รายการแข่งขันทำอาหาร – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 16 Oct 2024 07:38:08 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Netflix ไฟเขียวทำรายการแข่งขัน Culinary Class Wars ซีซัน 2 https://thestandard.co/netflix-culinary-class-wars-season-2/ Wed, 16 Oct 2024 07:38:08 +0000 https://thestandard.co/?p=996564

รายการเรียลิตี้แข่งขันทำอาหารโปรดักชันยิ่งใหญ่อลังการอย […]

The post Netflix ไฟเขียวทำรายการแข่งขัน Culinary Class Wars ซีซัน 2 appeared first on THE STANDARD.

]]>

รายการเรียลิตี้แข่งขันทำอาหารโปรดักชันยิ่งใหญ่อลังการอย่าง Culinary Class Wars นับเป็นหนึ่งในโปรเจกต์สัญชาติเกาหลีใต้ที่ Netflix ทุ่มทุนมหาศาลและประสบความสำเร็จอย่างมากในซีซันแรก จนสามารถขึ้นท็อปอันดับ 1 ของลิสต์ซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่คนทั่วโลกรับชมมากที่สุดติดต่อกันถึง 3 สัปดาห์

 

ล่าสุดมีการคอนเฟิร์มออกมาแล้วว่า Netflix จะสร้าง Culinary Class Wars ซีซัน 2 อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ Netflix ก็ลงทุนสร้างรายการเรียลิตี้แข่งขันออกกำลังกายมาแล้วกับซีรีส์ Physical: 100 และประสบความสำเร็จจนได้สร้างซีซัน 2 มาแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งสำหรับรูปแบบรายการ Culinary Class Wars นั้นเป็นการแข่งขันของเชฟ 100 ชีวิตที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม นั่นคือกลุ่มช้อนขาวที่เป็นกลุ่มเชฟเซเลบริตี้ และกลุ่มช้อนดำที่รวบรวมเหล่าเชฟที่ไม่ได้มีชื่อเสียงจากทั่วสารทิศ

 

ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจะต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันทำอาหารภายใต้โจทย์ต่างๆ เพื่อชิงเงินรางวัล 300 ล้านวอน หรือราว 7.3 ล้านบาท ภายใต้การตัดสินของ แบคจงวอน บุคคลสำคัญแห่งแวดวงอาหารที่เป็นทั้งเชฟ, นักชิม, นักเขียน, นักค้นคว้าด้านอาหาร และซีอีโอเอ็นเตอร์เทนเนอร์ กับ อันซองแจ เชฟเพียงหนึ่งเดียวในเกาหลีใต้ที่ได้รับดาวมิชลิน 3 ดวง

 

Culinary Class Wars ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ชมทั้งในเกาหลีใต้และต่างประเทศหลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว และกลายเป็นรายการเกาหลีใต้ไม่มีสคริปต์รายการแรกของ Netflix ที่ได้ขึ้นอันดับ 1 ของลิสต์ซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และได้รับการรับชมมากที่สุดติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ซึ่งสำหรับซีซัน 2 ทาง Netflix ก็การันตีความสนุกและคุณภาพของรายการด้วยการนำทีมเบื้องหลังคนหลักๆ กลับมาทำซีซัน 2 อีกครั้ง ทั้งเหล่าโปรดิวเซอร์และนักเขียนจาก Studio Slam

 

ภาพ: Netflix

อ้างอิง:

The post Netflix ไฟเขียวทำรายการแข่งขัน Culinary Class Wars ซีซัน 2 appeared first on THE STANDARD.

]]>
แสดงความยินดี! บิว ภูเตโช คว้าแชมป์คนแรกของรายการ Hell’s Kitchen Thailand https://thestandard.co/bill-phutaecho-hells-kitchen-thailand/ Sun, 19 May 2024 13:08:48 +0000 https://thestandard.co/?p=935517 บิว ภูเตโช แชมป์คนแรกของรายการ Hell's Kitchen Thailand

หลังจากเปิดครัวนรกแข่งขันกันอย่างดุเดือดมานานร่วม 4 เดื […]

The post แสดงความยินดี! บิว ภูเตโช คว้าแชมป์คนแรกของรายการ Hell’s Kitchen Thailand appeared first on THE STANDARD.

]]>
บิว ภูเตโช แชมป์คนแรกของรายการ Hell's Kitchen Thailand

หลังจากเปิดครัวนรกแข่งขันกันอย่างดุเดือดมานานร่วม 4 เดือน ในที่สุดรายการ Hell’s Kitchen Thailand ก็เดินทางมาถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันนี้ (19 พฤษภาคม) และผู้ที่สามารถคว้าแชมป์และก้าวขึ้นมาเป็นเฮดเชฟมืออาชีพคนแรกมาครอง ได้แก่ บิว-ภูเตโช กาญจนกิตติกูล

 

 

สำหรับในรอบชิงชนะเลิศที่ออกอากาศในวันนี้เป็นการพิสูจน์ความสามารถด้านการทำอาหารกันระหว่าง บิว-ภูเตโช กาญจนกิตติกูล และ เคอร์-ณัฐศิมาภรณ์ หลักไชย ที่จะได้ทำหน้าที่เฮดเชฟในการรันครัวทุกขั้นตอน ร่วมมือกับเพื่อนผู้เข้าแข่งขันทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย ต่อหน้า 4 กรรมการ เชฟป้อม-ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล, เชฟเอียน-พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย, เชฟวิลเมนต์ ลีออง, เชฟอ๊อฟ-ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ ที่ยังคอยจับตาอย่างใกล้ชิดและดุดันเหมือนเคย พร้อมได้รับเกียรติจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาร่วมเป็นแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์ในการแข่งขันรอบสุดท้าย 

 

 

สำหรับรายชื่อสมาชิกฝั่งทีมบิว ประกอบด้วย เก่ง-ราชวัติ วิเชียรรัตน์, จิ๊บ-ชภรภัช ดาภาชุติสรรค์, มารวย-อิทธิกร ตั้งวัฒนารัตน์, ใบตอง-กมเลศ ฤทธิ์เดชา, พริกเผ็ช-ฐิติพันธุ์ จงยิ่งเจริญ 

 

ขณะที่สมาชิกทีมเคอร์ ประกอบด้วย เปียโร่-จัมเปียโร่ ควอตาเรโร่, ลูกจรรย์-บุญยวีร์ ภาคย์วิศาล, เบียร์-นราดล ภู่เกษร, เฟน-ภัทฐิชา เดชรุ่งเรือง และ เจมส์-ปิยศักดิ์ กัติยะ 

 

โดยเมนูจากฝั่งของบิวในรอบสุดท้ายประกอบด้วย Appetizer ได้แก่ Heaven Asian Tapas และ Slow Cooked Lobster ต่อด้วย Main Course ประกอบด้วย Snow Fish in the Forest และ Cow in the Backyard ปิดท้ายด้วย Dessert อย่าง Six Hearts of Sweetness และ After a Storm Comer Calm 

