พระราชกฤษฎีกา – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 12 Nov 2024 10:08:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ. 2 ฉบับ ไม่เอาผิดคนในพื้นที่อุทยานระหว่างพิสูจน์สิทธิ ยันคนอยู่ก่อน กม. บังคับใช้ https://thestandard.co/cabinet-approves-draft-park-land/ Tue, 12 Nov 2024 10:08:26 +0000 https://thestandard.co/?p=1007796 ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ. 2 ฉบับ

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี […]

The post ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ. 2 ฉบับ ไม่เอาผิดคนในพื้นที่อุทยานระหว่างพิสูจน์สิทธิ ยันคนอยู่ก่อน กม. บังคับใช้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ. 2 ฉบับ

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้หารือกันเรื่องกฎหมายรองที่จะหมดวาระลงภายในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ และจะต้องรีบออกกฎหมายรองให้เร็วที่สุด

 

แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดและส่งผลกระทบกับประชาชนที่มาเรียกร้องอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วย ร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562

 

ซึ่งร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ในระยะเวลา 20 ปีนับตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้เพื่อให้ประชาชนอยู่อาศัยและมีพื้นที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งวันที่กฎหมายดังกล่าวบังคับใช้แล้ว แต่มีกรณีที่ประชาชนอยู่อาศัยและทำกินชั่วคราว จะมีการกำหนดพื้นที่อยู่อาศัยและทำกินอย่างชัดเจนโดยไม่มีการขยายพื้นที่อีก

 

ประเด็นที่ 2 กำหนดให้โครงการในพื้นที่ตามที่มีการกำหนดแนบท้ายของพระราชกฤษฎีกาให้มีแนวเขตโครงการที่กำหนดไว้ในแผนที่ท้ายจำนวน 6 แห่ง สอดคล้องกับเรื่อง One Map ที่ได้ข้อยุติไปแล้ว ซึ่งมีอุทยานแห่งชาติจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์, อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี, อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จังหวัดจันทบุรี และอุทยานแห่งชาติตาดหมอก จังหวัดเพชรบูรณ์ รวมถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอีก 2 แห่ง ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง จังหวัดเพชรบูรณ์ และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี

 

ส่วนผู้ที่จะอยู่อาศัยหรือทำกินภายใต้โครงการจะต้องมีผลสำรวจ โดยผู้ที่มีรายชื่อตามผลสำรวจถือครองที่ดินของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่ ในกรณี 2 ครอบครัวขึ้นไปที่ทำกินร่วมกันในสถานที่ทำกินเดียวกันให้อยู่อาศัยหรือทำกินได้ไม่เกิน 40 ไร่ ส่วนผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำกินในรูปแบบผู้ครอบครองที่ดิน แบ่งเป็น 1. ผู้ครอบครองที่ดิน และ 2. สมาชิกในครอบครัวหรือครัวเรือน จะต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม เช่น มีสัญชาติไทย ไม่มีที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย และไม่เคยต้องคำพิพากษาจนถึงที่สุดในเรื่องการทำลายป่าหรือการล่าสัตว์

 

ทั้งนี้ ผู้ครอบครองที่ดินจะโอนการครอบครองหรือยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวเข้ามาอยู่อาศัยหรือทำกินไม่ได้ ผู้อยู่อาศัยหรือทำกินมีหน้าที่อนุรักษ์ ฟื้นฟู และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเรื่องนี้เสนอกฤษฎีกาไปแล้วและคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามนี้แล้ว

 

ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ยังมีปัญหาและข้อขัดแย้งอยู่บ้าง ซึ่งพระราชบัญญัตินี้ใช้มา 5 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นก็ได้เวลาที่จะทบทวน คณะรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกันจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อทบทวน ดูแล และแก้ไขปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้ต่อไป ส่วนกรณีผู้ไร้สัญชาติที่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวน 4 แสนรายซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับรองแล้วเป็นผู้ที่ได้อยู่อาศัยใน 6 พื้นที่ที่กำหนด ส่วนที่เหลือจะดำเนินการต่อไป

 

ด้าน ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ก่อนจะนำร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี รัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับประชาชนที่มาเรียกร้องสิทธิ และวันนี้คณะรัฐมนตรีผ่านความเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ โดยย้ำว่า รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน และพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน

 

ขณะที่ คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ ร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ศ. …. และพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

 

ทั้งนี้ เป็นกฎหมายที่จะช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ทำกินได้อยู่อาศัยทำกินในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ ที่มีการประกาศก่อนที่จะมีพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งใช้บังคับอยู่ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำกินในพื้นที่เพื่อดำรงชีพต่อไปโดยรัฐไม่ได้ให้สิทธิ

 

ขณะที่ ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงเหตุผลในการตราพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับนี้ หลักการสำคัญคือเพื่อให้คนที่อยู่ในป่าขณะนี้สามารถทำมาหากิน และอยู่อาศัยในพื้นที่ได้ในระหว่างที่ตรวจสอบหรือพิสูจน์สิทธิในที่ดินว่า ตกลงพวกเขาอยู่มาก่อนหรืออยู่หลังประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่า

 

ตามกฎหมายเดิมระบุว่า ใครก็ตามอยู่ในพื้นที่ป่าจะต้องมีความผิดทางอาญาสถานเดียว จึงทำให้เกิดปัญหาระหว่างพี่น้องประชาชนกับหน่วยงานราชการเสมอมา จึงมีการแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับนี้ช่วง พ.ศ. 2562 โดยมีการกำหนดกฎบทเฉพาะกาลว่า ประชาชนที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิสามารถอยู่อาศัยทำมาหากินระหว่างมีการพิสูจน์สิทธิได้โดยไม่เป็นความผิดอาญา นี่คือหัวใจสำคัญของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้

