มงคล สุระสัจจะ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 11 Oct 2025 09:58:42 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 โฆษกวิป สว. คาด สว. รับหลักการร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ วาระ 1 ผ่านฉลุย ด้าน สว.​ อลงกตเชื่อไม่รับเจอกล่าวหาขวางลำ https://thestandard.co/senate-approves-constitutional-amendments/ Sat, 11 Oct 2025 09:58:42 +0000 https://thestandard.co/?p=1129443 โฆษกวิป สว. คาด สว. รับหลักการร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ วาระ 1 ผ่านฉลุย ด้าน สว. อลงกตเชื่อไม่รับเจอกล่าวหาขวางลำ

วันนี้ (11 ตุลาคม) พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ วุฒิสภา (สว.) ใ […]

The post โฆษกวิป สว. คาด สว. รับหลักการร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ วาระ 1 ผ่านฉลุย ด้าน สว.​ อลงกตเชื่อไม่รับเจอกล่าวหาขวางลำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
โฆษกวิป สว. คาด สว. รับหลักการร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ วาระ 1 ผ่านฉลุย ด้าน สว. อลงกตเชื่อไม่รับเจอกล่าวหาขวางลำ

วันนี้ (11 ตุลาคม) พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ วุฒิสภา (สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิป สว.) กล่าวถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 14-15 ตุลาคม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ.. ซึ่งมีทั้งหมด 3 ฉบับว่า ส่วนตัวได้อ่านหมดแล้ว ดังนั้นในการพิจารณารับหลักการวาระที่ 1 ก็คงจะรับทุกร่าง เพราะแต่ละร่างก็มีทั้งข้อดีข้อเสียต้องนำมาพูดคุยกัน

 

ส่วน สว. คนอื่นจะรับหลักการวาระ 1 ทั้ง 3 ร่างหรือไม่ พิสิษฐ์กล่าวว่า ต้องใช้เสียงสว. แค่ 1 ใน 3 ประมาณ 67 เสียง ซึ่งไม่เยอะ ส่วนตัวจึงคิดว่าน่าจะผ่านวาระที่ 1 ทั้ง 3 ร่าง

 

ทั้งนี้ ในส่วนของร่างจากพรรคประชาชน ตนติดใจเรื่องแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 เพราะส่วนตัวไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว และอีกประเด็น คือ การเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าห้ามเลือกโดยตรงจากประชาชน ส่วนประเด็นอื่นที่ดีก็อาจจะต้องเอามาใช้ โดยจะมาพิจารณาอีกทีว่าจะใช้อันไหนบ้าง

 

ส่วนรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของ สว. ที่ยังมีปัญหาอยู่นั้น พิสิษฐ์กล่าวว่า รายชื่อทั้งหมดเราเริ่มต้นจากให้คณะกรรมาธิการสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กำหนดให้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง ได้โควตาไปก่อน 1 รายชื่อ ในทั้งหมด 12 รายชื่อ ส่วน 11 รายชื่อที่เหลือจะพิจารณาจาก 20 กมธ. สามัญประจำวุฒิสภา ซึ่ง วุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ในฐานะเลขานุการวิปวุฒิสภา เป็นผู้จับฉลากเอง

 

แต่ กมธ. การกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา ที่เป็นปัญหา ไม่ได้เข้าประชุมและไม่พอใจว่าทำไมให้ชื่อ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ทำให้มีการทะเลาะกันในที่ประชุม โดยจะส่งเรื่องไปยัง มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ เพื่อคืนโควต้าไปดำเนินการใหม่

 

พิสิษฐ์​กล่าวอีกว่า คงต้องจับฉลากใหม่ เนื่องจากในครั้งนั้น มี กมธ.ที่ไม่ได้เข้าร่วมทั้งหมด 9 คณะ ส่วนที่ นพ.เปรมศักดิ์ จะนำเรื่องนี้ไปพูดในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็คงห้ามไม่ได้ เพราะอยู่ที่มติของ กมธ. การกฎหมายฯ ซึ่งต้องยึดตามนั้น

 

ด้าน อลงกต วรกี สว. กล่าว ถึงการผ่านร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง ว่า ไม่มีความเห็น เพราะเหมือนมีตุ๊กตาของคนนั้นคนนี้ มีแต่ร่าง แต่รัฐธรรมนูญตัวจริงยังไม่ออกมา ซึ่งก็เหมือนกับมีคนมาถามว่า ข้าวผัดปูอร่อยหรือไม่ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าวันที่ประชุมจะมีข้าวผัดปูหรือไม่

 

อลงกตกล่าวอีกว่า ร่างทั้ง 3 ร่าง ก็ไม่ใช่เรื่องจริงที่ออกโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพราะหากดูตามไทม์ไลน์ ต้องหา สสร. ที่มาจากประชาชนแล้ว สสร. จะเอา 3 ร่างนี้หรือไม่ก็ไม่รู้ ในเมื่อไม่รู้แล้วตนจะมีความเห็นได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้มีแนวโน้มจะไม่รับทั้ง 3 ร่าง แต่การพิจารณาครั้งนี้คือขั้นรับหลักการ ถ้า สว.ไม่รับจะเกิดอะไรขึ้น สังคมจะประณามหรือไม่

 

พรรคการเมืองหลายพรรคตอนหาเสียงบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ และต้องใช้เสียงสว. สนับสนุน แต่ปัญหาเกิดขึ้นมาในเมื่อตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชัดเจนว่าต้องทำประชามติ ดังนั้น กระบวนการเห็นชอบในหลักการน่าจะไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่ได้เห็นชอบในเนื้อหาเพราะยังไม่เห็นรายละเอียด และเป็น 3 ร่างที่ สสร. จะเอามาใช่หรือไม่ยังไม่รู้เลย

 

“สรุปน่าจะรับหลักการให้แก้ไข เพื่อให้เข้าไปสู่กระบวนการในวาระสอง และให้การแก้ไขรัฐธรรมนููญเดินหน้าไปได้ ส่วนร่างเป็นอย่างไร ไม่ได้อยู่ที่สาระ แต่อยู่ที่ สสร. ซึ่ง สสร. อาจจะดึง 1 ใน 3 ร่าง หรือ 2 ใน 3 ร่าง หรือจะร่างขึ้นมาใหม่ แล้วแต่ สสร. เพราะ สสร. ไม่ได้เป็นคนเสนอ 3 ร่างนี้ ผมจึงเชื่อว่าน่าจะมีร่างที่ 4 ดังนั้น ถ้าไม่รับหลักการ คนก็จะกล่าวหาว่า สว. ขวางลำอีกแล้ว” อลงกตกล่าว

 