 

ขณะที่เมนูจากเคอร์ ประกอบด้วย Appetizer ได้แก่ Memories in Spain และ My First Lobster ต่อด้วย Main Course อย่าง Grandmother’s Chicken (Style Parisian) และ It’s Audition Day ปิดท้ายด้วย Dessert ได้แก่ Pavlova Mango Sticky Rice และ Opera Pandan 

 

และในช่วงสำคัญกับการเปิดประตูบานสุดท้ายซึ่งเป็นซิกเนเจอร์การตัดสินแชมป์ประจำรายการ ในที่สุดผู้ที่เดินออกมาเป็นคนแรกก็คือ ‘บิว’ ที่สามารถคว้าแชมป์มาได้ในที่สุด 

 

 

THE STANDARD POP ขอแสดงความยินดีกับเชฟบิวที่สามารถคว้าแชมป์และตำแหน่งเฮดเชฟมืออาชีพคนแรกของรายการ Hell’s Kitchen Thailand ซีซันแรกมาได้สำเร็จ

The post แสดงความยินดี! บิว ภูเตโช คว้าแชมป์คนแรกของรายการ Hell’s Kitchen Thailand appeared first on THE STANDARD.

]]>
Jinny’s Kitchen อีซอจิน-พัคซอจุน-จองยูมี-ชเวอูชิก-วี BTS กับรายการเรียลิตี้เปิดร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในเม็กซิโก https://thestandard.co/jinnys-kitchen-reality/ Thu, 02 Mar 2023 09:53:24 +0000 https://thestandard.co/?p=757739

  Jinny’s Kitchen รายการสายครัวที่ลงมือทำจริง เปิด […]

The post Jinny’s Kitchen อีซอจิน-พัคซอจุน-จองยูมี-ชเวอูชิก-วี BTS กับรายการเรียลิตี้เปิดร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในเม็กซิโก appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

Jinny’s Kitchen รายการสายครัวที่ลงมือทำจริง เปิดร้านจริง บริหารงานเองจริงๆ มีคอนเซปต์หลักเป็นการไปเปิดร้านอาหารเกาหลีในประเทศต่างๆ ทั่วโลก สมาชิกหลักของรายการประกอบด้วย อีซอจิน, พัคซอจุน, จองยูมี, ชเวอูชิก และ วี BTS การรวมตัวของ 5 คนดังที่มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างแต่ก็น่าสนใจ และยิ่งใครที่เคยดูรายการแฟรนไชส์ยุคก่อนหน้ามาแล้วอย่าง Youn’s Kitchen และ Youn’s Stay ควบคุมการผลิตโดยโปรดิวเซอร์คนดังของเกาหลีใต้อย่าง นายองซอก (3 Meals a Day, New Journey to the West และ The Game Caterers)

 

และหลังจากเราได้ดู EP.1 ที่มีความยาวสะใจ 1 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณไปแล้ว ก็รีวิวแบบรวบรัดแต่ได้ใจความเลยว่ายังคงสนุก น่ารัก และดูเพลินมาก เพราะรายการยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายที่เป็นลายเซ็นเฉพาะตัวของโปรดิวเซอร์นายองซอก และบรรยากาศที่อบอวลด้วยความสุข (ถึงแม้ว่างานจะยุ่งมาก) ของสมาชิกรายการทั้ง 5 คน ที่พอดูไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เราเผลออมยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะครั้งนี้ที่มีสมาชิกใหม่ระดับเวิลด์สตาร์อย่าง วี BTS มาร่วมจอยด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศความน่ารักน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลย

 

ใน Jinny’s Kitchen เราจะได้เห็นเหล่าคนดังมาร่วมกันเปิดร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีที่มีแต่ของน่ากิน เช่น คิมบับ, คอร์นด็อก, ต๊อกบกกี, รามยอน, บุลโกกิ, ไก่ทอด และอีกมากมาย โดยครั้งนี้พวกเขาท้าทายตัวเองด้วยการเปิดร้านเล็กๆ ที่เมืองริมทะเลอย่างบาคาลาร์ ประเทศเม็กซิโก สามารถติดตามรับชมพร้อมซับไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ผ่านแพลตฟอร์ม Prime Video และวันนี้เรามีบทสัมภาษณ์สนุกๆ ของพวกเขามาฝากกันด้วย

 

 

ได้กลับมาถ่ายทำรายการพร้อมสมาชิก (เกือบ) ครบทีมอีกครั้ง รู้สึกอย่างไรบ้าง

พัคซอจุน: การเข้าร่วม Jinny’s Kitchen ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของผมแล้ว ต่อจาก Youn’s Kitchen 2 และ Youn’s Stay ผมก็เลยรู้สึกชิลกับการถ่ายทำมากขึ้น นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้มาเม็กซิโก ผมคิดว่าแฟนๆ ของพวกเราที่อยู่ที่นี่น่าจะเซอร์ไพรส์และไม่คาดคิดมาก่อน ผู้ชมที่ดูรายการเองก็น่าจะได้เห็นความชิลของพวกเรา และสัมผัสได้ถึงเคมีระหว่างสมาชิกว่าพวกเราทั้ง 5 คนจะใช้เวลาร่วมกันที่นั่นแบบไหน ดังนั้นผมหวังว่าแฟนๆ จะตื่นเต้นที่จะได้ดูรายการนี้ครับ

 

จองยูมี: Jinny’s Kitchen ไม่เหมือนกับการถ่ายละครหรือถ่ายหนัง ฉันคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกับทีมงานและนักแสดงคนอื่นๆ มาต่อเนื่องในหลายๆ ซีซัน และมันทำให้ฉันได้มีประสบการณ์สุดพิเศษ พลังงานดีๆ รวมถึงการจัดการธุรกิจอย่างสุดความสามารถของพี่ซอจิน จนบางทีก็ทำให้ฉันลืมไปเลยว่าเรากำลังถ่ายรายการกันอยู่ค่ะ (หัวเราะ) แม้การทำงานในร้านอาหารจะเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยและวุ่นวายเล็กน้อย แต่ทีมงานรวมทั้งสมาชิกก็ยังสนุกไปด้วยกันในทุกๆ วัน ฉันคิดว่ามันจะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลยค่ะ และฉันหวังว่าผู้ชมที่ได้ดูพวกเราทำงานกันจะได้รับความเพลิดเพลินไปด้วยนะคะ

 

 

พวกคุณมีการเตรียมตัวด้านไหนเป็นพิเศษสำหรับการถ่ายทำในครั้งนี้บ้างหรือเปล่า

อีซอจิน: ผมไม่ได้เตรียมตัวหรือฝึกซ้อมอะไรมาล่วงหน้าเลย แต่หลังจากที่มาเป็นหัวหน้าทีม ผมก็ต้องจริงจังกับเรื่องธุรกิจ ทุกวันและทุกช่วงเวลาผมจะคิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ผลกำไรเพิ่มขึ้น (อีซอจินจบการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจจาก New York University Stern School of Business)



