พรรคภูมิใจไทย – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 15 Nov 2025 08:09:31 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ คาดพิจารณาสาระสำคัญแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า เล็งเปิดประชุมวิสามัญต้นเดือน ธ.ค. https://thestandard.co/constitution-amendment-committee-dec-special-meeting/ Sat, 15 Nov 2025 08:09:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1143737 กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ คาดพิจารณาสาระสำคัญแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า เล็งเปิดประชุมวิสามัญต้นเดือน **ธ.ค.**

วันนี้ (15 พฤศจิกายน ) กรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู […]

The post กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ คาดพิจารณาสาระสำคัญแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า เล็งเปิดประชุมวิสามัญต้นเดือน ธ.ค. appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ คาดพิจารณาสาระสำคัญแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า เล็งเปิดประชุมวิสามัญต้นเดือน **ธ.ค.**

วันนี้ (15 พฤศจิกายน ) กรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าในการพิจารณาของ กมธ.

 

กรวีร์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จเมื่อใด แต่ชี้ว่า สาระสำคัญ ของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยขณะนี้เหลือเพียงการพิจารณาในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ:

 

  • คุณสมบัติและข้อห้าม ของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ
  • วิธีการทำงานร่วมกัน ระหว่าง กมธ.ยกร่างฯ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็น

 

กรวีร์ เชื่อมั่นว่า การพิจารณาในส่วนที่เหลือจากนี้จะดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

 

เมื่อถามถึงกำหนดการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ กรวีร์ กล่าวว่า คาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถเปิดได้ในช่วง ต้นเดือนธันวาคม โดยย้ำว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับความคืบหน้าในการพิจารณาของ กมธ.

 

อย่างไรก็ตาม กรวีร์ ยืนยันถึง ไทม์ไลน์กรอบใหญ่ ว่า การพิจารณาจะต้องแล้วเสร็จภายใน เดือนธันวาคม และมั่นใจว่าการลงมติในวาระสามจะเกิดขึ้นได้ทันภายในเดือนธันวาคมอย่างแน่นอน

The post กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ คาดพิจารณาสาระสำคัญแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า เล็งเปิดประชุมวิสามัญต้นเดือน ธ.ค. appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุชาติ ปัด ‘จองพื้นที่’ ชลบุรี บอกแค่ถนัด 5 เขต พร้อมทำงานร่วมทุกกลุ่ม หลัง ‘สนธยา คุณปลื้ม’ จ่อย้ายมาร่วมภูมิใจไทย https://thestandard.co/chonburi-politics-suchart-sonthaya/ Fri, 14 Nov 2025 05:06:47 +0000 https://thestandard.co/?p=1143267 สุชาติ ปัด ‘จองพื้นที่’ ชลบุรี บอกแค่ถนัด 5 เขต พร้อมทำงานร่วมทุกกลุ่ม หลัง ‘สนธยา คุณปลื้ม’ จ่อย้ายมาร่วม ภูมิใจไทย

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ […]

The post สุชาติ ปัด ‘จองพื้นที่’ ชลบุรี บอกแค่ถนัด 5 เขต พร้อมทำงานร่วมทุกกลุ่ม หลัง ‘สนธยา คุณปลื้ม’ จ่อย้ายมาร่วมภูมิใจไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สุชาติ ปัด ‘จองพื้นที่’ ชลบุรี บอกแค่ถนัด 5 เขต พร้อมทำงานร่วมทุกกลุ่ม หลัง ‘สนธยา คุณปลื้ม’ จ่อย้ายมาร่วม ภูมิใจไทย

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่สนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีและบ้านใหญ่ชลบุรีจะเข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย มีการบริหารจัดการพื้นที่กันอย่างไรว่า หากมีสัญญาณนับถอยหลังการเลือกตั้ง ทุกค่ายทุกกลุ่ม พยายามจะหาสังกัด เพื่อเตรียมเลือกตั้งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ แน่นอนว่าต้องมองสังกัดพรรคการเมืองที่มั่นคง และคิดว่าจะนำพาให้ประเทศชาติบ้านเมืองเจริญได้ ก็ไปพรรคนั้น

 

ทั้งนี้ในพื้นที่ชลบุรี ตนเป็นผู้แทนราษฎรไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องไปดูแลจังหวัดนั้น จังหวัดนี้ ซึ่งไม่ได้คาดหวังว่าจะมีประชาชนที่รู้จักทั้งจังหวัดหรือทุกจังหวัด เรามีความชำนาญในบางพื้นที่ บางอำเภอ บางตำบล ยินดีซึ่งท่านใดที่มีความรู้ความสามารถที่พร้อมจะเข้ามาอยู่พรรคเดียวกัน แต่ตอนนี้ทราบว่า ยังไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ทุกคนมีการพูดคุยกันได้หมด แต่ตนยินดีกับผู้ที่มีองค์ความรู้ มีศักยภาพทางการเมืองที่จะมาทำงานพร้อมกัน ถึงแม้จะเป็นจังหวัดเดียวกันก็ยินดี เพราะคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับสนธยาใช่หรือไม่ สุชาติ กล่าวยอมรับว่า ส่วนตัวเป็นผู้น้อยกว่า เด็กกว่า ต้องให้ผู้บริหารพรรคหรือ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคเป็นหลัก ตนไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในพรรคภูมิใจไทย ในวันนี้เป็นแค่สมาชิกพรรคและยังไม่ได้ทำขั้นแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลพื้นที่หรือผู้บริหารในโซนไหน ซึ่งยังไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงอะไรขนาดนั้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคภูมิใจไทยมอบหมายให้สนธยา ดูแลพื้นที่ชลบุรี สุชาติจะรับได้หรือไม่ สุชาติ มองว่า ทางการเมืองคงรู้อยู่แล้วว่าใครถนัดตรงไหน และใครเหมาะสมกับเขตไหน ตนคิดว่าคำว่าคุมหรือไม่คุม เป็นคำที่อุปโลกน์ขึ้นมามากกว่า อยากให้มองที่ผลลัพธ์และเสียงตอบรับของประชาชน ใครมีพื้นที่ฐานเสียงตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ทำงานเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองด้วยกัน มันก็ไปในทางเดียวกัน

