ยูเค-ณัฐธยาน์ องค์ศรีตระกูล – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 04 Oct 2024 01:26:46 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา การเอาชีวิตรอดของ ‘คนธรรมดา’ https://thestandard.co/bangkok-breaking-movie/ Fri, 04 Oct 2024 01:26:46 +0000 https://thestandard.co/?p=991438

Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา ภาพยนตร์แอ็กชันไทยเร […]

The post Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา การเอาชีวิตรอดของ ‘คนธรรมดา’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา ภาพยนตร์แอ็กชันไทยเรื่องล่าสุดจาก Netflix ภายใต้การกำกับของ โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่กลับมาจับมือกับนักแสดงมากฝีมือ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ มาพาผู้ชมไปติดตาม วันชัย (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ) ฮีโร่คนธรรมดาที่ต้องเอาชีวิตรอดจากเมืองเทวดาอันบ้าคลั่งอีกครั้ง พร้อมเสริมทัพความเดือดด้วยทีมนักแสดงมากฝีมือ นำโดย ดู๋-สัญญา คุณากร, มายด์-อาทิตยา ตรีบุดารักษ์ (มายด์ 4EVE), ต๊อก-ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, ฟลุค-ธีรภัทร โลหนันทน์, ณัฐ ศักดาทร และ เดย์ THAITANIUM ฯลฯ

 

 

สำหรับฉบับภาพยนตร์ คือเรื่องราวภาคแยกของฉบับซีรีส์ที่ออกฉายในปี 2564 บอกเล่าเรื่องราวของวันชัยที่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากอาสาสมัครกู้ภัยจนได้เป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพเต็มตัว แต่แล้วชีวิตของเขาก็ต้องพลิกผัน เมื่อเขาต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์จลาจลม็อบเคหะ และด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด ซึ่งส่งผลให้เพื่อนร่วมงานต้องบาดเจ็บสาหัส จนถูกสั่งพักงานอย่างไม่มีกำหนด ก่อนจะเบนเข็มชีวิตหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร

 

แต่ดูเหมือนว่าความโชคร้ายของวันชัยจะยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อเขาต้องไปส่งชานมไข่มุกให้พยาบาลสาว เมจิ (มายด์-อาทิตยา ตรีบุดารักษ์) และเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ลักพาตัว ดวงกมล (ยูเค-ณัฐธยาน์ องค์ศรีตระกูล) ลูกสาวเจ้าสัวผู้ทรงอิทธิพล จนทำให้พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเคหะชุมชนรวมใจ สถานที่ซึ่งถูกควบคุมโดยแก๊งนักเลงสุดโฉดไปให้สำเร็จ

 

 

สิ่งที่ชอบใน Bangkok Breaking ฉบับซีรีส์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2564 คือไอเดียของเรื่องที่ผู้กำกับและทีมสร้างปูเอาไว้อย่างแข็งแรง กับเรื่องราวของ ‘คนธรรมดา’ อย่างวันชัย หนุ่มบ้านนอกที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่เมืองกรุง แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นที่นำพาเขาเข้าไปพัวพันกับมุมมืดที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เมืองเทวดาแห่งนี้ 

 

แต่ข้อสังเกตสำคัญที่มองว่าค่อนข้างติดขัดคือ การที่ซีรีส์พยายามใส่ประเด็นที่อยากจะนำเสนอเข้ามามากมายเกินจำเป็น ทั้งปมปัญหาของแต่ละตัวละครไปจนถึงเรื่องราวการสืบสวนหาความจริงของตัวละครหลัก จนทำให้ความน่าสนใจของซีรีส์ตลอด 6 ตอนค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และนำมาสู่บทสรุปที่เราไม่ได้รู้สึกยินดีที่ได้เห็นเหล่าตัวละครหลักเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ต่างๆ มาได้อย่างที่ควรจะเป็น

 

 

ขณะที่ฉบับภาพยนตร์ Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา ที่เพิ่งสตรีมทาง Netflix เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงเศษที่เราได้ติดตามการเอาชีวิตรอดของวันชัย เราก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าผู้กำกับและทีมสร้างได้กลับไปขัดเกลาจุดด้อยและตีบวกจุดเด่นของฉบับซีรีส์ให้ออกมาลงตัวขึ้นไม่น้อยทีเดียว 

 

สิ่งแรกที่อยากกล่าวถึงคือ ฉากหลังสำคัญอย่างเคหะชุมชนรวมใจที่ออกแบบมาได้อย่างโดดเด่น ทั้งการออกแบบฉากและเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละคร โดยเฉพาะเหล่าแก๊งนักเลงโฉดที่นำโดย ดาร์ลี่ (เดย์ THAITANIUM) ที่มองเผินๆ อาจจะดูล้นๆ ไปบ้าง แต่ความบ้าคลั่งของพวกเขากลับช่วยขับเน้นให้สถานที่แห่งนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง เคหะชุมชนรวมใจแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของ Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา ที่คอยขับเคลื่อนเรื่องราวไม่แพ้ตัวละครอื่นๆ นั่นเอง

 

 

ขณะที่ฉากแอ็กชันไล่ล่า ขึ้นชื่อว่าผู้กำกับ โขม ก้องเกียรติ ที่เคยสร้างความสยองแก่ผู้ชมมาแล้วใน ลองของ (2548) และเคยเสิร์ฟฉากแอ็กชันเดือดๆ เท่ๆ มาแล้วใน อันธพาล (2555) หรือภาพยนตร์ชุด ขุนพันธ์ แน่นอนว่าผลงานครั้งนี้เขายังคงขนฉากแอ็กชันไล่ล่ามาสร้างความตื่นเต้นแก่ผู้ชมแบบจัดเต็มไม่แพ้กัน 

