เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมูลนิธิปัญญาวุฒิ ปิดกล้องภาพยนตร์สั้นเรื่อง ‘สายใยรักสองแผ่นดิน’ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตนครปฐม โดยหนังสั้นเรื่องนี้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อย้อนรอย 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวอิงประวัติศาสตร์ ดราม่า-โรแมนติก กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง ปรัชญา ปิ่นแก้ว และได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์ และ เอส-ชิษณุพงศ์ สกุลนันทิพัฒน์ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความผูกพันอันแน่นแฟ้นของสองแผ่นดิน

นอกจากนี้ หนังสั้น ‘สายใยรักสองแผ่นดิน’ ยังได้รับเกียรติจาก คันธรส หาญไชยพิบูลย์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และอบรมของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และกรรมการหลักสูตรและเลขานุการของสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย-จีน มาร่วมเป็นแขกรับเชิญพิเศษในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์อีกด้วย

‘สายใยรักสองแผ่นดิน’ ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สะท้อนถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างไทยและจีน รอติดตามชมผลงานคุณภาพเรื่องนี้ได้เร็วๆ นี้!

The post หนังสั้น ‘สายใยรักสองแผ่นดิน’ ปิดกล้องแล้ว! ย้อนรอย 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน appeared first on THE STANDARD.

ยังรักกัน (Still Love) ภาพยนตร์สั้นโดยสถาบันพระปกเกล้า จากฝีมือกำกับของผู้กำกับ เป็ด-วีระศักดิ์ แสงดี ที่นำแสดงโดยนักแสดงสาวแห่งยุค ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ และผู้เป็นแม่อย่าง ก้อย-นฤมล พงษ์สุภาพ นักแสดงระดับอาวุโส ชนะเลิศในสาขา STAFF PICKS จากเวทีประกวดภาพยนตร์ ARFF Barcelona 2025 ซึ่งจะมีการมอบรางวัลในช่วงปลายปีนี้ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ยังรักกัน (Still Love) ยังได้รับรางวัล OFFICIAL SELECTION BEST CINEMATOGRAPHY JULY 2024 จาก ARFF Paris 2024 ด้วยเช่นกัน

สำหรับ ARFF เป็นรางวัลจากกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งรวบรวมผลงานจากทั่วโลกและจะคัดสรรภาพยนตร์ที่ดีที่สุดผ่านเทศกาลประจำปี AROUND INTERNATIONAL FILM FESTIVAL ภาพยนตร์สั้น ยังรักกัน (Still Love) เป็นการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัว พูดถึงความรักความผูกพันระหว่างลูกสาวที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น กับพ่อและแม่ในยุคที่ความคิด ความเชื่อ และช่องว่างระหว่างวัยกลายเป็นกำแพงกั้นความเข้าใจ ในขณะที่สายใยความผูกพันอันเปราะบางกำลังจะขาดลง มีเพียงความรักเท่านั้นที่จะเยียวยาโอบอุ้มไว้ และเชื่อมความสัมพันธ์ให้คงอยู่

ออม กรณ์นภัส นักแสดงนำของเรื่อง เปิดเผยความรู้สึกเพิ่มเติมว่า “รู้สึกดีใจที่ผลงานแรกๆ ของเราได้รางวัล ต้องขอบคุณพี่ๆ ทีมงานที่ทำให้ผลงานมันออกมาดีและสวยงาม ถ้าถามว่าพอเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของแม่ลูกทำให้การถ่ายทำง่ายขึ้นไหม หนูว่ามันยากเพราะว่าเราอยู่กับแม่ในฐานะแม่ เราไม่ค่อยได้อยู่ในฐานะการทำงานเท่าไร ก็เลยไม่ชินกับแม่พาร์ตที่ต้องมาแสดงด้วยกัน ไม่อยากให้แม่เห็นตอนหนูร้องไห้หรือหนูระเบิดอารมณ์ใส่แม่เท่าไร เลยคิดว่าแม่เป็นนักแสดงคนหนึ่ง ก็เลยทำได้ค่ะ”

ด้าน ก้อย นฤมล แม่ของนางเอกสาว ออม กรณ์นภัส ที่ได้มารับบทนำในการแสดงเป็นคู่แม่ลูกคู่กับลูกสาวของตัวเองก็เผยว่า “ความประทับใจเรื่องนี้ก็คงจะเป็นการได้ถ่ายทำกับลูกค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะดีเหรอ แต่แอบดีใจค่ะที่ได้เล่นกับลูกสาว คือน้องออมเนี่ยต้องบอกก่อนว่า ตอนเล่นกับเขา เขาก็เริ่มเป็นมืออาชีพมากแล้ว ภูมิใจที่น้องออมเป็นนักแสดงมืออาชีพท่านหนึ่งเลย การทำงานกับน้องทำให้แม่ทำงานได้ง่ายขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้มีมุมมองสะท้อนสังคมได้จริง ไม่ว่าคุณจะไปซ้าย คุณจะไปขวาอย่างไร เราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน”

The post ยังรักกัน (Still Love) หนังสั้นนำแสดงโดย ออม กรณ์นภัส และ ก้อย นฤมล ชนะเลิศสาขา Staff Picks จาก ARFF Barcelona 2025 appeared first on THE STANDARD.