อลงกตกล่าวต่อว่า ตนจะอภิปรายว่ารัฐธรรมนูญควรมีธงไปทางไหน โดยจะตั้งคำถามว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแก้ปัญหายาเสพติดได้หรือไม่ สามารถแก้ปัญหาคนที่เป็นหนี้เป็นสินได้หรือไม่ รัฐธรรมนูญช่วยอะไรได้บ้าง สว. มีการฮั้วรัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาเรื่องฮั้วได้หรือไม่ เช่น มี สส. บางคนถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าห้ามเล่นการเมือง แต่ก็ยังเห็นอดีต สส. บางคนเข้าไปอยู่ในกรรมาธิการ แล้วรัฐธรรมนูญดูแลอะไรบ้าง รัฐธรรมนูญทำให้คนมีความรู้สึกว่ามีหน้าที่มากขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่มีแต่คำว่าสิทธิเสรีภาพ ให้คนในประเทศมีคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ สังคม ดีขึ้นหรือไม่

 

“ผมจะมองทุกมุม และจะพูดเรื่องพวกนี้มากกว่าที่จะไปบอกว่าร่าง 1 ร่าง 2 ร่าง 3 เป็นอย่างไร และจะถามว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญที่จะออกมาตอบโจทย์ เศรษฐกิจสังคม การเมืองไทย หรือไม่ ถ้าไม่ตอบโจทย์แล้วจะมีประโยชน์อะไร ดังนั้นก็จะรับหลักการไปก่อน เพราะจะเข้าไปสู่โหมดของการตั้ง สสร. เพื่อให้การเมืองเดินหน้าได้ ทั้งนี้ ผมไม่ได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการจับฉลากกัน” อลงกตกล่าว

The post โฆษกวิป สว. คาด สว. รับหลักการร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ วาระ 1 ผ่านฉลุย ด้าน สว.​ อลงกตเชื่อไม่รับเจอกล่าวหาขวางลำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
โสภณโต้ไม่เคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลทุจริต แจงโครงการถนนไร้ฝุ่น ทำเพื่อประชาชนในพื้นที่ชนบท เป็นคุณูปการต่อประเทศ https://thestandard.co/sopon-sarum-anti-corruption-parliament-debate/ Tue, 30 Sep 2025 00:40:19 +0000 https://thestandard.co/?p=1124475 sopon-sarum-anti-corruption-parliament-debate

วันนี้ (29 กันยายน) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ […]

The post โสภณโต้ไม่เคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลทุจริต แจงโครงการถนนไร้ฝุ่น ทำเพื่อประชาชนในพื้นที่ชนบท เป็นคุณูปการต่อประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
sopon-sarum-anti-corruption-parliament-debate

วันนี้ (29 กันยายน) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) มีการประชุมรัฐสภาแบบพิเศษ โดยมี มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภาตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวันแรกของการอภิปราย

 

ทรงยศ รามสูตร สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้แสดงความกังวลต่อนโยบายการขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดของรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีของ โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ในอดีตที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง แม้ว่า ป.ป.ช. จะยกคำร้องไปแล้ว 

 

แต่ในปัจจุบันเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม ยังคงมีความจำเป็นต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคงไม่มีปัญหา เพราะรัฐมนตรีหลายคนยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.

 

ทรงยศ กล่าวต่อว่า ที่ตนเองกังวลประเด็นนี้ เนื่องจากในสมัยนั้น เคยมีการเสนอโครงการถนนไร้ฝุ่น โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี แต่ใช้งานเพียง 2 ปีก็เกิดความเสียหายแล้ว ส่วนนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายเกี่ยวกับการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือนวัตกรรมต่างๆ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของตน พบว่าในบางตำบลได้รับงบประมาณมากกว่าทั้งอำเภอหรือทั้งจังหวัด สิ่งที่อยากฝากไว้คือ โครงการเหล่านี้ใช้งานเพียง 2 ปีก็เกิดความเสียหาย จึงขอให้มีการแก้ไขโดยกำหนดทีโออาร์ (TOR) ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 4-5 ปี แม้จะมีราคาสูงขึ้น แต่ก็ขอให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม

 

ขณะที่ โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงโดยระบุว่า การอภิปรายดังกล่าว เป็นการกล่าวเท็จ และไร้ความจริง ซึ่งทำให้ตนเองเสียหายอย่างมาก ในกรณีที่มีการระบุว่า ตนเคยถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 3 ปี แม้จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 ครั้ง แต่ข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต และถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบนั้นไม่เป็นความจริง

 

โสภณกล่าวต่อว่า สังคมและสาธารณชนทราบดีว่า ป.ป.ช. ในยุคนั้นมีความน่าเชื่อถือสูง และตนเองได้ผ่านการตรวจสอบอย่างไร้มลทิน ไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ตนไม่ได้ถูกเรียกไปชี้แจงด้วยซ้ำ และเมื่อมีการชี้แจงในสภาแล้ว เรื่องก็ยุติ ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่สมาชิกอภิปรายเป็นคำเท็จและไม่รู้ข้อเท็จจริง

 

ส่วนกรณีโครงการถนนไร้ฝุ่น ที่มีการระบุว่ามีความเสียหายภายใน 2 ปีนั้น โสภณกล่าวว่า ตนรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำโครงการถนนไร้ฝุ่นเพื่อประชาชนในชนบท หากจะกล่าวหาว่าถนนสายใดเสียหาย ขอให้ระบุรายละเอียด เพราะการกล่าวหาลอยๆ ทำให้ตนเสียหาย สิ่งที่ได้กระทำในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ล้วนเป็นคุณูปการต่อประเทศ และตนขอยืนยันว่าการทำงานในอดีตของตนไม่มีมลทิน

The post โสภณโต้ไม่เคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลทุจริต แจงโครงการถนนไร้ฝุ่น ทำเพื่อประชาชนในพื้นที่ชนบท เป็นคุณูปการต่อประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สภาประท้วงวุ่น! ทวีอภิปรายจัดหนัก ‘คดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.’ อดิศรขอประธานวุฒิสภาทำตัวเป็นกลาง อย่าร้อนตัว https://thestandard.co/tawee-senators-khao-kradong-cases/ Mon, 29 Sep 2025 07:56:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1124286

วันนี้ (29 กันยายน) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ […]

The post สภาประท้วงวุ่น! ทวีอภิปรายจัดหนัก ‘คดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.’ อดิศรขอประธานวุฒิสภาทำตัวเป็นกลาง อย่าร้อนตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (29 กันยายน) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) เป็นพิเศษ ที่มี มงคล สุระสัจจะ ประธานสมาชิกวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมในวาระพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ

 