 

ปกรณ์กล่าวอีกว่า พระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับนี้ไม่ได้ตัดสิทธิพี่น้องประชาชนเพื่อพิสูจน์สิทธิ และไม่ได้เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่เป็นการบรรเทาความผิดจากสิ่งที่เกิดขึ้นจากกฎหมายเก่า ดังนั้นพี่น้องประชาชนสามารถอยู่ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และสามารถทำมาหากินได้ตามปกติ ไม่ถือเป็นความผิดทางอาญาอีกต่อไป แต่ระหว่างนั้นจะมีการพิสูจน์สิทธิโดยคณะรัฐมนตรีและจะมีแนวทางการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

 

“หลักการจริงๆ คือการที่คนอยู่กับป่าได้อย่างมีความสุขถูกต้องตามกฎหมาย เราไม่คิดเหมือนระบบดั้งเดิมว่าใครก็ตามที่อยู่ในป่าแล้วจะมีความผิดตลอดเวลา เป็นการอยู่เพื่อพิสูจน์สิทธิหากเขาอยู่ในที่ดินนั้นมาก่อนที่จะมีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่า หากพิสูจน์ได้ราชการก็ต้องเพิกถอนพื้นที่ที่เขาอยู่ออกจากการเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่า” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากล่าว

The post ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ. 2 ฉบับ ไม่เอาผิดคนในพื้นที่อุทยานระหว่างพิสูจน์สิทธิ ยันคนอยู่ก่อน กม. บังคับใช้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. 67 : ใหม่อยาก ‘รื้อ’ เก่าอยาก ‘ยื้อ’ เริ่มแล้ว เลือก สว. 67 เปลี่ยนระบบ จบที่ใคร https://thestandard.co/senatorial-election-reform/ Mon, 20 May 2024 11:08:34 +0000 https://thestandard.co/?p=935872

หลังพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. มีผลบังคับใช้เมื่อวั […]

The post สว. 67 : ใหม่อยาก ‘รื้อ’ เก่าอยาก ‘ยื้อ’ เริ่มแล้ว เลือก สว. 67 เปลี่ยนระบบ จบที่ใคร appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลังพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 และหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเปิดรับสมัคร พร้อมด้วยวันเลือก สว. ทั้ง 3 รอบ เท่ากับว่าขอบเขตการนำเสนอของสื่อมวลชนตกอยู่ใต้เพดานกฎหมายที่ กกต. กำหนดไว้

 

ทว่านั่นอาจไม่ได้หมายความว่า ความรับรู้และความตื่นตัวของประชาชนต่อการเลือก สว. ครั้งนี้จะหดแคบตามไปด้วย เพราะไม่แน่ว่า ยิ่งพยายามให้เงียบเท่าไร กลายเป็นเสียงที่ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

 

‘กฎ’ ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด และ ‘กติกา’ ที่ซับซ้อนที่สุดในโลก ยิ่งตอกย้ำชัดขึ้นว่า การเลือก สว. ครั้งนี้สะท้อนความพยายามรักษาอำนาจของระบอบเก่า ขนานกับความพยายามเปลี่ยนแปลงของภาคประชาชน

 

 

สิ้นสุด สว. ชุดเฉพาะกาล เปลี่ยนผ่านสู่จุดเดิม?

 

หากจะสรุปวีรกรรมและผลงานของ สว. ชุดที่ผ่านมา ซึ่งแต่งตั้งโดย คสช. หลังการยึดอำนาจรัฐประหาร โดยสาระสำคัญก็คือ การเป็นกลไกสืบทอดระบอบด้วยอำนาจพิเศษ 250 เสียงที่สามารถร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีกับ สส. ได้ 

 

อำนาจพิเศษดังกล่าวถ่ายทอดผ่านการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาชุดเฉพาะกาลนี้ ซึ่งลงมติออกเสียงแต่ละครั้งไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เพียงการเลือกนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่รวมถึงการปัดตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับด้วย ทำให้บางภาคประชาชนเรียกขานวุฒิสภาชุดนี้ว่าไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้

 

หลัง สว. ชุดดังกล่าวหมดวาระลง ก็เปรียบเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานมา 5 ปีได้ปลดระวาง แต่ก็เปิดช่องให้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่มาปฏิบัติตามโปรแกรมเดิมด้วยเช่นกัน

 

 

สว. ชุดใหม่นี้ แม้จะไม่มีอำนาจการเลือกนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป แต่ยังสามารถมีส่วนให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อยู่ กล่าวให้เข้าใจง่ายคือ ต้องมี สว. อย่างน้อย 67 คน หรือจำนวน 1 ใน 3 ของทั้งหมด 200 คน ยกมือเห็นชอบให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่จึงจะผ่านไปได้

 

ยังไม่นับรวมอำนาจในการให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ โดยตลอดวาระ 5 ปี สว. ชุดใหม่นี้จะมีอำนาจให้ความเห็นชอบ:

 

  • ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 คน จาก 9 คน
  • คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 5 คน จาก 9 คน
  • คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 5 คน จาก 9 คน
  • และตำแหน่งสำคัญในองค์กรอื่นๆ เช่น กสทช. กสม. ฯลฯ

 

