พาทีมหมูป่ากลับบ้าน – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 22 Jun 2022 12:22:50 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 23 มิถุนายน 2561 – เหตุการณ์ 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง https://thestandard.co/onthisday23062561/ Thu, 23 Jun 2022 00:00:40 +0000 https://thestandard.co/?p=645153 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ถือเป็นจุดเริ่มต้นขอ […]

The post 23 มิถุนายน 2561 – เหตุการณ์ 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง appeared first on THE STANDARD.

]]>
13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ถ้ำหลวง เมื่อวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีเด็กนักฟุตบอลและโค้ช 13 ชีวิตเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำ ก่อนจะหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 23 มิถุนายน กลายเป็นปฏิบัติการตามหาที่กินเวลารวมทั้งสิ้น 221 ชั่วโมง 41 นาที หรือเท่ากับ 17 วันเต็ม และแลกมาด้วย 1 ชีวิตของอดีตหน่วยซีล

 

จากข่าวเด็กติดถ้ำธรรมดา กลายเป็นปฏิบัติการกู้ภัยที่ซับซ้อนและยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก เมื่อทีมกู้ภัยต้องทำงานแข่งกับเวลาท่ามกลางสภาพภายในถ้ำที่มีความซับซ้อน และกระแสน้ำที่มาพร้อมกับพายุฝนที่ทวีความยากของภารกิจครั้งนี้ขึ้นไปอีก จนต้องระดมนักดำน้ำที่เก่งที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก คิดเป็น 1 ใน 4 ของนักดำน้ำทั้งหมด ร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล พร้อมทีมงานหมุนเวียนรวมกว่าหมื่นชีวิตที่พยายามต่อสู้กับระดับน้ำภายในถ้ำ และช่วยชีวิตสมาชิกทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 คนออกมาให้ได้

 

ตลอดภารกิจ 17 วัน แบ่งเป็นการค้นหาซึ่งต้องแข่งกับนาทีชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำ 10 วัน และการกู้ภัยซึ่งถูกบีบด้วยอากาศที่เบาบางข้างใน และกระแสน้ำที่มาพร้อมพายุฝนอีก 7 วัน ระหว่างนั้นเราได้สูญเสีย จ.อ. สมาน กุนัน หรือจ่าแซม (ยศปัจจุบัน น.ต. สมาน กุนัน ร.น.) เจ้าหน้าที่หน่วยซีลนอกราชการ ผู้อาสาช่วยเหลือในภารกิจที่ถ้ำหลวง ซึ่งทุกคนพร้อมใจยกย่องเขาเป็น ‘วีรบุรุษถ้ำหลวง’

 

ท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็จบด้วยรอยยิ้ม เมื่อทีมกู้ภัยสามารถลำเลียงหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตออกมาได้สำเร็จ โดยใช้เวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-10 กรกฎาคม โดยสองชุดแรกออกมาครั้งละ 4 คน ส่วนชุดสุดท้ายออกมา 5 คน ปิดฉากภารกิจระดับโลก 17 วันที่คนทั้งโลกเอาใจช่วย โดยปัจจุบันถ้ำหลวงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของโลก

The post 23 มิถุนายน 2561 – เหตุการณ์ 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Doc Club ประกาศ ‘ยกเลิก’ การฉายหนังสารคดี The Rescue หลัง National Geographic และ Disney ปรับแผนการจัดจำหน่ายในต่างประเทศใหม่ https://thestandard.co/doc-club-canceled-showing-the-rescue-movie/ Sat, 25 Sep 2021 07:31:04 +0000 https://thestandard.co/?p=540526 The Rescue

บ่ายวันนี้ (25 กันยายน) Documentary Club ได้ประกาศ ‘ยกเ […]

The post Doc Club ประกาศ ‘ยกเลิก’ การฉายหนังสารคดี The Rescue หลัง National Geographic และ Disney ปรับแผนการจัดจำหน่ายในต่างประเทศใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Rescue

บ่ายวันนี้ (25 กันยายน) Documentary Club ได้ประกาศ ‘ยกเลิก’ การฉายภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The Rescue ที่บอกเล่าเรื่องราวของภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า เนื่องจากทาง National Geographic และ Disney ได้มีการปรับเปลี่ยนแผนการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในต่างประเทศใหม่

 

โดยทาง Documentary Club ได้ชี้แจ้งรายละเอียดผ่านทางเพจเฟสบุ๊กให้ผู้ชมทราบว่า “เนื่องจากเราได้รับแจ้งว่า ทาง National Geographic และ Disney ผู้ดูแลภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ปรับเปลี่ยนแผนการจัดจำหน่ายในต่างประเทศใหม่ จึงจำเป็นต้องขอยกเลิกการฉายในไทยตามที่ Doc Club ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ค่ะ ส่วนเราจะได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันอย่างไรต่อไปคอยติดตามข่าวกันต่อนะคะ”

 

การตัดสินใจปรับแผนการตลาดในครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ชมชาวไทยอาจจะได้ชมภาพยนตร์สารคดี The Rescue ผ่านทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Disney+ Hotstar อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่กำลังรอชมภาพยนตร์ที่ว่าด้วยการติดตามเบื้องหลังภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าคงต้องรอติดตามกำหนดการ รวมไปถึงรูปแบบการฉายในไทยกันต่อไป 

 

สำหรับ The Rescue คือสารคดีที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง National Geographic และ Greenwich Entertainment ซึ่งจะพาผู้ชมไปติดตามการทำงานของหน่วยซีลกองทัพเรือไทย กองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ และนักประดาน้ำที่เดินทางมาจากหลายประเทศ เพื่อมาร่วมทำภารกิจช่วยเหลือ 12 นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมู่ป่าและโค้ชที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ในปี 2561 ซึ่งใช้เวลานานกว่า 16 วัน พร้อมบทสัมภาษณ์พิเศษของเหล่าทีมงานและนักประดาน้ำที่จะมาบอกเล่าถึงสถานการณ์จริงที่พวกเขาต้องเผชิญ 

 

ด้านทีมงานเบื้องหลังสารคดีเรื่องนี้ได้ Elizabeth Chai Vasarhelyi และ Jimmy Chin สองผู้กำกับและโปรดิวเซอร์สายสารคดี เจ้าของผลงานอย่าง Free Solo (2561) ที่ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม มารับหน้าที่ผู้กำกับร่วมกัน

 

โดยก่อนหน้านี้ The Rescue ได้ถูกรับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนต์นานาชาติโทรอนโตมาแล้ว ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมอย่างล้นหลาม จนสามารถคว้ารางวัล People’s Choice Award ในสาขาภาพยนตร์สารคดีมาได้สำเร็จ  

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่: 

 

 

อ้างอิง:

The post Doc Club ประกาศ ‘ยกเลิก’ การฉายหนังสารคดี The Rescue หลัง National Geographic และ Disney ปรับแผนการจัดจำหน่ายในต่างประเทศใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Rescue หนังสารคดีเผยเบื้องหลังภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า โดยผู้กำกับ Free Solo เตรียมเข้าฉายไทย 13 ต.ค. นี้ https://thestandard.co/the-rescue-coming-to-thai-theatre-13-october/ Fri, 24 Sep 2021 05:43:37 +0000 https://thestandard.co/?p=540219 The Rescue

Documentary Club ชวนเหล่าคอภาพยนตร์สารคดีร่วมย้อนเวลากล […]

The post The Rescue หนังสารคดีเผยเบื้องหลังภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า โดยผู้กำกับ Free Solo เตรียมเข้าฉายไทย 13 ต.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Rescue

Documentary Club ชวนเหล่าคอภาพยนตร์สารคดีร่วมย้อนเวลากลับไปติดตามภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่ากันอีกครั้ง ในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The Rescue โดยผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ ในวันที่ 13 ตุลาคมนี้  

 

โดย The Rescue คือสารคดีที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง National Geographic และ Greenwich Entertainment ซึ่งจะพาผู้ชมไปติดตามการทำงานของหน่วยซีลกองทัพเรือไทย กองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ และนักประดาน้ำที่เดินทางมาจากหลายประเทศ เพื่อมาร่วมทำภารกิจช่วยเหลือ 12 นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมู่ป่าและโค้ชที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ในปี 2561 ซึ่งใช้เวลานานกว่า 16 วัน พร้อมบทสัมภาษณ์พิเศษของเหล่าทีมงานและนักประดาน้ำที่จะมาบอกเล่าถึงสถานการณ์จริงที่พวกเขาต้องเผชิญ 

 

สำหรับทีมงานเบื้องหลังสารคดีเรื่องนี้ได้ Elizabeth Chai Vasarhelyi และ Jimmy Chin สองผู้กำกับและโปรดิวเซอร์สายสารคดี เจ้าของผลงานอย่าง Free Solo (2561) ที่ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม มารับหน้าที่ผู้กำกับร่วมกัน

 

โดยก่อนหน้านี้ The Rescue ได้ถูกรับเลือกให้เข้าฉายในเวที Toronto International Film Festival มาแล้ว ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมอย่างล้นหลาม จนสามารถคว้ารางวัล People’s Choice Award ในสาขาภาพยนตร์สารคดีมาได้สำเร็จ  

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่: 

 

 

อ้างอิง:

The post The Rescue หนังสารคดีเผยเบื้องหลังภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า โดยผู้กำกับ Free Solo เตรียมเข้าฉายไทย 13 ต.ค. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
2018 ปีที่เรื่องใหญ่เริ่มต้น และสำเร็จได้จากพลังของคนตัวเล็กๆ https://thestandard.co/thailand-news-2018/ https://thestandard.co/thailand-news-2018/#respond Tue, 25 Dec 2018 12:49:42 +0000 https://thestandard.co/?p=170653

คงไม่ดูโลกสวยจนเกินไปหากจะกล่าวว่า “คนธรรมดาก็ทำสิ่งที่ […]

The post 2018 ปีที่เรื่องใหญ่เริ่มต้น และสำเร็จได้จากพลังของคนตัวเล็กๆ appeared first on THE STANDARD.

