มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 09 Nov 2022 09:12:20 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 #สามพระจอมจะยอมได้ไง อาชีวะไล่เผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชนปลดแอก https://thestandard.co/rally-for-democracy-300763/ Thu, 30 Jul 2020 13:26:32 +0000 https://thestandard.co/?p=384560 #สามพระจอมจะยอมได้ไง อาชีวะไล่เผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชนปลดแอก

วันนี้ (30 กรกฎาคม) เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยพระจอมเ […]

The post #สามพระจอมจะยอมได้ไง อาชีวะไล่เผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชนปลดแอก appeared first on THE STANDARD.

]]>
#สามพระจอมจะยอมได้ไง อาชีวะไล่เผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชนปลดแอก

วันนี้ (30 กรกฎาคม) เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าฯ 3 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ หรือ มจพ. ร่วมกับกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน และกลุ่มอาชีวะโค่นเผด็จการ ที่ชูคำขวัญ ‘สืบสานเจตนารมณ์วีรชน 14 ตุลา’ จัดกิจกรรมแฟลชม็อบออนทัวร์ ภายใต้คำขวัญ ‘สามพระจอมจะยอมได้ไง’ ที่ลานเฉลิมพระเกียรติ มจพ. เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์และข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มเยาวชนปลดแอก สอดรับการเคลื่อนไหวของขบวนการเยาวชนในห้วงนี้ รวมถึงเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย

 

โดยมีการเวียนกันไปจัดแฟลชม็อบในสถาบันของตัวเองและอีกสองมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วม เริ่มจาก มจพ. ก่อน พร้อมทั้งมีการ ‘ส่งมอบธงสัตยา’ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการรับไม้ต่อสำหรับจัดแฟลชม็อบครั้งต่อไปของ ‘สามพระจอม’ ในลักษณะทีมเหย้า-​ทีมเยือนให้ครบทั้ง 3 แห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ระมัดระวังในการใช้ถ้อยคำที่อาจหมิ่นเหม่หรือไม่เหมาะสม และขอให้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วย โดยผู้จัดงานได้เตรียมหน้ากากผ้าและเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้ผู้ร่วมกิจกรรมและสื่อมวลชน รวมถึงขอความร่วมมือให้เว้นระยะห่างด้วย

 

สำหรับกิจกรรม มีการนำป้ายผ้าให้ผู้ร่วมกิจกรรมเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงข้อความที่สะท้อนความยุติธรรมกรณีทายาทเครื่องดื่มชูกำลังไม่ถูกดำเนินคดีหลังขับรถชนตำรวจเสียชีวิต อย่างข้อความที่ว่า “อยู่ที่ไหนก็ไม่ดีเท่าอยู่วิทยา”  

 

ส่วนการปราศรัยโดยแกนนำสามมหาวิทยาลัยได้เน้นใน 3 เรื่องหลักคือ ภาพรวมการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว, ระบบ SOTUS ในโรงเรียนและสถาบันการศึกษา รวมถึงกฎระเบียบที่ละเมิดสิทธินักเรียน และสิทธิเสรีภาพในการเเสดงความคิดเห็นของประชาชน

 

ด้าน ภาณุพงศ์ จาดนอก จากกลุ่มเยาวชนปลดแอกกล่าวปราศรัยเป็นคนสุดท้าย ย้ำถึง 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มคือ ยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และหยุดคุกคามประชาชน โดยระบุถึงการพยายามตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญรับฟังความเห็นเยาวชนและนักศึกษา ซึ่งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่าผู้มีอำนาจต้องการยื้อเวลาการครองอำนาจออกไปให้ยาวนานที่สุดหรือต้องการแก้ปัญหาจริงๆ ซึ่งทางกลุ่มได้ปฏิเสธการเข้าร่วมไปแล้ว 

 

ขณะที่กลุ่มแนวร่วมนวชีวินได้จัดกิจกรรม ‘Hamtaro Oak Oak Run’ ในบริเวณเดียวกัน เพื่อประณามการที่ตำรวจและครูในจังหวัดนนทบุรีคุกคามนักเรียนที่จัดและเข้าร่วมกิจกรรม ‘เด็กนนท์พร้อมชนเผด็จการ’ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา และเป็นกิจกรรมปิดท้ายแฟลชม็อบของ ‘สามพระจอม’ ด้วยการถือของเล่นบีบรูปตุ๊กตาไก่วิ่งล้อมวงไปพร้อมกับการร้องเพลงแฮมทาโร่ และใช้รหัสเปล่งเสียงสอดรับกันว่า “อะหรือ อะหรือว่าเป็น…เผด็จการ” 

 

สำหรับแฟลชม็อบสามพระจอมครั้งต่อไปจะจัดที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยให้ผู้รักประชาธิปไตยและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมติดตามวันเวลาและสถานที่จากเพจของกลุ่มนักศึกษาลาดกระบัง

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post #สามพระจอมจะยอมได้ไง อาชีวะไล่เผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชนปลดแอก appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้จักฮีโร่กว่า 50 หน่วยงาน ร่วมช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง https://thestandard.co/50-department-heroes-searching-13-trapped-in-tham-luang/ https://thestandard.co/50-department-heroes-searching-13-trapped-in-tham-luang/#respond Tue, 10 Jul 2018 11:20:35 +0000 https://thestandard.co/?p=102712

เข้าสู่วันที่ 18 แล้ว (10 ก.ค.) สำหรับภารกิจช่วยชีวิตที […]

The post รู้จักฮีโร่กว่า 50 หน่วยงาน ร่วมช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง appeared first on THE STANDARD.

]]>

เข้าสู่วันที่ 18 แล้ว (10 ก.ค.) สำหรับภารกิจช่วยชีวิตทีมฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายและโค้ช รวม 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย

 

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือแข่งกับเวลา รวมแล้วไม่น้อยกว่า 50 หน่วยงาน มีจำนวนคนหมุนเวียนมาช่วยเหลือในพื้นที่แล้วนับหมื่นคน หรือวันละประมาณ 4 พันคน

 

เขาเหล่านี้แม้ไม่มีพลังวิเศษ แต่ก็เปรียบได้กับ ‘ฮีโร่’ ในชีวิตจริงที่ต่างคนต่างทำงานอย่างหนักทั้งวันทั้งคืน โดยมีเดิมพันเป็นความปลอดภัยของทั้ง 13 ชีวิตที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือ

 

ฮีโร่เหล่านี้เป็นใครกันบ้าง THE STANDARD รวบรวมมาให้คุณรู้จักกัน

 

 

  • THE STANDARD ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของจ่าเอก สมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม รุ่น 30 อายุ 38 ปี ‘ฮีโร่’ คนสำคัญที่เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อภารกิจครั้งนี้

 

  • อีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัท The Boring Company นำทีมพร้อมอุปกรณ์แคปซูลดำน้ำมาช่วยเหลือการลำเลียงทีมหมูป่าออกจากถ้ำ พร้อมลงพื้นที่สำรวจถ้ำจริง และทิ้งอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวไว้กับทีมปฏิบัติการ

 

 

  • ดร.ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลีย หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำนานาชาติ เดินทางมาพร้อมกลุ่มนักดำน้ำในถ้ำผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นตำรวจออสเตรเลียอีก 6 คน ทำหน้าที่เป็นทีมตรวจและประเมินสุขภาพของทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ว่าสามารถดำน้ำออกมาเองได้หรือไม่

 

  • ทีมเก็บรังนกนางแอ่นจากเกาะลิบง จ.ตรัง ทำหน้าที่สำรวจหาโพรงถ้ำ เหนือบริเวณถ้ำหลวง

 

  • มูลนิธิสยามรวมใจแม่สาย หรือกู้ภัยแม่สาย

 

  • ทีมกู้ภัยในจังหวัดเชียงราย

 

 

  • นายเวิร์น อันสเวิร์ธ ผู้ที่เคยสำรวจถ้ำ

 

  • นายกมล คุณงามความดี อดีตเจ้าหน้าที่วนอุทยานถ้ำหลวงฯ

 

 

  • มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) ส่งคนเข้าไปดำน้ำหาในช่วงแรก พร้อมตั้งกองอำนวยการร่วมกับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จังหวัดเชียงราย และมูลนิธิต่างๆ

 

  • หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง (ฉก.ม.3 กล.ผาเมือง)

 

  • หน่วยพัฒนาเคลื่อนที่เร็ว 35 (นพค.35) ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมประเมินสถานการณ์ พร้อมสนับสนุนเครื่องมือให้กับหน่วยซีล

 

  • กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ค่ายเพชรบุรีราชสิรินธร (ร.11 พัน 3 รอ.)

 

 

  • หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) จำนวน 3 นาย เข้าไปสมทบในถ้ำ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่สูญหาย (ช่วงแรกการค้นหา)

 

  • หน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม (หน่วยซีล) หน่วยที่ขึ้นชื่อว่าอึดที่สุดของทหารเรือ ส่งเจ้าหน้าที่ 18 นายเป็นแนวหน้า ค้นหาเด็กติดถ้ำ ซึ่งทุกคนได้ฝากความหวังไว้กับหน่วยนี้ว่าจะค้นหาเด็กๆ และครูจนพบ

 

  • สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) หรือ สบอ.15 ส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และสอบถามข้อมูลจากผู้ปกครองของเด็กๆ และส่งชุดเดินเท้า 19 นาย เข้าสำรวจโพรงถ้ำ

 

  • กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ช่วยด้านข้อมูลและสำรวจโพรงถ้ำ

 

 

  • หน่วยช่วยเหลือด้านการแพทย์ ประกอบด้วย โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช, โรงพยาบาลพญาเม็งราย, สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย, โรงพยาบาลศูนย์เชียงรายประชานุเคราะห์ และโรงพยาบาลแม่จัน ส่งหมอ พยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์คอยช่วยเหลือทุกคนในภารกิจนี้ รวมถึงเตรียมพร้อมในการดูแลรักษาเด็กๆ และครู หากเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้

 

  • สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่

 

  • ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย อำนวยความสะดวกทีมช่วยเหลือ ซึ่งล่าสุดได้ส่งท่อลมขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มออกซิเจนในถ้ำ

 

  • กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยด้านข้อมูลและสำรวจโพรงถ้ำ

 

  • เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครในพื้นที่แม่สาย ระดมกำลังช่วยเหลือในทุกๆ ด้านตามความสามารถอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

  • ค่ายมือถือของประเทศไทย ประกอบด้วย AIS, DTAC, True, CAT และ TOT ที่ช่วยขยายสัญญาณโทรศัพท์ ด้วยการประสานงานจาก กสทช.

 

  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นำหุ่นยนต์ดำน้ำ (ROV) จำนวน 1 เครื่อง โดรนติดกล้องจับความร้อน สำหรับบินสำรวจหาอีก 2 ลำ ลำเลียงผ่านเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ เพื่อร่วมค้นหา

 

  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งไฟฟ้าเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งต้องใช้ไฟในการค้นหาในหลายส่วน

 

  • กรมชลประทาน ส่งทีมจากสำนักเครื่องจักรกล นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 10 เครื่อง เดินทางไปสนับสนุนการช่วยเหลือ

 

  • ประเทศลาว ได้ส่งนักประดาน้ำชาวลาว จากมูลนิธิกรมการกู้ภัยแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ 1623 เข้าร่วมภารกิจกับหน่วยกู้ภัย ของไทย เพื่อค้นหาผู้สูญหาย

 

 

  • สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ส่งกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) ได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัย เพื่อช่วยตามหาผู้สูญหาย ตามคำขอของรัฐบาลไทย

 

  • กทม. ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมสายสูบน้ำดับเพลิงระยะไกล

 

  • บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ส่งทีมงานพร้อมโดรนและหุ่นยนต์เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหา ซึ่งโดรน 3 ลำ ที่สามารถระบุสภาพใต้ดินว่ามีโพรงเชื่อมต่อกับถ้ำได้หรือไม่ และสามารถตรวจจับความร้อนใต้พื้นดินได้ด้วย

 

  • กรมทางหลวงขนหินละเอียดหลายสิบคัน เข้าถมพื้นที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์ประสานช่วยเหลือ และกรมทางหลวงชนบทร่วมกับกรมทางหลวงในการขนส่งวัสดุและเกลี่ยปรับพื้นที่ ซ่อมและสร้างเส้นทางเพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาและกู้ภัย โดยมีจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวง 50 คน และเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงชนบทจำนวน 20 คน รวมทั้งสิ้น 70 คน

 

 

  • เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน จากองค์กร Derbyshire Cave Rescue Organisation ซึ่งเดินทางมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

  • ศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมปฐพี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วยข้อมูลเรื่องเจาะผนังถ้ำหลวง

 

  • บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้เชื่อมต่อสาย Fiber Optic เพื่อให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในถ้ำ และทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ด้านใน

 

  • จิตอาสาโรงทาน

 

  • ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำจากประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาที่ถ้ำหลวง เตรียมช่วยในปฏิบัติการระบายน้ำออกจากถ้ำ

 

  • นายศักดิ์ฉลาด ศรีวิชา ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 1 ลำปาง

 

  • เจ้าหน้าที่ของทางการจังหวัดท่าขี้เหล็ก จังหวัดชายแดนฝั่งพม่าที่ติดกับ อำเภอแม่สาย ทำการค้นหาโพรงที่อาจเชื่อมกับถ้ำหลวง ซึ่งอาจใช้เป็นเส้นทางในการค้นหาเด็กๆ และโค้ช 13 ชีวิต และพร้อมส่งทีมกู้ภัยเข้าร่วมค้นหากับฝ่ายไทย

 

  • องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น 2 คน ไปจังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมสนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่คณะเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทาน ในการปฏิบัติการระบายน้ำออกจากพื้นที่บริเวณโดยรอบถ้ำหลวง อย่างมีประสิทธิภาพและเร่งด่วน รวมถึงการประเมินความเป็นไปได้ ในการนำเทคโนโลยีล่าสุด จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือลำดับถัดไป

 

  • รัฐบาลจีนส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาและกู้ภัยถ้ำ จำนวน 6 คน ชุดแรกจากมูลนิธิปักกิ่งพีซแลนด์ (Beijing Peaceland) พร้อมหุ่นยนต์ใต้น้ำ อุปกรณ์ดำน้ำ สเปกโทรมิเตอร์สามมิติ เป็นต้น

 

  • นักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญ นำทีมโดย นรินทร ณ บางช้าง ส่งทีมเข้าช่วยเหลือภารกิจค้นหาตั้งแต่วันแรกๆ พร้อมบริจาคอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้ในภารกิจ

 

  • ทีมพญานาคของ ‘ชลอยกกระบัตร’ นำเครื่องสูบน้ำและเครื่องปั่นไฟกำลังแรง 3 เครื่องมาช่วยในภารกิจตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมา

 

  • นายกสมาคมน้ำบาดาล นำทีมพร้อมอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำบาดาลร่วมภารกิจการค้นหาและช่วยชีวิตทีมหมูป่า

