ประจวบ วงศ์สุข – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 07 Mar 2025 04:45:44 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยากว่า 30,000 ชิ้น ตำรวจรู้ตัวเจ้าของแล้ว เป็นคนไทย ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ https://thestandard.co/30000-e-cigarettes-seized/ Fri, 07 Mar 2025 04:45:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1049533

วันนี้ (7 มีนาคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการ […]

The post ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยากว่า 30,000 ชิ้น ตำรวจรู้ตัวเจ้าของแล้ว เป็นคนไทย ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (7 มีนาคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท. อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจบุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ย่านนนทบุรี โดยเข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 ชั้นแห่งหนึ่งในหมู่บ้านย่านไทรม้า จังหวัดนนทบุรี  

 

การตรวจค้นในครั้งนี้เป็นการขยายผลการตรวจค้นและจับกุมผู้ดูแลโกดังบุหรี่ไฟฟ้าที่ย่านบางแคเมื่อวันเสาร์ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ครั้งนั้นสามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ 343,600 ชิ้น มูลค่ารวม 30 ล้านบาท โดยตำรวจสืบสวนจนทราบว่า ขบวนการนี้นำบุหรี่ไฟฟ้ามาเก็บพักคอยไว้ที่จุดนี้ 

 

ทันทีที่เข้าตรวจค้น มีชาย 2 คนแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน และให้การว่าเพิ่งจะเริ่มทำมาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น โดยขบวนการนี้จะนำบุหรี่ไฟฟ้ามาเก็บพักคอยไว้ 8 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งตอนนี้ตำรวจทราบตัวนายจ้างแล้ว เป็นคนไทยที่ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขับรถหรู ซึ่งจะมีการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องเพื่อเอานายทุนมาลงโทษตามกฎหมาย 

 

เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร (สภ.) บางศรีเมือง แจ้งข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.บ.กรมศุลกากร, พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ และ พ.ร.บ.อาหารและยา พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบและทิ้งและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 30,000 กว่าชิ้น มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการส่งของกลางไปตรวจสอบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีการปนเปื้อนของสารเสพติดหรือสารต้องห้ามด้วยหรือไม่

 

ขณะที่ผู้ต้องหารายหนึ่งระบุสั้นๆ ว่า ตนเพิ่งทำมาเพียงแค่ 6-7 เดือนเท่านั้น โดยที่เพื่อนแนะนำให้ทำ โดยหน้าที่หลักๆ จะไปรับบุหรี่ไฟฟ้ามาเก็บไว้ที่บ้านพัก และนำไปส่งตามร้านต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำบ่อยครั้ง บางวันก็ขนบุหรี่ไฟฟ้าวันละ 1-2 ครั้งไปส่งตามคำสั่งซื้อ ยอมรับรู้ว่าผิดกฎหมาย มีงานประจำที่ทำอยู่แล้ว แต่ที่รับงานนี้มาทำเพิ่มเพราะรายได้ดี ตกเดือนละ 20,000 บาท

The post ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยากว่า 30,000 ชิ้น ตำรวจรู้ตัวเจ้าของแล้ว เป็นคนไทย ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตร. เร่งรัดปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า-แก๊สหัวเราะ ผลปฏิบัติ 7 วันจับกุม 666 ราย ยึดของกลางกว่า 41 ล้านบาท https://thestandard.co/police-crackdown-e-cigs-laughing-gas/ Thu, 06 Mar 2025 04:07:20 +0000 https://thestandard.co/?p=1049142

วันนี้ (6 มีนาคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการ […]

The post ตร. เร่งรัดปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า-แก๊สหัวเราะ ผลปฏิบัติ 7 วันจับกุม 666 ราย ยึดของกลางกว่า 41 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (6 มีนาคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมสรุปผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ บุหรี่ไฟฟ้า และ แก๊สหัวเราะ โดยมีผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

ทั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ซึ่งปัจจุบันได้ปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาดทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา พื้นที่ใกล้โรงเรียนหรือสถานศึกษา รวมถึงสถานบริการ สถานประกอบการ และพื้นที่สาธารณะในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเองหรือผู้อื่น สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนใกล้เคียง

 

