ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 12 Oct 2023 10:01:25 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 14 อีกครั้ง หนังที่ชวนมาพักผ่อนกายใจและเติมเต็มรอยยิ้มไปกับแก๊งหัวหมาวัย 14 ปี https://thestandard.co/i-love-you-two-thousand-movie/ Thu, 12 Oct 2023 10:01:25 +0000 https://thestandard.co/?p=854047 14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand

14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand ภาพยนตร์โรแมนติก-คอ […]

The post 14 อีกครั้ง หนังที่ชวนมาพักผ่อนกายใจและเติมเต็มรอยยิ้มไปกับแก๊งหัวหมาวัย 14 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand

14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้เรื่องใหม่จากค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ The Pipal Tree ภายใต้การกำกับของ เป้-นฤบดี เวชกรรม ที่เคยสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้ชมมาแล้วใน Low Season สุขสันต์วันโสด (2563) พร้อมได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต และ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ มาร่วมรับบทนำ

 

ภาพยนตร์จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2546 เมื่อ กิ๊บ (ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) อดีตนักเรียนดีเด่นระดับประเทศ ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อมาพักใจ แต่ดันต้องมาเจอกับอดีตเพื่อนเคยซี้อย่าง ต้อ (นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต) ที่เธอพยายามหนีหน้ามาโดยตลอด

 

ขณะเดียวกัน กัน (ภูผา-อินทนนท์ แสงศิริไพศาล) น้องชายตัวแสบวัย 14 ปีของกิ๊บ ก็กำลังแอบชอบ ผิง (แฟร์รี่-กิรณา พิพิธยากร) นักเรียนหญิงสุดเท่คนใหม่ของโรงเรียน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในแก๊งหัวหมา นำโดย ม่อน (โยชิ-สุริยาวิชญ์ ถนอมชัยสนิท), วัด (วีเจ-นพรุจ ตันธนวิกรัย), ต่าย (เล็ก-ธีรเวช สุภาวงษ์) และ ซาร่า (โมเน่ต์-ภาริตา ริเริ่มกุล) แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาจะยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวายกว่าเดิม แถมอยู่ๆ กิ๊บและต้อก็จับพลัดจับผลูต้องมาช่วยเหลือแก๊งหัวหมาโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย เรื่องราวแสนวุ่นวายของแก๊งหัวหมาและสองเพื่อนเคยสนิทจึงเริ่มต้นขึ้น

 


บทความที่เกี่ยวข้อง:


 

ผู้หญิงขับมอเตอร์ไซค์บนถนนโล่ง ในซอยบ้านเก่า

 

อย่างหนึ่งที่ส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบมากๆ ใน สุขสันต์วันโสด ผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับ เป้ นฤบดี คืองานภาพที่ถ่ายทอดทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาและโฮมสเตย์ในจังหวัดเชียงใหม่จนทำให้ใครหลายคนอยากเดินทางไปตามรอย รวมถึงบรรยากาศของเรื่องที่ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้มาพักใจไปพร้อมกับตัวละคร

 

มาถึง 14 อีกครั้ง เรายังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความสบายๆ อบอุ่นหัวใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนเช่นเดิม โดยครั้งนี้ผู้กำกับและทีมสร้างได้เดินทางไปถ่ายทำกันที่อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี บ้านเกิดของผู้กำกับ ซึ่งมาพร้อมกับสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมายไม่แพ้กัน เช่น สะพานปลาด่านขลุง, ถนนยางนา 300 ปี, ชุมชนเมืองขลุง ฯลฯ ซึ่งเราเชื่อว่าหลังจากที่ 14 อีกครั้ง ออกฉาย จะต้องมีผู้ชมหลายคนเดินทางไปตามรอยที่อำเภอขลุงกันอย่างแน่นอน

 

ผู้หญิงกำลังกินไส้กรอกบนรถ

 

มนตร์เสน่ห์อีกอย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้คือรายละเอียดน้อยใหญ่ที่ใครเติบโตมาในช่วงยุค 2000 จะต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการยืมหนังสือการ์ตูนของเพื่อนมาอ่านสลับกันไปมา การฟังเพลงผ่านโปรแกรม Winamp นั่งเล่นเกมงูบนโทรศัพท์โนเกีย การเขียนจดหมายหานักแสดงหรือศิลปินที่ชื่นชอบ หรือการจับกลุ่มกันนั่งเล่นผีถ้วยแก้ว ฯลฯ

 

14 อีกครั้ง จึงเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยที่ชวนให้เรานึกถึงวันวานที่เคยมีประสบการณ์ร่วมคล้ายกับตัวละครภายในเรื่อง ทั้งเคยแอบยืนอ่านหนังสือการ์ตูนฟรี ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปเที่ยวเล่น หรือไปบ้านเพื่อนเพื่อต่อคิวเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ส่วนตัวผู้เขียนเองก็มีจุดที่เชื่อมโยงกับภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่หลายจุด และชวนให้เราติดตามเรื่องราวไปได้ตลอดทั้งเรื่อง

 

 

นอกเหนือจากบรรยากาศภายในเรื่องที่นำเสนอได้ค่อนข้างดีแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเด็กๆ แก๊งหัวหมาที่มักคอยก่อวีรกรรมจนสร้างความวุ่นวายอยู่บ่อยครั้ง ทั้งการร่วมมือกันแอบอ่านการ์ตูนฟรี จับกลุ่มกันเล่นผีถ้วยแก้ว หรือวางแผนแอบครอบครัวไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ ซึ่งวีรกรรมต่างๆ ของแก๊งหัวหมานี้เองที่คอยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เราได้เป็นอย่างดี

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า 14 อีกครั้ง จะมีจุดที่เราชื่นชอบมากๆ ในแง่ของบรรยากาศภายในเรื่องที่ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และเพลิดเพลินไปกับการติดตามว่าแก๊งหัวหมากลุ่มนี้จะก่อความวุ่นวายอะไรอีกบ้าง

 