 

  • และสุดท้ายคือคนไทยทุกคนที่ช่วยกันติดตามข่าว ส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และภาวนาให้ทั้ง 13 ชีวิตอออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัย

The post รู้จักฮีโร่กว่า 50 หน่วยงาน ร่วมช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/50-department-heroes-searching-13-trapped-in-tham-luang/feed/ 0
พบแล้ว 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง: สรุปปฏิบัติการค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชน 13 ชีวิตในถ้ำหลวง จ.เชียงราย https://thestandard.co/search-for-13-missing-youth-in-tham-luang-khunnam-nang-non-forest-park/ https://thestandard.co/search-for-13-missing-youth-in-tham-luang-khunnam-nang-non-forest-park/#respond Sun, 01 Jul 2018 17:01:09 +0000 https://thestandard.co/?p=100591

  https://www.youtube.com/watch?v=6pwMHQMadfg& […]

The post พบแล้ว 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง: สรุปปฏิบัติการค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชน 13 ชีวิตในถ้ำหลวง จ.เชียงราย appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

https://www.youtube.com/watch?v=6pwMHQMadfg&t=3s

 

จากกรณีที่มีนักฟุตบอลเยาวชนทีม ‘หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย’ และโค้ชรวมจำนวน 13 คนหายไประหว่างท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นที่มาของภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตที่เต็มไปด้วยความกดดันท่ามกลางความหวัง THE STANDARD ประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมอัปเดตสถานการณ์ล่าสุด

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai

 


 

2 กรกฎาคม 2561

 

 

  • ผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงยืนยันพบตัวน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง แล้ว ภารกิจค้นหาสำเร็จแล้ว กำลังอยู่ในช่วงกู้ภัยออกมา

 

 


 

19.54 น. 10 วัน กับ 13 ชีวิตภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

 

ครบ 10 วัน หลังทีมนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายหายตัวไประหว่างท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

 

เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนรวมทั้งต่างประเทศ บูรณาการกำลังคนและอุปกรณ์ที่มีเร่งเข้าค้นหา

 

 

ความหวังหลักคือการเข้าไปหน้าปากถ้ำของหน่วยซีล แต่ยังติดอุปสรรคเรื่องระดับน้ำและช่องทางที่แคบและคดเคี้ยว ขณะที่ความหวังรองคือการสำรวจโพรงถ้ำเพื่อหาช่องทางเข้าไปค้นหาในถ้ำให้ได้

 

10 วันที่เจ้าหน้าที่เร่งทำงานอย่างทุ่มเท ทำทุกวิธีทั้งสูบน้ำ ผันน้ำ และปิดช่องทางที่น้ำไหลเข้าถ้ำ หวังเร่งระบายน้ำออกจากถ้ำ เปิดทางให้ซีลเข้าค้นหา

 

ขณะที่ชุดสำรวจโพรงถ้ำก็ปฏิบัติงานกันอย่างไม่หยุดหย่อน สัญญาณเริ่มดีขึ้นเมื่อปริมาณฝนเริ่มลดลง ทุกคนจึงยังมีความหวัง

 

 

ทีมงาน THE STANDARD ซึ่งลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์อยู่ร่วมสัปดาห์สัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใยที่คนในพื้นที่ส่งถึงทั้ง 13 ชีวิต มองพวกเขาไม่ต่างจากลูกหลาน

 

เสียสละแม้กระทั่งผลผลิตทางการเกษตรที่ต้องเสียหายด้วยความเต็มใจ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศรัทธา หวังเพียงให้ท้ัง 13 ชีวิตปลอดภัยออกมา 

 

 

ภาพ: ฐานิส สุดโต

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

 


 

  • 17.14 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายแถลงความคืบหน้าภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ระบุความคืบหน้าที่ชัดเจนที่สุดคือ กรมอุทยานฯ ร่วมกับกรมชลประทานฯ ปิดช่องน้ำบริเวณห้วยน้ำดั้น ทำให้ลดปริมาณน้ำที่จะเข้าไปในถ้ำได้ค่อนข้างมาก ส่วนการปฏิบัติงานของหน่วยซีล ตำแหน่งที่เข้าไปภายในถ้ำไม่ต่างจากเดิมนัก แต่การแขวนขวดอากาศประสบความสำเร็จมาก ระดับน้ำในภาพรวมลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ในอัตรา 1 เซนติเมตรกว่าๆ ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าพอใจ เตรียมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม ย้ำอีกครั้งสำหรับผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงาน ขอให้ประสานงานกับกองอำนวยการร่วมก่อน มิเช่นนั้นการทำงานจะเกิดความขลุกขลักและไม่ได้รับความสะดวก

 


 

 

12.22 น. เสียงหัวเราะที่หายไปของนักเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ เมื่อนักเรียน 6 ใน 13 ชีวิตติดอยู่ในถ้ำหลวง

 

 

13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง มีนักเรียน 6 จาก 12 คน ในนั้นเรียนอยู่ที่โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์

 

เสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านโรงเรียนตลอดเวลา เสมือนสัญญาณย้ำว่าเพื่อน พี่ น้องของพวกเขาทั้ง 6 ชีวิตยังติดอยู่ในถ้ำ

 

 

หนึ่งในนั้นคือ ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม หรือ โน้ต อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2/9 ซึ่งเพื่อนๆ ร่วมห้องต่างเฝ้ารอเขากลับมา

 

ด.ญ.อาทิตยา กุนะดอย เพื่อนร่วมชั้น ม.2/9 เล่าให้ฟังว่า เพื่อนๆ รู้ข่าวว่าโน้ตหายเข้าไปในถ้ำตั้งแต่ช่วงดึกของวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน

 

ตั้งแต่คืนนั้นทุกคนในห้องจะพิมพ์ข้อความผ่านกรุ๊ปแชตห้อง พร้อมเมนชัน (Mention) ถึงประจักษ์ เพื่อรอวันที่เขาออกมา จะได้อ่านข้อความของเพื่อนๆ ทุกคนที่ส่งถึงเขา

 

 

โน้ตเป็นตัวฮาประจำห้อง พอเขาไม่อยู่ เสียงหัวเราะก็หายไป วันแรกๆ เสียงหัวเราะแทบไม่มีเลย ทุกคนคิดถึงเพื่อนและรอวันที่เขากลับมา

 

“ในกลุ่มแชตจะส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับ #ถ้ำหลวง ถึงกันตลอด และจะมีข่าวผิดๆ ซึ่งบางคนก็ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่แล้วไปพูดข่าวปลอม เราก็รู้สึกว่าทำไมถึงพูดกับเพื่อนเราแบบนี้”

 

ขณะที่ โกมิน อามอ นักเรียนชั้น ม.2/9 เพื่อนสนิทของโน้ตบอกกับเราว่า ปกติจะนั่งเรียนข้างกันตลอด ทุกคนรอเพื่อนกลับมา และทุกวันเพื่อนๆ ในห้องจะเว้นที่นั่งไว้ให้โน้ตเสมอ

 

ในจำนวนนักเรียนชั้น ม.2/9 เกือบทุกคนอาจจะเฝ้ารอการกลับมาของโน้ตเป็นพิเศษ

 

ส่วน สรวิศ ก้อนคำ หรือ วิศ ก็เป็นอีกคนที่นับวันรอการกลับมาของน้องชาย นั่นคือ ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ หรือ ดอม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1/1

 

แม้ทั้งคู่จะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องที่กินอยู่ร่วมชายคาเดียวกันมากว่า 10 ปี

 

 

ดอมเป็นนักฟุตบอล ส่วนวิศเป็นเด็กที่ชื่นชอบวิทยาศาสตร์และพูดน้อย ทีมข่าว THE STANDARD ใช้เวลานั่งทำความสนิทสนมอยู่นานจนเขายอมเผยความในใจ

 

“บางคืนผมก็นอนร้องไห้ เพราะปกตินอนห้องเดียวกัน แต่ตอนนี้หันไปไม่เจอน้อง ไม่ขอพูดอะไรมาก ปลอดภัยกลับมาก็พอแล้ว” วิศกล่าวถึงน้องชาย

 

 

ภาพ: ฐานิส สุดโต

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

 


 

 

  • ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์ภาพวาดฝีพระหัตถ์ในอินสตาแกรม เป็นรูปหมูป่าตัวใหญ่และ 13 คนที่ติดอยู่ใน #ถ้ำหลวง พร้อมแฮชแท็ก #พาหมูป่ากลับบ้าน พร้อมข้อความว่า “อยากขอยืมรูปคนอื่น แต่เขียนเองคงดีกว่า สวยไม่สวยไม่ว่ากัน แต่มาจากใจจริง”

 

 

  • แผนที่ถ้ำหลวงอย่างเป็นทางการจากศูนย์ปฏิบัติการ คืบหน้าวันนี้ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการซีลที่โถง 3 มีถังอากาศและเครื่องมือสื่อสาร โดยไม่ต้องกลับออกมา ล่าสุดซีลไปถึง 3 แยกแล้ว ภารกิจคือเปิดช่องแคบตรงทางเลี้ยวซ้ายบริเวณ 3 แยก มุ่งหน้าพัทยาบีช

 

  • 10.33 น.​ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เผย ได้ส่งอุปกรณ์ที่หน่วยต่างๆ ต้องการลงไปในพื้นที่ คาดว่าวันนี้จะถึงจุดพัทยาบีช แต่น้ำมันแรงมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเด็กจะอยู่ที่นั่นหรือไม่ อยากให้เจอ เพราะนี่ก็ผ่านมา 9 วันแล้ว

 

 

  • 10.15 น.​สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานพรให้ 13 ชีวิตติด #ถ้ำหลวง และผู้ปฏิบัติหน้าที่ปลอดภัย “ขออำนวยพรให้ผู้ประสบเหตุและผู้ปฏิบัติหน้าที่เข้าช่วยเหลือทุกคนจงเจริญสวัสดิภาพ ประสบผลสำเร็จในภารกิจที่มุ่งหมายทุกประการ เทอญ”

 

  • 9.40 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายอัปเดตล่าสุด ซีลเข้าไปถึงสามแยก ขณะนี้มีจำนวนรวม 60 นาย โดยได้ยึดโถง 3 เป็นที่ตั้งบัญชาการในถ้ำ ยืนยันการสื่อสารเป็นไปด้วยดี จากนี้ซีลจะไม่กลับออกมา เร่งเดินหน้าทำงานเพื่อตะลุยผ่านสามแยก โดยจะเริ่มเลี้ยวไปสำรวจทางซ้ายก่อน

 


 

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา วาติกันเผยว่า พระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ได้สวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าขอให้สถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกผ่านวิกฤตการณ์และปัญหาต่างๆ ไปได้ด้วยดี หนึ่งในสถานที่ดังกล่าวคือ ประเทศไทย โดยพระองค์ขอให้โค้ชและนักกีฬาฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ผู้สูญหายทั้ง 13 คน ที่คาดว่าจะติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย รวมถึงทีมช่วยเหลือทุกคนเดินทางกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังเวลาผ่านไปนานกว่า 9 วัน

 

นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังได้สวดมนต์ขอให้เหตุความรุนแรงภายในนิการากัว ซีเรีย รวมถึงการเจรจาสันติภาพระหว่างเอธิโอเปียและเอริเทรีย ที่มีประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ต่างๆ ร่วมกัน แต่กลับต้องกลายเป็นศัตรูกันนับตั้งแต่ปี 1998 ประสบผลสำเร็จ เพื่อยุติความขัดแย้งที่มีมายาวนานกว่า 20 ปี โดยพระสันตะปาปาระบุว่า นี่คือก้าวแรกแห่งความหวังสำหรับทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงแอฟริกาทั้งทวีป

 

อีกทั้งวาติกันยังเผยอีกว่า พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงมีกำหนดการเดินทางเยือน เมือง Bari ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี รวมถึงชุมชนชาวคริสต์ในตะวันออกกลางในวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคมนี้อีกด้วย

 

เรื่อง: ณรงค์กร มโนจันทร์เพ็ญ

 


 

1 กรกฎาคม 2561

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai

 


 

17.30 น.​ เฮลิคอปเตอร์ MI-17 V-5 ขนอุปกรณ์สำรวจโพรง หาช่องช่วย 13 ชีวิตติด #ถ้ำหลวง

 

 

เฮลิคอปเตอร์ MI-17 V-5 จากกองพันบินที่ 41 ศูนย์การบินทหารบก ลพบุรี ทำการขนย้ายอุปกรณ์สนับสนุนภารกิจสำรวจและขุดเจาะโพรงถ้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางของภารกิจค้นหา 13 นักเตะและโค้ชทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

 

 

โดยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 เวลา 17.00 น. พลตรี สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยความคืบหน้าการสำรวจและขุดเจาะโพรงถ้ำว่า ในทุกโพรงที่มีชาวบ้านแจ้งมาได้สำรวจทั้งหมดโดยไม่ตัดทิ้ง

 

 

โดยโพรงที่มีศักยภาพจะเข้าไปได้จะทำการสำรวจ ส่วนวิธีการเข้านั้นได้คำนวณมาว่าพิกัดใดน่าจะตรงกับพิกัดแนวถ้ำ และจะเจาะไปตามเส้นทางที่วิเคราะห์มา โดยได้เครื่องมือจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) มาช่วยสนับสนุน

 

 
 
ขณะที่ทีมงานจากฝ่ายบำรุงรักษาไฟฟ้า กฟผ. นำกล้อง Borescope ซึ่งเป็นกล้องส่องในพื้นที่แคบจำนวน 2 เครื่อง ความยาว 6 เมตรและ 3 เมตร ปลายสายมีกล้องความละเอียดสูง สามารถปรับโฟกัส ทิศทาง และแสงสว่างในที่มืดได้ อีกทั้งสามารถบันทึกภาพได้ทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง ร่วมสนับสนุนปฏิบัติการสำรวจปล่องและโพรงถ้ำของถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเพื่อค้นหาทั้ง 13 ชีวิต

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

17.00 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายเผย ภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตในถ้ำหลวงคืบหน้าในทางที่ดี น้ำลดต่อเนื่อง ยืนยันไม่รับบริจาค เสบียงเพียงพอ

 

 

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือทั้ง 13 นักเตะและโค้ชทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ว่างานส่วนใหญ่คืบหน้าไปในทางที่ดีมากๆ ส่วนที่สูบน้ำทำได้ดีและน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

การดำน้ำซึ่งนำโดยหน่วยซีลมีมนุษย์กบดำน้ำหน้างานเกือบ 60 นาย และได้สถาปนาพื้นที่โถง 3 เป็นจุดปฏิบัติงานของซีล

 

ส่วนการสำรวจช่องหรือโพรงบนดอยนั้นมีช่องที่มีศักยภาพอยู่ 3 จุด ยังอยู่ระหว่างการสำรวจเพื่อขยายผลเพิ่มเติม

 

