พรรคไทยภักดี – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 29 Jan 2025 08:22:24 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 พรรคการเมืองที่ได้เงินอุดหนุนมากที่สุดในปี 2568 https://thestandard.co/political-party-funding-thailand-2025/ Wed, 29 Jan 2025 08:22:24 +0000 https://thestandard.co/?p=1035721 พรรคการเมือง เงินอุดหนุน

กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองอนุมัติการจัดสรรเงินอุดห […]

The post พรรคการเมืองที่ได้เงินอุดหนุนมากที่สุดในปี 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
พรรคการเมือง เงินอุดหนุน

กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองอนุมัติการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมืองประจำปี 2568 โดย THE STANDARD รวบรวมพรรคการเมืองที่ได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุด 6 อันดับแรกในปีนี้

 

โดยมีหลักเกณฑ์จากการจัดสรรเงินสรรพากรตามที่ผู้เสียภาษีประจำปีระบุชื่อพรรคการเมืองไว้ ซึ่ง 20% ของวงเงินจัดสรรให้จัดสรรตามจำนวนเงินค่าบำรุงพรรคการเมือง อีก 20% ให้จัดสรรตามคะแนนเสียงที่พรรคการเมืองได้รับ และอีก 20% ให้จัดสรรตามจำนวนสาขาพรรคการเมือง

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 3 พรรคการเมืองที่ยังไม่ได้รับโอนเงินอุดหนุน เนื่องจากมีหนังสือแจ้งขอเลื่อนการแจ้งรายละเอียดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 พรรคการเมือง คือพรรคประชาชน (เดิมชื่อ พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล) อยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อบัญชีธนาคาร รวมถึงพรรคไทยรวมไทย และพรรครักแผ่นดินแม่ (เดิมชื่อ พรรคยุทธศาสตร์ชาติ) ที่อยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคและผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงิน

 

The post พรรคการเมืองที่ได้เงินอุดหนุนมากที่สุดในปี 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
วรงค์ยื่น กกต. เพิ่มเติม 3 หลักฐานยุบพรรคเพื่อไทย กล่าวหาทักษิณครอบงำ เย้ยไม่เห็นมีใครออกมาแก้ต่าง https://thestandard.co/warong-demands-pheu-thai-party-dissolution/ Tue, 29 Oct 2024 08:35:25 +0000 https://thestandard.co/?p=1001353 ยุบพรรคเพื่อไทย

วันนี้ (29 ตุลาคม) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก […]

The post วรงค์ยื่น กกต. เพิ่มเติม 3 หลักฐานยุบพรรคเพื่อไทย กล่าวหาทักษิณครอบงำ เย้ยไม่เห็นมีใครออกมาแก้ต่าง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ยุบพรรคเพื่อไทย

วันนี้ (29 ตุลาคม) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต. กรณียื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากยินยอมให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าครอบงำและชี้นำพรรค

 

นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้ กกต. เชิญมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมใน 3 ประเด็นที่ร้องไว้ ทั้งการประชุมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 และการที่ทักษิณชี้นำว่า แพทองธาร ชินวัตร จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ รวมถึงการเชิญ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเข้าหารือเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

 

อย่างไรก็ตาม นพ.วรงค์ เปิดเผยว่า มีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะให้ กกต. อีก 3 ประเด็น แต่ทีมที่ปรึกษากฎหมายของพรรคเห็นว่า ไม่ควรจะเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะการเปิดเผยจะทำให้อีกฝ่ายนำข้อมูลไปบิดเบือน โดย 3 ประเด็นใหม่นี้เป็นข้อมูลสำคัญและมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเราเตรียมเอกสารมายื่นให้กับ กกต.

 

“เราเชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่และสิ่งที่สื่อรายงาน ไม่มีคนของพรรคเพื่อไทยสักคนออกมาปฏิเสธการรายงานของสื่อถ้ารายงานไม่ถูกต้อง คนของพรรคเพื่อไทยต้องออกมาปฏิเสธ เราจึงมั่นใจว่าหลักฐานชิ้นนี้จะเอาผิดพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณได้” นพ.วรงค์ กล่าว

 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่าทักษิณไม่ได้ครอบงำ เนื่องจากการประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้ามีการเสนอชื่อ ชัยเกษม นิติสิริ อดีต สส. พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้าย 6 พรรคร่วมรัฐบาลก็โหวตให้แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า แล้วถ้าวันนั้นไม่มีการประชุมจัดตั้งรัฐบาล ทำไมพรรคเพื่อไทยกลับเพิ่งออกมาแก้ตัวหลัง กกต. รับคำร้อง

 

นพ.วรงค์ กล่าวต่อไปว่า แม้วันประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้าจะมีมติเสนอชื่อชัยเกษม แต่วันรุ่งขึ้นกลับโหวตเลือกแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องถามกลับว่า เย็นวันนั้นที่ทักษิณมาประชุม หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เชื่อว่าทักษิณมีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทย แล้ว 6 พรรคร่วมจะมาร่วมประชุมทำไม คงไม่มาเพื่อนั่งเล่นเฉยๆ

 

นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ในคำร้องของตนไม่มีการกล่าวหาพรรคร่วมรัฐบาล แต่อาจมีของผู้ร้องคนอื่นๆ ซึ่งเหตุผลที่ไม่ร้อง 6 พรรคร่วม เพราะในฐานะที่ทำพรรคการเมือง ส่วนตัวไม่เชื่อว่าทักษิณสามารถครอบงำพรรคการเมืองอื่นได้ แต่เขามีสิทธิ์ที่จะต่อรองกับ 6 พรรค ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า 6 พรรคร่วมต่อรองกับทักษิณแล้วจะจบ และเท่ากับว่าทักษิณมีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทย

 

“ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยคงคิดว่า สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดสร้างกระแสโต้กลับให้พรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณหนักหน่วงกว่าที่คิด ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะต้องแก้เกม แต่เกมที่ไหลลงมามีหลายเกมมาก ทำให้เขาต้องหยุดนิ่งและประเมินสถานการณ์ อย่างน้อยเขาต้องมาชี้แจงต่อ กกต. และเขาต้องคาดเดาว่าอีก 3 ประเด็นเพิ่มเติมที่ผมมายื่นต่อ กกต. มีอะไรบ้าง” นพ.วรงค์ ระบุ

 

นพ.วรงค์ มองว่า ต่อให้ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจะเก่งแค่ไหน แต่หากทำผิดจริงก็ต่อสู้ยาก และเท่าที่สังเกตเราจะเห็นทีมกฎหมายประกาศอยู่เสมอว่าคำร้องเป็นเรื่องไร้สาระ แต่สุดท้ายก็มีประเด็น ทีมกฎหมายพูดแบบให้กำลังใจกันไปก่อน แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย ยังไม่รวมในประเด็นที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นเรื่องชั้น 14 สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทักษิณและพรรคเพื่อไทยยินยอมกระทำร่วมกัน จึงทำให้สถานการณ์โต้กลับเขาแรงกว่าที่คิด

 

นพ.วรงค์ ฝากไปถึงพรรคเพื่อไทยว่า วันนี้กับ 20 กว่าปีที่แล้วสังคมไม่เหมือนเดิม มีการสื่อสารหลายช่องทาง ในอดีตคุณอาจทำอะไรกับสื่อก็ได้ แต่วันนี้ทุกอย่างผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้กระแสโต้กลับแรงกว่าที่เขาคาดคิดและตกอยู่ในสถานะที่ลำบาก

 

“แม้วันนี้คุณทักษิณจะไม่ออกมา แต่เชื่อว่าคุณทักษิณยังคุมและมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลอยู่ ซึ่งหลักฐานในอดีตมีอยู่หลายชิ้น แล้วผมก็เคยพูดเตือนคุณทักษิณว่าอย่าออกมา แต่สุดท้ายคุณทักษิณก็เป็นผู้สร้างหลักฐานขึ้นมาเอง วันนี้อยู่นิ่งๆ ก็ดีแล้วจะได้ทำให้รัฐบาลมีเวลาแก้ปัญหา” นพ.วรงค์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วรงค์ เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนเดินทางกลับทันที

The post วรงค์ยื่น กกต. เพิ่มเติม 3 หลักฐานยุบพรรคเพื่อไทย กล่าวหาทักษิณครอบงำ เย้ยไม่เห็นมีใครออกมาแก้ต่าง appeared first on THE STANDARD.

]]>
นพ.วรงค์ ร้องทักษิณครอบงำเพื่อไทย ชี้ ถ้าจะแนะนำลูกสาวก็ทำที่บ้าน อย่าออกสาธารณะ https://thestandard.co/warong-complaint-thaksin-lead-phue-thai/ Wed, 11 Sep 2024 06:55:06 +0000 https://thestandard.co/?p=982246 วรงค์

วันนี้ (11 กันยายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( […]

The post นพ.วรงค์ ร้องทักษิณครอบงำเพื่อไทย ชี้ ถ้าจะแนะนำลูกสาวก็ทำที่บ้าน อย่าออกสาธารณะ appeared first on THE STANDARD.

]]>
วรงค์

วันนี้ (11 กันยายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบ 2 ประเด็นที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 29 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และพรรคเพื่อไทยยอมให้คนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคครอบงำ ชี้นำ ตามมาตรา 28 ของกฎหมายเดียวกัน

 

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ที่ต้องมาร้องเรื่องนี้เพราะมองว่าการครอบงำเป็นปัญหาใหญ่ของการเมืองไทย คนครอบงำมีการไปติดต่อ เจรจา มีผลประโยชน์อะไร ประชาชนไม่รู้ จึงเห็นว่าต้องร้องต่อ กกต. เพื่อส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นการปกป้องประโยชน์ของประชาชนและระบบกฎหมาย

 

นพ.วรงค์ ชี้แจง 3 ประเด็นที่นำมาสู่การร้องเรียน คือ

 

  1. ทักษิณเชิญแกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึง ชัยเกษม นิติสิริ และพรรคร่วม มาเจรจาจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 14 สิงหาคม ช่วงเย็น หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง ซึ่งสื่อมีการนำเสนอข่าวว่าได้ข้อสรุปการหารือว่าจะเสนอชื่อชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี แม้วันที่ 15 กันยายน จะมีการประชุมของพรรคเพื่อไทยและมีการเปลี่ยนตัวว่าที่นายกรัฐมนตรีเป็น แพทองธาร ชินวัตร แต่ถือว่าการกระทำของวันที่ 14 สิงหาคม สำเร็จไปแล้ว โดยทักษิณ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้ามาครอบคลุม ครอบงำ และชี้นำพรรคเพื่อไทย โดยแกนนำหรือกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว

 

  1. เหตุการณ์วันที่ 20 สิงหาคม ทักษิณให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ตอบคำถามว่าจะให้แพทองธารควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ว่า นั่นเป็นเรื่องที่หนักเกินไป แม้แพทองธารจะเป็นบุตรสาว แต่ก็เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งการพูดลักษณะนี้เท่ากับเป็นการชี้นำหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีกทั้งสื่อยังถามต่อว่าพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการครอบงำหรือไม่ ทักษิณกล่าวว่าไม่ใช่ ‘ครอบงำ’ แต่เป็นการ ‘ครอบครอง’ ซึ่งแม้จะเป็นการพูดเล่น แต่คำนี้หนักกว่าการ ‘ครอบงำ’