จะเห็นได้ว่า จากจำนวนบุคคลในองค์กรอิสระที่ สว. ชุดใหม่นี้สามารถให้ความเห็นชอบได้ ล้วนเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่ง หรือเป็นเสียงข้างมากที่สามารถชี้ขาดชะตากรรมของหลายๆ ฟากฝ่ายทางการเมืองได้

 

แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าการเลือก สว. ครั้งนี้มีกลุ่มจัดตั้งพรรคพวกเครือข่ายของตนเองให้เข้ามาลงสมัคร สว. เพื่อเลือกกันเอง ตามที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ค่าสมัคร 2,500 บาทต่อคน ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ ‘เสียง’ ที่กลุ่มจัดตั้งเหล่านี้ยินดีจ่ายเพื่อธำรงระบอบเดิมเอาไว้

 

“นี่คือระบอบประยุทธ์ ที่แม้ไม่มีประยุทธ์ในสนามการเมืองแล้ว แต่ระบอบก็ยังอยู่กับเราในรูปแบบรัฐธรรมนูญ 2560” 

 

“ออกจากระบอบประยุทธ์ไม่ได้ ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2560 แก้รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้ ถ้าไม่มี สว. ที่ฝักใฝ่ประชาธิปไตยมากกว่า 70 คน” ธนาธรกล่าว

 

จึงเป็นที่มาของความพยายามสร้าง ‘แมลง’ หรือ Bug เข้าไปป่วนในระบบนี้

 

พลังธรรมชาติ ‘แมลง’ แสดงตัว

 

พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เคยอธิบายเจตจำนงของการรณรงค์เชิญชวนคนมาสมัคร สว. ไว้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อพยายามสร้าง Bug ในระบบการเลือกอันซับซ้อน

 

Bug หรือ Software Bug ในทางศัพท์คอมพิวเตอร์ หมายถึงจุดบกพร่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากคำสั่งจนเป็นเหตุให้โปรแกรมทำงานสะดุดติดขัด แต่สำหรับการเลือก สว. ครั้งนี้ Bug หมายถึงประชาชนที่มีเจตจำนงเสรี มุ่งหมายเข้าไปสมัคร โดยไม่ได้จัดตั้งมา หรือเข้ามาเป็นตัวแทนของเครือข่ายไหน

 

กล่าวคือ เพราะประชาชนไม่ใช่คนออกแบบ ไม่ใช่คนคุมระบบ จึงเป็นได้เพียง ‘ผู้เล่น’ ที่ยอมเสียเงิน 2,500 บาท และเสียเวลาอีกมาก เพื่อฟันฝ่าเข้าไปในกติกาซับซ้อน อีกทั้งการเลือกทั้ง 3 ระดับ

 

กลุ่มคนที่เป็น Bug หรือ ‘แมลง’ เหล่านี้ ต่างทยอยแสดงตัวออกมาอย่างรวดเร็ว บางคนประกาศตัวตั้งแต่ต้นปีด้วยซ้ำ พร้อมยืนยันว่าตนเองมีเจตจำนงบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร นอกจากประชาชนในสายอาชีพของตนเอง

 

 

 

เวลาผ่านไป ‘แมลง’ เหล่านี้ก็ปรากฏตัวเพิ่มขึ้น ยิ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ยิ่งสร้างแรงกระเพื่อมและการรับรู้ บางคนเป็นนักวิชาการชื่อดัง บางคนเป็นศิลปิน อินฟลูเอ็นเซอร์ บ้างเป็นภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนมายาวนาน บ้างเป็นผู้ประกาศข่าวที่ออกหน้าจอแทบทุกวัน

 

ผู้เตรียมสมัคร สว. หลายคนก็มีจุดยืนที่หลากหลาย และใช่ว่าจะสอดคล้องกันไปทั้งหมด ทว่าเหตุผลหลักที่แต่ละคนน่าจะเห็นตรงกันคือ พวกเขาต้องการเข้าไป ‘รื้อ’ สิ่งเก่าๆ เปลี่ยนคำว่า สว. ที่คนเคยนึกถึงว่ายึดโยงกับประชาชน ให้เป็น สว. ที่เป็นประชาชนจริงๆ 

 

ประกอบกับความทุ่มเทของ iLaw ที่พยายามสร้างความเข้าใจ สนใจ และรวบรวมข้อมูลของบรรดาผู้สมัคร สว. ภาคประชาชนไว้บนเว็บไซต์ เพื่อให้เหล่า ‘แมลง’ มองเห็นกันเอง และกระตุ้นให้ ‘แมลง’ ลงสมัคร เพื่อเข้าไปเลือก ‘แมลง’ ด้วยกันเอง

 

เพราะอย่าลืมว่า ในระบบนี้มีเพียง ‘แมลง’ ที่ลงสมัครเท่านั้นจึงจะเลือกกันเองได้ ต่างจากการเลือกตั้งที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วม

 

เมื่อเหล่า Bug พากันรวมตัวมากขึ้น กลับกลายเป็นเห็นความพยายามของฝ่ายระบอบเก่าที่ทำกระบวนการ ‘Debug’ หรือ ‘ปราบแมลง’ ขึ้นมา

 

กระบวนการไล่แมลง: กลไกในระเบียบ

 

ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือก สว. ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา นำมาซึ่งข้อกังวลและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะการกำหนดให้ผู้สมัครแนะนำตัวได้ไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 และการแนะนำตัวทางอิเล็กทรอนิกส์สามารถเผยแพร่ให้ผู้สมัครด้วยกันเท่านั้น