สำหรับผลการปฏิบัติในห้วง 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2568 ภาพรวมการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าของทุกหน่วยมีผลการจับกุมทั้งสิ้น 666 ราย ผู้ต้องหา 690 คน ยึดของกลาง 454,958 ชิ้น มูลค่าของกลาง 41,911,815 บาท เป็นการจับกุมรายใหญ่ 2 ราย ยึดของกลาง 409,364 ชิ้น มูลค่าของกลาง 34,200,000 บาท จับกุมรายย่อย 645 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 669 คน ยึดของกลาง 43,483 ชิ้น มูลค่าของกลาง 7,215,005 บาท จับกุมรอบสถานศึกษา 7 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 6 คน ยึดของกลาง 1,359 ชิ้น มูลค่าของกลาง 302,500 บาท และจับกุมบริเวณแหล่งท่องเที่ยว 12 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 12 คน ยึดของกลาง 752 ชิ้น มูลค่าของกลาง 194,310 บาท

 

ในส่วนการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊สหัวเราะ จับกุม 3 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 3 คน ยึดของกลาง 2,334 ชิ้น มูลค่าของกลาง 100,000 บาท

 

พล.ต.อ. ประจวบ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย และต้องการเห็นผลการปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววัน ผบ.ตร. จึงได้กำชับ เน้นย้ำ และติดตามการขับเคลื่อนให้มีผลการปฏิบัติในทุกมิติ

 

  1. ให้ความสำคัญกับการปราบปราม กวาดล้าง การลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย การจำหน่าย การให้บริการ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไป X-Ray ในพื้นที่รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มข้นในการกวดขัน ตรวจสอบ ทุกสถานที่ จุดล่อแหลม ซึ่งน่าจะเป็นที่ซุกซ่อนของบุหรี่ไฟฟ้าและสารตั้งต้น สารประกอบของแก๊สหัวเราะ ตลอดจนสิ่งของผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังเน้นย้ำว่า ต่อไปจะต้องไม่มีหรือสามารถค้นหาได้โดยง่ายว่าในพื้นที่มีการจำหน่ายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้าหรือแก๊สหัวเราะอย่างโจ่งแจ้ง

 

  1. สาเหตุของการกระทำความผิดทั้งหลาย เพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่าคือเงิน จากผลการระดมจับกุมพบว่าของกลางและการยึดทรัพย์สินมีมูลค่าสูงมาก นี่คือแรงจูงใจให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างรัดกุมและเป็นแบบแผน การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามความผิดมูลฐานฟอกเงินที่เกี่ยวข้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ เน้นย้ำว่าต้องดำเนินการสืบสาวไปให้ถึงต้นตอเหตุทุกกรณี เพราะการกระทำผิดส่วนมากมักเกี่ยวข้องกับเงิน

 

ในฐานะที่ พล.ต.อ. ประจวบ รับผิดชอบและเป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมบูรณาการการทำงานกับหน่วย เพื่อให้การปฏิบัติมีความต่อเนื่อง เชื่อมโยง และเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพให้การทำงานประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 

นอกจากนี้ พล.ต.อ. ประจวบ ได้เน้นย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความมุ่งมั่น จริงใจ ในการแก้ไขปัญหา ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเราจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ

The post ตร. เร่งรัดปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า-แก๊สหัวเราะ ผลปฏิบัติ 7 วันจับกุม 666 ราย ยึดของกลางกว่า 41 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางแผนปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน-สกัดกั้นการลำเลียงสู่พื้นที่ภาคใต้ https://thestandard.co/royal-thai-police-prevent-drug-transport/ Thu, 23 Jan 2025 07:50:46 +0000 https://thestandard.co/?p=1033499 การพักคอยยาเสพติด

วันนี้ (23 มกราคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชากา […]

The post สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางแผนปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน-สกัดกั้นการลำเลียงสู่พื้นที่ภาคใต้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
การพักคอยยาเสพติด

วันนี้ (23 มกราคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้

 