 

เพราะคำว่าครอบงำคือมีอิทธิพลเหนือกว่า ให้คนอื่นปฏิบัติตาม แต่ครอบครองคือมีสิทธิเป็นเจ้าของ สังคมอาจมองว่าแพทองธารเป็นลูกสาว ทักษิณเป็นบิดา ก็สามารถให้คำปรึกษาได้ ซึ่งส่วนตัวก็เห็นด้วย แต่ต้องเป็นการให้คำปรึกษาที่บ้าน ไม่ใช่มาแสดงออกผ่านสาธารณะ แบบนี้บ่งบอกชัดเจนว่าทักษิณคือหัวหน้าพรรค ดังนั้นการที่ทักษิณมีพฤติการณ์ชี้นำ ครอบงำ และควบคุม จึงเข้าข่ายผิดกฎหมาย

 

  1. การที่ให้สัมภาษณ์ว่าจะเอาพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล ซึ่งทักษิณตอบสื่อชัดเจนว่าต้องการเสียงที่เพียงพอต่อการผ่านกฎหมาย สุดท้ายก็เอาพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล โดย สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ส่งหนังสือเชิญ พฤติกรรมนี้เท่ากับว่าทักษิณชี้นำการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ นอกจากนี้ยังมีกรณีปัญหาการร่วมรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐที่มีความขัดแย้งระหว่าง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งทักษิณก็ชี้ว่าจะเอากลุ่มไหนมาร่วมรัฐบาล สุดท้ายเป็นไปตามที่ทักษิณชี้ว่าจะเอากลุ่ม ร.อ. ธรรมนัส มาร่วมรัฐบาล

 

“3 เหตุผลนี้หากปล่อยให้มีการชี้นำ ครอบงำ จะเกิดอันตรายกับประเทศ พฤติกรรมสองอย่างนี้ไปด้วยกัน เหตุการณ์หนึ่งที่พรรคการเมืองยอมให้คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคมามีพฤติกรรมแบบนี้ พรรคการเมืองก็มีความผิดและนำไปสู่การยุบพรรคโดยศาลรัฐธรรมนูญ และเหตุการณ์นี้เป็นผู้ใดที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็เป็นความผิดตามมาตรา 29 เราจึงร้องร่วมในเหตุผลที่เกี่ยวเนื่องกันต่อ กกต.” นพ.วรงค์ กล่าว

 

ส่วนกระบวนการนี้จะถือเป็นการใช้นิติสงครามเพื่อทำลายรัฐบาล นพ.วรงค์ กล่าวว่า ‘นิติสงคราม’ เป็นคำที่ยกขึ้นมาเพื่อโจมตีคนที่มาร้องเรียน อยากถามกลับคนที่ใช้คำนี้ขึ้นมาว่าคุณเป็นนักประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะหลักใหญ่ประชาธิปไตยมี 3 ข้อ คือ เรื่องสิทธิเสรีภาพ เรื่องการเลือกตั้ง แต่ข้อที่สามที่เป็นกระบวนการสำคัญคือการตรวจสอบและถ่วงดุล ดังนั้นกระบวนการประชาธิปไตยต้องน้อมรับการตรวจสอบและถ่วงดุล การที่มาโจมตีคนที่มาร้องเรียนว่าใช้นิติสงครามนั้นเท่ากับไม่ยอมรับการตรวจสอบและถ่วงดุล ซึ่งไม่อยากให้ประชาชนหลงประเด็น เพราะคนพวกนี้กลัวการตรวจสอบและถ่วงดุล ซึ่งเป็นเสน่ห์ของประชาธิปไตยที่คนได้ประโยชน์คือประชาชน เพราะนักการเมืองจะระมัดระวังตัวในการที่จะทำอะไร

 

“คำว่านิติสงครามจึงเป็นวาทกรรมของคนที่กลัวการถูกตรวจสอบ แต่ปากอ้างว่าตัวเองคือนักประชาธิปไตย ซึ่งพวกนี้คือของปลอม ยังบอกว่าคนร้องรับเงิน ก็ขอให้บอกเลยว่าใครรับเงิน ลองบอกว่าหมอวรงค์รับเงิน ผมจะฟ้อง อย่าพูดลอยๆ ตีกิน ด้อยค่าคนอื่น แน่จริงระบุชื่อหมอวรงค์รับเงิน ไม่ต้องระบุว่ารับเงินใครมาก็ได้ แต่แค่บอกว่าผมรับเงินเท่าไรผมฟ้องคุณแน่ คนอย่างผมไม่มี ถ้ารับรวยไปแล้วตั้งแต่โครงการรับจำนำข้าว 9.4 แสนล้านบาท ผมรับเล็กๆ น้อยๆ สัก 500 ล้าน หรือพันล้าน ซึ่งมีคนเจรจาด้วย ผมยังไม่รับเลย นับประสาอะไรมาบอกว่าคดีละสองแสน กระจอกเกินไป” นพ.วรงค์กล่าว

The post นพ.วรงค์ ร้องทักษิณครอบงำเพื่อไทย ชี้ ถ้าจะแนะนำลูกสาวก็ทำที่บ้าน อย่าออกสาธารณะ appeared first on THE STANDARD.

