Anytime Fitness Asia แฟรนไชส์ฟิตเนสชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดสาขาที่ 400 อย่างเป็นทางการที่อาคาร Exchange Tower ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย 

Anytime Fitness สาขา Exchange Tower มีอุปกรณ์ครบครันจาก Technogym และยังมีเทคโนโลยี Crowd DJ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังงานแห่งเสียงเพลงภายในคลับ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการออกกำลังกาย

Ryan Cheal ซีอีโอของ Anytime Fitness Corporate กล่าวว่า “ที่ Anytime Fitness เราเป็นมากกว่าฟิตเนส เราเป็นชุมชนที่มุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ด้วยสมาชิกที่มีมากกว่า 325,000 คนที่ร่วมเดินทางไปกับเรา 

“ในขณะที่เราฉลองการเปิดสาขาที่ 400 เราก็ตื่นเต้นที่จะดำเนินการขยายและเติบโตต่อไปในเอเชีย เพื่อช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่สุขภาพดีขึ้น” 

ตามที่ได้กล่าวไว้ในประเทศไทยนั้น Anytime Fitness มุ่งมั่นที่จะนำเสนอสถานที่ที่เป็นมากกว่าพื้นที่การออกกำลังกาย โดยสมาชิกจะเข้าถึงเครื่องมือฟิตเนสที่ล้ำสมัย ผู้ช่วยฝึกสอนส่วนบุคคล และแอปพลิเคชัน AF ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งมีแผนการออกกำลังกายที่ปรับแต่งได้อย่างชาญฉลาดให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล และการติดตามความก้าวหน้า 

สมาชิกยังสามารถเข้าถึงเครือข่ายทั่วโลกที่มีสาขามากกว่า 5,500 แห่ง และแบรนด์ยังส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมผ่านชุมชนที่เป็นมิตรและคลาสที่หลากหลาย มอบประสบการณ์ที่มากกว่าฟิตเนสแบบดั้งเดิม

เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสาขาที่ 400 Anytime Fitness จัดกิจกรรมเพื่อชุมชนด้วยการท้าทายฟิตเนสและการออกกำลังกาย โดย Red Bull มอบความบันเทิงและดนตรีที่สร้างพลังให้กับบรรยากาศ ขณะที่ Les Mills จะเป็นผู้นำการอบอุ่นร่างกายที่มีชีวิตชีวา และทุกคนจะได้สัมผัสกับของว่างเพื่อสุขภาพจาก getfresh ด้วย

The post Anytime Fitness แฟรนไชส์ฟิตเนสชั้นนำ เปิดสาขาที่ 400 ในกรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

สำหรับ Miley Cyrus แล้ว เธอสามารถซ้อมการแสดงบนเวทีได้อยู่เสมอ โดยล่าสุดเธอเผยว่า เธอใส่รองเท้าส้นสูงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส ซึ่งนับเป็นการซ้อมอย่างหนึ่ง

Miley Cyrus ให้สัมภาษณ์ผ่าน W Magazine ถึงประเด็นเรื่องนี้ว่า “คติประจำใจของฉันก็เหมือนกับนักกีฬาทั่วไป นั่นคือ ‘ฝึกซ้อมเหมือนตอนแสดงจริง’ และมันคือเหตุผลที่ฉันซ้อมกับรองเท้าส้นสูง การใส่รองเท้าส้นสูงเข้าฟิตเนสดูยากเอามากๆ แต่หลังจากนั้นฉันก็ไปได้รองเท้าที่มีสายรัดส้นแบบ Slingback สีงาช้างของ Gucci มา เพราะมันทำให้ฉันนึกถึง Marilyn Monroe

“ส่วนใหญ่แล้วฉันออกกำลังกายบนรองเท้าส้นสูงนั่นแหละ ฉันมีความสนใจในการทำให้พื้นที่ออกกำลังกายมีกลิ่นอายความเป็นผู้หญิงมากขึ้น เพราะอุปกรณ์ออกกำลังกายส่วนใหญ่ดูน่าเกลียดจะตาย”

Miley Cyrus พูดถึงบุคลิกและอีกหนึ่งตัวตนของตัวเองที่เธอสร้างขึ้นสำหรับการแสดงบนเวที ซึ่งไม่ต่างกับศิลปินรุ่นใหญ่คนสนิทอย่าง Dolly Parton ผู้เป็นแม่ทูนหัวของเธอด้วย และ Beyoncé ที่เพิ่งจะได้ร่วมงานกันในเพลง II MOST WANTED จากอัลบั้มแนวคันทรี Cowboy Carter ที่มีตัวตนบนเวทีเช่นเดียวกัน

“ฉันว่ามันเป็นสิ่งที่น่ารักมากๆ ในความสัมพันธ์ของเรา เพราะช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฉันปกป้องความเป็นส่วนตัว และสิ่งที่ฉันเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเข้มข้น และ Beyoncé ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ของพวกเราคือความปลอดภัยที่มีระหว่างกัน การเขียนเพลงหรือการทำงานเป็นพาร์ตเล็กๆ ในความสัมพันธ์กับเธอ รวมไปถึง Dolly ด้วย อีกตัวตนของเรามีความสัมพันธ์ต่อกัน และตัวเราจริงๆ ก็มีอีกความสัมพันธ์ต่อกันด้วย และฉันรักสิ่งนั้นมาก”

ภาพ: Kevin Winter / Getty Images for The Recording Academy

อ้างอิง: 

• https://people.com/miley-cyrus-says-she-wears-heels-to-the-gym-8657294

The post Miley Cyrus ชอบใส่รองเท้าส้นสูงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส เพราะอยากให้พื้นที่มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น appeared first on THE STANDARD.

เราเชื่อว่าสายฟิตตัวจริงจะได้เคยได้ยินชื่อเสียงอันเลื่องลือของ Les Mills ผู้คิดค้นโปรแกรมคลาสออกกำลังกายที่ถูกนำไปใช้ในยิมชั้นนำทั่วโลก โดยมีจุดเด่นที่รูปแบบการออกกำลังที่ได้มาตรฐานประกอบกับดนตรีสนุกเร้าใจ โดยต้นปีที่ผ่านมานี้เอง Les Mills ยังได้ประกาศจับมือกับ adidas ผนึกกำลังความแกร่งโดยการนำเสนอยุคใหม่ของวงการฟิตเนส ด้วยนวัตกรรมและประสบการณ์การออกกำลังกายที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่คอมมูนิตี้ adidas อีกทั้งสร้างแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในการออกกำลังกาย ซึ่งหนึ่งในโปรเจกต์ที่ได้เกิดขึ้นแล้วคือ ‘LES MILLS LIVE Global Tour’ 

EMBED

What is it?