พล.ต.อ. ประจวบ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการตอบสนองนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวดในทุกมิติ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการเยียวยาฟื้นฟู คืนคนดีสู่สังคม อันเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยกำชับให้ทุกฝ่ายสืบสวน หาข่าว ติดตามสถานการณ์ยาเสพติด เส้นทางการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน พื้นที่พักคอยตามแนวชายแดน เส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ตั้งแต่พื้นที่ต้นทาง พื้นที่พักคอยตอนใน ไปจนถึงพื้นที่ปลายทาง และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อกำหนดมาตรการในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด แบบเหลื่อมเวลาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งเส้นทางหลัก ทางรอง ทางหลบเลี่ยง และเส้นทางโครงข่ายใยแมงมุม เพื่อกำหนดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุม โดยยึดถือตาม SOP อย่างเคร่งครัด เน้นการทำงานแบบบูรณาการ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ ประสานความร่วมมือผู้ให้บริการระบบขนส่งโลจิสติกส์ ทั้งภาครัฐและเอกชน บันทึกข้อมูลผู้ส่งพัสดุทุกครั้ง

 

พร้อมร่วมตรวจสอบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางบริการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์ เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นช่องทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด

 

พล.ต.อ. ประจวบ กล่าวต่อว่า ในห้วงหลังจากนี้จะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมติดตามและขับเคลื่อนการปฏิบัติ ณ ด่านตรวจยาเสพติดและจุดปฏิบัติการสำคัญในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ต้องมีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมและเป็นที่ประจักษ์ของประชาชนและสังคม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ

The post สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางแผนปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน-สกัดกั้นการลำเลียงสู่พื้นที่ภาคใต้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจพร้อมดูแลความปลอดภัยงานวันเด็กทั่วประเทศ ขอผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด https://thestandard.co/police-ready-childrens-day-2568/ Sat, 11 Jan 2025 03:29:07 +0000 https://thestandard.co/?p=1029248

วันนี้ (11 มกราคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชากา […]

The post ตำรวจพร้อมดูแลความปลอดภัยงานวันเด็กทั่วประเทศ ขอผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (11 มกราคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ตรงกับวันเสาร์ที่ 11 มกราคม หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างจัดกิจกรรม

 

ซึ่งจะมีเด็กและเยาวชนร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก อาจมีเหตุไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเด็ก เยาวชน และผู้เข้าร่วมงาน การฉวยโอกาสก่อเหตุของมิจฉาชีพ ตลอดจนการก่ออาชญากรรมต่อเด็กในลักษณะต่างๆ เกิดขึ้นได้

 

จึงมีข้อสั่งการไปยังหน่วยต่างๆ ทั่วประเทศในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

 

โดยให้ทุกหน่วยกำหนดแผน/มาตรการในการสร้างความปลอดภัยในการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ขอความร่วมมือให้ผู้จัดงานทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการและเอกชน ระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยในการจัดกิจกรรม อันตรายจากอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ควรมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและดูแล

 

โดยเฉพาะสถานที่จัดงานที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ลำคลอง หรือมีสระน้ำ บ่อน้ำ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง อาจเสี่ยงที่จะเกิดเหตุพลัดตกน้ำ ควรประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยให้ประจำสถานที่จัดงาน สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงที 

 

การใช้รถโรงเรียนหรือรถยนต์โดยสารรับจ้างเป็นยานพาหนะในการเดินทางพานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นหมู่คณะ ให้ผู้ประกอบการมีการตรวจสอบสภาพรถ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามกฎจราจร ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากตรวจพบให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งจัดให้มีครูผู้ดูแลเด็กอย่างเพียงพอ และแจ้งเตือนให้มีการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท

 

ให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สนับสนุนการปฏิบัติให้กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันเหตุ และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ในแต่ละพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ และมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอประชาสัมพันธ์ให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กไปเที่ยวตามลำพัง และควรจัดทำบัตรที่ระบุชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองติดไว้กับตัวเด็ก เพื่อให้สะดวกในการติดต่อและนำส่งกรณีพบเด็กพลัดหลงหรือประสบเหตุ

 

รวมทั้งช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน เฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อน หากพบเห็นเหตุ บุคคล และวัตถุต้องสงสัย หรือต้องการขอความช่วยเหลือ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง หรือแจ้งมายังสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

