รูปร่างดีกับการมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ควรมีไปพร้อมกัน แต่ […]
The post เคล็ดลับการดูแลรูปร่างที่ดีและสุขภาพที่ยั่งยืนแบบฉบับรมย์รวินท์คลินิก appeared first on THE STANDARD.
]]>
รูปร่างดีกับการมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ควรมีไปพร้อมกัน แต่ในปัจจุบันไม่ว่าจะด้วยเวลา, การจราจร, การทำงาน หรืออะไรก็ตาม กลับกลายเป็นสิ่งบีบรัดให้เรามีเวลาดูแลตัวเองและดูแลรูปร่างน้อยลง การจะมีรูปร่างที่ดีจึงจำเป็นต้องมีวินัยเป็นอย่างมาก ทั้งการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่งในสังคมสมัยใหม่ที่ทุกคนเอาแต่ทำงานหรือทำกิจวัตรต่าง ๆ ที่ต้องแข่งกับเวลา การดูแลรูปร่างโดยมีผู้มีความรู้ให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาแบบใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถสร้างรูปร่างที่ดีและสุขภาพที่ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน
การมีผู้ให้ความรู้และช่วยดูแลรูปร่าง จึงนับเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะช่วยออกแบบแผนการดูแลรูปร่างที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และยังช่วยลดความเสี่ยงจากอันตราย หรือผลข้างเคียงจากการดูแลรูปร่างแบบผิดวิธี หรือไม่เหมาะสมกับตนเองได้อีกด้วย

หมอแพร-พญ.ธิรดา จิตตการ ว.30170 แพทย์ประจำรมย์รวินท์คลินิก
1. ขั้นตอนการประเมินร่างกายอย่างละเอียด
ก่อนเริ่มเข้ารับบริการโปรแกรมดูแลรูปร่างที่รมย์รวินท์คลินิก จะมีการประเมินร่างกายโดยแพทย์ผู้มีความรู้ เพื่อวิเคราะห์สภาพร่างกายโดยรวมทั่วไป เช่น ปริมาณไขมันในร่างกาย, ปริมาณกล้ามเนื้อ, การวัดสัดส่วนบริเวณต่าง ๆ รวมถึงวัดระดับการเผาผลาญของร่างกายในแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไป และยังมีการประเมินสุขภาพโดยรวมว่ามีโรคประจำตัวอะไรที่ควรระมัดระวังในการดูแลรูปร่างเป็นพิเศษ เพื่อวางแผนการออกแบบรูปร่างและวิธีการรักษา ให้การรักษามีประสิทธิภาพ ได้ผลลัพธ์ที่ดี และได้รับความพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการ ทั้งนี้ แพทย์จะวางแผนร่วมกันกับผู้เข้ารับบริการถึงเหตุผลในการดูแลรูปร่างในแต่ละครั้ง สำหรับสร้างแรงบันดาลใจในการดูแลรูปร่างร่วมกันและพากันไปให้ถึงเป้าหมาย ไม่เพียงเท่านั้น แพทย์จะแนะนำการดูแลรูปร่างด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การใช้ชีวิตประจำวัน หรือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในขณะดูแลรูปร่างร่วมด้วย เพื่อให้การดูแลรูปร่างเป็นการดูแลรูปร่างที่ดีไปพร้อมกับสุขภาพดีและยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย
2. วางแผนการดูแลรูปร่างเฉพาะบุคคล
แพทย์จะประเมินการรักษารูปร่างเบื้องต้นของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคลว่าต้องได้รับการดูแลอย่างไร มีความต้องการอย่างไร เป้าหมายหรือความคาดหวังของรูปร่างในอนาคตเป็นอย่างไร เพื่อให้การรักษาสอดคล้องกับความต้องการและความเป็นไปได้ โดยใช้โปรแกรมในรมย์รวินท์คลินิกดูแล
3. เลือกเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสม
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เป็นตัวช่วยทุ่นแรงการออกกำลังกายมากมาย เป็นเทคโนโลยีที่มีการทดสอบและวิจัยรองรับแล้วว่ามีประสิทธิภาพ ซึ่งหากเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจะให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยสามารถใช้เทคโนโลยีที่ทุ่นแรงได้ทั้งการลดสัดส่วน, ลดไขมัน, ลดขนาดรูปร่าง, ลดไขมันเฉพาะส่วน, ลดไขมันในบริเวณที่ลดได้ยาก ตลอดจนใช้เทคโนโลยีกระชับผิวหนังที่เกิดความหย่อนคล้อย รวมถึงการสร้างกล้ามเนื้อ ปั้นซิกซ์แพ็กสำหรับผู้ที่ต้องการมีร่างกายที่ดูเป็นนักกีฬาและมีสุขภาพดี เช่น การลดไขมันด้วยความเย็นเฉพาะส่วน ซึ่งเน้นด้านการทำลายเซลล์ไขมันโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่รอบข้าง การใช้พลังงานไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อจะเน้นด้านการกระชับและสร้างกล้ามเนื้อพร้อมกับการเผาผลาญไขมันในเวลาเดียวกัน โดยวิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งลดไขมันและเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่าง แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกายก็ตาม
4. การติดตามผลอย่างใกล้ชิด
การดูแลรูปร่างที่ดี การติดตามผลการดูแลเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อประเมินความคืบหน้าและผลลัพธ์ในการดูแลและเพื่อนำมาปรับแผนการดูแลรูปร่างให้เหมาะสมกับความต้องการ โดยสิ่งที่ต้องทำในการติดตามผลคือ
5. ขั้นตอนทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การรักษาไม่เสี่ยงต่ออันตราย
เนื่องจากการรักษาภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้มีความรู้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากวิธีการดูแลรูปร่างที่ไม่เหมาะสม เช่น เกิดภาวะโยโย่ การอ่อนล้าในระหว่างวัน รวมถึงอาการวูบหรือหน้ามืดจากการดูแลรูปร่าง ซึ่งหากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้มีความรู้ อาการเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นการดูแลรูปร่าง ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ในวัยไหนก็ตาม หากได้รับการดูแลอย่างดีโดยผู้แพทย์ที่มีความรู้ จะทำให้ไม่เสี่ยงอันตราย และการลดรูปร่างจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหมจนเกินกว่าร่างกายจะรับไหว และยังจะได้สัดส่วนที่สวยงามสมส่วนตามความต้องการอีกด้วย
อ่านบทความต่อได้ที่ : https://www.romrawin.com/health-and-body/

The post เคล็ดลับการดูแลรูปร่างที่ดีและสุขภาพที่ยั่งยืนแบบฉบับรมย์รวินท์คลินิก appeared first on THE STANDARD.