LES MILLS LIVE Global Tour คือทัวร์คลาสออกกำลังกายระดับโลกที่เปิดโอกาสให้เหล่าสายฟิตตัวจริงได้มารวมตัวระเบิดความมัน เบิร์นแคลอรีกันอย่างเต็มที่ งานนี้ LIFE มีโอกาสได้เดินทางร่วมกับ adidas ประเทศไทยไปประเดิมความมันกันครั้งแรกที่สิงคโปร์ในวันที่ 3-4 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมถือโอกาสพิสูจน์ชุดออกกำลังกายใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชัน FW23 Training, be supported ในกลุ่ม HIIT Training ที่รองรับกับทุกความเข้มข้นของการออกกำลังกาย พร้อมให้ความรู้สึกใส่สบาย มอบผิวสัมผัสเย็นด้วยเทคโนโลยี HEAT.RDY และยังผลิตจากกลุ่มวัสดุรีไซเคิลเพื่อช่วยยุติปัญหาขยะพลาสติกอีกด้วย

สิ่งที่สะดุดตาเป็นอันดับแรกคือสีเขียวสดใสที่แค่เห็นก็มีแรงจูงใจในการออกกำลังแล้ว ตัวสปอร์ตบราถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูงโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น HIIT หรือชกมวย ให้ความกระชับแน่น คล่องตัว 

Tailored Impact Luxe Training High-Support Bra (2,300 บาท) 

ต่อกันที่กางเกงขาสั้นสี Wonder Silver ที่แมตช์กับสีของสปอร์ตบราอย่างลงตัว ตัวผ้ามีความเบาสบาย และยังถูกออกแบบมาอย่างเข้าใจผู้หญิงด้วยการเสริมกางเกงรัดรูปในตัว ให้การปกปิดตลอดเวลาที่ทำกิจกรรม

HIIT HEAT.RDY 2-in-1 Shorts (1,600 บาท)

ใครที่ชอบออกกำลังกลางแจ้งคงจะรู้ดีว่าหมวกเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะในสภาพอากาศช่วงนี้ สำหรับคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดนี้ก็มีหมวกแก๊ปที่ค่อนข้างตอบโจทย์ ด้วยคุณสมบัติการระบายอากาศได้ดี ไม่เหนอะหนะศีรษะ ให้สัมผัสเย็นสบายระหว่างทำกิจกรรม ที่สำคัญคือน้ำหนักเบามาก 

3-Panel HEAT.RDY Training Running Sport Cap (900 บาท)  

สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนมองข้ามเวลาออกกำลังกายคือถุงเท้า ยิ่งถ้าเน้นออกกำลังกายที่เน้นการเคลื่อนไหวเยอะ มีความเข้มข้น ยิ่งควรเลือกถุงเท้าที่ช่วยซัพพอร์ต ซึ่งถุงเท้าหุ้มข้อรุ่นใหม่นี้ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยี FORMOTION ที่แทบจะไม่ใช้ตะเข็บ และถุงเท้าแต่ละข้างยังถูกออกแบบเฉพาะตามสรีระของเท้าข้างซ้าย-ขวาอีกด้วย

Performance Designed for Sport Ankle Socks (500 บาท)

ในส่วนของรองเท้าที่เราได้ร่วมพิสูจน์ในทริปนี้เป็นรุ่น Dropset Trainer ตอบโจทย์สำหรับการออกกำลังกายประเภทเทรนนิ่งโดยเฉพาะ ด้วยพื้นรองเท้าที่ให้ความมั่นคง วางได้เต็มเท้า ซึ่งแตกต่างกับคุณสมบัติของรองเท้าวิ่งที่บางรุ่นจะมีส่วนเว้า หรือปลายเท้าที่เชิดขึ้นจากพื้นเพื่อวิ่งทำความเร็ว  

Dropset Trainer (4,300 บาท)

Try

ทันทีที่ก้าวเข้าฮอลล์ออกกำลังก็สัมผัสได้พลังความฮึกเหิมของผู้คนนับร้อยชีวิต จนอดที่จะคิดไม่ได้ว่านี่คือคอนเสิร์ตชัดๆ คลาสแรกที่เราเข้าคือ BODYPUMP ซึ่งเป็นการออกกำลังในรูปแบบยกน้ำหนัก โดยจะมีอุปกรณ์เป็นบาร์เบล แผ่นน้ำหนัก และสเต็ปร่วมด้วย ถือเป็นคลาสที่คุณจะได้บริหารกล้ามเนื้อครบทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่ขา สะโพก อก แขน ไหล่ หลัง หน้าท้อง

ระหว่างที่คลาสดำเนินไปเหล่า Instructor ก็จะคอยบิลด์เหล่าผู้เล่นทุกคนให้ใส่พลังอย่างเต็มที่ ซึ่งบอกเลยว่าถ้าใส่เต็มสามารถเบิร์นพลังงานได้สูงถึง 500 แคลอรีเลยทีเดียว

อีกคลาสที่เราเข้าร่วมคือ LES MILLS TONE ที่ให้จุดประสงค์ ‘โทนกล้ามเนื้อ’ สมชื่อจริงๆ ด้วยการผสมผสานการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ แรงต้าน และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลาง 

คลาสนี้ใช้อุปกรณ์เพียงแค่แผ่นน้ำหนัก ที่เหลือคือตัวและหัวใจล้วนๆ ใครที่ชอบการได้ออกกำลัง HIIT แบบ Total Body จะต้องชอบคลาสนี้อย่างแน่นอน เพราะคุณจะได้เจอทั้งการ Squat, Burpee, Lunge กระโดดไปมา เรียกว่าได้ขยับตัวคุ้ม 

Result

เป็นประสบการณ์ออกกำลังกายในบรรยากาศใหม่ที่สนุก เร้าใจ แถมได้เบิร์นแบบเน้นๆ ไปด้วย ราวกับ Workout Concert ในส่วนของชุดออกกำลังกาย ด้วยสถานที่ออกกำลังกายที่ไม่ได้มีห้องอาบน้ำอำนวยความสะดวก และความที่ต้องเข้าสองคลาสในวันเดียว ก็มีความกังวลเล็กน้อยว่าชุดจะแห้งทันก่อนเดินทางกลับไปเช็กเอาต์ที่โรงแรมไหม สรุปว่าแห้งทันและไวจริงๆ

