“จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง ผิดเพียงแปดครั้ง ถึงเก้าซะที่ไหน”

นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งจากบทเพลงนับร้อยที่ถูกเรียงร้อย สร้างสรรค์ และขับขานโดย ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ลูกผู้ชายที่ถูกกล่าวขานให้เป็นตำนานเพลงเพื่อชีวิตรุ่นที่ 3 ของประเทศไทยต่อจากรุ่นพี่อย่างวงคาราวานและวงคาราบาว

ปู พงษ์สิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2510 ที่อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย มีความชื่นชอบด้านดนตรีเพื่อชีวิตตั้งแต่เด็ก โดยมีศิลปินเพื่อชีวิตระดับปูชนียบุคคลอย่าง สุรชัย จันทิมาธร (หงา คาราวาน) และปรีชา ชนะภัย (เล็ก คาราบาว) ฯลฯ เป็นแรงบันดาลใจ

ต่อมาปูสอบเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น) ได้เข้าร่วมวงดนตรีกับกลุ่มรุ่นพี่ชื่อวงรีไทร์ ในตำแหน่งมือกีตาร์ ที่ความสามารถของวงก็โดดเด่นพอที่จะได้โอกาสเล่นเป็นวงเปิดให้กับศิลปินเพื่อชีวิตขาใหญ่อย่างคาราวาน และพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ซึ่งนับเป็นก้าวแรกในสายอาชีพดนตรีของเขา

เมื่อสำเร็จการศึกษา ปูตัดสินใจเดินทางมาตามความฝันที่กรุงเทพฯ โดยเริ่มจากการเป็นมือกีตาร์แบ็กอัพให้กับวงคาราวานตามทัวร์ต่างๆ ก่อนจะมีโอกาสได้ทำอัลบั้มแรกเป็นของตัวเองในชื่อ ถึงเพื่อน (2530) ก่อนจะมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากอัลบั้มถัดมา เสือตัวที่ 11 (2533) ที่มีเพลงอย่าง ตลอดเวลา, ทองดี ทองเค, เสือ 11 ตัว และ ถามยาย เป็นเพลงฮิตที่เข้าขั้นคลาสสิกมาจนถึงทุกวันนี้ 

หลังจากนั้นปูก็เดินหน้าทำเพลงชีวิตแบบไม่เคยหยุดพัก เขาออกทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อมอบความสุขให้กับแฟนเพลงทั่วประเทศอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย (มีเพลง หนุ่มน้อย ที่ดังขึ้นเมื่อไรเป็นต้องมีเรื่องเมื่อนั้น) ผ่านคอนเสิร์ตใหญ่หลายสิบครั้ง พร้อมกับการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพออกมาเรื่อยๆ จนถึงอัลบั้มที่ 19 ในปี 2561 

เอกลักษณ์สำคัญของพงษ์สิทธิ์นอกจากกีตาร์หรือผ้าโพกหัวก็คือบทเพลงอันมีท่วงทำนองและเนื้อร้องที่คมบาดใจ รวมถึงการใส่รายละเอียดของบริบทสังคมเข้าไปในงานเพลงได้อย่างลึกซึ้ง 

โดย ไถ่เธอคืนมา, มือปืน, สุดใจ, โรงเรียนของหนู, ตลอดเวลา, เสมอ, แค่นั้น, ใจบงการ, อยู่ตรงนี้, หนุ่มน้อย, ม.ให้อะไร, คิดถึง, แกเพื่อนฉัน, แม่, มาตามสัญญา ฯลฯ และบทเพลงอีกมากมายที่บรรยายไม่มีวันจบ เป็นตัวแทนการันตีคุณภาพของอีกหนึ่งลูกผู้ชาย ตำนานที่ยังมีลมหายใจแห่งวงการเพลงเพื่อชีวิต ที่ชื่อของเขาจะยังคงถูกสลักไว้ใจหัวใจแฟนๆ และประวัติศาสตร์วงการเพลงไทยไปอีกนาน 

The post 2 พฤศจิกายน 2510 – วันเกิด ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ตำนานเพลงเพื่อชีวิตรุ่นที่ 3 appeared first on THE STANDARD.