]]>
เป็นที่รู้กันดีว่า Khloé Kardashian ออกกำลังกายอย่างหนั […]
The post มีคนเคยบอก Khloé Kardashian ว่าเธอไม่ตลกอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ลดน้ำหนัก appeared first on THE STANDARD.
]]>
เป็นที่รู้กันดีว่า Khloé Kardashian ออกกำลังกายอย่างหนัก และลดน้ำหนักไปเยอะมากตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแฟนๆ ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอผ่านรายการเรียลิตี้ของครอบครัวอย่าง Keeping Up with the Kardashian มาจนถึงรายการ The Kardashian ในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากรูปร่างที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังมีคนที่แสดงความเห็นว่า อารมณ์ขันของเธอก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
Khloé Kardashian พูดคุยกับอินฟลูเอ็นเซอร์ Whitney Simmons ในรายการพอดแคสต์ Klhoé in Wonderland ถึงประเด็นเรื่องการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพจิตของพวกเธอ โดย Khloé Kardashian เผยถึงเสียงวิจารณ์ที่ได้รับหลังการลดน้ำหนักครั้งใหญ่ และถึงขั้นมีคนบอกเธอด้วยว่า เธอทรยศต่อกลุ่มคนไซส์ใหญ่
“พวกเขาบอกว่าฉันไม่ใช่ตัวของตัวเอง ฉันไม่ตลกอีกต่อไปแล้ว และฉันไม่ใช่นู่นนี่นั่นทั้งที่ฉันก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ แค่ว่าความสวยงามในแบบของฉันมันเปลี่ยนไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
สุดท้าย Khloé Kardashian ก็มาถึงจุดที่ยอมรับความจริงว่า เธอไม่สามารถเอาใจทุกคนหรือทำให้ทุกคนมีความสุขได้ เธอเผยว่า
“รู้อะไรไหม ฉันไม่มีทางทำให้ทุกคนมีความสุขได้หรอก คำถามคือฉันแฮปปี้หรือเปล่า ถ้าใช้ก็โอเค”
สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจลดน้ำหนักก็คือการออกรายการเรียลิตี้ของครอบครัวและถูกสังคมวิจารณ์ว่าเธอตัวใหญ่กว่าพี่น้องของเธอมากขนาดไหน เธอเปิดใจว่า
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองอ้วน สิ่งที่น่าสนใจก็คือเมื่อมองย้อนกลับไป ฉันมาคิดได้ว่าเดี๋ยวนะ ฉันไม่ได้อ้วนอะไรขนาดนั้น และไม่อ้วนเท่าที่ฉันคิดตอนนั้นด้วย แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่แตกต่างจากนี้เหมือนกัน เพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่ผอมมาก”
ภาพ: Khloe Kardashian
อ้างอิง:
The post มีคนเคยบอก Khloé Kardashian ว่าเธอไม่ตลกอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ลดน้ำหนัก appeared first on THE STANDARD.
]]>
หลังเพิ่งได้รับคำชื่นชมไปมากมายสำหรับนักแสดงสาว โบว์-เม […]
The post “คนอวบก็มีความสวยเหมือนกัน” โบว์ เมลดา ตอบกลับหลังถูกวิจารณ์เรื่องรูปร่าง appeared first on THE STANDARD.
]]>
หลังเพิ่งได้รับคำชื่นชมไปมากมายสำหรับนักแสดงสาว โบว์-เมลดา สุศรี กับบทบาทของนักแสดงนำในละครเรื่องล่าสุด คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์ ที่เธอสามารถถ่ายทอดและแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โบว์กลับต้องได้มารับมือกับการที่เธอมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปร่างของเธอว่าอวบเกินไป เธอจึงได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวเมื่อวานนี้ (28 เมษายน) ได้อย่างน่าสนใจเช่นกัน
“ถ้าถามว่าอยากหุ่นดีไหม คือเรามีหุ่นในใจอยู่แล้ว หุ่นดีเราก็ชอบ ชอบจริงๆ แต่ยังทำไม่ได้ ไว้เป็นเรื่องของอนาคต ถ้าทำได้ก็ได้เห็นกันแน่นอน เดี๋ยวนี้สมัยใหม่แล้ว คนควรเสพผลงานและตัวตนของนักแสดงคนนั้นที่เผยออกมาให้เห็น
“หนูว่าสาวอวบทุกคนรู้แหละว่าตัวเองทำอะไรอยู่ กินอะไรอยู่ โบว์รู้ตัวว่ากินอาหารค่อนข้างดี แต่ด้วยระบบเผาผลาญมันไม่เท่ากับคนผอมๆ ที่กินแล้วไม่อ้วน อย่าคิดมากค่ะ สาวอวบก็สวยเหมือนกัน ผอมก็ไม่ได้แปลว่าสวยทุกคนนะ คนผอมก็มีความสวย คนอวบก็มีความสวยเหมือนกัน”
ภาพ: bow_maylada / Instagram
อ้างอิง:
The post “คนอวบก็มีความสวยเหมือนกัน” โบว์ เมลดา ตอบกลับหลังถูกวิจารณ์เรื่องรูปร่าง appeared first on THE STANDARD.
]]>
คนจีนเชื่อ ‘ความสูง’ กลายเป็นแต้มต่อได้ทำงานดี มากกว่าค […]
The post ชาวจีนเชื่อ ‘ความสูง’ เป็นแต้มต่อได้งานดี ยอมจ่ายค่าฮอร์โมนเสริมการเติบโตให้ลูกตั้งแต่ 5 ขวบ appeared first on THE STANDARD.
