วันนี้ (13 มกราคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้ 

1. โครงการบ้านเพื่อคนไทย ช่วงบ่ายในวันศุกร์ที่ 17 มกราคมนี้ จะมีการเปิดโครงการและแถลงถึงรายละเอียดอย่างเป็นทางการ ขอให้คณะรัฐมนตรีทุกท่านติดตามรายละเอียดและช่วยประชาสัมพันธ์โครงการนี้ และขอเชิญเข้าร่วมพิธีการเปิดตัวนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สนับสนุนที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน (First Jobber) มีโอกาสได้ถือครองและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง 

2. การลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบปัญหาเร่งด่วนของพี่น้องประชาชน ซึ่งได้สั่งการไปเบื้องต้นแล้ว แต่ขอกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการ ดังนี้
   

• ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและจัดหาน้ำประปาให้เพียงพอกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เร่งวางแผนขยายอ่างเก็บน้ำ และเร่งศึกษาและเร่งรัดโครงการแนวท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภา อ่างเก็บน้ำลำรูใหญ่ จังหวัดพังงา มายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน
  

• ปัญหาด้านการคมนาคม ขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่ได้รับความเห็นชอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งจัดทำแผนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ เพื่อลดผลกระทบต่อการจราจรและการสัญจรของพี่น้องประชาชนในช่วงระหว่างการก่อสร้าง ตลอดจนเร่งศึกษาเส้นทางเลี่ยงเมือง รวมถึงระบบขนส่งทางรางและทางน้ำที่จะมาช่วยบรรเทาการจราจรบนท้องถนน 

• ปัญหาด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันวางแผนและให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยว โดยจัดให้มีตำรวจท่องเที่ยวที่เพียงพอ เพิ่มมาตรการในการคัดกรองตรวจตราบริเวณที่มีความเสี่ยง และปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆ อย่างจริงจัง
  

3. สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ทั่วประเทศนั้น นายกรัฐมนตรีสั่งการและมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ เร่งแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่โดยเฉพาะ กทม. ขอเร่งดำเนินการตามที่ได้มอบหมายไปให้เกิดผลโดยเร็ว รวมทั้งชี้แจงมาตรการต่างๆ ให้ประชาชนทราบด้วย
   

4. ขณะที่เรื่องที่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรีสั่งการว่า เรื่องดาราจีนที่หายตัวไปที่ประเทศเมียนมา แม้ว่าจะสามารถติดตามตัวกลับมาได้เร็ว แต่เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมติดตามการเผยแพร่ Fake News ทางโซเชียลมีเดีย และร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งประชาสัมพันธ์ และประสานกับทางการจีนเพื่อทำความเข้าใจและฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยด่วน

The post นายกฯ สั่ง ครม. เร่งแก้ภาพลักษณ์ฟื้นความมั่นใจนักท่องเที่ยวจีน หลังมีเหตุหายตัว พร้อมแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 appeared first on THE STANDARD.

ฝุ่น PM2.5 ภัยเงียบใกล้ตัวที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ผลกระทบที่มีต่อสุขภาพนั้นร้ายแรงกว่าที่คิดมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานมาตลอดทั้งสัปดาห์ และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม THE STANDARD LIFE จึงอยากพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกับฝุ่นพิษตัวร้ายที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ถึง 25 เท่า แต่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพได้มากมาย พร้อมเรียนรู้วิธีป้องกันตัวที่ถูกต้องและเหมาะสมตามระดับความรุนแรงของฝุ่นในอากาศ

PM2.5 อันตรายที่มองไม่เห็น

ฝุ่น PM2.5 มีขนาดเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ลึกถึงระดับปอด และบางส่วนยังสามารถเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายระบบของร่างกาย เมื่อค่าฝุ่นในอากาศสูงถึงระดับสีส้มหรือแดง จำเป็นต้องมีการป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด

ผลกระทบระยะสั้น-สัญญาณอันตรายที่ต้องใส่ใจ

เมื่อร่างกายสัมผัสฝุ่น PM2.5 คุณอาจสังเกตเห็นอาการผิดปกติได้ทันที เช่น ระคายเคืองทางเดินหายใจ หายใจติดขัด แสบจมูก ไอมีเสมหะ คออักเสบ รู้สึกแน่นหน้าอก ภูมิแพ้กำเริบ หรือภูมิคุ้มกันตกจนติดเชื้อได้ง่าย หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นและปรึกษาแพทย์

