเมตร ไปทางเดียวไม่มีกลับ มีจุดพัก แต่ไม่สามารถค้างแรมในป่าได้ ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 4 ชั่วโมง แนะนำให้ออกเดินทางช่วงเช้า และควรเตรียมมื้อเที่ยงไปกินในป่าด้วย

พิกัด: อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี 

ระยะทาง: 6.5 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 4 ชั่วโมง

ภาพ: การเที่ยวแห่งประเทศไทย

8. ภูจองนายอย จังหวัดอุบลราชธานี

พื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ กว้างใหญ่ มีอาณาเขตติดกับ สปป.ลาว และกัมพูชา จุดไฮไลต์สำคัญคือน้ำตกห้วยหลวง ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีหาดทรายขาวและน้ำสีมรกต เป็นจุดเช็กอินที่ทุกคนต้องได้รูปสวยๆ นอกจากนี้ยังมีน้ำตกประโอนละออ, สวนหินพลาญยาว, ชะง่อนผา, แก่งศิลาทิพย์ และจุดชมทิวทัศน์ผาผึ้ง เพื่อชมวิวทิวทัศน์สวยงามตามแนวชายแดน สปป.ลาว และกัมพูชา 

อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย มีเส้นทางเดินป่าทั้งหมด 3 เส้นทาง น้ำตกห้วยหลวง 1 กิโลเมตร แก่งศิลาทิพย์ 2.9 กิโลเมตร และสามพันปี 3.5 กิโลเมตร

พิกัด: อำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย และอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี 

ระยะทาง: 1, 2.9 และ 3.5 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 1-4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับเส้นทาง)

9. อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ด้วยความที่ตั้งอยู่ในบริเวณคอคอดกระหรือกิ่วกระ ทำให้ได้รับลมมรสุมทั้งจากทางทะเลอันดามันและอ่าวไทย เขาสกจึงมีฝนตกชุกอยู่ตลอดทั้งปี ถึงกระนั้น สายฝนจะโปรยตกอยู่เพียงแค่ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นนักท่องเที่ยวจะสามารถดื่มด่ำบรรยากาศฟ้าหลังฝน แสงอาทิตย์สาดส่อง และวิวหลักล้านของเขื่อนเชี่ยวหลานที่รายล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ได้ตลอดวัน หลายคนอาจคิดว่าเชี่ยวหลานมีแต่น้ำ ไม่มีเส้นทางเดินทางป่า เราขอให้คุณเข้าใจใหม่ โดยเส้นทางเดินป่าที่เราแนะนำคือจุดชมวิวเขาไกรสร เป็นเส้นทางเดินป่าขึ้นเขาระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เดินผ่านป่าดงดิบ ฝ่าดงทาก ผ่านหินชัน เพื่อไปเจอวิวตระการตามุมสูงของเขื่อนเชี่ยวหลานที่สวยงามมาก

พิกัด: อำเภอพนมและอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ระยะทาง: 2 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง 30 นาที

10. อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ

เส้นทางสุดท้ายสำหรับฤดูฝน ถ้ายังไม่เบื่อกัน เราแนะนำให้ปักหมุดยังอุทยานแห่งชาติไทรทอง เส้นทางเดินดูดอกกระเจียวที่หลบซ่อนเส้นทางเดินป่าไว้ในหนึ่งเดียว อันที่จริงเส้นทางดูดอกกระเจียวของไทรทองมีเส้นทางลับที่นักท่องเที่ยวไม่นิยม เดินไกลกว่าเส้นทางปกติเกือบเท่าตัว แต่สวยงามและธรรมชาติกว่ามาก ดอกกระเจียวชูช่อแทรกตามโขดหิน ระหว่างนั้นก็มีธารลำใสไหลเอื่อยๆ พอให้เดินลื่น เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เราแนะนำ ถ้าคุณอยากดูดอกกระเจียวที่สวยธรรมชาติ และแตกต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไป

พิกัด: อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ

ระยะทาง: 3.5 กิโลเมตร

ระยะเวลา: 3 ชั่วโมง

ภาพ: Getty Images, Shutterstock

The post 10 Hiking Trails 10 เส้นทางเดินป่าฤดูฝน ควรปักหมุด 2023 appeared first on THE STANDARD.

