พ.ร.ก. – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 10 Nov 2022 09:58:31 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สุดารัตน์เสนอออก พ.ร.ก. รับรองกรรมการสมานฉันท์ เปิดพื้นที่ปลอดภัยการพูดคุย พักดำเนินคดี จี้รัฐอย่าซื้อเวลา https://thestandard.co/sudarat-proposed-royal-decree-talk/ Thu, 05 Nov 2020 04:50:50 +0000 https://thestandard.co/?p=417384 สุดารัตน์เสนอออก พ.ร.ก. รับรองกรรมการสมานฉันท์ เปิดพื้นที่ปลอดภัยการพูดคุย พักดำเนินคดี จี้รัฐอย่าซื้อเวลา

วันนี้ (5 พฤศจิกายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธา […]

The post สุดารัตน์เสนอออก พ.ร.ก. รับรองกรรมการสมานฉันท์ เปิดพื้นที่ปลอดภัยการพูดคุย พักดำเนินคดี จี้รัฐอย่าซื้อเวลา appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุดารัตน์เสนอออก พ.ร.ก. รับรองกรรมการสมานฉันท์ เปิดพื้นที่ปลอดภัยการพูดคุย พักดำเนินคดี จี้รัฐอย่าซื้อเวลา

วันนี้ (5 พฤศจิกายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานสถาบันสร้างไทย เสนอแนวทางให้ตราพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อรองรับการตั้งกรรมการสมานฉันท์ที่มีการรองรับสำหรับการเปิดพื้นที่ปลอดภัยในการเจรจาของผู้เห็นต่าง พร้อมกำหนดแนวทางการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ และนำหลักยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านสมานฉันท์มาใช้ เพื่อไม่ให้ถูกข้อครหาว่าเป็นการซื้อเวลา แต่จะเป็นทางออกของประเทศที่มีการแสดงความจริงใจ

 

และเมื่อเสนอเป็นกฎหมายแล้ว มีหลักดำเนินการ 3 ข้อ คือ 

 

  1. พักการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมเป็นการชั่วคราว 
  2. ให้มีเอกสิทธิ์คุ้มครองชั่วคราวกับผู้ที่เข้ามาร่วมคุยกับทางคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อที่จะไม่ถูกฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา
  3. สรุปผลการพูดคุยให้ทำเป็นรายงานแล้วเสนอต่อรัฐสภาพิจารณา ดำเนินการว่าเห็นชอบในประเด็นใด 

 

และเชื่อว่านี่จะเป็นแนวทางการปรองดองอย่างแท้จริง และไม่เป็นการซื้อเวลา ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้เห็นต่าง ให้มีเวทีได้พูด และผลของการหารือสามารถนำไปปฏิบัติได้ 

 

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการที่รัฐสภาจะตั้ง หากไม่มีการตรา พ.ร.ก. เพื่อรองรับ ก็จะไม่มีใครเข้าร่วม 

 

นอกจากนี้คุณหญิงสุดารัตน์ยังเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญโดยเร็วและเลิกซื้อเวลา และให้มีการเร่งพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญทั้งหมด 7 ร่างที่เข้าสู่สภาแล้ว ทั้งร่างของฝ่ายค้าน รัฐบาล และประชาชนคือ iLaw โดยคาดว่าจะเห็นชอบวาระ 3 ในช่วงเดือนธันวาคม และหลังจากนั้นหากนายกรัฐมนตรีเสียสละที่จะลาออก ก็จะสามารถเดินหน้าประเทศต่อไปได้ โดยการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มีกรอบทำงาน 8 เดือน และคาดว่าปลายปี 2564 ก็จะคืนอำนาจให้กับประชาชนด้วยการเลือกตั้งจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 

ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น คุณหญิงสุดารัตน์เห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่สามารถพูดคุยข้างนอกได้ และมีการดำเนินคดีกับคนที่พูดถึง ซึ่งสร้างความบอบช้ำให้กับทุกภาคส่วน และการมีเวทีรองรับ เปิดให้มีการพูดเหตุและผลโดยผ่านคณะกรรมการที่ตั้งโดยกฎหมายก็จะดีกว่า

 

ส่วนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า หาก โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้ง อาจส่งผลถึงการคลี่คลายทางเศรษฐกิจของไทยได้บ้างเล็กน้อยในเรื่องสงครามการค้า แต่ทั้งนี้ นโยบายด้านเศรษฐกิจการค้าของไบเดนและทรัมป์อาจจะแตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายเหมือนกัน 

 

ทั้งนี้ เห็นว่าไทยจะต้องเตรียมพร้อมรับมือ เช่น กรณีที่จะเกิดการพูดคุย CPTPP เป็นต้น โดยแนะว่าไทยควรใช้จุดแข็งของไทยที่ตั้งอยู่ทำเลที่ดีในการเจราจาทั้งฝั่งสหรัฐฯ และจีน