]]>
พรรคไทยภักดีเสียใจ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต หวังไม่มีใครใช้เป็นเหตุเพื่อประโยชน์ทางการเมือง https://thestandard.co/thai-phakdee-party-is-saddened/ Wed, 15 May 2024 00:39:55 +0000 https://thestandard.co/?p=933551

วานนี้ (14 พฤษภาคม) พรรคไทยภักดีออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก […]

The post พรรคไทยภักดีเสียใจ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต หวังไม่มีใครใช้เป็นเหตุเพื่อประโยชน์ทางการเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วานนี้ (14 พฤษภาคม) พรรคไทยภักดีออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการเสียชีวิตของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 28 ปี เมื่อช่วงสายของวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาดังนี้ 

 

  1. พรรคไทยภักดีขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของเนติพรในวันนี้ ขอให้ดวงวิญญาณของเธอไปสู่สัมปรายภพ พบความสุขสงบอันแท้จริง และขออโหสิกรรมต่อการกระทำใดๆ ก็ตามที่กระทบกระเทือนต่อเนติพรในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ 

 

  1. ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เนติพรเป็นเพียงเหยื่อของขบวนการที่มีความมุ่งหมายที่จะล้มล้างการปกครองของไทย มุ่งหมายที่จะกร่อนเซาะบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเพียงเหยื่อของผู้ใหญ่ใจร้ายที่หมายมุ่งใช้เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อสนองเจตนารมณ์ความต้องการของตนเอง เป็นการใช้คนรุ่นใหม่ให้สู้เพื่อคนรุ่นเก่า ไม่ใช่สู้เพื่ออนาคตที่ดีงามแต่อย่างใด และที่สำคัญที่สุด เนติพรเป็นเพียงเหยื่ออธรรม ที่ใช้อุดมคติอุดมการณ์ทางการเมืองมาเป็นเครื่องหลอกล่อให้กระทำการผิดกฎหมาย เพื่อให้สมประโยชน์ตามจุดมุ่งหมายของเหล่าอธรรมทั้งหลาย

 

  1. การที่พรรคก้าวไกล นักการเมือง และนักกิจกรรมทั้งหลาย ต่างถามหาความรับผิดชอบจากกระบวนการยุติธรรมของไทย ในทำนองที่ว่าไม่ควรมีใครต้องตายจากความเห็นต่างทางการเมือง และสิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน ในประเด็นดังกล่าวตามข้อเท็จจริงอันเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม นักกิจกรรมที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะตามมาตรา 112 หรือมาตราอื่นๆ ล้วนได้รับการประกันตัวทั้งสิ้น แต่เนื่องจากนักกิจกรรมเหล่านี้กลับไปกระทำความผิดในแบบเดิมๆ ซ้ำซาก มีคดีความเป็นสิบคดีหรือหลายสิบคดี ก็เป็นเหตุผลอันชอบธรรมที่ศาลจะพิจารณาถอนประกันนักกิจกรรมทั้งหลาย 

 

ประเด็นการเสียชีวิตของเนติพรนั้น มีสาเหตุสำคัญจากการประท้วงด้วยการอดอาหาร ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของตัวเธอเอง ไม่ใช่ความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในกระบวนยุติธรรมแต่อย่างใด การที่พรรคการเมือง นักการเมือง และนักกิจกรรมทั้งหลาย ได้บิดเบือนความจริงในทำนองดังกล่าว เป็นความไม่เหมาะสมและไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง พรรคไทยภักดียืนยันสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายในประเด็นดังกล่าวอย่างเข้มแข็งจริงจัง เพื่อดำรงรักษาไว้ซึ่งหลักนิติรัฐนิติธรรมของประเทศ

 

  1. ขอเรียกร้องไปยังพรรคก้าวไกล นักการเมือง และนักกิจกรรมทั้งหลาย ที่พยายามใช้เหตุการเสียชีวิตของเนติพรเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเพื่อปลุกปั่นประชาชนคนรุ่นใหม่ให้เกิดความเคียดแค้นชิงชัง อันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โปรดหยุดพฤติกรรมดังกล่าว โดยประเด็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ พรรคไทยภักดีมีความเชื่อมั่นยืนหยัดในหลักการอหิงสาธรรม ความสงบสันติ ที่จะนำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีงามถูกต้องอย่างแท้จริง

 

อ้างอิง: 

The post พรรคไทยภักดีเสียใจ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต หวังไม่มีใครใช้เป็นเหตุเพื่อประโยชน์ทางการเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
หมอวรงค์นำทีมร้อง ป.ป.ช. เอาผิดคนช่วยทักษิณไม่ต้องติดคุก ชี้ตามระเบียบให้พักโทษ ใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว ไม่ใช่ออกมาสร้างปัญหาให้ประเทศ https://thestandard.co/call-the-nacc-to-prosecute-those-who-helped-thaksin/ Mon, 22 Apr 2024 05:55:39 +0000 https://thestandard.co/?p=925313

วันนี้ (22 เมษายน) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภั […]

The post หมอวรงค์นำทีมร้อง ป.ป.ช. เอาผิดคนช่วยทักษิณไม่ต้องติดคุก ชี้ตามระเบียบให้พักโทษ ใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว ไม่ใช่ออกมาสร้างปัญหาให้ประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (22 เมษายน) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นำทีมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินขบวนตั้งแต่ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อมายื่นหนังสือให้ตรวจสอบกระบวนการช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีอาการป่วย จนไม่ต้องติดคุก โดยได้นำรายงานการตรวจสอบข้อเท็จของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมามอบเป็นหลักฐาน

 