]]>
คนจีนเชื่อ ‘ความสูง’ กลายเป็นแต้มต่อได้ทำงานดี มากกว่าคนที่ไม่สูง แถมยังหาคู่สมรสได้ง่าย บางครอบครัวเครียดหนัก ยอมจ่ายเงินซื้อฮอร์โมนเร่งความสูงให้ลูกตั้งแต่ 5 ขวบ หวังสร้างรูปร่างให้ได้เปรียบในสังคม
Nikkei Asia รายงานว่า แม้ปัจจุบันเด็กชาวจีนจะมีความสูงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต แต่หลายครอบครัวยังคงต้องการให้ลูกของตัวเองสูงมากขึ้น เพราะเชื่อว่าความสูงจะมีผลต่อโอกาสในการหางานและการหาคู่ชีวิต ทำให้พ่อแม่หลายคนหันไปซื้อฮอร์โมนเร่งความสูง เพื่อให้ลูกมีรูปร่างที่ได้เปรียบในสังคม
NCD Risk Factor Collaboration เครือข่ายนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก ทำงานร่วมกับ องค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า ในช่วงปี 1986-2019 เด็กชาวจีนทั้งชายและเด็กหญิงอายุ 19 ปี มีความสูงเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับ 200 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากบทบาทของระบบสาธารณสุข โภชนาการที่ดี มีการบริโภคโปรตีน วิตามินดี และแคลเซียม ทำให้การเจริญเติบโตของเด็กดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อีกทั้งยังมีโครงการนมโรงเรียนแห่งชาติ แจกนมฟรีให้กับนักเรียนจำนวน 32.1 ล้านคนต่อวัน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเด็กทั่วประเทศ โดยเฉพาะชาวจีนในหลาย พื้นที่ทางภาคเหนือที่มีส่วนสูงเฉลี่ยลดลง เมื่อเทียบกับชาวจีนในนครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลกวางตุ้งที่มีส่วนสูงเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
ถึงกระนั้นแม้ว่าเด็กชาวจีนจะสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่พ่อแม่ส่วนใหญ่ยังต้องการให้ลูกสูงขึ้นอีก สะท้อนจากผลสำรวจของ China Children and Teenagers’ Fund ที่ได้สอบถาม คุณแม่ชาวจีน 4,000 คน พบว่า กว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถาม รู้สึกว่าลูกของตัวเองที่มีอายุระหว่าง 3-17 ปี ยังสูงไม่เท่าระดับที่พ่อแม่ตั้งเป้าเอาไว้
โดยเฉลี่ยแล้วพ่อแม่ของเด็กอายุ 16-17 ปี คาดหวังว่าลูกชายควรมีส่วนสูงประมาณ 180 ซม. และลูกสาวควรสูง 169 ซม.
ลู่เหวินหลี่ แพทย์จากโรงพยาบาลรุ่ยจินในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า พ่อแม่ชาวจีนส่วนใหญ่จะสอบถามว่า ทำไมลูกของตัวเองไม่สูงเหมือนคนอื่น ในเชิงเปรียบเทียบกับเด็กที่มีอายุใกล้เคียงกันแต่ในความเป็นจริงแล้วความสูงของเด็กบางคนนั้นถือว่าตรงตามมาตรฐานของประเทศแล้ว
ถามว่าทำไมคนจีนถึงให้ความสำคัญกับความสูงมากขึ้น เพราะสถานการณ์สังคมในจีน ผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง ทำให้การหาคู่ครองยากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้การหางานยากขึ้น โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
หลายบริษัทเปิดรับสมัครงานในบางตำแหน่ง ถึงขั้นกำหนดไว้ว่าผู้สมัครผู้ชายต้องมี ความสูงไม่น้อยกว่า 185 ซม. ส่วนผู้หญิงจะต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 170 ซม.
แน่นอนว่ามีส่วนทำให้คนจีนเชื่อว่าคนสูงดูดีจะมีโอกาสได้งานดีๆ มากกว่าคนที่ไม่สูง บางครอบครัวถึงขั้นพาลูกชายวัย 5 ขวบ ไปหาหมอ เพื่อฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญ เติบโต ควบคู่ไปกับให้ลูกกระโดดเชือก เล่นบาสเกตบอล และกิจกรรมทางกายเพื่อ กระตุ้นการเติบโตของร่างกาย ใช้ระยะเวลา 1 ปี เด็กชายก็สามารถสูงแซงหน้า เด็กวัยเดียวกันได้
รวมแล้วพ่อแม่หมดค่าใช้จ่ายยาเพิ่มความสูงพุ่งสูงถึง 130,000 หยวน หรือราว 640,000 บาท ทำให้มีบางคนเริ่มกังวลว่า การที่พ่อแม่ชาวจีนให้ความสำคัญกับความสูงของลูกๆ อาจทำให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมในสังคมแย่ลง เพราะพ่อแม่ที่มีกำลังซื้อก็จะมีโอกาสหาฮอร์โมนเร่งการเติบโตให้กับลูก ซึ่งจะทำให้ลูกได้เปรียบในการหาคู่สมรสและได้ทำงานที่มีเงินเดือนสูง ซึ่งอาจเป็นวงจรที่เกิดขึ้นไปสู่รุ่นต่อรุ่น
อีกผลกระทบจากการเพิ่มส่วนสูงในจีนเริ่มส่งผลต่อสังคมและเศรษฐกิจ ทำให้หลายหน่วยงานต้องปรับมาตรฐานด้านการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและรถไฟใต้ดิน รวมถึงบริษัทรถยนต์อย่าง BYD และ Nio เริ่มนำเปิดตัวรุ่นรถที่มีพื้นที่วางขากว้างขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ผู้ผลิตเสื้อผ้าก็เร่งพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับขนาดร่างกายของประชากรที่สูงขึ้น
ภาพ: James Jiao / Shutterstock
อ้างอิง:
The post ชาวจีนเชื่อ ‘ความสูง’ เป็นแต้มต่อได้งานดี ยอมจ่ายค่าฮอร์โมนเสริมการเติบโตให้ลูกตั้งแต่ 5 ขวบ appeared first on THE STANDARD.
]]>
Florence Pugh เปิดใจกับนิตยสาร British Vogue ถึงเหตุการ […]
The post Florence Pugh เผยว่า สิ่งที่คนบนโลกออนไลน์พูดถึงรูปร่างของเธอเป็นเรื่องที่แย่มาก appeared first on THE STANDARD.