เอ่ยชื่อ ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์​ สาวกเพลงเพื่อชีวิตทุกคนในประเทศนี้ต้องรู้จักเขาอย่างแน่นอน เขามีชื่อเสียงจากการทำเพลงแนวดนตรีเพื่อชีวิต ที่ถือว่าเป็น ‘ศิลปินเพื่อชีวิตคลื่นลูกที่ 3’ หากเรานับ ‘หงา คาราวาน’ เป็นคลื่นลูกแรก และ ‘วงคาราบาว’ เป็นคลื่นลูกที่สองของดนตรีแนวนี้

เส้นทางดนตรีของ ปู พงษ์สิทธิ์ เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 20 ปี บัดนี้อายุย่างเข้า 52 ปีแล้ว นั่นหมายถึง 31 ปีในวงการเพลงที่การันตี ‘การยืนระยะ’ บนเส้นทางนี้ ที่มีแฟนคลับและผู้ฟังทั้งไทย-เทศ ทุกเพศทุกวัย อย่างมากมายมหาศาล จนได้รับฉายาว่า ‘เจ้าพ่อเพลงรักเพื่อชีวิต’ อาทิ เพลง สุดใจ ที่บอกเล่าท่วงทำนองรักได้อย่างสุดใจสมชื่อ

ขณะที่เพลงเพื่อชีวิตแบบร็อกของ ปู พงษ์สิทธิ์ ก็มีลีลาและจังหวะความมันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้แฟนคลับโยกตามได้อย่างเมามัน และยังคงพาเราเข้าถึงอารมณ์เพลงได้อย่างเต็มที่ เช่นเพลงดังอย่าง หนุ่มน้อย หรือ กูเป็นนักศึกษา

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 21-22 กันยายน ปู-พงษ์สิทธิ์ ได้จัดคอนเสิร์ตสองรอบต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็นวันละรอบ แต่ละรอบมีความสนุกต่างกันโดยสิ้นเชิง สถานที่จัดงานคือธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ในธีม คำภีร์ Black • White ร็อคสุดขั้ว รักสุดใจ

หลายคนบอกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ ‘แปลก’ ตั้งแต่รูปแบบการจัดงาน เพราะทั้งสองวัน ‘ไม่มีความเหมือนกันเลย’ ในแง่ของสไตล์ดนตรี โดยวันแรกเป็นอะคูสติก บางจังหวะเป็นเพลงร็อก ที่เพิ่มพาร์ตของวงออร์เคสตราขนาดใหญ่อย่างวง Thailand Philharmonic Pop Orchestra เข้าไป ทำให้มีความละเมียดละไมในการเสพดนตรีมากยิ่งขึ้น คอนเสิร์ตในรอบ ‘รักสุดขั้ว’ จึงมีความอลังรัก แบบร็อกๆ ผสมผสานกันอย่างลงตัว

ส่วนรอบที่สองนั้นจะเป็นสไตล์เพลงร็อกล้วนๆ ซึ่งมีความหนักหน่วงตามแนวของปู พงษ์สิทธิ์ หากใครที่เคยชมคอนเสิร์ตก่อนๆ ของเขามาแล้ว จะคุ้นชินและรู้สึกได้ว่ามีไม่มีความแตกต่างกันเท่าใดนัก 

กลับมาที่ช่วงการแสดง ทันทีที่คอนเสิร์ต ‘รักสุดขั้ว’ เริ่มขึ้น แสงไฟฉายมาที่ ปู พงษ์สิทธิ์ กลางเวทีพร้อมกับกีตาร์ตัวเก่งของเขา แค่เพลงแรกอย่าง มาตามสัญญา ก็ทำให้แฟนคลับคึกคักลั่นฮอลล์ โดยเฉพาะช่วงที่เป่าเมาท์ออแกนในเพลงนี้ 

ตามมาด้วยเพลงที่มีเนื้องร้องคุ้นหู ‘โรงเรียนของหนู อยู่ไกลไกล๊ไกล…’ ที่ไม่ว่าจะวัยไหนก็ล้วนเคยร้องเพลงนี้ นั่นคือ โรงเรียนของหนู ที่ถ่ายทอดความลำบากของชีวิตนักเรียนที่ต้องการการศึกษาในถิ่นทุรกันดาร