นพ.วรงค์ กล่าวต่อด้วยว่า การร้องเรียนครั้งนี้ถือเป็นพยานหลักฐานทางการที่น่าเชื่อถือที่สุด เนื่องจากเคยไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน แม้จะไม่รับเรื่องเพราะอ้างเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ได้ตรวจสอบและทำเป็นเอกสารลับส่งมาให้ตน โดยในเอกสารระบุว่าทักษิณไม่ได้ป่วยหนัก เพราะในรายงานการส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจเขียนว่าส่งตัวไปเพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยไม่มีการรักษาตัวในโรงพยาบาลราชทัณฑ์​ก่อนและหลังจากครบ 180 วัน เป็นการให้คะแนนที่ผิดปกติ หวังให้การช่วยเหลือ เนื่องจากเงื่อนไขการพักโทษจะต้องมีอายุ 70 ปี และป่วยจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ใช่กลับบ้านไปยกดัมบ์เบลแล้วกลับไปเป็นปกติ ตนจึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะมีจุดจบต่างจากโครงการรับจำนำข้าว 

 

เมื่อถามว่า พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ ระบุว่า มาร้องดำเนินคดีกับตนเป็นเรื่องที่ผิด ควรจะไปร้องกับรัฐบาลชุดที่แล้ว นพ.วรงค์ กล่าวว่า คุณทวีไม่ได้ไม่อ่านกฎหมาย ดูหน้าก็รู้แล้ว คุณทวีไม่ค่อยรู้เรื่อง เราไม่เคยกล่าวหาว่ากฎหมายผิด แต่คุณไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหมายออกในรัฐบาลชุดที่แล้วจริง แต่เรารู้ดีว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง เป็นการเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว 

 

“คนเก่าถูกถีบหัวส่งไปแล้ว อย่าไปโทษเขา อาย เหตุที่เกิดขึ้นช่วง 30, 60, 120, 180 วัน และปัจจุบันเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบโดยนายกฯ เศรษฐา และรัฐมนตรีทวี ตัดชนในช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา นายกฯ ทักษิณ กล่าวว่าตนเองถูกจัดข้อหาหลายเรื่อง ต้องถามว่าใครมายัดคุณ แบบนี้คุณลิงหลอกเจ้า คุณทักษิณคุณพลาดแล้ว” นพ.วรงค์ กล่าว

 

เมื่อถามว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาด้วยจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมวิกฤตกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น แต่การรอไปเรื่อยๆ คือการหาช่องทางทางกฎหมายมาช่วยเหลือ การพาคุณยิ่งลักษณ์กลับมาในโมเดลเดียวกันจะยิ่งหนักขึ้น

 

นพ.วรงค์ ยังตั้งคำถามที่กรณี พ.ต.อ. ทวี พยายามเลี่ยงตอบคำถามเรื่องการป่วยหนักของทักษิณ กลับเบี่ยงเบนไปตอบเรื่องการพักโทษว่าให้กลับไปอยู่กับครอบครัวเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เป็นการตอบแบบผิดๆ กฎกระทรวงเขียนว่า ในการพักโทษกรณีพิเศษต้องเป็นลักษณะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แบบถาวร ไม่ใช่ยกดัมบ์เบล 2 ครั้งแล้วหายเป็นปกติ การพักโทษเขาต้องการให้กลับไปใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายก่อนตายกับครอบครัว ไม่ใช่กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว ไม่ใช่ออกมาเดินตะแล็ดแต๊ดแต๋ หาเสียง สร้างความวุ่นวายให้ประเทศ

 

ขณะเดียวกัน วันนี้ คปท. และกองทัพธรรม ก็ได้ยื่นหนังสืออีกฉบับให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีใช้รถประจำตำแหน่งเดินทางเข้าพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เนื่องจากการใช้รถประจำตำแหน่งไปพบนักโทษชายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมมาติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคำร้องที่ยื่นไปก่อนหน้านี้ที่ให้ตรวจสอบคนช่วยเหลือทักษิณ

The post หมอวรงค์นำทีมร้อง ป.ป.ช. เอาผิดคนช่วยทักษิณไม่ต้องติดคุก ชี้ตามระเบียบให้พักโทษ ใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว ไม่ใช่ออกมาสร้างปัญหาให้ประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศาลยกฟ้องหมอวรงค์คดีธนาธรฟ้องหมิ่นฯ ไลฟ์พาดพิงสนับสนุนล้มล้างการปกครอง https://thestandard.co/warong-dejkitvikrom11032024/ Tue, 12 Mar 2024 03:47:27 +0000 https://thestandard.co/?p=909934

วันนี้ (11 มีนาคม) เมื่อเวลา 09.45 น. นพ.วรงค์ เดชกิจวิ […]

The post ศาลยกฟ้องหมอวรงค์คดีธนาธรฟ้องหมิ่นฯ ไลฟ์พาดพิงสนับสนุนล้มล้างการปกครอง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (11 มีนาคม) เมื่อเวลา 09.45 น. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ให้สัมภาษณ์หลังเข้าฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.280/2564 ที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ฟ้อง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท  

 

นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้ธนาธรไม่ได้เดินทางมาที่ศาล มีเพียงแค่ผู้รับอำนาจเท่านั้น ซึ่งวันนี้ตนชนะคดีหลังจากที่ถูกฟ้องเป็นครั้งที่ 3 ทั้งนี้ ตนอยากบอกว่า การที่พวกคนฟ้องคนอื่น หรือฟ้องประชาชนพร่ำเพรื่อ นอกจากจะเสียเงินเยอะในแต่ละคดี และการเรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท คนพวกนี้ถือว่าอ่อนประสบการณ์ วันใดที่บริหารประเทศด้วยการอ่อนประสบการณ์แบบนี้จะทำให้ประเทศเสียหายและล่มจม 