 

เช่น หากให้ตนดูอำเภอบางละมุง หรือสัตหีบ ตนก็ดูไม่ได้เพราะตนไม่ได้รู้จักประชาชนในพื้นที่นั้นมาก ตนไม่ได้เกิดที่นั่น ซึ่งตนได้วางตัวผู้สมัครไว้ในอำเภอเมือง, พานทอง, พนัสนิคม, บ้านบึง, บ่อทอง และหนองใหญ่ ซึ่งเป็นผู้สมัครหน้าเก่า และเป็นพื้นที่ที่ตนถนัดส่วนตัว ส่วนตัวไม่ได้ข้ามไปทางศรีราชา บางละมุง พัทยา ต้องยอมรับว่าจังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดใหญ่

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคภูมิใจไทยนัดสนธยา และสุชาติเข้าไปพูดคุยเพื่อการบริหารจัดการพื้นที่ชลบุรีแล้วหรือยัง สุชาติกล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าตนเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยแล้ว ได้แสดงเจตจำนงไปแล้วว่าในพื้นที่ไหนที่ตนมั่นใจสามารถนำพา เพื่อนำพาเพื่อนไปรับใช้พี่น้องประชาชนในเขตนั้นๆได้ ตนก็เสนอตัว แต่ตรงอื่นเราก็ไม่มีความช่ำชองหรือรู้จักกับผู้นำตรงนั้น ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเราถนัดพื้นที่ไหน จะให้ผู้สมัครไปลงในพื้นที่ที่ไม่ถนัด ประชาชนจะพึ่งพาได้หรือไม่ หากทำตัวไม่ดีเราก็จะเสียหายไปด้วย

 

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพูดให้ชัด สุชาติจองพื้นที่ 5 เขต ไว้หรือไม่ สุชาติกล่าวว่า ไม่เชิงจองแต่เป็นพื้นที่ที่เรามีความถนัด ช่ำชอง ชำนาญและรู้จักผู้นำ ประชาชนในพื้นที่ ส่วนคนที่วางไว้ก็เป็น สส. หน้าเก่าทั้งหมด ถ้าไม่ให้เขาลงจะให้ไปพื้นที่ไหน

The post สุชาติ ปัด ‘จองพื้นที่’ ชลบุรี บอกแค่ถนัด 5 เขต พร้อมทำงานร่วมทุกกลุ่ม หลัง ‘สนธยา คุณปลื้ม’ จ่อย้ายมาร่วมภูมิใจไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชลน่านขออย่าบิดเบือน เพื่อไทยไม่มีเหตุให้เตะถ่วงแก้รัฐธรรมนูญ เผยเบื้องหลังมีขบวนการดึงเกม บล็อกซักฟอกรัฐบาล https://thestandard.co/chonlanan-denies-charter-censure-delay/ Fri, 14 Nov 2025 03:37:42 +0000 https://thestandard.co/?p=1143195 ชลน่านขออย่าบิดเบือน **เพื่อไทย** ไม่มีเหตุให้เตะถ่วงแก้รัฐธรรมนูญ เผยเบื้องหลังมีขบวนการดึงเกม บล็อกซักฟอกรัฐบาล

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพ […]

The post ชลน่านขออย่าบิดเบือน เพื่อไทยไม่มีเหตุให้เตะถ่วงแก้รัฐธรรมนูญ เผยเบื้องหลังมีขบวนการดึงเกม บล็อกซักฟอกรัฐบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชลน่านขออย่าบิดเบือน **เพื่อไทย** ไม่มีเหตุให้เตะถ่วงแก้รัฐธรรมนูญ เผยเบื้องหลังมีขบวนการดึงเกม บล็อกซักฟอกรัฐบาล

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เปิดเผยว่า การทำงานของคณะกรรมาธิการ พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ) เป็นไปด้วยความล่าช้ามาก เพราะมีการแก้ไขทุกมาตรา จากร่างหลักที่รับหลักการมา มีการเสนอรายละเอียด ในแต่ละมาตรามาก ประกอบกับวิธีการพิจารณา ไม่ตกผลึกชัดเจน กลับไปกลับมา ส่งผลให้การพิจารณาของ กมธ. ช้าลงไปอีก จากเดิมที่มีการตกลงกันไว้ว่า การประชุมจะมีขึ้น 10 ครั้ง การพิจารณาในชั้น กมธ. น่าจะแล้วเสร็จทุกมาตรา แต่จนถึงขณะนี้ กมธ. ประชุมไปแล้ว 9 ครั้ง เพิ่งจะพิจารณาได้เพียง 3 มาตรา โอกาสที่การพิจารณาแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาจึงเป็นไปไม่ได้

 

นพ.ชลน่านกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่มีการกำหนดไว้ว่าการพิจารณาในวาระ 2 จะแล้วเสร็จในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน ไม่น่าจะทันแล้ว ดังนั้น การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในวาระที่ 2 คงเป็นไปตามที่ ภราดร ปริศนานันทกุล กมธ. จากพรรคภูมิใจไทย ได้แถลงไว้ คือวันที่ 8-10 ธันวาคม ก่อนเปิดการประชุมสมัยสามัญ

 

จากนั้น เมื่อสภาเปิดประชุมสมัยสามัญฯ ในวันที่ 12 ธันวาคม เป็นต้นไป จึงจะไปพิจารณาในวาระที่ 3 ช่วงปลายเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่พรรคภูมิใจไทยกำหนด

 

“ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าเหตุที่พิจารณาช้า เตะถ่วง ตีรวนมาจาก กมธ. จากพรรคเพื่อไทยพยายามตีรวนในที่ประชุม และดึงช้าในทุกมาตรา เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างร้ายแรง เพราะพรรคเพื่อไทยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2566 ไม่ใช่เพิ่งมาคิดกัน แต่เหตุที่ช้าหลายฝ่ายมองว่า บางพรรคการเมืองจะใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกันเพื่อแลกเปลี่ยนกับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน” นพ.ชลน่านกล่าว