ผลกระทบระยะยาว-ความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม

การสัมผัสฝุ่น PM2.5 เป็นประจำและต่อเนื่อง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงหลายชนิด ทั้งมะเร็งปอด โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน รวมถึงปัญหาผิวหนังเสื่อมโทรมก่อนวัย การป้องกันตั้งแต่วันนี้จึงสำคัญกว่าการรักษาในภายหลัง

กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

เด็กเล็กคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงและร่างกายกำลังพัฒนา รองลงมาคือคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องดูแลทั้งตัวเองและทารกในครรภ์ เพราะฝุ่นพิษอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก ส่วนผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันถดถอย และผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจและหัวใจ จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงที่มีฝุ่นพิษสูง และควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อมใช้

วิธีรับมือกับฝุ่น PM2.5 ให้ปลอดภัย

* ติดตามระดับฝุ่นในพื้นที่ของคุณผ่านแอปพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนออกจากบ้าน เพื่อวางแผนกิจกรรมประจำวันให้เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อม หากพบว่าค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

* ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรอง PM2.5 ภายในบ้านหรือที่ทำงาน โดยเลือกรุ่นที่มีมาตรฐานการกรองระดับ HEPA Filter ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 99.97% และควรวางในจุดที่มีการใช้งานประจำ เช่น ห้องนอนหรือห้องทำงาน

* สวมหน้ากาก N95 ให้กระชับใบหน้าทุกครั้งที่ต้องออกนอกอาคาร เพราะเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกรองฝุ่น PM2.5 โดยสามารถกรองอนุภาคได้ถึง 95% และควรเปลี่ยนหน้ากากเมื่อพบว่าสกปรกหรือหายใจลำบาก

* สวมแว่นกันลมและเลือกสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายให้มิดชิด เพื่อลดการสัมผัสฝุ่นละอองโดยตรงบนผิวหนัง และป้องกันการระคายเคืองตา ผิวหนัง รวมถึงอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้น หลังกลับถึงบ้านควรอาบน้ำ สระผมให้สะอาด และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

* หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูง โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่มักมีค่าฝุ่นสะสมมากที่สุด เพราะการหายใจเร็วและแรงขณะออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายได้รับฝุ่นพิษเข้าสู่ระบบหายใจมากขึ้น ควรเปลี่ยนไปออกกำลังกายในร่มที่มีเครื่องฟอกอากาศแทน

The post อันตรายจากฝุ่นตัวร้าย PM2.5 กับวิธีป้องกันที่ควรรู้ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (11 มกราคม) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 17.6-33.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่มีการตรวจวัด (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.)

ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 11-17 มกราคม 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ ‘ไม่ดี-อ่อน-ดี’ ขณะที่มีการเกิดอินเวอร์ชันใกล้ผิวพื้น ทำให้มลพิษทางอากาศสามารถแพร่กระจายได้อย่างจำกัด 

ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสลับลดลง ช่วงละ 1-2 วัน โดยจะมีแนวโน้มลดลงก่อนจะเพิ่มขึ้น และลดลงอีกครั้งตามลำดับ

The post กทม. รายงานค่าฝุ่น PM2.5 พบไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ ขณะที่อุณหภูมิเตรียมลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (10 มกราคม) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 31.4-58.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) 

พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 51 พื้นที่ คือ

1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ ซอยเพชรเกษม 81: มีค่าเท่ากับ 58.5 มคก./ลบ.ม.
2. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา: มีค่าเท่ากับ 56.4 มคก./ลบ.ม.
3. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2: มีค่าเท่ากับ 54.5 มคก./ลบ.ม.
4. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์: มีค่าเท่ากับ 52.8 มคก./ลบ.ม.
5. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย: มีค่าเท่ากับ 51.9 มคก./ลบ.ม.
6. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย: มีค่าเท่ากับ 51.2 มคก./ลบ.ม.
7. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหสวรรย์: มีค่าเท่ากับ 51.1 มคก./ลบ.ม.
8. เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน: มีค่าเท่ากับ 50.7 มคก./ลบ.ม.
9. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่: มีค่าเท่ากับ 49.4 มคก./ลบ.ม.
10. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน: มีค่าเท่ากับ 48.7 มคก./ลบ.ม.
11. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง: มีค่าเท่ากับ 48.4 มคก./ลบ.ม.
12. เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบก ใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง: มีค่าเท่ากับ 48.2 มคก./ลบ.ม.
13. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ: มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม.
14. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบัง ข้างป้อมตำรวจ: มีค่าเท่ากับ 47.3 มคก./ลบ.ม.
15. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ: มีค่าเท่ากับ 46.8 มคก./ลบ.ม.
16. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา: มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.
17. เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง: มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม.
18. เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด: มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม.
19. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน: มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม.
20. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี: มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.
21. เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม: มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.
22. เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง: มีค่าเท่ากับ 44.3 มคก./ลบ.ม.
23. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ: มีค่าเท่ากับ 44.0 มคก./ลบ.ม.
24. เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจ หน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า: มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.
25. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก: มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.
26. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ: มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.
27. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซอยลาดพร้าว 95: มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม.
28. เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร: มีค่าเท่ากับ 42.6 มคก./ลบ.ม.
29. เขตบางนา บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีบางนา: มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม.
30. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา: มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.
31. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย: มีค่าเท่ากับ 42.2 มคก./ลบ.ม.
32. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม: มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม.
33. เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์: มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม.
34. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน: มีค่าเท่ากับ 41.8 มคก./ลบ.ม.
35. สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค: มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.
36. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด: มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.
37. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย: มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม.
38. เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ: มีค่าเท่ากับ 40.6 มคก./ลบ.ม.
39. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม: มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม.
40. สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน: มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.
41. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุมซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน): มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.
42. เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค: มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
43. เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต: มีค่าเท่ากับ 39.6 มคก./ลบ.ม.
44. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี: มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.
45. สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง: มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.
46. เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง: มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม.
47. เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว: มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.
48. เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง: มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม.
49. เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยถนนเซนต์หลุยส์: มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม.
50. เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี: มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.
51. เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต: มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม.

สำหรับข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 

• ประชาชนทั่วไปใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

• ประชาชนกลุ่มเสี่ยงใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

อ้างอิง:

• ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร 
• กรมอุตุนิยมวิทยา 
• สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ

The post กทม. รายงานค่าฝุ่น PM2.5 พบเกินมาตรฐาน เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 51 พื้นที่ สูงสุดที่เขตหนองแขม appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (9 มกราคม) เวลา 07.00 น. ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ใน กรุงเทพมหานคร ค่าเฉลี่ยตรวจวัดได้ 64.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบว่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) จำนวน 47 เขต และระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ 3 เขต

5 อันดับของค่าฝุ่น PM2.5 เขตสูงสุดใน กทม.

อันดับ 1 เขตหนองแขม 94.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อันดับ 2 เขตบางบอน 76.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อันดับ 3 เขตธนบุรี 75.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อันดับ 4 เขตบางขุนเทียน 74.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อันดับ 5 เขตบางนา 74.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สำหรับพื้นที่ปริมณฑล พื้นที่ที่อยู่ในระดับสีแดง ได้แก่ 

• ตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 82.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 77.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 76.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 82.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 87.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะที่ IQAir รายงานสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ระบุว่า ระดับค่ามลภาวะทางอากาศของ กรุงเทพมหานคร พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 8 ของโลก

The post กทม. ค่าฝุ่น PM2.5 ติดอันดับ 8 ของโลก เกินมาตรฐานทุกเขต ‘หนองแขม-บางบอน-ธนบุรี’ สูงสุด มีผลกระทบต่อสุขภาพ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (8 มกราคม) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ช่างภาพทีมข่าว THE STANDARD เก็บภาพฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ซึ่งถูกปกคลุมทั่วทุกพื้นที่กรุงเทพมหานคร  

สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์เมื่อเวลา 07.00 น. ว่าค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 60.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 

