จำนวนแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายที่ถือวีซ่า E-9 ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะพยายามเนรเทศแรงงานเหล่านี้ออกนอกประเทศ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามได้ในไฮไลต์นี้

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 น. ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: เกาหลีใต้ผวา วีซ่า E-9 ช่องทางสู่ ผีน้อย ผู้เชี่ยวชาญชี้ ต้องปฏิรูประบบแรงงาน | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

จำนวนแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายที่ถือวีซ่า E-9 ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามเนรเทศแรงงานเหล่านี้ออกนอกประเทศ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยมีแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายมากถึง 54,800 คน ณ สิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวล และสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการปฏิรูประบบการจัดการวีซ่าและการจ้างงานแรงงานต่างชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• คนไทยไปเที่ยวเกาหลีใต้ดิ่ง 7 เดือนติด กระทรวงวัฒนธรรม เกาหลีใต้ เสนอยกเว้น K-ETA ชั่วคราว…
• แรงงานต่างชาติหลั่งไหลเข้าเกาหลีใต้! พุ่ง 25% ในปีที่ผ่านมา ไทยรั้งเบอร์ 3 ท่ามกลางกระแสผีน้อยแฝงตัว
• มีผีน้อยคนไหนซื้อตั๋วคอนเสิร์ต? #แบนเที่ยวเกาหลี แฮชแท็กร้อนแรงที่เกิดจาก ตม.เกาหลีปฏิเสธคนไทย…

ข้อมูลจาก Lee Geon Tae สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี เผยให้เห็นว่า จำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาในเกาหลีใต้ด้วยวีซ่า E-9 และกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ยังคงอยู่ในระดับ 50,000 คนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

โดยในปี 2022 มีแรงงานผิดกฎหมาย 55,171 คน เพิ่มขึ้นเป็น 56,328 คนในปี 2023 และ 54,898 คน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2024 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและมีอายุอยู่ในช่วง 30 ปี ซึ่งคิดเป็น 48% ของทั้งหมด เพราะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการแรงงานสูงในภาคอุตสาหกรรม

แม้ว่ากระทรวงยุติธรรมจะพยายามระบุตัวตนและเนรเทศแรงงาน E-9 ผิดกฎหมาย แต่จำนวนผู้ถูกเนรเทศก็ยังคงน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนแรงงานผิดกฎหมายทั้งหมด โดยมีอัตราการเนรเทศเพียง 2.3-6.1% เท่านั้น

วีซ่า E-9 เป็นส่วนหนึ่งของ EPS ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงแรงงานต่างชาติกับอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนแรงงาน เช่น อุตสาหกรรมต่อเรือ ก่อสร้าง และการผลิต ซึ่งหาแรงงานในประเทศมาทำงานยาก

กระทรวงแรงงานและการจ้างงานกำหนดโควตาสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม จากนั้นหน่วยงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของเกาหลีจะสร้างรายชื่อแรงงานที่มีศักยภาพจาก 16 ประเทศ รวมทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ผู้ถือวีซ่า E-9 กลายเป็นผู้พำนักผิดกฎหมาย ทำให้หลายคนมองว่าวีซ่านี้เป็น ‘ช่องทางสู่การเข้าเมืองผิดกฎหมาย’

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าปัญหาหลักเกิดจากการกำกับดูแลที่ไม่เพียงพอหลังจากที่แรงงานต่างชาติเข้าประเทศ เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบของนายจ้างในการตรวจสอบและรายงานปัญหาต่างๆ

หากนายจ้างละเลยหรือเอาเปรียบแรงงานต่างชาติ เช่น การยึดเงินเดือน หรือจัดหาที่พักที่ไม่เหมาะสม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะไม่ทราบ เว้นแต่แรงงานเหล่านั้นจะรายงานปัญหาด้วยตนเอง

นอกจากนี้ ระบบ EPS ยังมีข้อบกพร่อง เช่น การห้ามแรงงานต่างชาติเปลี่ยนงาน ทำให้หลายคนเลือกที่จะอยู่ในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย เพื่อหางานที่มีค่าแรงและสภาพการทำงานที่ดีกว่า

“ความไม่ตรงกันระหว่างความต้องการแรงงานที่แท้จริงและการจัดการหลังการเข้าเมืองที่ไม่ดีกำลังก่อให้เกิดปัญหา” Lee Geon Tae กล่าว

