วันนี้ (21 ตุลาคม) มีรายงานว่า ปรีดา บุญเพลิง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้ย้ายมาสังกัดเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม ที่มี ศ. ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าพรรค เพิ่มอีก 1 คน ทำให้ขณะนี้พรรคกล้าธรรมมี สส. ในสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 4 คนแล้ว

ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดตัว 3 สส. จากพรรคเล็ก คือ เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังสังคมใหม่, กฤดิทัช แสงธนโยธิน สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคใหม่ และ บัญชา เดชเจริญศิริกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคท้องที่ไทย

The post ‘ปรีดา บุญเพลิง’ ครูไทยเพื่อประชาชน ย้ายซบ ‘กล้าธรรม’ ของนฤมล เป็น สส. คนที่ 4 ของพรรค appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 มีนาคม) ที่รัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการหารือเรื่องขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ม.152

ชัยธวัชกล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันว่าจะยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่รวมมติตาม ม.152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งจากนี้จะประสานงานไปยัง วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเข้ายื่นญัตติอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 13 มีนาคมนี้ 

ทั้งนี้ กรอบการอภิปรายเบื้องต้น ฝ่ายค้านจะขอเวลาอภิปรายอย่างน้อย 2 วัน เมื่อดูปฏิทินวาระการทำงานในสภาแล้ว คาดว่าเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณ วาระ 2-3 เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทราบว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จะเข้าวาระที่ 2-3 ในวันที่ 27-28 มีนาคมนี้ ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมจึงเป็นสัปดาห์ถัดไปคือ วันที่ 3-5 เมษายน ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะปิดสมัยประชุม

ชัยธวัชกล่าวต่ออีกว่า สำหรับประเด็นในการอภิปรายตามมาตรา 152 โดยสรุปแล้วเห็นว่า ขณะนี้รัฐบาลชุดใหม่ได้เข้ามาบริหารเกือบครึ่งปีแล้ว แต่พบว่าไม่ได้มีการปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนและเพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนเอง ไม่มีการขับเคลื่อนนโยบายและการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนที่เร่งด่วนอย่างเป็นรูปธรรม ปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกประเทศเอารัดเอาเปรียบประชาชน ปล่อยให้ข้าราชการมีการรับผลประโยชน์ หลักนิติธรรมถูกทำร้ายด้วยการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม บริหารประเทศอย่างไร้จริยธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ และไร้วุฒิภาวะ

ปัญหาใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้คือ ไม่ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน การอภิปรายตามมาตรา 152 จึงแตกต่างกับมาตรา 151 ในความเป็นจริงการบริหารโดยใช้จ่ายงบประมาณอย่างไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ยังไม่ผ่านสภาในวันนี้ ดังนั้นในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณการทุจริตคอร์รัปชันจึงอาจจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และการอภิปรายแน่นอนว่าจะไม่เลื่อนลอย ต้องมีหลักฐานข้อมูลที่เป็นรูปธรรม

ชัยธวัชยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นหลักในการอภิปรายมีอยู่หลายเรื่อง ทั้งหลักนิติรัฐและนิติธรรม ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงอย่างเดียวนั้น แต่ประเด็นหลักคือ การเพิกเฉยต่อการดำเนินนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาและการบริหารราชการแผ่นดินในหลายเรื่องที่มีลักษณะไร้จริยธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ผลงานที่จับต้องได้

ขณะที่ ชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเดินหน้ายื่นอภิปรายตามมาตรา 152 ร่วมกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน เบื้องต้นได้เตรียมเนื้อหาที่จะอภิปรายมาระยะหนึ่งแล้ว ยืนยันว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 25 คนพร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการอภิปรายครั้งนี้ 

โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดที่ทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทักษิณหรือเรื่องอื่นๆ ที่ไม่มีความเสมอภาค สองมาตรฐาน จะต้องนำมาอภิปราย วันนี้การเมืองต้องอยู่ในมิติใหม่ ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดให้สังคมรับทราบ และวิจารณ์ให้ประชาชนรับรู้ว่า 6 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำอะไรมาบ้าง