ตัวรองเท้า Dropset สามารถช่วยซัพพอร์ตขณะยกเวตได้ดีมาก มีความเกาะพื้น สร้างบาลานซ์ได้ดี ส่วนการเคลื่อนไหวอื่นๆ ก็สามารถทำได้อย่างคล่องตัว ไม่รู้อึดอัดชุดที่สวมใส่แต่อย่างใด

Good For

ใครที่เป็นสายฟิตอยู่แล้ว เราอยากลองให้มาสัมผัสคลาสออกกำลังกายสเกลใหญ่ระดับโลกแบบนี้สักครั้ง การได้มาอยู่ท่ามกลางเหล่าคนที่มีแพสชันเหมือนกันจะยิ่งปลุกเร้าให้คุณสนุกกับการออกกำลังมากขึ้น เผลอๆ จะได้เพื่อนใหม่กลับไปด้วย 

สำหรับเมืองที่ LES MILLS LIVE จะเดินทางต่อไปคือลอสแอนเจลิส วันที่ 28-30 กรกฎาคม ตามด้วยสตอกโฮล์ม, เอเยียนาปา ไซปรัส ฯลฯ โดยใครสนใจสามารถติดตามรายละเอียดตารางทัวร์ได้ทางเว็บไซต์  

Budget: LES MILLS LIVE เริ่มต้นที่ 50 ดอลลาร์ต่อคลาส, ชุดออกกำลังกาย adidas เริ่มต้นที่ 1,100 บาท 

Website: https://www.lesmills.com/live/, https://www.adidas.co.th/

Facebook: https://www.facebook.com/adidasTH

ภาพ: Courtesy of the Brand

The post adidas x Les Mills จัดเวิลด์ทัวร์คลาสออกกำลังกายสุดยิ่งใหญ่แห่งปี appeared first on THE STANDARD.

เป็นที่รู้กันว่าการสร้างกล้ามเนื้อเหมือนเป็นการสร้างกำไรให้แก่ร่างกาย ทั้งประโยชน์ในด้านความแข็งแรง เพิ่มระบบการเผาผลาญ ช่วยให้กระดูกและข้อต่อต่างๆ แข็งแรง เคลื่อนไหวได้ดี ลดอาการบาดเจ็บ และยังช่วยให้รูปร่างดูฟิตกระชับอีกด้วย แน่นอนว่าการจะได้มาซึ่งกล้ามเนื้อนั้นก็ต้องแลกมาด้วยโภชนาการที่ถูกหลักควบคู่กับการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นพอ ซึ่งถ้าการเข้ายิมยกเวตกระจกคนเดียวมันเหงาหรือน่าเบื่อเกินไป เราอยากแนะนำให้ไปลองเช็กอินกรุ๊ปคลาสที่ F45 

What is it?  

F45 คือยิมที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในออสเตรเลียเมื่อปี 2011 และปัจจุบัน ได้เติบโตจนมีแฟรนไชส์กว่า 1,700 สาขาทั่วโลก ซึ่งที่กรุงเทพฯ มีอยู่สองสาขา คือที่อโศกและสีลม ที่ตึก Mahanakhon CUBE

ส่วนที่มาของชื่อ F นั้นมาจากคำว่า ‘Functional Training’ ซึ่งหมายถึงการออกกำลังที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อและข้อต่อหลายส่วนของร่างกายไปพร้อมกัน ในขณะที่ ‘45’ คือจำนวนนาทีที่ใช้ในการออกกำลังกายทั้งหมด 

รูปแบบคลาสออกกำลังกายของที่นี่จะเป็นสไตล์ HIIT (High-intensity Interval Training) หรือการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงในระยะเวลาสั้นๆ สลับกับการพัก โดยจะมีคลาสให้เลือกตามจุดประสงค์ของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็น Cardio ที่เน้นเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบการไหลเวียนเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอด, Resistance การออกกำลังแบบมีแรงต้านด้วยอุปกรณ์ต่างๆ และ Hybrid ที่เป็นการผสมผสานการออกกำลังกายทั้งสองรูปแบบ 

ซึ่งที่ F45 จะแบ่งจุดประสงค์ของคลาสแบบแยกวันชัดเจน เช่น คาร์ดิโอทุกวันพุธ เวตเทรนนิ่งทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และอาทิตย์ เป็นต้น

Try 

ในส่วนของคลาสที่เราเลือกมาชาเลนจ์ตัวเองในครั้งนี้คือ Titan คลาสออกกำลังในรูปแบบ Resistance ด้วยโปรแกรมบริหารช่วงล่าง (Lower Body) ซึ่งอีกจุดเด่นของที่นี่คือโปรแกรมการออกกำลังทั้งหมดจะถูกออกแบบโดย F45 โดยตรงเพื่อมาตรฐานระดับสากล โดยเริ่มแรกจะมีการสาธิตท่าออกกำลังให้ดูตามแต่ละสถานี และยังมีในรูปแบบคลิปวิดีโอขึ้นจอตลอดคลาสด้วยเช่นกัน

ชวนให้นึกถึงการเปิดคลิปออกกำลังกายที่บ้าน แต่เป็นการออกในที่ที่อุปกรณ์ครบครัน ได้พบเพื่อนสายเดียวกัน และที่สำคัญคือมีโค้ชคอยให้คำแนะนำอยู่ด้วย

พื้นที่ในยิมถูกแบ่งออกเป็น 9 สถานี พร้อมอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น Barbell, Dumbbell, Kettlebell, Resistance band, Rubber Medicine Ball เป็นต้น และความที่เป็น Functional Gym ท่าที่เราเจอก็ล้วนโดนกล้ามเนื้อหลายส่วนจริงๆ แต่จะร้าวช่วงล่างเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Sumo Squat to High Pull, Single Leg Hip Thrust, Dumbbell Front Lunge/Side Lunge, Deadlift, Double Kettlebell High Pull ฯลฯ

ระยะเวลาการเล่นของแต่ละท่าและการพักจะอิงตามโปรแกรมที่เราเห็นในจอ 100% โดยจะเวียนเปลี่ยนสถานีตามแถวตอน เมื่อเวียนครบแถวก็จะให้พักนานขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อจิบน้ำ ซับเหงื่อ ก่อนที่จะขยับไปลุยต่อในสถานีแถวถัดไป ขณะที่เล่นในแต่ละสถานีก็จะมีโค้ชคอยเดินเข้ามาแนะนำฟอร์มที่ถูกต้องและปลุกพลังให้เราฮึกเหิมฮึดสู้ ก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเองอยู่เป็นระยะ