แต่ภาพยนตร์ก็มีข้อสังเกตสำคัญที่ไม่สามารถชักชวนให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครมากนัก นั่นคือการที่ผู้กำกับและทีมสร้างพยายามจะใส่ประเด็นที่พวกเขาอยากนำเสนอเยอะเกินไปสักหน่อย เริ่มตั้งแต่ปมปัญหาของกิ๊บที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาบ้านเกิด เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างกิ๊บและต้อ เรื่องราวของกันที่แอบชอบผิง ไปจนถึงความขัดแย้งของแก๊งหัวหมาและเด็กใหม่อย่างผิงที่ดูจะไม่เข้ารูปเข้ารอยเท่าไรนัก

 

ผู้หญิงผมสั้นใช้กล้องวิดีโอถ่ายผู้ชาย

 

ซึ่งหากมองในแง่หนึ่ง การผูกโยงปมปัญหาให้กับตัวละครต่างๆ เหล่านี้จะมีข้อดีที่ช่วยเสริมให้ทุกตัวละครต่างมีแง่มุมที่น่าสนใจ แต่ขณะเดียวกัน ด้วยความที่ผู้กำกับและทีมสร้างจำเป็นต้องเล่าทุกประเด็นไปพร้อมๆ กัน มันจึงทำให้ภาพยนตร์ไม่สามารถ ‘ลงลึก’ ในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง รวมถึงไม่สามารถพาผู้ชมไปสำรวจความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

 

ส่วนตัวผู้เขียนจึงแอบเสียดายในจุดนี้พอสมควร เพราะหากผู้กำกับสามารถบาลานซ์เรื่องราวของแต่ละตัวละครให้ออกมากลมกล่อมมากกว่านี้ หรืออาจจะตัดทอนประเด็นรองๆ ลงและเน้นไปที่ประเด็นหลักๆ ที่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอ เราคิดว่าเราคงจะหลงรักและเสียน้ำตาให้กับกิ๊บ ต้อ และแก๊งหัวหมามากกว่านี้แน่ๆ

 

ผู้หญิงกับผู้ชายเลือกหนังสือในร้านหนังสือ

 

รวมๆ แล้วแม้ว่าส่วนตัวผู้เขียนจะแอบเสียดายในแง่ของความสัมพันธ์และประเด็นของตัวละครที่ภาพยนตร์ไม่สามารถชักชวนให้เราอินไปกับพวกเขามากนัก แต่สิ่งที่เราได้รับจาก 14 อีกครั้ง มาอย่างเต็มเปี่ยม คือรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากแก๊งหัวหมา และบรรยากาศภายในเรื่องที่ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้มาพักกาย แล้วปล่อยใจไปกับการติดตามดูว่าแก๊งหัวหมากลุ่มนี้จะก่อวีรกรรมอะไรกันอีกบ้าง

 

14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่:

 

The post 14 อีกครั้ง หนังที่ชวนมาพักผ่อนกายใจและเติมเต็มรอยยิ้มไปกับแก๊งหัวหมาวัย 14 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Shortcomings หนังรอมคอมชวนขบขันที่บอกว่า ‘อย่าเป็นคนในแบบที่เราไม่อยากเป็น’ https://thestandard.co/shortcomings/ Fri, 08 Sep 2023 07:45:29 +0000 https://thestandard.co/?p=839108 Shortcomings

หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร […]

The post Shortcomings หนังรอมคอมชวนขบขันที่บอกว่า ‘อย่าเป็นคนในแบบที่เราไม่อยากเป็น’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Shortcomings

หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ Shortcomings

 

Shortcomings คือภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ที่ดัดแปลงจากกราฟิกโนเวลในชื่อเดียวกันของ Adrian Tomine นักเขียนการ์ตูนและนักวาดภาพประกอบประจำนิตยสาร The New Yorker และยังเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของ Randall Park นักแสดงตลกจาก Fresh Off the Boat (2015) และ Ant-Man and the Wasp (2018) นอกจากนี้ยังได้ Adrian Tomine เจ้าของผลงานต้นฉบับมารับหน้าที่เขียนบท 

 

Shortcomings จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ Ben (Justin H. Min) ชายหนุ่มชาวเอเชีย-อเมริกัน ที่ทำงานเป็นผู้จัดการโรงหนังเล็กๆ ในเมืองเบิร์กลีย์ และกำลังคบหากับแฟนสาวอย่าง Miko (Ally Maki) นักทำหนังนอกกระแส แต่ด้วยนิสัยปากร้ายของ Ben ทั้งคู่จึงมักมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง 

 

กระทั่งวันหนึ่ง Miko ต้องออกเดินทางไปฝึกงานที่กรุงนิวยอร์กเป็นเวลา 3 เดือน Ben จึงสบโอกาสนี้กลับมาใช้ชีวิตแบบคนโสดอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะพาเขาไปพบกับบทเรียนสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปโดยปริยาย 

 

ภาพยนตร์

 

หลายครั้งที่ผู้กำกับและผู้สร้างมากมายนำเรื่องราวของชาวเอเชีย-อเมริกันมานำเสนอ เพื่อถ่ายทอดมุมมองความคิดและความรู้สึกของชาวเอเชีย-อเมริกันในประเด็นที่แตกต่างกันไป ทั้งการย้ายถิ่นฐานเพื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ การเติบโตและใช้ชีวิตในต่างแดน เรื่องราวของครอบครัวและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ไปจนถึงประเด็นของการถูกเหยียดเชื้อชาติ 

 

แต่ดูเหมือนว่า Shortcomings ผลงานการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของ Randall Park จะบอกเล่าเรื่องราวของชาวเอเชีย-อเมริกันในแง่มุมที่ต่างออกไปเล็กน้อย ผ่านบรรยากาศของความโรแมนติก-คอเมดี้ชวนขบขัน แต่กลับทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ  

 

 

 

นั่นคือเรื่องราวของ Ben ที่ในช่วงองก์แรกเราจะได้ทำความรู้จักเขาในฐานะของชายหนุ่มอารมณ์ร้อนที่ต่อต้านแนวคิดของการเหยียดเชื้อชาติและสีผิว ควบคู่ไปกับความสัมพันธ์ของเขาและแฟนสาว Miko ที่ค่อยๆ เกิดรอยร้าว และบทสนทนาระหว่าง Ben และเพื่อนสนิทอย่าง Alice (Sherry Cola) ที่บอกกับเราว่า Ben ก็เป็นมนุษย์เทาๆ คนหนึ่งที่มีแง่มุมแย่ๆ เช่นกัน 

 

แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปได้ระยะหนึ่ง ผู้กำกับก็ค่อยๆ เปิดเผย ‘ธาตุแท้’ ของ Ben ออกมามากยิ่งขึ้น ทั้งการเป็นผู้ชายเจ้าชู้ที่มีฝีมือการจีบอันแพรวพราว ความอารมณ์ร้อนที่มักก่นด่าและ ‘ตัดสิน’ ผู้คนไปทั่ว หรือจะเป็นการ ‘เหยียด’ ทั้งคนผิวขาวและเอเชียด้วยกันเสียอย่างนั้น จนเราอาจกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ยิ่งเราค่อยๆ ติดตามเรื่องราวและรู้จัก Ben มากขึ้นเท่าไร เราก็ยิ่งรู้สึก ‘อิหยังวะ’ กับการกระทำของตัวละครนี้มากขึ้นเท่านั้น 

 

 

ขณะเดียวกันหากลองสำรวจตัวตนของ Ben เราก็อาจตีความสารบางอย่างที่ผู้กำกับและทีมสร้างต้องการนำเสนอผ่านตัวละครนี้ได้ในแง่หนึ่งว่า บางที Ben อาจเป็นตัวแทนที่ฉายภาพผลลัพธ์ของการ ‘ส่งต่อ’ ความเกลียดชังที่ Ben เคยประสบพบเจอ จนส่งให้ความเกลียดชังเหล่านั้นถูกส่งต่อมาถึงตัวเขา และค่อยๆ หล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่มักคอยต่อว่าและตัดสินผู้คนที่เขาพบเจอโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เช่นเดียวกับที่เขาเคยถูกคนอื่นตัดสินมาก่อน

 

พร้อมกันนั้นประเด็นที่ถูกนำเสนอผ่านตัวละครนี้อย่างเด่นชัดไม่แพ้กัน เห็นจะเป็นการสะกิดเตือนผู้ชมว่า ‘อย่ากลายเป็นคนที่เราไม่อยากเป็น’ เพราะแม้ว่าเราจะเคยโดนดูถูกเหยียดหยามหรือถูกตัดสินอย่างไร ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถไปทำตัวแย่ๆ ใส่คนอื่นเช่นเดียวกับที่เราเคยโดนได้ เพราะหากเป็นเช่นกันเราก็คงจะไม่ได้ต่างไปจากคนที่ดูถูกเราเท่าไรนัก 

 

 

อีกหนึ่งตัวละครที่มีมินิน่าสนใจไม่แพ้กันคือ Alice ซึ่งแม้ว่าเธอจะมีบางแง่มุมที่คล้ายกับ Ben อยู่บ้าง แต่เรื่องหนึ่งที่ Alice อาจ ‘โชคดี’ กว่า Ben เห็นจะเป็นการได้พบเจอกับคนสำคัญที่ทำให้เธอ ‘ยอมรับ’ ว่าตัวเองมีนิสัยแย่ๆ อะไรบ้าง และผลักดันให้เธออยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อคนสำคัญคนนั้น 

 

ด้วยหัวใจสำคัญของ Shortcomings ที่ถูกบอกเล่าคู่ขนานกันไปผ่านมุมมองของสองเพื่อนสนิทอย่าง Ben และ Alice ซึ่งช่วยขยายความให้ประเด็นหลักที่ผู้กำกับและทีมสร้างต้องการนำเสนอถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างทรงพลัง ก็ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ชวนขบขัน ที่เราสามารถเชื่อมโยงและถอดบทเรียนจากตัวละครภายในเรื่องได้หลากหลายประเด็น 

 

Shortcomings เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ เฉพาะโรงภาพยนตร์ House Samyan 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่

 

 

The post Shortcomings หนังรอมคอมชวนขบขันที่บอกว่า ‘อย่าเป็นคนในแบบที่เราไม่อยากเป็น’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นัท-ณิชา จะพาผู้ชมย้อนนึกถึง ‘การแอบรักครั้งแรก’ ใน 14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand เข้าฉาย 12 ต.ค. นี้ https://thestandard.co/i-love-you-two-thousand-12-oct/ Fri, 18 Aug 2023 08:16:25 +0000 https://thestandard.co/?p=830751

“มันแปลกๆ เพราะแอบรักแต่มันไม่รู้”   14 อีกครั้ง I […]

The post นัท-ณิชา จะพาผู้ชมย้อนนึกถึง ‘การแอบรักครั้งแรก’ ใน 14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand เข้าฉาย 12 ต.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

“มันแปลกๆ เพราะแอบรักแต่มันไม่รู้”

 

14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้เรื่องใหม่จากค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ The Pipal Tree ภายใต้การกำกับของ เป้-นฤบดี เวชกรรม พร้อมได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต และ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ที่จะพาผู้ชมมาร่วมย้อนนึกถึง ‘การแอบรักครั้งแรก’ วันที่ 12 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

 

สำหรับเนื้อหาคร่าวๆ ของภาพยนตร์ที่เปิดเผยออกมาในตอนนี้ จะว่าด้วยเรื่องราวที่อ้างอิงจากชีวิตจริงของเหล่าวัยรุ่นตอนปลายที่โหยหาช่วงชีวิตวัยรุ่นตอนต้น ทั้งประสบการณ์ของความรักครั้งแรก อกหักครั้งแรก เพื่อนกลุ่มแรก และวีรกรรมแรกๆ ที่เราอยากจะย้อนเวลากลับไปอีกครั้งเพื่อเติมพลังให้ชีวิตของเรา ภายใต้บรรยากาศความสวยงามของประเทศไทยในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

 

14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand จะได้ เป้-นฤบดี เวชกรรม ที่เคยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแก่ผู้ชมมาแล้วใน Low Season สุขสันต์วันโสด (2563) มานั่งแท่นผู้กำกับ

 

เสริมทัพด้วยทีมนักแสดงนำมากฝีมือที่จะมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราว นำโดย นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต จาก 4KINGS (2564) และ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ จาก Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี (2564) 

 

แฟร์รี่-กิรณา พิพิธยากร จากซีรีส์ 7 Project (2564), ภูผา-อินทนนท์ แสงศิริไพศาล จากซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ (2563), โยชิ-สุริยาวิชญ์ ถนอมชัยสนิท จากละคร แก้วกลางดง (2563), เล็ก-ธีรเวช สุภาวงษ์ จากละคร รักนี้เจ้จัดให้ (2558), วีเจ-นพรุธ ตันธนวิกรัย และ โมเน่ต์-ภาริตา ริเริ่มกุล หรือ โมเน่ต์ BNK48 รุ่นที่ 3