 

ตลอดจนการห้ามไม่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวผ่านสื่อต่างๆ ร้อนจน กกต. ต้องนัดหมายสื่อมวลชนมาชี้แจงเกี่ยวกับการทำงาน ซึ่ง แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก็ได้ยืนยันว่า สื่อสามารถทำหน้าที่ได้ปกติตามหลักวิชาชีพ รายงานได้ทุกอย่างที่เป็นข้อเท็จจริง รวมถึงสัมภาษณ์ผู้สมัครได้ แต่ติดอยู่ที่ผู้สมัครห้ามแนะนำตัวเอง

 

“เราออกกติกาสำหรับคนแข่งขันเพื่อความเป็นธรรม ไม่ได้ออกเพื่อคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ทุกคนก็ยังมีสิทธิเสรีภาพ แต่คนที่เป็นผู้สมัครต้องอยู่ในเกณฑ์นี้ เพื่อความยุติธรรมในการแข่งขัน” แสวงระบุ

 

 

ท้ายที่สุด แม้ กกต. จะพยายามสะท้อนให้เห็นว่ารับฟังประชาชนอยู่ ทั้งการให้ความมั่นใจกับสื่อ หรือการแก้ไขระเบียบให้ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวผ่านอิเล็กทรอนิกส์ให้ประชาชนทั่วไปเพิ่มเติมได้

 

ทว่าก็ไม่สามารถคลายความกังวลและความเคลือบแคลงใจของประชาชนที่มีต่อ กกต. ในฐานะผู้คุมกฎได้ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ต่างจากการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ กกต. มักถูกสังคมตั้งคำถามเสมอ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศูนย์ป้องกันข่าวเท็จ กกต. ที่โพสต์ข้อความว่า การจัดแคมเปญให้มีการจูงใจ ชี้ชวน รวบรวมบุคคล อาจมีความผิดทางกฎหมาย ซึ่งแม้ภายหลัง iLaw จะตอบโต้ว่า เป็นการกล่าวอ้างโดยไม่มีข้อกฎหมายมารองรับ แต่ท้ายสุดก็ต้องนำข้อมูลผู้สมัครที่รวบรวมไว้ในเว็บไซต์ senate67.com ออกไปแทน

 

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw ระบุว่า จุดประสงค์ของการทำเว็บไซต์คือ ต้องการช่วย กกต. ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกติกาการเลือก สว. และข้อมูลผู้สมัคร สว. ว่ามีใครบ้าง เพื่อให้ผู้สมัครมีพื้นที่ในการออกสื่อสาธารณะได้อย่างเท่าเทียม ให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผู้สมัคร เพื่อจะได้ติดตามข่าว

 

“ส่วนตัวเชื่อว่าการทำเว็บไซต์ที่ทำมาก่อนหน้านี้สามารถทำได้ เพราะอะไรที่กฎหมายไม่ได้สั่งห้าม สามารถทำได้ แต่ผู้สมัครหลายคนที่ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ดังกล่าว กังวลว่าจะถูก กกต. ตีความกลายเป็นความผิด” ยิ่งชีพกล่าว

 

กลายเป็นว่า การเลือก สว. ในครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนบางฝ่ายมุ่งหมายว่า จะใช้ปากกาปลดเปลื้องระบบเก่าๆ ออกไป และเลือกคนใหม่ที่ตรงใจเข้ามา

 

ทว่าโจทย์คราวนี้แตกต่างออกไป เพราะด้วยระบบที่วางลงมาให้เหมือนกับประชาชนไม่ได้อยู่ร่วมในสมการนี้ แม้ กกต. จะยืนยันว่าเป็นการทำไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่เรื่องที่อันตรายมากกว่ากติกาการแข่งขันที่ซับซ้อน กลับเป็นการที่ประชาชนไม่แม้จะรับรู้ด้วยซ้ำว่ามีการแข่งขันอยู่!

 

ท้ายที่สุด การเลือก สว. ในครั้งนี้ที่ถูกกระทำให้ ‘เลือกกันเอง’ ในระบบปิด ก็ยังสะท้อนการต่อสู้กันของพลังธรรมชาติจากประชาชนที่ปรารถนาจะเข้าไปเป็น ‘แมลง’ เพื่อรื้อระบบเสียใหม่ ที่ยังต้องเผชิญความพยายามจาก ‘ระบอบเก่า’ ที่พยายามยื้อให้การเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปโดยง่ายดาย

 

 

อัปเดตข่าวล่าสุด เลือก สว. 2567 เกาะติดผลการเลือก สว. ได้ที่ https://thestandard.co/thai-senate-election-2024/, Facebook : THE STANDARD และ YouTube : THE STANDARD

The post สว. 67 : ใหม่อยาก ‘รื้อ’ เก่าอยาก ‘ยื้อ’ เริ่มแล้ว เลือก สว. 67 เปลี่ยนระบบ จบที่ใคร appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. 67 : โปรดเกล้าฯ แล้ว พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. 2567 https://thestandard.co/royal-decree-issued-for-2024-thai-senate-elections/ Sat, 11 May 2024 05:48:31 +0000 https://thestandard.co/?p=932317

วันนี้ (11 พฤษภาคม) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระรา […]

The post สว. 67 : โปรดเกล้าฯ แล้ว พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (11 พฤษภาคม) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 โดยมีใจความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 107 วรรคห้า และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้

 

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า ‘พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567’

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา 3 ให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

มาตรา 4 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

 