 

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า “ในขณะที่พรรคประชาชนก็จะอ้างว่าไม่ควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ไม่สามารถยื่นอภิปรายรัฐบาลได้ จึงน่าจะเป็นเหตุผลหลัก ทำให้พรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องได้ประโยชน์จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถึงวันนี้ กมธ. ควรเอาความจริงมาพูดกัน ไม่ควรมาสาดโคลนใส่กัน เพราะไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดเลย”

The post ชลน่านขออย่าบิดเบือน เพื่อไทยไม่มีเหตุให้เตะถ่วงแก้รัฐธรรมนูญ เผยเบื้องหลังมีขบวนการดึงเกม บล็อกซักฟอกรัฐบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีมติเลือกสูตรของพรรคประชาชน ให้สมาชิกรัฐสภา 20 คน เลือก กมธ. ยกร่างฯ ได้ 1 คน https://thestandard.co/constitution-amendment-committee-20-to-1-formula/ Thu, 13 Nov 2025 07:36:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1142922 กมธ. ร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญ มีมติเลือกสูตรของพรรคประชาชน ให้สมาชิกรัฐสภา 20 คน เลือก กมธ. ยกร่างฯ ได้ 1 คน

วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรม […]

The post กมธ. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีมติเลือกสูตรของพรรคประชาชน ให้สมาชิกรัฐสภา 20 คน เลือก กมธ. ยกร่างฯ ได้ 1 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กมธ. ร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญ มีมติเลือกสูตรของพรรคประชาชน ให้สมาชิกรัฐสภา 20 คน เลือก กมธ. ยกร่างฯ ได้ 1 คน

วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภา วาระพิจารณามาตรา 256/5 ว่าด้วยเกณฑ์การคัดเลือกผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภา และที่ประชุมได้ลงมติในเวลา 12.05 น. เห็นชอบกับสูตร ‘20 หยิบ 1’ ที่พรรคประชาชนเสนอ ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 19 เสียง ไม่เห็นชอบ 0 เสียง งดดอกเสียง 10 เสียง โดยมีเพียงการปรับข้อความในร่างให้รัดกุมขึ้นจากร่างเดิม

 

พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ ระบุว่า สำหรับสูตร ‘20 หยิบ 1’ ซึ่งคือการกำหนดให้สมาชิกรัฐสภาที่รวมตัวกันได้ 20 คน สามารถมีสิทธิคัดเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้ 1 คน เพื่อให้มีหลักประกันว่าคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญจะไม่ถูกผูกขาดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือสีใดสีหนึ่ง และทำให้ผู้ร่างมีตัวแทนที่หลากหลายจากทุกกลุ่มความคิด โดยสูตร 20 หยิบ 1 นั้น มาจากการนำสมาชิกรัฐสภา 700 คน หารด้วยกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน

 

พริษฐ์ชี้ว่า หากเป็นร่างเดิมของพรรคภูมิใจไทยคือใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคประชาชนเกรงว่าอาจนำไปสู่การผูกขาดได้ เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือสีใดสีหนึ่งมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา เช่น สส. และ สว. รวมกันเกิน 350 คน ก็อาจใช้เสียงข้างมากผูกขาดการตั้งกรรมาธิการร่างได้ 100% แบบเบ็ดเสร็จ

 

ด้าน นรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการเปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมาธิการฯ ได้ปรับรายละเอียดเล็กน้อย ในกรณีที่สมาชิกรัฐสภาไม่สามารถรวมกลุ่มได้ครบ 20 คน และไม่สามารถเลือกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ครบ 35 คน ได้กำหนดให้รัฐสภาโหวตเลือกจากบุคคลที่อยู่ในบัญชีที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญตามจำนวนที่ขาด โดยใช้มติของรัฐสภา จำนวน 2 ใน 3 เพื่อตัดสิน

 

ส่วนเหตุผลที่ต้องใช้เกณฑ์เห็นชอบ 2 ใน 3 นั้น เพื่อป้องกันการใช้เสียงข้างมากลากไป และอย่างน้อยการให้ความเห็นชอบผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นต้องมีส่วนผสมระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล

 

“เช่น กรณีที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ไม่ครบ 35 คน ขาดอีก 3 คน การเสนอชื่อให้รัฐสภาโหวตต้องเสนอชื่อเข้ามาเป็น 2 เท่า หรือ 6 คน จากนั้นให้รัฐสภาลงมติ สำหรับคนที่จะได้รับคัดเลือก ให้พิจารณาตามคะแนนโหวตสูงสุดเรียงตามลำดับที่ขาด ทั้งนี้ มีเงื่อนไขต้องได้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ด้วย” นรเศรษฐ์ กล่าว

 

นรเศรษฐ์กล่าวด้วยว่า สำหรับกรอบเวลาที่รัฐสภาต้องเลือกกรรมาธิการยกร่างฯ ให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน แต่หากครบเวลาแล้ว ไม่สามารถได้กรรมาธิการยกร่างฯ ครบ 35 คน แต่ไม่น้อยกว่า 90% หรือ 32 คน ให้ทำหน้าที่ไปตามจำนวนที่มี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมติที่ประชุมกรรมาธิการฯ ที่เห็นชอบกับสูตร ’20 หยิบ 1′ โดยมีกรรมาธิการงดออกเสียง 10 เสียงนั้น กลุ่มที่งดออกเสียงประกอบด้วยกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย

 

จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณากันต่อ ถึงประเด็นที่มาและคุณสมบัติของบัญชีรายชื่อ ซึ่งจะเสนอมาให้รัฐสภาคัดเลือกเข้าสู่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและกรรมาธิการรับฟังความเห็นฯ โดยพรรคประชาชนได้เสนอให้ใช้การคำนวณคะแนนแบบบัญชีรายชื่อ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยจะเสนอให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกจากตัวแทนกลุ่มต่างๆ

The post กมธ. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีมติเลือกสูตรของพรรคประชาชน ให้สมาชิกรัฐสภา 20 คน เลือก กมธ. ยกร่างฯ ได้ 1 คน appeared first on THE STANDARD.

