ราเมศ รัตนะเชวง – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 06 May 2024 05:52:59 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ราเมศยืนยัน ไม่เห็นด้วยแก้กฎหมายลดความเป็นอิสระธนาคารแห่งประเทศไทย https://thestandard.co/rames-on-bot-independence/ Mon, 06 May 2024 05:52:46 +0000 https://thestandard.co/?p=930302 ราเมศ พูดถึง ธนาคารแห่งประเทศไทย

วันนี้ (6 พฤษภาคม) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ […]

The post ราเมศยืนยัน ไม่เห็นด้วยแก้กฎหมายลดความเป็นอิสระธนาคารแห่งประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ราเมศ พูดถึง ธนาคารแห่งประเทศไทย

วันนี้ (6 พฤษภาคม) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวและความคิดเห็นของฝั่งรัฐบาลที่ระบุว่า การแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทยฯ เพื่อลดความเป็นอิสระของ ธปท. ขอใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายว่า

 

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากการส่งสัญญาณผ่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ได้กล่าวถึง ธปท. ว่าเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แน่นอนว่าการส่งสัญญาณดังกล่าวเชื่อว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต้องหาวิธีการเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างแน่นอน

 

การแก้กฎหมายก็ย่อมเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ซึ่งหากมีการยื่นแก้ไข ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะการลดความเป็นอิสระของ ธปท. จะส่งผลเสียหายต่อประเทศ

 

ราเมศกล่าวต่อว่า การปรับปรุง พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทยฯ ล่าสุดเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่มีความครอบคลุมหลายส่วน ทั้งในเรื่องความเป็นอิสระ และให้มีความโปร่งใส สร้างการถ่วงดุลฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นผู้ใช้เงินให้อยู่ในหลักการที่ถูกต้อง และเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในสถานะทางการเงินของประเทศ ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทั่วโลกได้กำหนดให้ธนาคารกลางมีความเป็นอิสระ แยกการใช้อำนาจออกจากฝ่ายการเมืองอย่างชัดเจน

 

ราเมศกล่าวต่อว่า รัฐบาลอึดอัดใจ ไม่สบายใจต่อท่าทีของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการท้วงติงไม่เห็นด้วยกับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่พยายามผลักดัน แต่ด้วยกฎหมายมีความเข้มแข็งในเรื่องการปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รัฐบาลจึงไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ

 

เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดว่า นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยพ้นจากตำแหน่งเมื่อเสียชีวิต หรือลาออก หรือขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม หรือคณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ หรือคณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีหรือการเสนอของรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ธปท. เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ โดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง

 

ราเมศได้อธิบายต่อว่า การแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยความสุจริตใจเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เพื่อให้เห็นความคุ้มค่าของงบประมาณแผ่นดิน

 

ถ้ารัฐบาลเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง หรือถึงขั้นทุจริตต่อหน้าที่ บกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ ขอท้าให้รัฐบาลรีบปลดได้เลย

The post ราเมศยืนยัน ไม่เห็นด้วยแก้กฎหมายลดความเป็นอิสระธนาคารแห่งประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ราเมศเตือนนายกฯ ต้องรับผิดชอบ หาก ‘พิชิต ชื่นบาน’ รมต.ใหม่ มีคุณสมบัติขัดจริยธรรมร้ายแรง https://thestandard.co/rames-warns-the-prime-minister/ Sun, 28 Apr 2024 09:14:42 +0000 https://thestandard.co/?p=927687

วันนี้ (28 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ […]

The post ราเมศเตือนนายกฯ ต้องรับผิดชอบ หาก ‘พิชิต ชื่นบาน’ รมต.ใหม่ มีคุณสมบัติขัดจริยธรรมร้ายแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (28 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาลเศรษฐา โดยระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ทุกคน ขอให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง หลายคนมีความเหมาะสม แต่ก็ต้องติดตามในภาคปฏิบัติว่าจะทำหน้าที่เพื่อตอบแทนพี่น้องประชาชนหรือตอบแทนใคร

 

ราเมศกล่าวต่อไปว่า ในส่วน พิชิต ชื่นบาน ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น นายกฯ จะมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน เพราะนายกฯ ทราบข้อเท็จจริงดีว่าพิชิตมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติที่ต้องตีความว่า คดีละเมิดอำนาจศาล กรณีถุงขนม 2 ล้านบาท ที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำคุกและคดีถึงที่สุดแล้ว

 