]]>

คงไม่ดูโลกสวยจนเกินไปหากจะกล่าวว่า “คนธรรมดาก็ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือเปลี่ยนแปลงอะไรแย่ๆ ในสังคมได้” เพราะปรากฏการณ์ข่าวสารที่เกิดขึ้นในปี 2018 พิสูจน์ให้เห็นแล้ว

 

การเปิดโปงคดีทุจริตระดับชาติเริ่มจากนักศึกษาฝึกงานและเจ้าอาวาสวัดเล็กๆ ในต่างจังหวัด

 

เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยระดับหัวหน้าชุดตัดสินใจด้วยความกล้าหาญปกป้องผืนป่าตามหน้าที่ โดยที่ยังไม่ทราบล่วงหน้าว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง

 

สองป้าวัยเริ่มชราที่ต่อสู้ปกป้องสิทธิของตนตามกฎหมายอย่างเต็มที่จนนำไปสู่การสะท้อนปัญหาและความล้มเหลวของการบริหารงานเมืองหลวง

 

ศิลปินใต้ดินไร้ชื่อเสียงที่หาญกล้านำเสนอผลงานสะท้อนใจคนแต่ท้าทายผู้มีอำนาจ

 

ตลอดจนความร่วมมือร่วมใจของคนในสังคมโลกซึ่งพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดถ้ำ โดยไม่มีเชื้อชาติ หรือความเชื่อมาแบ่งแยกกีดกัน

 

ปี 2018 จึงเป็นปีที่เรื่องใหญ่เริ่มต้น และสำเร็จได้จากคนตัวเล็ก แต่เป็นคนตัวเล็กที่มีความเชื่อและความหวัง เต็มไปด้วยความกล้าหาญ และพร้อมที่จะเสียสละแม้บางครั้งอาจต้องแลกด้วยชีวิต

 

 

ทีมถ้ำหลวง-จ่าสมาน ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ของโลก

ทีมฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิตติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 จากข่าวเด็กติดถ้ำธรรมดา ต่อมาจึงพบว่านี่คือปฏิบัติการกู้ภัยที่ซับซ้อนและยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งของโลก

 

 

ภารกิจค้นหาและกู้ภัยยาวนานกว่า 17 วัน โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งไทยและต่างชาติประมาณ 7,000 คน เพื่อช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต แต่น่าเศร้าที่ต้องมี 1 วีรบุรุษผู้สละชีวิตที่ถ้ำหลวง

 

 

หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล ชุดแรก 20 นายระดมพลด่วนจากสัตหีบ ถึงเชียงรายเกือบตี 2 ของคืนวันที่ 24 มิถุนายน หรือล่วงเข้าเช้าวันที่ 25 มิถุนายน และเริ่มปฏิบัติการทันทีตั้งแต่เวลาตี 4 ลุยดำนำ้เข้าไปในถ้ำจนถึงบริเวณสามแยก ซึ่งหน่วยกู้ภัยเดิมไม่สามารถเข้าไปได้ ภารกิจดูเหมือนจะราบรื่น ไม่เกินศักยภาพของหน่วยซีล แต่แล้วฝนที่ตกลงมาหนักมากตลอดคืน ประกอบกับสภาพถ้ำที่มืดมาก ซีลต้องถอยออกมาจากสามแยก และถอยหนีน้ำมาเรื่อยๆ จนถึงบริเวณโถง 3

 

 

ผู้บัญชาการหน่วยซีลซึ่งทำงานร่วมกับทีมนักดำน้ำต่างชาติ พยายามต่อสู้กับกระแสน้ำ ในระหว่างนั้นทุกหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนที่อยู่นอกถ้ำพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ระดับน้ำในถ้ำลดลง หรืออย่างน้อยก็ไม่ให้มันเพิ่มขึ้นโดยการติดตั้งตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เจาะบาดาล ทำฝายกั้นน้ำ รวมถึงปิดตาน้ำไม่ให้ไหลเข้าไปเติมในถ้ำ แม้จะทำทุกอย่างแต่น้ำยังลดลงแค่วันละ 1-2 เซนติเมตร ขณะที่เวลาก็ล่วงผ่านไปเลยสัปดาห์ก็ยังไม่ทราบชะตากรรมของทั้ง 13 ชีวิต

 

 

นักดำน้ำจากหลายประเทศที่มาช่วย ทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน อังกฤษ เยอรมนี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก วางแผนประเมินว่าเมื่อทั้ง 13 ชีวิตไปถึงสามแยกแล้วน่าจะต้องเลี้ยวซ้าย เพราะพบรอยเท้าแล้วในบริเวณนั้น