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม Apple ปล่อยอีพีใหม่ล่าสุดของภาพยนตร์สั้นเรื่อง The Underdogs: OOO (Out Of Office) ที่เล่าถึงเรื่องราวการทำงานนอกออฟฟิศ โดยตัวละครหลักต้องเดินทางมาติดต่องานที่ประเทศไทย

“ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเร่งรีบและคึกคักของไทย นำเสนอความท้าทายในสถานที่ทำงานยุคใหม่อย่างตลกขบขัน โดยแสดงให้เห็นว่าการผสานรวมระหว่าง Mac, iPhone, iPad และ Vision Pro สามารถทำได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ทีมเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างไร” Apple กล่าวในแถลงการณ์ที่ส่งให้สื่อมวลชนในไทย

เนื้อหาแสดงถึงการทำงานร่วมกันของผลิตภัณฑ์ Apple ตั้งแต่การจัดหาโรงงานบรรจุภัณฑ์แห่งใหม่ การดำเนินการเปลี่ยนแปลงการออกแบบในนาทีสุดท้าย ไปจนถึงการสร้างต้นแบบ 3 มิติ และการเชื่อมช่องว่างทางภาษา พลังของระบบนิเวศของ Apple ก็แสดงออกมาอย่างเต็มที่

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ผลิตภัณฑ์ของ Apple กลายเป็นตัวละครสำคัญ โดยเน้นย้ำถึงวิวัฒนาการของขั้นตอนการทำงานในยุคดิจิทัล

ทว่าหลังจากที่โฆษณาได้นำเสนอออกมาแล้ว ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในแง่บวกและลบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในแง่ลบที่มองว่าการใช้สีของภาพประกอบกับฉากต่างๆ ดูแตกต่างจากบริบทความเป็นจริงของไทยที่เกิดขึ้นในเวลานี้

ล่าสุดทาง Apple จึงได้ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า สืบเนื่องจากซีรีส์โฆษณา The Underdogs: OOO (Out Of Office) ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นที่ 5 ในซีรีส์นี้ ทางเรามีการทำงานใกล้ชิดร่วมกับบริษัทในไทย เพื่อดำเนินการสร้างและผลิตชิ้นงานโฆษณาซึ่งได้ถ่ายทำในไทย

“ทั้งนี้ เรามุ่งหวังและมีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดวัฒนธรรมและมุมมองความคิดในแง่ดีของไทย และเราขออภัยที่โฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้นำเสนอวิถีชีวิตของไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วนและเหมาะสม ณ ตอนนี้ ทางเราได้ดำเนินการยุติการเผยแพร่โฆษณาดังกล่าวแล้ว“ แถลงการณ์ของ Apple ระบุ

The post Apple ประกาศยุติเผยแพร่โฆษณาที่ถ่ายในไทย ระบุ “ขออภัยที่ไม่ได้นำเสนอวิถีชีวิตของไทยได้อย่างครบถ้วนและเหมาะสม” appeared first on THE STANDARD.

เดือนสิงหาคมนี้ เตรียมปักหมุดไป ‘เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้’ หรือ ‘Pakk Taii Design Week 2024’ เทศกาลสร้างสรรค์โดยพี่น้องชาวใต้ทั้ง 14 จังหวัด ที่จะมาร่วมกันอวดเสน่ห์ให้รู้ว่าปักษ์ใต้มีดีไม่เหมือนใคร

โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม ‘The South’s Turn ถึงทีใต้ ได้แรงอก!’ สืบเนื่องจากกระแสคนรุ่นใหม่หวนคืนสู่บ้านเกิด จนเกิดเป็นปรากฏการณ์การรวมตัวของนักสร้างสรรค์ที่สร้างชิ้นงาน โดยนำแก่นแท้ของวัฒนธรรมมาผสมเข้ากับบริบทสมัยใหม่ให้ง่ายต่อการเสพ เข้าใจ เข้าถึง มอบประสบการณ์ใหม่ให้คนพื้นที่และผู้มาเยือนได้สนุกร่วมกัน 

เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2567 นำเสนอเรื่องราวผ่าน 5 คอนเซปต์หลัก ได้แก่

• Short Film Festival: เทศกาลภาพยนตร์สั้นเชื่อมโยงเครือข่ายนำไปสู่กลไกความร่วมมือในอนาคต
• Livable City Project: โปรเจกต์เชิงทดลองเพื่อสร้างความน่าอยู่ของย่านและเมืองในบริบทภูมิภาคใต้
• South Secret Recipe: ตำรับลับสำรับใต้ที่รวบรวมองค์ความรู้ เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมอาหารใต้ไร้พรมแดน
• Art & Crafts of Living South: การจัดแสดงศิลปะในเมือง รวบรวมองค์ความรู้ ภูมิปัญญางานฝีมือของภาคใต้
• Festival Vibe: กิจกรรมเติมเต็มบรรยากาศสร้างสรรค์ให้กับเมือง

Pakk Taii Design Week 2024 หรือ PTDW2024 จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับจังหวัดสงขลา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นักออกแบบและนักสร้างสรรค์ชาวใต้ มั่นใจได้เลยว่างานดีและสนุกแน่นอน