ถ้าไปดูรายละเอียดในคำพิพากษาศาลฎีกาจะเห็นพฤติกรรมทั้งหมดที่ศาลได้ชี้ให้เห็นถึงการกระทำที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาลยุติธรรม และจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือและความศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในอำนาจตุลาการ จึงเห็นสมควรลงโทษในสถานหนัก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามคนละ 6 เดือน

 

ราเมศกล่าวด้วยว่า เรื่องทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน  มีหลักในรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ว่า คนที่จะเป็นรัฐมนตรีจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีหลักที่ต้องพิจารณาว่า เรื่องราวทั้งหมดของพิชิตที่ยุติแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกานั้นถือว่ามีความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ พฤติกรรมทั้งหมดที่ยุติแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกานั้นถือว่ามีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

 

ราเมศเชื่อว่าจะมีการยื่นตีความในเรื่องนี้อย่างแน่นอน และอย่าออกมาโต้ด้วยเหตุผลว่า มาตรา 98 มีคุณสมบัติครบ หรือใช้ข้ออ้างของ วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่าคดีเกิน 10 ปีแล้ว เพราะประเด็นที่พูดกันอยู่คือมาตรา 160 ที่มีเจตนารมณ์กำหนดความสำคัญของคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต สุดท้ายเรื่องนี้ผลเป็นเช่นไร นายกฯ ต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

The post ราเมศเตือนนายกฯ ต้องรับผิดชอบ หาก ‘พิชิต ชื่นบาน’ รมต.ใหม่ มีคุณสมบัติขัดจริยธรรมร้ายแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ราเมศยืนยัน ประชาธิปัตย์ไม่เคยส่งใครคุยทักษิณขอร่วมรัฐบาล https://thestandard.co/rames-rattanachaweng-15042024/ Mon, 15 Apr 2024 04:22:00 +0000 https://thestandard.co/?p=923109

วันนี้ (15 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ […]

The post ราเมศยืนยัน ประชาธิปัตย์ไม่เคยส่งใครคุยทักษิณขอร่วมรัฐบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (15 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับคนของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ (14 เมษายน)

 

ราเมศระบุว่า ในเรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลคงตอบได้ชัดเจนว่า ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคุยเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียว ทุกกระบวนการมีขั้นตอนของพรรคกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และที่ประชุมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรคกับ สส. ไม่มีใครที่จะมีอำนาจไปพูดคุยตกลงด้วยตนเองได้ และพรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้านซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพรรคทำหน้าที่อย่างเต็มที่ 

 

ราเมศกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยออกมากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่ามี DNA ที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ ตนเองในฐานะโฆษกพรรคก็ออกมาตอบแล้วว่ามีที่ทำสำเร็จมากมายที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มี DNA โกง นั่นแสดงให้เห็นว่าเรามีพันธุกรรมที่แตกต่างกัน 

 

“และผมก็ได้ถามนายกรัฐมนตรีไปหลายวันแล้วในเรื่องที่นายกรัฐมนตรีบอกว่ามีฝ่ายค้านไปขอร่วมรัฐบาลนั้น ถ้าลูกผู้ชายจริงก็ต้องเปิดเผยมาว่าเป็นใคร นายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยตอบ การทำให้เกิดความสับสน พรรคก็เสียหาย ซึ่งต่อมาตัวนายกรัฐมนตรีก็บอกเองว่ารัฐบาลมีเสียงเพียงพอแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปเพิ่มเสียงรัฐบาล นายกรัฐมนตรีก็พูดจาสับสน ถึงบอกว่าถ้าแน่จริงให้บอกมาเลยว่าใคร พรรคไหนที่ไปขอร่วมรัฐบาล” ราเมศกล่าว

 

ราเมศย้ำว่า ที่สำคัญ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยืนยันชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ทักษิณพูดแบบคลุมเครือ

 

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามถึงคนที่ทักษิณไปกินกาแฟด้วย และกล่าวถึง เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์นั้น เรื่องนี้ไม่ทราบจึงตอบแทนไม่ได้ ต้องสอบถามรายละเอียดจากเดชอิศม์เอง

The post ราเมศยืนยัน ประชาธิปัตย์ไม่เคยส่งใครคุยทักษิณขอร่วมรัฐบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประชาธิปัตย์ ขับอดีตผู้สมัคร สส. มีความสัมพันธ์ภิกษุ เหตุผิดข้อบังคับ-นำความเสื่อมเสียมาสู่พรรค https://thestandard.co/democrat-party-13042024/ Sat, 13 Apr 2024 06:19:43 +0000 https://thestandard.co/?p=922562