เส้นทางผจญภัยในจังหวัดกาญจนบุรี ที่เราแนะนำว่าสมควรไปปักหมุดให้ได้สักครั้งในชีวิต กับเส้นทางเดินป่า ‘ลำคลองงู’ ณ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ซึ่งอยู่ใกล้กับเทือกเขาตะนาวศรี ใครที่ชอบการผจญภัย การปีนป่าย ลอยคอในลำธาร นี่คือเส้นทางที่สนุกมากเส้นทางหนึ่ง

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เป็นผืนป่าตะวันตกในลุ่มน้ำแม่กลอง ใกล้กับเทือกเขาตะนาวศรี ชื่อของ ‘ลำคลองงู’ เป็นชื่อของลำห้วยซึ่งไหลวนสลับซับซ้อน กัดเซาะผืนป่า เขาหินปูน จนกลายเป็นโพรงธรรมชาติขนาดใหญ่หลายแห่ง เมื่อรวมกับน้ำที่ไหลจากชั้นหินชั้นดิน บางแห่งเกิดเป็นหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา กลายเป็นประติมากรรมธรรมชาติสวยงามตระการตามาก

เส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ถ้าอยากให้เต็มสูตร อันที่จริงต้องใช้เวลา 2 วัน วันหนึ่งออกไปเที่ยวเสาหินปูนขนาดใหญ่ ณ ถ้ำเสาหิน อีกวันหนึ่งผจญภัยยัง ‘ถ้ำนกนางแอ่น’ ซึ่งสวยงามตระการตาคนละแบบ ลักษณะเส้นทางจะว่าเดินง่ายก็ง่าย จะว่าเดินยากก็ยาก เพราะต้องต้องปีนป่ายตามโขดหิน กระโดดน้ำตก ลอยคอในลำธาร บางส่วนกระแสน้ำอาจแรกจนพลัดหลุดได้ ตลอดเส้นทางจึงต้องสวมชูชีพและมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด 

สำหรับในปี 2565 อุทยานแห่งชาติลำคลองงูเปิดเส้นทางให้เที่ยวเฉพาะถ้ำนกนางแอ่นเท่านั้น เนื่องจากมีโขลงช้างป่าไปอาศัยบริเวณถ้ำเสาหิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวได้

เส้นทางถ้ำนกนางแอ่น รวมเส้นทางเดินเท้าและลอยคอในลำธาร รวมทั้งสิ้นเกือบ 4 กิโลเมตร เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่มีธารน้ำใสไหลตลอดปี ด้านในมีม่านหินย้อยสวยงามตระการตา บริเวณปากถ้ำและเพดานถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่นลมจำนวนมาก

สำหรับใครที่อยากไปผจญภัยยังลำคลองงู สามารถติดต่อเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ หรืออุทยานแห่งชาติได้โดยตรงที่เบอร์ 08 4913 2381 หรือติดตามข่าวสารที่เพจ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู – Lam Khlong Ngu National Park ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเที่ยวชมคือหน้าร้อน อุทยานฯ จะเปิดเส้นทางในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี หรืออาจเลยถึงช่วงต้นพฤษภาคมได้นิดหน่อย ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในลำธาร ก่อนเดินทางแนะนำให้เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม เพราะแม้จะไม่ได้โหดหินมาก แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ หมดแรงกลางทางได้เหมือนกัน สำหรับบรรยากาศจะสนุกขนาดไหน ไปชมภาพกันเลย

The post ‘ลำคลองงู’ ผจญภัยในป่าดิบชื้น ลอยคอในลำธาร ดูโกรกถ้ำดึกดำบรรพ์ appeared first on THE STANDARD.