 

วันนี้แม้จะเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ทางฝ่ายตรงข้ามมีสิทธิที่จะอุทธรณ์ แต่ตนจะต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริง เพราะตนมีพยานหลักฐาน ไม่ใช่มีเพียงแค่พยานบุคคล และตนถูกฝึกให้พูดความจริง เวลาตนโพสต์ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียจะมีเอกสารอ้างอิงหมด ซึ่งตนไม่เคยกลัว เพียงแต่เรื่องนี้ทำให้เสียเวลา นอกจากนี้ขอให้มาพูดคุยกันอย่างลูกผู้ชาย ไม่ว่าจะผ่านเวทีไหนก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องมาตรา 112 

 

นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ขอฝากไปถึงประชาชน ช่วงนี้มีบางพรรคการเมืองปล่อยคลิปวิดีโอรณรงค์เชิญชวนเข้าแคมป์ สร้างเจตนารมณ์ก่อนจะให้มีการไปสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต้องการให้เป็นกลาง ไม่ควรมีพรรคการเมืองเข้าไปยุ่งหรือเชิญชวนเข้าแคมป์ดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นการฝักใฝ่และทำให้เจตนารมณ์ของ สว. มีปัญหา 

The post ศาลยกฟ้องหมอวรงค์คดีธนาธรฟ้องหมิ่นฯ ไลฟ์พาดพิงสนับสนุนล้มล้างการปกครอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
กรมราชทัณฑ์ แจงกรณีหมอวรงค์ เผยภาพเจ้าหน้าที่นำมือถือเข้าเรือนจำ ย้ำดูแลกฎระเบียบและรักษาผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียม https://thestandard.co/warong-dechgitvigrom-06012024/ Sat, 06 Jan 2024 06:30:40 +0000 https://thestandard.co/?p=884845 หมอวรงค์

วันนี้ (6 มกราคม) กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณี นพ. […]

The post กรมราชทัณฑ์ แจงกรณีหมอวรงค์ เผยภาพเจ้าหน้าที่นำมือถือเข้าเรือนจำ ย้ำดูแลกฎระเบียบและรักษาผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียม appeared first on THE STANDARD.

]]>
หมอวรงค์

วันนี้ (6 มกราคม) กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กพาดพิงถึงการดูแลและรักษาพยาบาลผู้ต้องขังสองมาตรฐาน ตลอดจนครั้งเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางบางขวาง มีคณะผู้ติดตามได้นำโทรศัพท์มือถือเข้าภายเรือนจำ จึงขอให้กรมราชทัณฑ์ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว

 

กรมราชทัณฑ์ระบุว่า ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางบางขวาง ในกรณีการดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขัง ซึ่งได้ยืนยันว่าทางเรือนจำฯ ให้การดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังทุกราย แม้กระทั่งผู้ต้องขังชาวต่างประเทศอย่างเท่าเทียมกัน โดยมีโรงพยาบาลกลางบางขวางภายในเรือนจำที่ให้การรักษาพยาบาล และหากมีการเจ็บป่วยที่เกินความสามารถของโรงพยาบาลกลางบางขวาง ก็จะดำเนินการส่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแม่ข่ายหรือโรงพยาบาลเฉพาะทางของโรคเหล่านั้น 

 

ในส่วนของการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรื่องปัจจัย 4 การควบคุมดูแล และการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ และข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำแห่งองค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (ข้อกำหนดแมนเดลา – Mandela Rules)

 

สำหรับในกรณีการนำโทรศัพท์มือถือเข้าภายในเรือนจำนั้น ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจในกรณีดังนี้ว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมภายในเรือนจำ และได้มีบุคคลในคณะของรัฐมนตรีซึ่งติดตามมาในภายหลัง เนื่องจากมีภารกิจต้องติดต่อประสานงานราชการอย่างต่อเนื่อง โดยงานควบคุมของเรือนจำจึงได้แจ้งขออนุญาตต่อผู้บัญชาการเรือนจำ ในการนำโทรศัพท์มือถือเข้ามาในภายในเรือนจำเพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานราชการ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 บัญญัติว่า ‘สิ่งของต้องห้าม ตามมาตรา 72 และมาตรา 73 ไม่หมายความรวมถึงสิ่งของต้องห้ามที่ใช้ในราชการ’

 

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง จึงได้อนุญาตให้บุคคลที่มีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือในการติดต่อสื่อสารของทางราชการ นำเข้าภายในเรือนจำได้ เช่น แพทย์ หรือส่วนราชการที่มาร่วมงานในเรือนจำเป็นเวลานาน และมีความจำเป็นในการใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารในขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย

The post กรมราชทัณฑ์ แจงกรณีหมอวรงค์ เผยภาพเจ้าหน้าที่นำมือถือเข้าเรือนจำ ย้ำดูแลกฎระเบียบและรักษาผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียม appeared first on THE STANDARD.