 

ภาพ: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

The post นัท-ณิชา จะพาผู้ชมย้อนนึกถึง ‘การแอบรักครั้งแรก’ ใน 14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand เข้าฉาย 12 ต.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Hugh Grant นิยามตอนจบของภาพยนตร์ Notting Hill ว่า ‘ชวนให้คลื่นไส้’ https://thestandard.co/hugh-grant-on-notting-hill-ending/ Sun, 26 Mar 2023 08:12:40 +0000 https://thestandard.co/?p=768801

ถึงแม้ว่า Notting Hill จะเป็นภาพยนตร์สุดโรแมนติกแห่งยุค […]

The post Hugh Grant นิยามตอนจบของภาพยนตร์ Notting Hill ว่า ‘ชวนให้คลื่นไส้’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถึงแม้ว่า Notting Hill จะเป็นภาพยนตร์สุดโรแมนติกแห่งยุค 90 ที่ยังคงครองใจผู้ชมได้จนถึงทุกวันนี้ แต่พระเอกของเรื่องอย่าง Hugh Grant ได้นิยามตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า ‘ชวนให้คลื่นไส้’

 

Hugh Grant ไม่ได้เอ่ยถึงประเด็นดังกล่าวโดยตรง หากแต่เผยความรู้สึกที่มีต่อ Notting Hill ในระหว่างที่บอกเล่าถึงเรื่องตลกเล็กๆ ที่เขามีกับผู้กำกับ Robert Michell ผู้ล่วงลับ ผ่านการสัมภาษณ์ของ Wired โดยฉากจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นฉากที่ตัวละครของเขากำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายเล่มหนึ่งบนม้านั่งในสวนสาธารณะ ขณะที่นางเอกอย่าง Anna Scott กำลังนอนหนุนตักเขาอยู่ เขาเล่าว่า

 

“ในโมเมนต์ชวนอ้วกที่ม้านั่งซีนนั้น ผมกำลังอ่านหนังสือเรื่อง Captain Corelli’s Mandolin ของ Louis de Bernières อยู่ ซึ่งมันจะเป็นภาพยนตร์เรื่องต่อไปของ Roger Michell เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องตลกเล็กๆ ของเขาเรื่องหนึ่ง พระเจ้าโปรดคุ้มครองดวงวิญญาณของเขาด้วย”

 

Notting Hill ว่าด้วยเรื่องราวของ William Thacker (รับบทโดย Hugh Grant) เจ้าของร้านหนังสือเล็กๆ ในย่าน Notting Hill ที่ได้พบรักกับนักแสดงสาวชื่อดัง Anna Scott (รับบทโดย Julia Roberts) โดยบังเอิญ ซึ่งเรื่องราวโรแมนติกอบอุ่นใจที่แฝงไว้ด้วยความตลก รวมไปถึงความโด่งดังของตัวนักแสดงนำทั้ง 2 คนในช่วงเวลานั้น ก็ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังและได้รับความรักจากคอหนังทั่วโลก และยังเป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบันแม้เวลาจะผ่านไปมากกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

The post Hugh Grant นิยามตอนจบของภาพยนตร์ Notting Hill ว่า ‘ชวนให้คลื่นไส้’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Reese Witherspoon เผยกับ THE STANDARD POP ว่าคิดถึงหนังแนวรอมคอมยุค 2000s https://thestandard.co/reese-witherspoon-on-2000s-romcom/ Sat, 11 Feb 2023 03:58:45 +0000 https://thestandard.co/?p=748917

นักแสดงวัย 46 ปี เจ้าของบทสุดไอคอนิก Elle Woods จากภาพย […]

The post Reese Witherspoon เผยกับ THE STANDARD POP ว่าคิดถึงหนังแนวรอมคอมยุค 2000s appeared first on THE STANDARD.

]]>

นักแสดงวัย 46 ปี เจ้าของบทสุดไอคอนิก Elle Woods จากภาพยนตร์เรื่อง Legally Blonde อย่าง Reese Witherspoon ให้สัมภาษณ์กับรายการ Face to Face ของ THE STANDARD POP ว่าเธอคิดถึงการแสดงหนังรอมคอม ซึ่งเป็นแนวภาพยนตร์ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก

 

“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ฉันคิดถึงมันนะ ตอนที่หลายคนหยุดทำหนังพวกนี้ ฉันคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจคือเราได้เรียนรู้ประสบการณ์ของคนผ่านการชมเรื่องเหล่านี้” Reese กล่าว

 

มากไปกว่านั้น นักแสดงรางวัลออสการ์ยังได้แสดงความเห็นถึงความสำคัญของภาพยนตร์แนวนี้ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปลายยุค 1990-2000 ว่า “ฉันคิดว่ามันน่าเสียดายสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เห็นตัวอย่างความสัมพันธ์ผ่านหนังและทีวี เช่น คุณไม่รู้วิธีจีบผู้หญิง ไม่รู้จะจัดการอย่างไรเมื่อถูกปฏิเสธ คุณไม่รู้จะจัดการกับส่วนสำคัญของชีวิตซึ่งก็คือความสัมพันธ์แบบโรแมนติกอย่างไร”

 

ซึ่งนอกจาก Legally Blonde แล้ว ยังมีภาพยนตร์แนวชิคฟลิก (Chick-Flick) ที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Sweet Home Alabama ในปี 2002, Penelope ในปี 2006, Four Christmases ในปี 2008, This Means War ในปี 2012 และ Home Again ในปี 2017 

 

และผลงานเรื่องล่าสุดของ Reese Witherspoon คือภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้เรื่อง Your Place or Mine ที่ร่วมแสดงกับ Ashton Kutcher อีกหนึ่งนักแสดงที่แจ้งเกิดจากหนังรอมคอมเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในโปรเจกต์ของบริษัทโปรดักชันชื่อว่า Hello Sunshine ที่ Reese เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง 

 

สามารถติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่

 

 

ภาพ: Tommaso Boddi / WireImage 

The post Reese Witherspoon เผยกับ THE STANDARD POP ว่าคิดถึงหนังแนวรอมคอมยุค 2000s appeared first on THE STANDARD.