]]>
อนุทินหนุน เปิดสภาวิสามัญแก้ รธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA รับคุยสนธยา คุณปลื้ม – นายกฯอบจ.ระยอง ร่วมงาน ภท. https://thestandard.co/anutin-charter-amend-sontaya/ Thu, 13 Nov 2025 04:58:29 +0000 https://thestandard.co/?p=1142828 อนุทินหนุน เปิดสภาวิสามัญแก้ รธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA รับคุย สนธยา คุณปลื้ม - นายกฯอบจ.ระยอง ร่วมงาน ภท.

วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 07.40 น. อน […]

The post อนุทินหนุน เปิดสภาวิสามัญแก้ รธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA รับคุยสนธยา คุณปลื้ม – นายกฯอบจ.ระยอง ร่วมงาน ภท. appeared first on THE STANDARD.

]]>
อนุทินหนุน เปิดสภาวิสามัญแก้ รธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA รับคุย สนธยา คุณปลื้ม - นายกฯอบจ.ระยอง ร่วมงาน ภท.

วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 07.40 น. อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงข้อเรียกร้องของพรรคประชาชนที่ต้องการให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2-3 ว่า เราดำเนินการอยู่ ซึ่งภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ประสานงานในส่วนของสภากับรัฐบาล ซึ่งทางรัฐสภาก็มีการเตรียมพร้อมที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อให้วาระ 2-3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี เป็นไปตามเงื่อนไข MOA ที่พรรคภูมิใจไทย ทำไว้กับพรรคประชาชน

 

“ขอย้ำว่า MOA เป็นข้อผูกมัด ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ซึ่งเราต้องดําเนินการเป็นไปตามนั้น ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล” นายกฯ กล่าว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอที่กรรมาธิการยกร่างได้ข้อยุติเกี่ยวกับองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพียงองค์กรเดียวคือ กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 35 คน หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รายละเอียดให้ไปถามภราดร

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณี สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ภาพร่วมกับวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา รวมถึงบ้านปริศนานันทกุล พรรคภูมิใจไทย จะมีสัญญาณทางการเมืองอะไรหรือไม่ ว่า พวกนั้นเขาพรรคชาติไทยเก่า “รียูเนียนมั้ง”

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตจะมีโอกาสร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พวกเขาเป็นคนรุ่นเดียวกัน ถ้าอะไรเกิดขึ้น พรรคภูมิใจไทยก็พร้อม ทุกคนมีความสามารถ มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่พรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ว่าจะเป็นพรรคอะไรก็ต้องเปิดกว้าง ขณะนี้ใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกที ทุกพรรค ก็ต้องมีความตื่นตัวและมีความพร้อม

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรี และบ้านใหญ่ชลบุรี มีโอกาสจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ก็ได้คุยๆ กันอยู่ ส่วนนายก อบจ. จังหวัดระยอง, ปิยะ ปิตุเตชะ หรือ นายกช้าง ก็จะมาร่วมงาน กับพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ อนุทินหัวเราะ ก่อนตอบว่า “รู้แล้วถามทำไม”

The post อนุทินหนุน เปิดสภาวิสามัญแก้ รธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA รับคุยสนธยา คุณปลื้ม – นายกฯอบจ.ระยอง ร่วมงาน ภท. appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทวีอุบตอบปมพยานคดีฮั้ว สว. ขอกลับคำให้การ ด้าน DSI รับมีหนังสือส่งมาจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย https://thestandard.co/tawee-witness-senator-case/ Wed, 12 Nov 2025 07:01:04 +0000 https://thestandard.co/?p=1142416 ทวีอุบตอบปมพยานคดีฮั้ว สว. ขอกลับคำให้การ ด้าน DSI รับมีหนังสือส่งมาจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง […]

The post ทวีอุบตอบปมพยานคดีฮั้ว สว. ขอกลับคำให้การ ด้าน DSI รับมีหนังสือส่งมาจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทวีอุบตอบปมพยานคดีฮั้ว สว. ขอกลับคำให้การ ด้าน DSI รับมีหนังสือส่งมาจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีพยานในคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 กลับคำให้การต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยอ้างว่า ถูกข่มขู่ให้กล่าวหาพรรคภูมิใจไทย

 

พ.ต.อ. ทวีตอบว่า เรื่องนี้ขอให้ไปสอบถาม DSI ส่วนที่ พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ตั้งคำถามถึงความไม่เป็นมืออาชีพของพนักงานสอบสวน เพราะหากมีพยานหลักฐานเพียงพอพยาน จะกลับคำให้การได้อย่างไรนั้น พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า การสอบสวนมีหลายหน่วยงาน รวมทั้งอัยการด้วย

 

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. ทวีย้ำว่า รายละเอียดขอให้ไปถามทาง DSI ส่วนที่พยานในคดีอ้างว่าถูกข่มขู่ จึงต้องซัดทอดไปยังพรรคภูมิใจไทยนั้น พ.ต.อ. ทวี ย้ำอีกว่า ให้สื่อมวลชนไปถาม DSI เอง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (11 พฤศจิกายน) DSI ได้เผยแพร่ ข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า พ.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI ได้สั่งการให้ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีหนังสือดังกล่าวมายัง DSI จริง และเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษที่ 24/2568 กองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะหน่วยกลางด้านคดีของกรม ได้ส่งเรื่องไปยังกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ในฐานะหน่วยงานเจ้าของเรื่องแล้ว เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568

 

พ.ต. ยุทธนาจึงมีคำสั่งให้กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ตรวจสอบตามประเด็นขอความเป็นธรรมและคำกล่าวหาดังกล่าว แล้วให้รายงานข้อเท็จจริงมาเพื่อประกอบการสั่งการ โดยพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