เขายังบอกอีกว่า กระทรวงแรงงานต้องมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงสภาพการทำงานและสร้างระบบการจัดการหลังการเข้าเมืองที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับแรงงานต่างชาติ ในขณะที่กระทรวงยุติธรรมควรเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับและจับกุมแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ

ภาพ: Mongkon Jutatit / Shutterstock

อ้างอิง:

• https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2024/10/177_383785.html

The post เกาหลีใต้ผวา! วีซ่า E-9 ช่องทางสู่ ‘ผีน้อย’ ผู้เชี่ยวชาญชี้ต้องปฏิรูประบบวีซ่า แก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าเกาหลีใต้เพื่อทำงานเพิ่มขึ้นกว่า 25% ในปี 2023 ทำให้เป็นตัวเลขสูงสุดเป็นอันดับ 2 เท่าที่เคยมีมา ข้อมูลจาก Statistics Korea เผยว่า จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น 16.2% เป็น 480,000 คนในปีที่แล้ว โดย 36.1% หรือ 173,000 คน มาทำงาน

จำนวนผู้หางานชาวต่างชาติที่เดินทางมาถึงในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 25.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเป็นตัวเลขที่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งเป็นปีที่หน่วยงานเริ่มรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยในปี 2008 เกาหลีใต้มีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานมากที่สุดถึง 176,000 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• รองโฆษกรัฐบาลเผย กรมการจัดหางานเปิดรับสมัครคนไทยไปทำงาน ‘ฮ่องกง-เกาหลีใต้’ เช็กตำแหน่งงานว่างและเงินเดือนที่นี่
• เกาหลีใต้ร้อนฉ่า! นักท่องเที่ยวไทยหายไปไหน? เปิดเบื้องลึก K-ETA ด่านหินทำฝันสลาย แถมไปถึงแล้วอาจไม่ให้เข้าประเทศแบบไม่มีเหตุผล
• ชนเผ่าจิงโจ้เกาหลีใต้: วิกฤตคนรุ่นใหม่ที่ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ โดย 2 ใน 3 ของคนรุ่นใหม่ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่

การเติบโตดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลได้ขยายโควตาสำหรับวีซ่าทำงานที่ไม่ใช่มืออาชีพ (E-9) สำหรับแรงงานต่างชาติ และผ่อนคลายกฎเกี่ยวกับการจ้างงานชาวเกาหลีใต้ในต่างประเทศ

ประมาณ 21% ของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศในปีที่แล้ว มาเพื่อพำนักระยะสั้น ตามด้วย 17.3% เพื่อศึกษาและเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมอื่นๆ และ 12.1% เพื่อการแต่งงานและการอยู่อาศัยถาวร

โดยแยกตามประเทศ ชาวจีน 132,000 คน เดินทางเข้าเกาหลีใต้ในปีที่แล้ว ตามด้วยชาวเวียดนาม 71,000 คน และชาวไทย 35,000 คน ขณะเดียวกันก็มีรายงานถึงตัวเลขแรงงานไทยที่ทำงานอย่างผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า ‘ผีน้อย’ นับ ‘แสนคน’ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตและการเกษตรของเกาหลีใต้

สำหรับไทยนั้นเพิ่งมีการรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวไทย 119,000 คน เดินทางไปเกาหลีใต้ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ลดลง 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมาจากปัจจัยการปฏิเสธ K-ETA จำนวนมากและการขาดคำอธิบายที่ชัดเจนสำหรับการปฏิเสธเหล่านี้ รวมถึงการไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศแม้มี K-ETA แล้วก็ตาม

ด้านจำนวนชาวต่างชาติที่ออกจากประเทศในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 30.5% เป็น 319,000 คน ส่งผลให้มีชาวต่างชาติไหลเข้าสุทธิ 161,000 คน จำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น 13.2% เป็น 219,000 คน และจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางออกลดลง 5.6% เป็น 258,000 คน

ดังนั้นประเทศจึงมีการไหลออกสุทธิของชาวเกาหลีใต้ 39,000 คนในปี 2023 เมื่อรวมทั้งผู้ถือหนังสือเดินทางเกาหลีและชาวต่างชาติ จำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 13.5% เป็น 1.28 ล้านคนในปีที่แล้ว

ภาพ: Erlo Brown / Shutterstock

อ้างอิง:

• https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2024/07/281_378448.html
• https://www.scmp.com/week-asia/people/article/3239962/why-are-thai-tourists-often-sent-back-south-korea-thai-pm-srettha-investigates

The post แรงงานต่างชาติหลั่งไหลเข้าเกาหลีใต้! พุ่ง 25% ในปีที่ผ่านมา ไทยรั้งเบอร์ 3 ท่ามกลางกระแสผีน้อยแฝงตัวในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการเกษตร appeared first on THE STANDARD.