จองยูมี: มันคือเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเลยค่ะ เพื่อที่จะทำให้ท่านประธานพอใจ ฉันก็เลยอยากจะม้วนคิมบับให้ออกมาดีและสวยที่สุด ปกติฉันชอบกินคิมบับมาก แต่พอได้มาฝึกทำคิมบับจริงๆ จังๆ ถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่เมนูที่ทำได้ง่ายๆ เลย ฉันต้องฝึกเยอะมากๆ ถึงขนาดซื้อคิมบับกลับบ้านแล้วชำแหละออกมาเพื่อดูส่วนผสมข้างใน บางทีก็แวะไปร้านคิมบับที่ชอบ แล้วแอบดูด้วยว่าเขามีวิธีการทำอย่างไรด้วยค่ะ



พัคซอจุน: จากประสบการณ์ผมคิดว่าความอึดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ดังนั้นผมจึงออกกำลังกายให้หนักขึ้น ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ นะตอนที่อยู่ที่นั่น ตารางงานมันหนักมาก และทุกอย่างจะสำเร็จได้ยากถ้าคุณมีความอึดไม่มากพอ (หัวเราะ)



ชเวอูชิก: ผมได้เข้าร่วมรายการหลังจากถ่ายทำ Youn’s Stay ในเกาหลีไปเมื่อซีซันก่อน ดังนั้นสิ่งแรกที่ผมทำเมื่อไปถึงเม็กซิโกคือ การเตรียมร่างกายให้พร้อมและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของที่นั่นครับ



วี: ส่วนผมก็ได้ไปเรียนภาษาสเปนเพื่อเป็นการเตรียมตัวมาบ้าง และปกติผมเป็นคนหยิบจับหรือทำอะไรช้าไปหน่อย ก็เลยต้องพยายามฝึกให้ตัวเองเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ทำอะไรเร็วขึ้นเพื่อทำงานให้คล่องแคล่วในร้านอาหาร ผมจะตั้งใจทำงานอย่างหนักและพยายามเป็นเด็กฝึกงานที่ดีที่สุดครับ

 


มีโมเมนต์ไหนบ้างที่น่าประทับใจที่สุดตอนถ่ายทำรายการ

อีซอจิน: แน่นอนว่าต้องเป็นวันที่เรามียอดขายสูงสุด (ยิ้ม) ยอดขายที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอน เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกดีและสนุกกับการทำธุรกิจ กำไรคือราชา จริงไหมครับ?



ชเวอูชิก: แต่ละวันที่ผ่านไป ผมต้องปรับตัวให้เข้ากับการทำงานในร้านอาหารอยู่เรื่อยๆ แต่วันที่น่าจดจำที่สุดคือวันสุดท้ายครับ เราทำงานหนักมากจริงๆ เหงื่อของพวกเราไหลท่วมตัวขณะที่วิ่งวุ่นในร้านอาหาร เพราะมีลูกค้าเยอะมาก แม้มีบางอย่างที่น่าผิดหวัง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบด้วยดี ต้องขอบคุณหัวหน้าทีมอีซอจินของเราครับ



พัคซอจุน: มันยากเหมือนกันนะครับถ้าจะให้เลือกมาแค่เหตุการณ์เดียว แต่ประสบการณ์หนึ่งที่ผมชอบในรายการนี้ก็คือ ผมได้นำเสนออาหารแห่งจิตวิญญาณ แทนที่จะเป็นอาหารเกาหลีที่ดูประณีต ผมว่ามันแตกต่างแล้วก็ดีมากๆ เลยครับ


วี: เนื่องจากผมเป็นเด็กฝึกงาน ดังนั้นสิ่งที่ผมจดจำได้มากที่สุดก็คือการทำงานในทุกๆ วัน และความยุ่งวุ่นวายที่เราต้องเจอครับ แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายทำครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ที่ผมได้มีโอกาสทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่ดีและสร้างความทรงจำใหม่ๆ ร่วมกัน ส่วนแฟนๆ ที่บอกว่าอยากเห็นผมในรายการวาไรตี้บ้าง เชื่อว่า ARMY น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าผมทำอาหารได้แย่ที่สุดในวง เพราะฉะนั้นอาจเป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะจินตนาการภาพผมขณะที่กำลังทำอาหาร ผมเลยอยากให้ทุกคนคอยดูว่าผมจะพัฒนาทักษะด้านใหม่ๆ ของตัวเองได้ดีแค่ไหน   

 

 

อยากให้ทุกคนพูดถึงสมาชิกน้องใหม่อย่าง วี BTS กันสักหน่อย การทำงานกับเขาเป็นอย่างไรบ้าง

อีซอจิน: ผมคิดว่าเขาทำงานหนักมาก และทำงานออกมาได้ดีเลย



จองยูมี: นี่เป็นครั้งแรกของฉันที่ได้ร่วมงานกับวี เขานิสัยดีมาก และฉันรู้สึกดีมากๆ ที่ได้ทำงานร่วมกับเขา เพราะเขาทำงานหนักและช่วยฉันได้เยอะเลยค่ะ มากกว่าที่ฉันหวังไว้เสียอีก



พัคซอจุน: การได้ทำงานกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้ทุกวันของผมยอดเยี่ยมมากๆ ครับ



ชเวอูชิก: เพราะว่าพวกเรา 4 คนเคยทำงานร่วมกันมาก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้วีได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ดังนั้นเมื่อพวกเรามอบหมายงานให้เขาทำ เขาจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ผมได้เห็นด้านใหม่ๆ ของเขา ผมเคยคิดว่าเขายังเด็กอยู่มากและดูเป็นน้องเล็กที่น่ารัก แต่จากที่ผมได้เห็นเขาในรายการนี้ เขาเกินความคาดหมายของผมไปมาก พวกเรามีช่วงเวลาที่สนุกและความทรงจำที่ดีร่วมกัน ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ขอบคุณนะวี

 

 

ความพิเศษแบบไหนที่ทำให้ Jinny’s Kitchen แตกต่างจากรายการอื่นๆ

อีซอจิน: อย่างแรกเลยคือ แค่ชื่อก็มีความแตกต่างแล้ว และหน้าที่ในรายการก็มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมด้วย โดยเฉพาะครั้งนี้เรามีสมาชิกใหม่อย่าง วี BTS เพิ่มเข้ามา เขานำความสดใหม่มาให้พวกเราเยอะมาก ที่สำคัญคือคุณจะได้เห็นความมีชีวิตชีวาและพลังของคนหนุ่มสาว รายการนี้จะสดใสยิ่งกว่าซีซันที่ผ่านมา เพราะทีมเวิร์กของพวกเขายอดเยี่ยมมาก ดังนั้นการถ่ายทำจึงเป็นไปด้วยความสนุกในทุกวัน ผมหวังว่าคนที่ได้ดูรายการจะสัมผัสได้ถึงพลังงานและความสดใสของพวกเขาครับ