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post สุดารัตน์เสนอออก พ.ร.ก. รับรองกรรมการสมานฉันท์ เปิดพื้นที่ปลอดภัยการพูดคุย พักดำเนินคดี จี้รัฐอย่าซื้อเวลา appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประกาศใช้ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล คุมซื้อขายเงินดิจิทัล ตั้ง ก.ล.ต. ควบคุม https://thestandard.co/ratchakitcha-cryptocurrency/ https://thestandard.co/ratchakitcha-cryptocurrency/#respond Mon, 14 May 2018 03:00:04 +0000 https://thestandard.co/?p=90380

เทรนด์การเทรดเงินสกุลดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocur […]

The post ประกาศใช้ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล คุมซื้อขายเงินดิจิทัล ตั้ง ก.ล.ต. ควบคุม appeared first on THE STANDARD.

]]>

เทรนด์การเทรดเงินสกุลดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) อย่างบิตคอยน์กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่หน่วยงานหลายแห่งเริ่มหันมาศึกษาและทำความเข้าใจกับมันอย่างจริงจัง ขณะที่ผู้ประกอบการบางเจ้าก็รุดหน้านำร่องเปิดให้ระดมทุนด้วยเงินดิจิทัล ICO (Initial Coin Offering) ไปก่อนแล้ว

 

เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ล่าสุด (13 พ.ค.) ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศใช้พระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เพื่อเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และมีเป้าหมายให้เกิดการกำกับและควบคุมการทำธุรกรรมและดำเนินกิจกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลภายในประเทศให้โปร่งใส รักษาความมั่นคงทางเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ คุ้มครองผู้ลงทุน ตลอดจนประชาชนที่เกี่ยวข้อง หลีกเลี่ยงกรณีการหลอกหลวงประชาชนหรือการกระทำอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชญากรรม

 

พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ฉบับ พ.ศ. 2561 นี้ประกอบไปด้วยมาตราทั้งหมด 100 มาตรา สาระสำคัญส่วนใหญ่เน้นไปที่การกำหนดกฎหมายควบคุมการทำธุรกรรมดิจิทัลด้วยคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนต่างๆ เป็นหลัก รวมถึงยังมีการแต่งตั้ง ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ขึ้นมาเป็นหน่วยงานกลางรับหน้าที่กำหนดนโยบายและควบคุมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ประกอบการเจ้าต่างๆ ภายในประเทศ

 

พระราชกำหนดฉบับนี้ได้ให้นิยามของคริปโทเคอร์เรนซีว่าเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีความประสงค์ใช้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใด หรือแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัล

 

ส่วนโทเคนดิจิทัลถูกนิยามไว้ว่าเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกําหนดสิทธิของบุคคลในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการใดๆ และกําหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง

 

ที่น่าสนใจคือหมวด 3 ว่าด้วยเรื่องการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน มาตรา 17 ระบุไว้ว่า การเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชนนั้น ผู้ออกโทเคนที่ประสงค์จะเสนอขายโทเคนดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากสํานักงาน ก.ล.ต. และให้กระทําได้เฉพาะ ‘นิติบุคคลประเภทบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด’ และต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อ ก.ล.ต. โดยมีรายละเอียดตามที่ คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกําหนด เมื่อได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. แล้ว การเสนอขายจะต้องเสนอผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. เท่านั้น

 

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 นี้จะมีโทษตามมาตรา 57 ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกินสองเท่าของราคาขายของโทเคนดิจิทัลทั้งหมดซึ่งผู้นั้นได้เสนอขาย แต่ทั้งนี้เงินค่าปรับต้องไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

 

ขณะที่หมวด 6 ว่าด้วยการป้องกันการกระทําอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล มาตรา 41 ยังห้ามมิให้บุคคลใดวิเคราะห์หรือคาดการณ์ฐานะทางการเงิน ผลการดําเนินงาน ข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัล ‘โดยนำข้อมูลที่รู้ว่าเป็นเท็จหรือไม่ครบถ้วน’ อันอาจก่อให้เกิดความสําคัญผิดในสาระสําคัญมาใช้วิเคราะห์ คาดการณ์ หรือละเลยที่จะพิจารณาความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวที่น่าจะทําให้มีผลกระทบต่อ ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลหรือต่อการตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

 

ผู้ฝ่าฝืนความตามมาตรา 41 นี้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 500,000 บาทถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับตามมาตรา 70

 

ศึกษาพระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ฉบับเต็มได้ที่ www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/033/43.PDF

 

อ้างอิง:

The post ประกาศใช้ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล คุมซื้อขายเงินดิจิทัล ตั้ง ก.ล.ต. ควบคุม appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/ratchakitcha-cryptocurrency/feed/ 0