นอกจากนี้ผู้ว่าฯ เชียงรายยังแถลงชี้แจงข่าวลือและกระแสข่าวต่างๆ โดยยืนยันว่างบประมาณการดำเนินการเพียงพอ ไม่มีการเปิดช่องทางบริจาคเงินอย่างเด็ดขาด หากพบว่าแอบอ้างจะทำการดำเนินคดีทันที ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการกับกลุ่มคนที่รับบริจาคไปแล้ว 2 รายใน 2 จังหวัดคือที่เชียงรายและพระนครศรีอยุธยา

 

ส่วนประเด็นที่มีกระแสในโลกออนไลน์เรื่องการดูแลหน่วยกู้ภัยจีนที่มาช่วยเหลือว่าให้รับประทานข้าวเปล่านั้นไม่เป็นความจริง เพราะหน้างานมีอาหารเลี้ยงคนได้ 3,000-4,000 คนต่อวัน พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับทีมที่เข้ามาช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น

 

ขณะที่สื่อมวลชนที่ต้องการจะนำโดรนขึ้นบินต้องขออนุญาตก่อน เนื่องจากถ้ำหลวงเป็นพื้นที่ควบคุมการบินและใกล้ชายแดน อาจจะกระทบความสัมพันธ์ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

 

ด้าน พลตรี สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่าการที่หน่วยซีลตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่โถง 3 ไม่ได้หมายความว่าเขาหยุดอยู่ที่เดิม แต่มีการทำแนวเชือกไปข้างหน้า ล่าสุดไปได้ไกลจากโถงที่ 3 ประมาณ 600 เมตร

 

นอกจากนี้ทีมสำรวจได้เปิดพื้นที่ใหม่ที่ถ้ำทรายทองเพื่อเร่งการระบายน้ำ ทั้งสูบออกและเจาะน้ำบาดาล

 

ขณะที่ พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ชี้แจงกรณีเพจในโลกออนไลน์ทำคลิปเผยแพร่ข้อมูลว่ามีการจับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่กว่า 1 ล้านเม็ด และพยายามเชื่อมโยงว่าการหายตัวไปของน้องทั้ง 13 คนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ยืนยันว่าถ้ำหลวงไม่เคยเป็นทางผ่านหรือทางลำเลียงยาเสพติด และถ้ำหลวงไม่ใช่พื้นที่สีแดง

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

 

  • เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL เผยความคืบหน้าภารกิจล่าสุด ระบุว่านักดำน้ำชุดที่ 1 เริ่มดำน้ำกันตั้งแต่เวลา 3.58 น. เข้าสู่ห้องโถง 3 และวางเชือกนำทางไปที่สามแยก ถึงขณะนี้ 13.20 น. ได้ระยะทาง 400 เมตร ขณะนี้มีนักดำน้ำทั้งมนุษย์กบหน่วยซีล, นักดำน้ำออสเตรเลีย, นักดำน้ำจากกู้ภัยอยุธยา รวม 25 คน ทำงานอยู่ภายในห้องโถง 3 เสื้อผ้าที่ใส่เปียกน้ำทั้งวัน ขณะนี้นักดำน้ำเริ่มรู้สึกหนาว ขอรับการสนับสนุน Emergency foil space blankets แบบภาพด้านล่างด้วย

 

 

  • พล.ท.สรรเสริญ โฆษกรัฐบาลเผยว่า คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ได้มีการเปิดบัญชีไลน์ ใช้ชื่อ ‘ข่าวจริงประเทศไทย’ หรือ @realnewsthailand โดยเป็นความพยายามที่จะทำให้ข้อมูลข่าวสารที่สับสนในปัจจุบันกระจ่างขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นการเจาะจงเพียงข่าวการค้นหาโค้ชและเด็กทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เท่านั้น แต่ยังรวมถึงข่าวลือต่างๆ ในสังคมด้วย

 


 

10.30 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ซีล) และพลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือทั้ง 13 นักเตะทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ว่ายังคงมี 4 แผน โดยแผนแรกคือการให้ซีลเข้าด้านหน้าถ้ำและนำตัวน้องออกหน้าถ้ำยังเป็นแผนลำดับแรก แต่ปัญหาคือติดน้ำ จึงต้องเร่งระบายน้ำออก โดยขณะนี้เครื่องสูบน้ำเดินได้เต็มที่ ในเบื้องต้นภารกิจหลักคือให้หน่วยซีลไปถึงตำแหน่งที่น้องทั้ง 13 คนอยู่ให้ได้

 

 

สิ่งที่จะดำเนินการในวันนี้คือการให้หน่วยซีลยึดโถง 3 เป็นศูนย์ปฏิบัติการ ปรับให้เป็นที่ตั้งของหน่วยซีล ซึ่งซีลต้องนำอุปกรณ์ทั้งอาหาร ไฟฟ้า และสายโทรศัพท์เข้าไปด้วย

 

ส่วนแผน 2 ซึ่งพยายามเข้าช่องทางอื่น วันนี้ได้สำรวจทุกพื้นที่แล้ว แจ้งกลับมาว่าพบโพรง 20-30 จุด ซึ่งสำรวจทั้งหมดแล้ว มี 2 โพรงที่ดำเนินการได้และกำลังสำรวจอยู่ ถ้ามีความคืบหน้าชัดเจนจะมาแจ้งอีกครั้ง

 

 

ขณะที่แผน 3 ด้านปลายถ้ำ ได้ทำการพร่องน้ำและเจาะบาดาล ทำให้น้ำไหลออกมามากและน้ำลดลงพอสมควร แต่ขณะนี้น้ำลงไปข้างล่างมาก กลัวว่าจะส่งผลกระทบกับชาวบ้าน จึงได้ส่งฝ่ายปกครองไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่

 

และสุดท้ายแผน 4 การเจาะผนังถ้ำ ซึ่งยังยากมาก เนื่องจากยังไม่สามารถขนย้ายอุปกรณ์เจาะผนังถ้ำขนาดใหญ่ไปตั้งบนภูเขาได้

 

 

ผู้ว่าฯ เชียงรายกล่าวด้วยว่า วันนี้ดีใจที่แดดออก และมีแผนแล้วว่าถ้าหากพบเด็กจะดำเนินการอย่างไร

 

ส่วนข่าวดีของวันนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยและได้พระราชทานหลอดไฟแอลอีดีแบบชาร์จไฟได้ เพื่อให้หน่วยซีลนำไปติดตั้งภายในถ้ำเพื่อเพิ่มแสงสว่าง

 

ขณะที่พลเรือตรี อาภากร กล่าวว่าวันนี้หน่วยซีลจะไปยึดโถง 3 เป็นที่ตั้ง ซึ่งตรงนี้เป็นที่มืดและมีน้ำ เป้าหมายเพื่อมุ่งไป 3 แยกและไปต่อที่พัทยาบีชเพื่อค้นหาน้องๆ โดยระยะทางจากโถง 3 ถึงพัทยาบีชประมาณ 3 กิโลเมตร

 

โดยทุกจุดจะเน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ ขณะนี้กำลังระดมนำถังอากาศไปผูกไว้ตามแนวเชือกทุกๆ 25 เมตร

 

สำหรับบรรยากาศบริเวณถ้ำหลวง มีการจัดระเบียบพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรถพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย มีการจัดระเบียบจราจรพื้นที่โดยรอบ กำหนดจุดจอดรถใหม่ พร้อมยกรถที่จอดกีดขวางออกนอกพื้นที่

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

30 มิถุนายน 2561

 

https://www.instagram.com/p/BkpfJinAYWj/?hl=th&taken-by=artiwara

 

  • ตูน บอดี้สแลม โพสท์ภาพทีมหมูป่า ลงใน IG ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมาร่วมวิ่งกับทีมก้าวคนละก้าว บนเส้นทาง แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อปีที่แล้ว พร้อมเขียนข้อความ “ทีมหมูป่าสู้ๆ” และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังทุ่มเทปฏิบัติงานในพื้นที่

 


 

 

18.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือทั้ง 13 นักเตะทีมฟุตบอลเยาวชนชนหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ว่าสัญญาณดีขึ้น เพราะน้ำลดลงเยอะมากและน้ำใส เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าระดับน้ำที่ไหลเข้าถ้ำคงที่ ประกอบกับการสูบน้ำออกจากถ้ำ ถือว่าน้ำลดลงอย่างรวดเร็วและเยอะมาก

 

ส่งผลให้ทีมซีลที่ดำน้ำตลอดทั้งวันจากโถงสามแยกสามารถเข้าไปได้อีก 200 เมตร โดยมีไกด์หลอดเพื่อขยายช่องและนำร่องเส้นทาง ซึ่งเวลาทีมอื่นเข้าไปก็สามารถเข้าไปได้ และนำถังออกซิเจนไปติดตั้งไว้เผื่อเวลาที่น้องๆ ออกมา

 

 

โดยขณะนี้กำลังสู้กับน้ำเก่า ซึ่งอัตราการสูบน้ำอยู่ที่ 30% หากนำเครื่องสูบที่มีแรงดูดสูงกว่านี้เข้ามาจะทำให้สามารถสูบน้ำออกจากถ้ำได้ 100% การทำงานของหน่วยซีลดำน้ำอยู่ตลอดเวลาจนถึงวันนี้ โดยมีการปักหมุดแสง หรือไกด์หลอด (แท่งเรืองแสง) ตามทางเข้าไปในถ้ำได้ไกลถึง 200 เมตร ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี เมื่อใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ วันไหนที่เข้าไปอีกหรือคนอื่นเข้าไปก็จะทราบว่าบริเวณนี้ได้ทำการตรวจสอบแล้ว

 

ทั้งนี้สิ่งที่คืบหน้าเพิ่มเติมคือมีการผูกถังออกซิเจนทุกๆ 25 เมตรเพื่อให้หน่วยซีลสามารถทำงานได้สะดวก เมื่อพบทีมหมูป่าฯ ทั้ง 13 คนแล้ว น้องๆ สามารถใช้ถังออกซิเจนที่เตรียมไว้เพื่อออกมาจากถ้ำได้

 

ส่วนการค้นหาปล่องทางเข้าถ้ำและโรยตัว วันนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. พบ 2 จุดที่จะสามารถเข้าไปได้ จึงให้เฮลิคอปเตอร์ส่งกำลังบำรุงเข้าไปเสริมในพื้นที่

 

ประเด็นการทดสอบทางแพทย์เมื่อเช้า ขณะนี้ทางกรมการแพทย์ทหารบกนำเต็นท์โรงพยาบาลสนาม ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจแรกที่ใช้เต็นท์ลักษณะนี้ โดยเต็นท์โรงพยาบาลสนามจะสามารถช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บได้ทุกภาวะวิกฤต

 

 

กรณีพบทั้ง 13 คน จะมีทีมแพทย์ฉุกเฉินที่ฝึกดำน้ำมาเข้าไปพร้อมหน่วยซีล นำอาหารเสริมชนิดพิเศษแบบเดียวกับที่นักบินอวกาศใช้เข้าไปให้ทั้ง 13 คนกิน พร้อมฟื้นฟูร่างกายให้ทั้ง 13 คนแข็งแรงก่อนจะพาออกจากถ้ำ

 

“ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ยังไม่มีการหยุดพัก มีการเตรียมความพร้อมทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการช่วยเหลือ การกู้ภัย และการส่งกลับ เหลือเพียงแค่หากหน่วยซีลส่งสัญญาณมาว่าสามารถช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตได้ หน่วยงานที่สแตนด์บายอยู่ด้านนอกก็พร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่ทันที“

 

ส่วนการปรับปรุงแผนการเคลื่อนย้ายทั้ง 13 ชีวิต จากการตรวจสอบบริเวณถนนที่ใช้เข้า-ออกบริเวณถ้ำหลวงไม่เป็นระเบียบ จึงจะมีการจัดระเบียบใหม่โดยไม่อนุญาตให้มีการจอดรถตลอดสองข้างทาง ตั้งแต่ทางเข้า ปากทางถนนใหญ่ จนถึงหน้าถ้ำ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายพร้อมจัดรถสองแถวให้มาบริการรับ-ส่งผู้ที่ต้องขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ จึงขอความร่วมมือกับทุกฝ่าย เนื่องจากทุกนาทีมีค่า อย่าให้เสียเวลากับการจราจร

 

ด้าน เอ๋ นรินทร ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว  Narinthorn Na Bangchang เวลา 19.20 น. ขอรับบริจาคถังออกซิเจน (ถังเปล่า) พร้อม Regulator 200 ชุด ตามแผนที่ท่านผู้ว่าฯ ได้แถลงไว้ เพื่อนำไปวางไว้ทุกๆ 25 เมตรเป็นถังสำรองของนักประดาน้ำ

 

โดยหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ พร้อมย้ำว่า ‘ใครที่มีของช่วยของ ใครที่ไม่มีของช่วยแชร์’ และงดรับเป็นเงินบริจาคเด็ดขาด ติดต่อบริจาคของได้ที่โทร. 09 4071 7217

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

18.39 น. ระหว่างเดินทางขึ้นดอยผาหมีเพื่อติดตามภารกิจการสำรวจโพรงหลังคาถ้ำ เราพบรุ่นน้องของ ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง อายุ 11 ปี โรงเรียนอนุบาลแม่สาย หนึ่งในสมาชิกทีมฟุตบอลที่ติดอยู่ในถ้ำ หยา-จิรกร รุ่งสิริพิพัฒน์ ป.5/1, ตี๋-ชลวิทย์ พิทักษ์ริติกุล ป.5/2, และตง-มีชัย รุ่งประชารัตน์ ป.4/2 ทั้งหมดเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลแม่สาย โรงเรียนเดียวกับชนินทร์

 

ทั้งสามคนบอกว่าชนินทร์เป็นนักกีฬาฟุตบอลที่เก่งมากในโรงเรียน เนื่องจากเตะฟุตบอลด้วยกันเป็นประจำจึงรู้ฝีเท้าดี และทีมหมูป่าฯ ก็เป็นทีมที่เก่งในละแวกนี้ คนที่เตะฟุตบอลไม่มีใครไม่รู้จัก

 

 

หลังเกิดเหตุการณ์ ครูที่โรงเรียนบางคนร้องไห้ ขณะที่ครูหลายคนจะมารอชนินทร์ที่ปากถ้ำทุกวัน

 

เมื่อถามว่าคิดว่าพี่เขาจะได้กลับมาไหม พวกเขาตอบอย่างมั่นใจ

 

“ผมว่าพี่เขาต้องได้กลับมา”

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

เวลาประมาณ 9.00 น. ทีมงานแพทย์จากหลายภาคส่วนทั้งทหาร ตำรวจ และโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงราย ซักซ้อมการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย นักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายรวม 13 คน ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

 

 

ขณะที่ช่วงบ่ายเวลา 13.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงข่าวในรายละเอียดการปฏิบัติว่า เมื่อเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยออกจากถ้ำจะมาส่งที่รถพยาบาล 1 คัน ต่อ 1 คน จากนั้นจะนำไปส่งที่โรงพยาบาลสนามเพื่อคัดแยกอาการหนักเบา จากนั้นจะนำขึ้นรถพยาบาลนำส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ที่เตรียมพร้อมไว้ในจังหวัดเชียงราย รวมถึงโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ สำหรับผู้ประสบภัยที่อาการหนัก

 

อย่างไรก็ตาม การซักซ้อมดังกล่าวยังเจอปัญหาอยู่ จึงเตรียมที่จะปรับปรุงระบบและจัดระเบียบให้พื้นที่มีความพร้อมในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมากขึ้น

 

 

ขณะที่ความคืบหน้าภารกิจค้นหาซึ่งเข้าวันที่ 8 ที่ทั้ง 13 ชีวิตยังติดอยู่ในถ้ำนั้น ผู้ว่าฯ เชียงรายเปิดเผยว่าขณะนี้ระดับน้ำลดลงพอสมควร แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าลดลงกี่เซนติเมตร ถือว่าน้ำลดลงในระดับน่าพอใจ แต่ยังไม่เพียงพอที่หน่วยซีลจะสามารถผ่านไปถึงพัทยาบีชได้

 

ส่วนการสำรวจโพรงที่สามารถลงไปได้ 40 เมตรยังยืนยันที่ระดับเดิม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจ โดยแผนหลักยังคงเป็นการเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อให้หน่วยซีลเข้าไปค้นหา

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

29 มิถุนายน 2561

 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn R.

