ป.ป.ส. – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 18 Nov 2025 03:24:41 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ยึดกรดอะซีติก 22 ตัน ท่าเรือแหลมฉบัง สกัดขบวนการผลิตยาบ้า 1,400 ล้านเม็ด https://thestandard.co/22-tons-drug-precursor-seized/ Tue, 18 Nov 2025 03:24:41 +0000 https://thestandard.co/?p=1144372 ยึดกรดอะซีติก 22 ตัน ท่าเรือแหลมฉบัง สกัดขบวนการผลิตยาบ้า 1,400 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมน […]

The post ยึดกรดอะซีติก 22 ตัน ท่าเรือแหลมฉบัง สกัดขบวนการผลิตยาบ้า 1,400 ล้านเม็ด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ยึดกรดอะซีติก 22 ตัน ท่าเรือแหลมฉบัง สกัดขบวนการผลิตยาบ้า 1,400 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส., นริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, พล.ต.ท. อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดี กรมศุลกากร และ ธีรทัศน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ร่วมกันลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและยึดสารเคมีต้องสงสัย ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ภายใต้แนวคิด No Chemical No Drugs

 

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลจากการบูรณาการร่วมกันระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ส. และ กรมศุลกากร ซึ่งได้รับรายงานการข่าวและเฝ้าระวังการนำเข้าสารเคมีที่มีความเสี่ยงจะถูกนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติด โดยพบว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งนำเข้าสารเคมี กรดอะซีติก (Acetic Acid) จำนวนมากถึง 740 ถัง น้ำหนักรวม 22,200 กิโลกรัม จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามา ณ ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง โดย ไม่มีใบอนุญาตนำเข้า และ ไม่มีการขึ้นทะเบียนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

 

กรดอะซีติก เป็นสารเคมีสำคัญที่ใช้เป็นตัวทำปฏิกิริยาในกระบวนการผลิตสารตั้งต้นเพื่อนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติดร้ายแรง เช่น เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า, ไอซ์) และเฮโรอีน การยึดสารเคมีในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสารเคมีล็อตนี้สามารถนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติดได้ในปริมาณมหาศาล โดยมีรายละเอียดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากสารเคมีนี้หลุดรอดออกไปสู่กระบวนการผลิตยาเสพติด ดังนี้:

  • สามารถใช้ผลิตสารตั้งต้น เพื่อนำไปผลิต ไอซ์ (เมทแอมเฟตามีน) ได้ประมาณ 27,750 กิโลกรัม
  • สามารถใช้ผลิตสารตั้งต้น เพื่อนำไปผลิต ยาบ้า ได้มากถึงประมาณ 1,400 ล้านเม็ด
  • สามารถใช้เป็นสารตั้งต้น เพื่อนำไปผลิต เฮโรอีน ได้ถึงประมาณ 74,000 กิโลกรัม

 

กรดอะซีติก จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งกำหนดให้ผู้นำเข้าต้องขอขึ้นทะเบียนและขอใบอนุญาตนำเข้าจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ

 

นอกจากนี้ ยังเป็นสารเคมีในบัญชีที่ 2 ตามประกาศกระทรวงยุติธรรม ภายใต้มาตรการป้องกันการลักลอบนำสารเคมีไปใช้ผลิตยาเสพติด (คำสั่ง คสช. ที่ 32/2559) ที่กำหนดให้ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายหรือระเบียบเฉพาะ

 

แม้ว่า กรดอะซีติก จะเป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น การผลิตพลาสติก ยาง การพิมพ์ สีย้อม การถนอมอาหาร และการสังเคราะห์สารเคมีอินทรีย์ แต่เนื่องจากสามารถนำไปใช้เป็นตัวทำปฏิกิริยาในการผลิตเมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนได้ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการรั่วไหลไปสู่การผลิตยาเสพติดนอกประเทศ

The post ยึดกรดอะซีติก 22 ตัน ท่าเรือแหลมฉบัง สกัดขบวนการผลิตยาบ้า 1,400 ล้านเม็ด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจบุกจับยาเสพติด เจอแก๊งจีนเทาเปิดเว็บพนันข้ามชาติกลางห้วยขวาง https://thestandard.co/huai-khwang-chinese-gambling-bust/ Fri, 14 Nov 2025 04:12:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1143213 ตำรวจบุกจับยาเสพติด เจอ แก๊งจีนเทาเปิดเว็บพนันข้ามชาติกลางห้วยขวาง

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ […]

The post ตำรวจบุกจับยาเสพติด เจอแก๊งจีนเทาเปิดเว็บพนันข้ามชาติกลางห้วยขวาง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจบุกจับยาเสพติด เจอ แก๊งจีนเทาเปิดเว็บพนันข้ามชาติกลางห้วยขวาง