The post ตำรวจพร้อมดูแลความปลอดภัยงานวันเด็กทั่วประเทศ ขอผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจขยายผลกลุ่มจักรยานยนต์ ‘ทริปน้ำไม่อาบ’ จับตัวการชักชวน ตรวจยึดยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด https://thestandard.co/police-extend-investigation-motorcycle-group/ Fri, 27 Dec 2024 09:11:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1024669 police-extend-investigation-motorcycle-group

วันนี้ (27 ธันวาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บ […]

The post ตำรวจขยายผลกลุ่มจักรยานยนต์ ‘ทริปน้ำไม่อาบ’ จับตัวการชักชวน ตรวจยึดยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด appeared first on THE STANDARD.

]]>
police-extend-investigation-motorcycle-group

วันนี้ (27 ธันวาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น การแข่งรถ หรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง 

 

โดยขยายผลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง เครือข่ายทริป ‘น้ำไม่อาบ’ นำไปสู่การจับกุมยาบ้ารวมกว่า 15.6 ล้านเม็ดของเครือข่าย RNC8 ซึ่งพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการหาผู้ซื้อ ผู้ขายยาเสพติด โดยใช้วิธีการออกทริปบังหน้า  

 

พล.ต.ท. สำราญ กล่าวว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ สั่งการให้ดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มออกทริป ‘น้ำไม่อาบ’ พร้อมย้ำว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากเฟซบุ๊กเพจ ‘เมลาย รัชดา’ ชักชวน ทำให้มีการรวมกลุ่มของการขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างมาก ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 7 ปี 

 

มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตซึ่งเกิดจากกลุ่มผู้ออกทริปเป็นประจำทุกปี คณะทำงานฯ ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนตามเส้นทางให้ขับขี่โดยเคารพกฎจราจร แต่ยังมีการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาแข่งรถในทางฯ 

 

พล.ต.ท. สำราญ กล่าวต่อว่า คณะทำงานฯ ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้เชิญชวน ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดดังกล่าวอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ ต่อมาได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาและเมธา หรือ ‘เมลาย รัชดา’ กับภรรยาคือ วิริยา เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ‘เมลาย รัชดา แฟนเพจ’ เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานชักชวนให้มีการแข่งรถในทางฯ 

 

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหาคือ วีรเทพ พร้อมของกลาง ยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงกระสอบ จำนวนประมาณ 78 กระสอบ กระสอบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าประมาณ 15,600,000 เม็ด 

 

ซึ่งจากคำให้การของผู้ต้องหา พบว่าจุดเริ่มต้นที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คือมีคนชักชวนผ่านการพนันตามสนามแข่งรถ หรือจัดทริปขับขี่รถจักรยานยนต์ออกเที่ยวตามต่างจังหวัดในสถานที่ต่างๆ โดยแต่ละครั้งที่มีการรวมตัวกันจะมีบุคคลซึ่งเป็นระดับสั่งการหรือนายทุนมาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งเป็นเหมือนการพบปะหรือจัดเลี้ยงของกลุ่มขบวนการยาเสพติดไปในตัว โดยใช้การออกทริปหรือไปท่องเที่ยวเป็นกลุ่มด้วยกัน ซึ่งล่าสุดคือทริป ‘น้ำไม่อาบ’ ที่เพิ่งผ่านมา

The post ตำรวจขยายผลกลุ่มจักรยานยนต์ ‘ทริปน้ำไม่อาบ’ จับตัวการชักชวน ตรวจยึดยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.อ. ประจวบ นำทีมปราบผู้มีอิทธิพล เน้นรุกพื้นที่เสี่ยงความขัดแย้ง-เหตุรุนแรง https://thestandard.co/prachuap-wongsuk-to-lead-crackdown/ Wed, 25 Dec 2024 11:52:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1023780

วันนี้ (25 ธันวาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บ […]

The post ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.อ. ประจวบ นำทีมปราบผู้มีอิทธิพล เน้นรุกพื้นที่เสี่ยงความขัดแย้ง-เหตุรุนแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (25 ธันวาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่นายกรัฐมนตรีระบุจะเป็นหัวหน้าทีม 

 