ปักหมุดกันไว้ แล้วพบกันวันที่ 17-25 สิงหาคม 2567 ณ ย่านเมืองเก่าสงขลา, หาดสมิหลา, หาดใหญ่, จะนะ จังหวัดสงขลา และย่านอา-รมย์-ดี จังหวัดปัตตานี

ดูรายละเอียดข้อมูลได้ที่ www.pakktaiidesignweek.com หรือ www.facebook.com/pakktaiidesignweek 

The post ‘Pakk Taii Design Week 2024’ กลับมาอีกครั้ง พร้อมงานจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ปักหมุด 17-25 ส.ค. appeared first on THE STANDARD.

ภูมิกายา (The Physical Realm) ภาพยนตร์สั้นเรื่องล่าสุดของ สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์ คว้ารางวัลชนะเลิศ รัตน์ เปสตันยี จากเทศกาลภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ 27 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรแกรมฉายในเทศกาล Film Fest Gent และ Singapore International Film Festival เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

โดยภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวของชายหนุ่มที่พยายามรักษาอาการปวดไหล่เท่าไรก็ไม่หาย เขาคิดว่าความเจ็บปวดนี้อาจเป็นเคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นเนื่องจากการแท้งลูกของแฟนเก่า แต่ในปัจจุบันชายหนุ่มกำลังพูดคุยกับแฟนใหม่เรื่องการตั้งชื่อให้ลูกที่กำลังจะไปทำบุญให้ในพรุ่งนี้ เพื่อที่ว่าอาการของเขาจะทุเลาลงไปบ้าง 

ขณะเดียวกันหญิงสาวที่กำลังเขียนงานวิชาการ โดยมีแฟนหนุ่มต่างชาติคอยดูแลและเป็นที่ปรึกษา ก็วิ่งออกไปอาเจียนนอกคอนโดรูหนูของตัวเอง พร้อมกับฉายทัศนียภาพของตัวเมืองที่ขยายตัวออกไป กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ขีดเส้นแบ่งชนชั้นฐานะของพวกเขา

ภาพ: หอภาพยนตร์

นอกจาก ภูมิกายา เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมายังมีภาพยนตร์นักศึกษาและภาพยนตร์อิสระอีกมากมายที่คว้ารางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ 27 โดยผู้ที่ได้รับรางวัลประกอบด้วยรายชื่อดังต่อไปนี้

รางวัลรัตน์ เปสตันยี (ประกาศนียบัตรชมเชย)

• ลำนำหินขาว (To You, in 2000 Years)

โดย มนธิการ์ คำออน

• Content ทางกลับแฟลต     

โดย บุศรา สอนเจริญทรัพย์ และ อนันต์ เกษตรสินสมบัติ   

• ANG48

โดย จุฬญาณนนท์ ศิริผล

รางวัลรัตน์ เปสตันยี (รองชนะเลิศ)

• The Nightmare and a Dream 

โดย ยอดชาย ครองพื้นพิมาน

• Trip After

โดย อุกฤษณ์ สงวนให้

รางวัลรัตน์ เปสตันยี (ชนะเลิศ)

• ภูมิกายา (The Physical Realm)

โดย สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์

รางวัลช้างเผือก (ประกาศนียบัตรชมเชย)

• Midnight Reminiscence

โดย กุลพัทธ์ เอมมาโนชญ์ 

(คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

• Watch over Me 

โดย พันธวัช กาญจนภิญโญ 

(คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)

• ธนาคารเสียง (Voice Banking)

โดย ณัฐดนัย วัฒนธาดากุล 

(วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ)

• Fish in the House 

โดย ชมพูนุท สุขสอาด 

(คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ)

รางวัลช้างเผือก (รองชนะเลิศ)

• The End of Paralyze

โดย รชต สระทองเทียน

(คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ)

• L’essentiel 

โดย เปรมวงศ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต 

(คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์)

รางวัลช้างเผือก (ชนะเลิศ)

• อีป๊อด (That Girl Named Pord) 

โดย ภัทรพรรณ ประไวย์ 

(คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร)

รางวัลช้างเผือกพิเศษ (ประกาศนียบัตรชมเชย)

• ยายขำเผาถ่านใช้เอง

โดย สุทัศน์ พานิช (โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย)

• ก่อนท้องฟ้าจะสดใส (In the Afterglow) 

โดย ชีวธันย์ ตั้งสถาพร (โรงเรียนแสงทองวิทยา)

• Moon Theater 

โดย ณัฐนรี ปรีชานันท์ (โรงเรียนชลกันยานุกูล)

รางวัลช้างเผือกพิเศษ (รองชนะเลิศ)

• Pseudo (สงครามสีเทา) 

โดย ชลสิทธิ์ แร่เพชร (โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี) 

• หลงฝัน (Amber Skies) 

โดย ฐานทัพ เดชกำแหง (โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง)

รางวัลช้างเผือกพิเศษ (ชนะเลิศ)

• โชคชะตาเล่นตลก (Twist to Fate)