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เปิดเผยผลการปฏิบัติการสนธิกำลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่นำไปสู่การทลายเครือข่ายจีนเทาที่ลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ข้ามชาติ

 

ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 โดยเจ้าหน้าที่จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บช.น. (ศอ.ปส.บช.น.) และ ป.ป.ส. ได้นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจสอบห้องพักในคอนโดมิเนียมย่านห้วยขวาง แขวงดินแดง กรุงเทพฯ หลังได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มชาวจีนมั่วสุมต้องสงสัยว่าเสพยาเสพติด

 

เจ้าหน้าที่ต้องใช้ยุทธวิธีบุกเข้าจับกุมเนื่องจากผู้ต้องหามีความระแวดระวังตัวและไม่ยอมเปิดประตูห้อง จนกระทั่งเวลา 13.30 น. เมื่อมีคนร้าย 1 ราย เข้ามาที่ห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงบุกตามเข้าไปทันที ผลการตรวจค้นพบชายชาวจีน 3 ราย และชาวเมียนมา 1 ราย โดยไม่พบยาเสพติดใดๆ ในห้องพัก และไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาทั้งสี่คน

 

อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นกลับพบ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 4 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง ซึ่งมีข้อมูลการทำหลังบ้านของเว็บพนันออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น การปั่นสล็อต, แทงฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, และบาคาร่า พร้อมของกลางอื่น ๆ อาทิ อุปกรณ์โทเคน OTP และบุหรี่เถื่อน 7 กล่อง

 

เจ้าหน้าที่จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้แก่ Li Youngzhao, Luo Li, LIU JIANQUAN สัญชาติจีน และ Chit Maw Maw Htay สัญชาติเมียนมา ในข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินทางอิเล็กทรอนิกส์, ร่วมกันนำของต้องเสียภาษีสรรพสามิตเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ชำระภาษี และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

จากการขยายผลเพิ่มเติม ผู้ต้องหาให้การว่าเพิ่งย้ายจากประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยว แต่เจ้าหน้าที่กลับพบโพยลับ ในโทรศัพท์มือถือของเครือข่ายชาวจีน ที่ใช้เพื่ออำพรางตัวเป็นนักเรียน โดยระบุถึงวิธีการหลอกตบตาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

 

เช่น การให้ตอบว่ากำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง และห้ามทำงานในรัศมี 3-5 กิโลเมตรจากที่พักที่กำหนดในช่วงที่มีการตรวจสอบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดตั้งเครือข่ายอย่างเป็นระบบ

 

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเข้ามาประเทศไทยเพื่อฝึกภาษาไทยและท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำให้การไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมที่สืบสวนพบ หลังการจับกุมตัว พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินการขยายผลคดีนี้อย่างละเอียดต่อไป

The post ตำรวจบุกจับยาเสพติด เจอแก๊งจีนเทาเปิดเว็บพนันข้ามชาติกลางห้วยขวาง appeared first on THE STANDARD.

]]>
รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธตอบสื่อปมคดีร้อน DSI ทั้ง เขากระโดง ฮั้ว สว. และสืบสวน เฉิน จื้อ CEO Prince Group เผยขอโฟกัสยาเสพติด https://thestandard.co/justice-minister-focuses-on-drugs/ Wed, 05 Nov 2025 09:59:16 +0000 https://thestandard.co/?p=1140005 รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธตอบสื่อปมคดีร้อน DSI ทั้ง เขากระโดง ฮั้ว สว. และสืบสวน **เฉิน จื้อ** CEO Prince Group เผยขอโฟกัสยาเสพติด

วันนี้ (5 พฤศจิกายน) ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานคณะกรรม […]

The post รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธตอบสื่อปมคดีร้อน DSI ทั้ง เขากระโดง ฮั้ว สว. และสืบสวน เฉิน จื้อ CEO Prince Group เผยขอโฟกัสยาเสพติด appeared first on THE STANDARD.

]]>
รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธตอบสื่อปมคดีร้อน DSI ทั้ง เขากระโดง ฮั้ว สว. และสืบสวน **เฉิน จื้อ** CEO Prince Group เผยขอโฟกัสยาเสพติด

วันนี้ (5 พฤศจิกายน) ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานเปิดปฏิบัติการ Kick off 1386 ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด เพื่อติดตามผลการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายแบบ Real-time จำนวน 21 จังหวัด 161 จุดปฏิบัติการ โดยมี พ.ต.ต.สุริยา สิหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟัง

 

จากการติดตามผลการดำเนินงานเบื้องต้น พบว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับบุคคลทั้งหมด 156 จุด และพื้นที่ 5 จุด โดยสามารถดำเนินการเป้าหมายบุคคลไปแล้ว 142 คน ซึ่งในจำนวนนี้ พบเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 7 คน โดยยังมีเป้าหมายอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 14 จุด

 

ภายหลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์เกี่ยวกับภารกิจยาเสพติด ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่ปรากฏว่า พล.ต.ท.รุทธพล รมว.ยุติธรรม ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามและให้ความเห็นในทุกประเด็น

 

ประเด็นที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามและ รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธการตอบคำถาม มีดังนี้:

  • คดีสืบสวน ‘เฉิน จื้อ CEO Prince Group’: ความคืบหน้าในการสืบสวนกรณี นายเฉิน จื้อ หรือ วินเซนต์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ประเทศกัมพูชา ซึ่ง DSI ได้เข้าบันทึกสอบปากคำพยานและรวบรวมเอกสารไปก่อนหน้านี้
  • ปมโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล: กรณีที่วานนี้ (4 พฤศจิกายน) กลุ่มผู้พิการซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติ และกลุ่มผู้ค้าสลากรากหญ้า ได้เข้าร้องทุกข์ DSI ให้ช่วยตรวจสอบเอาผิดกลุ่มคณะบุคคลที่ฮุบโควตา
  • ความคืบหน้าคดี ‘เขากระโดง’: คดีสืบสวนการครอบครองที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์
  • คดีพิเศษ ‘อั้งยี่ฟอกเงิน ฮั้ว สว.’: ความคืบหน้าของคดีพิเศษที่มีการสืบสวนกรณีอั้งยี่-ฟอกเงิน ฮั้วสมาชิกวุฒิสภา

 

โดย รมว.ยุติธรรม ระบุเพียงสั้น ๆ ว่า “ขอตอบในเรื่องมิติยาเสพติด” ก่อนจะยิ้มรับฟังคำถามอื่น ๆ ของผู้สื่อข่าว แต่เลือกที่จะไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด ก่อนจะเดินทางไปประชุมคณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินต่อ

The post รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธตอบสื่อปมคดีร้อน DSI ทั้ง เขากระโดง ฮั้ว สว. และสืบสวน เฉิน จื้อ CEO Prince Group เผยขอโฟกัสยาเสพติด appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึดยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวมกว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน https://thestandard.co/pm-anutin-drug-suppression-results/ Tue, 21 Oct 2025 11:23:29 +0000 https://thestandard.co/?p=1133504 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน

วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด […]

The post นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึดยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวมกว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน

วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ภายใต้นโยบายเร่งด่วน ขจัดยาเสพติดให้สิ้นซาก โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้บริหารระดับสูงของ ตร. เข้าร่วม

 

อนุทิน ชาญวีรกูล ได้มอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยกระดับการจัดการปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตประชาชน โดยสั่งการให้ อัปเดต – อัปเกรด การทำงานให้ทันต่ออาชญากรรมยุคใหม่ พร้อมแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามทั้งในและนอกประเทศ

 

ภายใต้แผนยุทธการ ทำลายล้างเครือข่ายยาเสพติด ถล่มจุดพัก ทุบคลัง ปิดเส้นลำเลียง ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 9 – 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพียง 12 วัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมหน่วยงานความมั่นคง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 16 ราย จาก 10 คดีสำคัญ ยึดของกลางยาเสพติดล็อตใหญ่ ประกอบด้วย

 

  • ยาบ้า ได้กว่า 33.84 ล้านเม็ด
  • ไอซ์ 800 กิโลกรัม
  • คีตามีน 500 กิโลกรัม

 

พร้อมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก และกำลังเดินหน้าขยายผลตามยึดทรัพย์กลุ่มผู้บงการเครือข่ายต่อไป

 

อนุทิน กล่าวยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการสนับสนุนการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการจัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการวางกลไกเชิงระบบ ที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อใช้เป็นแนวทางถาวรในการต่อสู้กับอาชญากรรมทุกรูปแบบ

 

พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานอย่างทุ่มเท กล้าหาญ เพื่อขจัดภัยร้ายที่คุกคามความมั่นคงของชาติ และรักษาความสงบสุขของสังคมไทย โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมนี้ได้มาติดตามผลงานถึง 3 ครั้ง และสังเกตเห็นการปรับเปลี่ยนเส้นทางขนถ่ายยาเสพติดที่กระจายไปหลายภาคมากขึ้น บ่งบอกถึงการปราบปรามที่เข้มข้นขึ้น

 

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ โดยย้ำว่าผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของเจ้าหน้าที่ในการขับเคลื่อนนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจนี้ หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งได้ทันทีผ่านช่องทาง สายด่วนยาเสพติด 191 และสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้บ้าน

 

นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 1 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 2 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 3 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 4 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 5 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 6 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 7 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 8 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 9 นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึด ยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวม กว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน 10