 

จองยูมี: ทุกอย่างเลยค่ะ คุณไม่สามารถจะพลาดอะไรในรายการได้เลย เมนูในซีซันนี้ก็มีความแตกต่างไปจากเดิม การได้วีเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งความพิเศษ นอกจากนี้สถานการณ์และบรรยากาศก็มีความแตกต่างจากซีซันก่อนๆ ซึ่งฉันคิดว่ามันดีมากๆ เลย



พัคซอจุน: สำหรับรายการในซีซันก่อนๆ อาหารเกาหลีที่เราทำขายกันค่อนข้างจะเป็นแบบดั้งเดิมที่มีความพิถีพิถัน แต่ในครั้งนี้เรานำเสนออาหารสตรีทฟู้ด ซึ่งบอกตามตรงว่าผมคุ้นเคยกับอาหารแบบนี้มากกว่า จริงๆ ผมอยากจะเรียกมันว่าอาหารแห่งจิตวิญญาณมากกว่าสตรีทฟู้ดด้วยซ้ำ ผมหวังผู้ชมจะชื่นชอบอาหารที่เราทำและอยากลองกินดูบ้างครับ



ชเวอูชิก: เคมีของพวกเราทุกคนดีมากๆ ผมรับรองว่าจะมีด้านใหม่ๆ ให้ผู้ชมได้เห็นในรายการ Jinny’s Kitchen แน่นอน แค่การดูพวกเราพูดคุยกันก็น่าจะทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกได้แล้ว นอกจากนี้ผมยังประทับใจที่ได้เห็นผู้คนมากมายมีโอกาสลองกินสตรีทฟู้ดของเกาหลี ซึ่งเป็นเหมือนอาหารแห่งจิตวิญญาณของพวกเรา มันทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอมใจมากครับ



วี: ผมคิดว่าการมีคุณอีซอจินเป็นหัวหน้าทีมนั่นก็พิเศษเพียงพอแล้วครับ

 

 

ฝากข้อความถึงผู้ชมทั่วโลกที่กำลังรอชมรายการ Jinny’s Kitchen สักหน่อย

อีซอจิน: ขอให้ทุกคนรับชมรายการด้วยความสนุกสนานนะครับ ผมคิดว่ามีแฟนๆ จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ชื่นชอบรายการของโปรดิวเซอร์นายองซอก และเพราะรายการนี้สามารถรับชมได้ทั่วโลกผ่านทาง Prime Video ผมเลยตื่นเต้นมากๆ อยากรู้ว่าจะได้รับเสียงตอบรับแบบไหนบ้างจากผู้ชม



จองยูมี: ฉันจะดีใจมากๆ เลยค่ะถ้าคุณสนุกไปกับการดูรายการ Jinny’s Kitchen และสำหรับคนที่อยู่ในวงการร้านอาหาร ถ้าคุณได้ดูรายการของเรา ฉันอยากบอกว่าฉันชื่นชมพวกคุณมากๆ



พัคซอจุน: พวกเราทำงานอย่างหนักขณะถ่ายทำรายการในเม็กซิโก ถ้าจะมีอะไรที่พวกเราต้องปรับปรุงแก้ไขอีก ผมหวังว่าผู้ชมจะเข้าใจพวกเรา ผมเองก็รอที่จะชมรายการเหมือนกัน และคิดว่ามีองค์ประกอบสนุกๆ มากมายอยู่ในนั้น ดังนั้นผมคิดว่าคุณน่าจะสนุกไปกับรายการด้วย ช่วยติดตามชมรายการ Jinny’s Kitchen กันเยอะๆ นะครับ

 

วี: คุณจะได้เห็นพวกเราเจอกับความยุ่งยาก และนี่เป็นรายการวาไรตี้โชว์ที่มีหลายส่วนเชื่อมโยงกับผู้ชม เพราะฉะนั้นช่วยให้กำลังใจพวกเรากันเยอะๆ นะครับ



ชเวอูชิก: สำหรับแฟนๆ จากทั่วโลกที่รอชมรายการ Jinny’s Kitchen ซีซันนี้มีเรื่องราวสนุกๆ เยอะมาก และมันก็น่าตื่นเต้นมากจริงๆ พวกเราจะพยายามเก็บภาพความสวยงามของบรรยากาศในประเทศเม็กซิโกมาฝากทุกคน ผมหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับพวกเรานะครับ

 

 

The post Jinny’s Kitchen อีซอจิน-พัคซอจุน-จองยูมี-ชเวอูชิก-วี BTS กับรายการเรียลิตี้เปิดร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในเม็กซิโก appeared first on THE STANDARD.

]]>
MasterChef Thailand Season 5 EP.2 วันที่อาหารไม่น่ากิน แต่ฝึกสกิลกันหนักมาก https://thestandard.co/masterchef-thailand-season-5-ep2/ Mon, 21 Feb 2022 13:37:03 +0000 https://thestandard.co/?p=596921 MasterChef Thailand Season 5 EP.2 วันที่อาหารไม่น่ากิน แต่ฝึกสกิลกันหนักมาก

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหลายๆ คนที่ติดตามชมรายการแข่งขันทำอ […]

The post MasterChef Thailand Season 5 EP.2 วันที่อาหารไม่น่ากิน แต่ฝึกสกิลกันหนักมาก appeared first on THE STANDARD.

]]>
MasterChef Thailand Season 5 EP.2 วันที่อาหารไม่น่ากิน แต่ฝึกสกิลกันหนักมาก

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหลายๆ คนที่ติดตามชมรายการแข่งขันทำอาหาร MasterChef Thailand ในซีซันที่ 5 จะเกิดความรู้สึกเดียวกับผู้เขียนหรือไม่ ความรู้สึกที่ยังเดาไม่ถูกว่าซีซันนี้จะออกมาในทิศทางไหน แต่แอบลุ้นลึกๆ ให้รายการ ‘เปลี่ยนรูปแบบใหม่จริงๆ’ และชูความเป็นโฮมคุกของเหล่าผู้เข้าแข่งขันเหมือนกับที่โปรโมตมาตลอด ซึ่งหลังจากที่ได้ดู EP.2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 จบ ก็ต้องยอมรับว่าน่าติดตามมากๆ จริงๆ 

 

จากตอนที่ 1 ผู้เข้าแข่งขันต้องทอดไข่ดาว ตำน้ำพริกกันแบบดุเดือดประมาณ Fight for your apron จนความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เหลือผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 12 คนจาก 60 คน นับว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก และเกิดการตั้งคำถามว่าบางคนสมควรถูกตัดสิทธิ์จากความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยมากจริงหรือ นั่นทำให้ในตอนที่ 2 ทางรายการได้ติดต่อกลับไปยังผู้เข้าแข่งขัน 24 คน เพื่อมอบโอกาสต่อสู้ครั้งที่ 2 ในการชิงผ้ากันเปื้อน