วันนี้ (13 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ […]

The post ประชาธิปัตย์ ขับอดีตผู้สมัคร สส. มีความสัมพันธ์ภิกษุ เหตุผิดข้อบังคับ-นำความเสื่อมเสียมาสู่พรรค appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (13 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการสอบข้อเท็จจริงตามที่ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ปรากฏข้อเท็จจริงกรณีมีสมาชิกพรรคซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระภิกษุ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่จำต้องสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะพรรคในฐานะเป็นสถาบันทางการเมือง ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตนของสมาชิกพรรค ต้องอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว 

 

ทั้งนี้ กรรมการสอบสวนประกอบด้วย ธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ประธานกรรมการ ราเมศ รัตนะเชวง และชริน เลี้ยงกาญจนกุล มีการประชุมสรุปลงความเห็นเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2567 คณะกรรมการได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการมีความเห็นว่ามีมูลความจริง ซึ่งคณะกรรมการไม่ขอชี้แจงลงลึกไปในรายละเอียด  

 

คณะกรรมการมีความเห็นต่อไปว่า สมาชิกพรรคคนดังกล่าวกระทำผิดข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อ 18 ประกอบข้อที่ 26 ที่กำหนดให้สมาชิกพรรคมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค รักษาชื่อเสียงของพรรคโดยไม่ปฏิบัติไปในทางที่จะนำความเสื่อมเสียมาสู่พรรค โดยเฉพาะมาตรฐานทางจริยธรรมที่ข้อบังคับพรรคได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตนของสมาชิกพรรค ที่ต้องอยู่ในกรอบของจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม 

 

ในประเด็นต่อมากรณีการพ้นสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกพรรคนั้น คณะกรรมการมีความเห็นต่อไปว่า ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ข้อที่ 124 กรณีที่สมาชิกพรรคได้กระทำการฝ่าฝืนจรรยาบรรณของพรรค ควรลงโทษสมาชิกพรรคโดยให้พ้นจากสมาชิกพรรค ที่กล่าวมาเป็นสรุปสาระสำคัญผลการสอบในขั้นตอนเบื้องต้น เพื่อนำเสนอในการพิจารณาขั้นตอนต่อไปตามข้อบังคับ

 

ราเมศกล่าวอีกว่า สมาชิกพรรคคนดังกล่าวยื่นหนังสือลาออกจากพรรคแล้ว ซึ่งทราบว่าพรรคลงรับเข้าสู่ระบบในวันนี้ (13 เมษายน) เมื่อเวลา 09.00 น. โดยประมาณ ซึ่งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจะนำรายละเอียดการสอบสวนทั้งหมดประกอบใบลาออกจากสมาชิกพรรค รายงานต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป

The post ประชาธิปัตย์ ขับอดีตผู้สมัคร สส. มีความสัมพันธ์ภิกษุ เหตุผิดข้อบังคับ-นำความเสื่อมเสียมาสู่พรรค appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประชาธิปัตย์ไม่นิ่งนอนใจ อดีตผู้สมัครหญิงมีความสัมพันธ์ภิกษุ ตั้งกรรมการสอบ ขีดเส้น 3 วันรู้ผล โทษสูงสุดขับออกพ้นพรรค https://thestandard.co/democrat-party-11042024/ Thu, 11 Apr 2024 04:02:07 +0000 https://thestandard.co/?p=921735

วันนี้ (11 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ […]

The post ประชาธิปัตย์ไม่นิ่งนอนใจ อดีตผู้สมัครหญิงมีความสัมพันธ์ภิกษุ ตั้งกรรมการสอบ ขีดเส้น 3 วันรู้ผล โทษสูงสุดขับออกพ้นพรรค appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (11 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อประเด็นที่มีภาพข่าวและคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเป็นสมาชิกของพรรค มีความสัมพันธ์กับพระภิกษุ ซึ่งปรากฏในโซเชียลมีเดียว่า พรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่วานนี้ (10 เมษายน) ในช่วงเย็น ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว และได้ติดตามเก็บข้อมูลในทันที รวมถึงตนในฐานะที่เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค จึงได้รายงานให้ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคทราบในทันที 

 

เนื่องจากเห็นว่าบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน ตลอดจนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องสถาบันครอบครัว ซึ่งเรื่องสำคัญดังกล่าวมีอยู่ในข้อบังคับพรรค หมวด 4 มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ข้อที่ 26 ที่ให้สมาชิกพรรคต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ตามที่ข้อบังคับพรรคระบุไว้อย่างเคร่งครัด 