Result  

แม้จะไม่ใช่การออกกำลังในรูปแบบคาร์ดิโอ แต่ก็ทำเอาอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) และอะดรีนาลีนสูบฉีดได้ไม่เบา ด้วยความที่มีช่วงเวลาพักระหว่างเซ็ตน้อย และต้องเรียกว่าสมเกียรติกับชื่อคลาส Titan ที่เน้นบริหารช่วงล่างจริงๆ เพราะแต่ละท่าในโปรแกรมคือโดนทุกจุด เน้นทุกอณูของกล้ามเนื้อขา ก้น สะโพก

ซึ่งการได้ลองกระบวนท่าที่แตกต่างกันไปในแต่ละสถานีทำให้เราสัมผัสได้ทันทีว่ากล้ามเนื้อส่วนไหนที่เราแข็งแรงดีหรือยังต้องพัฒนา และต่อให้ทุกอย่างจะจบลงใน 45 นาที แต่ความร้าวของกล้ามเนื้อช่วงล่างนี้ยังคงอยู่ยงติดตัวเราไปถึง 3 วันเลยทีเดียว

Good For 

ต่อให้คุณจะเป็นมือใหม่ออกกำลังกายก็ยังสามารถเล่นได้ทุกคลาสของ F45 เพราะที่นี่วางคอนเซปต์ไว้สำหรับผู้เล่นทุกระดับ หากสังเกตในคลาสจะมีน้ำหนักให้เลือกหลากหลาย หรือจริงๆ จะไม่ใช้อุปกรณ์เลยก็ยังได้  

และด้วยความที่มีการแบ่งจุดประสงค์ของคลาสไว้ชัดเจนตามแต่ละวัน คุณสามารถเซ็ตเป็นรูทีนออกกำลังประจำสัปดาห์ของตัวเองไว้ได้เลย และก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อหรือเจอท่าออกกำลังซ้ำๆ เพราะรูปแบบของโปรแกรมในคลาสจะเปลี่ยนไปในทุกสัปดาห์ 

สรุปได้ว่าถ้าคุณชอบการออกกำลังแบบ HIIT Training เน้นบริหารกล้ามเนื้อหลายๆ ส่วน และอยากได้สังคมเพื่อนใหม่สายฟิต F45 คือคำตอบ

ทาง F45 ยังกระซิบบอกเราอีกว่า ในอนาคตทางยิมจะมีการพัฒนาคลาสรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลาสที่ได้แรงบันดาลใจจากอเมริกันฟุตบอล มีทั้งแนวรุกแนวรับที่มีการผสมผสานเวตเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ หรือคลาสที่ชาเลนจ์ขีดจำกัดขั้นสุดด้วยการพักเพียง 5 วินาทีระหว่างเซ็ต หากใครอยากลองพิสูจน์ความฟิตของตัวเอง ทางสาขาสีลมก็มีให้ทดลองเข้าคลาสโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย โดยสามารถสอบรายละเอียดกับทางสาขาได้โดยตรง

Information

Open: F45 สาขาสีลม เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-20.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น.

Address: Mahanakhon CUBE, B1 Floor 

Budget: Drop-in 700 บาทต่อคลาส, 3 คลาสเริ่มต้นที่ 1,800 บาท, Unlimited 1 เดือน เริ่มต้นที่ 4,900 บาท

Tel: 08 2435 0305 

Website: https://f45training.in.th/ 

Instagram: https://www.instagram.com/f45_training_silom/

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์

The post ระเบิดพลังขาบิลด์กล้ามปั้นก้นกับคลาส Titan 45 นาที ที่ F45 appeared first on THE STANDARD.

หนึ่งในเทรนด์ที่น่าจับตามองสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเราคือการแตกมาสู่ธุรกิจใหม่ๆ ล่าสุด AP Thailand ประกาศเปิดตัว ‘FitFriend เทรนเนอร์เดลิเวอรี่’ 

“เราได้ค้นหาช่องว่างตลาดใหม่ โดยจะนำทรัพยากรที่มีไปบ่มฟักเพื่อต่อยอดสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถนำกลับมาสนับสนุนธุรกิจในระยะยาวแบบองค์รวม” วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี ไทยแลนด์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• เมื่อลูกค้าชินกับการออกกำลังกายที่บ้าน ‘Fitness First’ พลิกกลยุทธ์รอบด้าน ปั้นคลาสส่วนตัว ลดราคาเพื่อดึงให้กลับมาที่ฟิตเนส 
• สรุปประเด็น ทำไม CEO ผู้ปลุกปั้น ‘Peloton’ ที่ได้ฉายา Apple แห่งวงการฟิตเนส จึงถูกผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งในทันที 
• เอพี (ไทยแลนด์) เลือก ‘ก้อง สหรัถ’ มานั่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ครั้งแรกของ ‘บ้านกลางเมือง’ เพื่อรีเฟรชแบรนด์ในรอบ 20 ปี 

วิทการระบุว่า การต่อยอดนี้จะเกิดขึ้นทั้งในมิติธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบใหม่ๆ หรือเพื่อเสริมธุรกิจอื่นๆ ในเครืออย่าง สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ (SMART) หรือ บางกอกซิตี้สมาร์ท (BC) พร็อพเพอร์ตี้โบรกเกอร์แบบครบวงจร เป็นต้น 

ล่าสุด AP ได้เปิดตัว ‘FitFriend เทรนเนอร์เดลิเวอรี่’ อย่างเป็นทางการ ซึ่งในปีที่ผ่านมา FitFriend มีคนใช้บริการมากกว่า 6,000 คลาส ปัจจุบันมีเทรนเนอร์อยู่ในระบบมากกว่า 100 คน

FitFriend นอกจากจะให้บริการแก่บุคคลทั่วไปผ่านระบบ LINE Official: FitFriend แล้ว วันนี้ FitFirend ยังสเกลอัพไปเป็นอีกหนึ่งเซอร์วิส ภายใต้การบริหารจัดการของสมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ เพื่อให้บริการแก่ลูกบ้านที่สมาร์ทบริหารจัดการกว่า 370 โครงการอีกด้วย