โดย จิรชยา ไชยโย (โรงเรียนปัว)

รางวัลดุ๊ก (ประกาศนียบัตรชมเชย)

• A Love Letter to My Sister 

โดย นภสินธุ์ สามแก้วแจ่ม

• Surf Your Soul

โดย วิชชุลดา เย็นจิตร

• Mother and Me

โดย เศรษฐสิริ ชาญจรัสพงศ์

รางวัลดุ๊ก (รองชนะเลิศ)

• Red Poetry

โดย ศุภโมกข์ ศิลารักษ์

• รับเหมาพเนจร (The Man and the Machine)

โดย เกียรติพงษ์ ลงเย

รางวัลดุ๊ก (ชนะเลิศ)

• เรื่องเล่าของสาวเมืองช้าง (Tales of Elephant Town Ladies)

โดย สุพิชชา รอดอินทร์

รางวัลปยุต เงากระจ่าง (ประกาศนียบัตรชมเชย)

• ผีมีบุญ (Blessed Demon) 

โดย กิชพสิษฐ์ ติณชาติอารักษ์, พีรพัฒน์ สิงห์โตทอง และ ธนโรจน์ ขาวแพร

• “Viimane külastus” การพบพาน…ครั้งสุดท้าย (The Last Visit)

โดย เกวลี วรุตม์โกเมน

• จงสวัสดิ์ (The Announced Tragedy)

โดย ธนัตถ์ รุจิตานนท์

• Little Angel

โดย จิตกาญจน์ อาภาพันธ์  

รางวัลปยุต เงากระจ่าง (รองชนะเลิศ)

• บนถนน เมื่อวันวาน (On the Street) 

โดย ลลิต์ภัทร ชัยพรเฉลิม, พรสวรรค์ อิงอมรรัตน์ และ ศตชลัยย์ ฐิตะไพศาลผล

• Loose Threads 

โดย ชญานิศ สิริไพบูลย์พงศ์ และ เจสซิก้า จูนเนช่า

รางวัลปยุต เงากระจ่าง (ชนะเลิศ)

• เลี้ยงให้โลกรู้ (Sharenting) 

โดย ธนภัทร พ่วงสุวรรณ

รางวัลดิจิทัล ฟอรัม (ประกาศนียบัตรชมเชย)

• เยลลี่ปีโป้ 

โดย ชนิดา ช่วยแก้ว

• The Ugliest Color on Palette Earth

โดย ชัญญา ละอองพันธ์

รางวัลดิจิทัล ฟอรัม (รองชนะเลิศ)

• คาดคะแนน (Stink Cheater) 

โดย ฐานพัฒน์ สวัสดิ์รัมย์

• นางอาย (A Girl Who Walks Alone at Day) 

โดย จตุพล เขียวแสง

รางวัลดิจิทัล ฟอรัม (ชนะเลิศ)

• เราและรอย (Way of Us) 

โดย ชินพัฒน์ สุขจรรยา

รางวัลพิราบขาว

• Pseudo (สงครามสีเทา) 

โดย ชลสิทธิ์ แร่เพชร

รางวัลวิจิตรมาตรา

• ใต้ฝุ่น (Dusting) 

โดย พิริยยุตม์ ตั้งจิตเมตต์ 

• เด็กโขน (Khon Boys) 

โดย พัศรวินทน์ กุลสมบูรณ์

• “Viimane külastus” การพบพาน…ครั้งสุดท้าย (The Last Visit) 

โดย เกวลี วรุตม์โกเมน

• I Want to Believe 

โดย จิตริน วุฒิพันธุ์

รางวัลหนังสั้นขวัญใจมหาชน

• I Want to Believe 

โดย จิตริน วุฒิพันธุ์

รางวัลโฮโดริ

• ห่มผ้า (Maybe This Time) 

โดย เมืองไทย สรุปการ

รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม

• ศรัณย์พร เจริญราษฎร์ จาก The Ugliest Color on Palette Earth 

โดย ชัญญา ละอองพันธ์

อ้างอิง:

• www.facebook.com/ThaiFilmArchivePage/posts/pfbid02vZKaP5kWn5tLWSBN6467xGyK5cj3Zd6xQVzkMkcXRmUXHfrB6cWHnxZBonDQWNrDl
• www.facebook.com/story.php?story_fbid=10161517040140891&id=505195890&mibextid=WC7FNe

The post ภูมิกายา หนังสั้นเรื่องล่าสุดของ สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์ คว้ารางวัลชนะเลิศ รัตน์ เปสตันยี จากเทศกาลภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ 27 appeared first on THE STANDARD.