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (10 พฤษภาคม) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า สำนักทะเบียนอำเภอ รวมถึงสำนักงานเขตทุกเขต เปิดให้ผู้ที่ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาไปขอรับใบสมัคร (สว. 2) พร้อมแบบข้อมูลแนะนำตัว (สว. 3) และหนังสือรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์หรือทำงานในกลุ่มที่สมัคร (สว. 4) ด้วยตนเองเป็นวันแรก โดยมีรายงานว่า มียอดรวมผู้มาขอใบสมัครทั่วประเทศรวม 1,933 คน 

 

The post สว. 67 : โปรดเกล้าฯ แล้ว พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ. เลือก สว. เริ่มรับสมัคร 13 พ.ค. นี้ ไฟเขียวเพิ่มงบค่าใช้จ่ายอีกกว่า 227 ล้านบาท https://thestandard.co/royal-decree-calling-for-the-selection-of-senators/ Tue, 23 Apr 2024 08:39:14 +0000 https://thestandard.co/?p=925782 พ.ร.ฎ. เลือก สว.

วันนี้ (23 เมษายน) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกร […]

The post ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ. เลือก สว. เริ่มรับสมัคร 13 พ.ค. นี้ ไฟเขียวเพิ่มงบค่าใช้จ่ายอีกกว่า 227 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
พ.ร.ฎ. เลือก สว.

วันนี้ (23 เมษายน) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการให้ดำเนินการเลือก สว. ตามมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากอายุของ สว. สิ้นสุดลงในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี สว. ขึ้นใหม่ 

 

ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 โดยจะประกาศกำหนดวันเลือกและวันรับสมัครในวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 กำหนดวันเลือก สว. ระดับอำเภอ ในวันที่ 9 มิถุนายน 2567 กำหนดวันเลือก สว. ระดับจังหวัดในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 กำหนดวันเลือก สว. ระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 และกำหนดวันที่จะประกาศผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567

 

คารมกล่าวอีกว่า ครม. อนุมัติสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ได้มาซึ่ง สว. ตามที่สำนักงาน กกต. เสนอจำนวน 227,105,500 บาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สำนักงาน กกต. ดำเนินการเองจำนวน 100,949,700 บาท และเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยงานสนับสนุน 5 หน่วยงานจำนวน 126,155,800 บาท 

 

เนื่องจาก กกต. มีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการให้ได้มาซึ่ง สว. จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,516,418,100 บาท แต่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพียง 1,198,866,800 บาท ขณะเดียวกัน กกต. มีเงินนอกงบประมาณคงเหลือเพียง 90,445,800 บาท จึงขออนุมัติเพิ่มเติมจาก ครม. ในส่วนที่ขาดอยู่อีกจำนวน 227,105,500 บาท 

 

ด้าน รัดเกล้า​ อินทวงศ์​ สุวรรณคีรี​ รองโฆษกรัฐบาล กล่าวเสริมว่า การเลือก สว. ครั้งนี้ 200 คน ใครที่จะสมัครขอให้เป็นคนที่มีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่และคำนึงถึงประโยชน์ของชาติโดยแท้จริง ไม่ใช่การเข้ามาสู่ตำแหน่งเพียงแค่เล่นการเมือง

The post ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ. เลือก สว. เริ่มรับสมัคร 13 พ.ค. นี้ ไฟเขียวเพิ่มงบค่าใช้จ่ายอีกกว่า 227 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
จุลพันธ์ยืนยัน กฤษฎีกาส่งความเห็นดิจิทัลวอลเล็ตกลับมาภายในต้นปี 67 ย้ำยังคงอยู่ในกรอบเวลาเดิม https://thestandard.co/julapun-confirmed-decree-digital-wallet-opinion/ Tue, 19 Dec 2023 06:12:01 +0000 https://thestandard.co/?p=878385 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

วันนี้ (19 ธันวาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล จุลพันธ์ อมรวิวัฒน […]

The post จุลพันธ์ยืนยัน กฤษฎีกาส่งความเห็นดิจิทัลวอลเล็ตกลับมาภายในต้นปี 67 ย้ำยังคงอยู่ในกรอบเวลาเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

วันนี้ (19 ธันวาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการขอความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าสามารถออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้หรือไม่ ว่า ตนได้พูดคุยกับทางกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกฤษฎีกาจะส่งกลับมาในช่วงต้นปี 2567 ว่าทำได้หรือไม่ได้

 

เมื่อถามว่า การที่คณะกรรมการกฤษฎีกาส่งคำตอบมาในช่วงต้นปีจะทำให้โครงการดิจิทัลวอลเลตล่าช้าออกไปกว่ากรอบระยะเวลาที่วางไว้ช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 หรือไม่ จุลพันธ์กล่าวว่า “ไม่ๆ กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่เราไม่ได้เร่งรัด เพราะต้องให้กฤษฎีกาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ยืนยันว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังอยู่ในกรอบเวลาเดิมคือช่วงเดือนพฤษภาคม 2567”

The post จุลพันธ์ยืนยัน กฤษฎีกาส่งความเห็นดิจิทัลวอลเล็ตกลับมาภายในต้นปี 67 ย้ำยังคงอยู่ในกรอบเวลาเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ครม. อนุมัติ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อม ระยอง เขต 3 หลัง สส. ก้าวไกลลาออก คาดรับสมัคร 17-21 ส.ค. ก่อนเข้าคูหากาบัตร 10 ก.ย. https://thestandard.co/approval-of-new-elections-in-rayong-district-3/ Tue, 08 Aug 2023 08:00:07 +0000 https://thestandard.co/?p=826967 เลือกตั้งซ่อม ระยอง

วันนี้ (8 สิงหาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักน […]

The post ครม. อนุมัติ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อม ระยอง เขต 3 หลัง สส. ก้าวไกลลาออก คาดรับสมัคร 17-21 ส.ค. ก่อนเข้าคูหากาบัตร 10 ก.ย. appeared first on THE STANDARD.