“เรามองเห็นโอกาสจากการที่คนไม่อยากเดินทาง และมีเครื่องออกกำลังกายที่บ้านหรือคอนโดมิเนียมอยู่แล้ว แต่อยากได้ผู้เชี่ยวชาญมาสอน ซึ่งราคาของเราเฉลี่ยอยู่ที่ครั้งละ 1,000 บาท ปีที่แล้วยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนที่ 8 แสนบาท ปีนี้ต้องการขยับเป็น 1-1.5 ล้านบาทต่อเดือน” วิทการกล่าว 

Economic Intelligence Center ของธนาคารไทยพาณิชย์ออกบทความที่วิเคราะห์ว่า ธุรกิจฟิตเนสก็กำลังถูกดิสรัปต์จากเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนออกกำลังกายที่บ้านได้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วมักถูกกว่าราคาสมาชิกรายเดือนของฟิตเนสหลายแห่ง

นอกจากนี้ยังไม่ชัดเจนว่าผู้คนจะกลับไปออกกำลังกายตามปกติได้เร็วแค่ไหนเมื่อฟิตเนสและสตูดิโอออกกำลังกายต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดใหม่หลังการระบาดของโควิด อีกทั้งการหาสมาชิกใหม่ยากขึ้นด้วยภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว

ขณะที่เทรนเนอร์หลายคนมีการปรับตัวโดยการไปสอนตามบ้านเพื่อหารายได้เสริมในช่วงสถานการณ์โควิด ซึ่งการสอนส่วนตัวตามบ้านจะทำให้ลูกค้าจ่ายเงินน้อยกว่า และเทรนเนอร์ได้เงินมากกว่าเพราะไม่ต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับฟิตเนส

อีกสิ่งที่น่าจับตาคือยังไม่ชัดเจนว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อผู้บริโภคลงทุนในอุปกรณ์และปรับการออกกำลังกายเพื่อให้สอดรับกับอุปกรณ์ที่มีอยู่ที่บ้านแล้ว ผู้บริโภคเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะยกเลิกสมาชิกฟิตเนสไป โดยเฉพาะคนที่ลงทุนในอุปกรณ์ราคาสูง เช่น จักรยาน ลู่วิ่ง หรือชุดอุปกรณ์ยกน้ำหนัก 

และผลการสำรวจยังพบว่าคนไทยเป็นสมาชิกฟิตเนสคลับเพียง 0.5% หรือประมาณ 350,000 คน จากประชากรทั้งหมด ยังไม่รวมกับคนที่ออกกำลังกายตามสวนสาธารณะอีก 1% หรือประมาณ 700,000 คน แน่นอนว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำมาก และเป็นเหตุผลให้ธุรกิจฟิตเนสในไทยกลับมาเติบโตได้ช้า

ไม่แน่ชัดว่ามูลค่ารวมของตลาดฟิตเนสในไทยอยู่ที่เท่าไรกันแน่ แต่มีการประเมินว่าอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีผู้เล่นในตลาดนี้หลักๆ ได้แก่ Fitness First, Jetts, Fitness24Seven และ Anytime Fitness

อ้างอิง:

• https://www.scbeic.com/th/detail/product/6769 

The post ธุรกิจฟิตเนสถูกดิสรัปต์ หลังคนออกกำลังกายที่บ้านมากขึ้น AP มองเป็นช่องว่างต่อยอดธุรกิจอสังหาสู่ ‘FitFriend เทรนเนอร์เดลิเวอรี่’ เฉลี่ยครั้งละ 1,000 บาท appeared first on THE STANDARD.

ดูเหมือนเทรนด์ออกกำลังและแฟชั่นกำลังมาแรงจริงๆ 

The Standard, Bangkok Mahanakhon ซิตี้โฮเทลไวบ์สนุกที่เพิ่งเปิดบ้านไปได้ไม่นาน ล่าสุดเปิดตัวยิมอย่างเป็นทางการแล้ว ภายใต้ชื่อ ‘The Standard Gym’ ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของอาคาร รายล้อมด้วยธรรมชาติและวิวเมือง ที่สำคัญยิมดีไซน์สวย เปิด 24 ชั่วโมง และมีอุปกรณ์ทันสมัย

การตกแต่งด้านในยังคงเต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นกายแบบเรโทร มีพื้นที่เปิดโล่ง ผนังกรุกระจกรับแสงธรรมชาติ พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายสุดทันสมัยจากแบรนด์ TechnoGym และเครื่อง CLMBR (ไคล์มเบอร์) แห่งแรกในประเทศไทย เครื่องปีนเขาสายพันธุ์ใหม่ที่รวมเอาการฝึกคาร์ดิโอและการฝึกกล้ามเนื้อเข้าด้วยกัน คนรักการปั่นจักรยานจะต้องถูกใจกับ Peloton เครื่องปั่นจักรยานที่ไม่ธรรมดา เพราะคุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อออกกำลังกายไปพร้อมกับผู้อื่นได้ทั่วโลกผ่านหน้าจอขนาดใหญ่

นอกจากเครื่องออกกำลังกายชวนให้ออกกำลัง ที่นี่ยังมีคลาสซิกเนเจอร์ 5 คลาส ทั้งแบบสตูดิโอและเอาต์ดอร์ เช่น Lift & Clmbr การคาร์ดิโอโดยใช้ทุกส่วนของร่างกายผ่านเครื่องปีนเขา ควบคู่กับการบริหารกล้ามเนื้อผ่านเครื่อง Technogym Bench ใครที่อยากเผาผลาญแคลอรี แนะนำ HEAT ช่วยเรื่องการเผาผลาญแคลอรีให้มากขึ้น โดยมีการดึงทักษะกีฬาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคลาส สายฟิตแอนด์เฟิร์มไม่ควรพลาดกับคลาส HYPE เป็นการออกกำลังกายสไตล์บูทแคมป์ที่ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น และสุดท้ายกับคลาสที่เน้นสบายๆ ผ่อนคลาย STRETCH ที่จะช่วยเรื่องการยืดกล้ามเนื้อ หาบาลานซ์ของร่างกาย ลดความตึงเครียด

The Standard Gym เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ณ The Standard, Bangkok Mahanakhon ผู้สนใจสามารถใช้บริการได้ ผ่านระบบสมาชิก 1 เดือน, 3 เดือน และ 12 เดือน, Guest Pass หรือเข้าพักยังโรงแรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.standardhotels.com/bangkok/properties/bangkok

ภาพ: The Standard Gym

The post The Standard Gym ยิมดีไซน์เก๋ พร้อมอุปกรณ์ทันสมัย และกรุ๊ปคลาสส่งตรงจากฮอลลีวูด appeared first on THE STANDARD.