 

 

#ต้องทำงานเป็นทีมให้ได้แม้กับคนไม่รู้จัก

รายการเริ่มต้นจากให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม และเลือกหัวหน้าทีม มาแค่นี้ก็สนุกแล้ว เพราะทุกคนยังไม่มีโอกาสรู้จักหรือเคยเห็นการทำงานของกันและกันมาก่อน แต่เมื่อมันคือโจทย์ ทุกคนก็แบ่งออกเป็นทีมสีชมพู นำโดยเอม และทีมสีฟ้า นำโดยโหน่ง และเริ่มทำอาหารด้วยกัน 

 

 

#การบริหารจัดการความเด็ดขาดและการแก้ปัญหาคือสกิลสำคัญของเฮดเชฟ 

หลังจากแบ่งทีมเรียบร้อย โจทย์แรกเลยคือการทำอาหารคาว 1 จาน และหวาน 1 จาน จากวัตถุดิบหลักทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ เนื้อออสเตรเลียนส่วนริบอาย ปูม้า และลูกตาล เพื่อเสิร์ฟให้กับคณะกรรมการทั้ง 50 เสิร์ฟ ซึ่งแน่นอนว่าโฮมคุกแต่ละคนมีแบ็กกราวด์การทำอาหารที่แตกต่าง ไม่ใช่ว่าเคยผ่านโรงเรียนสอนทำอาหารมาก่อนและสามารถสรุปได้ทันทีว่าทุกคนเข้าใจเทคนิคพื้นฐานเหมือนกัน รวมถึงไม่ใช่โฮมคุกทุกคนเคยทำอาหารสเกลใหญ่ขนาดนี้ ทุกอย่างจึงกลายเป็นความโกลาหล ที่เอาเข้าจริงหากอาหารออกมาเป๊ะสิ จะแปลกใจ 

 

สกิลที่ได้เรียนรู้ชัดเจนคือภาวะความเป็นผู้นำของคนที่ถูกเลือกมาเป็นเฮดเชฟ เพราะในครัว หากทุกอย่างถูกวางแผน แบ่งงาน และฟังคำสั่งจากคนคนเดียว จะช่วยให้หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายผ่านไปได้ด้วยดี นั่นทำให้จากตรงนี้หัวหน้าทีมสีฟ้าถูกเปลี่ยนกลางคัน เมื่อเกิดการตัดสินใจที่ไม่เด็ดขาดพอ 

 

 

#อาหารต้องได้มาตรฐานสัญญาแบบไหนต้องเสิร์ฟแบบนั้น 

แน่นอนว่าจากความโกลาหลของคน 24 คนที่ต้องทำอาหารให้คนจำนวนมากร่วมกันเป็นครั้งแรก แทบเป็นไปไม่ได้เลยว่าอาหารจะออกมาเป๊ะ ซึ่งเหล่าคณะกรรมการก็ได้ให้ข้อติชมที่เป็นประโยชน์มาก ซึ่งสิ่งที่เราเชื่อว่าโฮมคุกทุกคนได้เรียนรู้จากเรื่องนี้คือมาตรฐานว่าเมื่อสัญญาว่าจะเสิร์ฟแบบไหนต้องทำให้ได้ และต้องได้มาตรฐานเหมือนกันทุกจาน ที่สำคัญตอนนี้เป็นตอนที่ทำให้เรารู้สึกว่า มาสเตอร์เชฟซีซันนี้ไม่ได้ต้องการคนที่สกิลล้ำเลิศเสิร์ฟไฟน์ไดนิ่งตลอดเวลา แต่สอนเบสิกสกิลก้นครัวจริงๆ ที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ดีต่อการเป็นเชฟ 

 

อีกอย่างกลายเป็นเรารู้สึกชัดเจนมากว่าจากวัตถุดิบที่ได้มา แต่ละคนไม่จำเป็นต้องทำอะไรแฟนซีเพื่อ Impress กรรมการเลย แต่ทำจานคลาสสิกที่อร่อยต่างหากที่สำคัญที่สุด 

 

‘อาหารออกมาหน้าตาแย่มากๆ แต่ยอมรับว่าทั้งตอนนี้คือคลาสเรียนเรียนทำอาหารชั้นดีที่ทำให้เหล่าโฮมคุก (และเราคนดู) ได้ฝึกสกิลในครัวกันหนักมาก’ นี่คือสรุปที่เราได้เรียนรู้จาก EP.2 นี้ ส่วนตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ใครจะเป็นแชมป์มาสเตอร์เชฟคนใหม่ เราจะคอยรายงานให้ได้อ่านกันต่อไป 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/masterchefthailand

 

ภาพ: MasterChef Thailand

The post MasterChef Thailand Season 5 EP.2 วันที่อาหารไม่น่ากิน แต่ฝึกสกิลกันหนักมาก appeared first on THE STANDARD.

]]>
เริ่มแล้ว MasterChef Thailand Season 5 กับรูปแบบใหม่ที่เฉลิมฉลองความเป็น Home Cook มากกว่าเดิม https://thestandard.co/masterchef-thailand-season-5/ Tue, 15 Feb 2022 10:28:11 +0000 https://thestandard.co/?p=594786 MasterChef Thailand Season 5

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายการแข่งขัน […]

The post เริ่มแล้ว MasterChef Thailand Season 5 กับรูปแบบใหม่ที่เฉลิมฉลองความเป็น Home Cook มากกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
MasterChef Thailand Season 5

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายการแข่งขันทำอาหาร MasterChef Thailand Season 5 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สำหรับในซีซันนี้เราเชื่อว่าแฟนรายการหลายคนแอบตั้งตารอคอยไม่น้อย เพราะก่อนออกอากาศทางรายการได้ปล่อยทีเซอร์โปรโมตยกใหญ่ว่าการกลับมาครั้งนี้จะยิ่งใหญ่ และเปลี่ยนรูปแบบไปไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน 

 

ซึ่งหลังผ่านอีพีแรกไปก็ต้องบอกว่า MasterChef Thailand Season 5 กลับมาอย่างน่าสนใจจริงๆ มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง เราสรุปมาเล่าให้คุณฟังกัน 

 

ในเอพิโสดแรกเป็นตอนที่เหล่าผู้เข้าแข่งขันจะต้องรับบททดสอบแรกเพื่อช่วงชิง ‘ผ้ากันเปื้อนมาสเตอร์เชฟสีขาว’ ที่จะมีไว้ให้กับผู้เข้าแข่งในรอบจริงเพียง 12 คนเท่านั้น ซึ่งในตอนแรกผู้เข้าแข่งขันทั้ง 30 คนที่ผ่านเข้ารอบก็ต้องเซอร์ไพรส์ เพราะยังมีอีก 30 คนจากทางบ้านมาร่วมแข่งขันในรอบนี้ด้วย เท่ากับว่าในรอบคัดเลือกนี้จะคัดเพียง 12 คน จากทั้งหมด 60 คน หรือคิดเป็น 1 ใน 5 เท่านั้น 