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแนวคิดที่เกิดในช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งเราเห็นกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดปราจีนบุรีเป็นตัวอย่างแล้ว และไม่อยากเห็นการทำร้ายกันด้วยวิธีเช่นนี้ 

 

จากการพูดคุยกับนายกฯ ตนจะมอบหมายให้ พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท. อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ส่วนข้อมูลได้พูดคุยกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

 

ทั้งนี้ ตำรวจจะไม่ได้เปิดปฏิบัติการแบบดาวกระจายทั้งหมด แต่จังหวัดใดที่พิจารณาแล้วอาจมีแนวโน้มเรื่องความขัดแย้งเกิดขึ้น เสี่ยงต่อเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติงานทันทีเพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย

The post ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.อ. ประจวบ นำทีมปราบผู้มีอิทธิพล เน้นรุกพื้นที่เสี่ยงความขัดแย้ง-เหตุรุนแรง appeared first on THE STANDARD.

]]>
สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงผลระดมกวาดล้าง พร้อมแนวทางป้องกันอาชญากรรม ช่วงวันคริสต์มาส-เทศกาลปีใหม่ 2568 https://thestandard.co/christmas-new-year-crime-crackdown/ Tue, 24 Dec 2024 10:00:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1023253

วันนี้ (24 ธันวาคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาก […]

The post สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงผลระดมกวาดล้าง พร้อมแนวทางป้องกันอาชญากรรม ช่วงวันคริสต์มาส-เทศกาลปีใหม่ 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (24 ธันวาคม) พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และผลการระดมกวาดล้างก่อนวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2568 

 

โดยมีผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ฯลฯ เข้าร่วมประชุม 

 

ซึ่งในภาพรวมการจัดงานทั่วประเทศ มีจำนวน 695 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 258 แห่ง และจังหวัดอื่นๆ 437 แห่ง โดยแบ่งเป็นพื้นที่การจัดงานขนาดใหญ่ 47 แห่ง และเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลองทั่วประเทศ 8,468 นาย

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศร่วมกันกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทในห้วงวันที่ 17-23 ธันวาคม 2567 มีผลการดำเนินการ ดังนี้

 

1. อาชญากรรมทั่วไป รวมจับกุม 36,609 คดี ผู้ต้องหา 37,574 คน ตรวจยึด / อายัดทรัพย์สินในคดี 114,225,749 บาท

 

  • ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และสถานบริการ รวมจับกุม 31,036 คดี ผู้ต้องหา 32,172 คน มูลค่าตรวจยึด / อายัดทรัพย์สินในคดี 103,490,764 บาท ในส่วนคดียาเสพติด จับกุมได้ 10,465 คดี ผู้ต้องหา 10,461 คน ตรวจยึดยาเสพติดของกลาง ยาบ้า 10,833,177 เม็ด, ยาไอซ์ 8,209.51 กรัม, เคตามีน 620.59 กรัม, เฮโรอีน 81.3 กิโลกรัม, ฝิ่น 3,428 กรัม, ยาอี 273 เม็ด, โคเคน 213 กรัม, กัญชา 18.16 กิโลกรัม และน้ำกระท่อม 44,000 มิลลิลิตร

 

  • ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน รวมจับกุม 1,664 คดี ผู้ต้องหา 1,595 คน ของกลางอาวุธปืนสงคราม 10 กระบอก, อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 1,062 กระบอก, อาวุธปืนมีทะเบียน 345 กระบอก, วัตถุระเบิด 1,075 ลูก, พลุ / ดอกไม้ไฟ 248 ดอก และเครื่องกระสุนปืน 7,618 นัด มูลค่า 5,574,133 บาท

 

  • จับกุมบุคคลตามหมายจับ รวม 3,909 หมายจับ ผู้ต้องหา 3,807 คน

 

2. อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 

 

  • ความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน หลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย เผยแพร่ข่าวปลอม ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และพนันออนไลน์ รวมจับกุม 3,519 คดี ผู้ต้องหา 3,490 คน มูลค่าตรวจยึด / อายัดทรัพย์สินในคดี 712,266,009 บาท  

 

  • ความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 (บัญชีม้า ซิมม้า) รวมจับกุม 447 คดี ผู้ต้องหา 427 คน มูลค่าตรวจยึด / อายัดทรัพย์สินในคดี 284,940 บาท 