]]>
Julia Roberts กล่าวว่า ผู้คนไม่ได้ชื่นชมและรู้ถึงความทุ่มเทในการสร้างหนังสไตล์รอมคอมที่บูมช่วงยุค 90 https://thestandard.co/julia-roberts-appreciate-1990s-rom-com-boom/ Sun, 11 Sep 2022 02:56:16 +0000 https://thestandard.co/?p=679664 Julia Roberts

Julia Roberts (จูเลีย โรเบิร์ตส์) เจ้าหญิงแห่งภาพยนตร์แ […]

The post Julia Roberts กล่าวว่า ผู้คนไม่ได้ชื่นชมและรู้ถึงความทุ่มเทในการสร้างหนังสไตล์รอมคอมที่บูมช่วงยุค 90 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Julia Roberts

Julia Roberts (จูเลีย โรเบิร์ตส์) เจ้าหญิงแห่งภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอเมดี้ หรือเรียกว่า รอมคอม (Rom-Com) ที่มีผลงานในดวงใจคอหนังมากมายในช่วงยุค 90 ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Pretty Woman (1990), Notting Hill (1999), My Best Friend’s Wedding (1997) และอีกมากมาย เธอกำลังจะกลับมาพร้อมกับภาพยนตร์แนวรอมคอมเรื่องใหม่ในรอบหลายสิบปีนาม Ticket to Paradise ซึ่งเธอก็หวังว่าผู้คนจะรู้สึกชื่นชม และรับรู้ถึงความทุ่มเทของทีมงานในการสร้างหนังฟีลกู๊ดขึ้นมาเรื่องหนึ่ง

 

“ฉันคิดว่าเราไม่ได้ชื่นชมผลงานภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอเมดี้ที่เรามีในตอนนั้นเลย คุณไม่เห็นความทุ่มเทและการแสดงเหล่านั้น เพราะว่าหนังมันสนุกและมีแต่ความชื่นมื่นด้วยเสียงหัวเราะ การจูบแสนหวาน และเหล่าตัวละครที่ทำตัวซุกซน

 

“นี่คือหนังประเภทที่ฉันรักที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างและรับชมด้วย และฉันคิดว่ามันยากที่จะทำออกมาในทิศทางที่ใช่ เพราะเรื่องราวมันเดาทางง่ายอยู่แล้ว แต่คุณจะทำอย่างไรให้มันพิเศษขึ้นมาได้ล่ะ คุณจะทำอย่างไรให้ผู้ชมสนใจ ในขณะที่พวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าบทสรุปเรื่องราวจะออกมาเป็นแบบไหน”

 

ก่อนหน้านี้ Julia Roberts ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ทำให้เธอไม่ได้นำแสดงในภาพยนตร์แนวรอมคอมมาหลายปี ไม่ได้เป็นเพราะเธอไม่อยากทำ หากแต่เป็นเพราะว่าเธอยังไม่เจอบทหนังที่ดีพอ ซึ่งสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง Ticket to Paradise เธอจะได้แสดงเคียงข้างเพื่อนสนิทอย่าง George Clooney โดยทั้งสองจะเล่นเป็นสามีภรรยาที่หย่าร้างกันไปแล้ว และต้องกลับมาพบกันอีกครั้งเพื่อหยุดยั้งงานแต่งงานของลูกสาว โดยภาพยนตร์มีกำหนดฉายเดือนตุลาคมนี้

 

ภาพ: Polygram / Universal Pictures

อ้างอิง: 

The post Julia Roberts กล่าวว่า ผู้คนไม่ได้ชื่นชมและรู้ถึงความทุ่มเทในการสร้างหนังสไตล์รอมคอมที่บูมช่วงยุค 90 appeared first on THE STANDARD.

]]>
บุพเพสันนิวาส 2 หอมกลิ่นเครื่องปรุงครบรส โรแมนติก, คอเมดี้, แฟนตาซี แม้บทสรุปจะยืดเยื้อเกินความจำเป็น https://thestandard.co/love-destiny-the-movie-2/ Tue, 26 Jul 2022 10:24:33 +0000 https://thestandard.co/?p=659155 บุพเพสันนิวาส 2

สิ้นสุดการตั้งตารอเสียทีสำหรับแฟนๆ ออเจ้า บุพเพสันนิวาส […]

The post บุพเพสันนิวาส 2 หอมกลิ่นเครื่องปรุงครบรส โรแมนติก, คอเมดี้, แฟนตาซี แม้บทสรุปจะยืดเยื้อเกินความจำเป็น appeared first on THE STANDARD.

]]>
บุพเพสันนิวาส 2

สิ้นสุดการตั้งตารอเสียทีสำหรับแฟนๆ ออเจ้า บุพเพสันนิวาส 2 ภาพยนตร์ไทยร่วมทุนสร้างระหว่าง GDH และ บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ที่ดัดแปลงมาจากละครระดับปรากฏการณ์อย่าง บุพเพสันนิวาส โดยได้ ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม จาก รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ (2552) และละคร น้ำตากามเทพ (2558) มารับหน้าที่ต่อยอดเรื่องราวจากฉบับจอโทรทัศน์สู่ฉบับจอภาพยนตร์ 

 

 

เนื้อหาของ บุพเพสันนิวาส 2 ว่าด้วยเรื่องราวในชาติภพใหม่ของ พี่หมื่น และ แม่หญิงการะเกด ที่ทั้งคู่จะได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมื่อ​ ภพ (โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นายช่างหนุ่มได้พบกับ เกสร (เบลล่า-ราณี แคมเปน) หญิงงามที่หน้าตาเหมือนกับนางในความฝัน และนับตั้งแต่แรกเห็น นายช่างหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่านางคือ ‘คู่บุพเพสันนิวาส’ ที่เฝ้าคิดถึงมาตลอด

 