 

รูปแบบการแข่งขันที่ปูทางว่าอลังการก็อลังการมากขึ้นจริงๆ เริ่มจากสนามการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้นขนาดที่รถบรรทุกสามารถวิ่งเข้ามาส่งวัตถุดิบในรอบแรกได้แบบสบายๆ ไหนจะการเปิดตัวพิธีกรสาว ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ ผ่านจอขนาดใหญ่มาคอยให้คำสั่งสร้างบรรยากาศให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้น เสริมไปด้วยกันกับกติกา รูปแบบการคัดออกที่สนุกขึ้นจริงราวกับอยู่ในซีรีส์เกาหลีชื่อดัง 

 

MasterChef Thailand ซีซันนี้ยังให้ความสำคัญกับความเป็น Home Cook มากขึ้น ซึ่งแม้รายการจะเป็นรายการการแข่งขันระหว่างผู้เข้าแข่งขันทางบ้าน แต่เอาเข้าจริงในซีซันก่อนๆ ก็เต็มไปด้วยผู้เข้าแข่งขันที่จบด้านอาหารมาโดยตรงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแตกต่างจากซีซันนี้ที่เรารู้สึกได้ว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนคือคนรักการทำอาหารที่เป็น Home Cook จริงๆ แต่สำหรับในประเด็นนี้ตอนเดียวอาจจะยังบอกอะไรไม่ได้ขนาดนั้น ก็ต้องรอดูกันต่อไป 

 

ประเด็นถัดมาคือโจทย์การแข่งขันที่ซีซันอื่นๆ จะแจกวัตถุดิบหลักและให้ทำอาหารออกมาพรีเซนต์ แต่คราวนี้เป็นการวัดทักษะหาความเป๊ะ เริ่มจากโจทย์ ‘ทอดไข่ดาว 24 ฟอง’ ที่ไข่ขาวต้องสุกและไข่แดงต้องห้ามแตก โจทย์นี้เน้นย้ำว่าการเป็นเชฟต้องรู้จักรักษาวัตถุดิบ ผู้เข้าแข่งขันจะได้ไข่ไปทั้งหมด 25 ฟอง เท่ากับสามารถพลาดได้แค่ฟองเดียว และไม่ต้องรอจนจบ 15 นาที หากใครพลาดทำแตกมากกว่า 1 ก็โดนออกจากการแข่งขันทันที 

 

ถัดมาเป็นอีกหนึ่งพื้นฐานอย่างการตำเครื่องแกง โดยแต่ละคนจะได้โจทย์เครื่องแกงเขียวหวาน แกงเหลือง และฉู่ฉี่ ซึ่งส่วนผสมต้องถูกต้องครบถ้วน ปริมาณต้องได้ และเนื้อพริกแกงต้องละเอียดเนียน ซึ่งหลังจากทั้งสองโจทย์ผ่านไปรายการก็ได้มอบผ้ากันเปื้อนให้กับผู้เข้าแข่งขันตัวจริงทั้ง 12 คนเป็นที่เรียบร้อย (และหนึ่งในนั้นมีคุณลุงแดง พ่อของปอ อรรณพ แชมป์ MasterChef Celebrity Season 2 ด้วยนะ)

 

นี่เป็นเพียงแค่ตอนแรกก็จริง แต่เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงโจทย์และแนวทางของรายการไม่น้อยเลย ซึ่งการกลับสู่พื้นฐานง่ายๆ อย่างการทอดไข่หรือตำพริกแกงนั้นอาจฟังดูไม่หวือหวา แต่เมื่อปฏิบัติจริงมันไม่ง่ายเลย แถมยังทำให้เราได้เห็นว่าคนที่ทำออกมาได้เป๊ะจริงๆ นั้นน่าทึ่งมากแค่ไหน พร้อมกับอยากติดตามโจทย์ในสัปดาห์ถัดไปทันที สงสัยติดใจเพียงข้อเดียวว่า พิธีกรพี่ป๊อกในเวอร์ชัน AI สาวนั้นจำเป็นจะต้องอยู่กับเราทุกตอนจริงๆ เหรอ  

 

ใครดู MasterChef ตอนนี้แล้วคิดเห็นอย่างไรหรือเชียร์ใครกันบ้าง แชร์กับเราในคอมเมนต์ได้เลย 

 

ดูรายชื่อผู้เข้ารอบทั้ง 12 คนได้ที่ https://www.facebook.com/masterchefthailand 

 

MasterChef Thailand Season 5

The post เริ่มแล้ว MasterChef Thailand Season 5 กับรูปแบบใหม่ที่เฉลิมฉลองความเป็น Home Cook มากกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปอ อรรณพ แชมป์คนใหม่จาก MasterChef Celebrity Thailand Season 2 กับเมนูไอศกรีมจากขนมจีนน้ำยาปู https://thestandard.co/por-unnop-masterchef-celebrity-thailand-season-2/ Mon, 27 Dec 2021 09:18:18 +0000 https://thestandard.co/?p=576478 ปอ อรรณพ

จบไปแล้วกับการแข่งขันการทำอาหารในรายการ MasterChef Cele […]

The post ปอ อรรณพ แชมป์คนใหม่จาก MasterChef Celebrity Thailand Season 2 กับเมนูไอศกรีมจากขนมจีนน้ำยาปู appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปอ อรรณพ

จบไปแล้วกับการแข่งขันการทำอาหารในรายการ MasterChef Celebrity Thailand Season 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา และเราก็ต้องขอแสดงความยินดีกับแชมป์คนใหม่อย่าง ปอ-อรรณพ ทองบริสุทธิ์ กับเมนูขนมหวาน ‘ความเจ็บปวดที่งดงาม’ จานไอศกรีมในรอบสุดท้ายที่พาให้เขาได้ชัยชนะสำเร็จ ต่อจากแชมป์คนเก่า พิชญ์ กาไชย ที่คว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้ว 

 

สำหรับ MasterChef Celebrity Thailand Season 2 นี้มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 12 ท่านได้แก่ ทับทิม อัญรินทร์, ธันวา สุริยจักร, แอริน ยุกตะทัต, แกงส้ม ธนทัต, ซาร่า โฮเลอร์, ปอ อรรณพ, คารีสา สปริงเก็ตต์, แพรวา ณิชาภัทร, ใบเฟิร์น พัสกร, เจมส์ ธีรดนย์, กระติ๊บ ชวัลกร และ ตู่ ภพธร โดยทั้งหมดได้ผ่านการแข่งขันตามโจทย์ในแต่ละสัปดาห์ยาวนานต่อเนื่องร่วม 3 เดือน ก่อนที่จะถึงรอบตัดสินใน EP.11 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

 