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ได้ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า รัฐบาลแถลงนโยบาย 4 ปี เหมือนจะขับเคลื่อนรัฐบาลไปอีก 4 ปี โดยเฉพาะ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 เป็นวงเงินรายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท ซึ่งสิ่งนี้นายกรัฐมนตรีจะใช้ได้คืองบกลาง การแถลงนโยบายกับการใช้งบเป็นคนละเรื่อง

 

ตนมองว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายของคนโกหกที่ไม่มีงบ และใน 4 เดือนที่จะยุบสภา รัฐบาลต้องเริ่มคิดว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร ซึ่งในหลักความเป็นจริงกฎหมายจะดีแค่ไหน แต่ถ้าคนเข้ามาไม่ซื่อสัตย์ และรัฐมนตรี 7-8 คนเป็นที่สงสัย มีความน่าห่วงใย จึงขอยกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ คือ เรื่องที่ดินเขากระโดง, ฮั้ว สว. และนโยบายกัญชา

 

ในส่วนที่ดินเขากระโดง ข้อเท็จจริงมีคำพิพากษาของศาลยุติธรรมและศาลปกครองจำนวน 9 ฉบับ ซึ่งได้ตัดสินว่าที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นการออกเอกสารสิทธิ์ทับ 5,083 ไร่ 80 ตารางวา แต่พบว่า ให้ผู้ถูกร้องดำเนินการตามมาตรา 61 ของกฎหมายที่ดิน ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรมที่ดินตั้งกรรมการแต่ไม่ยอมทำตามศาลปกครองสั่งในการสำรวจแนวเขต กลับไปพิพากษาคดีใหม่ ทำให้มองได้ว่าเป็นการทำตามอำเภอใจ และอธิบดีกรมที่ดินได้สั่งยุติการสำรวจแนวเขตทั้งหมด ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและมีที่ดิน ธุรกิจ และบ้านอยู่ในบริเวณเขากระโดง ต่อมาได้มีคณะกรรมการฯเข้ามาการหักล้างคำวินิจฉัย

 

จึงอยากฝากนายกรัฐมนตรีว่าคดีนี้กระทบต่อภาพรวม มีคนเข้ามาหาผลประโยชน์ บ่อนทำลายนิติธรรมนิติรัฐ ซึ่งคำพิพากษาเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่า แต่ท่านกลับให้หน่วยงานไปตีความตามอำเภอใจ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม และละเลยรัฐธรรมนูญ

 

พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงกรณีกระบวนการได้มาซึ่ง สว. หรือ ฮั้ว สว. ที่กระทบต่อ มงคล สุระสัจจะ ประธานสภา ที่ตนยืนยันว่า ไม่มีอคติ แต่เชื่อว่ากระทบต่อการบริหาร และการแต่งตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งคดีดังกล่าวยังอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นอกจากนี้ยังมีคนที่อยู่ใน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีความผิดฐานอั้งยี่ ซึ่งในจำนวน 229 คนที่เข้าข่าย อาจจะมีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ที่ต้องให้ความเคารพ จึงอยากจะฝากท่านที่มีเวลา 4 เดือน ว่าเรื่องนี้เป็นมหันตภัย รวมถึงเรื่องของกัญชาที่เป็นตราบาปของประเทศไทย

 

สนอง เทพอักษรณรงค์ สส. บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า เรื่องดังกล่าวคนทั่วไปก็ทราบกันดีแล้ว จากผู้ที่ฟ้องทั้ง 35 ราย กรมที่ดินได้เพิกถอนที่ดินไปแล้ว ส่วนการรถไฟฯ ก็จะดำเนินคดีเป็นรายบุคคล ซึ่งปล่อยให้ศาลพิจารณาไป ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ที่กำลังอภิปรายอยู่ จึงขอให้ยุติเรื่องนี้

 

กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส. นราธิวาส พรรคประชาชาติ ลุกขึ้นประท้วงว่า ขณะนี้เป็นการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งมีข้อบังคับข้อ 47 ระบุว่า หากสมาชิกรัฐสภาประสงค์จะประท้วง ต้องยืนขึ้นและยกมือ พร้อมทั้งอ้างข้อบังคับที่ผู้กำลังอภิปรายฝ่าฝืน หากไม่มีการอ้างข้อบังคับชัดเจน ก็ขอให้ประธานวินิจฉัยด้วย

 

แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยังไม่มีการวินิจฉัยในประเด็นที่สนองประท้วง สิ่งสำคัญที่สุดคือการอภิปรายต้องอยู่ในกรอบวาระการประชุมวันนี้ คือ การแถลงนโยบายของรัฐบาล หากสมาชิกมีข้อเสนอ ติติง หรือแนะนำ ควรยึดตามวาระ ส่วนเรื่องอื่นที่เป็นเรื่องในอดีต ไม่ควรนำมาอภิปราย

 

กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งเรื่องเขากระโดงหรือคดีฮั้ว สว. สมาชิกได้อภิปรายไปหลายครั้งแล้ว จึงขอประท้วงตามข้อบังคับ 151 ที่กำหนดให้อภิปรายต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ประชุม ซึ่งคำวินิจฉัยของประธานถือเป็นที่สุด ที่ผ่านมาไม่ได้ลุกขึ้นเพราะมีเพื่อนสมาชิกประท้วงแล้ว ประธานก็ได้วินิจฉัยว่า ประเด็นที่อภิปรายต้องจำกัดอยู่ในกรอบการแถลงนโยบาย ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทั้งเรื่องทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ในรัฐบาลชุดก่อน ตนเองเพิ่งเป็นฝ่ายค้านมา 2 เดือน ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินใดๆ ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุเรื่องหลักนิติธรรมในคำแถลงนโยบาย ก็เพื่อป้องกันไม่ให้การใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเมืองเกิดขึ้นซ้ำอีก

 

จากนั้น อดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวโต้ว่า ประเด็นที่ถกเถียงเกี่ยวข้องกับตัวประธานโดยตรง หากจะอภิปรายเรื่องฮั้วสว. ประธานไม่ควรนั่งทำหน้าที่ เพราะไม่เป็นกลาง และจะทำให้ประชุมไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงขอให้วันมูหะมัดนอร์ มะทา มาทำหน้าที่แทน

 

นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ลุกขึ้นประท้วงว่า ผู้อภิปรายกำลังเชื่อมโยงกับนโยบายที่รัฐบาลแถลงว่าจะดำเนินการภายใต้หลักนิติธรรม ซึ่งมีความจำเป็นต้องกล่าวถึง เพราะบุคคลที่ถูกพาดพิงมีชื่อในคดีฮั้ว สว. ด้วย หากผู้ประท้วงร้อนตัวเพราะมีส่วนเกี่ยวข้อง และร้องขอให้ประธานวินิจฉัยอย่างเป็นกลาง