กระทั่งวันหนึ่งภพและเกสรบังเอิญได้พบกับ เมธัส (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่ย้อนเวลามาจากอนาคต ซึ่งทำให้เกสรนึกถึงสมุดบันทึกโบราณของคุณหญิงการะเกดที่เขียนถึงเรื่องราวในอนาคตเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าความวุ่นวายจะไม่จบลงแค่นั้น เมื่อชาววิลาสจากประเทศอังกฤษ (ชื่อเรียกชนชาวฝรั่งต่างชาติในยุคอาณานิคม) จากอีกฝากของโพ้นมหาสมุทร กำลังวางแผนบุกโจมตีสยามจนอาจทำให้ประวัติศาสตร์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภพ, เกสร และ เมธัส จึงต้องร่วมมือกันขัดขวางแผนการของชาวฝรั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้อนาคตที่เมธัสจากมาเปลี่ยนแปลง

 

โรแมนติก ตลกขบขัน แฟนตาซี คือสามคำแรกที่นึกถึงหลังจากชมตัวอย่างฉบับเต็มของ บุพเพสันนิวาส 2 ซึ่งสิ่งที่เรารู้สึกสนใจเป็นพิเศษคือ ทางผู้กำกับและทีมสร้างจะผสมผสานความแฟนตาซีเข้ากับเรื่องราวความรักของภพและเกสรในรูปแบบไหน

 

และจุดเด่นข้อแรกที่เราอยากกล่าวถึงคือ งานวิชวลเอฟเฟ็กต์ที่นำเสนอความแฟนตาซีออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะฉากการย้อนเวลาของเมธัสกับการเปลี่ยนแปลงสถานที่จากปัจจุบันไปยังอดีตและพลังของปืนวิเศษที่เขาถือครอง ไปจนถึงการทำแผนที่ให้เราเห็นภาพรวมของสยามในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่เสริมให้ภาพยนตร์มีสีสันมากขึ้น 

 

บุพเพสันนิวาส 2

 

อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ การที่ผู้กำกับหยิบเรื่องราวในประวัติศาสตร์ไทยมาร้อยเรียงกับเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นใหม่ออกมาได้อย่างน่าสนใจและชวนติดตาม โดยเฉพาะการออกแบบคาแรกเตอร์ของบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ให้มีความร่วมสมัยด้วยกลิ่นอายคอเมดี้ในฉบับของ GDH  

 

ไปจนถึงรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่ผู้กำกับและทีมสร้างสอดแทรกเข้ามา เพื่อพาผู้ชมไปสัมผัสกับบรรยากาศของยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นพร้อมกับตัวละคร ทั้งสถานที่สำคัญที่ถูกหยิบยกมาเป็นฉากหลัง หรืออาหารไทยที่อาจจะไม่ได้ถูกใส่เข้ามามากนัก แต่ก็ทำให้เราท้องร้องจนอยากไปลองรับประทานเมนูเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ฯลฯ 

 

เรียกได้ว่า บุพเพสันนิวาส 2 ล้วนอัดแน่นไปด้วย Soft Power ไทยมากมาย ที่จุดประกายให้เราอยากลองไปศึกษาต่อว่าประวัติความเป็นมาของตัวละคร สถานที่ และเหตุการณ์ต่างๆ บนหน้าประวัติศาสตร์ไทยเหล่านี้มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร 

 

 

และจุดที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ความโรแมนติกของคู่พระนางอย่างภพและเกสร ที่นอกจากจะอบอวลไปด้วยความน่ารักชวนอมยิ้มแล้ว สิ่งที่เราชอบมากๆ คือการที่ผู้กำกับและทีมสร้างเลือกจะตีความ ‘บุพเพสันนิวาส’ ออกมาในแง่มุมที่น่าสนใจและชวนให้ผู้ชมมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน เรื่องราวของตัวละครใหม่อย่างเมธัสก็มีปมปัญหาของตัวเองที่น่าติดตาม พร้อมทั้งมาแต่งแต้มสีสันให้กับเรื่องราวความรักของคู่พระนางสนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิม

บุพเพสันนิวาส 2

 

ขณะเดียวกัน ภายใต้เรื่องราวความรักเปี่ยมเสน่ห์ บุพเพสันนิวาส 2 ก็มีจุดที่เรารู้สึกเสียดายอยู่เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเหตุการณ์ในช่วงสุดท้ายของเรื่องที่ผู้กำกับและทีมสร้างพยายามใช้ Slow Motion เข้ามาเพื่อสร้างความตื่นเต้นและลุ้นระทึกมากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลให้ฉากเหล่านั้นกลับดูยืดเยื้อจนไม่ทำให้เรารู้สึกลุ้นระทึกไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่ภาพยนตร์ตั้งใจ รวมถึงมีบางช่วงบางตอนที่เราคิดว่าสามารถนำเสนอให้กระชับฉับไวกว่านี้ได้ แต่ภาพยนตร์กลับพยายามขยี้เหตุการณ์เหล่านั้นมากเกินไป จนเรารู้สึกว่าช่วงเวลา 2 ชั่วโมง 46 นาที ดูจะเป็นความยาวที่นานไปสักหน่อย  

 

อีกหนึ่งสิ่งที่เรารู้สึกเสียดายคือ ตัวร้ายหลัก ที่เรารู้สึกว่ายังไม่โดดเด่นจนชวนให้ติดตาม โดยเฉพาะความเจ้าเล่ห์เพทุบายของตัวร้ายที่เราคิดว่าภาพยนตร์ยังนำเสนอออกมาได้ไม่ชัดเจนและไม่น่าสนใจเท่าไร เราจึงคิดว่าหากภาพยนตร์หยิบช่วงที่ดูยืดเยื้อดังที่เรากล่าวไปแล้ว มาขยายเรื่องราวของตัวร้ายมากขึ้นอีกสักหน่อย ก็อาจจะเสริมให้ภารกิจปกป้องประวัติศาสตร์ของสามตัวละครหลักน่าติดตามมากขึ้นกว่าเดิม 

 

ในภาพรวมแล้ว บุพเพสันนิวาส 2 เรีกยว่าเป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่ไม่ได้โดดเด่นแค่พาร์ตความรักในชาติภพใหม่ของแม่หญิงการะเกดและพี่หมื่นเท่านั้น แต่เรายังสัมผัสได้ถึงรายละเอียดมากมายที่ผู้กำกับและทีมสร้างตั้งใจใส่เข้ามาเพื่อสร้างบรรยากาศชวนหลงใหลของยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นให้ผู้ชมได้สัมผัส ไปจนถึงแก่นหลักสำคัญของเรื่องอย่างคู่บุพเพสันนิวาสที่ถูกตีความใหม่ให้ลึกซึ้งกินใจมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีหลายช่วงที่ดูจะยืดเยื้อเกินไป โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่มีการใช้ Slow Motion มากเกินความจำเป็น จนส่งผลให้เราไม่รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

บุพเพสันนิวาส 2 มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

 

The post บุพเพสันนิวาส 2 หอมกลิ่นเครื่องปรุงครบรส โรแมนติก, คอเมดี้, แฟนตาซี แม้บทสรุปจะยืดเยื้อเกินความจำเป็น appeared first on THE STANDARD.