 

 

  • 16.55 น. พบโพรงถ้ำโรยตัวได้ 40 เมตร 16.00 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายแถลงว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบโพรงโรยตัวลงไปได้ 40 เมตร ที่พื้นไม่มีน้ำ แต่มีดินโคลน มี 2 ตาน้ำผุดเล็กๆ เป็นมุมมองที่ดี แต่ยังตอบไม่ได้ว่าผลจะเป็นอย่างไร จะขยายผลต่อ ถ้ามีแดดจะปฏิบัติได้เพิ่มเติม

 

 

  • 16.40 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยืนยันว่า ที่มีข่าวว่ามีผู้บาดเจ็บเพราะไฟฟ้าช็อต ล่าสุดทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ปภ. จากอุบลราชธานี อยู่ในทีมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและระบบไฟ ผลตรวจร่างกายสรุปว่า เป็นลมเพราะรีบทำงานจนลืมรับประทานอาหาร

 

  • 15.49 น. ล่าสุดเหตุการณ์อยู่ในการควบคุม มีการตัดกระแสไฟชั่วคราว ทำให้เครื่องสูบน้ำหยุดทำงาน กำลังตรวจสอบภายในถ้ำว่ามีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บเพิ่มเติมหรือไม่

 

 

  • 15.40 น. เกิดเหตุไฟฟ้ารั่วบริเวณหน้าถ้ำหลวง ขณะเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแม่สาย

 

 

  • เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL เผยภาพการทำงานของหน่วยซีลภายในถ้ำหลวง เวลา 11.00 น. ระบุว่านักดำน้ำของหน่วยซีล 4 นายได้ดำมุดเข้าไปสำรวจพื้นที่ห้องโถง 3 ทดลองติดต่อทางโทรศัพท์ที่วางสายไว้ก่อนน้ำเข้า และสับสวิตช์เครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้ก่อนน้ำเข้าให้ทำงานต่อได้

 

 

  • 14.17 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายรับ การสูบน้ำเปิดทางหน่วยซีลยังเป็นแนวทางหลัก ขณะนี้มีการขุดเจาะเพื่อสูบน้ำบาดาลบริเวณหน้าปากถ้ำ เมื่อคืนเจาะไป 2 หลุม แต่ยังขุดไม่พบน้ำ แต่หากขุดพบและสูบน้ำออกมาได้ น้ำในถ้ำจะไหลเข้าไปแทนที่น้ำบาดาลทันที ขณะที่แนวทางเจาะผนังถ้ำหลวงแทบเป็นไปไม่ได้ ปัญหาสำคัญคือการนำเครื่องเจาะผนังถ้ำซึ่งมีน้ำหนัก 2 ตัน แล้วต้องไปตั้งวางบนภูเขาให้ตรงได้ระนาบ ดังนั้นขณะนี้ยังไม่เห็นทางเลือกใดที่เป็นไปได้ในการขนย้ายอุปกรณ์เจาะผนังถ้ำขึ้นไป “ผมกราบเรียนว่าบางครั้งในเชิงวิชาการอะไรก็เป็นไปได้ แต่ในหน้างานคนต้องเห็น หน้างานเรามีโดรน เรามีเรือดำน้ำเพียบ ไม่ใช่เราไม่มีอุปกรณ์ แต่มาจอดรออยู่ เพราะมันทำอะไรไม่ได้” ผู้ว่าฯ เชียงรายทิ้งท้าย

 


 

 

 

12.55 น. เจ้าหน้าที่ใช้แรงคนผนวกแรงเครื่องยนต์ ช่วยกันดันรถขุดเจาะน้ำบาดาลของสมาคมน้ำบาดาลไทย ซึ่งติดหล่มอยู่ในโคลน เพื่อย้ายไปจอดเตรียมปฏิบัติการขุดเจาะน้ำบาดาล หวังเพิ่มช่องทางการระบายน้ำออกจากถ้ำ เปิดทางให้หน่วยซีลเข้าไปค้นหาทั้ง 13 ชีวิต

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดสำหรับการขุดเจาะบาดาลเพื่อระบายน้ำออกจากถ้ำ ขณะนี้ยังไม่สามารถดูดน้ำขึ้นมาได้ อยู่ระหว่างรอหัวเจาะใหม่เพื่อจะได้เจาะให้ลึกขึ้น

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 8.30 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ถึงสนามบินเชียงราย

 

 

จากนั้นได้เดินทางเข้าไปยังพื้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เพื่อให้กำลังใจครอบครัวของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ซึ่งขณะนี้ได้เข้าสู่วันที่ 7 ของการค้นหาแล้ว พร้อมกับให้กำลังใจครอบครัว และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ปฏิบัติการค้นหาและให้การช่วยเหลือ

 

 

ภายหลังรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ และลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าที่บริเวณหน้าถ้ำหลวง นายกฯ ได้เดินมายังบริเวณเต็นท์พักคอยของครอบครัว เพื่อพูดคุยให้กำลังใจ โดยกล่าวว่า “วันนี้มาเยี่ยม มาให้กำลังใจ มาให้ความหวัง นายกฯ ก็หวังมาหลายวัน วันนี้ผมมาดูแล้วก็พอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ นี่ก็เป็นครั้งหนึ่งของไทยที่มีเหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้ มีทั้งไทยและต่างประเทศมาช่วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานกำลังใจมาให้ด้วย

 

 

“อยากให้ติดตามข่าวด้วยความมีสติ นั่งสมาธิ หายใจเข้าออก ผมรู้ว่าทุกคนใจร้อน ถ้าเป็นครอบครัวผม ผมก็คงใจร้อนเหมือนกัน ผมทุ่มเททุกอย่างให้อย่างเต็มที่ ผมคิดว่าเขาน่าจะเเข็งแรง เป็นนักกีฬา เคยเข้าไปแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในลูกเรา เชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ ทุกฝ่ายทำเต็มที่ ลูกอยากเป็นอะไรให้เป็นทุกอย่างที่เขาอยากเป็น ขอให้เขาได้ออกมาก่อนแล้วกัน”

 

นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า ถ้าออกมาเมื่อไร ให้พาไปเที่ยวพัทยา ผู้ว่าฯ จัดไป จะได้เห็นพัทยาของจริง จัดขบวนไปเลย พร้อมถามด้วยว่า อาหารการกินพอเพียงหรือไม่ ครอบครัวได้ตอบว่า “พอ” จากนั้นได้ถามสารทุกข์สุกดิบของครอบครัว

 

 

นายกฯ ยังบอกอีกว่า วันนี้ไม่ได้มาเพื่อทำข่าว การเมืองไม่มี นายกฯ คนนี้ไม่มีการเมือง จากนั้นนายกฯ ได้เล่าการทำงานให้กับครอบครัวฟัง โดยยกตัวอย่างถึงการไปเยือนต่างประเทศ ปัญหาราคาพืชพันธ์ุ เกษตรกร การทำเกษตรแบบอินทรีย์

 

ทั้งนี้ นายกฯยังบอกให้ครอบครัวไหว้ ขออโหสิต่อเจ้าแม่นางนอน ให้ขอทุกวัน ให้หาธูปเทียนบริการครอบครัว

 

จากนั้นนายกฯ ชวนครอบครัวนั่งสมาธิ โดยได้กำกับการนั่งของครอบครัว ให้สูดลมหายใจเข้า-ออก เป็นจังหวะ 4-6-8 พร้อมระบุว่าวันนี้เราต้องรวมพลังประชารัฐ ช่วยเหลือกัน ไม่มีการแยกกันทำ

 

 

นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า วันนี้เราไม่มีอะไรด้อยกว่า ประเทศนี้จิตใจเราเข้มแข็งไม่ด้อยกว่าใคร และได้ชวนให้ครอบครัวของคุณผู้ว่าฯ รมว.มหาดไทย ตำรวจ และหน่วยงานอื่นๆ โดยครอบครัวได้ปรบมือ และพร้อมกับกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ”

 

นายกฯ อธิบายถึงคำกล่าวที่มีคนถามว่าเป็นทหารได้อะไร โดยบอกว่า “นี่ไง ได้มาช่วยลูกหลานเรา” และยังกล่าวถึงการเลือกตั้งด้วยว่า “เป็นโอกาส เป็นอำนาจของท่าน เลือกให้ดี”

 

ท้ายที่สุด ครอบครัวได้ปรบมือให้กับนายกฯ และกล่าวว่า “ขอบคุณนายกฯ ค่ะ”

 

เรื่อง: ธนกร วงษ์ปัญญา
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

  • 11.38 น. เผยภาพ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เดินเท้าลุยป่าข้ามห้วยขึ้นภูเขา เพื่อสำรวจปากปล่องของถํ้าที่ถูกค้นพบเมื่อวานนี้จำนวน 3 ปล่อง โดยหาเส้นทางเชื่อมภายในถ้ำหลวง เพื่อใช้ในปฏิบัติภารกิจโรยตัวเพื่อค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 ชีวิต

 

 

  • 11.35 น. “ไม่อยากมาสร้างภาระ มาทำงาน มาให้กำลังทุกคน” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างลงพื้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เพื่อให้กำลังใจครอบครัวของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย

  • 11.05 น. ญี่ปุ่นส่งทีมช่วยค้นหา 13 ชีวิตผู้สูญหายใน #ถ้ำหลวง โดยองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น 2 คน ไปจังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมสนับสนุนเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานในการปฏิบัติการระบายน้ำ รวมถึงการประเมินการนำเทคโนโลยีล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้

 

 

  • 10.20 น. หน่วยซีลเติมกำลังเข้าสู่ถ้ำหลวงอีกชุด!ชุดที่ 1 ช่วยเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ
    ชุดที่ 2 ขึ้นเขาสำรวจหาทางเข้าจากด้านอื่น
    ชุดที่ 3 จะถึงพื้นที่ช่วงบ่าย พร้อมอุปกรณ์พิเศษจะเดินทางถึงในบ่ายวันนี้ โดยเพจเฟซบุ๊ก ThaiNavySeal โพสต์ว่า “สู้ไม่ถอย…Hooyah”

 

  • 9.50 น. นายกฯ และคณะถึงถ้ำหลวงแล้ว รับฟังรายงานสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่ พร้อมติดตามความคืบหน้าการค้นหา 13 ชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจบริเวณจุดหน้าถ้ำ

 

 

  • 9.20 น.​ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ตั้งแต่ 7.00 น. ขณะนี้ถึงท่าอากาศยานเชียงรายแล้ว เพื่อติดตามภารกิจช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง พร้อมให้กำลังใจครอบครัว และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

 


 

 

8.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการค้นหานักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย รวม 13 คน ที่หายตัวไประหว่างท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ซึ่งนับเข้าสู่วันที่ 7 ของการค้นหา ว่า แผนการเข้าทางปากถ้ำ โดยหน่วยซีลยังคงเป็นแผนแรก ซึ่งขณะนี้เครื่องสูบน้ำทั้งหมดทำงานได้แล้ว แต่ปริมาณน้ำในถ้ำยังเท่าทุน คือไม่ได้ลดลงแต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากน้ำที่สะสมในถ้ำอยู่เดิมมีปริมาณมาก แต่วันนี้ได้เครื่องสูบน้ำเพิ่มจากกรุงเทพฯ 40 ตัว จึงหวังว่าจะทำงานได้โดยไม่มีอุปสรรค ซึ่งหากทั้ง 40 เครื่องทำงานได้วันนี้ ก็เชื่อว่าน้ำจะลดลงได้

 

 

ขณะที่การเจาะน้ำบาดาล เพื่อเพิ่มช่องทางระบายน้ำนั้น เมื่อคืนทำการเจาะ 2 จุดถึงเวลาตี 2 แต่โชคไม่ดีที่เจาะลงไปแล้วยังไม่เจอน้ำ แต่วันนี้ก็จะเดินหน้าเจาะต่อไป

 

ส่วนแผน 2 คือการสำรวจโพรงบนผนังถ้ำเพื่อเจาะช่องโรยตัวลงไป ล่าสุดมีทีมสำรวจทั้งหมด 32 ทีม พบโพรงที่จะลงไปได้ 4 โพรง ในจำนวนนี้มี 1 โพรงที่อาจจะมีโชค โดยวันนี้จะส่งทีมเพื่อหย่อนเครื่องสแกนด้านในถ้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ

 

 

ผู้ว่าฯ เชียงราย เผยด้วยว่า วันนี้หากการสูบน้ำออกยังไม่คืบหน้าไปมาก จะมีการประชุมและอาจจะยกระดับความสำคัญของแผน 2 หรือการเจาะโพรงบนหลังคาถ้ำให้เท่าเทียมกับแผนแรก อย่างไรก็ตาม การเจาะโพรงผู้เชี่ยวชาญบอกว่าโอกาสมีครั้งเดียว ถ้าเจาะลงไปแล้วต้องเจอ ถ้าไม่เจอก็เป็นแผนที่มีความเสี่ยง

 

ส่วนแผนสามคือ ‘การเข้าทางปลายถ้ำ’ ขณะนี้เปิดทางออกน้ำด้านปลายถ้ำได้เพิ่มขึ้น และทางปลายถ้ำก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในแผน

 

 

ขณะที่แผนที่ 4 คือการเจาะผนังด้านข้างถ้ำ ขณะนี้กำลังสำรวจโดยการสแกนผนังถ้ำ แต่อุปสรรคคือเครื่องเจาะผนังมีขนาดใหญ่หนักกว่า 2 ตัน และต้องตั้งวางให้ได้ระดับและมั่นคง ส่วนกรณีที่เห็นรถพยาบาลวิ่งในพื้นที่นั้น คือการทดสอบระบบกรณีพบน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิต

 

“เมื่อวานมีสื่อช่องหน่ึงถามผมว่า ทำไมผมต้องยืนอยู่ตรงนี้ตลอด ผมบอกว่าเราเหมือนแม่ทัพ รบแล้วกำลังจะพ่ายแพ้ กำลังจะเสียพื้นที่ ถ้าเราไม่ยืนอยู่ข้างหน้า ใครจะไปช่วยแม่ทัพรบ เหน็ดเหนื่อยอย่างไรเราก็จะสู้” ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าว

 

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

28 มิถุนายน 2561

 

 

ภาพประกอบ: Pichamon W.