ซีนที่ดีที่สุดมีอยู่สองช่วง คือเพลงดังอย่าง มือปืน ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า นี่คือเพลง มือปืน ที่เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยฟังมาในชีวิต เพราะมีการผสมสานกับวงออร์เคสตรา ยิ่งใหญ่อลังการประทับใจแฟนคลับมากจริงๆ

ขณะที่อีกซีนหนึ่งคือช่วงท้ายๆ ที่ได้แขกรับเชิญเป็นนักร้องสาวเสียงดีอย่าง แก้ม วิชญาณี มาถ่ายทอดเพลงดังอย่าง สุดใจ โดยมีวงออร์เคสตราเป็นแบ็กอัพ แฟนคลับที่มาชมในรอบนี้ต่างลุกขึ้นปรบให้กับซีนนี้ถล่มทลาย เพราะเป็นการถ่ายทอดเพลง สุดใจ ที่สุดแสนจะลงตัวจริงๆ

รอบเพลงรักสุดขั้ว ปู พงษ์สิทธิ์ มีลูกเล่นกับผู้ชมทุกราคาบัตร โดยการทำเวทีด้านข้างเพิ่มขึ้นมาเพื่อเดินไปหาผู้ชมได้ทั่วฮอลล์ เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยครั้งมากๆ สำหรับคอนเสิร์ตของเขา

ผู้ชมในรอบนี้เหมือนจะถูกหลอกเล็กๆ ให้ตายใจว่า เพลงที่จะเล่นทั้งหมดมีแต่เพลงรัก เพลงซึ้ง กัดกินหัวใจ แต่แล้ว ปู พงษ์สิทธิ์ ก็ปรับโหมดกะทันหัน ด้วยการเล่นเพลงเร็วๆ อย่าง ออกเมือง, นักแสวงหา, ด.ช. รามี่ ในเวอร์ชันร็อก ผสมวงออร์เคสตรา ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่นอกคิวการแสดง รวมถึงมีของแถมให้อย่างเพลง หนุ่มน้อย 

ก่อนกลับ ปู พงษ์สิทธิ์ ปิดท้ายคอนเสิร์ตรอบรักสุดขั้วด้วยเพลงฮิต ที่ร้องส่งทุกคนกลับบ้าน ด้วยการเดินร้องไปทั่วทั้งฮอลล์อย่างเพลง รักเดียว และแน่นอนว่าหากใครที่ได้ติดตามคอนเสิร์ตของ ปู พงษ์สิทธิ์ มักจะขึ้นชื่อเรื่องการตีกันของแฟนเพลง แต่ทว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ทุกคนกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้ม และมีแต่ความรักในบทเพลง ตัวศิลปินเท่านั้น ที่ผสมผสานฟาดฟันความรู้สึกของแฟนเพลงได้อย่างลงตัวจริงๆ

ภาพ: นพเก้า คงสุวรรณ

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post ‘คำภีร์ Black • White ร็อคสุดขั้ว รักสุดใจ’ คอนเสิร์ตสองรอบที่แตกต่าง แต่อิ่มทางอารมณ์สำหรับแฟนเพลง ปู พงษ์สิทธิ์ appeared first on THE STANDARD.

“มีอยู่วันหนึ่งในรายการ The Rapper ที่ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งแรปเพลงโค้ชทั้ง 3 คน (ปู่จ๋าน, Twopee และ UrboyTJ) ได้หมด แต่ร้องเพลงผมไม่ได้ ทำให้เริ่มคิดว่า เออว่ะ เรามีเพลงเยอะ แต่ไม่เคยมีเพลงที่มีสไตล์ชัดเจนเป็นของตัวเองจริงๆ เลยนี่หว่า ประกอบกับก่อนหน้านั้นคิดว่าตัวเองสบายมาก อยู่กับก้านคอคลับ ทำอะไรก็มีเฮียโจ้ (โจอี้ บอย) คอยประคอง จนคิดว่าเราอยากทำอะไรเป็นของตัวเอง จะเกาะเฮียกินไปตลอดไม่ได้แล้ว ”

นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น F.HERO) ตัดสินใจออกเดินทางครั้งใหญ่ในชีวิต ด้วยการย้ายออกจากบ้านก้านคอคลับที่อยู่ร่วมกันมา 15 ปีเต็ม สู่บ้านหลังใหม่ในการเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวของค่าย What The Duck เป็นการก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนครั้งแรกในชีวิต ด้วยการทดลองทำเพลงในรูปแบบใหม่ด้วยตัวเอง และเป็นช่วงเวลาที่เขาบอกว่ากำลังสนุกกับการ ‘ล้ม’ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

กอล์ฟวางแผนไว้ว่าจะมีเพลงมากกว่า 20 เพลงในอัลบั้มใหม่ที่ทุกคนน่าจะได้ฟังกันทั้งหมดในช่วงปลายปีนี้ โดยตัดสินใจส่งเพลง Alarms (สวัสดีวันจันทร์) ที่มาจากใจของคนที่เกลียดเสียงนาฬิกาปลุกเป็นที่สุด แต่จำเป็นต้องตื่นเช้าออกมาสู้ชีวิตในทุกๆ วัน เพื่อทำให้คนอยู่ข้างหลังได้สบาย

ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือการได้ ปู-พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ มาฟีเจอริง โดยจุดเริ่มต้นมาจากกอล์ฟเคยทำเพลงให้ปูแต่ไม่ผ่านการพิจารณาจากค่าย วันหนึ่งทั้ง 2 คนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ รุ่นพี่อย่างปูเดินมาบอกว่า “ไม่ต้องเสียใจไปนะ ถ้ามีเพลงอะไรบอกมา เดี๋ยวพี่ไปร้องให้ใหม่” ทำให้กอล์ฟได้โจทย์ใหม่ขึ้นมาว่าจะทำเพลงอะไรก็ได้ เพื่อให้มีเสียงของตำนานเพลงเพื่อชีวิตคนนี้อยู่ในเพลงนั้น

เพลง Alarms (สวัสดีวันจันทร์) 

และติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มในทุกเรื่องราวของ F.HERO ตั้งแต่เหตุผลในการเปลี่ยนชื่อ บทบาทการเป็นโค้ชในรายการ The Rapper การตัดสินใจเดินทางออกจากคอมฟอร์ตโซนที่อยู่มา 15 ปี การถูกทะลวงจุดให้กลับมาแต่งเพลงให้อีกครั้งจากศิลปินรุ่นน้องอย่าง The TOYS การทดลองทำงานแบบใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน และการเติบโตขึ้นในทุกๆ วันพร้อมกับลูกสาวตัวน้อย ที่ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะพูดคำว่า ‘ขอโทษ’ ออกมา ได้ที่ THE STANDARD เร็วๆ นี้

The post ALARMS (สวัสดีวันจันทร์) ซิงเกิลล่าสุดจาก F.HERO ที่จะทำให้การตื่นเช้าในทุกวันไม่เหมือนเดิม appeared first on THE STANDARD.

     ถ้าจะพูดถึงนักร้องสายร็อกในประเทศไทย คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก อานนท์ สายแสงจันทร์ หรือที่เราคุ้นเคยกันในนาม ปู Blackhead ศิลปินร็อกที่วันนี้ขึ้นแท่นทำเนียบร็อกรุ่นใหญ่ไปแล้ว

     ผมได้มีโอกาสนั่งคุยกับนักร้องหัวใจกรันจ์ เจ้าของหางเสียงแผ่วเสน่ห์คนนี้ในเย็นวันหนึ่ง บทสนทนาเหล่านี้เกิดขึ้นในห้องครัว เคล้าคลอไปกับเพลงที่เปิดผ่านลำโพงบลูทูธ เลือกเพลงที่ต่างคนต่างจะนึกออกในขณะนั้น แล้วจู่ๆ ผมก็ส่งคำถามเชิงขอร้อง “พี่ปู ผมขออย่างละ 10 วง ทั้งไทยและเทศ ที่พี่ชอบและมีอิทธิพลกับพี่ครับ”
     แต่ก่อนที่จะไปถึงคำตอบเหล่านั้น ลองมาทำความรู้จักกับผลงานของเขากันก่อนดีกว่า
     อานนท์ สายแสงจันทร์ หรือ ปู Blackhead เริ่มต้นสร้างผลงานเพลงในนาม ชัคกี้ ธัญญรัตน์ และ บลูแพลเน็ต ออกอัลบั้ม พาฝัน (2533) ก่อนที่เขาจะไปเป็นสมาชิกวงยูเรเนียม ออกผลงานมาสองอัลบั้ม ปฏิกิริยาร็อก (พ.ศ. 2535) และ อัด-สะ-จอ-รอ-หัน (พ.ศ. 2536)