‘เกาหลีใต้’ เป็น 1 ใน 5 ประเทศแรกที่ยังครองแชมป์จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยในปีนี้ อ้างอิงจากผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลก ฉบับล่าสุดประจำปี 2566 ของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study 2023)

กระนั้นกระแสในโซเชียลกลับคุกรุ่น เพราะมีคนไทยหลายคนออกมาแชร์ประสบการณ์ในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม X (Twitter) ถึงการถูก ตม.เกาหลีปฏิเสธเข้าประเทศทั้งที่มีเอกสารครบถ้วน ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก แถมยังเคยไปมาหลายประเทศด้วย

“คนไทยจำนวนมากที่ไปเยือนเกาหลีใต้ติดอยู่ในกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและในที่สุดก็ถูกส่งกลับ ไม่ว่าพวกเขาจะนำเสนอเอกสารจำนวนเท่าใดเพื่อรับประกันความน่าเชื่อถือก็ตาม” ผู้ใช้บน X โพสต์

รายงานของ South China Morning Post ระบุอีกว่า ผู้โดยสารรายดังกล่าวอ้างว่าเธอเต็มไปด้วยคำถาม ‘น่าอาย’ เกี่ยวกับกำหนดการเดินทางของเธอ และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบอกว่า เธอเคยไปประเทศเอเชียตะวันออกหลายครั้ง ก่อนที่จะส่งเธอกลับ

ข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวเกาหลีพบว่า มีคนไทยเดินทางมาเยือนประเทศนี้ถึง 250,000 คนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้

ประสบการณ์ที่ไม่ดีทำให้เกิดแฮชแท็ก #แบนเที่ยวเกาหลี ขึ้น ถึงขั้นที่มีการแนะนำว่า “ฉันเสียใจกับเงินที่ใช้ไปกับตั๋วเครื่องบิน ฉันอยากจะแนะนำให้ไปประเทศอื่นที่โรแมนติกมากกว่าเกาหลี” ผู้ใช้โซเชียลมีเดียอีกคนกล่าว

บางคนสงสัยเกี่ยวกับจุดประสงค์ของเกาหลีใต้ในการดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย หากไม่กระตือรือร้นในการดึงดูดแขกจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หลายคนเชื่อว่า ‘ผีน้อย’ ซึ่งเป็นคำที่ใช้เพื่ออธิบายแรงงานไทยที่ผิดกฎหมายประมาณ 100,000 คนที่ทำงานในภาคการผลิตและการเกษตรของเกาหลีใต้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาดังกล่าว ทว่า “มันไม่ใช่ปัญหากับ ‘ผีน้อย’ อีกต่อไป คนมีตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และชำระค่าโรงแรมแล้วส่งยังถูกส่งกลับ? มีผีน้อยคนไหนซื้อตั๋วคอนเสิร์ต?” ผู้ใช้ X ถาม

อย่างไรก็ตาม South China Morning Post รายงานว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ให้คำมั่นที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งเกี่ยวกับพลเมืองของราชอาณาจักรที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศเกาหลีใต้บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้นักเดินทางจำนวนมากระบายความคับข้องใจบนโซเชียลมีเดีย

เศรษฐากล่าวว่า เขาจะหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเสริมว่า เขาไม่ทราบถึงปัญหาที่เกิดจากนโยบายการเข้าเมืองที่เข้มงวด

อ้างอิง:

• https://www.scmp.com/week-asia/people/article/3239962/why-are-thai-tourists-often-sent-back-south-korea-thai-pm-srettha-investigates

The post มีผีน้อยคนไหนซื้อตั๋วคอนเสิร์ต? #แบนเที่ยวเกาหลี แฮชแท็กร้อนแรงที่เกิดจาก ตม.เกาหลีปฏิเสธคนไทยไม่ให้เข้าประเทศทั้งที่เอกสารครบถ้วน appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (4 กุมภาพันธ์) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) แจ้งว่า นับตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐเกาหลี ได้เริ่มกวาดล้างผู้ที่พำนักแบบผิดกฎหมาย หรือ ผีน้อย ในสาธารณรัฐเกาหลี ทำให้มีผู้พำนักแบบผิดกฎหมายเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจมากขึ้น