The post ทวีอุบตอบปมพยานคดีฮั้ว สว. ขอกลับคำให้การ ด้าน DSI รับมีหนังสือส่งมาจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. ฉัตรวรรษ มอง พยานคดีฮั้ว สว. กลับคำให้การ เหตุอยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของผู้สอบสวน https://thestandard.co/chatwat-on-collusion-witness/ Wed, 12 Nov 2025 03:16:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1142290 สว. ฉัตรวรรษมองพยานคดีฮั้ว สว. กลับคำให้การ เหตุอยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของผู้สอบสวน

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุ […]

The post สว. ฉัตรวรรษ มอง พยานคดีฮั้ว สว. กลับคำให้การ เหตุอยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของผู้สอบสวน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สว. ฉัตรวรรษมองพยานคดีฮั้ว สว. กลับคำให้การ เหตุอยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของผู้สอบสวน

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีพยานในคดีฮั้วเลือก สว. 2567 ยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอกลับคำให้การ พร้อมให้ข้อมูลว่า ตนเองถูกข่มขู่ให้กล่าวหาพรรคภูมิใจไทย

 

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษกล่าวว่า ไม่เสนอความเห็นในข้อกฎหมาย เพราะจะไปก้าวล่วงเจ้าหน้าที่ที่สอบสวน แต่มองว่าในชีวิตการเป็นตำรวจของตนเอง การจะสอบพยานบุคคลเพื่อยืนยันเรื่องอะไร จะต้องมีพยานหลักฐานที่ฟังได้ว่า บุคคลที่เรานำมาสามารถยืนยันตามพยานหลักฐานที่เรามีได้หรือไม่ จะได้ไม่เกิดประเด็นในการบังคับข่มขู่ ถามนำ หรือชี้นำพยานให้เป็นไปในลักษณะเช่นนั้น ซึ่งส่วนตังไม่รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำให้การของพยานว่าเกี่ยวข้องอย่างไร แต่กรณีการกลับคำให้การของพยานในชั้นสอบสวนเป็นเรื่องที่น้อยมาก

 

“ตั้งแต่ผมสอบมา หากพยานกลับคำน้อยมากในการสอบสวนของตำรวจ เพราะต้องหาพยานหลักฐานทุกอย่างให้ได้ชัดเจน แล้วถึงจะตั้งประเด็นคำถามให้สอดคล้องกับพยานที่เขาให้การด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าไปเอาพยานมาเพื่อสอบให้เข้าประเด็นกับปัญหาที่ตัวเองตั้งขึ้น เขาสามารถที่จะกลับคำได้ เขาอาจจะบอกว่าถูกข่มขู่ก็เป็นเรื่องของตัวพยานนั้นๆ ในส่วนของตำรวจ ภาพพยานกลับคำเราไม่ค่อยจะพบ” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว

 

ส่วนกังวลหรือไม่ว่าท้ายที่สุดคดีอาจจะไม่ยุติธรรม พล.ต.ต. ฉัตรวรรษกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนขององค์กรนั้นๆ ว่าคุณให้ความทำถูกต้องกับเขาหรือไม่ อธิบายความชัดเจนในการที่เขาจะต้องตอบคำถามและถูกต้องหรือไม่ เพราะฉะนั้น อยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจ หรือความถูกต้องของผู้ทำการสอบสวน

 

“ผมไม่ได้ว่าใคร เรื่องนี้ผมไม่ค่อยให้ข่าวกับใคร เพราะกังวลว่าจะไปกระทบกับคนที่เขาทำหน้าที่ แต่ขอพูดในเฉพาะส่วนที่มีประสบการณ์เท่านั้น” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษระบุ

 

ส่วนจะต้องดำเนินการอย่างไรกับสำนวนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส พล.ต.ต. ฉัตรวรรษกล่าวว่า ต้องพิจารณาจากที่เขากลับคำว่าเป็นเพราะเหตุใด ต้องไปหาพยานหลักฐาน ซึ่งก็ไม่รู้จะแนะนำอย่างไร เพราะขึ้นอยู่กับผู้สอบ ถ้าผู้สอบทำถูกต้องเป็นธรรม ก็ไม่มีกลับคำ ผู้สอบสวนเรื่องพวกนี้ต้องเป็นมืออาชีพ จะอยู่ที่ใครสั่งไม่ได้ ต้องตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ถึงจะทำให้พยานที่เราเอามานั้นน่าเชื่อถือ

The post สว. ฉัตรวรรษ มอง พยานคดีฮั้ว สว. กลับคำให้การ เหตุอยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของผู้สอบสวน appeared first on THE STANDARD.

]]>
จับตาภูมิใจไทย แต่งตั้ง ‘เอกนัฏ’ หัวหน้าทีมผู้สมัคร สส. กทม. ชูสโลแกน ‘มือปราบทุบทุนเทา’ เร็วๆ นี้ https://thestandard.co/akanat-bangkok-bhumjaithai-team/ Wed, 12 Nov 2025 00:49:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1142246 จับตา ภูมิใจไทย แต่งตั้ง ‘เอกนัฏ’ หัวหน้าทีมผู้สมัคร สส. กทม. ชู สโลแกน ‘มือปราบทุบทุนเทา’ เร็วๆ นี้

เมื่อวานนี้ (11 พฤศจิกายน) รายงานข่าวแจ้งว่า พรรคภูมิใจ […]

The post จับตาภูมิใจไทย แต่งตั้ง ‘เอกนัฏ’ หัวหน้าทีมผู้สมัคร สส. กทม. ชูสโลแกน ‘มือปราบทุบทุนเทา’ เร็วๆ นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
จับตา ภูมิใจไทย แต่งตั้ง ‘เอกนัฏ’ หัวหน้าทีมผู้สมัคร สส. กทม. ชู สโลแกน ‘มือปราบทุบทุนเทา’ เร็วๆ นี้

เมื่อวานนี้ (11 พฤศจิกายน) รายงานข่าวแจ้งว่า พรรคภูมิใจไทย จะส่งผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. โดยจะให้ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร มาเป็นหัวหน้าทีมในศึกเลือกตั้งในครั้งหน้านี้

 