]]>
Florence Pugh เปิดใจกับนิตยสาร British Vogue ถึงเหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมาที่เธอถูกคนบนโลกออนไลน์วิจารณ์เรื่องการแต่งตัวและรูปร่างอย่างหนัก ซึ่งเธอยอมรับว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและเธอเองก็เจ็บปวดกับมันมาก แต่ตอนนี้เธอก้าวข้ามผ่านมันมาได้ และเธอยืนยันว่าเธอก็อยากจะแสดงความเป็นตัวเองออกมาอยู่ดี
“มันยากลำบากนะ อินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ที่โหดร้ายมาก มันเจ็บปวดจริงๆ ที่ได้อ่านคอมเมนต์แย่ๆ ที่ผู้คนพูดถึงความมั่นใจหรือน้ำหนักของฉัน มันไม่เคยรู้สึกดีเลย สิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะทำให้ได้มาตลอดคือการไม่เป็นคนอื่น หรือไม่เป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวฉัน”
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เธอเรียนรู้ที่จะก้าวข้ามผ่านคำพูดเหล่านั้นมาแล้ว เพราะตอนนี้เธอรู้แล้วว่า เธออยากโชว์มุมมองไหนให้คนได้เห็น และรู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร
“แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันอยากแสดงอะไรออกไป ฉันรู้ว่าฉันอยากจะแสดงตัวตนไหนออกไป ฉันรู้ว่าฉันอยากเป็นใคร และรู้ว่าฉันเป็นแบบไหน มันไม่มีเรื่องความไม่มั่นใจในตัวตนของฉันอีกต่อไปแล้ว” Florence Pugh กล่าวเพิ่มเติม
เช่นเดียวกันกับปีที่แล้วที่เธอเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร ELLE UK ว่าเธอจะยังคงเชื่อมั่นในเรื่องอิสระในเรือนร่างของผู้หญิงต่อไป “ฉันจะพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูดเกี่ยวกับร่างกายของฉันต่อไป เพราะฉันจะไม่ซ่อนเซลลูไลต์ที่ขาหรือไขมันตรงแขนและหน้าอกหรอกนะ”
ภาพ: Stefania D’Alessandro / WireImage
อ้างอิง:
The post Florence Pugh เผยว่า สิ่งที่คนบนโลกออนไลน์พูดถึงรูปร่างของเธอเป็นเรื่องที่แย่มาก appeared first on THE STANDARD.
]]>
WONDERFRAME หรือ เฟรม-ศุภัคชญา สุขใบเย็น ศิลปินสาว ตอบก […]
The post “เราโดนล้อเรื่องน้ำหนักมาตั้งแต่จำความได้” WONDERFRAME ตอบกลับคอมเมนต์ที่วิจารณ์รูปร่างของเธอ appeared first on THE STANDARD.
]]>
WONDERFRAME หรือ เฟรม-ศุภัคชญา สุขใบเย็น ศิลปินสาว ตอบกลับคอมเมนต์ใน TikTok ที่พูดถึงรูปร่างของเธอ พร้อมแคปชันว่า “เราโดนล้อเรื่องน้ำหนักมาตั้งแต่จำความได้ ผ่านมา 29 ปี สังคมแห่งการบูลลี่นี้ไม่มีอะไรพัฒนาเลย คนพิมพ์แป๊บเดียวก็ลืม แต่คนที่โดนน่ะไม่เคยลืมเลย”
@wonderframe Replying to @ KINGKONG
⁷ amulet เราโดนล้อเรื่องน้ำหนักมาตั้งแต่จำความได้ ผ่านมา29ปี สังคมแห่งการบูลลี่นี้ไม่มีอะไรพัฒนาเลย คนพิมพ์แปปเดียวก็ลืม แต่คนที่โดนอะไม่เคยลืมเลย #wonderframe #วันเดอร์เฟรม ♬ original sound – Smootass
แม้ว่าเจ้าของร่างกายจะพึงพอใจกับรูปร่างของตนเองดี อย่างที่มีคนมากมายเข้ามาชื่นชมเฟรมทั้งรูปร่างและการแต่งตัว แต่ก็หนีไม่พ้นที่เธอต้องเจอกับความคิดเห็นและคำถามในเชิงล้อเลียน เช่น “หุ่นเปลี่ยนจนจำไม่ได้” หรือ “ไหนบอกว่าจะลดน้ำหนัก” ฯลฯ
ในคลิปวิดีโอดังกล่าว เฟรมตอบกลับคอมเมนต์หนึ่งเพื่ออธิบายว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุข้อเท้าหักขณะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเมื่อเดือนกรกฎาคม เธอจึงน้ำหนักขึ้น เพราะต้องงดเคลื่อนไหวร่างกาย ก่อนจะได้กลับมาขึ้นแสดงโชว์อย่างเต็มที่อีกครั้งในคอนเสิร์ต Wet & Wild Festival 2023 เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
“ตอนแรกเราผอมกว่านี้เยอะ แต่ว่าเราขาหัก ก็เลยไม่ได้ขยับร่างกาย เพราะเดินไม่ได้อยู่ 2 เดือน น้ำหนักเราก็ขึ้นมา และนั่นก็คือคอนเสิร์ตแรกหลังจากที่เราเดินได้และกลับมาเต้นได้ เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาบูลลี่เราขนาดนี้ น้ำหนักเราขึ้นมันก็ขึ้นที่ตัวเราเอง ไม่ได้ไปขึ้นกับพวกคุณสักหน่อย
“จริงๆ เรารู้สึกดีกับร่างกายตัวเองนะ เราก็ไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่เห็นคอมเมนต์พวกนี้ทำให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองน้อยลง ซึ่งจริงๆ มันไม่ควรเป็นแบบนั้นเลย”

ทั้งนี้ WONDERFRAME กำลังจะมีผลงานเพลงใหม่ชื่อว่า เด๋ง (Deng) รอรับชมมิวสิกวิดีโอได้ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ เวลา 16.00 น. ทาง YouTube: WONDERFRAME
ภาพ: WONDERFRAME
The post “เราโดนล้อเรื่องน้ำหนักมาตั้งแต่จำความได้” WONDERFRAME ตอบกลับคอมเมนต์ที่วิจารณ์รูปร่างของเธอ appeared first on THE STANDARD.
]]>
Florence Pugh เป็นหนึ่งในนักแสดงที่แสดงออกถึงความสบายใจ […]
The post “ฉันไม่ได้พยายามซ่อนเซลลูไลต์” Florence Pugh พูดถึงความมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง appeared first on THE STANDARD.