 

แนน บุณย์ธิดา สมชัย ย้ำอีกครั้งว่า ขอประท้วงการกำกับการประชุมของประธาน และเห็นว่าการวินิจฉัยต้องเด็ดขาด

 

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นหารือว่า บรรยากาศเริ่มดุเดือด แต่ในสาระสำคัญ คำแถลงนโยบายข้อ 9 ระบุถึง การยึดหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด ซึ่งสังคมภายนอกก็จับตามองทั้ง 2 กรณีนี้อยู่ จึงควรเปิดโอกาสให้อภิปรายได้ และให้นายกฯ หรือผู้เกี่ยวข้องลุกขึ้นชี้แจงว่ามีหลักประกันใดที่จะทำให้มั่นใจว่า จะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หากเปิดใจกว้างและอดทนฟัง จะทำให้การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่น

 

จากนั้น ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า จากการฟังพ.ต.อ. ทวี ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พูดถึงเรื่องที่จะทำให้พี่น้องประชาชน หรือแม้แต่ สส. เอง อาจจะฟังแล้วมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และทำให้เสียหาย โดยย้ำว่า หากเป็นที่หลวงจริง การจะไปครอบครอง ปรปักษ์ต่อเนื่อง กี่พันปี ก็เป็นเจ้าของไม่ได้

 

แต่มีการอ้างถึงเป็นที่พระราชทานให้กับการรถไฟ แล้วถือว่าการรถไฟเป็นเจ้าของมาตั้งแต่พ.ศ. 2462 ต้องมีการสำรวจและต่อเนื่องมาจนถึงมีการแจ้ง ส.ค. 1 ในปี พ.ศ. 2498 หลังมีประมวลกฎหมายที่ดิน และมีข้อพิพาทแก่จำเลย ในที่สุดมีคำพิพากษา เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญ เพราะคนที่พูดเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการพูดและการแสดงออก ใครต้องพูดให้ครบ แต่ถ้าพูดไม่ครบ คนที่ฟังจะเกิดความสับสน และอาจเข้าใจไปในแนวทางที่พูดว่าเมื่อศาลตัดสินไปแล้ว ต้องทำตามคำสั่งของศาล ตนเองก็เห็นด้วย

 

แต่ต้องดูว่าคดีความที่เกิดขึ้นนั้น มี 3 คดี ที่ศาลตัดสินพิพากษาไปแล้ว แต่ไม่มีคดีไหนเลยที่ศาลตัดสินให้เป็นที่ของการรถไฟ เพราะคนที่ไปฟ้องคดี เขาตัดสินสืบเนื่องจากคนมีที่ดินที่เป็น ส.ค. หรือ น. ส.3 ออกโฉนดไปฟ้องศาล ขอให้ศาลสั่งให้กรมที่ดินในจังหวัด ออกโฉนดให้ และการรถไฟก็ไปคัดค้าน และศาลตัดสินว่าที่ดินดังกล่าว ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ ประเด็นมีอยู่แค่นี้ แต่เมื่อนำไปพูดในสื่อ และการพูดเมื่อสักครู่สมาชิกหลายท่านเข้าใจว่าศาลตัดสิน และกรมที่ดินไม่ดำเนินการอะไร แต่ความจริงแล้ว กรมที่ดินดำเนินการหมดแล้วเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลทุกประการ

 

ทรงศักดิ์ กล่าวว่า เขากระโดงทุกคดีกรมที่ดินได้ดำเนินการเพิกถอนเป็นไปตามคำสั่งของศาลเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าศาลตัดสินให้ที่ดินทั้งหมดเป็นที่ของการรถไฟ ย้ำว่า ไม่มี ส่วนเรื่องการดำเนินการตามมาตรา 61 เป็นเรื่องการเพิกถอน ซึ่งมีหลายวรรค หากเป็นวรรค 8 จะเป็นการเพิกถอนคำสั่งที่ดินที่มีโฉนดมีกรรมสิทธิ์ ซึ่งสามารถเพิกถอนได้

 

ส่วนเรื่องอื่นๆ ศาลสั่งให้มีการเพิกถอน สั่งให้อธิบดีกรมที่ดินไปตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรค 2 ที่มีการพิพาทกัน ทั้งหมดนี้สามารถเพิกถอนได้หรือไม่ ก็ดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แล้วตามกฎหมาย ไม่สามารถตั้งคนอื่นได้ ซึ่งที่ทราบมาไม่สามารถชี้แนะได้อย่างชัดเจน และการขอให้การรถไฟแสดงการได้มาซึ่งที่ดินของการรถไฟ ซึ่งการได้มาซึ่งที่ดิน ไม่เหมือนประชาชน มีกฎหมายเฉพาะ มีพระราชกฤษฎีกาจัดวางรางและทางหลวง ไม่มีกฎหมายเรื่องการครอบครอง เพราะการครอบครองเป็นเรื่องของประชาชนการรถไฟจะได้กรรมสิทธิ์ที่ดินอะไรจะต้องได้มาตามพระราชกฤษฎีกา

 

ทรงศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการ ตนเองพ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เห็นว่ามีการแถลงข่าวมีภูมิธรรม เวชชัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดชอิศม์ ขาวทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการอะไรก็ไม่ทราบ ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับ และบอกว่าให้มีการเพิกถอนโฉนดต่าง ๆ ที่อยู่ในที่ดิน 995 แปลง 5,083 ไร่เศษ ที่บอกว่าจะถอนทันที จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นมีการเพิกถอน พร้อมย้ำว่า ขอให้กรมที่ดินดำเนินการไปตามกฏหมายต่อไป

 

The post สภาประท้วงวุ่น! ทวีอภิปรายจัดหนัก ‘คดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.’ อดิศรขอประธานวุฒิสภาทำตัวเป็นกลาง อย่าร้อนตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. อังคณา ส่งหนังสือลาออกจาก กมธ.พัฒนาการเมือง ทิ้งเก้าอี้ประธาน https://thestandard.co/senator-angkhana-resigns-in-protest/ Wed, 23 Jul 2025 13:50:35 +0000 https://thestandard.co/?p=1098988 สว. อังคณา

วันนี้ (23 กรกฎาคม) ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจก […]

The post สว. อังคณา ส่งหนังสือลาออกจาก กมธ.พัฒนาการเมือง ทิ้งเก้าอี้ประธาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. อังคณา

วันนี้ (23 กรกฎาคม) ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา ที่มี มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธานของที่ประชุม 

 

