วานนี้ (24 เมษายน) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ 6 เสียงจากเท่าที่เหลืออยู่ ไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ยกฟ้องและเพิกถอนหมายจับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจ้างเอกชนทำโครงการโรดโชว์อนาคตประเทศไทย 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท ซึ่ง ป.ป.ช. เป็นผู้ฟ้องคดีต่อศาลฎีกานักการเมืองเอง ซึ่งจากมติดังกล่าวส่งผลให้ยิ่งลักษณ์ไม่มีคดีใดค้างเหลืออยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. อีก

คดีดังกล่าวนี้ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล, สุรนันทน์ เวชชาชีวะ, บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และ ระวิ โหลทอง เป็นจำเลยที่ 1-6 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต มุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรม กรณีการจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด ด้วยเหตุผลว่า ไม่พบเจตนาในการเอื้อประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับยิ่งลักษณ์ด้วย

สำหรับกรรมการ ป.ป.ช. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนี้ 6 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ, วิทยา อาคมพิทักษ์, สุวณา สุวรรณจูฑะ, สุชาติ ตระกูลเกษมสุข, เอกวิทย์ วัชชวัลคุ และแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์

The post ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ไม่อุทธรณ์ยิ่งลักษณ์ คดีโรดโชว์ 240 ล้าน หลังศาลฎีกาฯ พิพากษายกฟ้อง appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (20 เมษายน) วรชัย เหมะ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ส่วนตัวมองว่ามีความจำเป็นต้องเอาคนที่ถูกฝาถูกตัวกับเนื้องานมาช่วยงานนายกรัฐมนตรีในการบริหารมากยิ่งขึ้น แล้วเอาคนที่ได้ตำแหน่งเพราะเหตุผลทางการเมืองแต่งานไม่ออกให้โยกย้ายไป 

วันนี้ประเทศต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถตรงกับเนื้องานจริงๆ เข้ามาทำงาน ไม่เช่นนั้นแล้วรัฐบาลจะไม่มีผลงานเพื่อใช้สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ และอีกเรื่องที่สำคัญที่สุดในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ เนื่องจากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วม ดังนั้นพรรคร่วมฯ ก็จำเป็นต้องปรับคนของแต่ละพรรคให้มีผลงานออกมาเป็นเนื้อเดียวกันในการแก้ปัญหาวิกฤตของชาติไปให้ได้ 

วรชัยกล่าวต่อว่า ที่สำคัญที่สุดพรรคการเมืองบางพรรคที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจเดิมที่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขออย่าได้เอาคนที่มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจกับการปราบปรามสลายม็อบคนเสื้อแดงจนมีการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย รวมถึงมีส่วนร่วมกับการยึดอำนาจเข้ามาเป็นรัฐมนตรี 

เพราะจะทำให้พี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตยและยืนเคียงข้างพรรคเพื่อไทยผิดหวัง แล้วจะทำให้คนกลุ่มนี้หันหลังให้กับพรรคเพื่อไทยในที่สุด ประกอบกับกระแสข่าวที่นายกฯ จะไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วให้ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จะทำให้อำนาจคุมกองทัพกลับไปอยู่กับกลุ่มทหารเดิมที่เคยมีส่วนร่วมกับการยึดอำนาจจากยิ่งลักษณ์ 

และอาจเกิดการสะสมกำลัง รอคอยโอกาสและเวลาที่เหมาะสมที่รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองสร้างเงื่อนไขหาเหตุผลในการยึดอำนาจจากฝ่ายประชาธิปไตยได้อีกครั้ง

The post วรชัยเห็นด้วย ปรับ ครม. เพื่อให้งานถูกฝาถูกตัว แนะอย่าดึงกลุ่มที่เคยยึดอำนาจอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์มาให้คนเสื้อแดงผิดหวัง appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (18 เมษายน) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ กล่าวถึงกระแสข่าวการเดินทางกลับมาประเทศไทยของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กรมราชทัณฑ์จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล ซึ่งจะไม่มีใครได้รับข้อยกเว้น ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชทัณฑ์ ในส่วนของการกำหนดโทษเป็นเรื่องของศาล โดยคนที่จะเข้าคุกก็จะต้องมีหมายจากศาล และตามข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) เรื่องการปฏิบัติกับผู้ต้องขังเราได้รับมาตรฐาน