]]>
บุพเพสันนิวาส 2 ปล่อยตัวอย่างเต็ม ตลกก็มี แอ็กชันก็มา อุ่นเครื่องก่อนร่วมย้อนเวลาสู่ยุครัตนโกสินทร์ 28 ก.ค. นี้ https://thestandard.co/love-destiny-the-movie/ Fri, 01 Jul 2022 02:55:36 +0000 https://thestandard.co/?p=648786 บุพเพสันนิวาส 2

“ข้าจะทำให้ประวัติศาสตร์ของเจ้าเป็นเช่นเดิม”   ยิ่ […]

The post บุพเพสันนิวาส 2 ปล่อยตัวอย่างเต็ม ตลกก็มี แอ็กชันก็มา อุ่นเครื่องก่อนร่วมย้อนเวลาสู่ยุครัตนโกสินทร์ 28 ก.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
บุพเพสันนิวาส 2

“ข้าจะทำให้ประวัติศาสตร์ของเจ้าเป็นเช่นเดิม”

 

ยิ่งทวีความน่าดูเข้าไปอีกหลายเท่าตัว สำหรับ บุพเพสันนิวาส 2 ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ร่วมทุนสร้างระหว่าง GDH และ บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ได้ปล่อยตัวอย่างฉบับเต็มที่เปิดเผยฉากสำคัญเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้มีแค่เรื่องราวความรักของพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดเท่านั้น แต่ยังอัดแน่นไปด้วยมุกตลกและฉากแอ็กชัน ไปจนถึงภารกิจสำคัญของ 3 ตัวละครหลักที่ต้องร่วมมือกันเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลง โดยภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉาย 28 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

บุพเพสันนิวาส 2 จะบอกเล่าเรื่องราวความรักในชาติภพใหม่ของ พี่หมื่น และ แม่หญิงการะเกด ที่ทั้งคู่จะได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมื่อ​ ภพ (โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นายช่างหนุ่มที่ได้มาพบกับ เกสร (เบลล่า-ราณี แคมเปน) หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนผู้หญิงที่เขาฝันถึงอยู่บ่อยๆ เขาจึงตัดสินใจตามจีบเกสร เพราะเชื่อว่าเธอคือคู่บุพเพสันนิวาส 

 

กระทั่งวันหนึ่งภพและเกสรก็บังเอิญมาพบกับ เมธัส (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่ย้อนเวลามาจากอนาคต ซึ่งทำให้เกสรนึกถึงสมุดบันทึกโบราณของคุณหญิงการะเกดที่เขียนถึงเรื่องราวในอนาคตเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าความวุ่นวายจะไม่จบลงแค่นั้น เมื่อพวกลัทธิล่าอาณานิคมกำลังวางแผนบุกโจมตีสยามจนอาจทำให้ประวัติศาสตร์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภพ, เกสร และ เมธัส จึงต้องร่วมมือกันขัดขวางแผนการของชาวฝรั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้อนาคตที่เมธัสจากมาเปลี่ยนแปลง

 

ภาพยนตร์จะได้ ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ผู้กำกับจาก รถไฟฟ้า มาหานะเธอ (2552) และละคร น้ำตากามเทพ (2558) มารับหน้าที่สานต่อความสำเร็จของละคร บุพเพสันนิวาส สู่จอภาพยนตร์ พร้อมด้วย โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และ เบลล่า-ราณี แคมเปน ที่จะกลับมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรักของพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดอีกครั้ง 

 

เสริมทัพความสนุกด้วยทีมนักแสดงนำมากฝีมือ นำโดย ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต, กิ๊ก-สุวัจนี พานิชชีวะ, ปุ๊กกี้-ปวีณ์นุช แพ่งนคร, บ๊อบบี้-นิมิตร ลักษมีพงศ์, นน-ชานน สันตินธรกุล ฯลฯ

 

มาร่วมย้อนเวลาสู่ยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นไปพร้อมกับ โป๊ป, เบลล่า และ ไอซ์ ที่จะต้องมาร่วมมือกันป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงใน บุพเพสันนิวาส 2 วันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

The post บุพเพสันนิวาส 2 ปล่อยตัวอย่างเต็ม ตลกก็มี แอ็กชันก็มา อุ่นเครื่องก่อนร่วมย้อนเวลาสู่ยุครัตนโกสินทร์ 28 ก.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Four Weddings and a Funeral เพราะรักแล้วย่อมไม่แคล้วกัน วนมาพาคุณตกหลุมรักอีกครั้งที่ House Samyan https://thestandard.co/four-weddings-and-a-funeral/ Wed, 25 May 2022 06:06:43 +0000 https://thestandard.co/?p=633499 Four Weddings and a Funeral

Four Weddings and a Funeral หนังโรแมนติกคอเมดี้หลากอารม […]

The post Four Weddings and a Funeral เพราะรักแล้วย่อมไม่แคล้วกัน วนมาพาคุณตกหลุมรักอีกครั้งที่ House Samyan appeared first on THE STANDARD.