กระทรวงยุติธรรมของสาธารณรัฐเกาหลีจึงได้ดำเนินโครงการการเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจแบบพิเศษ (Special Voluntary Departure Program) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่พำนักแบบผิดกฎหมายสามารถรายงานตัวกลับโดยสมัครใจ ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยจะได้รับการยกเว้นค่าปรับและระงับการห้ามเดินทางกลับเข้าสาธารณรัฐเกาหลี (อาจกลับเข้ามาสาธารณรัฐเกาหลีได้อีก) ซึ่งหากไม่รายงานตัวออกนอกสาธารณรัฐเกาหลีภายในช่วงเวลาที่กำหนด หรือถูกจับกุมในช่วงการกวาดล้าง จะต้องชำระค่าปรับจำนวน 30 ล้านวอน และจะถูกเพิ่มความเข้มงวดในการห้ามเดินทางกลับเข้าสาธารณรัฐเกาหลี

“ขอให้คนไทยที่ทำงานอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างผิดกฎหมายใช้โอกาสนี้มารายงานตัวเดินทางกลับประเทศไทย การลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมายทำให้ต้องหลบซ่อน ไม่ได้รับการดูแลตามสิทธิที่พึงมี หากเจ็บป่วยในต่างประเทศค่าใช้จ่ายจะสูงมาก และยังมีโอกาสถูกนายจ้างเอาเปรียบ ได้ไม่คุ้มเสีย ที่สำคัญรัฐบาลโดยการนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายฟื้นฟูประเทศอย่างเร่งด่วนหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทำให้ภาคการท่องเที่ยวขยายตัว ภาคธุรกิจเดินหน้า เศรษฐกิจบ้านเรามีแนวโน้มที่ดีขึ้น สถานประกอบการมีความต้องการแรงงานและพร้อมที่จะจ่ายค่าตอบแทนในราคาสูง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและบริการ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่ากลับมาแล้วจะไม่มีงานทำ ทุกคนสามารถทำงานใกล้ครอบครัว ถูกกฎหมาย และมีรายได้ที่เหมาะสม” สุชาติกล่าว

ด้าน ไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีโดยภาครัฐผ่านโครงการ EPS ปีละ 10,000 อัตรา ในงานอุตสาหกรรมการผลิต งานเกษตร/ปศุสัตว์ และงานก่อสร้าง และโดยภาคเอกชนจำนวน 5,000 อัตรา ในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ ตำแหน่งช่างเชื่อม ช่างไฟฟ้า ช่างสีพ่นทราย และกำลังเจรจาจัดส่งแรงงานไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาลด้วย ซึ่งถือว่ามีโอกาสอีกมากที่จะเดินทางไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลีอย่างถูกต้อง หรือหากต้องการหางานทำในประเทศไทย กรมการจัดหางานพร้อมให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์บนแพลตฟอร์ม ‘ไทยมีงานทำ’ ซึ่งให้บริการทั้ง Web Application และ Mobile Application ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ประชาชนสามารถหางาน เข้าถึงตำแหน่งงานที่สนใจและเหมาะสมกับตนเอง รวมทั้งยังสามารถสมัครหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสการมีงานทำได้

“ผู้ที่ประสงค์ร่วมโครงการการเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจแบบพิเศษ (Special Voluntary Departure Program) สามารถไปแจ้งด้วยตัวเองได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ใดก็ได้ หรือแจ้งออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.hikorea.go.kr โดยต้องแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน (ไม่รวมวันหยุด) ก่อนวันที่มีกำหนดเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมเตรียมเอกสาร ได้แก่ หนังสือเดินทาง ใบแจ้งการเดินทางออกนอกสาธารณรัฐเกาหลีโดยสมัครใจ และตั๋วเครื่องบิน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Immigration Contact Center โทร 1345 (มีล่ามภาษาไทยให้บริการ) หรือทางเว็บไซต์ Korea Immigration Service ที่ www.immigration.go.kr ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้ผู้พำนักแบบผิดกฎหมายเดินทางออกจากสาธารณรัฐเกาหลีโดยสมัครใจ มีคนไทยรายงานตัวกลับไทยแล้ว 2,601 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว 2,259 คน” ไพโรจน์กล่าว

The post ขีดเส้นตาย ‘ผีน้อย’ ในเกาหลีใต้ ต้องกลับไทยภายใน 28 ก.พ. พ้นเวลาเจอจับปรับ 30 ล้านวอน appeared first on THE STANDARD.