ที่ประชุมได้รับทราบการลาออกของ อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จากคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานเหตุผลที่อังคณาลาออกจากกรรมาธิการฯ เพียงแต่ยื่นใบลาออกต่อ นิฟาริด ระเด่นอาหมัด สว. รองประธานกรรมาธิการคนที่ 1 ซึ่งจะทำหน้าที่รักษาการประธานในที่ประชุมชั่วคราว จนกว่าจะได้ข้อสรุปในการเสนอชื่อกรรมาธิการคนใหม่ และให้ที่ประชุมกรรมาธิการฯ โหวตเลือกผู้ที่จะทำหน้าที่ประธานอีกครั้ง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อังคณาได้รับตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ คณะนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นกรรมาธิการชุดเดียวที่มีจำนวน สว. เสียงข้างมากในสภา หรือกลุ่ม ‘สว. สีน้ำเงิน’ เท่ากับจำนวน สว. ที่มีจุดยืนอิสระ หรือ ‘สว. พันธุ์ใหม่’ ฝ่ายละ 9 คน

 

ในการเลือกประธานกรรมาธิการฯ ที่ประชุมได้ลงมติกันถึง 2 รอบ และได้คะแนน 9 ต่อ 9 เท่ากัน ตามข้อบังคับจึงต้องใช้วิธีการจับสลาก ซึ่ง วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี สว. ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานเช่นกันจับได้สลากเสีย จึงเป็นผลให้อังคณาได้ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการโดยทันที

The post สว. อังคณา ส่งหนังสือลาออกจาก กมธ.พัฒนาการเมือง ทิ้งเก้าอี้ประธาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. รับไม้ต่อ สส. พิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม 3 ฉบับ ย้ำจุดยืนไม่รวมคดีทุจริต https://thestandard.co/amnesty-bill-senate-thailand/ Wed, 23 Jul 2025 11:17:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1098936 amnesty-bill-senate-thailand

วันนี้ (23 กรกฎาคม) มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นปร […]

The post สว. รับไม้ต่อ สส. พิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม 3 ฉบับ ย้ำจุดยืนไม่รวมคดีทุจริต appeared first on THE STANDARD.

]]>
amnesty-bill-senate-thailand

วันนี้ (23 กรกฎาคม) มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการกิจการวิสามัญ วุฒิสภา โดยมี บุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ตลอดจนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่เป็นประธานกรรมาธิการสามัญทั้ง 21 คณะ ได้ร่วมประชุมหารืออย่างพร้อมเพรียง 

 

นิฟาริด ระเด่นอาหมัด สว. รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้คณะกรรมาธิการฯ รับไม้ต่อศึกษาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม 3 ฉบับจาก 5 ฉบับ ที่ผ่านการรับหลักการจากสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 

 

ทางคณะกรรมาธิการมีความเห็นพ้องกันอย่างท่วมท้นที่จะไม่รวมผู้ทุจริตคอร์รัปชันเข้าข่ายการนิรโทษกรรมเด็ดขาด

 

สำหรับคดีความผิดในมาตรา 112 นั้น ยังคงเป็นที่ถกเถียง มีทั้งเสียงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งจะต้องส่งเรื่องให้ฝ่ายกรรมาธิการไปศึกษาเพิ่มเติมอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อหาข้อสรุปที่รอบคอบที่สุด โดยอาจมีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมากลั่นกรองก่อนนำไปสู่บทสรุปสุดท้ายว่า การนิรโทษกรรมจะครอบคลุมในระดับใด

 

“ผมมองว่า ทุกประเทศเขาก็จะดูแลประมุข หากไม่กระทำความผิดหรือไม่ละเมิดในส่วนนี้ก็จะไม่เกิดปัญหา ส่วนผู้ที่มองว่า ควรครอบคลุมผู้กระทำผิด มาตรา 112 โดยอ้างว่า เป็นความเห็นทางการเมืองหรือความเชื่อส่วนตัวนั้น ก็มีกรอบในการวินิจฉัยว่ามีเจตนาลบหลู่หรือไม่ ซึ่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจจะมีโอกาสพิจารณาและแยกแยะได้” นิฟาริดกล่าว

 

สำหรับข้อกังขาว่าร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมทั้ง 3 ฉบับ จะเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. เท่านั้น นิฟาริดยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้คิดอย่างนั้น ทุกฝ่ายมีโอกาสเท่าเทียมกัน แต่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสถาบันฯ อันเป็นประมุขของชาติ โดยจะพิจารณาอย่างละเอียดว่าควรครอบคลุมคดีความผิดทั้งหมดหรือไม่ และต้องมีการกลั่นกรองให้ดี 

 

นอกจากนี้ นิฟาริดยังย้ำจุดยืนส่วนตัวว่า ผู้ที่ทุจริตต่อประเทศชาติหรือองค์กรใหญ่ๆ โดยมีเจตนาชัดเจนและหลักฐานแน่นหนา ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม

The post สว. รับไม้ต่อ สส. พิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม 3 ฉบับ ย้ำจุดยืนไม่รวมคดีทุจริต appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. ชะลอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลปมชายแดนไทย-กัมพูชา รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีนายกฯ ก่อน https://thestandard.co/senate-delays-border-debate/ Fri, 04 Jul 2025 01:39:55 +0000 https://thestandard.co/?p=1092712 การประชุมวุฒิสภา วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เรื่องอภิปรายชายแดนไทย-กัมพูชา

วานนี้ (3 กรกฎาคม) มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าท […]

The post สว. ชะลอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลปมชายแดนไทย-กัมพูชา รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีนายกฯ ก่อน appeared first on THE STANDARD.

]]>
การประชุมวุฒิสภา วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เรื่องอภิปรายชายแดนไทย-กัมพูชา

วานนี้ (3 กรกฎาคม) มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา นัดพิเศษ โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างระเบียบรัฐสภา ที่ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พ.ศ. 2568 ประกอบด้วย ร่างระเบียบรัฐสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์และขั้นตอนการจัดส่งหนังสือเรียกของคณะกรรมาธิการ พ.ศ. …. และร่างระเบียบรัฐสภาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการ พ.ศ. … โดยได้มีมติให้ส่งร่างระเบียบดังกล่าว ไปยังคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาทุกคณะ เพื่อให้ความเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อส่งไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรประกอบการพิจารณาปรับปรุง ก่อนเสนอประธานรัฐสภา พิจารณาลงนาม และประกาศใช้ต่อไป   

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 7 และวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีวาระน่าสนใจ อาทิ การเลือกกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) การให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด 

 

สำหรับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 153 กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา นั้น 

 

ที่ประชุมมีมติให้ชะลอการเสนอญัตติดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรี ของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

The post สว. ชะลอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลปมชายแดนไทย-กัมพูชา รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีนายกฯ ก่อน appeared first on THE STANDARD.