]]>
กรรมการบริหารพรรคไทยภักดีถูกร้องสอบเอาผิด ม.112 หลังยื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์คัดค้านทักษิณขออภัยโทษ https://thestandard.co/committee-thai-pak-dee-112/ Tue, 21 Nov 2023 01:08:38 +0000 https://thestandard.co/?p=867856

วานนี้ (20 พฤศจิกายน) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไท […]

The post กรรมการบริหารพรรคไทยภักดีถูกร้องสอบเอาผิด ม.112 หลังยื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์คัดค้านทักษิณขออภัยโทษ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วานนี้ (20 พฤศจิกายน) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า หนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยภักดีถูกร้องเรียนผ่านกองบังคับการปราบปราม ให้ตรวจสอบว่ากระทำความผิดเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ หลังการไปยื่นหนังสือคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2566

 

“พรรคไทยภักดีส่งคนไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แสดงความไม่เห็นด้วย กรณีกรมราชทัณฑ์จะดำเนินการเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษนักโทษชายเป็นกรณีพิเศษ

 

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคไทยภักดีเรียกร้องกรมราชทัณฑ์ก่อนที่กรมจะทำเรื่อง และก่อนจะมีพระบรมราชโองการ แต่แปลกที่ทนายส้มไปร้องกองปราบว่าเข้าข่ายผิด มาตรา 112 หรือไม่ และยิ่งแปลกมากที่กองปราบก็รับเรื่องเพื่อสอบปากคำ”

 

นพ.วรงค์ระบุว่า พรรคไทยภักดียืนยันถึงอุดมการณ์ในการปกป้องสถาบันเบื้องสูง ไม่มีความคิดที่จะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันเบื้องสูงเหมือนบางฝ่าย ที่สำคัญคือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคเรียกร้องแค่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็มีหนังสือตอบมาที่พรรคว่าดำเนินการตามกฎหมาย และปฏิบัติให้กับนักโทษทุกคน

 

“วันนี้สังคมไทยคงแปลกมาก ปล่อยให้ฝ่ายล้มล้างมาร้องฝ่ายปกป้องว่าล้มล้าง ปล่อยให้ฝ่ายโดนคดี 112 มาร้องฝ่าย #save112 ว่าผิดมาตรา 112 ที่ยิ่งแปลกมากๆ คือเจ้าหน้าที่รัฐก็รับลูกด้วย” นพ.วรงค์ระบุ

 

ย้อนที่มาไทยภักดีคัดค้านทักษิณยื่นขออภัยโทษ

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม หลังการเดินทางกลับของทักษิณเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 22 สิงหาคม อนันต์ สาครเจริญ เหรัญญิกพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอคัดค้านการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ เนื่องจากในขณะนั้นมีกระแสข่าวว่าทักษิณจะทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษแบบเฉพาะรายบุคคล พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษ ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ

 

  1. ทักษิณต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศ และยังมีพฤติกรรมหลบหนีคดีไปต่างประเทศ ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม 

 

  1. จะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง เป็นการสร้างความอยุติธรรมขึ้นมาในประเทศ สร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประชาชน

 

  1. ในสมัยที่ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยึดนโยบายที่จะไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับผู้ต้องขังในคดีทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อที่จะธำรงรักษาหลักธรรมาภิบาลแห่งรัฐไว้อย่างหนักแน่นมั่นคง ซึ่งควรเป็นนโยบายที่หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมจะต้องสืบทอดเอาไว้

 

ก่อนที่วันที่ 1 กันยายน จะมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี

 

อ้างอิง: 

The post กรรมการบริหารพรรคไทยภักดีถูกร้องสอบเอาผิด ม.112 หลังยื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์คัดค้านทักษิณขออภัยโทษ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวมไทยสร้างชาติเปิดตัว ‘ถาวร เสนเนียม’ เข้าเป็นสมาชิกพรรค เผยแยกทางหมอวรงค์ด้วยดี ฝากดูแลพรรคไทยภักดีต่อ https://thestandard.co/ruam-thai-sang-chart-unveiled-thaworn-senneam/ Tue, 24 Oct 2023 10:41:49 +0000 https://thestandard.co/?p=857986 ถาวร เสนเนียม รวมไทยสร้างชาติ

วันนี้ (24 ตุลาคม) ถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ […]

The post รวมไทยสร้างชาติเปิดตัว ‘ถาวร เสนเนียม’ เข้าเป็นสมาชิกพรรค เผยแยกทางหมอวรงค์ด้วยดี ฝากดูแลพรรคไทยภักดีต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ถาวร เสนเนียม รวมไทยสร้างชาติ

วันนี้ (24 ตุลาคม) ถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และอดีตแกนนำพรรคไทยภักดี สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ให้การต้อนรับ

 

ถาวรกล่าวว่า การย้ายมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติครั้งนี้ ตนดูที่อุดมการณ์ ดูแนวทางการทำงานของพรรค และที่สำคัญตัวผู้บริหารพรรค พบว่าผลงานที่ปรากฏจับต้องได้หลังจากเข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน และนโยบายของพรรคก่อนเข้าร่วมรัฐบาลสามารถทำได้จริง สิ่งเหล่านี้ตนจึงมั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่มีความคิดและมีอุดมการณ์ตรงกัน

 

ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติตรงกับความต้องการของประชาชน เพราะประชาชนต้องการเห็นการลดความเหลื่อมล้ำ การปฏิรูปประเทศ ต้องการให้ลดราคาพลังงาน และที่สำคัญกว่านั้นคือ การแก้ไขปัญหาทุจริต พรรครวมไทยสร้างชาติได้ดำเนินการแล้ว ได้ทำแล้วและทำต่อไป เมื่อสิ่งที่ตนเฝ้ามองเห็นว่าแนวทางตรงกันเชื่อถือได้ และเดินไปข้างหน้าได้ ตนจึงเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อร่วมทำงานด้วย

 