 

  • 21.56 น. โฆษกรัฐบาลปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ปรับเส้นทางใกล้ถ้ำหลวงต้อนรับนายกฯ ชี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่คณะเจ้าหน้าที่เริ่มเข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือกลุ่มเยาวชนที่พลัดหลงเข้าไปในถ้ำหลวง เตือนสื่อและนักการเมืองเช็กข้อมูลให้ถูกต้องก่อน วอนหยุดฉวยโอกาสบิดเบือนกล่าวหารัฐบาล

 

 

  • 18.58 น.​ รถเจาะน้ำบาดาลของภาคเอกชน น้ำเพชรบาดาล จ.นครราชสีมา เริ่มทำการเจาะช่องเพิ่มเติมบริเวณทางเข้าปากถ้ำ เพื่อเพิ่มช่องทางการระบายน้ำออกจากถ้ำหลวง

 


 

 

16.50 น. น้ำเพชรบาดาล ภาคเอกชนจากจังหวัดนครราชสีมา นำรถเจาะขนาดใหญ่พร้อมหัวเจาะ มาเตรียมเจาะถ้ำเพื่อขยายทางระบายน้ำ เจ้าของรถเจาะให้ข้อมูลว่า รถเจาะนี้สามารถเจาะถ้ำได้กว้างประมาณ 6 นิ้ว ลึก 20 เมตร โดยขณะนี้กำลังเคลียร์พื้นที่ และอยู่ระหว่างดูแผนที่ว่าควรจะเจาะถ้ำตรงจุดใด เป้าหมายคือเจาะเพื่อเพิ่มช่องทางระบายน้ำออกจากถ้ำ เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายเพื่อค้นหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

  • 14.40 น. พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา แถลงทางเลือกการค้นหา 13 ชีวิตติด มี 4 ทาง ทางเลือกเดิมคือ 1.เร่งสูบน้ำเปิดทางหน่วยซีลเข้าพื้นที่ 2.หาโพรงเพิ่มเติมเพื่อโรยตัวส่งอาหาร-น้ำ ทางเลือกใหม่ที่ต้องประเมินอย่างระมัดระวังคือ 3.เจาะผนังถ้ำ 4.ขยายปลายถ้ำให้น้ำออก

 


 

 

14.30 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แถลงแนวทางการค้นหานักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายรวม 13 คน ที่หายตัวไประหว่างท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ครั้งแรกของวัน ซึ่งเข้าวันที่ 6 ของการค้นหา

 

 

พลเอก อนุพงษ์ กล่าวว่า ฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนน้ำล้นออกมาปากถ้ำ เจ้าหน้าที่ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ดังนั้นส่วนที่น้ำล้นออกจากปากถ้ำก็ปล่อยให้ไหลไป แต่สิ่งที่เราจะทำคือสูบน้ำตามแอ่งระหว่างทางในถ้ำให้ออกมามากที่สุด

 

 

ทั้งนี้ ปั๊มน้ำของเรามีมาก เครื่องปั่นไฟมีเพียงพอ แต่ต้องเดินสายไฟเพิ่ม และติดสายไฟบนเพดานถ้ำ ไม่ให้มันลอยอยู่เหนือน้ำ ถ้าสถานการณ์เอื้ออำนวย และเดินสายไฟได้ตามแผน จะเริ่มปั๊มน้ำให้เร็วที่สุด ถ้าโชคดีไม่มีฝนมาเติม เมื่อน้ำลดหน่วยซีลจะเข้าไปพื้นที่เป้าหมาย หรือหาดพัทยาได้ทันที

 

ขณะที่หน่วยสนับสนุนจากอังกฤษ-สหรัฐฯ ทำงานร่วมกันอย่างดี และเห็นพ้องกัน ในหลักการว่าต้องรอระดับน้ำในถ้ำลดลงก่อนจึงจะเริ่มดำน้ำได้

 

ส่วนแนวทางการเข้าไปภายในถ้ำหลวง โดยใช้ช่องทางด้านบนหลังคาถ้ำนั้น พบว่าเข้าไปได้ 3 จุด โดยจุดที่ลงไปได้ลึกที่สุด คือ 50 เมตร จุดที่สองลงไปได้ 20 เมตร และจุดที่สามลงไปได้ 10 เมตร

 

 

ในส่วนนี้จะทำงานร่วมกันกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งมีเครื่องมือสอดลงไปดูว่าโพรงแต่ละจุดมีทิศทางอย่างไร และลงไปได้ลึกถึงระดับไหน

 

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือในการสำรวจเพื่อทำแบบจำลองภูเขา แต่อยู่ระหว่างหารือถึงวิธีขนส่งเครื่องมือขึ้นไปสำรวจ

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 2 แนวทางที่จะเข้าไปในถ้ำหลวงเพิ่มเติม คือใช้วิธีเจาะด้านข้าง แต่ต้องรู้ข้อมูลก่อนว่า จุดใดพอจะเจาะได้

 

 

ส่วนอีกวิธีคือ ‘สุดปลายถ้ำ’ ซึ่งน้ำออกได้ ก็มีแนวคิดจะขยายช่องทางปลายถ้ำเพื่อเพิ่มวิธีการเข้าไปค้นหาอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องใช้เครื่องมือซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 1 ตัน จึงต้องหาวิธีการขนย้ายเครื่องมือ

 

พลเอก อนุพงษ์ เชื่อว่า ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นภายในถ้ำจะไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กทั้ง 13 ชีวิต โดยข้อมูลจากผู้ที่คุ้นเคยกับถ้ำหลวง บอกว่าน้ำส่วนใหญ่จะออกจากปากถ้ำ และเราก็ภาวนาให้น้ำส่วนใหญ่ออกจากปากถ้ำอย่างเดียว

 

ส่วนการดูแลญาติของเด็กทั้ง 13 คนนั้น ขณะนี้ได้ให้ญาติไปอยู่นอกพื้นที่ปากถ้ำ โดยให้อยู่ในจุดที่จัดไว้ เพื่อความสะดวกและรับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ จะได้รายงานสถานการณ์ และสื่อสารด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง

 

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

  • 14.30 น. บรรยากาศที่ ฝนหยุดตกแล้วหลังจากตกมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ฟ้าเปิด มีแดด เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน

 

 

  • 14.08 น. อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เผย ปตท.สผ. นำโดรนขึ้นบิน เพื่อสำรวจหาจุดเจาะ คุณสมบัติของโดรนสามารถซูมได้ 30 เท่า และสามารถถ่ายภาพทางอากาศประมวลเป็นแผนที่แบบ 3 มิติได้ ในรัศมี 2 ตารางกิโลเมตร เพื่อนำมาประเมิน คาดจะได้จุดที่ชัดเจนช่วงเย็นนี้

 

 

  • 14.04 น. ปตท.สผ. เตรียมนำโดรนบินสำรวจ ทำแผนที่ 3 มิติ ตรวจจับความร้อนได้ นอกจากนี้ยังพกหุ่นยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติ เอาไว้ใช้ในถ้ำ และหุ่นยนต์ใต้น้ำกึ่งอัตโนมัติ มีขนาดเล็กเอาไว้ใช้ทางภาคพื้นดินเพื่อสำรวจโพรงถ้ำ

 

 

  • 13.16 น. หน่วยซีลแบ่ง 2 ทีม ทีมแรกสแตนด์บายหน้า รอน้ำลด หลังฝนตกต่อเนื่อง ระดับน้ำขึ้นเร็วปิดโพรงถ้ำทั้งหมด เครื่องสูบน้ำ 20 เครื่องก็สู้ไม่ได้ ขณะที่อีกทีมขึ้นสำรวจบนภูเขาหาช่องทางอื่นที่อาจนำเข้าไปถึงตำแหน่งที่คาดว่าเด็ก

 

 

  • พลโท สรรเสริญ เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เตรียมลงพื้นที่เชียงราย เพื่อให้กำลังใจผู้ปกครองเด็ก 13 คน ที่ติดถ้ำหลวง รอความชัดเจนวัน เวลา อีกครั้งเย็นนี้ อาจพรุ่งนี้ วันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ ขอเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานปกติไม่ต้องรอต้อนรับ

 

 

  • สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงคณะทำงานที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยท่ามกลางสายฝน จึงได้พระราชทานเสื้อกันฝนแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน 2,000 ตัว ยังความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

 


 

 

11.42 น.​ ฝนยังตกลงมาต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้า ขณะที่สายฝนเริ่มซาลง แต่ยังตกเป็นละอองสลับหยุด โดยตั้งแต่เวลา 9.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประชุมที่ศูนย์บัญชาการร่วมกับ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาแนวทางเข้าค้นหา เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดคืนทำให้น้ำในปริมาณถ้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หน่วยซีลยังไม่สามารถผ่านเข้าไปที่หาดพัทยาได้

 

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้เราได้พบเห็นเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเริ่มทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทย โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านการบรรเทาสาธารณภัยของกองบัญชาการภาคพื้นอินโดแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา (USPACOM) รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ฝ่ายสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียมจาก ปตท. และนักธรณีวิทยาเข้าร่วมประชุมวางแผนที่ศูนย์บัญชาการด้วย

 

 

ส่วนอีกหนึ่งแนวทางการค้นหาคือการสำรวจโพรงบนหลังคาถ้ำที่ยังดำเนินการต่อเนื่อง โดยในวันนี้มีสุนัข K-9 เข้าร่วมภารกิจด้วย นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังนำโดรนสำรวจปิโตรเลียมมาร่วมค้นหาโพรงกรณีที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งด้วย โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าไปในถ้ำและค้นหาทั้ง 13 ชีวิตให้พบ

 

 

ขณะที่ญาติของทีมนักฟุตบอลยังคงเฝ้ารอด้วยความหวัง โดยช่วงเช้ามี พระแจ๊ส หรือ พระสรวีย์ ปัญญาวีโร อดีตมิสทิฟฟานี่ ปี 2009 ได้เดินทางมาสวดมนต์ให้กับญาติเด็กๆ ที่จุดพักญาติ

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

  • 11.45 น. สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศยังเฝ้ารอการแถลงข่าวจากศูนย์บัญชาการเพื่อรายงานความคืบหน้าต่อไป

 

 

  • มีการจัดระเบียบสื่อมวลชนภายในพื้นที่ เริ่มแจกบัตรสื่อมวลชน หลังเมื่อวานนี้นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พบทีวีบางช่องฝ่าฝืนคำสั่งเข้าไปถ่ายภาพการปฏิบัติงานหน้าถ้ำ ขอร้องสื่อมวลชนว่าอย่าเข้าแทรกแซงการปฏิบัติงาน

 

  • 11.10 น. กรมทรัพยาธรณีเสนอแนวทางช่วยเหลือใหม่ ส่งเจ้าหน้าที่เซาะผนังถ้ำให้สูงขึ้นเพื่อให้หน่วยซีลทำงานได้ ส่วนด้านบนที่พบโพรง เตรียมพร้อมขยายโพรงด้านบนให้กว้างขึ้น รอ มท.1 อนุมัติแล้วเดินหน้าทันที เผยมีกำลังพร้อมทั้งภาครัฐและเอกชนที่ทำงานด้านเหมืองแร่และปิโตรเลียม

 

 

  • 9.00 น. เจ้าหน้าที่กำลังประชุมปรับแผนการค้นหาใหม่หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน น้ำท่วมหลายโถงของถ้ำมากขึ้น สั่งหยุดเดินเครื่องสูบน้ำทั้งระบบชั่วคราว ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาเหนือถ้ำเริ่มต้นแล้ว ด้านพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา อยู่ระหว่างการเดินทางไปเชียงราย

 

  • 8.50 น.​ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ถ้ำหลวง ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และครอบครัวของ 13 ชีวิต พร้อมบัญชาการประสานงานหน่วยต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สนับสนุนภารกิจทีมค้นหาอย่างเต็มที่

 


 

27  มิถุนายน 2561

 

https://www.youtube.com/watch?v=RmstahC5EU4

 

ภาพประกอบ: Thiencharas W.

 

 

  • 22.05 น. ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำชาวอังกฤษจาก Derbyshire Cave Rescue Organisation 3 คน เดินทางมาถึงถ้ำหลวงแล้ว และรีบลงพื้นที่ทันที ก่อนจะขึ้นมาขอเจ้าหน้าที่ไทย 4 คนที่แข็งแรงที่สุด ช่วยขนอุปกรณ์ที่เตรียมมา ลงไปในถ้ำอีกครั้งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตลอดทั้งคืน ด้านฝนที่ตกหนักตลอดวันก็เริ่มซาลง เป็นสัญญาณเชิงบวกว่าภารกิจกำลังคืบหน้าไปได้ดี

 


 

19.55 น. เมื่อน้ำลด ความหวังจึงเพิ่มขึ้น

 

 

เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ขนมาจากกรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน C-130 เริ่มทำหน้าที่ระบายน้ำจากถ้ำหลวงเมื่อเวลา 17.00 น. หลังใช้เวลาติดตั้งกว่า 7 ชั่วโมง เริ่มติดตั้งตั้งแต่เวลา 10.00 น.

