ปรีชา เปรมปรี – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 31 Aug 2021 07:28:41 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ปลดล็อกชุดตรวจ HIV วางขายในร้านยา รู้ผลตรวจไว-รักษาเร็ว ตั้งเป้ายุติปัญหาเอดส์ในอีก 9 ปี https://thestandard.co/unlocked-hiv-costume/ Tue, 31 Aug 2021 07:28:41 +0000 https://thestandard.co/?p=531249 ปลดล็อกชุดตรวจ HIV วางขายในร้านยา รู้ผลตรวจไว-รักษาเร็ว ตั้งเป้ายุติปัญหาเอดส์ในอีก 9 ปี

วันนี้ (31 สิงหาคม) นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุม […]

The post ปลดล็อกชุดตรวจ HIV วางขายในร้านยา รู้ผลตรวจไว-รักษาเร็ว ตั้งเป้ายุติปัญหาเอดส์ในอีก 9 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปลดล็อกชุดตรวจ HIV วางขายในร้านยา รู้ผลตรวจไว-รักษาเร็ว ตั้งเป้ายุติปัญหาเอดส์ในอีก 9 ปี

วันนี้ (31 สิงหาคม) นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อ HIV ในประเทศไทยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ดำเนินการตามปฏิญญาทางการเมืองที่ประกาศมุ่งมั่นยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 หรือในอีก 9 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่ ไม่เกิน 1,000 ราย/ปี ลดการเสียชีวิตจากเอดส์ ไม่เกิน 4,000 ราย/ปี และลดการรังเกียจตีตราและเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยให้ได้ร้อยละ 90 ซึ่งผลการดำเนินงานได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่ายภาค ประชาสังคมเป็นอย่างดี ทำให้สถานการณ์การติดเชื้อ HIV ในประเทศขณะนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา พบ 4,855 ราย

 

นพ.ปรีชากล่าวต่อว่า มาตรการที่ไทยจะนำมาใช้แก้ไขปัญหาเอดส์ในปี 2564 นี้ก็คือการสนับสนุนให้ประชาชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสามารถใช้ชุดตรวจคัดกรองการติดเชื้อเบื้องต้นด้วยตนเองได้ ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ขับเคลื่อนร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หน่วยงานอื่นๆ ตั้งแต่ พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา ตามมติคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง 

 

โดยในปี 2564 มีชุดทดสอบผ่านการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานจาก อย. แล้ว 2 ชนิด คือ ชุดตรวจหาการติดเชื้อ HIV จากการเจาะเลือดปลายนิ้วมือ รู้ผลภายใน 1 นาที และชุดตรวจโดยการใช้น้ำลาย อ่านผลได้ใน 20 นาที โดยเตรียมวางจำหน่ายในร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วประเทศตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะสอดรับกับข้อจำกัดในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ทำให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือสงสัยว่าติดเชื้อไม่สามารถไปตรวจหาเชื้อที่สถานพยาบาลตามปกติ ชุดทดสอบนี้จะทำให้ประชาชนนำไปใช้ตรวจคัดกรองการติดเชื้อเบื้องต้น เพื่อให้รู้สถานะการติดเชื้อของตนเองได้เร็ว และตรวจยืนยันอีกครั้งที่สถานพยาบาล หากพบว่าติดเชื้อจะเข้าสู่ระบบดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัส HIV ในสถานพยาบาลทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วตามสิทธิการรักษา จนสามารถลดเชื้อไวรัสในกระแสเลือดได้ และไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อสู่คนอื่น

 

“ชุดตรวจคัดกรอง HIV ด้วยตนเอง ถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ที่จะเพิ่มการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย กลุ่มหญิงข้ามเพศ กลุ่มพนักงานบริการ ผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น และประชาชนทั่วไป หากพบว่าติดเชื้อก็สามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในอนาคตนี้ ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์จะนำไปสู่การปรับสูตรยาให้กินง่ายขึ้น ทั้งขนาดและจำนวนลดลง และลดอาการแทรกซ้อนหรือผลกระทบระยะยาวต่อร่างกาย จะทำให้ผู้ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตดีเหมือนคนปกติ” นพ.ปรีชากล่าว

 

ด้าน พญ.ชีวนันท์ เลิศพิริยสุวัฒน์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวเสริมว่า จากการประชุมเชิงปฏิบัติการของสมาคมโรคเอดส์ ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาได้เปรียบเทียบสถานการณ์การแพร่ระบาดของการติดเชื้อ HIV และโรคโควิดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเหมือนกัน แต่ความรุนแรงและแนวทางในการป้องกันควบคุมโรค ต้องใช้วิธีการและเทคโนโลยีด้านการตรวจคัดกรอง การดูแลรักษาที่แตกต่างกัน โดยการติดเชื้อ HIV มีการระบาดทั่วโลกตั้งแต่ปี 2524 จนถึงขณะนี้ เกือบ 40 ปีแล้ว มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก จำนวน 37.7 ล้านราย เสียชีวิต 36 ล้านราย สาเหตุการติดเชื้อมาจากเพศสัมพันธ์และทางเลือด 

 

