รัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FTC) – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 12 Feb 2025 11:54:23 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘มัสก์’ จับมือ ‘ทรัมป์’ ลุยปฏิรูปข้าราชการสหรัฐฯ ต้องลาออก 4 คนถึงรับแทนได้ 1 คน หวังประหยัดงบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ https://thestandard.co/musk-trump-reform/ Wed, 12 Feb 2025 09:33:21 +0000 https://thestandard.co/?p=1041102 musk-trump-reform

Elon Musk ‘เจ้าพ่อธุรกิจ’ ผู้ครองตำแหน่งมหา […]

The post ‘มัสก์’ จับมือ ‘ทรัมป์’ ลุยปฏิรูปข้าราชการสหรัฐฯ ต้องลาออก 4 คนถึงรับแทนได้ 1 คน หวังประหยัดงบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
musk-trump-reform

Elon Musk ‘เจ้าพ่อธุรกิจ’ ผู้ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ผู้บริหาร Tesla และเจ้าของ X ปรากฏตัวที่ทำเนียบขาวพร้อมบุตรชายวัย 4 ขวบ ในฐานะที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดี Donald Trump เพื่อนำเสนอแผนปฏิรูปครั้งใหญ่ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ด้วยการลดจำนวนพนักงานและตัดหน่วยงานที่ไม่จำเป็น โดยตั้งเป้าประหยัดงบประมาณถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 34.11 ล้านล้านบาท) 

 

Musk สวมหมวก Make America Great Again พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ระบบราชการสหรัฐฯ อย่างตรงไปตรงมา โดยระบุว่าระบบราชการต้องทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงองค์กรที่ทำงานไปวันๆ โดยไม่สนใจเสียงประชาชน พร้อมชี้ว่าระบบราชการในปัจจุบันมีอำนาจมากเกินไป จนกลายเป็น ‘อำนาจที่ 4’ นอกเหนือจากฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ

 

ภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์แรกของรัฐบาล Trump ทีม Department of Government Efficiency (DOGE) ของ Musk ได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานรัฐแล้วอย่างน้อย 19 แห่ง ตามการรวบรวมของ The New York Times โดยเริ่มระบุโครงการที่สามารถตัดออกได้ ขณะที่หลายหน่วยงานได้เริ่มเตือนพนักงานถึงการปรับลดอัตรากำลังที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

การปฏิรูปครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก Trump ที่ออกคำสั่งบริหารให้ทุกหน่วยงานรัฐต้องจำกัดการรับพนักงานใหม่ โดยสามารถจ้างได้เพียง 1 คนต่อการลาออก 4 คน และการจ้างพนักงานใหม่ทุกตำแหน่งต้องได้รับการอนุมัติจาก ‘DOGE Team Lead’ ก่อน ยกเว้นหัวหน้าหน่วยงานจะเห็นว่าตำแหน่งนั้นมีความจำเป็นจริงๆ

 

เพื่อลดจำนวนข้าราชการ รัฐบาลได้เสนอ ‘แพ็กเกจลาออก’ ที่ยังให้รับเงินเดือนไปจนถึงเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ถูกระงับชั่วคราว หลังมีการยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐแมสซาชูเซตส์ให้พิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมายหรือไม่

 

Musk ยืนยันว่าการทำงานของเขาจะโปร่งใสและพร้อมรับการตรวจสอบ “ผมพร้อมให้ตรวจสอบทุกวัน เหมือนการตรวจร่างกายประจำวันเลยก็ว่าได้” พร้อมระบุว่าการปฏิรูปครั้งนี้เป็นไปตามเสียงของประชาชนที่เลือก Trump เข้ามา

 

อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงตำแหน่งสำคัญด้านความมั่นคง ความปลอดภัยสาธารณะ การบังคับใช้กฎหมาย และการตรวจคนเข้าเมือง โดยพนักงานในส่วนนี้จะยังคงทำงานตามปกติ ขณะที่สหภาพแรงงานของข้าราชการก็ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานสหพันธ์

 

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคเดโมแครตถึงความโปร่งใสและผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจาก Musk เป็น CEO ของ SpaceX ที่มีสัญญามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กับกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานด้านความมั่นคง Trump ก็ออกมาปกป้องพร้อมยืนยันว่า หากพบความเสี่ยงดังกล่าว จะไม่ให้ Musk เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

 

ปัจจุบันรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีพนักงานราชการประมาณ 2.3 ล้านคน ไม่รวมพนักงานไปรษณีย์ กระจายอยู่ทั่วประเทศในหลากหลายตำแหน่ง ทั้งด้านการดูแลสุขภาพทหารผ่านศึก การตรวจสอบผลิตภัณฑ์การเกษตร และการจัดการด้านการเงินของรัฐบาล โดยศาลได้ระงับความพยายามหลายครั้งของ Trump ในการปลดพนักงาน รวมถึงการเข้าถึงระบบการชำระเงินที่ละเอียดอ่อนของกระทรวงการคลังของ Musk

 