 

แผนคือวางแนวเชือกไปเรื่อยๆ ทีละ 200 เมตร เวียนกันทีละประเทศ เมื่อแต่ละประเทศช่วยต่อระยะเข้าไป สุดท้ายนักดำน้ำจากอังกฤษรับระยะในช่วงนั้นและไปเจอทั้ง 13 ชีวิต ที่เนินนมสาว นักดำน้ำอังกฤษบอกว่าเมื่อไปถึงน้องๆ พวกเขาวิ่งลงมาหาเลย

 

ปฏิบัติการค้นหาทีมหมูป่าฯ ทั้ง 13 ชีวิต ใช้เวลา 10 วัน เมื่อพบทุกคนรอด ต่อไปคือต้องนำออกมาอย่างปลอดภัย ซึ่งในเวลานั้นสาธารณชนทราบภายหลังว่านี่คือขั้นตอนที่ยากที่สุด

 

 

ภารกิจลำเลียงทีมหมูป่าฯ 13 ชีวิตทำต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 8-10 กรกฎาคม สองชุดแรกออกมาครั้งละ 4 คน ส่วนชุดสุดท้ายออกมา 5 คน

 

 

ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) ต้องคัดสรรอุปกรณ์จากทั่วโลก ระดมนักดำน้ำที่เก่งที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก คิดเป็น 1 ใน 4 ของทีมดำนำ้ทั้งหมด ร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล พร้อมทีมงานหมุนเวียนรวมประมาณ 7,000 ชีวิตต่อสู้กับกระแสและระดับน้ำในถ้ำ

 

ตลอดภารกิจ 17 วัน แบ่งเป็นการค้นหาซึ่งต้องแข่งกับนาทีชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำ 10 วัน และการกู้ภัยซึ่งถูกบีบด้วยอากาศที่เบาบางข้างใน และกระแสน้ำที่มาพร้อมพายุฝนอีก 7 วัน ระหว่างนั้นเราได้สูญเสีย จ่าเอก สมาน กุนัน หรือจ่าแซม เจ้าหน้าที่หน่วยซีลนอกราชการผู้อาสาช่วยเหลือในภารกิจที่ถ้ำหลวง ซึ่งทุกคนพร้อมใจยกย่องเขาเป็น ‘วีรบุรุษถ้ำหลวง’

 

 

วิเชียร ชิณวงษ์ ผู้พิทักษ์แห่งป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

จุดเริ่มต้นของข่าวมาจากเฟซบุ๊กเพจ ‘คนอนุรักษ์’ ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งจำนวน 4 ราย ทั้งชายและหญิง ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง

 

ตรวจสอบพบว่านักท่องเที่ยวหนึ่งในกลุ่มนี้คือ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบบริเวณเต็นท์พัก พบซากสัตว์ป่าคุ้มครองคือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง พร้อมอุปกรณ์ทำครัว อาวุธปืนและเครื่องกระสุน

 

 

นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร คือหัวหน้าชุดที่นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนักธุรกิจใหญ่ของประเทศไทย

 

นายวิเชียร เล่าย้อนเหตุการณ์ขณะจับกุมว่า นายเปรมชัยและพวกได้แสดงตัวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตักเตือนให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็ไม่มีการย้ายออก โดยอ้างว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในการเดินป่าช่วงกลางคืน จึงทำให้เชื่อว่ามีความผิดปกติ และเมื่อมีเสียงปืนดังขึ้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมนายเปรมชัย

 

ยอมรับว่านายเปรมชัยและพวกพวกมีความพยายามเจรจาต่อรอง ซึ่งตนเองได้ปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่มีใครต้องการได้เงินจากนายเปรมชัยแม้แต่บาทเดียว

 

 

 

“ไม่กลัวการถูกย้าย ผมทำงานเพื่อปกป้องป่า ผมแค่ทำตามหน้าที่รับผิดชอบตรงไปตรงมา โดยชอบธรรม ก็มองว่าไม่มีอะไรต้องกังวล วันข้างหน้าจะมีอะไรไหมก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะการรักษาทรัพยากรป่าไม้ เป็นเรื่องที่ต้องกระทบผลประโยชน์ของใครบางคน ถ้าเจ้าหน้าที่ท้อถอย ถอดใจ ทรัพยากรป่าไม้คงจะเหลืออยู่ไม่เท่าไร ในส่วนของผมและเจ้าหน้าที่ทุกนายก็พร้อมเสมอที่จะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ” นายวิเชียร กล่าว

 

 

สำหรับนายวิเชียร หรือหัวหน้าวิเชียร ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติความกล้าหาญ และความมีจริยธรรม จากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) จากการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล

 

คดีเปรมชัย คืบหน้าไปถึงไหน?

ความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย และพวก อัยการจังหวัดทองผาภูมิ สั่งฟ้อง 6 ข้อหา คือ

  1. ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
  2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
  3. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
  4. ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
  5. ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย

และ 6. ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

โดยศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดสืบพยานโจทก์ จำนวน 32 ปาก รวม 10 นัด คือวันที่ 27-30 พฤศจิกายน วันที่ 6-7 ธันวาคม วันที่ 11-13 ธันวาคม และวันที่ 18 ธันวาคม 2561

 

จากนั้นนัดสืบพยานจำเลย จำนวน 17 ปาก รวม 6 นัด คือวันที่ 19-21 และ 25-27  ธันวาคม 2561 ซึ่งตามกระบวนการทางกฎหมาย ในปี 2562 สังคมจะทราบผลการพิจารณาคดี

 

 

น้องแบม นักศึกษาฝึกงานเปิดโปงโกงเงินคนจน

นางสาวปณิดา ยศปัญญา นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้ร้องเรียนการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระหว่างไปฝึกงานที่ศูนย์ดังกล่าวจนกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ

 

นำไปสู่การตรวจสอบโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จนพบพฤติการณ์ทุจริตของศูนย์กว่าค่อนประเทศ รวม 67 ศูนย์ และมีเพียง 9 จังหวัดที่ไม่พบการทุจริต คือ สิงห์บุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครศรีธรรมราช นนทบุรี แพร่ นครสวรรค์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์  มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมากกว่า 300 คน ถูกดำเนินการสอบสวน

 

การเปิดโปงของนักศึกษาฝึกงาน ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในเวลานั้น ตกเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวหา โดยวันที่ 10 เมษายน 2561 ที่ประชุม ครม. มีมติให้นายพุฒิพัฒน์ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

 

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 คณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีมติให้อายัดทรัพย์สินของนายพุฒิพัฒน์ กับพวกที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตยักยอกเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งและผู้มีรายได้น้อย รวม 12 ราย จำนวน 41 รายการ มูลค่าประมาณ 88 ล้านบาท พร้อมดำเนินคดีอาญาความผิดฐานฟอกเงิน

 

 

โดยต่อมา นายพุฒิพัฒน์ พร้อมสาวคนสนิทกินยาพิษผสมไวน์ฆ่าตัวตาย แต่แพทย์สามารถรักษาชีวิตของสาวคนสนิทได้เพียงรายเดียว โดยญาติของอดีตปลัดท่านนี้เปิดเผยว่า ไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตายหนีความผิด เพราะยังไม่มีหน่วยงานไหนชี้มูลว่าผิด โดยญาติคาดว่าสาเหตุมาจากน้อยใจเรื่องติดต่อบุคคลหนึ่งเพื่อชี้แจงขอคำปรึกษา แต่ไม่ใช่การติดต่อเพื่อหาช่องทางหนีคดี หลายครั้งไม่มีเสียงตอบรับเลย จนอาจทำให้เกิดความเครียดและกดดัน

 

ขณะที่น้องแบม หรือนางสาวปณิดา ได้เข้ารับราชการตำแหน่ง นักวิชาการยุติธรรมปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 4 จังหวัดขอนแก่น เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

 

 

พระครูใบฎีกา จุดเริ่มต้นคดีเงินทอนวัด

คดีเงินทอนวัด เป็นคดีเขย่าวงการสงฆ์ไทยจนสะเทือนเลื่อนลั่น แต่น้อยคนจะรู้ว่าจุดเริ่มต้นของคดีนี้มาจากการร้องเรียนเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2560 ของ พระครูใบฎีกา อนันต์ เขมานนฺโท เจ้าอาวาสวัดห้อยตะแกละ จ.เพชรบูรณ์ ร้องเรียนกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังพบพิรุธข้าราชการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติทอนเงินสร้างพระอุโบสถ

 

 

สำหรับ ‘เงินทอนวัด’ คือเงินอุดหนุนให้กับวัดต่างๆ ผ่านโครงการบำรุงศาสนาและเพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรม วัดต้องเขียนโครงการเพื่อเสนอของบฯ เมื่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอนุมัติ ทางวัดต้องเบิกเงินจำนวนหนึ่งคืนเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อเป็นสินบน

 

จุดเริ่มต้นจากการทอนเงินวัดในต่างจังหวัด แต่เมื่อขยายผลพบว่าเกี่ยวข้องถึงระดับพระผู้ใหญ่ในวัดดังของประเทศ โดยคดีเงินทอนวัดแบ่งออกเป็นล็อตๆ ล่าสุดอยู่ที่ล็อตที่ 4

 

 

สำหรับคดีเงินทอนวัน 3 ล็อตแรก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 340 ล้านบาท และเป็นการตรวจสอบทุจริตงบใน 3 งบประมาณ คือ งบบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่ถูกดำเนินคดีในล็อตที่ 3 นี้ ถือเป็นการทุจริตงบสูงที่สุดกว่า 150 ล้านบาท