โดยปัจจุบันมียาต้านไวรัสรักษาและได้ผลดีมาก สามารถลดจำนวนเชื้อไวรัสเอชไอวีในกระแสเลือดลดลงได้มาก ส่วนวัคซีนในการป้องกันไวรัส HIV ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยในเฟสที่ 3 ดังนั้นมาตรการการป้องกันหลักยังเน้นการส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งการกินยาต้านไวรัสสำหรับป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อหรือเพร็พ (PrEP) โดยสรุปแล้วปัญหาการติดเชื้อ HIV ส่งผลกระทบระดับโลกในระดับสูง

 

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อ HIV ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2527-2563 รวมเกือบ 36 ปี มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมที่ยังมีชีวิตอยู่ 462,376 คน ในปี 2563 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,855 คน เสียชีวิต 11,882 คน ผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิต รู้สถานะการติดเชื้อของตนเองร้อยละ 94.3 ขณะนี้อยู่ในระบบการรักษาในสถานพยาบาลทั่วประเทศด้วยยาต้านไวรัสร้อยละ 83.5 ในจำนวนนี้สามารถกดไวรัสได้สำเร็จ ร้อยละ 97.2 จึงเชื่อมั่นว่าเราจะประสบผลสำเร็จในการยุติปัญหาได้ตามเป้าหมาย

The post ปลดล็อกชุดตรวจ HIV วางขายในร้านยา รู้ผลตรวจไว-รักษาเร็ว ตั้งเป้ายุติปัญหาเอดส์ในอีก 9 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
สธ. ระบุ ลูกสาวทูตตรวจเจอโควิด-19 ตั้งแต่สนามบิน แต่ใช้สิทธิทางการทูต จึงไม่ได้กักตัวในสถานที่ที่จัดไว้ให้ https://thestandard.co/ministry-of-public-health-mention-ambassador-daughter-found-coronavirus-since-at-airport/ Tue, 14 Jul 2020 11:13:45 +0000 https://thestandard.co/?p=379833

วันนี้ (14 กรกฎาคม) นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุม […]

The post สธ. ระบุ ลูกสาวทูตตรวจเจอโควิด-19 ตั้งแต่สนามบิน แต่ใช้สิทธิทางการทูต จึงไม่ได้กักตัวในสถานที่ที่จัดไว้ให้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (14 กรกฎาคม) นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีลูกสาวทูต อายุ 9 ปี ที่เดินทางมากับครอบครัวติดโควิด-19 ซึ่งพบในภายหลังว่าไม่มีการกักตัวอยู่ในพื้นที่สถานทูต แต่ไปพักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทนั้น

 

นพ.ปรีชา ระบุว่า “ตั้งแต่ที่รับจากสนามบินมีผลเป็นบวก ด้วยระบบของทูต เป็นสิทธิทางการทูต ซึ่งมีข้อยกเว้นว่าให้เข้าไปกักกันในพื้นที่ของสถานทูตเอง และเหมือนกับว่าตอนช่วงนั้นสถานทูตเองคงมีความแออัด จึงเข้าพักที่ตรงนี้ก่อน หลังจากนั้นส่งไปที่โรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลได้รับการตรวจยืนยันอีกครั้งหนึ่ง และก็ได้รับการรักษาแบบเบื้องต้น หลังจากนั้นจึงส่งไปที่โรงพยาบาลของรัฐ ตอนนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น เรื่องปอดอักเสบก็ดีขึ้นแล้ว 

 

“การเดินทางเข้ามาครั้งนี้มีผู้โดยสารในเครื่องบินลำเดียวกัน 244 คน แล้วได้มีการคัดกรอง ซึ่งในจำนวน 244 คนก็เป็นผู้ป่วยในข่ายสงสัยอีก 45 คน แล้วตรวจพบว่ามีผลบวกทั้งหมด 12 คน รวมรายนี้ด้วย ซึ่งก็ได้กระจายไปรักษาตามที่ต่างๆ พวกนั้นคือคนไทยที่เดินทางกลับมาด้วย ซึ่งได้มีการติดตามในส่วนของคนไทย และเข้าไปอยู่ที่ State Quarantine ส่วนของทีมท่านทูตก็เป็นตามเอกสิทธิ์ แต่ต้องเข้าไปอยู่ในที่กักกันของทางสถานทูตเอง”

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามเพิ่มเติมถึงกรณีที่อาจถูกมองว่าจะเป็นการแบ่งสองมาตรฐานหรือไม่ ในกรณีที่คนไทยจากต่างแดนที่เดินทางมาถึงต้องกักตัวทันที แต่กลับกัน ทางคณะทูตสามารถเดินทางออกนอกจุดกักตัวได้ ก่อนกลับไปตรวจเชื้ออีกครั้ง ซึ่งทางด้าน นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ตอบว่าปัญหานี้เป็นที่รับทราบกันดีว่ากฎดังกล่าวทำให้เกิดช่องว่างอยู่บ้าง ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนในการที่จะให้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) หรือนักวิชาการทั้งหลายที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาช่วยระดมความคิดกันว่ามาตรการที่จะก่อให้เกิดความเข้มข้นในการป้องกันโรคและรัดกุม พร้อมสร้างความสบายใจให้พี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้นต้องทำอย่างไร

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post สธ. ระบุ ลูกสาวทูตตรวจเจอโควิด-19 ตั้งแต่สนามบิน แต่ใช้สิทธิทางการทูต จึงไม่ได้กักตัวในสถานที่ที่จัดไว้ให้ appeared first on THE STANDARD.

]]>