ถาวรกล่าวว่า ตนเข้ามาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติในฐานะสมาชิกพรรคธรรมดาคนหนึ่ง ส่วนกรรมการบริหารพรรคจะมอบหมายให้ทำอะไรตนทำได้หมด ขออย่ารังแกประชาชน อย่าตระบัดสัตย์ อย่าทุจริต ต้องแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ร่วมปฏิรูปประเทศ แก้ไขความยากจน การถูกขูดรีดถูกเอาและเอาเปรียบ การที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ขายพืชผลทางการเกษตรไม่ได้ ราคาพลังงานแพง ถ้าสิ่งเหล่านี้มอบหมายให้ตนแก้ไขตนทำได้

 

“ผมเข้ามาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติรู้สึกอบอุ่น ดีใจที่ได้รับเกียรติทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา ชื่อไม่ได้ติดอยู่บนหอคอย แต่มีทางให้เดิน ขอฝากถึงประชาชนที่จับตามองการทำงานของรัฐบาล ผมจะไม่ละเว้นคนชั่วเด็ดขาด ขอให้ประชาชนสบายใจได้ สิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากผม จากพรรครวมไทย ก็พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาให้” ถาวรกล่าว

 

ถาวรกล่าวย้ำว่า ตนกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ได้พูดคุยกันแล้วจากกันด้วยดี อุดมการณ์ยังเหมือนกัน ได้ฝากพรรคไทยภักดีให้ นพ.วรงค์ดูแลต่อไป เราแยกกันเดินแต่รวมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เมื่อบ้านหลังนี้เปิดโอกาสให้มาทำหน้าที่ที่คล่องตัวมากขึ้นจากการเป็นรัฐบาล สามารถรับความทุกข์ความเดือดร้อนของประชาชนไปสู่การปฏิบัติได้ก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า

 

สำหรับ ถาวร เสนเนียม เป็นอดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในยุครัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนที่จะออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นแกนนำ กปปส. ชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และหวนกลับพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง 2562 และรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

 

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถาวรถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม ของกลุ่ม กปปส.​ ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2565 ก่อนเปิดตัวเป็นประธานพรรคไทยภักดีในช่วงกันยายน 2565

The post รวมไทยสร้างชาติเปิดตัว ‘ถาวร เสนเนียม’ เข้าเป็นสมาชิกพรรค เผยแยกทางหมอวรงค์ด้วยดี ฝากดูแลพรรคไทยภักดีต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไทยภักดียื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ ค้านปมทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษ ชี้คดีทุจริตเป็นคดีร้ายแรง หวั่นระคายเบื้องพระยุคลบาท https://thestandard.co/thai-pakdee-thaksin-royal-pardon/ Mon, 28 Aug 2023 04:39:19 +0000 https://thestandard.co/?p=834484

วันนี้ (28 สิงหาคม) ที่กรมราชทัณฑ์ ตัวแทนพรรคไทยภักดี น […]

The post ไทยภักดียื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ ค้านปมทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษ ชี้คดีทุจริตเป็นคดีร้ายแรง หวั่นระคายเบื้องพระยุคลบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (28 สิงหาคม) ที่กรมราชทัณฑ์ ตัวแทนพรรคไทยภักดี นำโดย อนันต์ สาครเจริญ เหรัญญิกพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งนี้ มี สมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ มาเป็นตัวแทนรับหนังสือ

 

โดยรายละเอียดในหนังสือระบุว่า เนื่องจากมีข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายสำนักอันเป็นที่เชื่อถือได้ว่า ทักษิณจะทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะราย 

 

พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ เพราะมองว่าทักษิณต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศมากถึง 4 คดี เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระ เป็นการทำลายหลักธรรมาภิบาลของประเทศอย่างย่อยยับ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ และยังมีพฤติกรรมหลบหนีการลงโทษไปต่างประเทศ ไม่เคารพยอมรับคำพิพากษาของศาล 

  

พร้อมทั้งกล่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของประเทศตลอดมา ดังนั้น การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของทักษิณจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบจากการกระทำความผิดของตนเองไปเป็นภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง

 

รวมถึงมองว่าจะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง เป็นการสร้างความอยุติธรรมขึ้นมาในประเทศ เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประชาชน ทำให้วาทกรรมที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” ปรากฏเป็นจริงขึ้นมา 

 

ซึ่งกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จะต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ยึดมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างเคร่งครัด และในสมัยที่ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยึดนโยบายที่จะไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อที่จะธำรงรักษาหลักธรรมาภิบาลแห่งรัฐไว้อย่างหนักแน่นมั่นคง 

 

ซึ่งควรเป็นนโยบายที่หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมจะต้องยึดถือสืบทอดเอาไว้ การดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายให้ทักษิณ จะเป็นแบบอย่างที่เลวร้ายต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะทำลายหลักธรรมาภิบาล 

 

ดังนั้น พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของทักษิณอย่างถึงที่สุด

 

อนันต์กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวเนื่องจากทักษิณต้องโทษคดีทุจริตในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ควรจะต้องมีความโปร่งใสน่าเชื่อ และการทุจริตคอร์รัปชันเป็นการประพฤติผิดร้ายแรง จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการมิบังควรและทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และทำให้เกิดความไม่สบายใจของประชาชน 

 

ทั้งนี้ จึงอยากให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน เพราะตั้งแต่ถึงสนามบินมีตำรวจมารับ ทำความเคารพให้ ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะไปอยู่ในห้อง VIP ของโรงพยาบาลตำรวจ และยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์จะต้องให้ความเท่าเทียมกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ โดยไม่มีอภิสิทธิ์ชนในประเทศนี้

The post ไทยภักดียื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ ค้านปมทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษ ชี้คดีทุจริตเป็นคดีร้ายแรง หวั่นระคายเบื้องพระยุคลบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>