 

เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้มีคำสั่งในทันทีเพื่อตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย ธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อดีต สส. จังหวัดชุมพร, ชริน เลี้ยงกาญจนกุล  ผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ และตน ในการร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด

 

ราเมศกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บุคคลที่อ้างดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ กับพรรค อีกทั้งไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค โดยในวันนี้คณะกรรมการฯ จะสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน จากนั้นจะได้รายงานต่อคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป ซึ่งหากพบว่าสมาชิกพรรคคนดังกล่าวมีการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคจะมีโทษถึงขั้นพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค

 

“นี่คือความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง เมื่อมีสมาชิกพรรคกระทำการไม่ถูกต้อง พรรคก็ต้องคัดกรองบุคคล ซึ่งในข้อบังคับพรรคได้ระบุความชัดเจนไว้ว่า สมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของประชาชน ข้อบังคับพรรคยังให้ความสำคัญในเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับสมาชิก พรรคจึงต้องดำเนินการตามกระบวนการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง” ราเมศกล่าว

The post ประชาธิปัตย์ไม่นิ่งนอนใจ อดีตผู้สมัครหญิงมีความสัมพันธ์ภิกษุ ตั้งกรรมการสอบ ขีดเส้น 3 วันรู้ผล โทษสูงสุดขับออกพ้นพรรค appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทราบมีชื่อคนจากพรรคในโผปรับ ครม. ย้ำไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ https://thestandard.co/democrat-party-never-talks-about-the-cabinet/ Tue, 02 Apr 2024 08:47:29 +0000 https://thestandard.co/?p=918400

วันนี้ (2 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ […]

The post โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทราบมีชื่อคนจากพรรคในโผปรับ ครม. ย้ำไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (2 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงรายงานข่าวเรื่องมีชื่อบุคคลในพรรคประชาธิปัตย์ปรากฏอยู่ในโผการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ทราบว่ามีแหล่งที่มาจากที่ใด ต้องไปถามคนปล่อยข่าว เพราะในพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคหรือประชุมร่วมระหว่าง สส. กับกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน ไม่อยากให้มีการรายงานข่าวเช่นนั้น เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายได้ 

 

ราเมศย้ำว่า เรื่องการร่วมรัฐบาลคือเรื่องใหญ่ที่มีกระบวนการกลไกในพรรคที่จะต้องพูดคุยกัน เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. ซึ่งยังไม่ได้หยิบยกมาพูดกัน พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็ต้องทำให้เต็มที่ ช่วงนี้มีการอภิปรายทั่วไป ในทางการเมือง ความเป็นสถาบันการเมืองจะมาเป็นมวยล้มไม่มีใครทำกัน ประชาชนจับตามองอยู่ตลอด 

 

“ผมในฐานะกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ในคณะกรรมการบริหารพรรคแต่อย่างใด และขอยืนยันว่า เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่เคยคุยกับใครในเรื่องดังกล่าวทั้งสิ้น” ราเมศระบุ

The post โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทราบมีชื่อคนจากพรรคในโผปรับ ครม. ย้ำไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประชาธิปัตย์เตรียมเก็บข้อมูลซักฟอกรัฐบาล ชี้ผลงานเดียวที่รัฐบาลมีคือเรื่องทักษิณ https://thestandard.co/democrat-party-no-confidence-debate/ Sun, 25 Feb 2024 04:59:16 +0000 https://thestandard.co/?p=904113 ประชาธิปัตย์

วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ประชาธิ […]

The post ประชาธิปัตย์เตรียมเก็บข้อมูลซักฟอกรัฐบาล ชี้ผลงานเดียวที่รัฐบาลมีคือเรื่องทักษิณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประชาธิปัตย์

วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ควรออกอาการมากเกินไป เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย 

 

ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างก็ต้องติดตาม และในเรื่องของห้วงเวลาก็เช่นกัน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเกิดขึ้นช่วงใด แต่พรรคมีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบในการเก็บข้อมูลการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว

 

ราเมศกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ทั้ง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังไม่ได้ตอบคำถามที่สังคมมีข้อสงสัยใดๆ เลย ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่โดยตรงตามหลักการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นการเลือกปฏิบัติคงใช้คำว่าสองมาตรฐานไม่ได้ แต่เป็นรัฐบาลที่ไม่มีมาตรฐานใดๆ ในหลักการความถูกต้องเลย โดยเฉพาะเรื่องของทักษิณ และเป็นเรื่องเดียวที่รัฐบาลทำงานและเป็นชิ้นงานอันประจักษ์ที่สุด