ส่วน กัณวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า พรรคเป็นธรรมพร้อมที่จะอภิปรายการทำงานของรัฐบาลตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นฝ่ายค้านแล้ว ดังนั้นจึงมีข้อมูลในการอภิปรายอย่างเต็มที่

The post ฝ่ายค้านให้เหตุผลยื่นซักฟอก ม.152 เพราะรัฐบาลเลือกปฏิบัติ ไร้ความสามารถในการบริหารแผ่นดิน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) ที่ร้านเส่ย ซอยพิบูลวัฒนา 6 เขตพญาไท เวลา 19.00 น. พรรคก้าวไกลในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน นัดพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 5 พรรค อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน รับประทานอาหารเย็น เพื่อหารือแลกเปลี่ยนการทำงานกระชับความสัมพันธ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกันมาเกือบ 1 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566

ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การรับประทานอาหารในวันนี้เป็นการนัดหมายตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา มีการหารือในหลายๆ เรื่องที่พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องโฟกัสร่วมกัน และใช้โอกาสนี้ในการเชื่อมความสัมพันธ์ เพราะมีหลายพรรคที่เพิ่งจะได้ทำงานร่วมกันครั้งแรก 

ฝ่ายค้านเดินสาย สัญจรแรก อุดรธานี

ชัยธวัช กล่าวขอบคุณแกนนำทุกพรรคที่ได้ให้กำลังใจกับพรรคก้าวไกล และได้หารือกันที่จะทำกิจกรรมร่วมกัน ในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการเปิดเวทีเพื่อพบปะประชาชนฝ่ายค้านสัญจรครั้งแรกที่จังหวัดอุดรธานี โดยไม่ต้องรอให้มีการปิดสมัยประชุมเหมือนที่ผ่านมา 

ดูสาระ-ประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก

ขณะที่ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรามั่นใจในเอกภาพของฝ่ายค้าน เราพูดตั้งแต่วันที่มีการประชุมกันครั้งแรกแล้ว ว่าจะดูที่สาระ เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก หลังจากนี้ก็จะมีการทำงานและกิจกรรมร่วมกัน เป็นปกติของสังคมไทย บางเรื่องไม่ต้องจบในห้องประชุม แต่ก็จบที่โต๊ะกินข้าว 

เฉลิมชัยกล่าวย้ำว่า การทำงานร่วมกันต่อไปของพรรคฝ่ายค้าน ขอให้ช่วยกันจับตาดู ส่วนได้ให้กำลังใจพรรคก้าวไกลอย่างไรบ้างนั้น ด้วยความเป็นนักการเมืองด้วยกันเราก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เรายังต้องทำงานร่วมกันอีกหลายอย่างก็คิดว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ของทุกพรรคการเมืองที่อยู่ตรงนี้ดีขึ้น และต้องยอมรับว่า เรามีพี่ใหญ่คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย มาเป็นคนเชื่อม ใช้ทั้งประสบการณ์และความเป็นคนรุ่นใหม่มาทำงานให้เกิดประโยชน์มากที่สุด 

สุดารัตน์ย้ำ ยืนหยัดแม้พรรคเหลือคนเดียว

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ได้ขอโทษฝ่ายค้านทุกคน กับกรณีคนที่หักหลัง เป็นงูเห่า ซึ่งทุกคนก็เข้าใจ เพราะหลายท่านก็เคยเจอแบบนี้มา ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินและลงโทษเอง เพราะว่าใจคนเราก็ห้ามไม่ได้ เรื่องความสำนึก รับผิดชอบต่อประชาชน แต่ประชาชนจะรู้เอง คำมั่นสัญญาของคนมีความสำคัญ ประชาชนก็มีความรู้สึกนึกคิด วันนี้ขอบคุณทุกพรรคที่มีความเข้าใจในสถานการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย ยืนยันว่าต่อให้พรรคเหลือคนเดียว ดิฉันก็จะยืนหยัด แต่เชื่อว่าคงไม่เหลือคนเดียว