 

 

ส่วนล็อตที่ 4 ช่วง พ.ศ. 2554 -2559 พบเข้าข่ายทุจริต 30 วัด และกำลังดำเนินการตรวจสอบวัดเป้าหมายที่เหลือ ซึ่งมีวัดที่มีชื่อเสียงในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ซึ่งเป็นวัดที่ไม่เคยปรากฏในรายชื่อจากการดำเนินคดีทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 1-3 มาก่อน และผู้เกี่ยวข้องเป็นพระสงฆ์ระดับเจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส รวมถึงข้าราชการสำนักพระพุทธฯ

 

 

ป้าทุบรถ ผู้ชี้ประเด็นความล้มเหลวการบริหารงาน กทม.

 

https://www.youtube.com/watch?v=BFLaUvp3-q4&feature=youtu.be

 

ย้อนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ คลิปหญิงสูงวัยสองรายใช้ขวานจามใส่รถที่จอดขวางหน้าบ้าน ภายในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ซอยศรีนครินทร์ 55 เขตประเวศ กรุงเทพฯ จากประเด็นป้าหัวร้อนในตอนต้นกลายเป็นภาพสะท้อนความล้มเหลวของการบริหารงาน และบังคับใช้กฎหมายของ กทม.

 

คุณป้าสองท่านนั้นคือ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ วัย 57 ปี และ น.ส.มณีรัตน์ แสงภัทรโชติ วัย 61 ปี แม้จะถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ แต่ทั้งสองก็ใช้โอกาสที่เป็นข่าวดังต่อสู้กับปัญหาก่อสร้างตลาด 5 แห่งรอบบ้านโดยผิดกฎหมายมาเป็นเวลานับ 10 ปี

 

แม้ในปี 2556 ศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองแล้ว แต่เขตประเวศ และ กทม. กลับปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย จนต้องติดคำพิพากษา และคำสาปแช่งไว้ที่ประตูรั้ว

 

 

การต่อสู้ของสองป้าทุบรถเรียกความเห็นใจแก่คนในสังคมได้ โดยช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาชี้ว่า ตลาดทั้ง 5 แห่งรอบบ้านคุณป้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้ กทม. รื้อภายใน 60 วัน พร้อมให้จ่ายเงินเยียวยาตั้งแต่ปี 2553 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 รายละกว่า 360,000 บาท นอกจากนี้ กทม. ยังได้พิจารณาความผิดทางวินัยข้าราชการที่ปล่อยปละละเลยอีกจำนวน 7 ราย

 

 

ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ศาลจังหวัดพระโขนง  ได้ตัดสินปรับ น.ส.รชนีกร เลิศวาสนา อายุ 37 เป็นจำเลย ในความผิดฐานจอดรถกีดขวางทางเข้า-ออกอาคาร และก่อความเดือดร้อนรำคาญ เป็นเงิน 5,000 บาท และจำคุก 15 วัน แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี

 

 

อย่างไรก็ตาม เวลาต่อมาศาลปกครองได้ยกฟ้องคดีที่ป้าทุบรถ ขอให้เพิกถอนข้อบัญญัติ กทม. สร้างอาคารสูง-อาคารพาณิชย์ รอบสวนหลวง ร.9 ได้

 

แม้ศาลจะยกฟ้อง แต่ในเนื้อหาของคำพิพากษาก็ระบุให้ดัดแปลงการใช้พื้นที่ต้องยึดรายละเอียด แผนผังโครงการ สัญญาแนบท้ายการจัดสรรที่ดิน โฉนดของผู้ถือครองที่ดินเป็นหลัก ซึ่งก็ถือว่าเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้อยู่อาศัยได้ส่วนหนึ่ง แต่สองป้าทุบรถระบุว่า ก็ไม่สามารถวางใจได้ เพราะที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ก็เกิดจากคนที่ไม่รักษากฎหมาย อาศัยใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย

 

พร้อมเรียกร้องให้ผู้อยู่อาศัยโดยรอบสวนหลวง ร.9 คอยตรวจสอบการปฏิบัติงานของกรุงเทพมหานคร หากว่ามีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และกระทบสิทธิของตนเองก็ต้องออกมาต่อสู้ อย่าละเลย ต้องออกมาเรียกร้องปกป้องสิทธิของตนเอง

 

 

กราฟฟิตี้-แรปประเทศกูมี ศิลปินใต้ดินสะท้อนความอัดอั้นของสังคม

พ.ศ. 2561 มีคดีใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจและมากด้วยเงินทุน ซึ่งสังคมจับตาและวิพากษ์วิจารณ์ใหญ่ๆ 2 คดี หนึ่งคือ คดีนาฬิกาหรูของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาล คสช.