 

พร้อมกันนี้ยังวาง 10 มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ในช่วงวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2568 ได้แก่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนถึงกำหนดการจัดงานตามเทศกาล สืบสวนหาข่าว เฝ้าระวังการลักลอบขนย้ายและการจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่จัดงาน 

 

เฝ้าระวังการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรของบุคคลกลุ่มเสี่ยง รักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ตลอดจนการดำเนินโครงการ ‘ร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ’ (ฝากบ้าน 4.0) ระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 และแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชน 

 

อีกทั้งยังวาง 3 มาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เช่น ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 และเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย มุ่งเน้นลดอุบัติเหตุทางถนนตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ 

 

นอกจากนี้ยังกำหนดให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 ดำเนินการปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2568 พร้อมกันทั่วประเทศ 71 จุด 

 

พล.ต.อ. ประจวบ กล่าวว่า วันคริสต์มาสและห้วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2568 มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและพักผ่อนในแต่ละภูมิภาคเป็นจำนวนมาก ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ 

 

พร้อมระดมสรรพกำลังป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันและลดอุบัติทางถนน และอำนวยการจราจรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชนและสังคมในช่วงเทศกาลปีใหม่

The post สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงผลระดมกวาดล้าง พร้อมแนวทางป้องกันอาชญากรรม ช่วงวันคริสต์มาส-เทศกาลปีใหม่ 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
มติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 เลือก ‘พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์’ เป็น ผบ.ตร. คนที่ 15 https://thestandard.co/details-of-the-police-commission-meeting/ Mon, 07 Oct 2024 11:49:48 +0000 https://thestandard.co/?p=992896

เปิดรายละเอียดวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) […]

The post มติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 เลือก ‘พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์’ เป็น ผบ.ตร. คนที่ 15 appeared first on THE STANDARD.

]]>

เปิดรายละเอียดวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เลือกให้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15

 

 

  • คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มี 13 คน
  • นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ‘งดออกเสียง’
  • แคนดิเดตชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. 3 คน ‘ไม่สามารถออกเสียง’

 

8 เสียงเห็นชอบ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ เป็น ผบ.ตร. 

 

  • อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ
  • ปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
  • พล.ต.อ. มนู เมฆหมอก อดีตรอง ผบ.ตร. 
  • พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และอดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 
  • พล.ต.อ. วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. 
  • ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
  • ศุภชัย ยาวะประภาษ นายกสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
  • พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร.

 

ลาประชุม

 

  • รศ.ประทิต สันติประภพ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

The post มติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 เลือก ‘พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์’ เป็น ผบ.ตร. คนที่ 15 appeared first on THE STANDARD.

]]>
สมช. ​ประเมินสถานการณ์ระเบิดภาคใต้ถี่ เหตุ​เปลี่ยนถ่ายผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ชี้ยกเลิก​ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปี 25​70 ต้องดูหลายปัจจัย https://thestandard.co/southern-violence-surge-emergency-decree-future/ Mon, 30 Sep 2024 04:33:58 +0000 https://thestandard.co/?p=989542 ระเบิด ภาคใต้

วันนี้ (30 กันยายน) ฉัตรชัย​ บางชวด​ รองเลขาธิการ​สภาคว […]

The post สมช. ​ประเมินสถานการณ์ระเบิดภาคใต้ถี่ เหตุ​เปลี่ยนถ่ายผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ชี้ยกเลิก​ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปี 25​70 ต้องดูหลายปัจจัย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ระเบิด ภาคใต้

วันนี้ (30 กันยายน) ฉัตรชัย​ บางชวด​ รองเลขาธิการ​สภาความมั่นคง​แห่งชาติ​ (สมช.​) กล่าวถึงเหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่อำเภอตากใบ​ จังหวัดนราธิวาส​ ว่า​ ได้รับรายงานให้ทราบในเบื้องต้นแล้ว​ ซึ่งมีหลายเหตุปัจจัยประกอบกัน​แต่อาจเป็นการก่อเหตุต่อเนื่องจากการก่อเหตุครั้งที่ผ่านมา​ พร้อมมองว่าเป็นช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลง​ทั้งฝ่ายรัฐบาล​ ทหาร​ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ รวมทั้งการเปลี่ยนถ่ายผู้ที่มีตำแหน่งใหม่เข้าไปในพื้นที่​ จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งในวงรอบ​