]]>
Florence Pugh เป็นหนึ่งในนักแสดงที่แสดงออกถึงความสบายใจในรูปร่างของตัวเองอยู่เรื่อยมา โดยล่าสุดเธอได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวผ่านนิตยสาร ELLE UK ว่า
“ฉันพูดถึงหุ่นของตัวเองแบบนี้ได้เพราะฉันไม่ได้พยายามซ่อนเซลลูไลต์ที่ต้นขา หรือซ่อนส่วนเกินที่อยู่ระหว่างแขนและหน้าอกของฉัน ฉันมักจะปล่อยมันออกเลยมากกว่า และฉันคิดว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับฉัน ก็คือการที่ผู้คนมารู้สึกโกรธเคืองว่าฉันโชว์ความเป็นตัวเองมากเกินไป”
Florence Pugh เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่เธอได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบ จากการสวมชุดซีทรูสีชมพูสดที่เผยให้เห็นหน้าอกไปที่งานแฟชั่นโชว์โอต์กูตูร์ของแบรนด์ Valentino ที่จัดขึ้น ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วด้วยว่า “ถ้าหากพูดถึงประเด็นเรื่องของชุดสีชมพูของ Valentino เมื่อปีที่แล้ว คือชุดมันสามารถมองเห็นหัวนมของฉันผ่านเนื้อผ้า และมันก็ทำให้คนอื่นโกรธมากเลย สิ่งที่พวกเขากลัวคือความเป็นอิสระต่างหาก กับความจริงที่ว่าฉันรู้สึกสบายใจและมีความสุขกับมัน”
Florence Pugh เผยอีกว่า การที่คนอื่นมีปฏิกิริยาเช่นนั้น แสดงให้เห็นว่าผู้คน ‘หวาดกลัวร่างกายของมนุษย์’ เธออธิบายว่า “การทำให้ผู้หญิงหมดความมั่นใจด้วยการวิจารณ์รูปร่างของพวกเธอมันเป็นวิธีที่ได้ผลมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันคิดว่าเราอยู่ในช่วงเวลาที่มีความย้อนแย้งนะ หลายคนพูดว่า ‘ฉันไม่สนใจหรอก’ แต่ก็น่าเศร้าที่เราเกิดหวาดกลัวร่างกายของมนุษย์ขึ้นมา จนถึงขั้นที่ว่าเราไม่อาจมองหัวนมสุดน่ารักทั้งสองของฉันผ่านเนื้อผ้าในแบบที่ไม่ใช่ในแง่ทางเพศได้ เราต้องย้ำเตือนทุกคนว่ามีเหตุผลมากกว่าหนึ่งข้อในการมีอยู่ของร่างกายผู้หญิงนะ”
ภาพ: Jacopo Raule / Getty Images
อ้างอิง:
The post “ฉันไม่ได้พยายามซ่อนเซลลูไลต์” Florence Pugh พูดถึงความมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง appeared first on THE STANDARD.
]]>
‘ออกกำลังกายแล้ว คุมอาหารแล้ว แต่อยากให้ไขมันส่วนเกินลด […]
The post ส่องตัวช่วยลดไขมันส่วนเกินตามคำแนะนำของแพทย์ในวันที่ลดเองไม่ทันใจ appeared first on THE STANDARD.
]]>
‘ออกกำลังกายแล้ว คุมอาหารแล้ว แต่อยากให้ไขมันส่วนเกินลดได้ไวกว่านี้ จะมีวิธีไหนช่วยได้บ้าง?’ เชื่อว่านี่น่าจะเป็นความรู้สึกลึกๆ ในใจของคนที่มุ่งมั่นกับการดูแลรูปร่างเพื่อให้ได้หุ่นในฝัน
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจว่าไขมันส่วนเกิน (Excess Fat) นั้นเกิดจากการที่ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารบางอย่างเกินกว่าที่ต้องการในแต่ละวัน โดยเฉพาะน้ำตาล คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถขับออกไปใช้เป็นพลังงานได้หมดจนก่อให้เกิดการสะสมในส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อเป็นพลังงานสำรอง
เมื่อเกิดการสะสมไปนานๆ เข้า ไขมันก็จะพอกพูนกลายเป็นไขมันส่วนเกินในที่สุด ซึ่งจริงๆ ไขมันส่วนเกินสามารถสะสมได้ทั้งในหลอดเลือด ช่องท้อง และใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนที่เรามองเห็นได้อย่างต้นขา หน้าท้อง ต้นแขน สะโพก เป็นต้น

งานนี้เราเลยถือโอกาสล้วงลึกข้อมูลกับ หมอคิม หรือ นายแพทย์กิตติธัช สินพิพัฒน์พร ผู้บริหาร La Ferly Clinic ผู้มีประสบการณ์โดดเด่นในการดูแลปัญหาเรื่องรูปร่าง ถึงวิธีการรับมือกับปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวหนัง มาดูกันว่าวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันอันไหนจะตอบโจทย์บ้าง รวมทั้งไขข้อสงสัยว่าคอร์สนวดที่เคลมว่าช่วยสลายไขมันต่างๆ ตามโซเชียลว่าได้ผลนั้นจริงแท้แค่ไหน
“การจะลดไขมันได้คือต้องออกกำลังกายและการคุมอาหาร คือพื้นฐาน ส่วนวิธีอื่นๆ คือ Option เสริม หมอเองออกกำลังกายมา 6 ปี แต่ด้วยตารางการทำงานที่ทำให้มีเวลาออกกำลังกายน้อย กินข้าวไม่เป็นเวลา ทำให้การจะลีนเห็นกล้ามชัดๆ นั้นยาก หมอเลยทำการดูดไขมันและใช้ J-Plasma ตัวที่ช่วยกระชับผิวจากข้างใน จะมีการเปิดรูแผลเล็กๆ และใส่ตัวกระชับเข้าไป” หมอคิมตอบอย่างตรงไปตรงมาแบบไม่ขายฝัน
“Venus Freeze Plus นวัตกรรมที่รวมการทำงานของคลื่นวิทยุ RF แบบหลายขั้ว และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MP2) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ทำให้ผิวยกกระชับ สลายไขมัน พร้อมช่วยลดเซลลูไลต์ไปในตัว”