การปีนป่ายขึ้นไปบนยอดเขาอันสูงชัน 
การปลูกดอกไม้ในที่ที่แสงแดดไม่เคยส่องถึง
การพิสูจน์ความเชื่อภายใต้การดูถูกของใครบางคน

เรากำลังพูดถึงหนังสั้นโฆษณาในโอกาสครบรอบ 40 ปีบางจาก ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ #กระจกกับดอกไม้ หนังที่ให้คุณค่ากับทุกกระบวนการ นับตั้งแต่การคราฟต์ไอเดียมาสู่เนื้อหา ตลอดจนการลงทุนกับโปรดักชันให้ออกมาตระการตาและละเมียดละไมที่สุด  

เพื่อแทนคำบอกเล่าถึงเรื่องราวการเดินทางของแบรนด์บางจาก ก่อนมาถึงวันนี้ ‘บางจาก’ ผ่านอุปสรรคท้าทายและบททดสอบโหดหินไม่ต่างจากฉากต่างๆ ที่เราได้เห็น 

เริ่มต้นจากความฝันอันยิ่งใหญ่

เนื้อหาในช่วงแรกของหนังเล่าเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องถึง เขามีน้องสาวที่นอนป่วยอยู่แต่ในบ้าน วันหนึ่งเมื่อมองเห็นโอกาสที่จะทำให้น้องสาวได้เห็นแสงอาทิตย์ ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขาจึงได้เริ่มต้นขึ้น 

ฝันของเด็กชายสะท้อนถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ของบางจาก มันคือความฝันที่มุ่งไปไกลกว่าแค่การทำกำไรสู่ธุรกิจ แต่ต้องการให้ธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อม 

ปี 2527 หรือในยุคโชติช่วงชัชวาลของไทย บางจากริเริ่มจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ก่อนจะแปรรูปเป็นบริษัทธุรกิจเอกชนในปี 2544 แต่หนทางมาสู่วันนี้ของบางจากไม่ง่าย หากเต็มไปด้วยอุปสรรคท้าทายและถ้อยคำสบประมาทมากมาย ไม่ต่างจากสายตาของชายชราที่มองไปยังเด็กชาย

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า 

“ฉากที่เล่าถึงการเย้ยหยันของคุณลุงคนนั้น สะท้อนถึงสิ่งที่บางจากได้รับมาตลอด นับตั้งแต่วันที่เราแยกตัวเป็นอิสระจากการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่ ช่วงนั้นคนตั้งคำถามกับเราต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น ‘บางจากจะอยู่ได้สักกี่น้ำ’, ‘ภายใน 2-3 ปีก็คงไม่รอดแล้ว’ วันนี้คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าเราไม่ใช่แค่อยู่รอด แต่เรายังมีศักยภาพมากขึ้น”

ขับเคลื่อนความฝันด้วยการลงมือทำ 

เพราะความฝันอยากให้น้องสาวหายป่วยและกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง เด็กชายตัดสินใจแบกกระจกเดินขึ้นไปที่ยอดเขา หวังให้กระจกสะท้อนแสงอาทิตย์มายังหมู่บ้าน 

ในที่สุดเด็กชายก็ไปถึงจุดหมาย กระจกบานนั้นได้สะท้อนแสงลงมาที่หมู่บ้าน เปลี่ยนพื้นที่ที่เคยถูกความมืดปกคลุมให้สว่างสดใสขึ้นทันตา จนชาวบ้านที่เห็นต่างตกใจและประหลาดใจ 

การดำเนินธุรกิจของบางจากที่ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้างลอยๆ แต่ตลอด 4 ทศวรรษ บางจากได้พิสูจน์ให้เห็นผ่านโครงการต่างๆ มากมาย เช่น ปั๊มชุมชน การพัฒนานวัตกรรมพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว และบางจากดีเซล 357 กำมะถันต่ำรายแรกของไทย และการคัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนมาเป็นของสมนาคุณเพื่อความยั่งยืนของเศรษฐกิจชุมชน ฯลฯ 

ถึงวันนี้ ธุรกิจภายใต้แบรนด์บางจาก ไม่ได้พึ่งพาแค่ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน แต่ครอบคลุมไปถึงกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว เป็นส่วนสำคัญในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง และเปลี่ยนแปลงโลกสู่ความยั่งยืน อาทิ ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ฯลฯ 

นับเป็นบทพิสูจน์ของการขับเคลื่อนความฝันให้กลายเป็นจริง ผ่านการลงมือทำด้านความยั่งยืนอย่างเอาจริงเอาจังและเป็นรูปธรรม 

ความยั่งยืนเกิดจากการร่วมมือรวมพลัง 

แม้ความสว่างสดใสจะมาเยือนหมู่บ้าน แต่แสงส่องลงมาได้เพียงครู่เดียวก็ดับลง ก่อนจะกลับไปสู่ความมืดมิดดั่งเดิม 

สะท้อนให้เห็นว่า ความมุมานะพยายามของคนคนหนึ่ง อาจนำพาความสำเร็จมาให้ แต่ความสำเร็จนั้นอาจไม่ใช่ความสำเร็จที่ยั่งยืน เพราะบนยอดเขาที่สูงชันย่อมมีอุปสรรคนานัปการที่ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นลมพัดแรง พายุฝน รวมถึงบริบทแวดล้อมที่ไม่สามารถควบคุมได้ 

คงเปรียบได้กับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ที่การเติบโตเพียงลำพังอาจทำให้เติบโตช้ากว่าการมีพันธมิตรหรือคู่ค้าที่ดี นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของหนึ่งดีลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจพลังงาน 