ไม่บ่อยนักที่ Hermès จะจัดงานแบบเต็มรูปแบบในประเทศไทย ครั้งนี้แบรนด์ลักชัวรีจากฝรั่งเศสเลยเนรมิตลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ให้เป็นพื้นที่ที่สายสุขภาพและสายแฟชั่นมาเจอกันได้ กับฟิตเนสที่มีช่ือว่า HermèsFit ตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ไปพร้อมๆ กับสินค้าลักชัวรี

โดยพื้นที่ขนาด 4,000 ตร.ม. ของ HermèsFit ถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมทั้งในร่มและกลางแจ้ง เริ่มที่พื้นที่จำลองอุปกรณ์ออกกำลังกายและสนามกีฬามาไว้ด้านใน ไม่ว่าจะเป็นห่วงยิมนาสติก เคตเทิลเบล กระสอบทราย สังเวียนชกมวย โต๊ะปิงปอง และหน้าผาจำลอง ที่มาในลายพิมพ์ผ้าพันคอและสีส้มสุดไอคอนิกของแบรนด์ ส่วนด้านนอกก็ยังมีลู่วิ่งจำลองและสนามสเกต ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถเล่นได้จริง และมีกิจกรรมให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

และเพื่อให้แฟนๆ ของแบรนด์ได้สัมผัสกับโลกของ Hermès ได้มากขึ้นผ่านการออกกำลังกาย ทางแบรนด์ยังเปิดเป็นคลาสฟิตเนสให้เราได้เสียเหงื่อพร้อมกับแอ็กเซสซอรีสุดหรู ตั้งแต่ คลาส Small Leather Goods Workout ออกกำลังกายกับเครื่องหนัง, คลาส Carré Yoga เล่นโยคะกับผ้าพันคอ, คลาส Belt Stretching ยืดเส้นยืดสายด้วยเข็มขัด, คลาส Kickboxing with Bracelets ต่อยมวยด้วยกำไลข้อมือ และคลาสฝึกสมดุลร่างกาย Hat Balance Challenge รวมไปถึงโซนบิวตี้ที่มีสินค้ากลุ่มใหม่อย่างเครื่องสำอางให้เราได้ลองสีกันด้วย

พบกับ HermèsFit ได้ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 18-27 มีนาคม 2565 เวลา 10:30-19:30 น. และสามารถลงทะเบียนร่วมกิจกรรมล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ HERMES.COM/HERMESFIT แบบไม่มีค่าใช้จ่าย

The post พาชม HermèsFit ฟิตเนสสุดหรูของ Hermès ใจกลางกรุงเทพฯ ที่สามารถร่วมกิจกรรมได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย! appeared first on THE STANDARD.

กลายเป็นข่าวดังทั่วโลกเมื่อ Peloton สตาร์ทอัพที่ถูกยกให้เป็น ‘Apple แห่งโลกฟิตเนส’ ตกเป็นข่าวว่าจะต้องขายกิจการให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่น อาทิ Amazon และ Nike หลังจากที่บริษัทเผชิญกับมรสุมอย่างหนัก 

โดยผลิตภัณฑ์หลักของ Peloton คือเครื่องปั่นจักรยานไฟฟ้า ลู่วิ่งไฟฟ้า ซึ่งยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด จากที่เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนมูลค่าบริษัทเคยเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1.6 ล้านล้านบาท ก่อนที่มูลค่าบริษัทจะลดลงไปเหลือต่ำสุดที่ราว 8 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.6 แสนล้านบาท ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาหุ้นของบริษัทลดลงถึง 84% เมื่อปีก่อน

ล่าสุด ราคาหุ้นของ Peloton ฟื้นกลับขึ้นมาอยู่ที่ 38.77 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มกลับมาเป็น 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 4.1 แสนล้านบาท 

นอกจากกระแสข่าวในเรื่องของการขายกิจการ ผู้ถือหุ้นของบริษัทยังได้เรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างการบริหารงานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเรียกร้องจาก Blackwells Capital ซึ่งเป็น Activist Investor ที่เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Peloton ในสัดส่วนเกือบ 5% 

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Blackwells Capital เผยแพร่เอกสารจำนวน 65 หน้า ในหัวข้อ ‘A call for action’ โดยมีข้อเรียกร้องสำคัญ 3 ส่วนหลัก ที่ต้องการให้บริษัทดำเนินการโดยทันที ได้แก่ 

1. ปลด CEO John Foley และ CFO Jill Woodworth ออกจากตำแหน่ง
2. ขายบริษัทให้กับผู้ที่สนใจเพื่อหวังให้เกิดการ Synergy ทางธุรกิจ
3. ปรับปรุงธรรมาภิบาลในการบริหารงาน โครงสร้างการบริหาร และโครงสร้างการออกเสียงของผู้ถือหุ้น

ต่อมาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา John Foley ได้ลาออกจากตำแหน่ง CEO และให้อดีต CEO ของ Spotify อย่าง Barry McCarthy ขึ้นมารับตำแหน่งแทน 

สำหรับเหตุผลสำคัญที่ Blackwells Capital ให้เอาไว้ผ่านเอกสารดังกล่าวประกอบไปด้วยหลายส่วน ประการแรกคือ เมื่อปี 2021 Peloton สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นแย่ที่สุดในบรรดาหุ้นในกลุ่ม Nasdaq 300 โดยผลตอบแทนติดลบไป 76% 

ประการถัดมาคือ ความน่าเชื่อถือที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างกรณีที่ John Foley ยังเชื่อว่า Peloton กำลังทำผลงานได้ดี ทั้งๆ ที่ตัวเลขต่างๆ บ่งชี้ว่าบริษัทกำลังแย่ลง โดยในเอกสารได้ยกคำพูดหนึ่งของ John Foley ที่เคยพูดไว้เมื่อเดือนกันยายน 2021 ว่า “เราคิดว่าเรากำลังเล่นหมากรุกอยู่ ในขณะที่คนอื่นๆ ด้วยความเคารพ ไม่แม้แต่จะเล่นหมากฮอส” 

ซึ่งความเชื่อมั่นดังกล่าวสวนทางกับมุมมองของตลาดในปัจจุบัน โดย Peloton เป็นหุ้นที่นักลงทุนมีความสนใจที่จะขายชอร์ตถึง 12% ขณะที่นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าควรขายหรือถือหุ้นในสัดส่วน 48% 

นอกจากนี้ Blackwells ยังได้ยกบทสัมภาษณ์ของ John Foley ที่เคยให้ไว้กับนิตยสาร Time เมื่อปี 2020 โดยเป็นการตอบคำถามที่ถามว่า อะไรบ้างเกี่ยวกับการเป็น CEO ที่คุณไม่ชอบ หรืออยากมอบหมายให้คนอื่นทำแทน?