โดยเอกนัฏจะนำผลงานที่โดดเด่นคือ การปราบทุนเทาในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีการตั้งทีมสุดซอย ที่มี ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ เป็นหัวหน้าทีม และสร้างผลงานจนโดนใจประชาชนทั้งประเทศ มาเป็นจุดขายสำคัญ

 

ทั้งนี้สาเหตุหลักที่เอกนัฏมาเป็นหัวหน้าทีมในกทม. เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่เอาทุนเทา ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวเอกนัฏ และว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. ในนามพรรคภูมิใจไทย ในเร็วๆ นี้

The post จับตาภูมิใจไทย แต่งตั้ง ‘เอกนัฏ’ หัวหน้าทีมผู้สมัคร สส. กทม. ชูสโลแกน ‘มือปราบทุบทุนเทา’ เร็วๆ นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ: บีบให้รัฐบาลยุบสภา หรือชิงความได้เปรียบในการแก้รัฐธรรมนูญ? https://thestandard.co/anutin-parliament-if-no-confidence-vote/ Mon, 10 Nov 2025 10:32:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1141737 anutin-parliament-if-no-confidence-vote

ตามหลักการแล้ว การรวมชื่อ สส. เพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปร […]

The post ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ: บีบให้รัฐบาลยุบสภา หรือชิงความได้เปรียบในการแก้รัฐธรรมนูญ? appeared first on THE STANDARD.

]]>
anutin-parliament-if-no-confidence-vote

ตามหลักการแล้ว การรวมชื่อ สส. เพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ เป็นกลไกสำคัญในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล แต่เวลานี้กลับถูกมองว่าเป็นการเดินหมากเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง

 

 

อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบอย่างชัดเจนที่สุดเป็นครั้งแรก บนเวที THE STANDARD Economic Forum 2025 ว่า หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ถ้าเพื่อเป็นการล้างแค้นเอาคืน กว่าสภาฯ จะเปิดสมัยประชุมอีกครั้งคือเดือนธันวาคม และตั้งใจจะยุบ สภาวันที่ 31 มกราคม 2569 อยู่แล้ว

“คงไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลเล่นๆ ฟรีๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกมการเมือง แล้วรัฐบาลสู้การเมืองไม่ได้ ก็ยุบสภาไป ห่างกันแค่เดือนเดียวคงไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก” อนุทินกล่าว

 

อนุทิน ยุบสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ การเมืองล้างแค้น

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 

พรรคเพื่อไทยเองอาศัยจังหวะนั้น เร่งเครื่องประกาศความพร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทัน ดังที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ย้ำบนเวที THE STANDARD Economic Forum 2025 เช่นกันว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ใช่การแก้แค้น แต่ถ้าหากไม่ทำ ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า จะหาผู้รับผิดชอบยาก

 

ว่าตามจริง แนวคิดนี้ของเพื่อไทยไม่ได้เพิ่งมาเกิด แต่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนปัจจุบัน ก็ได้มาเปิดเผยไว้ในรายการ THE STANDARD NOW เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา วันเดียวกับที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงมีความคิดยื่นซักฟอก โดยจะเน้นเรื่องการปัดเป่าคดีความ, การทุจริตคอร์รัปชัน และคุณสมบัติของรัฐมนตรีต่างๆ

 

อนุทิน ยุบสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ การเมืองล้างแค้น

ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

 

ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อไทยได้อะไร?

 

เกมตานี้ของพรรคเพื่อไทยที่เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น อาจสร้างข้อได้เปรียบอย่างน้อย 2 ข้อที่ชัดเจน

 

  1. ในเชิงหลักการ เป็นการตรวจสอบรัฐบาล โดยนำเอาหลักฐานมาตั้งเป็นข้อกล่าวหาติดตัวนายกรัฐมนตรี ตลอดจนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคล โดยมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทยจะเน้นไปที่เรื่องคดีที่ดินเขากระโดง และเส้นทางการเงินในคดีการฮั้วเลือก สว. 2567 ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลภูมิใจไทยที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยเองก็จะได้เครดิตในฐานะฝ่ายค้านด้วย

 

  1. ในทางการเมือง เมื่อมีการบรรจุญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ แล้ว นายกรัฐมนตรีจะไม่สามารถยุบสภาได้ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ จึงมีแนวโน้มที่อนุทินอาจตัดสินใจยุบสภาก่อนการพิจารณาญัตติ แต่นั่นก็จะทำให้กระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ 3 เป็นอันต้องหยุดลง ถือว่าปฏิบัติตาม MOA ไม่สำเร็จด้วย

 

ด้วยเทคนิคทางการเมืองเช่นนี้ การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘เมื่อไร’ ดูจะเป็นที่จับตามอง และมีความสำคัญกว่าจะอภิปราย ‘เรื่องอะไร’ เสียอีก

 

อนุทิน ยุบสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ การเมืองล้างแค้น

ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

 

เงื่อนไขขั้นต่ำพรรคประชาชน ต้องไม่ขัด MOA

 

หมากตาต่อไปจึงถูกโยนมายังพรรคประชาชน ในฐานะที่เป็นทั้งฝ่ายค้าน และผู้รักษา MOA ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ หรือแม้ไม่ได้ยื่น ก็ต้องคิดให้ดีว่าจะโหวตไว้วางใจให้กับรัฐบาลอนุทินหรือไม่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นทางเดินเสี่ยงทั้งสิ้น

 

ท้ายสุดเมื่อช่วงดึกวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โฆษกพรรคประชาชน พริษฐ์ วัชรสินธุ ได้เปิดเผย ‘เงื่อนไขขั้นต่ำ’ ที่พรรคประชาชนจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ

 

  1. หากนายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภาภายใน 31 มกราคม 2569 เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

 

  1. หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาภายในสิ้นปี 2568 เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

 

สืบเนื่องจากข้อ 2 ทำให้เกิดข้อ 2.1 คือ รัฐบาลจะต้องเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อให้เกิดการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว อย่างน้อยในวาระที่ 2 ก่อน 12 ธันวาคม เพื่อเข้าสู่วาระที่ 3 ให้ทันก่อนสิ้นปี ถ้าไม่เช่นนั้น พรรคประชาชนก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