The post ประชาธิปัตย์เตรียมเก็บข้อมูลซักฟอกรัฐบาล ชี้ผลงานเดียวที่รัฐบาลมีคือเรื่องทักษิณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประมวลวาทะคนการเมืองหลัง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ได้รับการพักโทษ https://thestandard.co/thaksin-shinawatra-released-on-parole-opinion/ Mon, 19 Feb 2024 12:32:20 +0000 https://thestandard.co/?p=901831 ทักษิณ ชินวัตร

หลังจาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ […]

The post ประมวลวาทะคนการเมืองหลัง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ได้รับการพักโทษ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทักษิณ ชินวัตร

หลังจาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งนับได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศ และนับว่าเป็นการเดินทางกลับบ้านที่ประเทศไทยของทักษิณในรอบกว่า 16 ปี

 

THE STANDARD ชวนประมวลวาทะของคนการเมืองที่ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังทักษิณได้รับการพักโทษ

 

 

“หากรัฐบาลต้องการอำนวยความยุติธรรมให้แก่คุณทักษิณในฐานะผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งหรือการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง แนวทางในการดำเนินการต้องไม่ใช่การตอกย้ำระบบสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในประเทศ หรือส่งเสริมให้ใครคนใดคนหนึ่งได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นในทางกฎหมาย แต่รัฐบาลต้องยึดแนวทางที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ทุกคนอย่างทัดเทียมกัน”

 

– พรรคก้าวไกล

โพสต์ผ่านช่องทางสื่อสารของพรรค

18 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“ที่ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ใช้สองมาตรฐานกับทักษิณและนักโทษคนอื่นนั้น ขอย้ำว่าเราใช้มาตรฐานเดียวกัน เพราะคนอื่นก็ไปรักษาตัว”

 

– พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ให้สัมภาษณ์

18 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“คุณทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจตัวจริงเสียงจริงออกมาแล้ว…คงจะทำให้การบริหารจัดการทางการเมืองและการทำงานของคุณเศรษฐาและคณะรัฐมนตรีมีพลังที่เป็นเอกภาพ มีการขับเคลื่อนผลงานออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชนได้ เพราะคุณทักษิณคือศูนย์รวมแห่งอำนาจตัวจริง”

 

– วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก

18 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“ในฐานะพ่อก็ยินดีด้วยที่จะได้เจอลูก ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้อยู่กันอย่างครอบครัวมานาน ท่านก็กลับมาเข้ากระบวนการตามกฎหมายเรียบร้อย แล้วที่ได้ออกมาก็เป็นไปตามข้อกฎหมาย”

 

– เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ให้สัมภาษณ์

18 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“ในฐานะคนที่เป็นลูกคนหนึ่งต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตรที่ในวันนี้ผู้นำครอบครัวได้กลับบ้าน โดยเฉพาะหลานๆ ที่จะได้อยู่กับคุณปู่ คุณตา ก็ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตรอีกครั้ง”

 

– วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ให้สัมภาษณ์

18 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“บางครั้งเขาไม่มีจะกิน ไปขโมยนมกระป๋องในห้างยังต้องถูกจำคุก แต่นี่ทักษิณมีคดีที่ศาลตัดสินแล้วว่าทุจริต แล้วหนีไปต่างประเทศ 16-17 ปี แต่กลับมาไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว จึงขอถามประชาชนว่า กรณีของทักษิณถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกหรือไม่”

 

– กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

ให้สัมภาษณ์

19 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“คนเจ็บป่วยให้กำลังใจเขาบ้างเถอะ อย่าไปมองแต่เขาจะสร้างภาพ ถ้ายังวัยสัก 10 ปีแล้วมาห้อยแขนใส่เฝือกต้นคอ อาจจะบอกได้ว่ามันผิดปกติ แต่คนอายุ 70 ปีทำเรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย”

 

– ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ให้สัมภาษณ์

19 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“ต่อไปอาจมีคนอ้างในระหว่างที่ถูกคุมขังได้ว่าผมเป็นโรคทักษิณ เมื่อเป็นโรคทักษิณก็สามารถไปรักษาที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีใครรู้ ไม่ต้องมีใครทราบว่าจะรักษาอย่างไร ผมไม่อยากให้เกิดทักษิณโมเดลในปลายทางของกระบวนการยุติธรรม”