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า ในการที่ฝ่ายค้านจะไปลงพื้นที่คงไม่ใช่แค่การหาเสียง แต่ความทุกข์ยากของประชาชนไปไม่ถึงผู้มีอำนาจและไม่ได้รับการเยียวยา เราก็จะไปเป็นตัวแทนดูปัญหาของประชาชน อย่างที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลบอกว่า ไม่ต้องรอปิดสมัยประชุม เราก็จะไปกันเลย

เชื่อการทำงานฝ่ายค้าน แซ่บนัว ไม่ออมมือ

จากนั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขออนุญาตมอบตัวในฐานะคนที่เลือกร้านนี้ ที่เราเลือกร้านนี้มันมีอำนาจอ่อนอยู่ เมนูชื่อดังของที่นี่ก็คือ ต้มยำปลาทู ทั้งแซ่บ ทั้งนัว ก็หวังว่าการทำงานของฝ่ายค้านจะมีความแซ่บ ความนัว

“แน่นอนว่าการที่อาหารจานหนึ่งจะออกมาอร่อย วัตถุดิบก็แตกต่างกัน ต้องมีทั้งความสด ต้องมีทั้งสมุนไพรที่มีประสบการณ์มากมาย ดังนั้นการทำงานของพวกเรา ความแซ่บ และความนัว ที่มาจากนักการเมืองรุ่นที่มีประสบการณ์ ถึงความสดใหม่ของนักการเมืองรุ่นใหม่ ผสมผสานกันอย่างเหมาะเจาะ ก็ขอให้พี่น้องประชาชนไว้ใจได้ ว่าฝ่ายค้านไม่มีออมมือแน่นอน ถึงแม้จะมีความแตกต่างหลากหลาย แต่เมื่อมารวมกันเป็นอาหารจานเดียว ก็เป็นรสชาติที่รับรองว่าถึงพริกถึงขิงแน่นอน” พิธากล่าว

จากนั้น แกนนำพรรคฝ่ายค้านได้ถ่ายรูปร่วมกัน พร้อมทำมือเป็นสัญลักษณ์หัวใจ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น โดยชัยธวัชได้กล่าวทักพิธาที่ทำท่ามินิฮาร์ตว่า “ท่านี้ไม่ได้ ท่านี้ไม่ได้” พิธาจึงตอบกลับไปว่า “ทำไมล่ะ เป็นไออุ่นที่คุ้นเคย” จากนั้นจึงเปลี่ยนไปทำท่าหัวใจโดยใช้มือไขว้กัน 

ผู้สื่อข่าวได้กล่าวแซวว่าคิดถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พิธากล่าวว่า ไม่มี ไม่มี และขออย่าแซว

The post ดินเนอร์ฝ่ายค้านชื่นมื่น เตรียมสัญจรแรก ปักหมุดอุดรธานี พิธาย้ำ จากนี้ไม่มีออมมือ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) ที่ร้านเส่ย ซอยพิบูลย์วัฒนา 6 เขตพญาไท เวลา 19.00 น. ผู้นำของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน เข้าร่วมการรับประทานอาหารเย็น เพื่อหารือแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผลักดันวาระการพิจารณากฎหมายและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีเอกภาพ

แกนนำพรรคก้าวไกล เช่น ชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล, ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล, เบญจา แสงจันทร์, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ และ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค

แกนนำพรรคไทยสร้างไทย เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, ชัชวาล อุดมเดช สส. บัญชีรายชื่อ ขณะที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เช่น เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยรองหัวหน้าพรรคคือ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, ชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช, ประมวล พงศ์ถาวราเดช สส. ประจวบคีรีขันธ์, นริศ ขำนุรักษ์ และ ปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน

พิธาได้ตอบคำถามสื่อมวลชนว่าทำไมถึงเลือกร้านนี้ว่าตนเป็นคนเลือกร้านเพราะร้านนี้เป็นร้านโปรดตอนเด็ก ซึ่งวันนี้ยังไม่ได้กินข้าวเลยว่าจะมากินปลาทูทอดแห้งๆ กรอบๆ ตนเคยมากินและน่าจะเป็นร้านของเพื่อนคนรู้จัก และคิดว่าใกล้กับรัฐสภาด้วย อาหารอร่อยหลายอย่าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าชอบเมนูอะไร พิธากล่าวว่า “ปลาทูต้มเค็มมีไหม” ทางสื่อมวลชนตอบว่ามีต้มยำปลาทู และชัยธวัชจึงพูดแทรกขึ้นว่า “พิธาชอบต้มส้ม” พร้อมหันมายิ้มกับสื่อมวลชน พิธาได้กล่าวถึงท้ายว่ามื้อนี้พรรคก้าวไกลเป็นเจ้าภาพ จากนั้นชัยธวัชกล่าวว่า มื้อนี้ตนเองเป็นเจ้าภาพ

สำหรับเมนูอาหารในวันนี้ เช่น ต้มยำปลาทู, ปลาทูทอด, ตับทอดกระเทียม, กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา, หอยตลับผัดฉ่า และแกงจืดฟองเต้าหู้

The post ดินเนอร์ฝ่ายค้านชื่นมื่น ‘ชัยธวัช’ ก้าวไกลเป็นเจ้าภาพ appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่วานนี้ (22 สิงหาคม) ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติให้ความเห็นชอบ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย โดยได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบ 482 เสียง ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาเท่าที่มีอยู่ทั้งหมดคือ 747 เสียง

โดยภาพรวมคะแนนเสียงจาก 11 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปด้วยความเอกภาพ และได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. อีก 152 เสียง รวมถึงคะแนนเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์อีก 16 เสียง ที่แม้ว่าก่อนหน้านี้มติพรรคประชาธิปัตย์จะให้ สส. งดออกเสียงก็ตาม

ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ

The post เปิดผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีรายพรรค วันที่ 22 สิงหาคม 2566 appeared first on THE STANDARD.

ล่าสุดการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยมี 2 พรรคการเมืองที่ประกาศเข้าร่วมรัฐบาล คือ พรรคใหม่และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ทำให้ขณะนี้มี สส. ในการจัดตั้งรัฐบาลกว่า 240 เสียง

THE STANDARD เปิดรายละเอียดเสียงของ สส. ภายใต้การนำจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย

ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

The post เช็กเสียง สส. จัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย ณ วันที่ 17 ส.ค. appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (17 สิงหาคม) ปรีดา บุญเพลิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน พร้อมด้วย กฤดิทัช แสงธนโยธิน ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคใหม่ วิฑูรย์ แนวพานิช ประธานชุมนุมสหกรณ์บริการเดินรถแห่งประเทศไทยจำกัด และนายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย ยื่นหนังสือให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี อดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเป็นผู้รับหนังสือ

ปรีดากล่าวว่า พรรคครูไทยเพื่อประชาชนและพรรคใหม่ยินดีที่จะร่วมรัฐบาล และยินดีสนับสนุนพรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทยให้จัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป โดยเราพร้อมสนับสนุนในสิ่งที่ถูกต้อง แต่หากสิ่งไม่ถูกต้องเราก็จะติติง ส่วนการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ เราไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และในวันนี้ยังมีพรรคการเมืองที่ไม่ผ่านการเลือกตั้งมาร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย รวมถึงกลุ่มสหกรณ์คนขับรถแท็กซี่ด้วย

ด้านกฤดิทัชกล่าวว่า เราแสดงเจตนารมณ์ตามระบอบประชาธิปไตย ให้พรรคที่มีคะแนนอันดับที่ 2 เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล สามารถจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เราพยายามจะทำให้มีนายกรัฐมนตรีเพื่อมาบริหารประเทศชาติ และจะยกมือสนับสนุนให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

วิฑูรย์ระบุว่า ขอให้กำลังใจกับพรรคเพื่อไทยฝ่าฟันอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เพราะปัญหาเศรษฐกิจจากนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาทำให้เกิดปัญหามากมาย เราจึงคาดหวังให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว

ขณะที่อดิศรระบุ พรรคเพื่อไทยให้สัญญาว่าวันนี้จะทำให้ชาติบ้านเมืองฝ่าอุปกรณ์สิ่งขวางกั้นเพื่อจะนำไปสู่การปลดล็อกในทางการเมืองสลายขั้วการเมืองให้ทุกฝ่าย มาแสดงความคิดเห็นการบริหารราชการแผ่นดินไปพร้อมกัน เพื่อชาติบ้านเมืองมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย และมี สสร. มาร่างรัฐธรรมนูญ ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกจากพรรคครูไทยเพื่อประชาชนและพรรคใหม่ รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆ ด้วย พร้อมขอให้คำมั่นสัญญาว่าในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ จะได้คะแนนเสียง 375 เสียง เกินครึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา

The post พรรคครูไทยเพื่อประชาชน-พรรคใหม่ ประกาศเติม 2 เสียง ร่วมรัฐบาลโหวตหนุนนายกฯ พรรคเพื่อไทย เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (25 พฤษภาคม) สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2566 อย่างเป็นทางการว่า

พรรคก้าวไกลถูกลด ส.ส. เขต 1 ตำแหน่ง ทำให้ภาพรวมกวาดที่นั่ง ส.ส. เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ รวมกัน 151 ที่นั่ง ในขณะเดียวกันพรรคภูมิใจไทยได้เก้าอี้ ส.ส. เขต เพิ่ม 1 ตำแหน่ง ทำให้มีเก้าอี้ ส.ส. รวมกัน 71 ที่นั่ง ส่วนพรรคอื่นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ การคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่เผยแพร่นี้เป็นการคำนวณเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาประกาศผลเลือกตั้งต่อไป

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

The post เลือกตั้ง 2566 : สรุปผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ส.ส. แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ 500 ที่นั่ง appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (24 พฤษภาคม) มีรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องของการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครบทั้ง 400 เขตแล้ว และเตรียมที่จะประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 

โดยพบว่าจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52,195,920 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 39,514,973 คน คิดเป็นร้อยละ 75.71

โดยการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมี 

• บัตรดี 37,190,071 บัตร คิดร้อยละ 94.12 
• บัตรเสีย 1,457,899 บัตร คิดเป็นร้อยละ 3.69 
• บัตรไม่ประสงค์เลือกผู้ใด 866,885 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.19  

ซึ่งผลการนับคะแนนพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 112 คน พรรคก้าวไกล ได้ ส.ส. 112 คน พรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส. 68 คน พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส. 39 คน พรรครวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส. 23 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 22 คน พรรคชาติไทยพัฒนาได้ ส.ส. 9 คน พรรคประชาชาติได้ ส.ส. 7 คน พรรคไทยสร้างไทยได้ ส.ส. 5 คน พรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้ ส.ส. 2 คน และพรรคชาติพัฒนากล้าได้ ส.ส. 1 คน 

ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อมี

• บัตรดี 37,522,746 บัตร คิดเป็นร้อยละ 94.96  
• บัตรเสีย 1,509,836 บัตร คิดเป็นร้อยละ 3.82 
• บัตรไม่ประสงค์เลือกผู้ใด 482,303 บัตร คิดเป็นร้อยละ 1.22  

โดยผลการคิดคำนวณคะแนนค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คน คือ 375,227.34 คะแนน ทำให้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คนมาจาก 17 พรรคการเมือง ประกอบด้วย

1. พรรคก้าวไกล ได้คะแนน 14,438,851 คะแนน ได้ ส.ส. 39 คน 
2. พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 10,962,522 คะแนน ได้ ส.ส. 29 คน
3. พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คะแนน 4,766,408 คะแนน ได้ ส.ส. 13 คน
4. พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 1,138,202 คะแนน ได้ ส.ส.3 คน
5. พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนน 925,349 คะแนน ได้ ส.ส. 3 คน 
6. พรรคประชาชาติ ได้คะแนน 602,645 คะแนน ได้ ส.ส. 2 คน 
7. พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนน 537,625 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน
8. พรรคเสรีรวมไทย ได้คะแนน 351,376 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน 
9. พรรคไทยสร้างไทย ได้คะแนน 340,178 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน 
10. พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้คะแนน 273,428 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน  
11. พรรคใหม่ ได้คะแนน 249,731 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน
12. พรรคชาติพัฒนากล้า ได้คะแนน 212,676 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน 
13. พรรคท้องที่ไทย ได้คะแนน 201,411 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน 
14. พรรคชาติไทยพัฒนา ได้คะแนน 192,497 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน 
15. พรรคเป็นธรรม ได้คะแนน 184,817 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน  
16. พรรคพลังสังคมใหม่ ได้คะแนน 177,379 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน
17. พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้คะแนน 175,182 คะแนน ได้ ส.ส. 1 คน 

ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ก่อนหน้านี้ในระบบ ECT Report แสดงจำนวนว่าพรรคก้าวไกลได้ 113 ที่นั่ง และพรรคภูมิใจไทยได้ 67 ที่นั่งนั้น เนื่องจากการลงข้อมูลในส่วนของผลการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดปราจีนบุรียังไม่สมบูรณ์ 

โดยจากรายงานประกาศ กกต. ประจำเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดปราจีนบุรี เรื่องผลการนับคะแนน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (ส.ส. 6/1) นั้นพบว่า สฤษดิ์ บุตรเนียร จากพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง ทำให้จำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลคือ 112 ที่นั่ง และพรรคภูมิใจไทย 68 ที่นั่ง  

ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเพียงผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น ยังไม่ใช่การพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของ กกต. 

อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมจำนวน ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อแล้ว 

พรรคก้าวไกล ได้ ส.ส. รวม 151 คน

พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส. รวม 141 คน

พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส. รวม 71 คน 

พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. รวม 40 คน 

พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ ส.ส. รวม 36 คน 

พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส. รวม 25 คน  

พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ส.ส. รวม 10 คน 

พรรคประชาชาติ ได้ ส.ส. รวม 9 คน 

พรรคไทยสร้างไทย ได้ ส.ส. รวม 6 คน 

พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ ส.ส. รวม 2 คน 

พรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้ ส.ส. รวม 2 คน 

พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้ ส.ส. พรรคละ 1 คน

The post เลือกตั้ง 2566 : กกต. เตรียมประกาศผลนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ก้าวไกล ส.ส. เหลือ 151 คน ตามมาด้วยเพื่อไทย 141 คน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (20 พฤษภาคม) กฤดิทัช แสงธนโยธิน หัวหน้าพรรคใหม่ กล่าวถึงกรณีดราม่าทางโซเชียลมีเดีย #ก็ไม่เอาพรรคใหม่ หลังมีหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรคถูกขุดคลิปพูดถึงกรณีมาตรา 112 ว่าตามข้อเท็จจริงแล้วคลิปดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนตัวของคณะกรรมการบริหารคนนั้น ซึ่งทางพรรคเองก็ไม่ได้เห็นด้วย  

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีโอกาสคุยกับรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่เป็นคนประสานให้เข้าร่วมรัฐบาลจึงตัดสินใจขอถอนตัว เพราะมีความไม่สบายใจในการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ แต่เนื่องจากตนเดินทางมาทำธุระต่างจังหวัดจึงยังไม่มีโอกาสได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 

ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊กของพรรคซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารโซเชียลมีเดียของพรรคเพียงช่องทางเดียวก็ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าถูกรีพอร์ตหรือเป็นการปิดเพจของคณะกรรมการบริหารพรรคท่านนั้น เนื่องจากท่านเป็นผู้ก่อตั้งเพจ

ทั้งนี้ กฤดิทัชยืนยันว่าพรรคใหม่ยังสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล โดยการยกมือโหวตสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของประชาธิปไตย สิ่งไหนที่ดำเนินการถูกต้องก็จะสนับสนุน ส่วนเรื่องมาตรา 112 พรรคใหม่ยังมีจุดยืนเหมือนเดิม

The post เลือกตั้ง 2566 : พรรคใหม่ ประกาศขอถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาลกับก้าวไกล หลังโซเชียลถล่มยับปม ม.112 ยืนยันโหวต พิธา เป็นนายกฯ appeared first on THE STANDARD.