ทั้งนี้ แนะนำว่าหากคุณภาพอากาศระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทุกคนงดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ส่วนคุณภาพอากาศระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ขณะที่ รศ. ดร.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเกษตร เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“ฝุ่นพิษ PM2.5 อันตรายมากในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และอีกหลายพื้นที่ในภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านกันด้วยนะครับ ช่วงนี้แทบไม่ค่อยเห็นคนใส่หน้ากากอนามัยกันเลยช่วงฝุ่นสูง

“สาเหตุหลักวันนี้มาจากภาวะลมอ่อนปรากฏการณ์ฝาชีครอบต่ำ รวมถึงแหล่งกำเนิดจากการเผาในภาคเกษตรเร่งตัวขึ้นทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าดูจากทิศทางลมจะพบว่าฝุ่นที่ทางกรุงเทพฯ และภาคตะวันออกได้รับมาจากการเผาในประเทศกัมพูชาแล้วลมพามาสมทบ 

“นอกจากนั้นกรุงเทพฯ ยังได้รับฝุ่นมาจากทางตอนเหนือในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งจากภาพที่ 4 จะพบว่ามีการเผาในที่โล่งแจ้งหนาตามาก ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอ้อย โรงงานยังคงเป็นแหล่งกำเนิดหลักในภาคเกษตร

“กลุ่มเสี่ยง เด็ก คนสูงวัย และสตรีมีครรภ์ ควรงดกิจกรรมการแจ้งในช่วงนี้นะครับ ป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักด้วยความไม่ประมาท รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ”

The post กทม. ทั่วทุกพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่น PM2.5 ภาพรวมเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 มกราคม) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 32.1-53.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) 

พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 55 พื้นที่ คือ 

1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าเท่ากับ 53.8 มคก./ลบ.ม.
2. เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 53.3 มคก./ลบ.ม.
3. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 52.0 มคก./ลบ.ม.
4. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหสวรรย์ มีค่าเท่ากับ 49.4 มคก./ลบ.ม.
5. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา มีค่าเท่ากับ 49.4 มคก./ลบ.ม.
6. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 มีค่าเท่ากับ 48.2 มคก./ลบ.ม.
7. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย มีค่าเท่ากับ 48.2 มคก./ลบ.ม.
8. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม.
9. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี มีค่าเท่ากับ 47.5 มคก./ลบ.ม.
10. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน มีค่าเท่ากับ 47.4 มคก./ลบ.ม.
11. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ มีค่าเท่ากับ 46.9 มคก./ลบ.ม.
12. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 46.2 มคก./ลบ.ม.
13. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ มีค่าเท่ากับ 45.7 มคก./ลบ.ม.
14. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.
15. เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบก ใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง มีค่าเท่ากับ 45.0 มคก./ลบ.ม.
16. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ มีค่าเท่ากับ 45.0 มคก./ลบ.ม.
17. เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค มีค่าเท่ากับ 44.9 มคก./ลบ.ม.
18. เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน มีค่าเท่ากับ 44.8 มคก./ลบ.ม.
19. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบัง ข้างป้อมตำรวจ มีค่าเท่ากับ 44.6 มคก./ลบ.ม.
20. สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค มีค่าเท่ากับ 44.2 มคก./ลบ.ม.
21. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีค่าเท่ากับ 44.2 มคก./ลบ.ม.
22. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี มีค่าเท่ากับ 44.1 มคก./ลบ.ม.
23. เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม มีค่าเท่ากับ 44.0 มคก./ลบ.ม.
24. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.
25. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซอยลาดพร้าว 95 มีค่าเท่ากับ 43.7 มคก./ลบ.ม.
26. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.
27. เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.
28. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม.
29. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุมซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม.
30. เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม.
31. สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม.
32. เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.
33. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา มีค่าเท่ากับ 42.1 มคก./ลบ.ม.
34. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด มีค่าเท่ากับ 41.8 มคก./ลบ.ม.
35. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ มีค่าเท่ากับ 41.8 มคก./ลบ.ม.
36. เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม.
37. สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง มีค่าเท่ากับ 40.4 มคก./ลบ.ม.
38. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.
39. เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม.
40. เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ มีค่าเท่ากับ 39.9 มคก./ลบ.ม.
41. เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต มีค่าเท่ากับ 39.9 มคก./ลบ.ม.
42. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.
43. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.
44. เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.
45. เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.
46. เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ มีค่าเท่ากับ 39.0 มคก./ลบ.ม.
47. เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต มีค่าเท่ากับ 38.8 มคก./ลบ.ม.
48. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ มีค่าเท่ากับ 38.8 มคก./ลบ.ม.
49. สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.
50. เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.
51. สวนจตุจักร เขตจตุจักร มีค่าเท่ากับ 38.5 มคก./ลบ.ม.
52. เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยเซนต์หลุยส์ มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.
53. เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร มีค่าเท่ากับ 38.3 มคก./ลบ.ม.
54. สวนหนองจอก เขตหนองจอก มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.
55. เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