The post นายกฯนำแถลงผลงานปราบยาเสพติด ยึดยาบ้ากว่า 33.8 ล้านเม็ด ไอซ์-คีตามีน รวมกว่า 1.3 ตัน ใน 12 วัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ป.ป.ส. แถลงผลยึดไอซ์ล็อตใหญ่กว่า 500 กก. ซุกห้องอับเฉาเรือไดร์ฟวิ่งภูเก็ต รวบผู้ต้องหา 4 ราย https://thestandard.co/oncb-500kg-ice-phuket-boat/ Mon, 29 Sep 2025 05:49:58 +0000 https://thestandard.co/?p=1124232

วันนี้ (29 กันยายน) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ […]

The post ป.ป.ส. แถลงผลยึดไอซ์ล็อตใหญ่กว่า 500 กก. ซุกห้องอับเฉาเรือไดร์ฟวิ่งภูเก็ต รวบผู้ต้องหา 4 ราย appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (29 กันยายน) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพเรือภาคที่ 3, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.), กองบังคับการตำรวจน้ำ และ บช.ปส. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการสำคัญ ยึดไอซ์ได้มากถึง 502 กิโลกรัม และคีตามีน 600 กรัม พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน (เสียชีวิต 1 คน ขณะพยายามหลบหนี) บนเรือบรรทุกผู้โดยสารสัญชาติไทยชื่อ อิลิกเซอร์ (Elixir) บริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินมูลค่ารวม 5 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดระนอง

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) ได้สืบทราบข้อมูลเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางเรือ เตรียมขนยาเสพติดปริมาณมหาศาลไปยังประเทศที่สาม จึงประสานไปยัง ป.ป.ส.

 

ชุดปฏิบัติการร่วมจากหลายหน่วยงานจึงได้ติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งพบเรือต้องสงสัยชื่ออิลิกเซอร์ (Elixir) แล่นมาจากจังหวัดระนอง และมาจอดอยู่ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต โดยมีลักษณะผิดปกติและบุคคลในเรือมีพิรุธ ชุดปฏิบัติการจึงเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 พบยาเสพติดทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ใน ห้องอับเฉาใต้ท้องเรือ

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า ในระหว่างการจับกุม มีผู้ต้องหา 1 ราย กระโดดลงน้ำหลบหนีและเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้ใช้นักประดาน้ำเก็บกู้ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญกลับคืนมาได้

 

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า เรืออิลิกเซอร์ได้แล่นออกจากจังหวัดระนองไปรับ ไอซ์ 40 กระสอบ (คาดว่า 1 ตัน) บริเวณใกล้เกาะสอง ประเทศเมียนมา จากนั้นนำเรือมาจอดรอลูกค้าที่บริเวณน่านน้ำจังหวัดสตูล แต่เนื่องจากไม่มีผู้มารับ จึงนำเรือกลับมาที่อ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต โดยมีชายอีก 2 คน นำเครื่องบรรจุภัณฑ์สุญญากาศและถุงชาเปล่าขึ้นมาบนเรือ เพื่อบรรจุไอซ์ใหม่โดยใช้เวลา 3 วัน

 

ต่อมา กลุ่มผู้ต้องหาได้นำไอซ์ 20 กระสอบ (ประมาณ 500 กิโลกรัม) ส่งมอบให้เรือสปีดโบ๊ทบริเวณน่านน้ำจังหวัดสตูล ส่วนไอซ์ที่เหลือประมาณ 20 กระสอบ (502 กก.) เตรียมลำเลียงต่อไปยัง ประเทศอินโดนีเซีย แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จึงต้องจอดรออยู่ที่อ่าวฉลอง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการบูรณาการด้านข่าวและการสืบสวนร่วมกับหน่วยงานภาคี ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติยังคงลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านช่องทางทางเรืออย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 เพียงปีเดียว มีการจับกุมในน่านน้ำไทยแล้ว 6 คดี ของกลาง ไอซ์รวม 7.3 ตัน และพบการจับกุมในน่านน้ำสากลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 9 คดี ของกลางไอซ์ 18.1 ตัน

 

สำนักงาน ป.ป.ส. จึงจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับความเข้มงวดในการลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เป็นจุดเสี่ยง เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงไปยังประเทศที่สาม เช่น ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย พร้อมสืบสวนขยายผลดำเนินคดีถึงระดับนายทุนผู้สั่งการและดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินต่อไป

The post ป.ป.ส. แถลงผลยึดไอซ์ล็อตใหญ่กว่า 500 กก. ซุกห้องอับเฉาเรือไดร์ฟวิ่งภูเก็ต รวบผู้ต้องหา 4 ราย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ป.ป.ส. จับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวเวียดนาม ลักลอบผลิตยาอีสูตรใหม่เพื่อจำหน่ายในสถานบันเทิง https://thestandard.co/oncb-vietnamese-ecstasy-network/ Thu, 21 Aug 2025 05:02:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1109602

วันนี้ (21 สิงหาคม) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการส […]