 

การวางเงื่อนไขอย่างชัดเจนของพรรคประชาชนทำให้การชี้แจงง่ายขึ้นว่า จะยื่นอภิปรายฯ ต่อเมื่อมีการขัด MOA อย่างชัดเจน สอดคล้องกับ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่กล่าวบนเวที THE STANDARD Economic Forum 2025 ว่า พรรคประชาชนจะยื่นซักฟอกรัฐบาลหรือไม่ จุดตัดอยู่ที่การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากดูแล้วเสร็จไม่ทันสิ้นปี ก็พร้อมใช้กลไกซักฟอกบีบให้รัฐบาลทำตาม MOA

 

อย่างไรก็ตาม บาดแผลทางการสื่อสารก็เกิดขึ้นโดยไม่อาจเลี่ยง เพราะภายหลังศิริกัญญาได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลใดที่ร้ายแรงถึงขั้นต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ

 

อนุทิน ยุบสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ การเมืองล้างแค้น

ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

 

สัญญาณเตือน? คว่ำโมเดลสีส้ม วาระ 3

 

อีกเกมที่ต้องอ่านไปพร้อมกันอย่างแยกไม่ขาด คือกระดานย่อยของกรรมาธิการวิสามัญร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่เดินถึง ‘จุดแตกหัก’ คือการลงมติในมาตรา 256/1 ว่าด้วยผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งร่างหลักของพรรคประชาชน กำหนดให้มี ‘คณะผู้ร่าง’ ที่ประชาชนเลือกตั้งมาโดยอ้อม ให้รัฐสภาเป็นผู้เคาะขั้นสุดท้าย และ ‘สภาที่ปรึกษา’ ที่ประชาชนเลือกมาโดยตรง

 

ในประเด็นนี้ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยต่างไม่เห็นด้วย เพราะเสี่ยงขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกินไป ว่ามิอาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง จนเกิดปรากฏการณ์ ‘กรรมาธิการล่ม’ เมื่อ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า สว. ส่วนใหญ่ที่เป็นสาย ‘สีน้ำเงิน’ ต่างหายไปจากที่ประชุม ไม่มาร่วมลงมติ นัยหนึ่งก็เป็นสัญญาณเตือนภัยให้ระวังว่า หากเดินหน้าตาม ‘โมเดลสีส้ม’ แม้จะผ่านกรรมาธิการ แต่ก็เสี่ยงถูกคว่ำเอาในวาระ 3

 

อนุทิน ยุบสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ การเมืองล้างแค้น

 

ในมุมของพรรคภูมิใจไทยเอง แม้ไม่เห็นด้วยกับโมเดลในร่างของพรรคประชาชน แต่ไม่อาจหักหาญได้โดยตรง เพราะต้องเดินตาม MOA ที่ทำร่วมกันไว้ แต่ก็ยังมีไพ่สุดท้ายคือการยุบสภาเพื่อล้มกระดานการแก้รัฐธรรมนูญ ถึงกระนั้นเอง ก็ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมในการยุบสภา เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจโยนไพ่ ออกปากว่า การถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจเป็นปัจจัยให้เลือกยุบสภาก่อนกำหนดวันที่ 31 มกราคม

 

พรรคเพื่อไทยจึงต้องบลัฟให้แรงขึ้น ในด้านหนึ่งคือเตรียมยื่นอภิปรายฯ เพื่อกดดันให้รัฐบาลยุบสภา แต่อีกด้านคือกดดันให้ ‘สีส้ม’ และ ‘สีน้ำเงิน’ เจรจากันว่าจะผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ หากโมเดลสีส้มเสี่ยงเกินไป โมเดลสีน้ำเงินก็ถูกเพื่อไทยวิจารณ์ว่าเสี่ยงทำให้มีคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกล็อกสเปกโดยเสียงข้างมากในรัฐสภา ขาดความยึดโยงจากประชาชน

 

ย้อนดูคำแถลงของ ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในวันที่ร่างของพรรคเพื่อไทยถูกรัฐสภาตีตก เคยคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ว่า ข้อถกเถียงใหญ่คงจะอยู่ที่รูปแบบของ สสร. ที่พรรคประชาชนเสนอให้ยึดโยงกับประชาชน แต่ของพรรคภูมิใจไทยไม่มี ทำอย่างไรจะผสมผสานกันได้ ท้ายที่สุดอาจจะต้องนำร่างของพรรคเพื่อไทยไปประกอบแปรญัตติ เพื่อให้เป็นทางออก

 

หากเจตนาแท้จริงของพรรคเพื่อไทยคือกดดันให้กรรมาธิการฯ หยิบยกร่างของเพื่อไทยกลับขึ้นมาประกอบการพิจารณา ฝ่ายพรรคประชาชนเองไม่อาจปล่อยให้มีการยุบสภาก่อนได้แก้รัฐธรรมนูญ ฝ่ายพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ต้องการให้เพื่อไทยได้อภิปรายฯ โจมตีรัฐบาล ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่าย จำต้องหาข้อตกลงกันเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีฉันทามติในการประชุมกรรมาธิการนัดต่อไป ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ให้ได้

 

อนุทิน ยุบสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ การเมืองล้างแค้น

ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

 

ชงยื่น-บีบยุบ เกมหลอก เป้าจริงชิงธงแก้รัฐธรรมนูญ

 

ผลลัพธ์ของเกมนี้ จึงมีเพียง 2 ฉากทัศน์ที่เห็นได้ชัด

 

  1. พรรคเพื่อไทยยุติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐสภาเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2-3 จนแล้วเสร็จ แล้วนายกรัฐมนตรีจึงยุบสภาหลังจากนั้น หรือภายใน 31 มกราคม 2569 

 

หรือต่อให้เพื่อไทยได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภา รัฐบาลก็จะได้รับเสียงไว้วางใจเพียงพอเพราะพรรคประชาชนมาร่วมโหวตให้ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อไปจนสำเร็จ ด้วยเนื้อหาที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องกัน