 

ฉัตรชัยกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน​ว่าเป็นเพราะเหตุการณ์การเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ แต่เชื่อว่าเป็นการดำรงความต่อเนื่อง​ในพื้นที่ก่อเหตุเพื่อให้รู้ว่ายังมีตัวตนอยู่​ และยังต้องการขับเคลื่อนเป้าหมายบางอย่างอยู่

 

ส่วนการก่อเหตุปล้นปืน​สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส​นั้น​ ฉัตรชัย​ตั้งข้อสังเกต​ว่า​บริเวณดังกล่าวไม่ค่อยมีการก่อเหตุและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว​ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์​หรือไม่​ เนื่องจากอาวุธที่ปล้นไปเป็นปืนลูกซอง​ ไม่ใช่อาวุธสงคราม​ ต้องมีการตรวจสอบต่อไป​ว่าเป็นความขัดแย้งภายในหรือไม่ ​เนื่องจากอาจเชื่อมโยงกับหลายส่วน​ แต่มีชุดข้อมูลที่ระบุถึงความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวข้องกับคนในซึ่งเป็นคนชี้เป้าให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาในพื้นที่​ โดยต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด

 

ส่วนที่มีการสะท้อน​ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงจำเป็นต่อผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่​นั้น​ ฉัตรชัย​กล่าวว่าจะคงยึดหลักการพิจารณาเป็นรายพื้นที่ไป​ ซึ่งต้องดูจากหลายอย่าง ทั้งสถิติการก่อเหตุ​และหลายปัจจัยประกอบกัน​ แต่จะใช้เท่าที่จำเป็น​เพื่อยับยั้งและตรวจสอบไม่ให้เกิดเหตุ แต่อย่างที่ทราบกันว่ารัฐบาลมีเป้าหมายยกเลิกการประกาศบังคับใช้ในอนาคต​ แต่ขณะนี้ยังมีเหตุจึงยังต้องประกาศใช้อยู่​

 

ส่วนความเป็นไปได้ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในปี 2570 นั้น ฉัตรชัย​กล่าวว่า​ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบ หากบรรยากาศการพูดคุยดีขึ้นและการก่อเหตุลดลง ก็อาจจะมีการยกเลิกโดยใช้วิธีการค่อยๆ ปรับลดไป

 

สมช. ทำบุญวันคล้ายวันสถาปนา​ปีที่​ 65 จับตาเลขาฯ สมช. คนต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมช. ทำบุญวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบปีที่​ 65 โดยมีอดีตเลขาฯ สมช. เข้าร่วมอย่างคึกคัก​ นอกจากนี้ยังเป็นวันเกษียณอายุราชการของ พล.ต.อ. รอย​ อิงคไพโรจน์​ เลขาฯ สมช.​ คนปัจจุบันที่ไม่ได้มาร่วมงานแต่อย่างใดโดยแจ้งว่าติดภารกิจ

 

ทั้งนี้ต้องจับตาว่าแคนดิเดตเลขาฯ สมช. คนต่อไปจะมาจากการโยกย้ายข้ามห้วยหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าต้องรอการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เสร็จสิ้น อาจจะได้เห็นรายชื่อเลขาฯ ​สมช.

 

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า ​พล.ต.ท. ประจวบ​ วงศ์​สุข​ จะมานั่งตำแหน่งเลขาฯ สมช.​​ รวมไปถึงยังไม่มีการส่งสัญญาณว่าฉัตรชัยจะ​ถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีหรือเทียบขั้นผู้ดำรงตำแหน่งระดับ​ 11 หรือซี 11

The post สมช. ​ประเมินสถานการณ์ระเบิดภาคใต้ถี่ เหตุ​เปลี่ยนถ่ายผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ชี้ยกเลิก​ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปี 25​70 ต้องดูหลายปัจจัย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำประชุมแผนรับตัว ‘แป้ง นาโหนด’ หลังตำรวจสากลอินโดนีเซียเตรียมส่งตัวกลับนครศรีธรรมราชพรุ่งนี้บ่ายสอง https://thestandard.co/pang-nanode-returning-nakhon-si-thammarat/ Mon, 03 Jun 2024 10:12:18 +0000 https://thestandard.co/?p=940775 แป้ง นาโหนด