“เหมาะกับคนที่มีผิวย้วย ไม่กระชับ คนที่ลดน้ำหนักไวเกินไป คุณแม่หลังคลอด รวมถึงคนที่เคยดูดไขมันมาด้วย เพราะการดูดไขมันนั้นผิวข้างในจะเกิดเป็นโพรง การนวดด้วย Venus Freeze Plus จะเป็นการช่วยปิดโพรงให้เล็กลง ส่งผลให้สัดส่วนกระชับขึ้น แต่หากไม่ได้ดูดไขมันก็จะช่วยให้ผิวกระชับได้ เพราะความร้อนจะลงไปลึก 3-4 มม. ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ยิ่งทำให้ผิวตึงกระชับมากขึ้น”
“ข้อดีของนวัตกรรมนี้คือมีตัววัดอุณหภูมิอยู่ตรงหัวนวด เราต้องทำให้อุณหภูมิขึ้นไปที่ 45 องศาเซลเซียส ถึงจะมีการกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุด และตัวเครื่องก็จะตัดเองอัตโนมัติ ไม่ทำให้ผิวเบิร์น ซึ่งต่างกับเครื่องอื่นที่ไม่มีหัววัดอุณหภูมิ”
“ทำครั้งแรกจะรู้สึกว่าผิวตึงกระชับขึ้น ถ้าไม่เคยนวดมาก่อนสัดส่วนอาจลดลงไปได้ 1 นิ้ว แนะนำให้ทำ 4 ครั้งขึ้นไปถึงจะเห็นผล”
“Venus Freeze Plus จะไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินเยอะหรือผิวที่ย้วยเกินไป เพราะเคสเหล่านั้นอาจต้องเพิ่มเลเวลการรักษาด้วยการดูดไขมันและทำ J-Plasma หรือถ้าผิวย้วยขั้นรุนแรงก็จะต้องตัดหนัง นอกจากนี้คือต้องมีเวลามาทำซ้ำ ทุก 3-7 วัน ถ้าทำต่อเนื่อง 10 ครั้ง จะเห็นผลเต็มประสิทธิภาพ คอลลาเจนจะใช้เวลาสร้างเต็มที่ 6 สัปดาห์ ถ้ามีการกระตุ้นซ้ำไปเรื่อยๆ สัดส่วนก็สามารถลงไปได้ 2-3 นิ้วเลยทีเดียว”
“ถ้าผิวบอบบางมากหรือผิวขาวหน่อยอาจจะรู้สึกปวดแสบเวลาทำ หรือระบมได้บ้าง”
“อาจจะกลับมาหย่อนได้บ้าง แต่จะไม่เท่าเดิม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วย”
“เนื่องจากเป็นนวัตกรรมแบบ Non-Invasive (ไม่ต้องผ่าตัด) จึงไม่ต้องมีเรื่องการเตรียมตัวเท่าไร ขอแค่อย่าให้ผิวมีแผลอักเสบก็พอ หรือใครที่เพิ่งไปสักมาก็ควรงด นอนพักผ่อนให้พอ และงดแอลกอฮอล์ เพราะเป็นตัวการที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว อาจเพิ่มโอกาสการช้ำได้ งดสูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน และควรดื่มน้ำมาเยอะๆ เพื่อช่วยให้ไขมันขับออกได้ดีทางน้ำเหลือง”
“นวัตกรรมดังกล่าวสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อได้จริง เพราะเป็นการทำให้กล้ามเนื้อมีการทำงาน เกิดการหดตัว แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีความสม่ำเสมอในการออกกำลังกาย คุมอาหาร ควบคู่ไปกับการใช้งานของเครื่อง”

“การสลายไขมันด้วยความเย็นถือเป็นการใช้ความเย็นในระดับที่ทำให้เซลล์ไขมันตาย แล้วค่อยๆ ให้ร่างกายขับเซลล์ไขมันออกมา กว่าจะเห็นผลเต็มที่คือ 3 เดือน ข้อดีคือไม่ก่อให้เกิดแผล เหมาะกับการสลายไขมันเฉพาะจุด แต่ถ้ามีปัญหาเยอะ เช่น หน้าท้องใหญ่มาก แขนใหญ่มาก อันนี้ก็จะไม่ตอบโจทย์ เนื่องจากต้องใช้หลายหัวดูดมาก ค่าใช้จ่ายต่อจุดก็สูง ซึ่งสลายไขมันได้ไม่เยอะเท่าการดูดไขมัน ลดได้อย่างมากไม่เกิน 100 ซีซี”
“ไม่แนะนำให้รักษากับหมอที่รับรักษาตามบ้าน รวมไปถึงพวกเครื่องนวดแบบไม่ได้มาตรฐาน ราคาเพียงหลักหมื่น เพราะถ้าเครื่องไม่ปลอดภัย ไม่มีตัวตรวจจับความร้อน ก็จะทำให้ผิวเบิร์นได้”
“การจะทำให้ไขมันสลายไขมันต้องใช้พลังงานความร้อน/เย็น ถ้าพลังงานสูงมากพอก็ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวได้ แต่ถ้านวด ตบ และตีด้วยมือ ความแรงไม่ถึง ไม่ลึกพอ ก็จะไม่สามารถช่วยให้ไขมันแตกหรือสลายได้ แต่สามารถช่วยให้ผิวกระชับขึ้นได้”

“ถ้าช่วยกระชับกับลดรอยแตก ครีมสามารถทำได้ การทาลงไปที่ผิวจะซึมลงไปได้ 2 มม. แต่ยังอยู่ในชั้นผิว ไม่มีทางที่จะทาครีมแล้วซึมลงลึกไปถึงชั้นไขมันได้ เพราะผิวหนังของเราเป็นเกราะป้องกันอยู่แล้ว ดังนั้นการทาครีมไม่สามารถช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนังได้ แต่สามารถช่วยให้ผิวกระชับตึงตัวขึ้นได้ ลดพวกรอยแตกลายได้ ความกระชับกับสลายไขมันนั้นไม่เหมือนกัน
“ส่วนพวกผลิตภัณฑ์ที่ทาลงบนผิวแล้วรู้สึกร้อน จะช่วยให้เส้นเลือดบริเวณนั้นขยายตัว พอเส้นเลือดขยายตัวแล้วเราไปออกกำลังกาย เลือดก็จะไปเลี้ยงไขมันตรงนั้นได้มากกว่า เมื่อเลือดเลี้ยงได้ดีกว่า การเบิร์นก็ดีกว่า ช่วยสลายไขมันได้มากกว่า แต่ทาแล้วต้องมีการแอ็กทีฟด้วย ไม่ใช่ทาเฉยๆ”
“ทุกปัญหารูปร่างนั้นสามารถรักษาได้ อยู่ที่ว่าแต่ละเคสอยู่ในระดับไหน ทางที่ดีคือควรจะให้แพทย์ประเมินเพื่อการรักษาที่ถูกจุด แต่อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายเป็นประจำ หมั่นกินอาหารที่ดี และดูแลตัวเองอยู่เสมอ คือวิธีที่ช่วยให้สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างยั่งยืนที่สุด”
La Ferly Clinic (Inthamara)
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น.