]]>
Four Weddings and a Funeral

Four Weddings and a Funeral หนังโรแมนติกคอเมดี้หลากอารมณ์ที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในผลงานการเขียนบทของ ริชาร์ด เคอร์ติส ผู้กำกับและนักเขียนบทหนังรอมคอมมือทอง เตรียมขึ้นจอโรงภาพยนตร์อีกครั้งที่ House Samyan 27 พฤษภาคมนี้

 

ถ้าคุณอินสุดๆ กับหนังรอมคอมอย่าง Notting Hill, Bridget Jones’s Diary, Love Actually หรือ About Time ที่ล้วนเขียนบทโดย ริชาร์ด เคอร์ติส แล้วละก็ Four Weddings and a Funeral อีกผลงานที่เรียกได้ว่าเป็นหนังบุกเบิกรอมคอมอังกฤษยุคใหม่ก็เตรียมยึดพื้นที่ในหัวใจของคุณได้เลย 

 

Four Weddings and a Funeral

 

“Don’t get married unless you fall recklessly in love”

 

ฮิวจ์ แกรนต์ รับบท ชาร์ลส์ หนุ่มอังกฤษรูปหล่อแต่ลอยชาย ไม่ยอมเป็นฝั่งเป็นฝากับใคร ผู้ไปงานแต่งกี่ครั้งก็เป็นได้แค่เพื่อนเจ้าบ่าว จนมาพบกับ แครี่ รับบทโดย แอนดี้ แม็คโดเวลล์ สาวอเมริกันที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะเป็นครั้งแรก เมื่ออยากจะแต่งงานบ้างแล้วแต่สาวในฝันดันเป็นคู่หมั้นคนอื่น เรื่องราวความรักฮาๆ จึงเริ่มต้นขึ้น

 

Four Weddings and a Funeral

 

ด้วยเสน่ห์ความตลก การันตีจากฝีมือการเขียนบทของเคอร์ติส ผู้เขียนบทซีรีส์ชุด Mr Bean (มิสเตอร์บีน) และความน่ารักกินใจอย่างเป็นธรรมชาติที่ได้ผู้กำกับ ไมค์ นีเวลล์ ผู้กับกับภาพยนตร์ Harry Potter and the Goblet of Fire (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี) Four Weddings and a Funeral ที่ใช้ทุนสร้างเพียง 4.4 ล้านดอลลาร์ได้กวาดรายได้ถล่มทลายถึง 245 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 2 สาขา และยังแจ้งเกิด ฮิวจ์ แกรนต์ เป็นหนึ่งในพระเอกรอมคอมแถวหน้าอีกด้วย

 

Four Weddings and a Funeral

 

เพราะรักแล้วย่อมไม่แคล้วกัน มาขำปอดโยก ยิ้มแก้มปริ และตกหลุมรักภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้สุดคลาสสิก Four Weddings and a Funeral เรื่องนี้กันอีกครั้งกับโปรแกรม House Classics ที่โรงภาพยนตร์ House Samyan ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป!

 

จองตั๋วได้ทางแอปพลิเคชัน House Cinema หรือทางเว็บไซต์ www.housesamyan.com 

 

ชมตัวอย่างภาพยนตร์ Four Weddings and a Funeral ได้ที่ 

 

The post Four Weddings and a Funeral เพราะรักแล้วย่อมไม่แคล้วกัน วนมาพาคุณตกหลุมรักอีกครั้งที่ House Samyan appeared first on THE STANDARD.

]]>
Julia Roberts เผยเหตุผลที่ทำให้เธอปฏิเสธแสดงภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้มานานกว่า 20 ปี https://thestandard.co/julia-roberts-refusing-to-star-in-romcom-flim-reason/ Sun, 24 Apr 2022 06:11:50 +0000 https://thestandard.co/?p=620730 Julia Roberts

Julia Roberts (จูเลีย โรเบิร์ตส์) ถือได้ว่าเป็นนางเอกภา […]

The post Julia Roberts เผยเหตุผลที่ทำให้เธอปฏิเสธแสดงภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้มานานกว่า 20 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Julia Roberts

Julia Roberts (จูเลีย โรเบิร์ตส์) ถือได้ว่าเป็นนางเอกภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้ผู้ที่กลายเป็นขวัญใจคนทั่วโลกตลอดกาล ด้วยผลงานภาพยนตร์หลายเรื่องในช่วงยุค 90 ทั้ง Pretty Women, Notting Hills และ My Best Friend’s Wedding มาแล้ว แต่หลังจากเรื่อง America’s Sweetheart เมื่อปี 2001 เธอก็ไม่ได้รับบทนำในภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้เรื่องไหนอีกเลย มีเพียงรับบทเล็กๆ ในเรื่อง Valentine’s Day และ Mother’s Day เท่านั้น

 

ล่าสุด Julia Roberts ได้ออกมาเฉลยว่าเหตุใดในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เธอจึงไม่แสดงนำภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้ ทั้งที่หนังประเภทนี้ส่งผลให้เธอประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกผ่านการสัมภาษณ์กับ The New York Times ว่า เธอไม่ได้หลีกเลี่ยงการแสดงภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้แต่อย่างใด หากแต่สคริปต์และไอเดียของเนื้อเรื่องที่เธอได้รับการเสนอนั้นยังไม่ดีพอและเหมาะสมสำหรับเธอ

 

“บางครั้งหลายคนเข้าใจผิดว่าการที่ฉันไม่ทำหนังโรแมนติกคอเมดี้มาเป็นเวลานานนั้นเป็นเพราะฉันไม่อยากจะทำ ถ้าหากฉันได้อ่านสคริปต์ที่ฉันคิดว่าการเขียนบทมันอยู่ในเลเวลเดียวกับ Notting Hill หรือสนุกและตลกระดับเดียวกับ My Best Friend’s Wedding ฉันก็คงรับงานแสดงไปแล้ว แต่มันไม่มีอยู่จริงจนมาถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ Ol Parker ทั้งเขียนบทและกำกับเอง”

 

ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เธอพูดถึงก็คือเรื่อง Ticket to Paradise ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่ Julia Roberts รับบทนำเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เคียงข้างเพื่อนสนิทในวงการอย่าง George Clooney ซึ่งเธอก็เกือบจะปฏิเสธการรับงานเรื่องนี้ไปแล้วเช่นกันถ้าหากไม่ได้แสดงคู่กับเขา 

 

แม้ว่า Julia Roberts จะยืนยันว่าไม่มีสคริปต์ใดที่ดีพอแม้แต่เรื่องเดียวในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่นอกเหนือไปจากนั้นชีวิตการเป็นแม่ของเธอก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอไม่สามารถรับงานตามใจชอบได้เช่นกัน เพราะเธอจะต้องจัดการแบ่งเวลาให้กับลูกทั้ง 3 คน และสามีของเธอนั่นเอง

 

ภาพ: Working Titles Film

อ้างอิง:

The post Julia Roberts เผยเหตุผลที่ทำให้เธอปฏิเสธแสดงภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้มานานกว่า 20 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>