The post ป.ป.ส. จับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวเวียดนาม ลักลอบผลิตยาอีสูตรใหม่เพื่อจำหน่ายในสถานบันเทิง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (21 สิงหาคม) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับ ปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวเวียดนาม พร้อมของกลางเคตามีน 5.2 กิโลกรัม, ยาอี และอุปกรณ์ผลิตยาครบชุด

 

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการเฝ้าระวังเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวเวียดนามที่อาจเข้ามาเคลื่อนไหวในไทย หลังจากการประชุมทวิภาคีไทย-เวียดนาม พบว่ามีการกวาดล้างและจับกุมผู้ผลิตยาเสพติดในเวียดนามอย่างหนัก ทำให้คาดว่านักค้ายาเหล่านี้อาจย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย

 

การจับกุมเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจยึดคีตามีนจำนวน 5.2 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนมาในพัสดุระหว่างประเทศจากเนเธอร์แลนด์ โดยทำทีเป็นถุงขนม เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลและเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งวันที่ 18 สิงหาคม ได้เข้าจับกุมชายชาวเวียดนาม 2 คน ที่มาติดต่อรับพัสดุ

 

จากนั้นได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเช่าย่านลาดพร้าว พบผู้ต้องหาชาวเวียดนามเพิ่มอีก 2 คน รวมจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน พร้อมของกลาง ยาอี 514 เม็ด, ผงยาอี, เครื่องอัดเม็ดยาอัตโนมัติที่สามารถผลิตได้วันละกว่า 1 แสนเม็ด และหัวตอกโลโก้ยี่ห้อต่างๆ

 

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่าเตรียมนำคีตามีนมาผสมกับ MDMA เพื่อผลิตเป็นยาอีสำหรับจำหน่ายในสถานบันเทิงเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งยาที่ผสมแล้วหากเสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำหวานอาจส่งผลให้หัวใจวายเฉียบพลันถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายาอีบางส่วนถูกลักลอบส่งกลับไปยังเวียดนามแล้วด้วย

 

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ย้ำว่า ป.ป.ส. ยังคงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่พยายามใช้ไทยเป็นทางผ่านอย่างต่อเนื่อง

The post ป.ป.ส. จับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวเวียดนาม ลักลอบผลิตยาอีสูตรใหม่เพื่อจำหน่ายในสถานบันเทิง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ป.ป.ส. เปิดห้องมั่นคง เตรียมขนย้ายยาเสพติดของกลางล็อตใหญ่น้ำหนักรวม 26.04 ตัน เพื่อเผาทำลายในวันที่ 22 ส.ค. 68 https://thestandard.co/oncb-destroy-drugs-26-tons/ Wed, 20 Aug 2025 04:59:05 +0000 https://thestandard.co/?p=1109209 ป.ป.ส. ยาเสพติด

วันนี้ (20 สิงหาคม) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรา […]

The post ป.ป.ส. เปิดห้องมั่นคง เตรียมขนย้ายยาเสพติดของกลางล็อตใหญ่น้ำหนักรวม 26.04 ตัน เพื่อเผาทำลายในวันที่ 22 ส.ค. 68 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ป.ป.ส. ยาเสพติด

วันนี้ (20 สิงหาคม) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้แถลงข่าวเปิดห้องมั่นคง ณ สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด (สวพ.) โดยมี อภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธาน พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานภาคีและสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อตรวจสอบและเตรียมขนย้ายยาเสพติดของกลางลอตใหญ่รวมกว่า 26.04 ตัน จาก 1,304 คดี เพื่อนำไปเผาทำลายในวันที่ 22 สิงหาคมนี้

 

อภิกิตกล่าวว่า การทำลายยาเสพติดในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของปีงบประมาณ 2568 และเป็นครั้งที่ 10 ของการทำลายยาเสพติดภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมีคณะทำงานจากหลายหน่วยงานเข้าร่วมตรวจสอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

 

สำหรับของกลางที่นำมาทำลายในครั้งนี้มีน้ำหนักสุทธิเฉพาะตัวยาเสพติดรวม 21.60 ตัน ประกอบด้วย ยาบ้า กว่า 139 ล้านเม็ด, ไอซ์ 6.07 ตัน, คีตามีน 1.43 ตัน, เฮโรอีน 173 กิโลกรัม และยาเสพติดชนิดอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง

 

กระบวนการทั้งหมดจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 20-21 สิงหาคม โดยคณะทำงานจะร่วมกันตรวจสอบและบรรจุยาเสพติดลงหีบห่อ ก่อนจะขนย้ายไปยังบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 22 สิงหาคม โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตลอดเส้นทาง เมื่อถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบอีกครั้งก่อนนำเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิสูงกว่า 1,200 องศาเซลเซียส ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24 สิงหาคม

 

รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำว่าตลอด 10 ครั้งที่ผ่านมา สามารถทำลายยาเสพติดไปแล้วรวมกว่า 203 ตัน และ ป.ป.ส. ยังคงเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันที่จะดำเนินการกับของกลางอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน

 

อ้างอิง:

The post ป.ป.ส. เปิดห้องมั่นคง เตรียมขนย้ายยาเสพติดของกลางล็อตใหญ่น้ำหนักรวม 26.04 ตัน เพื่อเผาทำลายในวันที่ 22 ส.ค. 68 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ป.ป.ส. ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่าย ‘ร.ต.ต. ป้ายแดง’ เอี่ยวขนยาบ้า 5 ล้านเม็ด https://thestandard.co/oncb-seizes-assets-5m-drug-network/ Mon, 16 Jun 2025 09:03:46 +0000 https://thestandard.co/?p=1085542

วันนี้ (16 มิถุนายน) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิกา […]

The post ป.ป.ส. ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่าย ‘ร.ต.ต. ป้ายแดง’ เอี่ยวขนยาบ้า 5 ล้านเม็ด appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (16 มิถุนายน) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้สั่งการด่วนให้ขยายผลและตรวจสอบทรัพย์สินของเครือข่าย ‘ร.ต.ต. ป้ายแดง’ ที่ร่วมขบวนการขนยาบ้า 5 ล้านเม็ด และถูกจับกุมได้ที่ด่านในจังหวัดเชียงราย โดยเบื้องต้นสามารถยึดทรัพย์สินได้แล้วกว่า 50 ล้านบาท

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวย้ำอย่างเด็ดขาดว่า ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะถูกดำเนินคดีอย่างเฉียบพลัน และยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยจะไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาดของรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร และข้อสั่งการของ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งเน้นการทำลายเครือข่ายและตัดวงจรทางการเงินของผู้ค้ายาเสพติด

 

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส., กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ ณรงค์เดช ณ พัทลุง, สนธยา ศรีสุวรรณ และ โกมล บุญทอง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5,000,000 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

 

จากการสืบสวนพบว่า ณรงค์เดช ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร้อยตำรวจตรี (ร.ต.ต.) สังกัดศูนย์ฝึกตำรวจภูธรภาค 8 และเพิ่งสำเร็จการฝึกอบรมมาได้เพียง 3 เดือน ก่อนจะร่วมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ จึงได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 8 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและยึดทรัพย์สินของณรงค์เดชโดยทันที ผลการตรวจค้นบ้านพัก 2 แห่งในแฟลตตำรวจศูนย์ฝึกฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบได้เป็นจำนวนมาก อาทิ เงินสด 200,000 บาท, ทองคำแท่ง 5 บาท, โฉนดที่ดิน 3 แปลง เนื้อที่รวม 44 ไร่, รถยนต์ 2 คัน และบัญชีธนาคารอีก 8 เล่ม รวมมูลค่าทรัพย์สินเบื้องต้นกว่า 50 ล้านบาท

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเน้นย้ำเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินที่ซุกซ่อนไว้ทั้งหมด เพื่อดำเนินการยึดอายัดเพิ่มเติม และขอย้ำเตือนไปยังเจ้าหน้าที่รัฐทุกคน หากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ว่าจะในฐานะผู้ค้า ผู้ลำเลียง หรือผู้ให้การสนับสนุน จะไม่มีการละเว้น จะถูกดำเนินคดีอาญาอย่างเฉียบพลัน มีโทษสถานหนัก และทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด จะถูกยึดให้ตกเป็นของแผ่นดินทั้งหมด เพื่อตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดให้สิ้นตามนโยบายของรัฐบาล

The post ป.ป.ส. ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่าย ‘ร.ต.ต. ป้ายแดง’ เอี่ยวขนยาบ้า 5 ล้านเม็ด appeared first on THE STANDARD.

]]>
นักวิชาการ มธ. กังวลคำพูด ‘ทักษิณ’ หลังประกาศจัดการว้าแดง เสี่ยงผิดกฎหมายระหว่างประเทศ https://thestandard.co/thaksin-wa-red-remarks-international-law-risk/ Wed, 28 May 2025 11:28:06 +0000 https://thestandard.co/?p=1079613 รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร เตือนคำกล่าวของทักษิณอาจกระทบความสัมพันธ์ไทย-เมียนมา

จากกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษา […]

The post นักวิชาการ มธ. กังวลคำพูด ‘ทักษิณ’ หลังประกาศจัดการว้าแดง เสี่ยงผิดกฎหมายระหว่างประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร เตือนคำกล่าวของทักษิณอาจกระทบความสัมพันธ์ไทย-เมียนมา

จากกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ‘ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน‘ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตอนหนึ่งว่า แหล่งผลิตยาเสพติดที่สำคัญอยู่ในพื้นที่ของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธว้าแดง เขตรัฐฉาน อีกภายใน 1-2 เดือน รมว.การต่างประเทศ จะต้องเข้าไปพบปะกับผู้นำเมียนมาให้จัดการ หากทำไม่ได้ ประเทศไทยคงต้องขออนุญาตจัดการด้วยตนเอง และหากยังผลิตจะถือว่าเป็นศัตรู

 

รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร ภาควิชาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการต่างประเทศเมียนมา เปิดเผยว่า เห็นด้วยในหลักการว่าต้องมีการจัดการกับกลุ่มว้าแดงเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศไทย แต่ต้องเป็นการทำงานอย่างรัดกุมและคำนึงถึงประเด็นระหว่างประเทศที่มีความอ่อนไหวด้วย ส่วนตัวรู้สึกกังวลและไม่ค่อยเห็นด้วยกับการสื่อสารของคุณทักษิณที่พูดว่า หากรัฐบาลทหารเมียนมาจัดการไม่ได้จะขอเป็นฝ่ายเข้าไปจัดการด้วยตนเอง ตรงนี้อาจจะก่อให้เกิดการตั้งข้อสังเกตได้ว่าเป็นสัญญาณที่ออกมาจากรัฐบาลไทยหรือไม่ หรือเป็นสัญญาณที่ออกมาจากฝ่ายความมั่นคงไทยหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ในหลายๆ เรื่อง

 

รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าวว่า การใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามที่คุณทักษิณกล่าวอ้างนั้นอาจทำให้ผู้ฟังคาดเดาไปว่า ไทยอาจจะแทรกแซงโดยส่งกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของไทยเข้าไปปราบปรามยาเสพติดหรือไม่ เรื่องนี้ควรต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของเมียนมา และสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอาจทำให้กองทัพเมียนมารู้สึกไม่ไว้วางใจ และหวาดระแวงว่า ทางการไทยจะมีนัยทางการเมืองในการเข้าไปสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมากลุ่มใดหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยที่พยายามจะเข้าไปมีบทบาทในการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพระหว่างกลุ่มต่อต้านกับรัฐบาลทหาร

 

รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการผลิตยาเสพติดของกลุ่มว้าแดงอย่างมีนัยสำคัญมาราว 20 ปีก่อน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีหน่วยงานติดตามและดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับรัฐบาลและระดับท้องถิ่นที่ผู้บัญชาการกองกำลังต่างๆ เป็นผู้ดูแล รวมไปถึงบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในการเรียกร้องกับรัฐบาลเมียนมาให้ช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหายาเสพติด ก็มีการทำมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 

ทว่า รัฐบาลทหารเมียนมาก็มีข้อจำกัดในการเข้าไปบริหารจัดการ ด้วยรูปแบบการปกครองพื้นที่ของว้าแดงซึ่งมีความอิสระในการปกครองตนเอง เพราะได้ทำข้อตกลงหยุดยิงและมีการแบ่งสรรทางอำนาจต่างๆ กับรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 1990 มากไปกว่านั้นคือมิติของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย จึงทำให้กองทัพไม่อยากเข้าไปกดดันหรือแทรกแซงว้าแดงมากนัก ยังไม่นับว่าภายหลังจากการรัฐประหารในปี 2021 เป็นต้นมา ได้ทำให้อิทธิพลของกองทัพลดน้อยถอยลงไปอย่างมากในบริเวณพื้นที่ชนกลุ่มน้อยต่างๆ ขณะที่กองกำลังติดอาวุธอย่างว้าแดงกลับมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ช่องทางหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยทำมาโดยตลอดในทางการทูต คือการคุยกับรัฐบาลจีน โดยเฉพาะรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งอยู่ในพื้นที่ยูนนาน ให้ช่วยดูแลและจัดการเรื่องยาเสพติดร่วมกัน และร้องขอรัฐบาลจีนให้หยุดส่งสารเคมีที่เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการผลิตยาเสพติดให้กับกลุ่มว้าแดง 

 

มากไปกว่านั้น คือการบริหารจัดการพื้นที่ภายในประเทศในเรื่องการป้องปรามการเสพ การซื้อ และการลักลอบขนย้ายยาเสพติด และการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการปราบปรามยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนของกลุ่มผู้ค้ายา จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเยียวยา บรรเทาผู้เสพยาเสพติด 

 

รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตัวแสดงที่สำคัญในการจัดการและแก้ไขปัญหายาเสพติดคือชนกลุ่มน้อยที่เป็นเครือข่ายของฝ่ายความมั่นคงไทย หรือเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยบริเวณตามแนวชายแดน ควรจะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญในการติดต่อประสานงาน และขับเคลื่อนร่วมกันเป็นเครือข่ายในการสนับสนุนการป้องปรามยาเสพติด รวมไปถึงการใช้กลไกที่สำคัญอย่างคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ซึ่งเป็นเวทีในการหารือเรื่องความมั่นคง ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการพูดคุยแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด 