คำตอบของ John Foley ในครั้งนั้นคือ “ส่วนของการเงิน CFO ของเรารับผิดชอบในส่วนนี้ 99% ผมเข้าไปมีส่วนร่วมบ้างเพราะต้องการจะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้าจะให้พูดแล้ว จริงๆ ผมก็ไม่ได้ช่วยก่อให้เกิดประโยชน์อะไรมากขึ้น ส่วน CTO ของเราก็ไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรจากผมเท่าไร บางครั้งผมไม่ได้คุยกับ CTO ของเราหลายเดือน ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับการเป็น CEO ของบริษัทเทคโนโลยี”

หรือแม้กระทั่งการแถลงในงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำไตรมาส 3 ปี 2021 และไตรมาส 1 ปี 2022 ซึ่งขณะนั้นราคาหุ้นลดลงจาก 160 ดอลลาร์ มาเหลือ 80 ดอลลาร์ และเกือบจะลงมาถึง 60 ดอลลาร์ โดย John Foley ยังคงกล่าวว่า “เราไม่เคยตื่นเต้นกับอนาคตของบริษัทเท่านี้มาก่อน” 

เช่นเดียวกับกรณีของ CFO อย่าง Jill Woodworth ที่ดูเหมือนจะสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุนไปเช่นเดียวกัน อย่างกรณีของการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 23.9 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2021 ทั้งๆ ที่ 12 วันก่อนหน้านั้น Jill Woodworth ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ตามแผนงานปัจจุบันเราไม่เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มทุนแต่อย่างใด” 

ประการถัดมาคือเรื่องของธรรมาภิบาลของทีมบริหาร นับแต่ Peloton เข้าจดทะเบียนในตลาด ทีมบริหารและคณะกรรมการของบริษัทได้ขายหุ้นออกไปแล้วคิดเป็นมูลค่ารวม 700 ล้านดอลลาร์ และในขณะที่มูลค่าบริษัทหายไป 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2021 ทีมบริหารและกรรมการของบริษัทกลับร่ำรวยขึ้นถึง 496 ล้านดอลลาร์ จากการทยอยขายหุ้นออกไป 

ส่วนประเด็นที่ Blackwells Capital เสนอให้บริษัทขายกิจการไปให้กับบริษัทอื่นๆ ที่มีศักยภาพ จากการประเมินที่เปิดเผยผ่านเอกสารระบุว่ามูลค่าที่เหมาะสมสำหรับ Peloton ในการขายกิจการควรจะไม่ต่ำกว่า 65 ดอลลาร์ต่อหุ้น 

ประเด็นของ Peloton นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจที่ได้อานิสงส์จากปัจจัยชั่วคราวคือโควิด ซึ่งหนุนให้เกิดความต้องการซื้อเครื่องออกกำลังกายสำหรับใช้ที่บ้านเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่หลังจากนั้นความต้องการซื้อก็เริ่มหมดไปอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งความเสียหายต่อบริษัท ในขณะที่ผู้บริหารกลับประเมินทิศทางผิดพลาด และเร่งขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วจนเกินไป…ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ Blackwells Capital ต้องออกบทความ 65 หน้า เสนอให้ปลด CEO และ CFO ของ Peloton 

ท้ายที่สุดแล้วเส้นทางของ Peloton จะลงเอยอย่างไรภายใต้การนำของ CEO คนใหม่อย่าง Barry McCarthy เชื่อว่าเราจะได้เห็นกันในไม่ช้า เพราะในขณะที่บริษัทกำลังเผชิญกับภาวะคับขัน การตัดสินใจเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วก็ดูจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 

อ้างอิง: 

• PowerPoint Presentation (blackwellscap.com)
• What’s happening at Peloton? | Cyclingnews

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

The post สรุปประเด็น ทำไม CEO ผู้ปลุกปั้น ‘Peloton’ ที่ได้ฉายา Apple แห่งวงการฟิตเนส จึงถูกผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งในทันที appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (3 กรกฎาคม) ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ นำกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกายและฟิตเนส และนักกีฬาทีมชาติ เข้าพบ เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ผู้แทน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องถึงฝ่ายบริหารของภาครัฐให้เร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจออกกำลังกาย หลังมีคำสั่งปิดสถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส และสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาของนักกีฬาทีมชาติในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มานานกว่า 200 วัน

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจสถานออกกำลังกาย ฟิตเนส และสถานฝึกซ้อมกีฬา เป็นกลุ่มที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในช่วงวิกฤตโควิดเป็นอย่างดี โดยเป็นธุรกิจแรกๆ ที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่กลับเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะเปิดให้บริการตามปกติได้ ทำให้ธุรกิจที่กำลังจะฟื้นตัวต้องล้มลงอีกครั้ง ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องทางการเงิน พนักงานขาดรายได้เลี้ยงชีพ หลายส่วนต้องตกงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งความเดือดร้อนในครั้งนี้ยังได้ส่งผลกระทบไปถึงกลุ่มนักกีฬาทีมชาติไทยประเภทต่างๆ ด้วย เพราะเมื่อสถานฝึกซ้อมกีฬาขนาดใหญ่อย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถูกสั่งปิด ก็ทำให้นักกีฬาขาดสถานที่พัฒนาตนเอง อาจส่งผลร้ายต่อการแข่งขันกีฬาในนามของประเทศได้ อีกทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นได้ด้วย ทางพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจดีถึงความเดือดร้อนดังกล่าว และเห็นใจประชาชนทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ จึงเดินหน้าประสานงานกับนายกรัฐมนตรีและ ศบค. ให้ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจการออกกำลังกายได้มีโอกาสยื่นจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้องถึงภาครัฐ เพื่อปลดล็อกกิจการ รวมทั้งร่วมหารือถึงแนวทางที่เป็นไปได้เพื่อให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาที่เหมาะสม