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กทางการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล / Royal Thai Embassy, Seoul เผยแพร่ประกาศ ว่าด้วยเรื่องบุคคลต่างชาติที่พำนักแบบผิดกฎหมายซึ่งได้รับวัคซีนป้องกันโควิด เข็มที่ 3 เรียบร้อยแล้ว ภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 

หากเดินทางออกนอกเกาหลีใต้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 จะได้รับการยกเว้นค่าปรับ และไม่ถูกนำชื่อบรรจุในรายชื่อบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้ ซึ่งจะต้องรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนวันเดินทาง (ไม่รวมวันหยุด)

ทั้งนี้ ยกเว้นบุคคลต่างชาติที่พำนักผิดกฎหมายที่ต้องคดีอาญา ได้รับวัคซีนไม่ครบ ละเมิดกฎการป้องกันโรคระบาด และถูกควบคุมตัว

สำหรับข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นมา ผู้ถือหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาคนไทย สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา 

อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบว่าบุคคลที่ได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ให้เดินทางเข้าได้แล้ว แต่ต่อมากระทำผิดกฎหมายดังสาเหตุต่อไปนี้ จะได้รับโทษดังนี้

1. พำนักอยู่ในเกาหลีใต้เกิน 90 วัน จะถูกลงโทษให้ชำระค่าปรับตามจำนวนปีที่พำนักผิดกฎหมาย หากเลือกไม่ชำระค่าปรับจะไม่สามารถเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ได้อีกในอนาคต รวมทั้งต้องถูกกักตัวในสถานกักกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนถูกส่งตัวกลับประเทศ โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมดด้วยตนเอง

2. กรณีลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้จับกุม จะถูกกักตัวในสถานกักกัน โดยหากไม่พบว่ามีความผิดอื่น (เช่น ยาเสพติด, นายหน้า, เมาแล้วขับ, ฉ้อโกง หรือคดีอื่นๆ) จะถูกส่งกลับประเทศไทยภายใน 1 สัปดาห์ โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมดด้วยตนเอง

อ้างอิง: 

• https://www.facebook.com/RoyalThaiEmbassySeoul/posts/pfbid0fQt7YU5AUAqqTC3ntdSJyWKq5P2UACN1dBuX4zJ9wPX3qry6VnPXpaCkLLzrojYUl
• https://www.facebook.com/photo?fbid=436264045214910&set=a.228185209356129

The post กต. แจ้ง ‘ผีน้อย’ แรงงานไทยผิด กม. ในเกาหลีใต้ หากกลับประเทศก่อน 31 ต.ค. ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ-ไม่ถูกขึ้นบัญชีดำ appeared first on THE STANDARD.

มูลนิธิ Thomson Reuters เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยซึ่งลักลอบทำงานในเกาหลีใต้ ที่ได้จากสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโซล ผ่านการยื่นคำร้องตามหลักเสรีภาพในการร้องขอข้อมูล

จากข้อมูลที่ได้พบว่า ตั้งแต่ปี 2015 มีแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยเสียชีวิตในเกาหลีใต้อย่างน้อย 522 คน โดยเสียชีวิตสูงสุดในปีนี้ถึง 122 คน ในจำนวนนี้ 84% นั้นเป็นแรงงานเถื่อนที่ไร้เอกสาร และ 4 ใน 10 ของแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยที่เสียชีวิตนั้นถูกบันทึกว่า ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนที่เหลือพบว่า เสียชีวิตจากหลายสาเหตุ ทั้งด้านสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือการฆ่าตัวตาย

ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุว่า ในช่วงปี 2015-2018 มีแรงงานชาวไทยเสียชีวิตในเกาหลีใต้ 283 คน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ

ข้อมูลการเสียชีวิตของกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยในเกาหลีใต้ทำให้องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) แสดงความกังวล และกำลังติดตามตรวจสอบสถานการณ์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสืบสวนชะตากรรมของแรงงานผิดกฎหมายกลุ่มนี้

“แรงงานข้ามชาติที่ไม่มีเอกสารนั้นได้รับการคุ้มครองน้อยที่สุด สุขภาพและความปลอดภัยของพวกเขานั้นน่าเป็นห่วง” นิลิม บารัวห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานของ ILO กล่าว