ความตั้งใจของเด็กชายเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เด็กชายนำทางพาคนในหมู่บ้านเดินไปยังยอดเขา ทั้งหมดร่วมมือกันสร้างกระจกบานใหม่ขึ้นมา กระจกบานใหม่นี้ใหญ่กว่าเดิม และสามารถตั้งสะท้อนแสงไปยังหมู่บ้านได้ 

หมู่บ้านสว่างสดใสตลอดไป ผู้คนในหมู่บ้านสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข และน้องสาวของเขาก็สุขภาพดีขึ้น หายจากอาการป่วย 

บางจากในวันนี้ไม่ได้เดินเพียงลำพัง แต่ได้เติบโตไปพร้อมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม และด้วย ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ อันเป็นหลักคิดที่พนักงานทุกระดับในองค์กรยึดถือร่วมกัน ส่งผลให้ธุรกิจที่เคยถูกสบประมาทกลับมาแข็งแกร่ง มีศักยภาพสูงจนสามารถผนึก Esso เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การ ‘รังสรรค์โลกที่ยังยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว’ ที่นับเป็นความฝันครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม 

ความยั่งยืนคือธรรมชาติ 

การทำหนังโดยย้อนกลับไปเล่าเรื่องในยุคก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการใช้ไฟ ที่เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่รอดด้วยวิถีทางธรรมชาติ รวมถึงการใช้สัญญะอย่างเช่น ดอกไม้ ภูเขา และรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติของเด็กหญิง นอกจากจะเป็นการปักหมุดการพัฒนาธุรกิจที่มุ่งสู่การส่งเสริมธรรมชาติมากขึ้น ยังเป็นการนำเสนอมุมมองที่บางจากมีต่อเทรนด์ ‘ความยั่งยืน’ ที่ทุกวันนี้ไม่มีธุรกิจไหนไม่พูดถึง 

ชัยวัฒน์กล่าวว่า ในทศวรรษที่ 4 บางจากไม่เพียงแต่ขยายศักยภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่ยังมุ่งไปสู่การสร้าง ‘สมดุล’ ของการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ และการสร้างคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยแนวคิด Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สร้างพลังไม่สิ้นสุด 

“บางจากใช้คำว่า Regenerative แทนคำว่าความยั่งยืน เวลาพูดถึงความยั่งยืน หลายคนเข้าใจว่าหมายถึงสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป แต่จริงๆ แล้วเรามองว่า ความยั่งยืนคือธรรมชาติ ที่มีการเกิดขึ้น ผลิบาน คงอยู่ และดับไป นับตั้งแต่มนุษยชาติกำเนิดขึ้นในโลกใบนี้ ธรรมชาติได้สอนถึงสัจธรรมเหล่านี้ให้เราตลอดมา” 

การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบางจากได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจากนี้จะมีการผลิดอกออกผลอย่างไร หรือจะก่อเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในภาคพลังงานไทยอย่างไร เชื่อว่าอีกไม่นาน เราน่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เกิดขึ้น 

รับชมหนังสั้นโฆษณา ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ ได้ทาง https://www.youtube.com/watch?si=nTwGutJbe-pFbWxd&v=EmkWEhC9hjs&feature=youtu.be

The post 4 ทศวรรษ บางจากส่งหนังสั้น สื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ และจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง appeared first on THE STANDARD.

Loewe ได้คว้าตัวผู้กำกับชาวอิตาลีอย่าง Luca Guadagnino มากำกับภาพยนตร์สั้นที่ชื่อว่า I Dreamt of LOEWE สำหรับแฟชั่นโชว์คอลเล็กชัน Spring/Summer 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ 

โดยทาง Jonathan Anderson ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ และผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่อง Call Me By Your Name ได้เดินทางไปถ่ายวิดีโอชุดนี้ที่แกลเลอรี David Zwirner ในมหานครนิวยอร์ก ท่ามกลางนิทรรศการ Echolalia, 2010 ของ Franz West ศิลปินชาวออสเตรีย ที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และอินสตอลเลชันที่ทำจากกระดาษขึ้นรูป (Papier-mâché)

ซึ่งในวิดีโอชุดนี้เราได้เห็นเสื้อผ้าบางชิ้นที่คาดว่าจะได้เห็นจากคอลเล็กชันฤดูร้อนปีหน้า ที่มีทั้งแว่นตากันแดดกลิตเตอร์ เสื้อไหมพรมสีเทา เสื้อเชิ้ตลายทางคอปกสีขาว และรองเท้าบู๊ตเชลซี 

สำหรับ Loewe ภายใต้การนำของ Jonathan Anderson ได้นำคนจากหลากหลายวงการ ทั้งอาหาร ดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ มาร่วมงานทั้งแคมเปญจนถึงร่วมชมแฟชั่นโชว์ โดย Luca Guadagnino ก็เป็นหนึ่งในวงการภาพยนตร์ที่ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษเชิญมาเป็นแขกเมื่อครั้งโชว์คอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 และได้นั่งข่าง Taylor Russell และ Timothee Chalamet สองนักแสดงนำจากเรื่อง Bones and All

ภาพ: Loewe

The post Loewe คว้า Luca Guadagnino มากำกับหนังสั้นสำหรับโชว์ Spring/Summer 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้น appeared first on THE STANDARD.