ส่วนลักษณะการกลับมาของยิ่งลักษณ์จะเป็นอย่างไร พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เป็นคำถามสมมติจึงไม่ขอตอบ แต่ยืนยันว่า ปกติเราจะไม่ใช่ผู้พิจารณา เนื่องจากมีระบบอยู่แล้ว ดังนั้นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำที่ตอนนี้มีเกือบ 300,000 คน ก็จะปฏิบัติแบบนี้ทั้งหมด 

เมื่อถามว่า หน่วยงานไหนที่จะเริ่มต้นกระบวนการของยิ่งลักษณ์ พ.ต.อ. ทวี กล่าวย้ำว่า มีระบบของเรือนจำอยู่แล้ว ใครที่จะเข้าคุกต้องมีหมายจากศาล หากเป็นผู้หญิงก็จะมีมาตรฐานให้ผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้หญิง 

ส่วนเมื่อลงจากเครื่องบินที่สนามบินจะดำเนินการอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องส่งตัวให้เรือนจำใช่หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ใช่ และส่วนใหญ่จะปฏิบัติตามมาตรฐานเดียว ไม่มีสองมาตรฐาน  

เมื่อถามว่า ยิ่ง​ลักษณ์​ต้องถูกตัดผมหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า มาตรฐานของผู้หญิงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นระเบียบของผู้หญิง 

ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า จะใช้โมเดลเดียวกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มาอยู่เรือนจำแบบไม่กี่ชั่วโมง พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ไม่มีโมเดลใครทั้งนั้น

The post ทวียืนยัน ยิ่งลักษณ์กลับไทยดำเนินการตามมาตรฐานเดียว ไม่มีโมเดลใครทั้งนั้น ย้ำตัดผมหรือไม่เป็นเรื่องของระเบียบเรือนจำ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (18 เมษายน) พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อตนเองจะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่ทราบ ทำงานอย่างเดียว และยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ จะพูดอะไรก่อนไม่ได้ มีแต่คุยเรื่องงาน และส่วนตัวก็ทำงานตามปกติ ยังไม่ได้มีการเตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการกลับประเทศไทยของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะคนใกล้ชิดจะต้องเข้าไปดูในเรื่องข้อกฎหมายหรือไม่ พิชิตกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาแล้วมันมีกระบวนการ ซึ่งกระบวนการเป็นไปตามกฎหมายว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น

เมื่อถามว่ากระบวนการจะคล้ายกับทักษิณหรือไม่ เพราะทักษิณระบุว่าถูกยัดคดีเยอะแต่ของยิ่งลักษณ์นั้นมีเพียงแค่คดีเดียว พิชิตระบุว่า ส่วนตัวว่าโมเดลก็คล้ายๆ กัน

เมื่อถามว่ายิ่งลักษณ์เดินทางกลับจะเป็นช่วงเดือนตุลาคมหรือช่วงปลายปีนี้ พิชิตกล่าวว่า เรื่องเวลายังไม่ทราบ เพราะตนเองดูแต่เรื่องคดีให้ยิ่งลักษณ์ ซึ่งถึงเวลามีกระบวนการที่ต้องทำ เนื่องจากกฎหมายเขียนไว้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน

พิชิตกล่าวด้วยว่า กรณีนี้ไม่มีสองมาตรฐาน รวมถึงที่ผ่านมาก็ไม่มีสองมาตรฐาน มันเป็นเรื่องการบังคับโทษ การบริหารโทษ ไม่มีอะไรสองมาตรฐาน ถึงได้บอกว่าพอเราไม่เข้าใจหรือมองแบบคนรักคนชอบ ซึ่งที่ผ่านมาเรายึดหลักการบังคับโทษ บริหารโทษ เมื่อกระบวนการยุติธรรมสิ้นสุดนับแต่ศาล ออกใบแดงแจ้งโทษแล้ว เพราะฉะนั้นรูปแบบอะไรก็คล้ายๆ กัน แต่เมื่อถึงเวลายิ่งลักษณ์ตัดสินใจอย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่ท่าน กระบวนการไม่มีอะไรซับซ้อน