 

 

หากเครื่องสูบน้ำยักษ์ทำงานได้เต็มที่ จะสามารถระบายน้ำได้กว่า 5,000 ลิตรต่อนาที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยาวของสายสูบน้ำ

 

แม้ตลอดทั้งวันฝนจะตกลงมาต่อเนื่อง แต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาฟ้าฝนเริ่มเป็นใจ สอดรับกับการเริ่มทำงานของเครื่องสูบน้ำยักษ์

 

 

คาดว่าเครื่องสูบน้ำนี้จะระบายน้ำได้มากกว่าปริมาณน้ำที่ไหลเติมเข้าถ้ำ และทันทีที่น้ำลดระดับลงประมาณ 10-20 เซนติเมตร หน่วยซีลจะดำน้ำเข้าพื้นที่เป้าหมายทันที

 

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

16.00 น. ทีม THE STANDARD เกาะติดภารกิจการสำรวจช่องหรือโพรงถ้ำเพื่อหวังจะพบโพรงที่สามารถโรยตัวลงไปถึงพื้นถ้ำได้ ภารกิจนี้ดำเนินการโดย ‘ชุดเฉพาะกิจช่วยน้องกลับบ้าน’ ซึ่งเป็นการประสานกำลังร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และทีมกู้ภัยใจถึงใจ รวมถึงทีมกู้ภัยอื่นๆ ที่ได้รับการฝึกฝนมาเฉพาะ

 

 

หนึ่งในหัวหน้าทีมชุดกู้ภัยใจถึงใจ (ขอสงวนนาม) บอกกับเราว่า มีหลายคนสับสนเมื่อมีข่าวออกไปว่าพบ ‘ปล่องถ้ำ’ ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า เหตุใดเมื่อพบปล่องถ้ำแล้ว จึงไม่สามารถโรยตัวลงไปยังพื้นที่ถ้ำได้

 

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า โดยส่วนตัวมองว่าการใช้คำว่าปล่องถ้ำอาจทำให้คนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นช่องแนวตรงที่สามารถมองลงไปเห็นพื้นถ้ำได้ แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่สำรวจพบเป็นเพียง ‘ช่อง’ หรือ ‘โพรง’ ซึ่งสามารถหย่อนตัวเข้าไปได้ ช่องนี้อาจเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ทำให้มีความคดเคี้ยวเป็นชั้นๆ จึงต้องทำการสำรวจดูว่าจะพบช่องใดบ้างที่สามารถค่อยๆ ฝ่าเจาะลงไปได้

 

 

การสำรวจช่อง หรือโพรงถ้ำนั้น ชุดเฉพาะกิจฯ ใช้เส้นทางบริเวณบ้านดอยผาหมี ซึ่งอยู่ด้านหลังเขาหลวงเป็นจุดปฏิบัติการ ใช้ทีมทหารขึ้นไปลาดตระเวนเพื่อชี้พิกัด ตามด้วยทีมกู้ภัยเพื่อสำรวจโพรงถ้ำ

 

สำหรับวันนี้มีโพรงถ้ำที่สามารถผ่านลงไปได้ 3 โพรง จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่าโพรง 2 จุดเป็นทางตันไม่สามารถลงไปได้ ส่วนอีกโพรงสามารถลงไปได้แค่ 60 เมตร หากลงไปอีกต้องทลายทรายเพื่อเปิดช่อง แต่เนื่องจากสภาพโพรงเป็นทรายจึงกลัวถล่มลงไปในถ้ำ ดังนั้นจึงพักการสำรวจโพรงนี้ไว้ก่อน แต่ยังไม่ตัดทิ้ง ระหว่างนี้จึงต้องสำรวจหาโพรงอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลือกที่สร้างอันตรายน้อยกว่านี้

 

 

ช่วงหนึ่งทีม THE STANDARD ลงพื้นที่มาบริเวณซอยบ้านผาหมีซอย 5 โดยได้พบกับทีมสำรวจหาโพรงถ้ำเพิ่มเติม เราสะดุดตากับเสื้อกู้ภัยท่านหนึ่งซึ่งเขียนด้วยตัวอักษรที่ไม่คุ้นตา จึงเข้าไปสอบถาม

 

 

อาเย็น วิชินดารา หรือ เย็น อายุ 25 ปี คือเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เดินทางมาจากเวียงจันทน์ ประเทศลาว เพื่อมาช่วยภารกิจนี้โดยเฉพาะ เขาคุยกับเราด้วยท่าทีเขินอาย ว่าคนลาวก็ให้ความสนใจกับข่าวนี้เช่นกัน และเมื่อต้นสังกัดถามว่าพร้อมมาช่วยปฏิบัติภารกิจที่ไทยหรือไม่ เขาก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเล โดยเดินทางมาสมทบกับเพื่อนกู้ภัยชาวลาวที่อยู่ในถ้ำหลวงอยู่แล้วอีก 1 คน

 

“คนไทยก็คอยช่วยคนลาวเหมือนกัน เวลาคนลาวมีเหตุการณ์อะไรคนไทยก็ไปช่วย เวลาไทยมีเหตุการณ์คนลาวก็อยากช่วยเหมือนกัน” อาเย็น กล่าว

 

แสดงให้เห็นถึงน้ำใจของประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งมาถึงพี่น้องชาวไทยในยามที่เกิดวิกฤตได้เป็นอย่างดี

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

  • 15.30 น. รมว.ท่องเที่ยวฯ เผย สหรัฐอเมริกาจะส่งเครื่องตรวจหาสัญญาณชีพมาช่วยค้นหาว่า 13 ชีวิตอยู่ส่วนไหนของถ้ำหลวง คาดจะถึงในคืนนี้ เผย 3 นักดำน้ำถ้ำจากอังกฤษถึงเชียงรายเย็นนี้ คุยล่าสุด 2 ทุ่มครึ่งวานนี้ ส่วนเรื่องตั๋ว กระทรวงการต่างประเทศจัดการให้

 

 

  • 15.00 น.  รมว.มหาดไทยเผย พรุ่งนี้เตรียมเจาะช่องเขาเพื่อหาจุดเปิดทางเข้าถ้ำ ส่วนวันนี้จะมีนักดำน้ำที่เชี่ยวชาญการดำน้ำถ้ำจากอังกฤษมาช่วยค้นหา ซึ่งคาดว่าจะมาถึงในช่วงเย็นและตรงไปที่เชียงราย มท.1 จะลงพื้นที่พรุ่งนี้อีกครั้ง

 


 

 

 

12.40 น.​ THE STANDARD พบทีมวิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กำลังใช้โดรนยี่ห้อ DJI รุ่น Inspire 2 พร้อมติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อน (Thermal Camera) ทำการบินสำรวจปล่องถ้ำบริเวณดอยผาหมี

 

 

ทีมงานบอกกับเราว่า ปัญหาที่พบคือขณะนี้พิกัดของแผนที่กับพิกัดของโดรนคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อย และอุปสรรคสำคัญคือฝน ทำให้ทำการบินได้ลำบากและไม่เต็มศักยภาพ แต่ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ เพราะดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไป

 

 

การใช้โดรนบินสำรวจเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งนอกจากการเดินเท้าลาดตระเวนและการบินโดยเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากโดรนมีความคล่องตัวกว่าเฮลิคอปเตอร์ สามารถเข้าไปในพื้นที่เล็กๆ ได้

 

ทั้งนี้ทีมงานพยายามสังเกตว่ามีสัตว์ปีกโดยเฉพาะค้างคาวบินออกจากโพรงถ้ำหรือไม่ เพราะถ้ามี นั่นหมายความว่าโพรงตรงนั้นสามารถเข้าไปในพื้นที่ถ้ำได้

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

 


 

 

  • 12.32 น.​ ผู้ว่าฯ กทม. เผย ส่งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า (ไดโว่) ขนาดใหญ่ 20 ตัว สายส่งน้ำดับเพลิงยาว 20 เมตร 40 เส้น สนับสนุนภารกิจค้นหา 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวงเชียงราย ชี้เป็นภารกิจสำคัญที่ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่

 

 

  • 12.22 น.​ 2 กรมผนึกกำลังช่วย 13 ชีวิตเต็มที่! วิศวกรเหมืองแร่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กำลังเดินทางไปสำรวจในพื้นที่ กรมทรัพยากรธรณี คำนวณความหนาของชั้นหินในถ้ำ เพื่อประเมินการเจาะโพรงด้านบน-ผนังด้านล่าง ช่วยระบายน้ำ

 

 

  • 10.56 น. เฟซบุ๊กเพจ Thai NavySEAL โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ’14 ชั่วโมงในถ้ำ เพิ่งได้ออกมาอัปเดตข้อมูลให้ผู้ที่รอคอยอยู่ภายนอก ทุกหน่วยงานกำลังเร่งหาทางดึงน้ำออกจากถ้ำให้เร็วที่สุด แข่งกับน้ำที่ไหลเข้าถ้ำมาเร็วและมากขึ้นทุกชั่วโมง’

 

 

  • 11.20 น.​ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ประชุมร่วมอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เตรียมเดินหน้าเจาะโพรงเหนือถ้ำหลวงลงไปช่วยเด็ก พร้อมเจาะผนังถ้ำด้านล่างเพื่อช่วยระบายน้ำ

 

 

  • 11.10 น.​นักดำน้ำระดับโลกสมทบ! นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า วันนี้นักประดาน้ำระดับมืออาชีพที่ดำน้ำมาแล้วทั่วโลกจากต่างประเทศ 3 ราย จะเดินทางมาสมทบช่วยเหลือการค้นหา 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง เวลา 18.00 น.

 

 

  • 11.04 น. นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ขอพรจากอัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้าประทานความปลอดภัยแก่ผู้สูญหายในถ้ำหลวง และขอให้พี่น้องมุสลิมร่วมกันขอพรและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือให้ปลอดภัยและสัมฤทธิ์ผลที่ดีทุกประการ

 

 

  • 10.50 น. พลเอก อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย เชื่อวันนี้จะมีข่าวดี ขอสื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ ไม่ทำร้ายความรู้สึกครอบครัวผู้สูญหาย คาดวันนี้เดินหน้าสูบน้ำออกเต็มที่ หลังจากเมื่อวานเสียเวลาเดินสายไฟเข้าไปในถ้ำเพื่อติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า

 

 

  • 10.55 น. สภาพอากาศวันนี้ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน หนักกว่าเมื่อวาน โดยมีรายงานว่าน้ำขึ้นประมาณ 10-15 เซนติเมตรต่อชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงทำงานอย่างหนักไม่ย่อท้อ

 

 

  • 10.41 น. ใกล้ความจริง! เวลา 10.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ชุดค้นหาหน่วยซีลเดินทางเข้าถ้ำไปได้ลึกขึ้น โดยขณะนี้เข้าใกล้ถึงหาดพัทยาซึ่งคาดว่าเด็กๆ จะอยู่บริเวณนั้นแล้ว

 


 

10.25 น.​ THE STANDARD ติดตามภารกิจการสำรวจปล่องถ้ำบริเวณดอยผาหมี โดย ‘ชุดเฉพาะกิจช่วยน้องกลับบ้าน’ ซึ่งเป็นการรวมกันของทหาร, ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดกู้ภัยใจถึงใจ รวมถึงชุดกู้ภัยที่ได้รับการฝึกจากทหาร

 

บริเวณดอยผาหมีมี 3 ปล่องที่สามารถโรยตัวลงไปได้ โดยเมื่อวานนี้ได้มีการโรยตัวลงไปแล้ว 1 ปล่อง แต่ยังลงไปไม่ถึงก้นถ้ำ ขณะที่วันนี้จะสำรวจและโรยตัวลงไปอีก 2 ปล่อง

 

 

การปฏิบัติการจะใช้ชุดทหารนำลาดตระเวนเปิดทางเพื่อระบุพิกัดปล่อง จากนั้นจะประสานให้ทีมกู้ภัยมาโรยตัวลงสำรวจ

 

เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลกับเราว่า ปล่องถ้ำไม่ได้เป็นแนวดิ่ง แต่มีลักษณะเป็นชั้นๆ จึงต้องสำรวจลงทีละชั้น ขณะที่บางชั้นมีทรายและดินปิดอยู่ จึงต้องใช้เครื่องมือทะลวงลงไป

 

 

การสำรวจนี้ยังไม่ยืนยันว่าจะสามารถลงได้ลึกถึงก้นถ้ำได้หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่จะลงไปให้ได้ลึกที่สุด ซึ่งอาจใช้เวลาทั้งวัน และหวังว่าจะพบปล่องที่สามารถลงไปถึงก้นถ้ำได้

 

สำหรับการสำรวจปล่องถ้ำเพื่อโรยตัวลงไปยังก้นถ้ำ ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการค้นหาทั้ง13 ชีวิต นอกเหนือจากการเข้าไปจากปากถ้ำของหน่วยซีล

 

ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ชุดค้นหาหน่วยซีลเดินทางเข้าถ้ำไปได้ลึกขึ้น โดยขณะนี้เข้าใกล้ถึงจุด ‘พัทยาบีช’ หรือ ‘หาดพัทยา’ แล้ว

 

ส่วนสภาพอากาศที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน โดยวันนี้ฝนตกลงมาหนักกว่าเมื่อวาน

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

  • เครื่องสูบน้ำแรงดันสูง 5 เครื่องเดินทางจาก กทม. ถึงถ้ำหลวงแล้ว คาดว่าจะสามารถทำงานได้ทันที และลดระดับน้ำได้มากพอ ซึ่งเครื่องดังกล่าวมีกำลังส่งน้ำระยะทาง 3 กิโลเมตร และไม่สร้างมลภาวะ

 

 

  • เช้ามืดวันที่ 27 มิถุนายน 2561 เฟซบุ๊กหน่วยซีล Thai NavySEAL รายงานการทำงานตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยระบุว่า เดินสายไฟและติดตั้งเครื่องสูบน้ำจนใช้การได้แล้ว แต่กำลังยังไม่เพียงพอที่ทำให้น้ำลดได้ เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำขึ้นประมาณ 15 เซนติเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้หน่วยซีลต้องถอยกำลังจากโถง 3 มายังโถง 2

 


 

26  มิถุนายน 2561

 

 

https://www.youtube.com/watch?v=qHfiIS-vlII

 

ภาพประกอบ: Karin foxx

 

  • 18.38 น. พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยออกจากสนามบิน บน.6 ดอนเมือง เวลา 7.00 น. เพื่อติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ช่วยค้นหา 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวง

 

 

  • 17.24 น. ผบ.ทบ. ส่งทหารรบพิเศษไปช่วย 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 โรยตัวลงปล่องถ้ำกลางอากาศ เพื่อให้เข้าไปค้นหาด้านในได้ สั่งทัพภาคที่สาม ระดมสรรพกำลัง ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ พร้อมสนับสนุนทุกเครื่องมืออย่างเร่งด่วนในทันที 

 

  • เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบโพรงบริเวณเหนือถ้ำ บริเวณผาหมี ความกว้างประมาณ 1 เมตรโดยเบื้องต้นได้ทดลองหย่อนน้ำลงไป แล้วน้ำหายไป แต่ไม่แน่ใจว่าตื้นลึกขนาดไหน สตช. เตรียมนำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

  • 16.35 น. กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ให้การดูแลเยียวยาสภาพจิตใจครอบครัวและญาติของผู้พลัดหลง 13 ชีวิต พร้อมทั้งเตรียมโรงพยาบาลรองรับกรณีที่เจ็บป่วย บาดเจ็บ หรือมีปัญหาสุขภาพ

 

 

  • 16.04 น. กรมชลประทาน ส่งทีมจากสำนักเครื่องจักรกล นำรถยนต์บรรทุกเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่อง ขนาด 10 นิ้ว 8 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำด้วยเครื่องยนต์ (ดีเซล) ขนาด 12 นิ้ว อีก 1 เครื่อง เดินทางไปสนับสนุนภารกิจค้นหา 13 ชีวิตที่สูญหาย

 

 

  • 14.40 น. กรมทรัพยากรธรณี เปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย ติดตามสถานการณ์ช่วย 13 ชีวิตจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย พบทางเข้าถ้ำอีก 1 จุดในบริเวณที่เรียกว่าถ้ำแห้ง อยู่ระหว่างทางออกถ้ำทิศใต้ปลายน้ำจนถึงฝั่งตะวันออก เร่งสนับสนุนข้อมูลทีมค้นหา 

 


 

14.30 น. ฝนตกต่อเนื่อง ระดมกำลังลาดตระเวนอุดตาน้ำกันไหลเพิ่มเข้า

 

ฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนวาน โดยช่วงบ่ายสายฝนเริ่มหนาเม็ดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ยังทำงานกันอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสายฝนและสภาพค่อนข้างทุลักทุเล