]]>
นพ.ตุลย์ ร้องขอประธานวุฒิสภา ยื่นศาลวินิจฉัยแพทองธารพ้นเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม หรือไม่ https://thestandard.co/dr-tulya-paetongtarns-minister-role/ Wed, 02 Jul 2025 07:26:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1091901

วันนี้ (2 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ […]

The post นพ.ตุลย์ ร้องขอประธานวุฒิสภา ยื่นศาลวินิจฉัยแพทองธารพ้นเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม หรือไม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (2 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อ มงคล สุรัจสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอีกตำแหน่งหนึ่ง

 

นพ.ตุลย์กล่าวว่า ตามที่ประธานวุฒิสภาได้ยื่นคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 36 คน ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยถอดถอนแพทองธาร จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 160 (4) และ (5) กล่าวคือ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณารับคำร้องดังกล่าว และมีคำสั่งให้แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

 

นพ.ตุลย์กล่าวว่า บัดนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแพทองธาร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จึงเป็นกรณีที่ต้องวินิจฉัยว่าแพทองธารขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และไม่สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้หรือไม่

 

นพ.ตุลย์เสนอให้ สว. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ร่วมกันลงชื่อให้ประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของแพทองธารสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา160 (4) และ (5) หรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

 

นพ.ตุลย์ยังขอบคุณ สว.ทั้ง 36 คนก่อนหน้านี้ ที่ได้มีการยื่นหนังสือผ่านคำร้องผ่านประธานวุฒิสภาไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ในเรื่องกรณีคลิปเสียง ซึ่งแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ และขัดรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า ก่อนมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญออกมา แต่นายกรัฐมนตรียังเสนอชื่อทูลเกล้าฯ ตัวเอง ทั้งที่อาจจะถูกข้อกล่าวหาทั้งการผิดจริยธรรมและความไม่ซื่อสัตย์สุจริต จนคนไทยทั้งประเทศตั้งข้อสงสัยว่า อย่างนี้แล้ว จะสามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมตามได้อย่างไร

 

“เนื่องจากตามกลไกแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ เพราะผมมองแล้วว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ก็คงไม่ยื่น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันอยู่ ดังนั้น ผมจึงขอเสนอให้ สว.ทำหน้าที่ในการพิจารณาเข้าชื่อเพื่อยื่นคำร้องจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน หากจะได้เท่าเดิม 36 คน ก็ยิ่งดี”

 

ส่วนข้อสงสัยว่า สว. ชุดนี้อาจมีการเกี่ยวโยงกับพรรคการเมือง และยังมีคดีฮั้ว สว. ที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญนั้น นพ.ตุลย์ระบุว่า ไม่เพียงที่ สว. จะทำหน้าที่ แต่ยังตรงกับใจของประชาชนทั้งประเทศ เขาจะมีความเกี่ยวโยงอะไรก็ว่าไปอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังสอบสวนอยู่ ซึ่ง สว. เขาก็ทำหน้าที่มาครั้งหนึ่งแล้ว

 

นพ.ตุลย์ยืนยันว่า กระบวนการนี้ ทำในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย

 

ส่วนการประเมินความเป็นไปได้ถึงแนวโน้มคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น หากดูจากการรับคำร้องด้วยเสียงเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 และการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่มีเสียง 7 ต่อ 2 ซึ่ง 2 เสียงนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ให้พักบางส่วนของอำนาจหน้าที่ ซึ่งคล้ายกับกรณีของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีที่กำกับดูแล DSI

 

นพ.ตุลย์ ย้ำว่า คำสั่งเช่นนี้เป็นไปเพื่อป้องกันสิ่งที่อาจทำให้ส่งผลเสียต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จึงให้รักษาการนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ ดำเนินการแทน เว้นแต่การยุบสภา หรือการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ อย่างไรก็ดี ในการพิจารณา ขอไม่ก้าวล่วง แต่คาดว่า ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมองเช่นนี้ และคาดว่าในสุดท้ายแล้วน่าจะมีการพิจารณาถอดถอน

 

ส่วนหากแพทองธารตัดสินใจลาออก จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ให้เป็นไปตามวิถีการประชาธิปไตย เพราะในส่วนของสภาเองยังสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ยังเหลืออยู่ หรือสามารถใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกได้

 

ส่วนหากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากพรรคเพื่อไทยตามเดิม ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามวิถีทาง แต่บังเอิญว่าพรรคฝ่ายค้านหรือพรรคประชาชนไม่ได้อยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะมีการเสนอมาเพียงชื่อเดียว แต่หากสุดท้ายเป็นเหมือนกรณีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมื่อบริหารราชการไปแล้วมีปัญหา ประชาชนก็จะใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

 

นพ.ตุลย์ชี้ว่า ตอนนี้จะเห็นว่าหลายคนจากพรรคฝ่ายค้านและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งแกนนำคณะก้าวหน้า เช่น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล, พรรณิการ์ วานิช หรือ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน, รังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ออกมาพูดคำว่านิติสงครามกันมาก ส่วนตัวจึงคิดว่า นิติสงครามเป็นเครื่องมือของภาคประชาชน ที่จะดำเนินการกับนักการเมืองที่ทำไม่ถูกต้อง เราก็เหลือแต่เครื่องมืออย่างนี้

 

“ขอบอกว่าหากนักการเมืองหรือรัฐบาลทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง ก็ไม่ต้องกลัวนิติสงครามใดๆ ไม่มีอะไรระคายผิวคุณได้ ถึงยื่นไป ศาล คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), กกต. เขาก็ไม่ลงโทษคุณ เพราะฉะนั้น รัฐบาลหรือนักการเมืองท่านใดก็ตาม กรุณาอย่าห่วงเรื่องนิติสงคราม กรุณาทำหน้าที่ตามที่ท่านได้อาสาเข้ามา รับใช้ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ตามที่คุณกล่าวอ้างตอนหาเสียง คุณไม่ต้องห่วงการที่ประชาชนจะใช้นิติสงครามได้ มีอยู่กรณีเดียวคือคุณทำหน้าที่ไม่ถูกต้องอย่างร้ายแรง” นพ.ตุลย์ ทิ้งท้าย

The post นพ.ตุลย์ ร้องขอประธานวุฒิสภา ยื่นศาลวินิจฉัยแพทองธารพ้นเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม หรือไม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
มงคลปิดปาก งดพูดเรื่องการเมือง หลังถูกถามปมภูมิใจไทยซักฟอก ครม. แพทองธาร ขอเปิดงานขายผลไม้จากบุรีรัมย์ก่อน https://thestandard.co/senate-fruit-market/ Thu, 26 Jun 2025 05:03:37 +0000 https://thestandard.co/?p=1089362 senate-fruit-market

วันนี้ (25 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา มงคล สุระสัจจะ ประธ […]

The post มงคลปิดปาก งดพูดเรื่องการเมือง หลังถูกถามปมภูมิใจไทยซักฟอก ครม. แพทองธาร ขอเปิดงานขายผลไม้จากบุรีรัมย์ก่อน appeared first on THE STANDARD.