The post พิชิตเผย ยิ่งลักษณ์กลับไทยโมเดลคล้ายทักษิณ ยืนยันไม่สองมาตรฐาน-ตามกระบวนการกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (14 เมษายน) ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปบริเวณพระธาตุได้แวะซื้อ จำนวน 140 ใบ โดยเป็นการให้แม่ค้าหยิบแบบสุ่มให้ ก่อนจะขึ้นไปบนวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเพื่อประกอบพิธี ไหว้พระธาตุ และทำบุญ สรงน้ำพระเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ทักษิณได้พบปะสนทนาธรรมกับพระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พร้อมกล่าวกับทักษิณว่า “ขอให้ใจเย็นๆ นั่งพักผ่อนให้สบายๆ มาครั้งที่แล้วมีเวลาไม่นาน ครั้งนี้อยากให้นั่งพักนานๆ ซึ่งเงินที่ทักษิณเคยถวายไว้ครั้งก่อน ได้เอาไปทำบุญบูรณะบริเวณวัดแล้ว หลังจากมีพายุเข้าช่วงหลังจากที่ทักษิณกลับไป ถือว่าเงินทำบุญครั้งนั้นจะทำให้ครอบครัวของทักษิณมีความเจริญรุ่งเรือง”

จากนั้นทักษิณได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้มีพรรคพวกชวนตนเองไปดูคอนเสิร์ต ตนก็จะไปดูว่าชีวิตของคนเชียงใหม่กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างไร เวลามาเที่ยวสงกรานต์แล้วสนุกสนานแบบไหน ตนจะได้เข้าใจเขามากขึ้น ตนห่างประเทศไทยไปนาน ก็ขอไปทำความเข้าใจให้มากขึ้น พร้อมยืนยันว่าขณะนี้อาการป่วยของตนดีขึ้นมาก ได้กลับมาอยู่บ้านภาวะจิตใจก็ดี ความพร้อมในการออกกำลังกายให้ร่างกายฟื้นตัวก็มีมากขึ้น อยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีจิตใจที่จะทำอะไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพที่ออกมามักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไร ป่วยก็อยากจะหาย หวังว่าคนที่วิจารณ์ตนเวลาเจ็บป่วย เขาก็คงอยากหายเหมือนตน เราก็ควรจะดีใจ อย่าไปซ้ำเติมเขา

ทักษิณกล่าวถึงการกลับมาเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่ในรอบ 18 ปีว่า “รู้สึกม่วนอกม่วนใจ๋ จิตใจสบาย สงบ เพราะกลับมาแล้วก็อยากสงบ อยากใช้ชีวิตเรียบง่าย และการขอพรในวันนี้ เมื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผมก็สักการะด้วยความเคารพบูชา จะไม่ค่อยเรียกร้องอะไร เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว พระเจ้าลิขิตไว้แล้วว่าจะมีอะไร”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้เป็นวันครอบครัว เมื่อได้กลับมาอยู่กับครอบครัวรู้สึกอย่างไร ทักษิณกล่าวว่า อบอุ่น เจอคนไทย ประเพณีและวัฒนธรรมไทย อาหารไทย พี่น้องเพื่อนฝูง สื่อมวลชนคนไทย ก็มีความสุข ดีกว่าอยู่เมืองนอกเยอะ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มาสงกรานต์ที่เชียงใหม่เช่นนี้ คิดถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เนื่องจากปกติในเทศกาลสงกรานต์จะอยู่ด้วยกัน ทักษิณกล่าวว่า “นายกฯ ปูอวยพรสงกรานต์ก่อนที่ผมจะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวปีหน้าเรามาทำบุญด้วยกัน สงกรานต์ปีหน้า นายกฯ ปูคงได้มีโอกาสมาทำบุญ”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เป็นข่าวดีใช่หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตอนที่ตนจะเดินทางกลับก็มีความมุ่งมั่นว่าอยากกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่ากลับอย่างไร เมื่อไร ซึ่งก็คิดแต่วันแรกที่ออกไปว่าจะต้องกลับให้ได้ เมื่อไรก็ไม่รู้ และยิ่งลักษณ์อยากกลับอยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยิ่งลักษณ์บ่นเหงาบ้างหรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ก็มีบ้าง แต่ต่างคนต่างมีภารกิจเกี่ยวกับบ้านเมือง ยิ่งลักษณ์ก็ห่วงบ้านเมืองเช่นเดียวกัน ก็ช่วยกันคิดช่วยกันทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พวกเราเป็นรัฐบาล ก็ให้ความเห็น ส่วนจะกลับมาช่องทางไหนนั้นยังไม่ทราบ เอาความตั้งใจก่อน และในส่วนยิ่งลักษณ์ไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนของตน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยิ่งลักษณ์จะกลับมาภายในปีนี้หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ก็ตั้งใจอย่างนั้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะอย่างไร เดี๋ยวดูเหตุการณ์ก่อน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นเดือนตุลาคมปีนี้ใช่หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตั้งใจ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลับมาสองคนกังวลว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ทุกอย่างมีเหตุผล อยากวิจารณ์ก็วิจารณ์ไป แต่เราต้องมีเหตุผลของเรา ตอบสังคมส่วนใหญ่ได้ สังคมส่วนน้อยก็มีบ้างเป็นธรรมดา ไม่มีใครพอใจ แม้กระทั่งบางคนอยู่บ้านเดียวกันพ่อแม่ลูก บางทีลูกทำอะไรพ่อแม่อาจไม่พอใจ เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีข้อยุติร่วมกันทั้งหมด