 

  1. พรรคเพื่อไทยประกาศยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภาก่อนประธานสภาฯ จะได้บรรจุญัตติในวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสมัยสามัญ กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจบลง ย่อมสะท้อนว่าการเจรจาต่อรองระหว่างทุกฝ่ายไม่เป็นผล

 

อนุทิน ยุบสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ การเมืองล้างแค้น

ภาพ: ฐานิส สุดโต

 

โจทย์ในตอนนี้จึงตกอยู่กับพรรคประชาชนว่า จะสามารถแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างในชั้นกรรมาธิการได้มากเพียงใด โดยที่ยังไม่เสียความยึดโยงต่อประชาชนไป แต่ขณะเดียวกันทุกฝ่ายก็ให้ความเห็นชอบ ไม่เสี่ยงถูกตีตกในวาระ 3 ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวอาจพิจารณาได้จากคำตอบของพริษฐ์ ในฐานะผู้เสนอร่าง

 

“เป้าหมายคือพยายามหาฉันทามติจากทุกฝ่ายที่มี หลักการสำคัญของผมจะหาจุดกึ่งกลางที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งกรรมาธิการคาดหวังว่า เมื่อร่างแก้รัฐธรรมนูญที่รับมา ทั้งของพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคเพื่อไทยมีสิทธิเสนอเช่นกัน ดังนั้น ต้องเอาโมเดลมาผสมในสิ่งที่รับได้ในเชิงหลักการ และผ่านความเห็นชอบของประชาชน” พริษฐ์กล่าว

The post ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ: บีบให้รัฐบาลยุบสภา หรือชิงความได้เปรียบในการแก้รัฐธรรมนูญ? appeared first on THE STANDARD.

]]>
จุลพันธ์ขอให้เวลาเพื่อไทยยกเครื่อง หลังโพลคะแนนนิยมภาคเหนือลดลง เชื่อหากเปิดแคนดิเดต-นโยบาย ความนิยมจะกลับมา https://thestandard.co/pheu-thai-reform-after-north-poll/ Mon, 10 Nov 2025 10:31:40 +0000 https://thestandard.co/?p=1141747 จุลพันธ์ขอให้เวลา เพื่อไทยยกเครื่อง หลังโพลคะแนนนิยมภาคเหนือลดลง เชื่อหากเปิดแคนดิเดต-นโยบาย ความนิยมจะกลับมา

วันนี้ (10 พฤศจิกายน) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพ […]

The post จุลพันธ์ขอให้เวลาเพื่อไทยยกเครื่อง หลังโพลคะแนนนิยมภาคเหนือลดลง เชื่อหากเปิดแคนดิเดต-นโยบาย ความนิยมจะกลับมา appeared first on THE STANDARD.

]]>
จุลพันธ์ขอให้เวลา เพื่อไทยยกเครื่อง หลังโพลคะแนนนิยมภาคเหนือลดลง เชื่อหากเปิดแคนดิเดต-นโยบาย ความนิยมจะกลับมา

วันนี้ (10 พฤศจิกายน) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีผลสำรวจล่าสุดในพื้นที่ภาคเหนือ พรรคเพื่อไทยความนิยมตกลง ขณะที่พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชนมีคะแนนสูงขึ้นว่า ตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพียงแค่สัปดาห์เดียว เรากำลังอยู่ในช่วงของการยกเครื่อง ต้องให้เวลาในการปรับเปลี่ยนเรื่องการบริหารจัดการ และการทำงาน รวมถึงเรื่องโพลต่างๆ อาจจะมองว่าคะแนนนิยมตกกว่าแต่ก่อนแน่นอน เราก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าอยู่ในภาวะที่มีความเพลี่ยงพล้ำอยู่บ้าง แต่ในบางจุดคะแนนนิยมของเราก็อยู่ในระดับที่สูง และพร้อมที่จะเดินหน้า

 

ตอนนี้อยู่ที่ที่พรรคจะสามารถปรับเปลี่ยนการทำงาน และมีนโยบายที่ตอบโจทย์เพื่อประชาชนมากน้อยเพียงใด รวมถึงจะมีแคนดิเดตที่ตรงกับใจหรือไม่ และจะมีผู้สมัครที่ตรงกับจริตของชาวบ้านในแต่ละพื้นที่หรือไม่ เชื่อว่า หากเราสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้ คนที่ยังไม่ตัดสินใจ 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ จะเปิดใจ พร้อมที่จะรองรับการทำงานของพรรคเพื่อไทยในอนาคต

 

ส่วนหากมีการเปิดนโยบาย และแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยออกมา จะสามารถยกเครื่องดันคะแนนขึ้นได้หรือไม่ จุลพันธ์กล่าวว่า เราเชื่อมั่นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะนโยบายของพรรคเพื่อไทยในอดีตเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชน ซึ่งนโยบายที่ผ่านมาก็ตอบโจทย์ในช่วงของมัน นโยบาย และการเมืองเองมีความเปลี่ยนแปลงตามวันและเวลา วันนี้ความต้องการของประชาชนไม่ได้เหมือนกับ 2 ปีก่อน ดังนั้น เราเองในฐานะพรรคการเมืองต้องปรับตัว ปรับนโยบาย ให้เข้ากับความต้องการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลาเท่านั้นเอง

 

ปฏิเสธเคาะชื่อ ‘สุริยะ-ณัฐพงศ์-ยศชนัน’ นั่งแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย

 

จุลพันธ์ยังปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยเคาะ 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดยมีชื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย รวมถึงคนจากตระกูลชินวัตรอีกสองชื่อ คือ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ และ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล บุตรชายของ สมชาย และเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ยืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ไม่มีการเคาะรายชื่อบุคคลใดๆ

The post จุลพันธ์ขอให้เวลาเพื่อไทยยกเครื่อง หลังโพลคะแนนนิยมภาคเหนือลดลง เชื่อหากเปิดแคนดิเดต-นโยบาย ความนิยมจะกลับมา appeared first on THE STANDARD.

]]>