วันนี้ (3 มิถุนายน) ที่ห้องประชุม TOC ชั้น 20 ศูนย์ปฏิบ […]

The post ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำประชุมแผนรับตัว ‘แป้ง นาโหนด’ หลังตำรวจสากลอินโดนีเซียเตรียมส่งตัวกลับนครศรีธรรมราชพรุ่งนี้บ่ายสอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
แป้ง นาโหนด

วันนี้ (3 มิถุนายน) ที่ห้องประชุม TOC ชั้น 20 ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมเตรียมความพร้อมรับตัว เชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผ่านระบบ Zoom Meeting ว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยในการปฏิบัติหน้าที่ จึงมอบหมายให้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรับตัวผู้ต้องหาที่ตำรวจสากลของอินโดนีเซียจะส่งมอบตัวให้กับเราในวันพรุ่งนี้ (4 มิถุนายน) เวลาประมาณ 14.00 น.

 

พล.ต.ท. ประจวบ กล่าวว่า ขั้นตอนการรับตัว ทางการอินโดนีเซียจะนำตัวเชาวลิตมาส่งที่สนามบินนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กองการต่างประเทศของประเทศไทย ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จัดกำลังในการมอบตัว และดำเนินการตามขั้นตอนการเข้าเมืองของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจะนำไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ว่าจะคุมขังที่ไหน อย่างไร ส่วนดาบตำรวจหญิงที่ให้ความช่วยเหลือเชาวลิตนั้นถูกดำเนินคดีไปแล้ว

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 


 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราชที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม จะทำให้มีความกังวลว่าจะหนีออกมาอีกหรือไม่ พล.ต.ท. ประจวบ กล่าวว่า พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็เป็นห่วงเรื่องนี้ และกำชับกรมราชทัณฑ์ให้ดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยและคุ้มค่า เนื่องจากว่ามีพฤติการณ์ที่เคยหลบหนีมาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ในการพิจารณาในส่วนนี้ว่าจะนำตัวไปขังที่ไหน

 

ทั้งนี้ ขั้นตอนการสอบสวนหลังจากพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาผู้ต้องหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่เรือนจำในพื้นที่ และทางเรือนจำนครศรีธรรมราชจะพิจารณาเองว่าจะคุมขังที่นั่นหรือจะคุมขังที่ส่วนกลาง โดยวันนี้ผู้บัญชาการเรือนจำนครศรีธรรมราชก็จะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่หากพิจารณาแล้วเห็นว่าการคุมขังที่เรือนจำนครศรีธรรมราชไม่ปลอดภัย ก็จะพิจารณาย้ายไปที่ไหน และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราก็พร้อมให้ความร่วมมือในส่วนนี้

 

เมื่อถามถึงขั้นตอนการส่งมอบตัวเชาวลิต มีการจัดกำลังอย่างไรบ้างนั้น พล.ต.ท. ประจวบ กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการเตรียมแผนและจัดกำลังดูแลในเรื่องนี้แล้ว ส่วนเอกสารการส่งตัวเรียบร้อยแล้ว โดยในวันนี้ได้ตรวจสอบอีกครั้งว่าแต่ละหน่วยที่มีการปฏิบัติ มีอะไรที่ยังไม่เรียบร้อย หรือจะให้ดำเนินการแก้ไขอย่างไร ก็จะตรวจสอบจากทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วงที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตนเอง ได้ประสานงานกับทางตำรวจอินโดนีเซีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ขอบคุณทางรัฐบาลอินโดนีเซียที่ให้ความร่วมมือ และจับกุมผู้ต้องหาให้กับเราในครั้งนี้

The post ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำประชุมแผนรับตัว ‘แป้ง นาโหนด’ หลังตำรวจสากลอินโดนีเซียเตรียมส่งตัวกลับนครศรีธรรมราชพรุ่งนี้บ่ายสอง appeared first on THE STANDARD.

]]>