หลังจากนั้นเขาไปยืนอยู่บนยอดเขาของชื่อเสียงกับการเป็นสมาชิกวง Blackhead มีผลงานรวมทั้งสิ้น 10 อัลบั้ม ดังนี้

1. The Album Blackhead (พ.ศ. 2538) เพลงดังในอัลบั้มเช่น ยืนยัน บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในช่วงแรกอัลบั้มนี้เกิดข้อผิดพลาดในการผลิต ทำให้เทปเพลงบางลอตตกหล่นไปหนึ่งเพลงคือ ชีวิตใครชีวิตมัน  
2. Black Bonus (พ.ศ. 2539) จัดทำฉลองความสำเร็จของอัลบั้มแรก เพลงดังในอัลบั้มเช่น เพียงกระซิบ (Cover Version)
   3. Relax (พ.ศ. 2541) อัลบั้มพิเศษในแบบอะคูสติก เพลงดังในอัลบั้มเช่น เธอนั่นแหละ (ตอแหล)
   4. Full Flavor (พ.ศ. 2540) เพลงดังในอัลบั้มเช่น สัญญา, ขอร้อง อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ผมโปรดปรานที่สุดอัลบั้มหนึ่ง
   5. Pure (พ.ศ. 2542) เพลงดังในอัลบั้มเช่น ยิ่งโตยิ่งสวย, อยู่ไปไม่มีเธอ, อย่าไปร้องไห้
   6. Basic (พ.ศ. 2543) เพลงดังในอัลบั้มเช่น ยอมรับ,ใจฉันอยู่กับเธอ, รักคือ
   7. Handmade (พ.ศ. 2546) เพลงดังในอัลบั้มเช่น เหตุผล, ไม่เป็นไร, ฉันอยู่ตรงนี้
   8. Ten (พ.ศ. 2548) ฉลองครบรอบ 10 ปีของวง เพลงดังในอัลบั้มเช่น ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด,ใจร้าย
   9. Deep (พ.ศ. 2550) เพลงดังในอัลบั้มเช่น เธอได้ยินไหม, หมดชีวิตที่ฉันมี
   10. White Line (พ.ศ. 2556) เพลงดังในอัลบั้มเช่น อย่างน้อย, เหตุใดถึงรักเธอ

     ทำความรู้จัก ปู Blackhead ไปเป็นที่เรียบร้อย ทีนี้เราลองมาฟังคำตอบกันดีกว่า ว่าเพลงไทยและเทศที่มีอิทธิพลกับเขาจะตรงกับที่คุณคิดไหม

     คำตอบเหล่านี้ไม่ได้เรียงตามความชอบ แต่เรียงตามสิ่งที่พี่ปูนึกออกในขณะนั้น ซึ่งอัลบั้มเหล่านี้เป็นอัลบั้มที่เลือก ก่อนที่จะเกิดวง Blackhead
     บางอัลบั้มมีเพลงที่ชอบที่สุด บางอัลบั้มไม่มีเพลงเด่นเพราะชอบโดยรวม ก็ขอความกรุณาได้โปรดอย่าตั้งคำถามละกันนะครับ ขอให้คุณจินตนาการถึงบรรยากาศการสนทนากันตามประสาพี่น้องชาวร็อก ที่มีน้ำส้มเป็นตัวเพิ่มความเข้มของบรรยากาศไปด้วย