]]>
เลือกตั้งซ่อม ระยอง

วันนี้ (8 สิงหาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. … 

 

โดยความจำเป็นในการออกพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งฯ นี้ เนื่องด้วย นครชัย ขุนณรงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคก้าวไกล ได้มีหนังสือลาออกจากการเป็น สส. ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2566 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(3)

 

ไตรศุลีกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (1) ได้กำหนดให้ในกรณี สส. ที่มาจากการแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลงเพราะเหตุอื่นใด นอกจากถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทนราษฎร หรือเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่างลงภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งนั้นว่างลง ดังนั้น เพื่อให้การเลือกตั้ง สส. จังหวัดระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่างเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงได้ยกร่าง พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งฯ และร่างแผนการจัดการเลือกตั้งขึ้นและเสนอต่อ ครม.

 

ไตรศุลีกล่าวต่อว่า สำหรับร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง สส. จังหวัดระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่างนั้น มีลำดับสำคัญ เช่น วันที่ 14 สิงหาคม เป็นวันสุดท้ายที่คาดว่าพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งฯ จะมีผลใช้บังคับ 

 

วันที่ 15 สิงหาคม กกต. ประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง และเป็นวันสุดท้ายในการประกาศกำหนดหน่วยเลือกตั้ง/ที่เลือกตั้ง และรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

 

วันที่ 17-21 สิงหาคม เป็นวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3

 

สำหรับวันที่คาดว่าเป็นวันเลือกตั้งฯ คือวันที่ 10 กันยายน ส่วนวันที่ 11-17 กันยายนเป็นวันแจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

The post ครม. อนุมัติ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อม ระยอง เขต 3 หลัง สส. ก้าวไกลลาออก คาดรับสมัคร 17-21 ส.ค. ก่อนเข้าคูหากาบัตร 10 ก.ย. appeared first on THE STANDARD.

]]>
เลือกตั้ง 2566 : กกต. เคาะ 14 พ.ค. 2566 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมกันทั่วประเทศ https://thestandard.co/ect-announced-election-day/ Tue, 21 Mar 2023 09:15:32 +0000 https://thestandard.co/?p=766279 วันเลือกตั้ง 2566

วันนี้ (21 มีนาคม) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมปร […]

The post เลือกตั้ง 2566 : กกต. เคาะ 14 พ.ค. 2566 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมกันทั่วประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
วันเลือกตั้ง 2566

วันนี้ (21 มีนาคม) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมประชุมเพื่อพิจารณากำหนด วันเลือกตั้ง 2566 และวันประกาศรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ภายหลังราชกิจจานุเบกษาประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภา ไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา

 

มีรายงานว่า ที่ประชุม กกต. มีมติเลือกวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป และหลังจากมีมติแล้ว จะส่งเรื่องไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการ เพื่อรับทราบ และส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

 

ขณะที่เวลา 16.00 น. แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2566 เป็นการทั่วไป รวมถึงไทม์ไลน์ในการเลือกตั้งด้วย

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 


 

เกาะติดทุกความเคลื่อนไหวของ การเลือกตั้ง 2566 สร้างการมีส่วนร่วมและเรียนรู้กระบวนการทางการเมืองผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ครบทุกเรื่องต้องรู้ก่อนเข้าคูหา 

The post เลือกตั้ง 2566 : กกต. เคาะ 14 พ.ค. 2566 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมกันทั่วประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประยุทธ์เปิดใจหลังยุบสภา ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันทำงานเพื่อชาติ รับเป็นนักการเมืองเต็มตัว https://thestandard.co/prayut-after-dissolve-parliament/ Mon, 20 Mar 2023 09:33:32 +0000 https://thestandard.co/?p=765761

วันนี้ (20 มีนาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก ทรัฐม […]

The post ประยุทธ์เปิดใจหลังยุบสภา ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันทำงานเพื่อชาติ รับเป็นนักการเมืองเต็มตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (20 มีนาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก ทรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 โดยให้มีผลวันนี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามข้อกฎหมาย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ทรงลงพระปรมาภิไธยตามที่รัฐบาลได้เสนอไป 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังยุบสภามีอะไรจะพูดหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีอะไร ขอบคุณทุกคน ขอบคุณรัฐสภาที่ได้ช่วยกันทำงานมาหลายปี ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ แต่ทุกคนได้ช่วยกันทำเพื่อประเทศชาติ พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับใคร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ. ประยุทธ์จะเป็นอย่างไรต่อไป พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นผู้ดูแลและวางแผนทั้งหมด พร้อมมองว่าตนเองน่าจะไม่ได้ไปทุกพื้นที่อยู่แล้ว โดยจะมีลงพื้นที่การหาเสียงใหญ่ หาเสียงย่อยอีกมากมาย 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พอใจกับผลงานตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเองไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ต้องถามประชาชนว่าพอใจหรือไม่ ได้รับอะไรไปมากน้อยเพียงใด แต่รัฐบาลได้ทำอะไรมากมายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีสิ่งใดที่ตั้งใจและยังไม่ได้ทำหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่พยายามทำแต่ก็มีความติดขัด ทั้งการออกกฎหมายที่ยังมีปัญหาค้างคาอยู่ พร้อมทั้งหวังว่ารัฐบาลหน้าจะสามารถดำเนินการให้เรียบร้อยได้ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ภูมิใจที่สุดเมื่อได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคืออะไร พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ขอบคุณในความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมกันผลักดันนโยบาย ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลร่วมกันทำมาทั้งหมดเป็นผลงานในรัฐบาลของเรา ในวันข้างหน้าหากจะทำอะไรหรือทำสิ่งใด ยังต้องมีการหารือกันในการประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป 