 

– ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์

ให้สัมภาษณ์

19 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“ไม่ได้มีอะไรที่เป็นการช่วยเหลือหรือสองมาตรฐาน เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามระเบียบปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้สังคมนี้บิดเบี้ยว”

 

– ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

ให้สัมภาษณ์

19 กุมภาพันธ์ 2567

 

  

“ถ้าป่วยร้ายแรง ผมเชื่อว่าสังคมไทยเป็นสังคมพุทธ มีความโอบอ้อมอารี ถ้าตัวท่านใกล้จะเสียชีวิตแล้ว หรือท่านอันตรายอย่างยิ่ง ผมว่าคนไทยไม่ใจไม้ไส้ระกำ เพียงแต่วันนี้เราไม่ได้รับคำยืนยัน วันนี้ยังไม่สาย คุณทักษิณก็ดี ญาติพี่น้องก็ดี หรือแพทย์ใหญ่แถลงตรงไปตรงมา ผมว่าทุกคนก็จบ”

 

– สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

ให้สัมภาษณ์

19 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

“กระดูกหักนี่ผมเห็นหักจริงนะ ไปทำล้อเล่น ไปทำเป็นสร้างภาพไม่ได้ และโดยตัวท่านก็มีโรคอยู่ ผมเชื่อว่าป่วยจริง”

 

– สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ให้สัมภาษณ์

19 กุมภาพันธ์ 2567

The post ประมวลวาทะคนการเมืองหลัง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ได้รับการพักโทษ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประชาธิปัตย์ชี้ พักโทษทักษิณสะท้อนคุกมีไว้ขังคนจน เตรียมเสนอแก้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ สกัดโรคทักษิณ https://thestandard.co/democrat-prisons-are-for-the-poor/ Mon, 19 Feb 2024 06:36:18 +0000 https://thestandard.co/?p=901739

วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ราเมศ รัตนะเ […]

The post ประชาธิปัตย์ชี้ พักโทษทักษิณสะท้อนคุกมีไว้ขังคนจน เตรียมเสนอแก้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ สกัดโรคทักษิณ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราได้แสดงจุดยืนเรื่องนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คุกมีไว้ขังคนจน เพื่อที่จะชี้ให้ประชาชนเห็นถึงกระบวนการยุติธรรมของกรมราชทัณฑ์ 

 

ราเมศกล่าวอีกว่า ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ การบังคับโทษในเรื่องของโทษผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายไร้ประสิทธิภาพ ต้องยอมรับว่าขณะนี้มีการดำเนินการในหลายเรื่องที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ซึ่งกระบวนการยุติธรรมต้องเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่กรณีทักษิณ ซึ่งต้องถามไปยังรัฐบาล กรณีที่เคยแถลงต่อนโยบาย ต่อรัฐสภา นายกรัฐมนตรีพูดชัดว่า การบริหารราชการแผ่นดินจะยึดหลักนิติธรรม คือการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โดยรัฐบาลไม่ได้ตระหนักถึงหลักนิติธรรมที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเลย 

 

ราเมศกล่าวต่อว่า ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับทักษิณเป็นความลับทั้งหมด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่สามารถตอบคำถามใดๆ มีการช่วยปกปิดความจริงอย่างเป็นระบบ หลักนิติธรรมถูกทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี เพราะประชาชนติดตามเรื่องนี้ทุกย่างก้าวของปลายทางกระบวนการยุติธรรม คืออำนาจตุลาการถูกท้าทายจากอำนาจราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นปลายทางของกระบวนการยุติธรรม ประชาชนรู้ทันในการกระทำของรัฐบาล รู้ทันในการวางแผนกรณีของทักษิณเข้าเกณฑ์การพักโทษเพราะว่ามีนักโทษอีกหลายคนที่ได้รับสิทธิในการพักโทษ 

 

“ทักษิณไม่ได้ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว นี่คือสิ่งที่สังคมตั้งคำถามว่าป่วยจริงหรือไม่ รักษาตัวอยู่จริงหรือไม่ ประชาชนรู้ทันหมดครับ ทุกคนในระบบทักษิณถวิลหาความยุติธรรมที่เท่าเทียม บอกว่าต้องการที่จะไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ แต่นั่นเป็นแค่ลมปากของรัฐบาล เป็นแค่ลมปากของผู้ที่มีอำนาจ ไม่ใช่คำพูดที่เกิดจากสามัญสำนึกของตัวผู้มีอำนาจที่แท้จริง ผมกล่าวหาว่านี่คือการเลือกปฏิบัติ การใช้อำนาจบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน นักโทษที่อยู่ในเรือนจำเป็นประชาชนเหมือนกัน เป็นประชาชนที่มีกฎหมาย มีระเบียบ มีข้อบังคับ ฉะนั้นแล้วทุกคนจะต้องถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน สองมาตรฐานไร้ความเท่าเทียม มิหนำซ้ำเหยียบย่ำอำนาจศาล” ราเมศย้ำ