ข้อมูลจากกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยและอดีตแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยในเกาหลีใต้ รวมถึงนักเคลื่อนไหวและเจ้าหน้าที่ทางการไทยระบุว่า แรงงานผิดกฎหมายชาวไทยในเกาหลีใต้หลายหมื่นคนนั้นต้องทำงานเกินเวลาและไม่ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาล อีกทั้งไม่กล้าแจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะกลัวถูกเนรเทศกลับ

ขณะที่กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ในกรุงเทพฯ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข้อมูลดังกล่าว

ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายราว 460,000 คน ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศชี้ว่า เกาหลีใต้เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของแรงงานไทย เนื่องจากรายได้ที่สูงกว่าการทำงานในไทย และปัจจุบันมีแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยในเกาหลีใต้ประมาณ 185,000 คน

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• https://www.japantimes.co.jp/news/2020/12/22/asia-pacific/south-korea-thai-migrant-deaths/

The post UN จี้สืบสวน แรงงานไทยเสียชีวิตในเกาหลีใต้เกิน 520 รายในช่วง 5 ปี เกือบครึ่งเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (8 มีนาคม) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พลเรือโท ธานี แก้วเก้า เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ, นริศ นิรามัยวงศ์ ปลัดจังหวัดชลบุรี ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และ นายแพทย์อภิชาติ รอดสม สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 6 แถลงข่าวการรับชาวไทยจากเกาหลีใต้เข้ารับสังเกตอาการที่ฐานทัพเรือสัตหีบ 

โดยระบุว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันจัดพื้นที่ควบคุมโรคเพื่อสังเกตอาการเริ่มป่วย (State Quarantine) รองรับแรงงานนอกระบบที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้เพื่อสังเกตอาการ ตามข้อสั่งการของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้การดูแลคนไทยกลุ่มนี้อย่างดีที่สุด ให้รับตัวไว้เฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน จนพ้นระยะฟักตัวของโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและความปลอดภัยของคนในประเทศ 

นอกจากนี้ ดร.สาธิต กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้รับผิดชอบการดำเนินการรองรับกลุ่มแรงงานนอกระบบจากประเทศเกาหลีใต้ โดยได้ประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คมนาคม ตรวจคนเข้าเมือง กองทัพ ฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะนำแรงงานนอกระบบที่เดินทางมาจากทุกเมืองของเกาหลีใต้ หลังจากถูกคัดกรองที่สนามบิน หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ จะถูกส่งไปโรงพยาบาลที่กำหนดไว้ ที่เหลือจะส่งเข้ารับไว้สังเกตอาการที่พื้นที่ควบคุมโรคฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งสามารถรองรับได้สูงสุด 750 คน  

ในส่วนแรงงานถูกกฎหมาย หรือผู้เดินทางอื่นๆ จากเกาหลีใต้ จะถูกคัดกรองที่สนามบิน หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ จะถูกส่งไปโรงพยาบาลที่กำหนดไว้เช่นเดียวกัน ที่เหลือจะถูกส่งตัวไปพื้นที่ควบคุมโรค (Local Quarantine) ใกล้ภูมิลำเนา ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมไว้ โดยจะมีระบบเฝ้าระวังติดตามอาการจนครบ 14 วันเช่นกัน

“ขอให้แรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้ที่ยังไม่รับการเฝ้าระวังสังเกตอาการในพื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐกำหนด ให้เข้ารายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตามภูมิลำเนาภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ 2558” ดร.สาธิต กล่าว

สำหรับคนไทยกลุ่มแรกเริ่มทยอยเดินทางมาฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อเวลา 01.15 น. และเวลา 02.45 น. ของวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563 รวมทั้งสิ้น 60 คน เป็นผู้ชาย 27 คน ผู้หญิง 33 คน มีหญิงตั้งครรภ์ 3 คนที่ต้องดูแลพิเศษเป็น และกลุ่มเสี่ยงสูง 2 คนจากเมืองแทกูและคยองซังเหนือ ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองสุภาพ อาการปกติ ไม่มีไข้ โดยสัมภาระทุกชิ้นที่นำติดตัวมา รวมทั้งรองเท้าและอุปกรณ์สื่อสารได้รับการทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อก่อนขึ้นห้องพัก 