The post ทักษิณขึ้นดอยสุเทพ พร้อมซื้อหวย 140 ใบ บอกให้รอฟังข่าวดี สงกรานต์ปีหน้า ‘ยิ่งลักษณ์’ ได้กลับบ้านทำบุญด้วยกัน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (30 มีนาคม) ดนุพร ปุณณกันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เปิดเผยว่า ทันทีที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติวาระ 2 และวาระ 3 ผ่านร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ด้วยคะแนน เห็นด้วย 400 เสียง ไม่เห็นด้วย 10 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา 

ตนในฐานะประธาน กมธ.ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ได้ดำเนินการประสานงานกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อขอความร่วมมือต่อ สว. ขอให้บรรจุร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม สว. และในท้ายที่สุดทางเลขาธิการวุฒิสภาได้ส่งหนังสือด่วนมากระบุว่า ประธานวุฒิสภามีคำสั่งให้บรรจุร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เข้าสู่การประชุมวุฒิสภาเพิ่มเติมเป็นวาระด่วนที่ 3 ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 31 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 2) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2567 

ทั้งนี้ ในฐานะตัวแทนกรรมาธิการฯ และในฐานะตัวแทนของประชาชน ขอขอบคุณวุฒิสภาที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสิทธิ ความเท่าเทียม และความเสมอภาค ของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วน ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะสำเร็จได้หากทุกฝ่ายมุ่งมั่นทำงานร่วมกัน ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย 

ดนุพรกล่าวต่อว่า ในนามของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีดีเอ็นเอเดียวกันกับพรรคไทยรักไทย ได้รับไม้ต่อในการต่อสู้เพื่อการสมรสของผู้มีความหลากหลายทางเพศเมื่อ 22 ปีก่อน ในปี 2544 รัฐบาลยุค ทักษิณ ชินวัตร โดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นริเริ่มแนวคิดเรื่องนี้ แต่กระแสสังคมไม่เห็นด้วย 

ต่อมาในปี 2555 มีผู้มีความหลากหลายทางเพศต้องการจดทะเบียนสมรส แต่ถูกปฏิเสธ จึงได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่การร่างกฎหมาย พ.ร.บ.คู่ชีวิต ในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปี 2556 โดยระหว่างนั้นมีความพยายามในการผลักดันอย่างต่อเนื่อง 

สุดท้ายในปี 2557 เกิดรัฐประหาร การผลักดันร่าง พ.ร.บ. จึงยุติลง แต่พรรคเพื่อไทยไม่ละความพยายาม ภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ได้ให้ความสำคัญกับสิทธิและความเท่าเทียมของพี่น้องประชาชนทุกคน จนนำมาซึ่งการผลักดันเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

อ้างอิง: 

• https://x.com/danuphornp/status/1773946428655874332?s=46&t=Sv6FiugU-n-01Qy0ZXM9cQ

The post ดนุพรขอบคุณ สว. เร่งบรรจุร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ให้เครดิตอดีตนายกฯ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ จุดประกาย appeared first on THE STANDARD.