 

“สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ สิ่งที่คุณทักษิณพูดเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยดำเนินการมาโดยตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องดำเนินการให้มีความเข้มแข็ง จับต้องได้ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการดำเนินการความสัมพันธ์ทางการทูตกับทั้งรัฐบาลกลางเมียนมา รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของจีน สิ่งเหล่านี้ควรจะเป็นตัวเลือกในเบื้องต้นก่อนที่จะคิดถึงการใช้ความรุนแรง ที่อาจจะก่อให้เกิดการละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน” รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าว

The post นักวิชาการ มธ. กังวลคำพูด ‘ทักษิณ’ หลังประกาศจัดการว้าแดง เสี่ยงผิดกฎหมายระหว่างประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ป.ป.ส. แจง เชิญ ‘ทักษิณ’ ปาฐกถาปราบยาเสพติด ชี้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ ปัดเชิญเป็นที่ปรึกษาทำงาน https://thestandard.co/oncb-invites-thaksin-drug-policy-speech/ Mon, 26 May 2025 12:31:54 +0000 https://thestandard.co/?p=1078782 ป.ป.ส.

วันนี้ (26 พฤษภาคม) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ […]

The post ป.ป.ส. แจง เชิญ ‘ทักษิณ’ ปาฐกถาปราบยาเสพติด ชี้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ ปัดเชิญเป็นที่ปรึกษาทำงาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ป.ป.ส.

วันนี้ (26 พฤษภาคม) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ชี้แจงถึงกรณีการเชิญ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ต่อการแก้ไขปัญหา อย่างยั่งยืน’ ในการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด (ครส.) ครั้งที่ 3/2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ณ สำนักงาน ป.ป.ส.

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การเชิญทักษิณมาปาฐกถาเป็นแนวคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ครส. โดย ป.ป.ส. เป็นผู้ดำเนินการออกหนังสือเชิญในฐานะหน่วยงาน ซึ่งท่านมองว่าทักษิณเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ในการกำหนดนโยบายยาเสพติดของประเทศไทยจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในสมัยที่ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นช่วงที่ประเทศไทยสามารถประกาศชัยชนะเหนือปัญหายาเสพติดได้

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำว่า ในฐานะข้าราชการประจำ ตนมองว่าการปาฐกถาของทักษิณจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และกรรมการ ครส. ในการรับฟังองค์ความรู้และแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เคยประสบความสำเร็จในอดีต ซึ่งจะนำมาปรับปรุง แก้ไข และพัฒนากลไกของรัฐในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลไกการขับเคลื่อน ‘STOP SEAL SAVE’ และการเอ็กซเรย์พื้นที่ 12 จังหวัด เพื่อความปลอดภัยและความสุขของประชาชน

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ ยอมรับว่าตนเองและผู้บริหารรุ่นปัจจุบันหลายคนยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จึงต้องการรับฟังจากปากของทักษิณโดยตรงเกี่ยวกับนโยบายประกาศสงครามยาเสพติด และการตัดตอนที่เคยได้ยินมา เพื่อทำความเข้าใจถึงแนวคิดและวิธีการดำเนินการในสมัยนั้นอย่างแท้จริง

 

เมื่อถูกถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์และการมองในมิติทางการเมือง พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ ยืนยันว่า ตนเป็นข้าราชการประจำ ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมองในมิติทางการเมืองแต่อย่างใด และไม่มีความกดดันจากการเชิญทักษิณมาปาฐกถา ท่านยังกล่าวเสริมว่า การรับฟังผู้มีประสบการณ์ที่เคยทำสำเร็จแล้ว จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาการทำงานของ ป.ป.ส. ให้ประสบผลสำเร็จ

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการเชิญทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาหรือกรรมการในบอร์ด โดยกล่าวว่า “ตนมิบังอาจเชิญท่านมาเป็นที่ปรึกษา เพียงแค่ได้ฟังท่านมาให้คำแนะนำ ก็คงจะได้แนวคิดพอสมควรแล้ว”

 

การประชุมและปาฐกถาพิเศษจะจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.30-16.30 น. โดย ทักษิณ ชินวัตร จะกล่าวปาฐกถาในช่วงเวลา 13.40-14.20 น. ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ อาคาร 2 ชั้น 3 สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) กรุงเทพมหานคร และมีการประชุมทางไกลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในส่วนภูมิภาคด้วย

The post ป.ป.ส. แจง เชิญ ‘ทักษิณ’ ปาฐกถาปราบยาเสพติด ชี้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ ปัดเชิญเป็นที่ปรึกษาทำงาน appeared first on THE STANDARD.

]]>