Cartier ปล่อยแคมเปญนาฬิการุ่น Tank Française พร้อมได้ทั้ง Rami Malek แบรนด์แอมบาสเดอร์ และ Catherine Deneuve มาร่วมเล่นภาพยนตร์สั้นที่ Guy Ritchie เป็นผู้กำกับ

ภาพยนตร์สั้นเล่าเรื่องราวของหนึ่งในนาฬิกาข้อมือตระกูล Tank ที่รวมเอาความเป็นปารีสและฝรั่งเศสเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นฉากของเมืองปารีส แม่น้ำแซน และการระลึกถึงกระแสภาพยนตร์ French New Wave อันโด่งดังจากยุค 1950 ผ่านการหยิบเอาฉากภาพยนตร์ของ Catherine Deneuve นักแสดงดาวค้างฟ้าชาวฝรั่งเศสมาสร้างใหม่ให้เหมือนจริง เช่น The Umbrellas of Cherbourg, Indochine และ Place Vendôme 

โดย Cartier ได้นำนาฬิการุ่น Tank Française ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1996 กลับมาโปรโมตใหม่อีกครั้งในปีนี้ และยังคงเรื่องดีไซน์ที่คลาสสิกของตัวเรือนแบบโมโนบล็อก ทั้งแบบตัวเรือนสตีลและตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ พร้อมตัวเลือกประดับเพชรเพิ่มความหรูหรา

ภาพ: Cartier

The post Cartier ปล่อยแคมเปญนาฬิการุ่น Tank Française ที่ได้ Rami Malek มาเป็นพรีเซนเตอร์ appeared first on THE STANDARD.

ช่วงนี้อย่าแปลกใจหากมีข่าวสารเกี่ยวกับ Taylor Swift ออกมาเรื่อยๆ เพราะนอกจากเธอกำลังเตรียมตัวปล่อยอัลบั้มชุดที่ 10 ในชื่อ Midnights ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ทางซูเปอร์สตาร์วัย 32 ปีก็ยังเดินสายโปรโมตผลงานภาพยนตร์สั้น All Too Well: The Short Film อย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุด Taylor Swift เดินทางไปที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลงานภาพยนตร์สั้นของเธอที่งานเทศกาล Toronto International Film Festival 2022 หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า TIFF 2022 พร้อมได้นางเอกของเรื่องอย่าง Sadie Sink ไปร่วมด้วย ซึ่ง Sadie Sink เดินทางมาจากงาน Venice Film Festival 2022 ที่เธอไปโปรโมตภาพยนตร์ใหม่เรื่อง The Whale ของผู้กำกับ Darren Afonsky ที่แสดงคู่กับ Brendan Fraser

ที่งาน TIFF 2022 Taylor Swift ได้พูดคุยหลายประเด็นเกี่ยวกับ All Too Well: The Short Film ไม่ว่าการได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าสุดคลาสสิกยุค 70 อย่าง Love Story, Kramer vs. Kramer และ The Way We Were เป็นต้น พร้อมยังเผยเหตุผลว่าเธอใช้เวลากว่า 10 ปีในการรอที่จะสร้างและกำกับเรื่อง All Too Well: The Short Film เพราะเนื้อหาของเพลง All Too Well มีผลกระทบต่อจิตใจเธออย่างมาก ถึงขั้นที่เธอรู้สึกอึดอัดที่จะแสดงในคอนเสิร์ตของตัวเอง

อีกหนึ่งประเด็นที่ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กันคือ Taylor Swift บอกว่าวันหนึ่งเธออยากกำกับภาพยนตร์ใหญ่เป็นของตัวเองหากมีโอกาส

“ฉันชอบเดินไปข้างหน้าแบบก้าวเล็กๆ แต่ฉันก็รู้ว่าก้าวต่อไปในด้านนี้คงไม่เล็กอีกต่อไป ซึ่งก้าวนั้นก็คือการทำหนังใหญ่ หากฉันได้รับโอกาสและมาในช่วงเวลาที่ใช่ในชีวิตของฉัน ฉันก็อยากกำกับหนังของตัวเองอย่างมาก เพราะว่าการเล่าเรื่องราวผ่านการกำกับเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์อย่างมาก” Taylor Swift กล่าวขณะพูดคุยกับ Cameron Bailey ซีอีโอของเทศกาล TIFF

ส่วนแนวภาพยนตร์ที่ Taylor Swift สนใจกำกับ ยังคงเป็นเรื่องดราม่าที่สะท้อนอารมณ์ของมนุษย์ เพราะการจะทำภาพยนตร์แอ็กชันคงไม่เหมาะกับเธอ เธอเผยแบบติดตลก

ภาพ: Amy Sussman / Getty Images

อ้างอิง:

• https://variety.com/2022/music/news/taylor-swift-direct-movies-all-too-well-1235366294/

The post Taylor Swift ไปโปรโมต All Too Well: The Short Film ที่ TIFF 2022 กับ Sadie Sink พร้อมเผยอยากกำกับหนังใหญ่ appeared first on THE STANDARD.