 

โดยฉากที่ส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบที่สุดเห็นจะเป็นฉากขับรถไล่ล่าที่ถูกร้อยเรียงเหตุการณ์มาเป็นอย่างดี เริ่มต้นด้วยสถานการณ์เล็กๆ ที่วันชัยต้องไปส่งชานมไข่มุกให้เมจิ ก่อนจะค่อยๆ เร่งเครื่องไต่ระดับความเดือดขึ้นเรื่อยๆ มีช่วงพักเบรกให้เราได้พักหายใจสั้นๆ ก่อนจะเหยียบคันเร่งอีกครั้งด้วยฉาก Long Take ที่อาจจะไม่ได้ยาวมากนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งฉากไฮไลต์ที่ผู้กำกับและทีมสร้างนำเสนอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ 

 

 

ส่วนเนื้อเรื่องเองก็ถูกขัดเกลาให้ชัดเจนและแข็งแรงขึ้น ทั้งการแนะนำให้เรารู้จักเบื้องหลังและเป้าหมายของแต่ละตัวละครเท่าที่จำเป็น ก่อนที่ผู้กำกับจะโยนสถานการณ์ต่างๆ ให้เหล่าตัวละครหลักได้เผชิญและค่อยๆ เผยแง่มุมต่างๆ ให้เราเข้าใจพวกเขามากขึ้น แม้ว่าอีกด้านมันจะทำให้เรื่องราวของตัวละครอื่นๆ อย่างเจ้าสัวหรือคุณนายเจ้าของมูลนิธิรวมพลังใจดูจะเบาบางลงไป แต่มันก็ทำให้ตัวเนื้อเรื่องมีความกระชับ ไม่ยืดเยื้อ และขับเคลื่อนให้ตัวละครดำเนินไปข้างหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ

 

แกนหลักสำคัญที่ส่งให้เรื่องราวของเหล่าตัวละครหลักมีมิติที่น่าสนใจคือ การพาเราไปสำรวจ ‘ความกลัว’ ที่เป็นพลังขับเคลื่อนตัวละครทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วันชัยกับการเป็น ‘ฮีโร่คนธรรมดา’ ที่อยากช่วยเหลือผู้อื่น แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายแค่ไหน หรือแม้คนคนนั้นจะเป็นมือปืนอย่าง สิน (ดู๋-สัญญา คุณากร) ที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้ก็ตาม แต่เมื่อเรื่องราวทั้งหมดสิ้นสุดลง เขาก็ได้แสดงให้เราเห็นว่าความกลัวที่เขาเก็บซ่อนไว้นั้นมันหนักหนาสาหัสขนาดไหน เพราะถึงแม้เขาจะมีจิตใจที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นขนาดไหน แต่ลึกๆ แล้วเขาก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเช่นเดียวกัน

 

 

หรือจะเป็นเมจิ พยาบาลสาวที่จู่ๆ ก็ถูกจับพลัดจับผลูเข้ามาเสี่ยงชีวิตในเหตุการณ์ที่เธอไม่เกี่ยวข้อง แถมเธอยังไม่ได้เข้มแข็งและอยากช่วยเหลือคนอื่นแบบเดียวกับวันชัย แม้ว่าชีวิตที่ผ่านมาของเธอนั้นไม่ได้ราบรื่นนัก แต่เธอก็ยังอยากจะมีชีวิตต่อไป ความกลัวจึงเป็นสิ่งเดียวที่ขับเคลื่อนให้เธอยังคงดิ้นรนหาทางเอาชีวิตรอดออกไปจากนรกบนดินแห่งนี้

 

รวมไปถึงสิน มือปืนผู้มีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ ไร้ซึ่งความปรานี แต่เหตุผลสำคัญที่ผลักดันให้เขาพยายามเอาชีวิตรอดออกไปก็คงหนีไม่พ้นความกลัวที่จะต้องสูญเสีย แบงค์ (ฟลุค-ธีรภัทร โลหนันทน์) ไปเหมือนที่เขาเคยสูญเสียครอบครัวไปในอดีต ความกลัวเหล่านั้นจึงกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อหลบหนีเอาชีวิตรอดจากนรกแห่งนี้ รวมถึงหลบหนีจากเมืองเทวดาอันเน่าเฟะ เพื่อที่จะได้ไปเริ่มต้นชีวิตที่สงบสุขเสียที

 

ดังนั้นความกลัวที่พวกเขาต่างแบกรับเหล่านี้เอง ที่ทำให้พวกเขาต่างเป็นตัวละครที่มีชีวิตจิตใจและชักชวนให้เราอยากเอาใจช่วยพวกเขาไปตลอดทั้งเรื่อง

 

 

สำหรับผู้เขียน แม้ว่าตัวภาพยนตร์จะยังมีข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทางอยู่บ้าง แต่การกลับมาของวันชัยและ Bangkok Breaking ฉบับภาพยนตร์ครั้งนี้ ก็สามารถมอบความสนุกและความลุ้นระทึกให้กับเราได้อย่างครบรส ทั้งฉากแอ็กชันไล่ล่าที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เรื่องราวของตัวละครที่มีมิติชวนติดตาม และการแสดงอันยอดเยี่ยมของเหล่านักแสดงนำที่ไม่มีใครโดดเด่นมากน้อยไปกว่ากัน

 

สามารถรับชม Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา ได้แล้วทาง Netflix 

 

รับชมตัวอย่าง Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา ได้ที่:

 

 

ภาพ: Netflix

The post Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา การเอาชีวิตรอดของ ‘คนธรรมดา’ appeared first on THE STANDARD.

]]>