]]>
senate-fruit-market

วันนี้ (25 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย สว. อาทิ เกศกมล เปลี่ยนสมัย, วุฒิชาติ กัลยาณมิตร ร่วมกิจกรรม ‘ไทยช่วยไทย’ โดยจัดจำหน่ายผลไม้ให้กับข้าราชการรัฐสภาเพื่อรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทางฝั่งกัมพูชาประกาศงดรับซื้อผลไม้ของไทย ซึ่งในวันนี้ได้นำทุเรียนน้ำแร่จากจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 600 กิโลกรัม มาจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 120 บาท และมังคุด 2,300 กิโลกรัม จำหน่ายในราคา 5 กิโลกรัม 175 บาท โดยได้รับความสนใจจากข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐสภา รวมถึง สส. เช่น บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทยด้วย

 

มงคลกล่าวว่า ขณะนี้ผลไม้ล้นตลาด เพราะปีนี้ผลผลิตทางการเกษตรออกมาดีมาก รวมถึงสถานการณ์ชายแดน เราจึงเข้าไปตัดวงจรพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรส่งตรงถึงผู้ผลิตถึงผู้บริโภค ราคาทุเรียนที่นำมาจำหน่ายในวันนี้ก็สูงกว่าราคาที่เกษตรกรจำหน่ายให้พ่อค้าคนกลาง ถึงกัมพูชาจะประกาศแบนสินค้าทางการเกษตรไทย เรามีขายที่วุฒิสภาและเชื่อว่าหลังจากนี้หลายกระทรวง รวมถึงหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะหอการค้าแต่ละจังหวัด จะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเชื่อมั่นว่าราคาผลไม้ไทยจะกระเตื้องมากขึ้น

 

จากนั้นมงคลให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่ม สว. ของเรามีหลายกลุ่มวิชาชีพ ฉะนั้นพวกเราจะรู้ฤดูกาลผลิตที่ผลผลิตจะออกมาพร้อมกัน รวมถึงสถานการณ์ผลไม้ล้นตลาด ดังนั้นกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยให้เกษตรกรไม่ขาดทุนเมื่อเกษตรกรเดือดร้อนเนื่องจากราคาผลผลิตตกต่ำ หากปล่อยไว้จะทำให้ได้รับความเสียหาย กิจกรรมไทยช่วยไทย เกษตรกรก็จะขายของแพง ผู้ผลิตจะได้ซื้อของถูก ยืนยันว่ากิจกรรมดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการรับมือกับสถานการณ์ไทย กัมพูชา

 

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามประเด็นการเมืองถึงการที่พรรคภูมิใจไทยประกาศเตรียมขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ได้รับการประสานมาหรือไม่ มงคลปฏิเสธที่จะตอบ พร้อมทำมือปิดปาก ก่อนระบุว่า ตนขอพูดเรื่องผลไม้ก่อน ขอคุยเรื่องนี้ก่อน ยังไม่ต้องการพูดเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาคำร้องของ 36 สว. จากเดิมวันที่ 8 กรกฎาคม มาเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม มีนัยทางการเมืองหรือไม่

The post มงคลปิดปาก งดพูดเรื่องการเมือง หลังถูกถามปมภูมิใจไทยซักฟอก ครม. แพทองธาร ขอเปิดงานขายผลไม้จากบุรีรัมย์ก่อน appeared first on THE STANDARD.

]]>
มงคลเผย เข้าชี้แจงคดีฮั้ว สว. แล้ว ไม่แสดงความเห็นหลังโยงถึงภูมิใจไทย ย้ำเมื่อยังอยู่ในตำแหน่งก็ต้องทำหน้าที่ https://thestandard.co/senate-president-border-debate/ Tue, 17 Jun 2025 08:42:35 +0000 https://thestandard.co/?p=1085957 senate-president-border-debate

วันนี้ (17 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา มงคล สุระสัจจะ ประธ […]

The post มงคลเผย เข้าชี้แจงคดีฮั้ว สว. แล้ว ไม่แสดงความเห็นหลังโยงถึงภูมิใจไทย ย้ำเมื่อยังอยู่ในตำแหน่งก็ต้องทำหน้าที่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
senate-president-border-debate

วันนี้ (17 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา หลังร่วมกิจกรรม ‘ไทยช่วยไทย ร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของชาติ’ เพื่อช่วยซื้อและกระจายผลไม้ของเกษตรกรไทยที่ล้นตลาด ได้เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคง วุฒิสภา เตรียมยื่นเรื่องขอเปิดประชุมวุฒิสภาเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามมาตรา 153 แห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ชี้แจงต่อประเด็นปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา 

 

มงคลระบุว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เมื่อยื่นเข้ามา ตามกระบวนการต้องยื่นไปยังรัฐบาลเพื่อนัดวันประชุมร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในการประชุมสมัยสามัญในเดือนกรกฎาคมนี้ 

 

ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นตอนนี้ มองว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงที่จะพิจารณา ขณะที่วุฒิสภาทำได้เพียงแสดงความคิดเห็น และสถานการณ์ปัจจุบัน มองว่าถึงเวลาที่เราต้องรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อรักษาบ้านรักษาเมืองและอธิปไตย

 

มงคลยังชี้แจงกรณีเดิมทีวันนี้จะมีกำหนดการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU ทางด้านการพัฒนาประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการแก้ไขปัญหาของประเทศในมิติความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย โดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อนจะยกเลิกไป 

 

มงคลอธิบายว่า เรื่องของ MOU ต้องผ่านฝ่ายกฎหมายและอีกหลายอย่างไม่สามารถทำได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่เรื่องผลไม้นั้นรอไม่ได้ เพราะมีวันเวลาอยู่ เราทำอะไรได้ ก็ทำไปก่อน แล้วต่อไปเราคงเปิดกว้างทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่ดูแลด้านต่างๆ เราก็ยินดีทุกกระทรวง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า อีกไม่นานอาจจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่รู้ว่ารัฐมนตรีจะเป็นคนเดิมหรือเปล่า มงคลหัวเราะ ก่อนจะบอกว่า ไม่เป็นไร นี่เป็นเรื่องของหลักการ อะไรที่เราสามารถร่วมมือกันทำเพื่อคนไทยได้ ต้องรีบทำ

 