ซึ่งในครั้งนี้ได้พากลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกายไปยื่นข้อเรียกร้องกับ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขา สมช. และ ผอ.ศบค. ก่อน แล้วจึงไปยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี โดยได้รับการยืนยันจาก พล.อ. ณัฐพล แล้วว่าจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปหารือและพิจารณาในที่ประชุมของ ศบค. ต่อไป โดย พล.อ. ณัฐพล กล่าวว่า “ยินดีรับฟังข้อเสนอ และจะไปหารือในการประชุม ศบค. ว่าจะสามารถมีมาตรการช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง พร้อมกับจะให้ความสำคัญในการเร่งการพิจารณาให้ กกท. สามารถเปิดพื้นที่ให้นักกีฬาทีมชาติเข้าซ้อม” ทั้งนี้มีนักกีฬาทีมชาติมาร่วมร้องเรียน อาทิเช่น เจนจิรา แจ่มดี, ทธิชัย เรียมกุญชร, ธนพิพัฒน์ จันทนเสวี, นภัสนันท์ หัวรักกิจ และ ทศพล ชื่นชม 

ด้าน ธันย์ปวัฒน์ เตชภูวดลวิทิต ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจการออกกำลังกาย กล่าวเพิ่มเติมว่า คำสั่งปิดกิจการส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบอาชีพธุรกิจสถานออกกำลังกาย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในวงการทั้งระบบ ที่ไม่ใช่แค่ธุรกิจของเรา แต่ยังลงลึกไปถึงอาชีพ รปภ. แม่บ้าน และคนทำอุปกรณ์ออกกำลังกายด้วย ซึ่งบางส่วนเป็นกลุ่มอิสระที่รับค้าจ้างรายวันมานานกว่า 200 วันแล้ว วันนี้ทุกคนกำลังจะแย่ เพราะไม่มีเงินแต่มีครอบครัวที่ต้องดูแล ทำให้ผู้ประกอบการต้องรับภาระทุกอย่าง อีกทั้งยังมีเทรนเนอร์ หรือแม้แต่นักกีฬาทีมชาติที่ไม่มีสถานที่ฝึกซ้อม ก็ได้รับผลกระทบกันไปหมด แล้วจะทำชื่อเสียงให้กับประเทศได้อย่างไร จึงอยากขอให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือ ดังนี้

1. ยกเลิกคำสั่งปิดกิจการแบบเหมารวม เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีคนติดเชื้อโควิดจากสถานออกกำลังกายน้อยมาก และสถานออกกำลังกายถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้คนสุขภาพดีขึ้น โดยควรให้ปิดเฉพาะสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลา 14 วัน และหากสถานประกอบการใดที่พบผู้ติดเชื้อ ก็ต้องมีการทำความสะอาดสถานที่ตามมาตรฐานของกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค 

2. ขอให้มีคำสั่งปลดล็อกให้ธุรกิจสถานออกกำลังกายแสะฟิตเนสสามารถกลับมาเปิดบริการได้ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ภายใต้มาตรการป้องกันโรคตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข เช่น การเว้นระยะ การจำกัดจำนวนคน และความสะอาด เป็นต้น

3. พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยเร็วที่สุด ซึ่งภาครัฐสามารถถือเอาโอกาสนี้เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ในอนาคต

4. พิจารณาให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการพักชำระหนี้/การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อรักษาสภาพคล่องธุรกิจและการจ้างพนักงานจากการปิดธุรกิจชั่วคราว รวมถึงส่วนลดหรือเลื่อนชำระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ตลอดจนลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลของผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับสถานออกกำลังกายและฟิตเนส

5. เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้ทราบถึงมุมมอง ผลกระทบ ความยากลำบากของผู้ประกอบอาชีพในกลุ่มต่างๆ ก่อนที่ภาครัฐจะออกมาตรการต่างๆ

The post กลุ่มธุรกิจฟิตเนสร้อง ปริญญ์-ปชป. ประสานยื่นข้อเรียกร้องถึง นายกฯ-ศบค. หลังถูกสั่งปิดแบบเหมารวมไร้การเยียวยา appeared first on THE STANDARD.

(วันนี้ (21 มกราคม) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ได้มีมติให้ผ่อนปรนเปิดให้บริการกิจการ และบริการบางประเภท จำนวน 13 รายการ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ได้แก่

1. สถานที่เล่นตู้เกม ต้องทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา

2. ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต ต้องทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา

3. สถานดูแลผู้สูงอายุ ต้องลดเวลาในการทำกิจกรรม หลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสกัน

4. สนามแข่งขันทุกประเภท ยกเว้นสนามมวย สนามม้า ห้ามมีผู้นั่งชมและปฏิบัติตามมาตรการ

5.สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกับ โดยทานจาก Set Box

• จำนวนคน ไม่เกิน 300 คน ดำเนินการตามมาตรการ
• จำนวนคน เกิน 300 คน ต้องขออนุญาตจากสำนักอนามัย กทม.

6. สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง ต้องควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการห้ามไม่ให้แออัด

7. สถานเสริมความงาม (ที่ไม่ได้รับอนุญาตป็นคลินิกเวชกรรม) สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง ต้องทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้กากตลอดเวลา จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ

8.สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ต้องไม่ให้มีเทรนเนอร์ ผู้ฝึกสอน งดเว้นการอบตัง อบไอน้ำแบบรวม เว้นระยะห่างระหว่างเครื่องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 เมตร

9. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า โดยผู้ให้บริการผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา

10. สนามฝึกซ้อมมวย โรงยิม หรือค่ายมวย เปิดได้เฉพาะเพื่อการฝึกซ้อม การชกลม โดยไม่มีคู่ชก การชกมวยแบบล่อเป้า ห้ามจัดให้มีการแข่งขันและไม่มีผู้ชม

11.สนามที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน โดยห้ามจัดให้การแข่งขัน และห้ามมีผู้ชม

12. สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ โดยห้ามจัดให้มีการประกวดแข่งขัน และห้ามมีผู้ชม

13. โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) โดยห้ามไม่ให้มีการแข่งขัน และห้ามมีผู้ชม

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม หรือวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป สำหรับรายละเอียดและเงื่อนไขอื่นๆ ให้รอประกาศจากทางกรุงเทพมหานครอีกครั้งหนึ่ง

The post BREAKING : กทม.คลายล็อก 13 รายการให้เปิดบริการได้ มีนวดแผนไทย-ฟิตเนส-ร้านเกม-โบว์ลิ่ง มีผล 22 ม.ค.นี้ appeared first on THE STANDARD.