Russell T. Vought ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณที่ได้รับการผลักดันจาก Musk ให้ความเห็นผ่าน Fox News ว่า คำสั่งบริหารฉบับนี้เป็น ‘ก้าวต่อไป’ ในการเปลี่ยนแปลงกำลังคนภาครัฐ และอยู่ในขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดีที่จะดำเนินการได้ทันทีตามกฎหมายที่มีอยู่ 

 

ด้าน Musk โพสต์ข้อความใน X วิพากษ์วิจารณ์บรรดาสำนักงานกฎหมายที่ฟ้องร้องในนามของพนักงานรัฐ พร้อมระบุว่าเป็นการ ‘ทำลายระบอบประชาธิปไตย’ ขณะที่ Trump แม้จะแสดงความไม่พอใจ แต่ก็ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งศาลและดำเนินการอุทธรณ์ต่อไป

 

ภาพ: Andrew Harnik / Getty Images

 

อ้างอิง:

The post ‘มัสก์’ จับมือ ‘ทรัมป์’ ลุยปฏิรูปข้าราชการสหรัฐฯ ต้องลาออก 4 คนถึงรับแทนได้ 1 คน หวังประหยัดงบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Michael Kors ปะทะรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สู้คดีควบรวมกิจการ อ้างแบรนด์เริ่มสั่นคลอนจากแรงกดดันของ TikTok และอิทธิพลของ Taylor Swift https://thestandard.co/tapestry-capri-antitrust-trial-michael-kors-testifies/ Tue, 17 Sep 2024 09:47:38 +0000 https://thestandard.co/?p=984618 Michael Kors

เปิดคำให้การของ Michael Kors แบรนด์แฟชั่นหรู ในคดีที่รั […]

The post Michael Kors ปะทะรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สู้คดีควบรวมกิจการ อ้างแบรนด์เริ่มสั่นคลอนจากแรงกดดันของ TikTok และอิทธิพลของ Taylor Swift appeared first on THE STANDARD.

]]>
Michael Kors

เปิดคำให้การของ Michael Kors แบรนด์แฟชั่นหรู ในคดีที่รัฐบาลกลางยื่นฟ้อง ขัดขวางการควบรวมกิจการระหว่าง Tapestry และ Capri บนความท้าทายในยุคโซเชียล โดยเฉพาะ TikTok และอิทธิพลของ Taylor Swift ทำให้แบรนด์มีคนนิยมน้อยลง

 

ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FTC) ได้ยื่นฟ้องเจ้าของแบรนด์หรู COACH, Michael Kors และ Versace เพื่อระงับการควบรวมกิจการบริษัทมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากดีลนี้สำเร็จจะทำให้ 6 แบรนด์แฟชั่นถูกรวมอยู่ในบริษัทเดียวกัน ได้แก่ COACH, Kate Spade, Stuart Weitzman ของ Tapestry รวมถึง Versace, JIMMY CHOO และ Michael Kors ของ Capri

 

เมื่อไม่นานมานี้นักออกแบบแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง Michael Kors เข้าไปให้การที่รัฐบาลกลาง โดยได้อธิบายความท้าทายที่แบรนด์ต้องเผชิญความยากลำบากในการทำธุรกิจ ซึ่งตอนนี้คนหันไปสนใจเทรนด์ต่างๆ ผ่านช่องทาง TikTok

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

หรือแม้กระทั่งภาพถ่ายกระเป๋าถือบนแขนของคนดังอย่าง Taylor Swift และ Beyoncé ก็กลายเป็นเทรนด์ที่คนคอยติดตาม จึงทำให้แบรนด์เป็นที่สนใจในกลุ่มลูกค้าลดลง เห็นได้จากรายได้ของ Michael Kors ในไตรมาสล่าสุดที่ลดลงถึง 14.2%

 

ด้านทนายความของ Tapestry และ Capri อ้างว่าการแข่งขันในตลาดเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าไม่เพียงแต่พิจารณาแบรนด์หรูที่มีราคาสูงกว่า แต่ยังมองหาแบรนด์แฟชั่นราคาถูก รวมถึงการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และตลาดมือสองอีกด้วย โดยการพิจารณาคดีนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้บริโภคเริ่มลังเลกับการซื้อสินค้าราคาสูง ทำให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมกระเป๋าเผชิญความท้าทายอย่างหนัก

 

ด้าน FTC ให้เหตุผลว่า การควบรวมของบริษัท โดยเฉพาะการที่ COACH และ Michael Kors เข้ามาอยู่ภายใต้เจ้าของเดียวกัน จะกลายเป็นผู้เล่นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมกระเป๋าที่มีอำนาจในการขึ้นราคาสินค้า อาจทำให้แบรนด์​นำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพเหมือนเดิมหรือต่ำลงก็เป็นไปได้ทั้งหมด

 

ทั้งนี้ ไม่ว่าบทสรุปของคดีความนี้จะออกมาในรูปแบบไหน แต่อุตสาหกรรมกระเป๋าก็ต้องเผชิญการแข่งขันที่นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้นอยู่ดี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่ค่อยเอื้อในการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมากนัก

 

อ้างอิง:

 

The post Michael Kors ปะทะรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สู้คดีควบรวมกิจการ อ้างแบรนด์เริ่มสั่นคลอนจากแรงกดดันของ TikTok และอิทธิพลของ Taylor Swift appeared first on THE STANDARD.

]]>