 

ราเมศกล่าวท้วงติงกระบวนการยุติธรรมอีกว่า ในส่วนของอำนาจราชทัณฑ์อยู่ในหลักเกณฑ์และหลักการของประเทศ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้ ไม่ต้องวิเคราะห์เลยว่ากรณีของทักษิณจะทำให้รัฐบาลอยู่ได้หรืออยู่ไม่ได้ ตนว่าการกระทำทั้งหมดจะเป็นคำตอบในอนาคต และในกรณีนี้พรรคจะมีการเก็บข้อมูล ส่วนไหนที่ไม่เป็นไปตามหลักการในฐานะที่เราเป็นนักการเมืองและเป็นฝ่ายค้าน เราจะตามติดเรื่องนี้เหมือนที่ได้กระทำมาก่อนหน้า ซึ่งรัฐบาลที่ไร้ซึ่งหลักนิติธรรม ถ้ากระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนของการบังคับโทษเป็นเช่นนี้ ตนถามหน่อยว่าแล้วหลักการบ้านเมืองจะเหลืออะไร ประชาชนจะพึ่งหวังกระบวนการต่อจากนี้ไปได้อย่างไร และประชาชนติดใจหลักการกรณีนี้ว่ามีการจำคุกจริงๆ หรือไม่ 

 

ในส่วนของประชาธิปัตย์มีประเด็นที่เกี่ยวข้องเนื่องจากกรณีนี้ เราได้มีการเสนอร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมา และกฎหมายฉบับนี้ตนในฐานะกรรมการบริหารพรรคจะเสนอต่อที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้หยิบยกร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้มีการแก้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ในอำนาจของราชทัณฑ์ในบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้เป็นไปตามหลักกระบวนการยุติธรรม และความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง 

 

สาระสำคัญของร่างฯ ฉบับนี้ ได้มองเห็นถึงปัญหาของการบังคับโทษในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคณะกรรมการอิสระเพื่อพิจารณาประโยชน์ของผู้ต้องขัง เนื่องจากเมื่อศาลตัดสินไปแล้ว แต่ศาลไม่มีอำนาจในการพิเคราะห์พิจารณาว่าจะให้มีการลดโทษหรือพักโทษกับนักโทษคดีนี้อย่างไรบ้าง ซึ่งคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวควรจะมีโครงสร้างที่มีตัวแทนจากผู้พิพากษาในศาลฎีกา ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นต้น 

 

“ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมีการป้องกันการใช้อำนาจโดยอำเภอใจโดยองค์กรบางองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากรณีเดียวกับที่เกิดขึ้นกับทักษิณ จำคุกจริง-ไม่จริง ป่วยจริง-ไม่จริง รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจริง-ไม่จริง ทุกอย่างเป็นความลับทั้งหมด” ราเมศกล่าว 

 

พร้อมกับเพิ่มเติมอีกว่า ในการแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าวนั้น ก็เพื่อให้คงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐ นิติธรรม ปลายทางของกระบวนการยุติธรรม และการใช้อำนาจของกรมราชทัณฑ์อย่างแท้จริง ซึ่งพรรคการเมืองก็ต้องมีวุฒิภาวะในการตรวจสอบ และดำเนินการให้บ้านเมืองมีกฎเกณฑ์ มีกติกาภายใต้ระบบนิติรัฐ ฉะนั้นความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากถูกด้อยค่าให้ลดน้อยถอยลงจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ก็แสดงว่ากำลังเกิดอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายแล้ว

 

“ไม่มีใครสามารถอ้างได้ว่าเป็นโรคเช่นเดียวกับทักษิณ ต่อไปอาจมีคนอ้างในระหว่างที่ถูกคุมขังได้ว่าผมเป็นโรคทักษิณ เมื่อเป็นโรคทักษิณก็สามารถไปรักษาที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีใครรู้ ไม่ต้องมีใครทราบว่าจะรักษาอย่างไร ผมไม่อยากให้เกิดทักษิณโมเดลในปลายทางของกระบวนการยุติธรรม”