 

“ที่ผ่านมาผมก็ดีใจว่าอย่างน้อยผมก็ได้สร้างสิ่งดีๆ ขึ้นมา สิ่งที่เป็นรายได้ของประเทศ ทั้ง EEC การสร้างอุตสาหกรรมใหม่และมีการลงทุนจำนวนมาก และเสริมสร้างมูลค่าหลายหมื่นล้าน” 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้อะไรจากการเมือง พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า คงต้องได้ เพราะนายกรัฐมนตรีทำงานกับการเมือง ปฏิเสธไม่ได้ ก็เป็นนักการเมืองในฐานะผู้บริหาร สิ่งที่ออกมาได้เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นคนตัดสินใจ เสนอมาได้เพื่อตัดสินใจนำเข้า ครม. 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัดสินใจลง ส.ส. บัญชีรายชื่อหรือยัง พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ตอบ ก็เป็นแคนดิเดต ส่วนการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังทำงานเหมือนเดิม ทำเพื่อประชาชนประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง โดยการลงสนามการเมืองแบบเต็มตัวครั้งนี้ ครอบครัวก็ให้ตนเองตัดสินใจ เป็นห่วง เพราะคงไม่มีใครอยากให้สามีเป็นนักการเมืองเต็มตัว ภรรยาของตนเองไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ เขาดูแลด้วยความห่วงใย มีอะไรก็เตือนมา เขาให้กำลังใจตลอด เพราะตนเองเป็นสามี

 

ส่วนสนามเลือกตั้งนี้จะเป็นสนามสุดท้ายหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ถามกลับว่า รัฐธรรมนูญเขาเขียนไว้ว่าอย่างไร ยังไม่ทราบว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกี่คน เป็นเรื่องของพรรคที่ต้องหารือกัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลงเล่นการเมืองเต็มตัว ครอบครัวสนับสนุนหรือให้กำลังใจอย่างไรบ้าง พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ตนเองเป็นผู้ตัดสินใจ พร้อมยอมรับว่าตนเองห่วงใยต่อครอบครัว แต่ครอบครัวก็ต้องเป็นห่วงตนเองเหมือนกัน พร้อมกล่าวต่อไปว่า ไม่มีใครอยากให้สามีไปเป็นนักการเมืองเต็มตัว รศ.นราพร จันทร์โอชา ภรรยาของตนเองนั้นไม่ยุ่งเรื่องการเมือง แต่ยังคงดูแลสุขภาพ แสดงความห่วงใย และมีการตักเตือนตนเองอยู่ 

 

“ท่านให้กำลังใจผมมาโดยตลอด ผมเป็นสามี ภรรยาไม่ให้กำลังใจจะได้อย่างไร” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว 

The post ประยุทธ์เปิดใจหลังยุบสภา ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันทำงานเพื่อชาติ รับเป็นนักการเมืองเต็มตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ประกาศยุบสภาแล้ว เดินหน้าเลือกตั้ง 2566 ใน 45-60 วัน https://thestandard.co/announced-the-dissolution-of-parliament/ Mon, 20 Mar 2023 08:09:29 +0000 https://thestandard.co/?p=765650

ในที่สุดการยุบสภา เพื่อเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ก็เป็นไปตาม […]

The post ประกาศยุบสภาแล้ว เดินหน้าเลือกตั้ง 2566 ใน 45-60 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในที่สุดการยุบสภา เพื่อเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ก็เป็นไปตามที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นก่อนที่สภาผู้แทนราษฎร จะหมดวาระในวันที่ 23 มีนาคม โดยวันนี้ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 โดยให้มีผลตั้งแต่วันประกาศ

 

ส่วนจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวันใดนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้กำหนดวัน และประกาศให้ทราบต่อไป ภายใต้กรอบเวลาการจัดการเลือกตั้งในห้วง 45-60 วัน โดยต้องเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง 

 


 

อ้างอิง:

The post ประกาศยุบสภาแล้ว เดินหน้าเลือกตั้ง 2566 ใน 45-60 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘ยุบสภา’ ประยุทธ์ขอให้รอประกาศในราชกิจจาฯ ยกตัวอย่างจุดขายรวมไทยสร้างชาติ ให้ดูผลงานที่ผ่านมา https://thestandard.co/prayut-asked-to-wait-for-the-announcement/ Mon, 20 Mar 2023 07:09:50 +0000 https://thestandard.co/?p=765580

วันนี้ (20 มีนาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนต […]