สำหรับในรอบตัดสินเหลือผู้แข่งขันทั้งหมด 3 ท่าน ได้แก่ ปอ, กระติ๊บ และใบเฟิร์น ซึ่งทั้งสามจะต้องประชันฝีมือฝ่าอุปสรรคต่างๆ ต่อจากโจทย์แอปพิไทเซอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กับโจทย์ถัดมาคือเมนคอร์ส และขนมหวาน  

 

ในโจทย์แรกปอเลือกเมนคอร์สเป็น ‘แสร้งว่าไตปลากุ้ง อร่อยไม่หยอก หมอกจางๆ และควัน’ ที่เขานำกุ้งแม่น้ำมาย่างก่อนรมควันด้วยกาบมะพร้าว เสิร์ฟกับเจลไตปลา กุ้งฝอยแพทอดใบชะพลู และพูเรข้าวไรซ์เบอร์รีและข้าวหอมมะลิ 

 

ระหว่างการแข่งขันเกิดอุบัติเหตุเป็นอุปสรรค เมื่อปอถูกมีดบาดจนต้องได้รับการปฐมพยาบาล แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาท้อแต่อย่างใด ยังคงแข่งขันต่อเนื่องและสร้างสรรค์เมนูของหวานที่ได้ใจกรรมการไปครองอย่างเมนู ‘ความเจ็บปวดที่งดงาม’ จานนี้ปอได้หยิบเอาแรงบันดาลใจมาจากขนมจีนน้ำยาปู ถ่ายทอดออกมาเป็นไอศกรีมผสมเนื้อปูและขมิ้น ทานกับวุ้นสองเลเยอร์จากกะทิ และวุ้นน้ำมะพร้าวที่มีส่วนผสมของพริกชี้ฟ้า เคียงกับสปันจ์เค้กมะพร้าว และเพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำมะพร้าวส้มซ่าโมฮิโต้ 

 

ความสร้างสรรค์และความพยายามตลอด 11 สัปดาห์ ทำให้เขาคว้ารางวัล 1 ล้านบาทได้สำเร็จ โดยปอเลือกมอบเงินรางวัลให้กับ ‘มูลนิธิสันติสุข’ 

 

por unnop

por unnop

por unnop

por unnop

 

ภาพ: MasterChef Thailand

The post ปอ อรรณพ แชมป์คนใหม่จาก MasterChef Celebrity Thailand Season 2 กับเมนูไอศกรีมจากขนมจีนน้ำยาปู appeared first on THE STANDARD.

]]>
Best Leftovers Ever! รายการแข่งขันทำอาหารที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไม่ทิ้งอาหารอีกต่อไป https://thestandard.co/best-leftovers-ever-netflix/ Fri, 08 Jan 2021 15:36:03 +0000 https://thestandard.co/?p=440963 Best Leftovers Ever! รายการแข่งขันทำอาหารที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไม่ทิ้งอาหารอีกต่อไป

ถ้าคุณเป็นคนที่รักรายการทำอาหารแล้วล่ะก็ สุดสัปดาห์นี้เ […]

The post Best Leftovers Ever! รายการแข่งขันทำอาหารที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไม่ทิ้งอาหารอีกต่อไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
Best Leftovers Ever! รายการแข่งขันทำอาหารที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไม่ทิ้งอาหารอีกต่อไป

ถ้าคุณเป็นคนที่รักรายการทำอาหารแล้วล่ะก็ สุดสัปดาห์นี้เราขอชวนคุณดูรายการน้องใหม่ที่เพิ่งลง Netflix ไปหมาดๆ อย่าง Best Leftovers Ever! รายการแข่งขันทำอาหารที่ชวนผู้เข้าแข่งขันจากทางบ้านเปลี่ยนอาหารค้างคืนให้กลายเป็นจานใหม่ แรงบันดาลใจดีๆ ที่จะทำให้คุณไม่ทิ้งอาหารให้เสียเปล่าอีกต่อไป 

 

 

จะว่าไปรายการทำอาหารที่มีให้ดูทั่วไป เป็นการแข่งขันทำของใหม่ด้วยกันทั้งนั้น แต่ Best Leftovers Ever! เล่นกับความสร้างสรรค์ได้อย่างสนุกสนานไปพร้อมๆ กับการสร้าง Awareness หรือความรับรู้เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรอาหารให้คุ้มค่าไปด้วยกัน ซึ่งในรายการแต่ละตอนจะมีผู้เข้าแข่งขันจากทางบ้านทั้งหมด 3 ท่าน แข่งทำอาหาร 2 รอบ เพื่อชิงเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์ไปครอง 

 

 

Best Leftovers Ever! ได้สองผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารอย่าง David So ยูทูเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหาร และ Rosemary Shrager เชฟและผู้เขียนตำราอาหารชื่อดัง ร่วมด้วยพิธีกรอย่าง Jackie Tohn มาเป็นผู้ชิมและให้คำแนะนำเรื่องอาหารกับทั้ง 3 ผู้เข้าแข่งขันในทั้ง 2 รอบ เริ่มจาก Pressure Cooker รอบแรกที่ทั้งสามจะต้องเอาอาหารค้างคืนทั้งหมด 4 จานมาเปลี่ยนเป็นจานใหม่ ต่อด้วย Takeout Takedown รอบที่สองที่โจทย์คืออาหารประเภท Takeout หรือนำกลับบ้าน ที่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกปล่อยให้เศร้าค้างตู้เย็น แต่ทั้งสามจะต้องนำมาสร้างเป็นจานใหม่ที่ยกระดับอาหารจานเดิม ดูไปก็ได้แต่คิดในใจว่า หากมาแข่งในเมืองไทยคงเข้ามือแม่และอาม่า ผู้รังสรรค์สารพัดเมนูจากไก่รวนช่วงไหว้เจ้าเป็นแน่

 

 

นอกจากความสนุกแล้ว แต่ละตอนยังมีทิปส์ดีๆ เกี่ยวกับการเก็บอาหารค้างคืน หรือวิธีการอุ่นกลับมากินใหม่ ที่หากใครอยู่บ้านทำอาหารเองก็สามารถนำไปทำตามได้ไม่ยากเลย 

Best Leftovers Ever! มีทั้งหมด 1 ซีซัน จำนวน 8 ตอน ดูได้ทาง Netflix.com  

 

ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post Best Leftovers Ever! รายการแข่งขันทำอาหารที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไม่ทิ้งอาหารอีกต่อไป appeared first on THE STANDARD.