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกองทัพเรือ จัดตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพ มีการตรวจวัดไข้สอบถามอาการทุกวัน การดูแลด้านสุขภาพจิตโดยทีมแพทย์ จิตแพทย์ และพยาบาลจากโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ และทีมตรวจคัดกรองสุขภาพจากสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขตที่ 6 และโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 โดยกองทัพเรือได้จัดให้แรงงานไทยจากเกาหลีใต้เข้าพักที่อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ โดยแยกพักเป็นอาคารชายกับหญิง มีระบบรักษาความปลอดภัยรั้วกั้นโดยรอบ มีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเรือเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสนับสนุนอาหารวันละ 3 มื้อ

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post รมช. สาธิต เตือนแรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้รายงานตัวภายใน 3 วัน ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (6 มีนาคม) นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการเตรียมความพร้อมในการเดินทางกลับบ้านของแรงงานไทย เพื่อความปลอดภัยของแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับประเทศ และเพื่อคัดกรองผู้ป่วยให้ได้รับการรักษา

ต่อกรณีดังกล่าว ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทางโทรศัพท์กับ คังคยองฮวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ โดยได้ตกลงที่จะร่วมมือกันใน 3 มาตรการคือ 

1.ขอให้แรงงานไทยอยู่ในเกาหลีใต้ 14 วันก่อนที่จะเดินทางกลับไทยเพื่อเฝ้าดูอาการ 

2.เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจคัดกรองที่สนามบินสำหรับผู้โดยสารที่จะขึ้นเครื่องของทุกสายการบินที่จะเดินทางมาไทย (Exit Screening) 

3.ขอให้เกาหลีใต้ส่งข้อมูลแรงงานไทยที่ลงทะเบียนเดินทางกลับไว้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ เพื่อที่จะได้เตรียมการและส่งแรงงานไทยกลับภูมิลำเนาได้อย่างเรียบร้อย โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ให้คำมั่นว่าจะดูแลคนไทยในเกาหลีใต้เป็นอย่างดี หากเจ็บป่วยก็จะเข้ากระบวนการรักษาให้หายดี 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมั่นใจต่อมาตรการที่เตรียมการไว้เพื่อรองรับการเดินทางกลับบ้านของแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ เข้าใจสังคมที่มีความห่วงกังวล รัฐบาลมีการประเมินสถานการณ์ทุกวันโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้ประชาชนเข้าใจและให้ความร่วมมือกับการดำเนินการตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยในสังคม   

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post รัฐบาลมั่นใจ พร้อมรับแรงงานไทยจากเกาหลีใต้กลับบ้าน ให้กักตัว 14 วันก่อนบินกลับมา appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (5 มีนาคม) มีการรายงานผ่านสื่อของเกาหลีใต้อย่าง ‘Naver News’ เปิดเผย พบหญิงไทยอายุ 27 ปี ติดเชื้อโควิด-19 พักอาศัยที่เขตคิมชอน จังหวัดคยองซังเหนือ พื้นที่ติดเมืองแทกู ในประเทศเกาหลีใต้

โดย พินยุดา แจ่มจันทร์ศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ระบุว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น หญิงไทยรายดังกล่าวไม่มีวีซ่าทำงาน ปัจจุบันทำงานที่โรงซักผ้าในเขตคิมชอน จังหวัดคยองซังเหนือ มีอาการตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 และเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ก่อนได้รับแจ้งผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 ในเวลาต่อมา 

ทางด้าน เธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วว่ามีแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ‘ผีน้อย’ ติดเชื้อโควิด-19 คนแรกที่เกาหลีใต้ เป็นเพศหญิง อายุ 27 ปี ซึ่งกระทรวงแรงงานได้เข้าไปดูแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่าอาการไม่รุนแรง ซึ่งหลังจากได้รับการติดเชื้อ ทางเกาหลีใต้ได้นำรถมารับเข้าไปดูแลที่โรงพยาบาลทันที และตอนนี้กำลังดูอาการสามีของแรงงานคนนี้เพิ่มเติมด้วย เนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

• news.naver.com/main/read.nhn?mode=LSD&mid=sec&sid1=102&oid=421&aid=0004504846&fbclid=IwAR0we59_J-Vo8Lvv4M3jelqFCOseIKNgFSl_9bU9W-pOHIP9wc1zmhaNQc8 

The post พบแรงงานสาวไทยผิดกฎหมาย ติดเชื้อโควิด-19 ที่เกาหลีใต้เป็นรายแรก appeared first on THE STANDARD.