เมื่อถามถึงมุมมองสถานการณ์การเมืองที่มีความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วม ขณะที่ประชาชนเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจ มงคลกล่าวทันทีว่า ไม่ทราบ แต่ในเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต้องพยายามช่วยกันคนละไม้คนละมือ ใครทำอะไรได้ ต้องช่วยกัน 

 

สำหรับคดีฮั้ว สว. ที่โยงไปถึงพรรคภูมิใจไทยนั้น มงคลกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการ ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายที่มีหน้าที่ไม่ขอพูด ทั้งนี้ ในระหว่างที่ยังอยู่ในตำแหน่ง สว. ซึ่งมาจากทุกกลุ่มอาชีพ ทำให้เราทราบว่าชาวนา เกษตรกรเดือดร้อน เป็นหน้าที่ของ สว. ต้องทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง เป็นสื่อกลางในการช่วยแก้ไขปัญหา 

 

มงคลกล่าวต่อไปว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองวิจารณ์ไม่ได้ เพราะอยู่ในกระบวนการ ส่วนที่ตนเองถูกเรียกโดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 ก็ได้ไปชี้แจงแล้ว บรรยากาศเป็นไปด้วยดี 

 

“ผมไม่ได้ห่วงตนเอง จะอยู่ในสถานะอะไรก็ได้ แต่เมื่ออยู่ในตำแหน่งต้องทำหน้าที่” มงคลกล่าว

 

ส่วนที่มีการตั้งธงไว้แล้ว มงคลตอบว่า ไม่มีความเห็น และไม่ขอแสดงความคิดเห็นในระหว่างกระบวนการ เพราะจะไม่ดี

The post มงคลเผย เข้าชี้แจงคดีฮั้ว สว. แล้ว ไม่แสดงความเห็นหลังโยงถึงภูมิใจไทย ย้ำเมื่อยังอยู่ในตำแหน่งก็ต้องทำหน้าที่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. แถลงเรียกร้องรัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นเวทีหาทางแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา https://thestandard.co/thai-cambodia-border/ Mon, 09 Jun 2025 04:17:26 +0000 https://thestandard.co/?p=1083092 thai-cambodia-border

วันนี้ (9 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา วุฒิสภา นำโดย มงคล ส […]

The post สว. แถลงเรียกร้องรัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นเวทีหาทางแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>
thai-cambodia-border

วันนี้ (9 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา วุฒิสภา นำโดย มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา, พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และ บุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 พร้อมด้วยบรรดา สว. ร่วมกันแถลงการณ์เรื่อง ‘ขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา’

 

มงคลอ่านแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง แต่ล่าสุดมีสัญญาณที่ดีที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับออกไป แต่ยังเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในระดับพื้นที่ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างถาวร จึงเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป และ สว. ต้องขอขอบคุณทหารไทยทุกเหล่าทัพ รวมถึงตำรวจและฝ่ายปกครองที่ได้แสดงจุดยืนในการรักษาอำนาจอธิปไตยภายใต้การเจรจาอย่างสันติ ทำให้สถานการณ์เป็นไปในทางที่ดีขึ้น 

 

มงคลกล่าวว่า สว. ตระหนักถึงแนวทางในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทโดยสันติวิธี แต่ต้องยืนอยู่บนหลักการแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้งปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจและเท่าเทียมกันในฐานะมิตรประเทศ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของประเทศ ขอให้รัฐบาลได้ยืนหยัดในการสงวนสิทธิไม่ยอมรับเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) ในกรณีที่มีข้อพิพาทตามสัญญาระหว่างประเทศ 

 

พร้อมเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ให้ดำเนินการกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมด และเปิดโอกาสให้ สส. และ สว. ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ได้ร่วมกันเสนอแนวคิดและแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้รัฐบาลได้นำไปเป็นข้อพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ซึ่งต้องกระทำอย่างเร่งด่วน ยืนยันว่าการเปิดประชุมครั้งนี้ จะเป็นเวทีหลอมรวมพลังของคนในชาติ ในการผนึกกำลัง เพื่อแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นในทุกมิติ 

 

มงคลย้ำว่า หากการดำเนินการของรัฐบาลเป็นไปได้โดยเร็วที่สุดก็ยิ่งดี เราเป็นพลังหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้รัฐบาลได้มีความมั่นใจ มั่นคงว่า คนไทยทุกคนพร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจกับรัฐบาล ในการรักษาประโยชน์และอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย 

 

สำหรับขณะนี้ที่สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ภายหลังเกิดการปรับกำลังพลออกจากพื้นที่ มงคลระบุว่า เป็นเพียงสถานการณ์เฉพาะพื้นที่ แต่ในหลักการจริงๆ แล้ว ยังไม่มีความชัดเจน จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะลงพื้นที่ไปรับฟังความคิดเห็น ไปสร้างความอบอุ่นใจให้กับประชาชน 

 

“เราจะใช้การปรึกษาหารือ เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะนี่คือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งเราในฐานะที่เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ต้องรับผิดชอบร่วมกัน” มงคลกล่าว

 

ส่วนหากมีการเปิดสมัยประชุม นอกจากเรื่องข้อพิพาทนี้ จะมีการประชุมเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ เช่น พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล มงคลกล่าวว่า ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน เป็นบูรณภาพของดินแดนไทย ซึ่งคนไทยทุกคนต้องพึงรักษาไว้ เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย สนับสนุนซึ่งกันและกัน

 

สื่อมวลชนถามว่า การเรียกร้องให้เปิดสมัยประชุม เป็นเพราะไม่ไว้วางใจการเจรจาของฝ่ายรัฐบาลใช่หรือไม่ เนื่องจากยังมีเรื่องความใกล้ชิดของตระกูลชินวัตร และสมเด็จฮุน เซน ผู้นำของฝ่ายกัมพูชา มงคลตอบว่า เป็นคนละประเด็นกัน แต่เราเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักบ้านรักเมือง ทุกคนรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ 

 

สื่อมวลชนพยายามสอบถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีฮั้วเลือก สว. ที่ทั้งประธานวุฒิสภา รวมทั้ง สว. คนอื่นๆ ได้ถูกคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 เชิญไปรับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง แต่มงคลปฏิเสธตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาพูดกันในเรื่องนี้ ไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องนี้”

 

วุฒิสภาไทยแถลงข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา ขอเปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญ วุฒิสภาไทยแถลงข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา ขอเปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญ วุฒิสภาไทยแถลงข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา ขอเปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญ วุฒิสภาไทยแถลงข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา ขอเปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญ

The post สว. แถลงเรียกร้องรัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นเวทีหาทางแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา appeared first on THE STANDARD.

]]>