มหากาพย์ดีลทักษิณยังไม่จบ! ยิ่งลักษณ์ต้องกลับบ้าน-เปลี่ยนนายก-ยุบก้าวไกล “กล้าปฏิเสธไหม เศรษฐาจะไม่พบทักษิณ” การเมืองไทยอย่าถามหาเหตุผล

The post ชมคลิป: จตุพรเปิดมหากาพย์ดีลทักษิณ ยังไม่จบ! ยิ่งลักษณ์กลับบ้าน-เปลี่ยนนายก-ยุบก้าวไกล | THE STANDARD NOW appeared first on THE STANDARD.

ดีลทักษิณกลับไทยสำเร็จไปพร้อมการตั้งรัฐบาลพิเศษที่นำโดย เศรษฐา ทวีสิน สิ่งที่ทุกคนคาดหมายก็กำลังจะเกิดขึ้นคือดีลพา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างปูทางให้ยิ่งลักษณ์กลับบ้านไว้แล้ว

ขณะที่เกมการเมืองในสภาก็ปะทะกันหนักระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงการเลือก สว. ชุดใหม่ หลัง สว. ชุดปัจจุบันจะหมดวาระในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้

ติดตามและร่วมวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้ในวันที่ 9 มีนาคมนี้ เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป

The post ชมคลิป: ปูทางยิ่งลักษณ์กลับไทย เลือก สว. ใหม่สุดซับซ้อน | END GAME #51 appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (7 มีนาคม) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าตอบกระทู้ของรัฐมนตรี ภายหลังที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับในเรื่องนี้ว่า รัฐมนตรีทุกคนตั้งใจที่จะตอบกระทู้ แต่บางครั้งมีเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนตัวมาเตรียมความพร้อมอยู่เสมอแต่ครั้งนี้ไม่มี สส. ตั้งกระทู้ถามก็ไม่เป็นไร ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่บางครั้งการตั้งกระทู้ถามจาก สส. คนว่างและคนตอบไม่ตรงกัน

เมื่อถามว่า รัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่าหนีการตอบกระทู้จากสภานั้น สุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติเพราะเป็นข้อกล่าวหาอมตะ เพราะในตอนที่ตนเป็นฝ่ายค้านก็กล่าวหารัฐบาลแบบนี้เช่นกัน ส่วนตัวเข้าใจรัฐมนตรีทุกคน แต่ประเด็นอยู่ที่ข้อบังคับควรจะถามก่อน 1 วันเพื่อให้เตรียมความพร้อมมาตอบหรือไม่ แม้บางคนมองว่าหากรู้ก่อนจะไม่เป็นกระทู้สดนั้น ต้องมองว่าอะไรจะมีประโยชน์มากกว่า พร้อมเสนอให้แจ้งประสานรัฐมนตรีก่อนล่วงหน้า 1 วัน แต่ไม่จำเป็นต้องบอกประเด็นก็ได้ 

ส่วนการไม่มาตอบกระทู้ครั้งก่อนของตนนั้น สุทินกล่าวว่า แม้ สส. ก้าวไกลแจ้งก่อนล่วงหน้า แต่ได้ประสานกับประธานวิปรัฐบาลไปด้วยเช่นกันว่าไม่ทัน เพราะทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายตนติดภารกิจ

ส่วนกระแสข่าวกันการปูทางให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับไทยนั้น สุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบมาก่อน จึงต้องฟังจากปากของยิ่งลักษณ์เอง เพราะอาจจะมีการสร้างประเด็นหรือกุเรื่องขึ้นมาก็ได้ พร้อมย้ำว่าเดาใจยิ่งลักษณ์ไม่ออก 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวอยากให้ยิ่งลักษณ์กลับหรือไม่ สุทินกล่าวว่า ตามใจท่าน