 

สองคือคดีล่าเสือดำของนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

 

คดีเหล่านี้ถูกดำเนินการผ่านขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งบางครั้งก็เร็วไม่ทันใจคนในสังคม แต่ก็มีบางครั้งที่ล่าช้าจนคนชินชาที่จะฟังข้ออ้าง-ข้อแก้ตัว

 

 

สำหรับคดีนาฬิกาพลเอก ประวิตร ถูกกระตุ้นเตือนด้วยผลงานกราฟฟิตี้ล้อเลียนของ  Headache Stencil ซึ่งพ่นไว้บริเวณสะพานลอยคนข้ามระหว่างซอยสุขุมวิท 56 กับ 58 ต่อมาภายหลังถูกลบไปแล้วโดยเจ้าหน้าที่เทศกิจ ขณะที่ตำรวจไล่ดูกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวผู้พ่นภาพดังกล่าว

 

“คนหลายคนคิดว่าผมพ่นรูปลุง แปะสติกเกอร์ลุง เพราะเกาะกระแสความดังของลุง…ไม่ใช่เลยครับ สิ่งที่ผมทำนั้น เพื่อจะให้ทุกคนจดจำหน้าลุงไว้ ให้เวลาและสังคมมันตัดสินว่าสิ่งที่ลุงทำมันถูกหรือผิด ดีหรือเลว ผมอยากให้คนได้จดจำหน้าของลุงไว้จนวันตาย เผื่อจะสามารถทำให้คนเข็ดขยาดกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ปฏิวัติรัฐประหาร’”

 

Headache Stencil 1/2/2018

 

อาจกล่าวได้ว่าผลงานกราฟฟิตี้ล้อเลียนของ Headache Stencil เป็นตัวกระตุ้นให้ศิลปินกราฟฟิตี้กลุ่มอื่นๆ ทำตาม ในกรณีคดีล่าเสือดำของนายเปรมชัย ซึ่งถูกสังคมจับตาและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในเวลานั้น

 

 

ไม่เพียงแค่กราฟฟิตี้เท่านั้น เพลงแรปใต้ดิน ‘ประเทศกูมี’ จากกลุ่มศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Rap Against Dictatorship ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและเสียดสีสังคมกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งตรวจสอบโดยอ้างว่าอาจสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย

 

แม้ต่อมาจะไม่มีการดำเนินคดีเอาผิด หรือออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเพลงนี้มาสอบสวน แต่ปรากฏการณ์นี้ก็เรียกเสียงวิจารณ์จากสังคมได้ไม่น้อยถึงความขึงขังเอาจริงเอาจังกับเพลงเพลงเดียวที่เสียดสีผู้มีอำนาจและวิจารณ์สังคม

 

ปรากฏการณ์ข่าวสารใหญ่ๆ ที่ได้รับความสนใจในปี 2018 มีทั้งข่าวใหญ่แต่คนทั่วไปไม่ได้สังเกตว่ามันเริ่มจากคนตัวเล็กๆ หรือในบางข่าวที่ดังขึ้นมาได้ก็เพราะว่าคนตัวเล็กๆ มุ่งมั่นกล้าหาญทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่

 

อย่างไรก็ดียังมีอีกหลายเรื่อง-หลายคดีที่ถูกเริ่มขึ้นจากพวกเขา แต่เรายังต้องติดตามต่อไป เราอาจมีส่วนช่วยส่งเสียง-กดดัน-ทวงถาม เพื่อผลักดันให้สิ่งที่พวกเขาเริ่มไว้สำเร็จได้ไม่สูญเปล่า

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post 2018 ปีที่เรื่องใหญ่เริ่มต้น และสำเร็จได้จากพลังของคนตัวเล็กๆ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/thailand-news-2018/feed/ 0
วินาทีพาทีมหมูป่ากลับบ้านชุดแรก 4 คน https://thestandard.co/four-boys-rescued-from-cave/ https://thestandard.co/four-boys-rescued-from-cave/#respond Mon, 09 Jul 2018 05:02:24 +0000 https://thestandard.co/?p=105442

The post วินาทีพาทีมหมูป่ากลับบ้านชุดแรก 4 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>

The post วินาทีพาทีมหมูป่ากลับบ้านชุดแรก 4 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/four-boys-rescued-from-cave/feed/ 0
รมว.มหาดไทยพอใจช่วย 4 หมูป่าชุดแรก เผยใช้นักดำน้ำชุดเดิมช่วย 9 คนที่เหลือเพื่อป้องกันความผิดพลาด https://thestandard.co/satisfactory-overall-assistance-boys-rescued-from-cave/ https://thestandard.co/satisfactory-overall-assistance-boys-rescued-from-cave/#respond Mon, 09 Jul 2018 02:27:24 +0000 https://thestandard.co/?p=105393

หลังจากเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ปฏิบัติการกู้ภัยช่วย 13 ชีว […]

The post รมว.มหาดไทยพอใจช่วย 4 หมูป่าชุดแรก เผยใช้นักดำน้ำชุดเดิมช่วย 9 คนที่เหลือเพื่อป้องกันความผิดพลาด appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลังจากเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ปฏิบัติการกู้ภัยช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีสามารถนำสมาชิก 4 คนแรกออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้อย่างปลอดภัยนั้น