 

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 17 กองพันที่ 4 ค่ายขุนจอมธรรม จังหวัดพะเยา ระดมกำลังทหารเเดินเท้าข้าลาดตระเวนพื้นที่รัศมี 4.5 ตารางกิโลเมตร เพื่อสำรวจตาน้ำและทำการปิดตาน้ำเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลลงเขาหลวงเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็จะทำการสำรวจปล่องถ้ำที่สามารถลงไปช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตได้

 

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

14.00 น.​ เร่งเดินสายไฟสูบน้ำในถ้ำหลวง เปิดทางหน่วยซีลเข้าไปลึกกว่าเดิม เพื่อค้นหา 13 ชีวิต

 

THE STANDARD ลงพื้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเพื่อติดตามความคืบหน้า พบว่าในพื้นที่มีฝนตกลงมาต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้สภาพถนนบริเวณทางเข้ากลายเป็นดินโคลนซึ่งเพิ่มความยากลำบากในการทำงาน


โดยเช้าวันนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางถึงจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการค้นหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

 

 

โดย พล.อ. อนุพงษ์ ได้พบกับครอบครัวของผู้ที่สูญหายเพื่อให้กำลังใจและพูดคุยถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ และยืนยันเจ้าหน้าที่จะนำน้องๆ ออกมาให้ได้ จากนั้นได้เดินทางมายังอาคารที่ทำการวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อประชุมร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ป่าไม้ และหน่วยซีล เพื่อรับฟังความคืบหน้าการติดตามผู้สูญหายและสถานการณ์ล่าสุด

 

 

ทั้งนี้ พล.อ. อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากน้ำสูงขึ้นจนถึงเพดานถ้ำและไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นน้ำโคลน และน้ำยังไหลมาเติมตลอด การที่จะให้ดำลงไปในน้ำที่มองไม่เห็นในระยะทางหลายร้อยเมตรไม่สามารถทำได้

 

 

ดังนั้นสิ่งที่ทางหน่วยซีลต้องการคือ ต้องสูบน้ำออกให้น้ำลดระดับลงให้ได้ โดยขอให้มีช่องว่างระหว่างเพดานให้พอหายใจได้เท่านั้น ขณะที่หน่วยซีลก็จะเปลี่ยนเครื่องมือใช้ถังดำน้ำหมุนเวียนแบบที่ไม่มีฟองอากาศออกมา

 

“ขณะนี้ต้องเร่งเดินสายไฟและติดตั้งปั๊มน้ำให้ได้ จะต้องปั๊มอย่างไรก็ต้องทำ ช่วงนี้ยังโชคดีเพราะฝนยังไม่เต็มมาก ท่านแม่ทัพก็ยืนยันว่าจะเร่งเดินสายไฟให้เสร็จภายในวันนี้ ผมคิดว่าถ้าเราเดินสายไฟและปั๊มน้ำได้ เราน่าจะตอบสนองในสิ่งที่หน่วยซีลต้องการได้”

 

พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องถึงตัวเด็ก โดยชุดซีลพยายามเต็มที่ หมุนเวียนกันทำงานตลอดเวลา ขณะนี้ถือว่ายังมีสัญญาณบวก แต่เราจะไม่รอคอย ต้องตั้งเป้าให้ถึง มันจะเป็นอย่างไรก็ต้องถึงตัวเด็กให้ได้

 

 

THE STANDARD ได้พูดคุยกับ ชูชาติ เสนาธรรม ผู้จัดการไฟฟ้าสาขาอำเภอแม่สาย ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ลากสายไฟเข้าไปในถ้ำแล้ว 1 กิโลเมตร ขณะที่ช่วงเที่ยงวันนี้พยายามลากสายไฟเข้าไปเพิ่มเติมได้อีก 500 เมตร จากระยะทางทั้งหมด 3 กิโลเมตร แต่อุปสรรคของการลากสายไฟคือความมืดและน้ำ แต่ตั้งเป้าว่าจะลากสายไฟระยะทาง 3 กิโลเมตรให้ได้ภายในวันนี้ เพื่อนำไปต่อกับเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าที่เตรียมไว้ 3 เครื่อง

 

THE STANDARD ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ชุดค้นหาหน่วยซีลสามารถเข้าปากถ้ำไปได้ระยะทาง 3 กิโลเมตร จากนั้นไม่สามารถไปต่อได้เนื่องจากมีโคลนท่วมสูงมิดเพดานถ้ำ จึงจำเป็นต้องสูบน้ำออกก่อน

 

เมื่อระบายน้ำออกได้ตามแผน หน่วยซีลจะเดินลึกเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นอีกโถงหนึ่งภายในถ้ำที่เรียกว่า ‘หาดพัทยา’ หรือ ‘พัทยาบีช’ เพราะคาดว่าเด็กและโค้ชจะเข้าไปหลบในจุดนั้น

 

เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 


 

 

  • บรรดาสมาชิกครอบครัวของทั้ง 13 คนและชาวบ้าน ต่างสวดอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่บริเวณหน้าปากถ้ำ ขอพรให้ทุกคนกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีม ‘หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย’ ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง เป็นวันที่ 4

 

 

  • ทีมนักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญการดำนำ้จบหลักสูตรพิเศษจากประเทศอิตาลีพร้อมอุปกรณ์ทันสมัยจากประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นทีมของ นรินทร ณ บางช้าง อดีตนักร้องชื่อดัง ลงพื้นที่ถ้ำหลวงกับหน่วยซีลเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า และจะมีทีมอาจารย์ชาวต่างชาติตามมาสมทบเวลา 16.00 น.

 

 

  • พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เผย พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 ไปถ้ำหลวง เชียงราย เป็นการเดินทางไปเพื่อให้กำลังใจ ชี้ จนท. ทุกฝ่ายพยายามเต็มที่ กำลังพิจารณาเจาะเขา เจาะปล่องเพดานถ้ำ ภาวนาให้เด็กๆ รอดชีวิต ขอให้เจอ เพราะเคยเข้าไปเที่ยวในถ้ำมาแล้ว

 

  • ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ หน่วยซีลเริ่มปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตที่สูญหายในถ้ำหลวง โดยจัดหน่วยซีล 8 นายมุ่งไปยังจุดสิ้นสุดการค้นหาเมื่อวานนี้ โดยไม่ต้องสับเปลี่ยน ส่วนกำลังที่เหลือจะคอยสนับสนุน ด้านเจ้าหน้าที่อื่นๆ ช่วยกันสำรวจหาปล่องในการโรยตัว หลังจากที่เมื่อวานล้มเหลว

 

 

  • 9.56 น.​ มีรายงานจากเยาวชนรายหนึ่งที่เคยสำรวจถ้ำหลวงด้วยกันกับทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายว่า พวกเขาเคยเข้าไปสำรวจถึงหาดพัทยา (พื้นที่ที่หน่วยซีลพยายามแต่ยังไปถึงเมื่อวาน) มาแล้ว และเดินเลยไปอีกหลายจุด พร้อมกับเตรียมน้ำคนละ 2-3 กระติกไปด้วย เป็นสัญญาณเชิงบวกว่าเด็กๆ น่าจะเคยเข้าไปเกือบทุกส่วนและรู้จักถ้ำนี้เป็นอย่างดี

 

 

  • บินเชียงรายแล้ว! พล.อ.อ. ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ทอ. จัด C-130 ส่งชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นำอุปกรณ์หุ่นยนต์ดำน้ำ ROV-โดรนติดกล้องจับความร้อน ช่วย 13 ชีวิตในถ้ำหลวง อ.แม่สาย จากกองบิน 6 ดอนเมือง

 


 

  • 8.36 น. ประชาสัมพันธ์ จ.เชียงราย แจ้งเปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่ถ้ำหลวง โดยปรับถนนให้เป็น One Way ย้ำ! ผู้ไม่เกี่ยวข้องอย่าเข้าพื้นที่ อนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากต้องการบริจาคอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ไปที่จุดรับบริจาค 1 และ 2 ตามแผนที่

 

  • เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดมเดินสายไฟฟ้ายาวประมาณ 1 กิโลเมตรเข้าไปในถ้ำ ขณะที่ทีมสูบน้ำเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ 03.00 น. กำลังเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อช่วยเหลือผู้สูญหายต่อไป 

 

  • ระดับน้ำและปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ขณะนี้มีรายงานว่าฝนเริ่มหยุดตกแล้ว

 


 

25 มิถุนายน

 

 

  • หมายด่วน! พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเดินทางถึงเชียงรายวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 08.00 น. เพื่อไปถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนที่มีเด็กและโค้ช 13 คนติดอยู่ เพื่ออำนวยการแก้ปัญหาและเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน

  • รองผู้ว่าฯ เชียงราย มอบหมายให้ตำรวจภูธร สั่งปิดการจราจรถาวร ห้ามประชาชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตวนอุทยานถ้ำหลวง โดยเด็ดขาด และจัดโซนนิ่งการจอดรถของหน่วยปฏิบัติงานทุกหน่วยรวมทั้งสื่อมวลชน

 

 

  • พรุ่งนี้เช้า (26 มิ.ย.) กองทัพอากาศเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ หุ่นยนต์ดำน้ำ โดรนติดกล้องตรวจจับความร้อนสำหรับบินสำรวจ ขึ้น C-130 ไปยังถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อช่วยเหลือเยาวชนและโค้ช 13 คนที่สูญหายในถ้ำ

 

  • 21.40 น. ผู้ว่าฯ เชียงราย เปิดเผยคืนนี้จะใช้เครื่องสูบน้ำไฟฟ้าสูบน้ำในถ้ำออก พร้อมกับประสานชลประทานปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองน้ำพุ 2 อ่างที่อยู่ข้างล่างถ้ำ เพื่อหวังลดระดับน้ำภายในถ้ำอีกทางด้วย

 

 

  • พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สายตรงจากปารีส ห่วงใย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย กำชับ จนท. ออกค้นหาช่วยเหลือเต็มที่ ระมัดระวังตนเอง พร้อมหนุนการช่วยเหลือกับ ‘หน่วยซีล’ ภาวนาขอให้ภารกิจลุล่วงด้วยดีและทุกคนปลอดภัย

 

  • 19.30 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายเผย จากเหตุการณ์ที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระแสน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้กำลังประชุมเพื่อหาวิธีให้น้ำในถ้ำลดลงเพื่อจะช่วยน้องๆ ออกมาให้ได้ ยืนยันว่าสัญญาณภาพรวมยังคงเป็นสัญญาณที่ดี เพราะเจ้าหน้าที่เจอรอยเท้า และไม่เห็นสัญญาณที่ไม่ดี วันนี้ถ้าฝนหยุดจะสามารถทำงานได้ดีกว่านี้ ส่วนพรุ่งนี้ตั้งแต่ตี 5 จะเริ่มงานกันเพิ่มเติม โดยมีหน่วยเดินลาดตระเวนหาช่องทางอื่นๆ ที่จะเป็นไปได้ ส่วน ตชด. จะนำเฮลิคอปเตอร์บินเพื่อหาช่องทางเข้าไปในถ้ำ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะหาทางปิดกั้นน้ำไม่ให้เข้าไปในถ้ำ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้เราทำงานแข่งกับเวลา ทุกนาทีมีค่าต่อน้องๆ ทุกคน เราจะไม่เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว อุปสรรคมีมากมาย แต่เราจะไม่ท้อถอย

 

  • 17.47 น. เจ้าหน้าที่ประกาศยุติการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติหน้าที่ รอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ยืนยันว่ายังไม่ยกเลิกภารกิจ

 

  • 16.15 น. ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย เผยแพร่ข้อมูลล่าสุดว่า ขณะนี้เหลือระยะทางอีกเพียง 2 กิโลเมตร จากทั้งหมด 7 กิโลเมตรที่หน่วยซีลจะเข้าถึงพื้นที่ที่คาดว่าผู้สูญหายทั้ง 13 คนจะอยู่ ขณะที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในถ้ำเพิ่มสูงขึ้น และเหลือพื้นที่สำหรับผู้สูญหายน้อยลงตามลำดับ คาดว่าเย็นวันนี้จะทราบผลของปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้

 

  • 15.45 น. ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย ได้นำแผนที่ของถ้ำมาทำการค้นหาปล่องถ้ำ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของชาวบ้านที่ระบุว่า ถ้ำแห่งนี้มีปล่องเหนือถ้ำอยู่ 2 จุด

 

 

  • 15.41 น. ชุดโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์เตรียมนำกำลังเข้าช่วยเหลือผู้สูญหายทั้ง 13 คนจากปล่องถ้ำหลวง หลังเฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวนและพบปล่องอยู่เหนือถ้ำจำนวน 2 ปล่อง เพื่อช่วยค้นหาอีกทาง ภาพ:

 

  • 15.38 น. ญาติผู้สูญหายเผย ทราบข่าวตั้งแต่ 1 ทุ่ม เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เนื่องจากเด็กๆ ไม่กลับบ้าน จนญาติแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ค้นหา มั่นใจว่าโค้ชจะสามารถดูแลเด็กๆ ได้ ขณะภาพเฟซบุ๊กของโค้ชเอกพลชี้ให้เห็นว่า ก่อนหน้านี้โค้ชเคยพาเด็กๆ เข้าไปในถ้ำมาแล้ว

 

ภาพประกอบ: Thiencharas W.