The post สุทินชี้ ข้อกล่าวหารัฐมนตรีหนีตอบกระทู้เป็นเรื่องอมตะ แนะเปลี่ยนข้อบังคับแจ้งรัฐมนตรีล่วงหน้า 1 วัน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 มีนาคม) ที่รัฐสภา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ต้องให้พรรคก้าวไกลเป็นหลัก โดยพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นญัตติโดยลำพังไม่ได้ เนื่องจากเสียงไม่พอ ต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลในฐานะที่เป็นแกนนำของฝ่ายค้านว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยพรรคประชาธิปัตย์ก็จะดำเนินการไปตามนั้น 

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลเพียงพอที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วหรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ขอพูดในขณะนี้ จะเป็นการกดดันพรรคก้าวไกล โดยฝ่ายค้านจะยื่นขอเปิดอภิปรายตามมาตรา 151 หรือ 152 ก็สามารถทำได้ ถ้าพิจารณาคิดว่าสมควรที่จะทำ ส่วนที่รัฐบาลบอกว่ายังไม่ได้ใช้งบประมาณนั้นมองว่า การทุจริตจะเกิดขึ้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้งบ หากจะโกงไม่ใช้งบก็โกงได้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วฝ่ายค้านมีมติจะยื่นขออภิปรายตามมาตรา 151 หรือ 152 นั้น พรรคประชาธิปัตย์มีหน้าที่เพียงปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น แต่ก็ไม่ทิ้งภารกิจในการตรวจสอบรัฐบาล

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมพวก ในโครงการ Road Show สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 นั้น จุรินทร์กล่าวว่า ความจริงแล้วไม่มีใครห้ามไม่ให้ยิ่งลักษณ์กลับ สามารถกลับได้ แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาที่ไม่กลับเพราะหนีคดี ไม่ใช่เพราะไม่มีใครไม่ให้กลับ อยู่ที่ตัวยิ่งลักษณ์เองว่าสุดท้ายแล้วจะตัดสินใจอย่างไร เพียงแต่ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ควรเกรงใจประชาชนบ้าง เพราะหลักกฎหมายยังมีอยู่ หลักผิดก็ต้องรับผิด ถูกก็ต้องรับถูก จะมาทำลายเหยียบย่ำคิดว่าวันหนึ่งจะย้อนกลับมา เป็นสิ่งที่ขอฝากเตือนไว้โดยไม่มีอคติส่วนตัว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่ยิ่งลักษณ์รอดหลายคดีหลายคนมองว่าเป็นการปูทางกลับประเทศไทย จุรินทร์กล่าวว่า ความจริงถ้าจะกลับก็ไม่ต้องปูทาง กลับได้อยู่แล้ว แต่คดีที่ยังค้างคาและโทษที่ศาลตัดสินไว้ยังคงอยู่ เพราะฉะนั้นก็ต้องว่ากันไปตามนั้น

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า สามารถใช้ทักษิณโมเดลได้หรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า อย่าไปทำร้ายกระบวนการยุติธรรม จะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย เป็นสิ่งที่ประชาชนรู้สึกมากและจับตาดูอยู่ อย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้สึกและไม่เจ็บปวด บ้านเมืองจะอยู่ได้ด้วยหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง หากปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตปิดตาข้างหนึ่ง จะเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 157 รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ตนไม่เคยไปวิจารณ์นอกเหนือจากรัฐบาล เนื่องจากเป็นฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากรัฐบาลรู้เห็นเป็นใจ ดังนั้นทั้งหมดต้องนับหนึ่งที่รัฐบาล 

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการนำกรณีของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาอภิปราย และท้ายที่สุดจะเป็นการดีลให้สองพี่น้องกลับบ้านหรือไม่นั้น จุรินทร์กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในฐานะประชาชนที่รักความยุติธรรมเช่นเดียวกับคนจำนวนไม่น้อยในประเทศที่อยากเห็นถูกตามถูกผิดตามผิด อย่าทำให้ซ้ำรอย นี่คือหัวใจสำคัญ

The post จุรินทร์ชี้ ไม่มีใครห้ามยิ่งลักษณ์กลับไทย เพราะหนีคดีเอง เตือนอย่าใช้ทักษิณโมเดล appeared first on THE STANDARD.