 

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าพอใจภาพรวม การให้ความช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี 4 คนแรก เพราะหลายฝ่ายได้ร่วมมือกันจนภารกิจประสบความสำเร็จ แต่ยอมรับว่ายังมีข้อผิดพลาดอยู่ และต้องนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นและสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งผู้บัญชาการ ศอร. จะประชุมและสรุปในช่วงเช้าวันนี้เพื่อประเมินแนวทางการช่วยเหลืออีก 9 คนที่เหลือ

 

ส่วนจะเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือได้ในเวลาใดนั้นจะต้องรอฟังจากหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่อย่างเป็นทางการ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องนำถังอากาศเข้าไปวางตามเส้นทางที่จะเข้าไปยังเนินนมสาว  

 

ทั้งนี้ได้กำชับไปว่าก่อนปฏิบัติงานจะต้องประเมินศักยภาพของเจ้าหน้าที่ชุดที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งยังคงใช้นักดำน้ำชุดเดิมที่เข้าไปเมื่อวาน เพราะถือว่าได้เห็นสภาพภายในถ้ำและรู้แนวทางว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร รวมถึงรู้ข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขและจะต้องไม่ผิดพลาดซ้อน ดังนั้นหากมีการพผลัดเปลี่ยนกำลังก็อาจทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่องและเกิดอุปสรรคขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแผนการช่วยเหลือทั้งหมด

 

ส่วนสุขภาพของทีมหมูป่า 4 คนนั้น พลเอก อนุพงษ์ ระบุว่าขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งทุกคนแข็งแรงและปลอดภัย แต่ยังต้องตรวจสอบสุขภาพอย่างละเอียด

 

ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ตนเองจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายพร้อมกับนายกรัฐมนตรีเพื่อติดตามการทำงาน รวมถึงให้กำลังใจครอบครัวทีมหมูป่าและเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติงานทุกนาย

The post รมว.มหาดไทยพอใจช่วย 4 หมูป่าชุดแรก เผยใช้นักดำน้ำชุดเดิมช่วย 9 คนที่เหลือเพื่อป้องกันความผิดพลาด appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/satisfactory-overall-assistance-boys-rescued-from-cave/feed/ 0
ประมวลภาพวินาทีพาทีมหมูป่ากลับบ้านชุดแรก 4 คน https://thestandard.co/4-boys-rescued-from-cave/ https://thestandard.co/4-boys-rescued-from-cave/#respond Mon, 09 Jul 2018 02:09:25 +0000 https://thestandard.co/?p=105372

เสียงเฮลิคอปเตอร์และรถพยาบาลหน้าถ้ำหลวงเป็นสัญญาณว่าน้อ […]

The post ประมวลภาพวินาทีพาทีมหมูป่ากลับบ้านชุดแรก 4 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>

เสียงเฮลิคอปเตอร์และรถพยาบาลหน้าถ้ำหลวงเป็นสัญญาณว่าน้องๆ ทีมหมูป่าซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน กำลังจะได้สัมผัสกับโลกภายนอกถ้ำเป็นครั้งแรก มันคือวินาทีแห่งความปลาบปลื้มของคนทั้งโลก

 

 

เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ถือเป็นวันดีเดย์ ปฏิบัติการพาทีมหมูป่ากลับบ้านเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย (ศอร.) ออกคำสั่งด่วนที่สุดให้สื่อมวลชนและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องย้ายออกจากพื้นที่บริเวณหน้าถ้ำหลวง โดยให้ย้ายไปอยู่ที่ลานหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผาแทน เพื่อเป็นการจัดระเบียบและเตรียมความพร้อม

 

 

ก่อนที่เวลา 17.40 น. ทีมหมูป่าคนแรกก็สามารถออกจากถ้ำหลวงได้สำเร็จ และทยอยออกมาอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน โดยสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันเวลาการนำทีมหมูป่าออกจากถ้ำ ดังนี้

 

คนที่ 1 เวลา 17.40 น.
คนที่ 2 เวลา 17.50 น.
คนที่ 3 เวลา 19.40 น.
คนที่ 4 เวลา 19.50 น.

 

 

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะผู้บัญชาการ ศอร. ยืนยันนำทีมหมูป่าออกจากถ้ำถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์โดยปลอดภัยแล้ว 4 คน และจะปฏิบัติการอีกครั้งเมื่อพร้อมในวันนี้ (9 ก.ค.) โดยทีมหมูป่าที่เหลือยังอยู่ที่จุดเดิมคือเนินนมสาว

 

 

ภาพ: Chiang Rai Public Relations Office, AFP

The post ประมวลภาพวินาทีพาทีมหมูป่ากลับบ้านชุดแรก 4 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/4-boys-rescued-from-cave/feed/ 0