 

  • 15.30 น. หลังเจ้าหน้าที่ได้นำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจบริเวณถ้ำหลวง เพื่อค้นหาช่องทางช่วยเหลือ 13 ผู้สูญหาย ล่าสุดพบปล่อง 2 จุดบนถ้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างประชุมเพื่อวางแผนช่วยเหลือต่อไป 

 

  • 14.56 น. หน่วยซีลที่อยู่บริเวณภายนอก ทำการสื่อสารกับญาติๆ ของผู้สูญหายที่รอฟังข่าวอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเข้า-ออกจากพื้นที่เป็นเวลาหลายชั่วโมง อุปสรรคสำคัญตอนนี้คืออุณหภูมิภายในค่อนข้างหนาวเย็น และมืดมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างยากลำบาก แต่ยืนยันว่าจะค้นหาให้ถึงที่สุด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการสำรวจพื้นที่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อหาช่องทางในการค้นหาผู้สูญหายอีกทางด้วย

 

 

  • 14.37 น. กสทช. นำรถโมบายจากเชียงใหม่เข้าพื้นที่ถ้ำหลวง เพื่อสนับสนุนการกระจายสัญญาณให้ทีมค้นหาสื่อสารกันได้อย่างสะดวก คาดจะเดินทางถึงพื้นที่ภายใน 2-3 ชั่วโมง

 

  • 14.32 น. ทีม SEAL 2 ทีม ทีมละ 4 คน สลับชุดกัน วางแนวเชือกและไฟส่องสว่าง เข้าไปจากโถงใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตรแล้ว ทางเดินไม่ลำบากมาก มีขึ้นลงตามภูมิประเทศ หน่วย SEAL นำอาหารและออกซิเจนติดตัวไปเผื่อ หากพบเด็ก สามารถเข้าไปดูแลได้ทันที

 

  • 14.14 น. ขณะนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนักบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้นเล็กน้อย ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่นำสายโทรศัพท์สนามเข้าไปติดตั้ง และนำเสบียงและยาเข้าไปด้วย หากพบผู้ประสบภัยพร้อมให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันที

 

  • ยังไม่พบตัวเด็ก แต่พบร่องรอยที่ทิ้งไว้ และกำลังแกะรอยสำรวจ ด้าน พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) คาดว่าเด็กน่าจะยังมีชีวิตอยู่ในสภาพอิดโรย แต่เชื่อว่า มีแหล่งน้ำที่พอดำรงชีวิต

 

 

  • เมื่อ 13.20 น. มีรายงานว่าหน่วยซีลชุดแรกจำนวน 5 นายที่ทำหน้าที่ค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 คนตั้งแต่ช่วงตีห้าที่ผ่านมา ได้ถอนกำลังเพื่อพักผ่อนแล้ว ขณะที่ชุดที่ 2 จำนวน 5 นายกำลังปฏิบัติหน้าที่ต่อ

 

  • โค้ชและนักฟุตบอล 13 คนที่สูญหายภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน คือ
    • นายเอกพล จันทะวงษ์ โค้ชฟุตบอล
    • ด.ช.อดุลย์ สามออน
    • ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม
    • ด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทราย
    • ด.ช.พิพัฒน์ โพธิ
    • ด.ช.ภานุมาส แสงดี
    • ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ
    • ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง
    • ด.ช.เอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์
    • นายพรชัย คำหลวง
    • นายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ
    • นายสมพงษ์ ใจวงศ์
    • นายมงคล บุญเปี่ยม

 

  • ถ้ำแห่งนี้ เปิดให้ท่องเที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน ส่วนช่วงหน้าฝนอันตรายมาก ห้ามเข้าไป

 

Photo: ThaiPBS North

 

  • 13.53 น.​ ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย ได้เข้าไปติดตั้งสายไฟส่องสว่าง อำนวยความสะดวกให้กับทีมค้นหา ส่วนกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ได้ส่งชุดปฏิบัติการนำเครื่องมือตรวจวัดค่าปริมาณออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ สนับสนุนการค้นหาด้วย 

 

  • 13.52 น.​ ขณะนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนักบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้นเล็กน้อย ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่นำสายโทรศัพท์สนามเข้าไปติดตั้ง และนำเสบียงและยาเข้าไปด้วย หากพบผู้ประสบภัยพร้อมให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันที

 

 

  • 13.34 น.​ ด้าน อสมท เชียงราย เชิญชวนบริจาคสนับสนุนทีมช่วยเหลือ ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาแม่จัน 535-0-44531-6 ชื่อบัญชี กองทุนนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.ชร.เขต 3

 

https://www.facebook.com/ThaiSEAL/photos/a.1393158180807577.1073741828.1393136284143100/1618933988229994/?type=3&theater

 

  • 12.43 น.​ หน่วยซีลเผยแพร่ภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการค้นหา 13 ผู้สูญหายบริเวณถ้ำหลวง โดยระบุข้อความว่า “นักดำน้ำต้องดำน้ำลึก 5 เมตร เข้าสู่ห้องโถงใหญ่”

 

  • 12.15 น. พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ เผยขณะนี้หน่วยซีลได้ผ่านจุดที่ยากที่สุดไปแล้ว โดยได้ดำน้ำ และใช้เครื่องมือทะลุจนข้ามไปอีกฝั่งได้สำเร็จ แต่จุดที่โผล่ขึ้นไปมีความลึกเข้าไปข้างในอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ยังไม่เจอผู้สูญหาย แต่พบรอยเท้ากลุ่มเด็กๆ แล้ว คิดว่าน่าจะไปถูกทาง ที่น่ายินดีคืออากาศข้างในปลอดโปร่ง แต่ค่อนข้างมืด ยืนยันว่าจะค้นหาต่อไปอย่างเร่งด่วน พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ยืนยันว่ากำลังใจของเจ้าหน้าที่เกินร้อย พยายามเต็มที่ที่จะให้กำลังพลของหน่วยปฏิบัติภารกิจนี้ให้สำเร็จ ซึ่งสภาพพื้นที่ภายในถ้ำเป็นสภาพปกติที่หน่วยซีลได้ฝึกมา ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สำเร็จ

 

 

  • เจ้าหน้าที่หน่วยค้นหาขอความร่วมมือประชาชน ให้ติดตามข่าวสารอยู่ที่บ้าน หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ควรเดินทางมายังพื้นที่ เพราะพื้นที่คับแคบ และทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากลำบาก ด้าน อสมท เชียงราย เชิญชวนบริจาคสนับสนุนทีมช่วยเหลือ ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาแม่จัน 535-0-44531-6 ชื่อบัญชี กองทุนนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา สพป.ชร.เขต 3

 

https://www.facebook.com/ThaiSEAL/posts/1618834608239932

 

  • 11.23 น. เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL รายงานว่า “ชุดดำน้ำดำน้ำลงไปลึก 5 เมตร พบทางลอดเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่หลังม่านน้ำ เดินสำรวจภายในบริเวณนั้นที่มีความลึก 7 กิโลเมตร พบร่องรอยเด็กๆ แต่ยังไม่พบตัว

 

  • 10.45 น. เฟซบุ๊กสถานีตำรวจภูธร แม่สาย รายงานว่า “ชุดค้นหาพบร่องรอยผู้สูญหาย แต่ยังไม่พบตัว”

 

  • 09.38 น. หน่วยซีล 4 นายดำน้ำข้ามไปอีกฝั่งของจุดที่มีระดับน้ำสูงได้แล้ว พร้อมนำอุปกรณ์ปฐมพยาบาล อาหาร และน้ำดื่มเข้าไปด้วย แต่ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 13 คน

 

  • มีรายงานว่าระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 2 เมตรเป็น 7 เมตรจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมเปลพยาบาล

 

  • 08.35 น. อสมท เชียงราย รายงานว่า “กระแสน้ำแรงขึ้น พบกระดาษแสดงรายชื่อเด็ก คาดทุกคนยังปลอดภัย ยังดูดน้ำกับทรายไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำเริ่มสูงและกว้างขึ้น”

 

  • 06.00 น. หน่วยซีลเริ่มต้นภารกิจค้นหาอีกครั้ง ระดับน้ำยังคงสูง น้ำขุ่น และมีทรายเยอะ (อ้างอิง: อาสาฯ (กาลิเลโอ))

 

  • 04.00 น. หน่วยซีลแบ่งทีมออกเป็น 4 ชุด โดยชุดแรกจะดำน้ำเข้าไปสำรวจก่อน และรุ่งเช้าจะนำชุดใหญ่เข้าค้นหาทั้ง 13 ชีวิตอีกครั้ง

 

  • 02.15 น. หน่วยซีล กองทัพเรือ เดินทางออกจากสนามบินอู่ตะเภาถึงวนอุทยานถ้ำหลวงแล้ว ร่วมประชุมกับทีมค้นหา เจ้าหน้าที่เผยว่าอุปสรรคสำคัญอยู่บริเวณ 3 กิโลเมตรจากถ้ำมีน้ำท่วมสูงประมาณ 5 เมตร ต้องใช้ทีมประดาน้ำที่เชี่ยวชาญ ความหวังน่าจะอยู่จุดที่เป็นโถงที่ 3 ซึ่งเป็นเนินสูงและเลยจากจุดที่ระดับน้ำสูงไปแล้ว

 


 

24 มิถุนายน

 

  • 23.25 น. มีผู้ปล่อยข่าวว่าพบผู้สูญหายแล้ว แต่เป็นเพียงข่าวลือ ด้านนอกผู้ปกครองยังคงเฝ้าติดตามข่าวคราวอย่างใกล้ชิด

 

  • ทีมค้นหาขอกำลังจากหน่วยซีล กองทัพเรือ เข้ามาสนับสนุนการค้นหา

 

 

  • 22.41 น. เจ้าหน้าที่วางแผนและเตรียมอุปกรณ์เพื่อเข้าค้นหาอีกครั้ง คาดว่าทั้ง 13 คนน่าจะอยู่บริเวณโถงในถ้ำดังกล่าว

 

  • 20.53 น. ปฏิบัติการยังดำเนินต่อไป เจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันค้นหา ระดับน้ำเริ่มลด แต่ทางแคบและมืด ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ชุดแรกเปิดเผยว่าไม่พบใคร เนื่องจากเข้าไปบางจุดไม่ได้ เพราะถังออกซิเจนที่ติดตัวไปมีขนาดใหญ่ ต้องเปลี่ยนขนาดถังออกซิเจนให้เล็กลงและเตรียมค้นหาต่อไป

 

 

  • 13.40 น. ทีมประดาน้ำนำอาหารและน้ำดื่มมัดเชือกปล่อยตามกระแสน้ำให้ผู้ประสบภัยทั้ง 13 ชีวิต ระดับน้ำยังคงสูงและเชี่ยวมาก รอทีมชุดประดาน้ำอีกชุดจากเชียงใหม่เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

 

  • ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้คำยืนยันว่า “ก็ให้ความมั่นใจนะครับว่าตราบใดที่ยังไม่รู้ความคืบหน้า เราจะเดินอย่างต่อเนื่อง แล้วถ้าน้องๆ อยู่ดีมีสุข เราจะดูแลจนเอาออกมาให้ได้”

 

  • 12.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยกลับออกมาจากถ้ำอีกครั้งหลังค้นหาตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในถ้ำมืด มีความชื้น และมีอากาศไม่มาก สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤต เพราะผู้ประสบภัยไม่มีน้ำและอาหาร ที่สำคัญคือไม่สามารถติดต่อทีมงานช่วยเหลือชุดแรกที่เข้าไปได้ เตรียมจัดทีมค้นหาเพิ่มเติมในช่วงบ่าย

 

  • 03.40 น. เจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลัง เนื่องจากระดับน้ำในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นและไหลแรง เตรียมค้นหาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

 


 

23 มิถุนายน

 

 

  • ช่วงหัวค่ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรับแจ้งว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวพลัดหลงบริเวณอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรา 

 

  • เบื้องต้นทราบว่าผู้สูญหายเป็นนักฟุตบอลเยาวชน 12 คน และโค้ช 1 คนของทีม ‘หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย’

 

  • ระหว่างการค้นหา ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ต้องใช้ชุดประดาน้ำค้นหาในถ้ำหลายชั่วโมง

 

 

ขอบคุณภาพจาก: Thai Navy Seal, PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

อ้างอิง:

  • www.fm91bkk.com
  • เฟซบุ๊ก: สถานีตำรวจภูธร แม่สาย, PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย, อสมท เชียงราย

The post พบแล้ว 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง: สรุปปฏิบัติการค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชน 13 ชีวิตในถ้ำหลวง จ.เชียงราย appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/search-for-13-missing-youth-in-tham-luang-khunnam-nang-non-forest-park/feed/ 0
ทีม มจพ. บินโดรนติดกล้องจับความร้อนสำรวจปล่องถ้ำ แต่ฝนยังเป็นอุปสรรค https://thestandard.co/kmutnb-use-drone-support-searching-13-trapped-in-tham-luang/ https://thestandard.co/kmutnb-use-drone-support-searching-13-trapped-in-tham-luang/#respond Wed, 27 Jun 2018 06:28:35 +0000 https://thestandard.co/?p=101454

27 มิถุนายน 2561 เข้าสู่วันที่ 5 ของภารกิจค้นหานักฟุตบอ […]

The post ทีม มจพ. บินโดรนติดกล้องจับความร้อนสำรวจปล่องถ้ำ แต่ฝนยังเป็นอุปสรรค appeared first on THE STANDARD.

]]>

27 มิถุนายน 2561 เข้าสู่วันที่ 5 ของภารกิจค้นหานักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีม หมูป่าอะคาเดมีแม่สายรวม 13 คน ที่หายตัวไประหว่างท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

 

 

THE STANDARD พบทีมวิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กำลังใช้โดรนยี่ห้อ DJI รุ่น Inspire 2 พร้อมติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อน (Thermal Camera) ทำการบินสำรวจปล่องถ้ำบริเวณดอยผาหมี

 

ทีมงานบอกกับเราว่า ปัญหาที่พบคือขณะนี้พิกัดของแผนที่กับพิกัดของโดรนคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อย และอุปสรรคสำคัญคือฝน ทำให้ทำการบินได้ลำบากและไม่เต็มศักยภาพ แต่ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ เพราะดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไป

 

 

การใช้โดรนบินสำรวจเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งนอกจากการเดินเท้าลาดตระเวนและการบินโดยเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากโดรนมีความคล่องตัวกว่าเฮลิคอปเตอร์ สามารถเข้าไปในพื้นที่เล็กๆ ได้

 

ทั้งนี้ทีมงานพยายามสังเกตว่ามีสัตว์ปีกโดยเฉพาะค้างคาวบินออกจากโพรงถ้ำหรือไม่ เพราะถ้ามี นั่นหมายความว่าโพรงตรงนั้นสามารถเข้าไปในพื้นที่ถ้ำได้

The post ทีม มจพ. บินโดรนติดกล้องจับความร้อนสำรวจปล่องถ้ำ แต่ฝนยังเป็นอุปสรรค appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/kmutnb-use-drone-support-searching-13-trapped-in-tham-luang/feed/ 0
กองทัพอากาศส่งหุ่นยนต์ดำน้ำ-โดรนติดกล้อง ช่วย 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง เชียงราย https://thestandard.co/rtaf-sending-robot-drones-from-kmutnb-to-help-13-soccer-team-trapped-in-in-tham-luang-cave/ https://thestandard.co/rtaf-sending-robot-drones-from-kmutnb-to-help-13-soccer-team-trapped-in-in-tham-luang-cave/#respond Tue, 26 Jun 2018 00:59:37 +0000 https://thestandard.co/?p=100877

มีรายงานว่า วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 7.00 น. ที่ท่าอากาศย […]

The post กองทัพอากาศส่งหุ่นยนต์ดำน้ำ-โดรนติดกล้อง ช่วย 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง เชียงราย appeared first on THE STANDARD.

]]>

มีรายงานว่า วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 7.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.อ. ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ จะทำพิธีส่ง เจ้าหน้าที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ และเจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ขึ้น C-130 ไปยังถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายที่สูญหาย 13 คนในถ้ำ โดยประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ จำนวน 13 คน หุ่นยนต์ดำน้ำ (ROV) จำนวน 1 เครื่อง และโดรนติดกล้องตรวจจับความร้อนสำหรับบินสำรวจ จำนวน 2 ลำ

 

The post กองทัพอากาศส่งหุ่นยนต์ดำน้ำ-โดรนติดกล้อง ช่วย 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง เชียงราย appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/rtaf-sending-robot-drones-from-kmutnb-to-help-13-soccer-team-trapped-in-in-tham-luang-cave/feed/ 0