Address: 1450, V.R.C. Center, 1452 Inthamara 26/1 Alley
Budget: Venus Freeze Plus เริ่มต้นครั้งละ 3,900 บาท
Tel: 06 4695 9555
Website: https://laferlyclinic.com/
ข้อมูลอ้างอิง:
The post ส่องตัวช่วยลดไขมันส่วนเกินตามคำแนะนำของแพทย์ในวันที่ลดเองไม่ทันใจ appeared first on THE STANDARD.
]]>
ปัญหาผิวย้วยไม่กระชับที่เริ่มเกิดขึ้นตามความร่วงโรยของร […]
The post ผิวย้วยไม่กระชับและมีเซลลูไลต์ ปัญหาหนักใจที่แก้ด้วยตัวเองได้ถ้ารู้วิธี appeared first on THE STANDARD.
]]>
ปัญหาผิวย้วยไม่กระชับที่เริ่มเกิดขึ้นตามความร่วงโรยของร่างกาย หรือจากการลดน้ำหนักผิดวิธี เซลลูไลต์ตามขาที่โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย นั้นล้วนเป็นปัญหาที่เราเชื่อว่าใครต่างต้องเผชิญช่วงหนึ่งในชีวิต บ้างก็อาจเคยได้ยินถึงวิธีการรักษาตั้งแต่การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุง การเข้าคอร์สสปานวดกระชับ การพึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์ หรือถึงขั้นผ่าตัดไปเลยก็มี แต่สำหรับใครที่ยังอยากมองหาวิธีการรักษาด้วยตัวเอง ลองมาดูกันว่าแต่ละปัญหาจะมีวิธีรับมืออย่างไร
เซลลูไลต์ คือเซลล์ก้อนไขมันขนาดใหญ่ใต้ผิวหนังที่จับตัวเป็นก้อน เล็กบ้างใหญ่บ้างสลับไปมา ซึ่งจะนูนขึ้นมาบริเวณผิวหนังเลยทำให้ผิวดูเหมือนเป็นเปลือกส้มคลื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณต้นขา สะโพก ต้นแขน ก้น และหน้าท้อง
ปัญหาเซลลูไลต์เกิดได้กับคนทุกรูปร่าง แต่มักจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผลของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกาย และยังพบมากในคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือหลังคลอดบุตร

หลักการลดเซลลูไลต์แบบพื้นฐานคือการทำให้ตัวเองผอมลงด้วยการลดน้ำหนักอย่างมีคุณภาพ ซึ่งน้ำหนักที่ลดควรจะเป็นน้ำหนักของ ‘ไขมัน’ ไม่ใช่น้ำหนักของ ‘น้ำ’ ตามหลักแล้วการจะลดไขมันเพียวๆ ได้ 1 กิโลกรัม คุณจะต้องเผาผลาญพลังงานกว่า 7,700 แคลอรี
ดังนั้นหากคุณออกกำลังกายอย่างหนัก อดอาหาร กินน้อยๆ จนน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วไปในไม่กี่วัน ให้สันนิษฐานไว้ว่านั่นไม่ใช่ไขมันที่หายไป และวิธีดังกล่าวก็ไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืน
วิธีที่ได้ผลดีที่สุดคือการออกกำลังกายควบคู่ไปกับโภชนาการที่ดี โดยยึดหลักที่ว่า ‘กินให้น้อยกว่าใช้’
รู้หรือไม่ว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะมีเซลลูไลต์ได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดตีบ สูบฉีดได้ไม่ดี ส่งผลให้เซลล์ไขมันเกิดการบวมและฝ่อตัว จนไปกระตุ้นให้เกิดเซลลูไลต์ได้มากขึ้น
ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ (Saggy Skin)
ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ห้อย ไม่กระชับ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนักที่ไวเกินไป ลดผิดวิธีด้วยการอดอาหาร การออกกำลังกายหนักเกินไป ตลอดจนคุณแม่หลังคลอด
แต่ความไม่กระชับของสาเหตุข้างต้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกับความไม่กระชับที่เกิดจากความร่วงโรยของร่างกาย เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนในร่างกายที่ทำให้ผิวตึงกระชับจะค่อยๆ ลดลง

สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการกินคอลลาเจนวันละ 5-10 มิลลิกรัม เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ร่างกาย โดยกินในช่วงเช้าหรือก่อนนอนก็ได้
แนะนำให้เสริมการออกกำลังกายประเภทเวตเทรนนิ่ง เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้ร่างกาย น้ำหนักที่ใช้ควรจะเป็นน้ำหนักที่ยกได้ราวๆ 12 ครั้งต่อเซ็ต (ทำซ้ำ 3-4 เซ็ต) โดยครั้งสุดท้ายของแต่ละเซ็ตควรจะหมดแรงพอดี เมื่อกล้ามเนื้อเยอะขึ้นก็จะช่วยให้ผิวดูตึงขึ้นได้ และยังเป็นการช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
การจะสร้างกล้ามเนื้อได้นั้นไม่เพียงแต่อาศัยน้ำหนักที่หนักพอ แต่ยังต้องกินโปรตีนให้เพียงพออีกด้วย โดยเฉลี่ยแล้วเราควรจะกินโปรตีนราวๆ 1.2-1.6 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
เคยสังเกตไหมว่าช่วงไหนที่ผิวหน้าแห้ง ผิวจะดูหยาบกร้าน ไม่สดใส แต่งหน้าไม่ติด ในกรณีที่แห้งมากๆ ก็จะดูเหี่ยวโทรม ทั้งหมดนี้เกิดกับผิวกายได้เช่นกัน เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ผิวดูสุขภาพดีแลดูกระชับ คือมีความชุ่มชื้นจากภายใน ดังนั้นแนะนำให้หมั่นบำรุงผิวด้วยบอดี้แคร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเป็นประจำทุกวัน

Sol de Janeiro Brazilian Bum Bum Cream (2,050 บาท / 240 ml) – โซล เด จาเนโร บิวตี้แบรนด์สัญชาติบราซิลที่ขายได้ทุก 14 วินาทีใน Sephora อเมริกา ปักหลักลงไทยให้ได้ช้อปกันแล้ว และครีมกระปุกนี้ก็เรียกว่าเลื่องชื่อเรื่องคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับขึ้น และยังมาพร้อมกับกลิ่นหอมหวานของถั่วพิสตาชิโอ คาราเมล และวานิลลาอันเป็นเอกลักษณ์ ใครชอบกลิ่นหวานๆ น่าจะถูกใจไม่น้อย