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองทิศทางการเมืองหลังจากนี้อย่างไรบ้าง ราเมศกล่าวว่า ตนมองว่ารัฐบาลนี้มีการสอดคล้องเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว เหตุผลของรัฐบาลจะไปปรึกษาทักษิณ หรือใครจะไปดำเนินการอย่างไรตนคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่รัฐบาลต้องตระหนักว่าสิ่งที่ได้ประกาศกับประชาชน สิ่งที่รัฐบาลต้องบริหารราชการแผ่นดินอยู่บนพื้นฐานหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องยึดหลักการนี้ให้มากที่สุด 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีนายกรัฐมนตรี 2 คน ราเมศกล่าวว่า โดยหลักรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้วนายกรัฐมนตรีมีคนเดียว แต่ความเชื่อมโยงผูกพันกัน หรือใครสามารถที่จะสั่งการให้นายกฯ ซ้ายหันขวาหันได้ ตนคิดว่าประชาชนทราบดีว่าใครคิดและใครเป็นคนทำ สิ่งนี้ในอนาคตจะเป็นคำตอบทั้งหมดว่าเรามีนายกฯ กี่คน 

 

ส่วนกรณีที่จะมีการยื่นกฎหมายแก้ปัญหาช่องโหว่ของกรมราชทัณฑ์จะต่อเนื่องถึงกรณีที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับเข้าประเทศหรือไม่ ราเมศกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดว่าในอนาคตจะเกิดขึ้นกับใคร แต่ถ้าเกิดว่าสิ่งหนึ่งที่เราตระหนักและคิดอยู่เสมอ เราจะสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นเป็นหลักการของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นแล้วการที่จะแก้ไขพระราชบัญญัติราชทัณฑ์เพื่อให้คงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรม ปลายทางของกระบวนการยุติธรรม และการใช้อำนาจของกรมราชทัณฑ์อย่างแท้จริง

The post ประชาธิปัตย์ชี้ พักโทษทักษิณสะท้อนคุกมีไว้ขังคนจน เตรียมเสนอแก้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ สกัดโรคทักษิณ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ราเมศแนะรัฐบาล ฟังความเห็น ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ให้มาก อย่าตั้งธงทำจนสร้างความเสียหายให้ประเทศ https://thestandard.co/rames-rattanachaweng-03022024/ Sat, 03 Feb 2024 07:42:06 +0000 https://thestandard.co/?p=895702

วันนี้ (3 กุมภาพันธ์) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปั […]

The post ราเมศแนะรัฐบาล ฟังความเห็น ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ให้มาก อย่าตั้งธงทำจนสร้างความเสียหายให้ประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (3 กุมภาพันธ์) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลระบุว่าโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเครื่องมือในการแก้วิกฤตประเทศว่า ในกรณีนี้มองได้ 2 มุม คือ ในส่วนที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายหลักของพรรคร่วมรัฐบาล จะต้องมีการผลักดันให้เกิดโครงการนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มองว่า ถ้ารัฐบาลประกาศไปแล้ว และดำเนินการได้ ก็ไม่ขัดข้อง เพราะถือเป็นนโยบายของพรรคการเมือง

 

แต่มีข้อเสนอแนะว่า ที่รัฐบาลระบุว่าเศรษฐกิจวิกฤตนั้น วิกฤตจริงหรือไม่ และจะต้องมีการฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ได้ให้ความเห็นในเรื่องข้อกฎหมาย แต่ส่วนที่จะต้องใช้ดุลยพินิจว่าเศรษฐกิจถึงขั้นวิกฤตจนต้องออกเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.กู้เงินหรือไม่ ส่วนนี้ยอมรับว่าไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกฤษฎีกา 

 

การที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นถือเป็นสิ่งที่ดี เชื่อว่าความเห็นดังกล่าวยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศ 

 

“ถ้ารัฐบาลตั้งธงเพียงอย่างเดียว ไม่รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ก็จะทำให้เป็นนโยบายที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศได้” ราเมศกล่าว

 

ราเมศกล่าวต่อว่า ในกระบวนการตรวจสอบของสภา พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ว่าจะไปในทิศทางใด และต้องดูว่ารัฐบาลจะกำหนดแนวทางเดินหน้าไปในทิศทางใด เพราะทอดเวลามานานพอสมควร 

The post ราเมศแนะรัฐบาล ฟังความเห็น ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ให้มาก อย่าตั้งธงทำจนสร้างความเสียหายให้ประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>