10 ศิลปินไทยที่มีอิทธิพลทางดนตรีกับ ปู Blackhead
     1. The Olarn Project / อัลบั้ม กุมภาพันธ์ 2528 /เพลง หนทางของคุณ (2530)
     2. The Innocent / อัลบั้ม 10 นาฬิกา (2532)
     3. GRAND EX’ / อัลบั้ม เพชร / เพลง เพชร (2526)
     4. ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ / อัลบั้ม คนเขียนเพลง บรรเลงชีวิต /เพลง คนเขียนเพลง บรรเลงชีวิต (2530)
     5. ปฐมพร ปฐมพร / อัลบั้ม เจ้าหญิงแห่งดอกไม้ เจ้าชายแห่งทะเล (2536)
     6. Byrd & Heart / อัลบั้ม ห่างไกล (2528)
     7. Feed Back / อัลบั้ม Feed Back (2527)
     8. ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล / อัลบั้ม ไปทะเล (2529) / เพลง คิดว่าสักวัน
     9. เรวัต พุทธินันทน์ / อัลบั้ม เต๋อ 2 (2528) เพลง ชายแปลกหน้า
     10. วงตาวัน / อัลบั้ม 12 ราศี (2536)
     11. Butterfly / อัลบั้ม Action (2529)

10 ศิลปินต่างประเทศที่มีอิทธิพลทางดนตรีกับ ปู Blackhead

     1. Alice in chains (1984 – present)
     2. Stone Temple Pilots (1985 – present)
     3. Soundgarden (1984 – present) / เพลง The Day I Try To Live
     4. Metallica (1981 – present) / อัลบั้ม Black (1991) / เพลง Nothing Else Matters
     5. Skid Row (1986 – present) / อัลบั้ม Slave to the Grind (1991) / เพลง In A Darkened Room

     6. Mad Season (1994 – 1999)
     7. David Foster (1971 – present) / อัลบั้ม The Best of Me
     8. Iron Maiden (1975 – present)
     9. Mr. Big (1988 – present) / อัลบั้ม Lean into It (1991)
     10. Winger (1987 – present)

https://www.youtube.com/watch?v=CNPu58Sprkk

     หลังจากสิ้นเสียงคำตอบสุดท้ายของพี่ปู ผมก็มีคำถามสุดท้ายที่สงสัยใคร่รู้ เพราะถ้าจะมัวถามแต่ความชอบที่มีต่อเพลงของคนอื่น แล้วไม่ถามถึงเพลงของเจ้าตัวเลย ผมว่าบทความนี้คงไม่มีทางสมบูรณ์เป็นแน่
     “พี่ปู ผมขอเพลงที่พี่ชอบที่สุดของ Blackhead 3 เพลง”
     และคำตอบที่ได้ก็คือ
     1. ความทรงจำ Track 3 ของอัลบั้มแรก The Album Blackhead (2538)
     2. สักคน Track 10 ของอัลบั้มแรก The Album Blackhead (2538)
ทั้งสองเพลงนี้ พี่ปูให้เหตุผลว่ามีความเป็นตัวเองที่สุด ทั้งวิธีคิด และการทำดนตรี
     3. เรื่องจริง จริงๆ Track 4 จากอัลบั้ม Full Flavor (2540) เพราะมีความเป็นกรันจ์ ตามรสนิยมของตัวเองที่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

     บทสนทนาในยามวิกาลดำเนินไปบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ภายในครัว ที่นอกเหนือจากตู้เย็นแล้ว มุมต่างๆ ในห้องนี้ดูจะเป็นที่ที่ใช้สำหรับทำเดโมมากกว่าที่จะทำกับข้าว เป็นมุมที่ใช้ในการปรึกษาหารือของวง และมีประวัติศาสตร์ของ Blackhead อยู่มากมาย
     หลังจากที่ใช้เวลาคุยกันอยู่ค่อนคืน ก็ถึงเวลาที่ปาร์ตี้ต้องเลิกรา ผมขึ้นควบจักรยานคู่ใจ พลางคิดถึงบทสรุปของบทความนี้ ว่าจะแสดงมันออกมาในมุมไหนดี

     ผมว่าแรงบันดาลใจมันมีอยู่ในทุกตัวบุคคล ทุกปัจเจก ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ยิ่งถ้าเป็นในมุมของการทำเพลง ยิ่งฟังมาก วิเคราะห์มาก มันก็จะยิ่งฝังอยู่ในหยักสมองของเรา เหมือนคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ยิ่งมีเก็บไว้มาก พอถึงวันที่ต้องเอาออกมาใช้จริงมันจะเป็นธรรมชาติ และเป็นตัวเราโดยที่แทบจะไม่ต้องให้ใครมาช่วยชี้นำ

The post 20 ศิลปินที่มีอิทธิพลทางดนตรีกับ ปู Blackhead appeared first on THE STANDARD.