Mesoestetic Bodyshock Firm’ Up (4,690 บาท / 150 ml) – ครีมกระชับสัดส่วนจากไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายใหม่ล่าสุดของทางแบรนด์อย่าง Bodyshock ที่ช่วยกระชับสัดส่วนบริเวณผิวที่มีความหย่อนคล้อยและสูญเสียความยืดหยุ่น เช่น บริเวณต้นแขน ต้นขา และสะโพก

Nudebody Peptide Body Creme (วางจำหน่ายทาง Sephora ประเทศไทยเดือนตุลาคม) – Nudebody เป็นไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายใหม่ภายใต้แบรนด์ Nudestix เรามีโอกาสได้ลองบอดี้ครีมแล้วต้องยกให้ติดท็อปบอดี้ครีมเท็กซ์เจอร์ และกลิ่นยอดเยี่ยมทันทีด้วยเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นละมุนหรูหราแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ และยังมีคุณสมบัติที่ช่วยทั้งเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดริ้วรอย พร้อมผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ เผยผิวสว่างและเนียนนุ่มยิ่งขึ้น

Clarins Tonic Body Treatment Oil (2,900 บาท / 100 ml) – ออยล์สกัดจากพืชบริสุทธิ์ 100% ด้วยเอสเซนเชียลออยล์ที่ได้จาก Rosemary, Geranium และ Mint ช่วยให้ผิวกระชับ ชุ่มชื้น เต่งตึง เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว พร้อมลดรอยแตกลาย และยังให้ความหอมหรูหราแบบฉบับที่แฟน Clarins ต้องหลงรัก
แสง UV นั้นถือเป็นศัตรูตัวร้ายของคอลลาเจน หากเราปล่อยให้ผิวเผชิญกับแสง UV ไปนานๆ จะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระในผิวหนัง ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ ไม่ยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่น และดูคล้ำขึ้นได้ ดังนั้นนอกจากผิวหน้าที่ต้องการครีมกันแดดแล้ว ผิวกายก็ไม่ควรขาดเช่นกัน

Ultra Violette Extreme Screen Hydrating Body & Hand Skinscreen SPF 50+ (1,020 บาท / 150 ml) – กันแดดที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยสีสัน แต่ยังมีเท็กซ์เจอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษสูงถึง 72 ชั่วโมง ด้วยส่วนผสมซูเปอร์แอ็กทีฟอย่าง Pentavitin ไม่ทิ้งคราบขาวติดเสื้อผ้า

Supergoop! Unseen Sunscreen Body Broad Spectrum Sunscreen SPF 40 PA+++ (1,800 บาท / 100 ml) – อีกแบรนด์กันแดดสีสันสดใสที่เป็นขวัญใจของใครหลายคน สูตรเจลเกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ให้ความเบาสบายผิว และยังเป็นสูตรคลีนอีกด้วย
อ้างอิง:
The post ผิวย้วยไม่กระชับและมีเซลลูไลต์ ปัญหาหนักใจที่แก้ด้วยตัวเองได้ถ้ารู้วิธี appeared first on THE STANDARD.
]]>
หลังจากที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอ Anti-Hero เป็นเพลงแรกในอัลบ […]
The post Taylor Swift ถอดฉากเครื่องชั่งน้ำหนักแสดงผลว่า ‘อ้วน’ ออกจากเอ็มวีเพลง Anti-Hero หลังถูกวิจารณ์ appeared first on THE STANDARD.
]]>
หลังจากที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอ Anti-Hero เป็นเพลงแรกในอัลบั้ม Midnights ที่เจ้าของเพลงอย่าง Taylor Swift เป็นผู้เขียนบทและกำกับเอง เธอก็ต้องพบกับเสียงวิจารณ์จากซีนหนึ่งในเอ็มวี โดยเป็นฉากที่ Taylor Swift ขึ้นเครื่องชั่งน้ำหนักด้วยความกังวล และกล้องก็โคลสอัพไปที่เครื่องชั่งน้ำหนักที่แสดงผลว่า ‘Fat’ หรือ ‘อ้วน’ ก่อนที่ตัวละคร Taylor Swift อีกคนที่ยืนมองอยู่จะส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง
ก่อนหน้านี้ Taylor Swift โพสต์ข้อความผ่าน Instagram ว่า เธอสะท้อนฝันร้ายและสิ่งที่รบกวนใจของตัวเธอเองผ่านมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ซึ่งเพลง Anti-Hero มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่ร้องว่า “บางครั้งฉันรู้สึกว่าทุกคนช่างดูเซ็กซี่เหลือเกิน และฉันคือปีศาจยักษ์บนภูเขาตัวหนึ่ง” อีกทั้งเธอยังเคยพูดถึงประสบการณ์การมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติมาแล้วอีกด้วย
ฉากดังกล่าวจึงก่อให้เกิดเป็นประเด็นที่ผู้คนนำมาถกเถียงกันในโลกโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง โดยหลายคนแสดงความผิดหวัง และให้ความเห็นว่ามันคือการ Anti-Fat เพราะดูเหมือนว่าในเอ็มวี Anti-Hero จะแสดงให้เห็นว่าสำหรับเธอแล้วความอ้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดี หนึ่งในนั้นยังมีเฟมินิสม์และนักเคลื่อนไหวชื่อดังอย่าง Kira-Lynn Ferderber ที่เขียนข้อความว่า “งานศิลปะที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่คุณกลัวที่สุดคือความอ้วน ก็คือศิลปะของอาการกลัวคนอ้วนนั่นแหละ”
ถึงแม้ว่า Taylor Swift ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว แต่เธอก็ลบฉากเครื่องชั่งน้ำหนักที่แสดงผลว่า ‘อ้วน’ ออกไปอย่างเงียบๆ ในแพลตฟอร์ม Apple Music เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภาพ: Taylor Swift
อ้างอิง:
The post Taylor Swift ถอดฉากเครื่องชั่งน้ำหนักแสดงผลว่า ‘อ้วน’ ออกจากเอ็มวีเพลง Anti-Hero หลังถูกวิจารณ์ appeared first on THE STANDARD.
]]>