The post ‘ยุบสภา’ ประยุทธ์ขอให้รอประกาศในราชกิจจาฯ ยกตัวอย่างจุดขายรวมไทยสร้างชาติ ให้ดูผลงานที่ผ่านมา appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (20 มีนาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2566 ถึงกรณีกระแสข่าวการยุบสภาที่จะมีการประกาศในวันนี้ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาในราชกิจจานุเบกษาวันนี้ อยากขอบคุณใครหรือไม่ที่สนับสนุนที่ให้อยู่เกือบครบวาระ 4 ปี พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า คงยังไม่พูดอะไร ให้รอราชกิจจานุเบกษาประกาศออกมาก่อน พร้อมย้อนผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้มีความจำเป็นที่ต้องพูดหรือไม่ ตนก็ยังเป็นรัฐบาลอยู่ แล้วจะเลิกเป็นรัฐบาลหรืออย่างไร อย่างไรก็ยังเป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ราชกิจจานุเบกษาจะประกาศภายในวันนี้ใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์เบะปากใส่แล้วกล่าวว่า ก็หวังว่าอย่างนั้น เดี๋ยวมันก็ออก เมื่อไรก็เมื่อนั้น ส่วนขั้นตอนการทูลเกล้าฯ นั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คงทำไปแล้วมั้ง นายกฯ ต้องทำก่อน พร้อมย้ำว่าให้รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะกล่าวทิ้งท้ายในฐานะรัฐบาลเต็มอำนาจในวันสุดท้ายหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ฝากให้ช่วยดำเนินการช่วงรักษาการให้ดีที่สุด และขอให้กำลังใจกับรัฐบาลหน้าว่า ในการทำงานให้เข้ากรอบกับที่เราทำอยู่ปัจจุบันให้มากที่สุด เพราะทำเพื่อความมั่นคง ยั่งยืนของประเทศชาติ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลได้ทำร่วมกัน หวังว่าทุกคนจะทำความเข้าใจให้ดี ไม่ใช่แค่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงที่เป็นรอยต่อของรัฐบาลมีความกังวลเรื่องเกียร์ว่างในการทำงานหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตัวเองได้กำชับไปแล้ว และติดตามงาน คงต้องมีการไปดูแลให้มากขึ้นหน่อยในช่วงนี้ ซึ่งตนเองก็มีความกังวลในส่วนของโครงการที่ยังติดค้างอยู่ ได้กำชับไปแล้ว เพราะยังไม่สามารถอนุมัติโครงการใหม่ได้ตามกฎของการเลือกตั้ง 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันพรุ่งนี้เลขาธิการคณะรัฐ (ครม.) จะชี้แจงอำนาจหน้าที่ของครม. รักษาการหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ตอบว่า จะมีการชี้แจงในวันพรุ่งนี้ระหว่างการประชุม ครม. และวันนี้ได้ประชุมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาแล้ว 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวยอมรับว่ามีการรับประทานอาหารกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีการตกลงจับขั้วตั้งรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า เขาไปรับประทานข้าวด้วยกันไม่ใช่หรือ คุณก็เอาไปคิดเองหมดทั้งนั้น ผมไม่ได้นั่งอยู่กับเขา ผมก็ไม่รู้เขาพูดอะไรกัน และเรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ. ประวิตร พร้อมย้อนผู้สื่อข่าวว่า เขาไปกินข้าวกัน ตนต้องถามเขาด้วยเหรอว่าเขาคุยอะไรกัน ตนไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่เห็นเขาจับมือกันเลย พวกคุณคิดไปเอง 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมร่วมรัฐบาลกับพรรคไหนอย่างไรนั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าใครจะได้ เขาจะจับกับตนด้วยหรือไม่ อยากจับเขาข้างเดียวไม่ได้ เขาต้องอยากจับกับเราด้วยหรือไม่นั้นตนยังไม่ทราบ แต่ขอให้เอาประเทศชาติมาก่อนแล้วกัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวคิดว่าจะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องผลนิด้าโพลที่คะแนนความนิยมตกไปอยู่อันดับ 3 พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเห็นแล้ว แต่เห็นก็คือเห็น และโพลคือโพล แล้วแต่อยู่ที่ประชาชนว่าต้องการอะไร คนที่จะทำอย่างถูกต้องและไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลต่อไป

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงจุดขายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะที่ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคนั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ให้ดูผลงานการปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมา พร้อมนำแนวทางที่ขับเคลื่อนอยู่ไปขับเคลื่อนต่อไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คือวิสัยทัศน์ของเรา ต้องคำนึงถึงวิสัยทัศน์ที่อยากให้ประเทศเดินหน้าไปทางไหน ทำให้ประเทศชาติหลุดกับดักรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูง ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อยู่กันอย่างพอเพียงและยั่งยืนในอนาคต

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าตัดสินใจถูกหรือไม่ที่ลงมาในสนามนักการเมืองค่อนตัวแล้ว นายกรัฐมนตรีตอบว่า ตอบไม่ได้ว่าตัดสินใจผิดหรือถูก ให้รอดูผลการเลือกตั้ง ตนพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด ผลการเลือกตั้งออกมาก็ตามนั้น ประชาชนต้องการอะไรก็อย่างนั้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากได้ของขวัญวันเกิด (21 มีนาคม วันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์) เป็นอะไร พล.อ. ประยุทธ์ตอบว่า “ขอให้ทุกคนมีความสุข ไม่แตกแยก ไม่แบ่งแยกกัน รู้รักสามัคคี รักษาสถาบันฯ ของเราไว้ให้ได้”

 

The post ‘ยุบสภา’ ประยุทธ์ขอให้รอประกาศในราชกิจจาฯ ยกตัวอย่างจุดขายรวมไทยสร้างชาติ ให้ดูผลงานที่ผ่านมา appeared first on THE STANDARD.

]]>