เมื่อวันที่ 3-4 กันยายนที่ผ่านมา THE STANDARD ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมรับชมหนังสั้นโครงการ Deep South Young Filmmaker เยาวชนสร้างหนัง หนังสร้างคน รุ่นที่ 2 โดยโครงการนี้เริ่มต้นช่วงปี 2561 มุ่งหวังที่จะพัฒนาและสนับสนุนเยาวชนอายุตั้งแต่ 15-25 ปีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้สามารถสะท้อนและบอกเล่าเรื่องราวที่พวกเขาต้องการนำเสนอผ่านกระบวนการการเรียนรู้การผลิตภาพยนตร์หรือหนังสั้นอย่างสร้างสรรค์

และยังมีการอบรมที่เข้มข้นโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากแขนงต่างๆ ของวงการภาพยนตร์ไทย นับตั้งแต่การเขียนบท การผลิต ไปจนถึงขั้นตอนโพสต์โปรดักชัน เพื่อให้ภาพยนตร์เสร็จสมบูรณ์อย่างมีคุณภาพ โดยผลงานของเยาวชนที่ผ่านการอบรมจากรุ่นที่ 1 จำนวน 10 เรื่อง ได้รับการเผยแพร่ทั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และพื้นที่อื่นๆ ในประเทศ และบางเรื่องได้ถูกคัดเลือกไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ

โดยโครงการรุ่น 2 ตั้งแต่ช่วงปี 2564 ได้คัดเลือกเยาวชนหน้าใหม่เข้ามาร่วมอบรม 10 ทีม โดยผ่านกระบวนการอบรมและการผลิตภาพยนตร์ แต่ที่เพิ่มเติมมาคือ ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนที่เคยผ่านการอบรมจากรุ่นที่ 1 จำนวน 1 ทีม ได้ต่อยอดการผลิตภาพยนตร์สั้นในระดับที่พัฒนามากขึ้น ภายใต้การดูแลและแนะนำโดยผู้กำกับมืออาชีพที่มีชื่อเสียง

ผลผลิตของโครงการทำให้ได้ภาพยนตร์สั้นทั้งหมด 11 เรื่อง ซึ่งถือเป็นความพยายามในการนำเสนอผลงานของเยาวชนจากพื้นที่ใต้สุดของด้ามขวาน ที่คนส่วนใหญ่นอกพื้นที่แทบจะละเลยการรับรู้หรือได้รับรู้ข้อมูลที่น้อยนิด ทว่าภาพยนตร์เหล่านี้ได้เป็นประจักษ์พยานของความเป็นไปของเยาวชนในพื้นที่ ที่มีความฝัน ความหวัง และความปรารถนา ไม่ต่างจากเยาวชนที่อื่นๆ ในประเทศและในโลกนี้

สำหรับภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการนี้คือเรื่อง ฮิญาบ (Hijab) หรือ ผ้าคลุมผม โดยบอกเล่าเกี่ยวกับหญิงสาววัย 25 ปี ทำงานที่ประเทศมาเลเซียมาหลายปี แต่เพราะสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องกลับมาหางานที่บ้านเกิดฝั่งไทย ซึ่งเธอต้องหาช่องทางเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูแม่ และน้องสาวที่กำลังเรียนต่อมหาวิทยาลัย จนเธอได้เจองานที่รายได้ดี แต่มีเงื่อนไขว่าเธอนั้นต้องยอมแลกกับการไม่ได้ใส่ผ้าคลุมผม ซึ่งสะท้อนถึงสิทธิเสรีภาพในการแต่งกายตามหลักความเชื่อที่รัฐธรรมนูญได้รับรองไว้

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์อีก 10 เรื่องที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

• หมาป่า (Wolf)

• เดอะ โรตี (The Roti)

• ส่วนต่าง (Downstairs)

• แวรุงเมกา (Waerung Meca)

• ข้าวต้มผ้าแดง (The Red Cloth)

• สิ่งสำคัญ (The Essentials)

• นิกะฮ โปรดบอกรักฉันเมื่อเวลานั้นมาถึง (Nikah – My Love, Your Marriage)

• กระดานความฝัน (DREAM BOARD)

• ลูกรักไม่ยักรู้ (Son’s secret)

• หนึ่งย่างก้าว (SETAPAK MELANGKAH)

กำหนดการฉายเปิดตัวภาพยนตร์สั้นทั้ง 11 เรื่องมีขึ้นในวันที่ 3-4 กันยายนที่ผ่านมา ที่หอประชุมคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และจะทยอยฉายตามพื้นที่ต่างๆ ดังนี้

• วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2565: โรงภาพยนตร์ SFX Cinema Maya เชียงใหม่ เวลา 13.00-17.30 น.
• วันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2565: โรงภาพยนตร์ SF World Cinema CentralWorld กรุงเทพฯ เวลา 13.00-17.30 น.
• วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2565: โรงภาพยนตร์ โคลีเซี่ยม ซีนีเพล็กซ์ ยะลา เวลา 13.00-18.00 น.

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชมภาพยนตร์ชุดนี้ได้ตามวันและเวลาข้างต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

The post 11 หนังสั้นจากเยาวชนชายแดนใต้ ภาพสะท้อนความฝัน ที่มองข้ามผ่านความรุนแรง appeared first on THE STANDARD.