ประชาชนทั่วไป: ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง อาทิ หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง: ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง อาทิ หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที

ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านผ่านทาง

• Application: AirBKK
• Website: www.airbkk.com
• Facebook: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
• Facebook: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
• Facebook: กรุงเทพมหานคร
• LINE ALERT

กรณีพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษ สามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue

อ้างอิง:

• ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร
• กรมอุตุนิยมวิทยา
• สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

The post กทม. รายงานค่าฝุ่น PM2.5 พบเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลต่อสุขภาพ 55 พื้นที่ ฝุ่นสูงอันดับ 1 อยู่ที่เขตหนองแขม appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (18 ธันวาคม) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 30.8-49.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 39 พื้นที่ คือ

1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81: มีค่าเท่ากับ 49.4 มคก./ลบ.ม.
2. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน: มีค่าเท่ากับ 48.3 มคก./ลบ.ม.
3. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุมซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน): มีค่าเท่ากับ 46.7 มคก./ลบ.ม.
4. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์: มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.
5. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ: มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.
6. เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง: มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม.
7. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย: มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม.
8. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย: มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.
9. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี: มีค่าเท่ากับ 45.2 มคก./ลบ.ม.
10. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา: มีค่าเท่ากับ 44.7 มคก./ลบ.ม.
11. เขตบางนา บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา: มีค่าเท่ากับ 44.3 มคก./ลบ.ม.
12. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซอยลาดพร้าว 95: มีค่าเท่ากับ 43.7 มคก./ลบ.ม.
13. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบัง ข้างป้อมตำรวจ: มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม.
14. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ: มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.
15. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน: มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม.
16. เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง: มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม.
17. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหสวรรย์: มีค่าเท่ากับ 42.2 มคก./ลบ.ม.
18. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี: มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.
19. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2: มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม.
20. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก: มีค่าเท่ากับ 41.6 มคก./ลบ.ม.
21. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย: มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.
22. เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า: มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม.
23. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ: มีค่าเท่ากับ 40.6 มคก./ลบ.ม.
24. เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง: มีค่าเท่ากับ 40.4 มคก./ลบ.ม.
25. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย: มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.
26. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง: มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.
27. เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ: มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม.
28. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด: มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม.
29. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ: มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.
30. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา: มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
31. เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี: มีค่าเท่ากับ 39.5 มคก./ลบ.ม.
32. เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน: มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.
33. เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว: มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.
34. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม: มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.
35. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน: มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.
36. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่: มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.
37. เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยถนนเซนต์หลุยส์: มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.
38. สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง: มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.
39. เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต: มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

ข้อแนะนำสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป: ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง อาทิ หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง: ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง อาทิ หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที

ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านผ่านทาง

• Application: AirBKK
• Website: www.airbkk.com
• Facebook: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
• Facebook: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
• Facebook: กรุงเทพมหานคร
• LINE ALERT

กรณีพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสได้ผ่านทาง Traffy Fondue

อ้างอิง:

• ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร
• กรมอุตุนิยมวิทยา
• สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

The post กทม. รายงานค่า PM2.5 พบเกินมาตรฐาน 39 พื้นที่ แนะประชาชนกลุ่มเสี่ยงเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (9 ธันวาคม) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง 

ผลการตรวจวัดพบ 13.8-30.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่ตรวจวัด (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.)

ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศดี

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีเมฆบางส่วนกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 9-15 ธันวาคม 2567 ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นยังคงเกิดอินเวอร์ชันที่ระดับต่ำระหว่างสัปดาห์ และการระบายอากาศส่วนใหญ่ (7-11 ธันวาคม) อยู่ในเกณฑ์ ‘ค่อนข้างดี’ ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง และคาดการณ์วันนี้ มีเมฆบางส่วนกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียมจากหน่วยงาน NASA ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร

สำนักสิ่งแวดล้อมประสานแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน และขอเชิญชวนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน โดยช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ ‘5 วิธีลดฝุ่น คุณก็ทำได้’ 

1. หมั่นทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีเช็ดฝุ่น 

2. งดเผาขยะ งดจุดธูป 

3. ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษ ดักจับฝุ่นละออง 

4. เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 

5. ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน

The post กทม. เช้านี้ทุกพื้นที่ ค่าฝุ่น PM2.5 ไม่เกินมาตรฐาน ส่วนใหญ่ระดับคุณภาพอากาศดี appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส. จังหวัดเชียงใหม่ และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงการเตรียมการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของรัฐบาลว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นในหลายพื้นที่ยังไม่รุนแรง แต่เริ่มเห็นแนวโน้มว่าปัญหากำลังกลับมา อย่างไรก็ตาม การเตรียมการหรือมาตรการที่ชัดเจนจากรัฐบาลยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม ทำให้กังวลว่าท้ายที่สุดประชาชนต้องเจอสถานการณ์ฝุ่นแบบวนลูปเหมือนปีที่ผ่านๆ มาอีกหรือไม่

ภัทรพงษ์กล่าวว่า เคยเสนอโมเดล ‘ตึก 5 ชั้น’ ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลตั้งแต่สมัยอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน พร้อมข้อเสนอแนะ Action Plan ตามช่วงเวลาอย่างชัดเจนในการเตรียมพร้อมรับมือเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ต้นตอ แบ่งเป็น 5 ด้าน 

1. ด้านสาธารณสุข รัฐต้องจัดให้มีสวัสดิการตรวจมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจแบบถ้วนหน้าให้ประชาชนในพื้นที่ที่เจอวิกฤตฝุ่นควันมาอย่างต่อเนื่อง 

2. การจัดการการเผาทางการเกษตรทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะการออกประกาศห้ามนำเข้าสินค้าที่มีที่มาจากการเผาทุกชนิด 

3. การบริหารจัดการไฟป่า วางแผนเฉพาะเจาะจงกับพื้นที่ไฟป่าขนาดใหญ่และไฟป่าซ้ำซากเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่และงบประมาณ 

4. การจัดเก็บข้อมูลที่สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์และแจ้งเตือนค่า PM2.5 ให้กับประชาชน 

และ 5. การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นเป็นผู้นำในการบริหารจัดการพื้นที่

ทั้งที่ปัญหาฝุ่นกระทบคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง แต่ผ่านไปกว่า 1 ปีของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เราได้เห็นความคืบหน้าในเรื่องเหล่านี้น้อยมาก โดยขอตั้งคำถามต่อว่า รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมเกษตรกรชาวสวน ไร่นา ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด อย่างไรบ้าง เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับมาตรการไม่รับซื้อสินค้าเผาที่รัฐบาลประกาศไว้ 

นอกจากนี้ รัฐบาลมองว่าจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีด้านไฟป่าอย่างเพียงพอหรือไม่ เตรียมแผนการจัดสรรงบกลางป้องกันและจัดการไฟป่าอย่างไรบ้าง และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมระหว่างประเทศบ่อยครั้ง เป็นเรื่องดีหากใช้เป็นโอกาสทำเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย จึงอยากทราบว่านายกรัฐมนตรีได้ใช้เวทีระหว่างประเทศหารือกับเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และเมียนมา เพื่อร่วมแก้ปัญหาฝุ่นบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะเวที ASEAN Summit ที่ผ่านมา

The post ภัทรพงษ์ถามรัฐบาล เตรียมรับฝุ่น PM2.5 ไปถึงไหน หวังนายกฯ ใช้เวทีระหว่างประเทศหารือแนวทางแก้ปัญหา appeared first on THE STANDARD.