]]>
Crazy Delicious รายการแข่งขันทำอาหารที่จะบอกกับคุณว่า ‘อลังการอย่างเดียวไม่พอ ต้องอร่อยด้วย’ https://thestandard.co/crazy-delicious/ Mon, 13 Jul 2020 00:24:43 +0000 https://thestandard.co/?p=379267

จากจุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพสวยๆ ลงอินสตาแกรม ทุกวันนี้ไ […]

The post Crazy Delicious รายการแข่งขันทำอาหารที่จะบอกกับคุณว่า ‘อลังการอย่างเดียวไม่พอ ต้องอร่อยด้วย’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

จากจุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพสวยๆ ลงอินสตาแกรม ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณจะไปกินอาหารจานใหม่ ไปคาเฟ่เปิดใหม่ ชมงานนิทรรศการ หรือเที่ยวแลนด์มาร์ก ล้วนแล้วแต่จะต้องยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพสวยๆ แล้วอัปลงอินสตาแกรมราวกับเป็นหน้าที่หลักที่สำคัญด้วยกันทั้งนั้น พฤติกรรมที่ว่าทำให้เรารู้จักกับคำศัพท์ว่า ‘Instagrammable’ หรือ ‘Insta-worthy’ ที่ความหมายให้อารมณ์ว่า ‘สวยจนน่าถ่ายรูปลงอินสตาแกรม’ หรือ ‘ควรค่าแก่การถ่ายลงอินสตาแกรม’ ซึ่งบ้างก็ว่าเป็นพฤติกรรมที่เข้ามารบกวนแก่นแท้ของการทำอาหารหรือออกแบบสถานที่ เพราะแทนที่คำถามสำคัญจะอยู่ตรงความอร่อย หรือความสมบูรณ์ในแง่ศิลปะ กลับถูกตั้งโจทย์มาให้ควรค่าแก่การถูกถ่ายภาพแทน  

 

Crazy Delicious คือรายการแข่งขันทำอาหารสัญชาติอังกฤษรายการใหม่ ที่เพิ่งลงฉายผ่าน Netflix เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะให้ความบันเทิงเอาใจคนรักอาหารแล้ว สำหรับเรา Crazy Delicious คือรายการที่ไม่มองข้ามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชอบถ่ายภาพอาหาร รวมถึงไม่ต่อต้านการทำอาหารให้ Insta-worthy แต่กลับหยิบทั้งสองอย่างนั้นขึ้นมาเป็นเกณฑ์การตัดสิน ว่าต้องบ้าให้สุด แต่ยังย้ำชัดในจุดยืนด้วยว่า ‘อาหารทุกจานจะบ้าอย่างเดียวไม่พอ ต้องอร่อยด้วย และความอร่อยยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด’ 

 

ทั้ง 6 ตอนของ Crazy Delicious ดำเนินขึ้นภายในครัวที่ถูกจัดฉากให้อยู่ในป่าที่วัตถุดิบทุกอย่างสามารถหาได้ในสวนรอบๆ ในแต่ละตอนผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 คนจะต้องเข้าไปเลือกหยิบวัตถุดิบในป่าของรายการก่อนนำมาทำอาหารตามโจทย์ แต่แบ่งออกเป็น 3 รอบ ได้แก่ 

 

 

  1. Magic Ingredient ทางรายการจะกำหนดวัตถุดิบขึ้นมาหนึ่งชนิด และให้ผู้เข้าแข่งขันปรุงออกมาเป็นเมนูที่ชูวัตถุดิบนั้นออกมาให้ดีที่สุด ข้อนี้หลายครั้งวัตถุดิบเป็นผักที่เรามักมองข้ามหรือมักได้รับบทเสริมในจานอย่าง แครอต หรือมะเขือเทศ แต่ความสร้างสรรค์เท่านั้นที่จะทำให้เมนูอย่างซุปแครอต ที่แม้แต่กรรมการเองได้ยินชื่อยังกังวลว่าจะพิเศษได้อย่างไร ต้องตกใจและปรบมือให้ตามๆ กัน 

 

  1. The Reinvention โจทย์ข้อที่สองคือการกำหนดโจทย์เป็นอาหารจานคุ้นเคยหนึ่งชนิด อย่างฮอตด็อก หรือพิซซ่า โดยให้ผู้เข้าแข่งขันตีโจทย์ออกแบบจานนั้นขึ้นใหม่ ทั้งหน้าตาและประสบการณ์การกิน โดยยังคงความเป็นจานนั้นๆ อยู่ 

 

  1. The Final Feast คือโจทย์การสร้างมื้อ 1 มื้อ อย่าง Brunch หรือ Afternoon Tea ในแบบของผู้เข้าแข่งขันเอง ข้อนี้ตัดสินไม่ใช่แค่จานจานเดียว แต่การที่จานนั้นๆ จะต้องแสดงออกถึงวัฒนธรรมการกินนั้นๆ ด้วย 

 

 

 

แค่ฟังทั้งสามโจทย์ก็สนุกและน่าคิดตามแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน ที่ไม่ใช่ผู้เข้าแข่งขันจากทางบ้านธรรมดาๆ แต่ละคนมาจากหลากหลายอาชีพ บ้างเป็นคุณแม่ที่ชอบทำอาหารสนุกๆ ให้ลูกๆ บ้างเป็นฟู้ดบล็อกเกอร์เจ้าของแอ็กเคานต์ที่ถ่ายรูปสวยมากๆ บ้างเป็นเจ้าของช่องรายการสอนทำอาหารของตัวเอง หรือกระทั่งหนึ่งในทีมเชฟจากร้านอาหารดัง ซึ่งความสามารถของแต่ละคนไม่ธรรมดาเอาเสียมากๆ (เชื่อได้เลยว่าในทุกตอนคุณจะต้องถึงกับตามไปฟอลโลว์อินสตาแกรมของพวกเขากันแน่ๆ) 

 

 

และนอกจากผู้เข้าแข่งขันจะไม่ธรรมดาแล้ว กรรมการทั้งสามคนที่มาตัดสินในรายการก็พิเศษไม่แพ้กัน นำโดยเชฟและเจ้าของรายการทำอาหารชาวอเมริกัน Carla Hall,  Heston Blumenthal เซเลบริตี้เชฟเจ้าของร้านอาหารดีกรีสามดาวมิชลิน The Fat Duck และ Niklas Ekstedt เชฟชาวสวีเดนเจ้าของร้านอาหาร Ekstedt กับซิกเนเจอร์การปรุงอาหารด้วยการย่างบนไฟ การที่ได้ทั้งสามคนมาตัดสินอาหารขนาดนี้ นอกจากเราจะเห็นความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน ก็ยังได้รู้มุมมองจากเชฟมืออาชีพแต่ละคนกันไปเลยว่า ทั้งบ้าและอร่อยด้วยต้องเป็นอย่างไร ไม่แน่ดูจบคุณอาจจะลุกขึ้นมาหยิบกระทะ เปิดเตา ออกแบบเมนู Crazy Delicious ของตัวเองบ้างก็ได้   

 

รายการ Crazy Delicious ฉายแล้วทั้งหมด 1 ซีซัน จำนวน 6 ตอน ทาง Netflix 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

 

The post Crazy Delicious รายการแข่งขันทำอาหารที่จะบอกกับคุณว่า ‘อลังการอย่างเดียวไม่พอ ต้องอร่อยด้วย’ appeared first on THE STANDARD.

]]>